บทที่ 7
คนตัวโตสวมใส่ชุดกาวน์หมอสีขาวนั่งเก้าอี้ด้านข้างของเตียงกุมมือของหญิงสาวที่ตนเองนั้นรักตั้งแต่ตอนเรียน ใบหน้าน้อยซีดเซียวจนดูน่ากลัวเขาช่วยให้เธอพ้นขีดอันตรายแต่ยังคงมีไข้อ่อนๆ
"หลินหลินทำไมเธอถึงตกอยู่ในสภาพนั้น" เปลือกตาน้อยค่อยๆ ลืมตื่นขึ้นยังคงหวาดผวากับเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเองก่อนหน้านี้จนกลายเป็นเสียงละเมอร้องไห้
"หลินหลินเธอกำลังฝันร้าย" เรือนร่างบางลืมตาตื่นขึ้นตกใจผวากอดคนตรงหน้าด้วยความกลัว เมื่อเธอรู้ว่าตัวเองนั้นพ้นจากอันตรายยิ่งทำให้เธอร้องไห้หนัก
"หมอคิม ฮื่อๆ" มือหนาของคนตัวโตนั้นลูบหัวของร่างบางเบาๆ และโอบกอดกระชับแน่น
"ไม่เป็นอะไรแล้วนะ ไม่มีใครทำอะไรเธอแล้วค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าและปล่อยออกตั้งสตินะหลินหลิน" หมอคิมจับไหล่ของหลินหลินทั้งสองข้างบอกให้เธอนั้นตั้งสติ คนตัวเล็กได้เพียงแต่ยกมือเช็ดน้ำตาตัวเองรู้สึกเจ็บที่หน้าอกแปลกๆ
"เป็นอะไรเจ็บหน้าอกเหรอค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าแล้วก็ปล่อยออกดูนะ นี่น้ำ" หมอคิมรีบคว้าหยิบแก้วน้ำมาให้กับหลินหลินดื่ม
"หลินอยากกลับบ้านค่ะ" หมอคิมส่ายหน้าไปมาปฏิเสธในสิ่งที่หลินหลินต้องการ เธอต้องให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาลเพราะไม่อย่างนั้นอาการของเธอจะแย่
"หลินหลินตอนนี้เธอป่วย เธอต้องให้น้ำเกลือ"
"ก็แค่นั่งตากฝนเองไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ หมอคิมให้หลินกลับบ้านเถอะนะ เดี๋ยวสามีของหลินเข้าใจผิดที่ภรรยาของเฉินลู่ทำแบบนั้น ป่านนี้ข่าวคงออกครึกโครมไปแล้ว" หลินหลินเธอยังจำได้ว่าภรรยาของเฉินลู่ทำร้ายเธอและได้ทำการไลฟ์สดกล่าวหาว่าเธอนั้นมายั่วสามีตัวเอง หลินหลินจึงกลัวว่าธารามสามีของฌธอจะเข้าใจผิดจึงอยากกลับบ้านแต่หมอคิมไม่ยอมปล่อยให้เธอกลับบ้าน
"ไม่ได้นะหลินหลิน เธอป่วยอยู่และเธอไม่ใช่แค่เป็นไข้" หลินหลินเธอหยุดชะงักใบหน้าน้อยจ้องมองหมอคิมขมวดคิ้วเพ่งมองใบหน้าของหมอคิมที่บอกว่าเธอไม่ได้ป่วยแค่เป็นไข้
"หมอคิมหมายความว่ายังไง หลินเป็นอะไรทำไมไม่ได้เป็นแค่ไข้" หมอคิมก้มหน้าลงและถอนหายใจ
"ตับของหลินไม่ปกติและยังมีโรคหัวใจที่เพิ่งเป็นในระยะเริ่มแรก ร่างกายของหลินอาจจะยังไม่ได้แสดงอาการอะไรในตอนนี้ แต่ข้างภายในต้องรักษาไม่อย่างนั้นตับของหลินจะกลายเป็นมะเร็งและโรคหัวใจที่เกิดขึ้นด้วยแล้วจะทำให้..."
หมอคิมไม่ได้พูดต่อหลินหลินเธอก้มหน้าลงชีวิตไม่เคยคิดว่าจะต้องเจอกับโรคร้ายไม่เคยคิดว่าชีวิตเธอจะมาอยู่ที่จุดนี้ได้
"ไม่ต้องเสียใจนะหลินหลิน และไม่ต้องกลัวพี่เป็นหมอเฉพาะทางเกี่ยวกับโรคนี้เลย พี่ไม่มีวันปล่อยให้ผู้หญิงที่พี่รักเป็นอะไรแน่นอน หลินหลินให้ความร่วมมือรักษาโรคที่เป็นอยู่ให้หายก่อนนะ เรื่องอื่นช่างมันก่อน" หมอคิมกุมมือของหลินหลินเอาไว้แล้วขอให้เธอนั้นร่วมมือกับเขาเพื่อรักษาโรคให้หายก่อน
หลินหลินนั้นดึงมือตัวเองออกจากมือหมอคิมและยิ้มให้เขาเหมือนกับคนที่ไม่กลัวกับโรคที่เป็นอยู่ในตอนนี้
"หมอคิมบอกว่าหลินเพิ่งจะเป็นระยะเริ่มเเรกไม่ใช่เหรอ แสดงว่าหลินก็ยังมีเวลาเอาไว้หลินจะมารักษานะคะ ช่วงนี้ขอจัดการเรื่องบางเรื่องก่อน สามีหลินเขางอนมากต้องง้อสามีให้สำเร็จก่อน" หลินหลินเธอยิ้มให้กับหมอคิมแต่เขานั้นกลับส่ายหน้าไปมาในความที่ไม่ห่วงตัวเองของหลินหลินที่จะไปง้อสามีของเธอก่อน
"ไม่ได้นะหลินหลินจะปฏิเสธการรักษาแบบนี้ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าโรคที่เป็นอยู่จะรักษาให้หายได้ง่ายๆ นะ จะปล่อยให้มันลุกลามหรือยังไง อีกอย่างคุณธารามสามีของหลินนั้นเขาเปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่ได้รักหลินหรอก" หมอคิมจับมือของหลินหลินและพยายามอธิบายเพื่อให้เธอรักษาตัวเองก่อนรวมทั้งพูดถึงสามีของเธอจึงทำให้หลินไม่พอใจจนกระชากมือออก
"ขอโทษนะคะ หลินขอบคุณพี่หมอคิมมากๆ แต่อย่าพูดถึงสามีของหลินแบบนี้อีกเพราะเขาเป็นคนดีแน่นอน ที่เขาเป็นแบบนั้นมันมีเรื่องบางเรื่องที่ทำให้เขาเข้าใจผิดแน่ๆ"
หลินหลินเธอลงจากเตียงจับสายน้ำเกลือกระชากออกเองเพราะเธอเป็นคนดื้อรั้นและเอาแต่ใจมาโดยตลอดจึงไม่ยอมฟังในสิ่งที่หมอคิมบอกด้วยความเป็นห่วงแต่กลับเดินออกมาจากโรงพยาบาลในสภาพร่างกายทรุดโทรม
"อย่างนั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง" หมอคิมถึงแม้ว่าในใจนั้นจะรู้สึกนอยส์หลินหลินแต่เขาไม่สามารถโกรธผู้หญิงคนนี้ได้ลงและยังคงเป็นห่วงหลินหลินเอามากๆ ซึ่งเวลานี้ก็ดึกมากแล้วหมอคิมจึงวิ่งตามออกมาและบอกว่าจะไปส่ง
"ผู้หญิงแบบเธอมันไร้ยางอายจริงๆ ฉันล่ะขยะแขยงในตัวของเธอที่สุด" เสียงทุ้มดังขึ้นจากทางด้านหน้านั่นเสียงที่คุ้นเคยเป็นเสียงสามีของเธอเอง ธารามมองมาที่หลินหลินและเห็นหมอคิมในขณะที่หมอคิมจับมือของหลินหลินบอกว่าจะไปส่งเธอพอดี
หมอคิมปล่อยมือของหลินหลินเขาจ้องมองไปยังธารามด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
"คุณพูดเกินไปหรือเปล่า" หมอคิมจ้องมองหน้าของธารามด้วยความโมโหไม่พอใจในคำพูดที่ดูถูกหลินหลิน แต่ธารามนั้นโมโหมากกว่าปากบอกว่ารังเกียจขยะแขยงแต่พอเห็นหมอคิมจับมือของหลินหลินกับโกรธจนใบหน้าแดงไปถึงก็ใบหู ธารามพุ่งตัวกำหมัดแน่นต่อยเข้าใบหน้าหมอคิมจนล้มลงไปกองกับพื้น
"หยุดนะคะคุณ คุณธารามหยุด" หมอคิมล้มลงไปกองกับพื้นแล้วธารามยังคงตามไปต่อยซ้ำอีก หลินหลินจึงห้ามเอาไว้เธอผลักหน้าอกของธารามและพยยามแทรกตัวเข้าไประหว่างกลางกันหมอคิมไว้
"อย่ามาแตะต้องตัวฉัน ผู้หญิงแบบเธอมันน่าขยะแขยง ฉันควรเอะใจตั้งแต่แรกว่าเธอเป็นผู้หญิงสำส่อนแต่ฉันก็ไม่เคยคิดว่าเธอจะสำส่อนได้ขนาดนี้" น้ำเสียงตะคอกใบหน้าตะเบ็งเสียงใส่จนคอสั่นเอ่ยด่าว่าให้กับหลินหลินว่าสำส่อน
"คุณกำลังเข้าใจผิดนะคะธาราม" หลินหลินยังคงพยายามที่จะอธิบายให้กับสามีฟัง แต่เขาไม่ฟังสะบัดมือออกจนหลินหลินล้มลงไปกองกับพื้นอีกคน หมอคิมจึงขยับเข้าไปประคองหลินหลินเอาไว้
"หลินเป็นอะไรหรือเปล่า" สายตาของธารามมองมาที่หมอคิมกับหลินหลินเขาเงยหน้าขึ้นพยายามสูดลมหายใจเพื่อระงับสติตัวเอง
"ก็เหมาะสมกันดีนี่ อยากได้เหรออยากได้เมียคนอื่นมากใช่ไหมชอบกินของมือสองหรือว่าของเหลือเดน หึ ก็เอาไปสิ เอาไปเลยกูขยะแขยงผู้หญิงคนนี้ที่สุดแล้ว" ผู้ชายที่เคยแสนดีวันนั้นเขาหายไปไหนแล้วทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ไม่ยอมฟังอะไรและยังใจร้ายกับเธอ
หลังจากที่เขาบอกว่ายกหลินหลินให้หมอคิมเขาหันหลังและเดินหนีออกไปทันที
"ฮื่อๆ ธาราม คุณกำลังเข้าใจฉันผิดกลับมาก่อนกลับมาก่อนได้ไหม คุณกำลังเข้าใจฉันผิด" หลินหลินที่นั่งอยู่กับพื้นพยายามเอื้อมมือและร้องเรียกให้สามีตัวเองนั้นหันกลับมาหาตัวเองแต่เขาเดินออกไปอย่างไร้เยื่อใย
"หลินหลินเขาเป็นคนไม่ดีเห็นแล้วใช่ไหมเลิกกับเขาเถอะ" หมอคิมจับมือของหลินหลินและบอกให้เธอเลิกกับสามีแต่หลินหลินสะบัดมือออกด้วยความไม่พอใจ
"เขาเป็นคนดี เขาแค่แกล้งเพราะว่าโมโหเขาคงหึง ฮึ๊ก หลินขอกลับบ้านก่อนนะ" หลินหลินเธอลุกขึ้นวิ่งตามธารามมาที่รถ เขาสตาร์ทรถแล้วปิดประตูรถทันทีไม่ให้เธอขึ้น หลินหลินเธอจึงอ้อมมาตรงกระจกของคนขับ
"คุณธาราม คุณเปิดประตูให้ฉันหน่อยฉันต้องการอธิบายให้คุณฟัง มันไม่ใช่แบบนั้นเลย" ธารามไม่ได้เปิดประตูรถ ใบหน้าที่เคร่งขรึมจับพวงมาลัยและเบิ้ลเครื่องยนต์ เขาได้เพียงแต่ลดกระจกประตูรถลงเพียงเล็กน้อย
"คุณธารามเปิดประตูให้ฉันก่อนสิ ฮึ้ก ฉันรู้ว่าคุณหึงฉันคุณโกรธ ขอให้ฉันได้อธิบายก่อนนะ มันไม่ใช่แบบนั้น" ในแววตาแดงก่ำหันมามองหลินหลินจนดูน่ากลัว
"ผู้หญิงสกปรกแบบเธอไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น ไปหย่าให้ฉันแล้วจะไปไหนก็ไป" รถที่จอดอยู่นั้นขับออกจนหลินหลินเธอต้องปล่อยมือไม่อย่างนั้นต้องถูกรถเขาเหยียบแน่ๆ
"ฮื่อๆ ธารามกลับมาก่อนกลับมาให้ฉันอธิบายให้คุณฟังก่อนได้ไหม" ร้องไห้จนสุดเสียงพยายามเรียกให้สามีนั้นกลับมาหาตัวเอง แต่กลับไร้วี่แววเธอได้เพียงแต่ยืนเช็ดน้ำตาให้กับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น
บทที่ 22 เมื่อรถขับมาจอดที่บ้านลูกน้องต่างพากันมองแต่ธารามยังไม่เปิดประตูรถลง เขาหันมองไปที่หลินหลินเธอนั่งเอนหลังพิงเบาะและเงียบไปมีเพียงแต่เสียงสะอื้นตลอดทางที่ขับมา"จะร้องไห้ทำไม ฉันพาเธอกลับบ้านมาหาลูกเธอไม่ดีใจหรอกหรือจะต้องให้ฉันส่งเธอไปอยู่ชายแดนเหรอ เธอถึงจะดีใจ อ๋อ ไม่สิผู้หญิงแพศยาแบบเธอก็คงชอบแบบนั้นอยู่แล้วไปอยู่ชายแดนขายตัวเจอผู้ชายมากหน้าหลายตาเผลอๆ เธออาจจะถามเขาให้ผู้ชายทั้งห้าคนเอาพร้อมกันก็ได้นะ" หลินหลินได้แต่คิดว่านี่คงเป็นนิสัยที่แท้จริงของผู้ชายคนนี้เพราะเมื่อก่อนนี้เขาไม่เคยใช้ถ้อยคำหยาบพูดแบบนี้เลยสักครั้ง ไม่เคยแสดงให้เห็นว่าเขามีคำพูดที่ต่ำตมจนรับไม่ได้"ขอบคุณนะคะ ที่พาฉันกลับมาหาลูก ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องทุกอย่างนี้จะเกิดขึ้นกับคนแบบฉัน และฉันก็ไม่เคยคิดว่าความโง่ของฉันกับพ่อของฉันกลายเป็นมีดทิ่มแทงตัวเองจนปางตาย" หลินหลินไม่เเม้แต่จะมองหน้าของธารามด้วยซ้ำในขณะที่เธอเอ่ยพูดถึงเขา และคำพูดของเธอทำให้เขาโกรธคนตัวโตจับแขนของหลินหลินกระชากอย่างเช่นเคย"เธอพูดว่าอะไรนะ ฉันเป็นมีดที่ทิ่มแทงหัวใจของเธอกับพ่อของเธอเหรอ
บทที่ 21 คุณพ่อคุณแม่ของหมอคิมหลังจากรู้ว่าหลินหลินผู้หญิงที่ลูกชายตัวเองรักและเฝ้ารอเข้าโรงพยาบาล พวกเขาก็มาเยี่ยมถึงแม้ว่าจะไม่ชอบที่หลินหลินมีลูกแล้วและยังไม่หย่ากับสามีก็ตาม ทั้งสองรู้สึกสงสารและเอ็นดูน้องณธีด้วยซ้ำหลังจากที่ทั้งสองคนกลับไปหมอคิมจ้องมองหน้าของหลินหลินเขาได้เพียงแต่ถอนหายใจและยกเก้าอี้มานั่งด้านข้าง"ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้กับเธออีกแล้ว" มือหนากุมมือน้อยวางอยู่บนเตียง ผู้หญิงคนนี้ที่เขาไม่อยากให้เจ็บปวดอยากทะนุถนอมไว้ให้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะต้องดูแลหลินหลินก็ตามแต่หมอคิมก็ยังคงรอหลินหลินหลินหลินนั้นรู้ตัวดีจึงดึงมือของเธอออกจากมือหมอคิมเธอยิ้มให้กับเขา เพียงไม่นานน้ำตาไหลออกมา"ทำไมมันเหนื่อยเหลือเกินคะพี่หมอ หรือว่าฟ้ากำลังลงโทษหลินที่เมื่อก่อนนี้ไม่เคยรู้จักคุณค่าของเงินไม่เคยรู้จักกับคำว่าไม่มี รู้เพียงแค่ว่าต้องใช้ รู้เพียงแค่ว่าไม่มีใครกล้าทำอะไรเธอ ใช้แต่เงินไปวันๆ" หลินหลินนอนลงไปที่หมอนปล่อยให้น้ำตาไหลเงยหน้าขึ้นมองบนเพดานยิ่งทำให้หมอคิมกังวลใจ เขายังไม่ได้บอกอีกเรื่องนึงกับเธอแต่ถ้าไม่บอกต
บทที่ 20คนที่บอกว่าเกลียดและแก้แค้นไม่ยอมไปไหนหลังจากที่หลินหลินย้ายเข้าห้องพักฟื้น เธอยังคงไม่ฟื้นด้วยฤทธิ์ยาและร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยถูกกระทำจนล้มทั้งยืน"ไม่...ไม่ออกไปเดี๋ยวนี้อย่าทำฉัน ออกไปอย่าทำอะไรฉันเลย" ใบหน้าซีดเซียวส่ายหน้าไปมาร้องไห้ละเมอพยายามปัดมือทั้งสองข้างไปมาธารามลุกขึ้นจากโซฟาเดินเข้าไปใกล้ๆ หลินหลินเธอมักจะละเมอบ่อย เมื่อก่อนนี้ที่ภรรยานั้นละเมออยู่บนเตียงผู้เป็นสามีเขย่าและโอบกอดด้วยมือทั้งสองข้างจนผู้เป็นภรรยาหายตกใจ"เฮือก" มือหนาเอื้อมไปเพื่อที่จะจับแขนของหลินหลินเขย่าแต่พอเธอรู้ตัวก่อนสะดุ้งพรวดลุกขึ้น นั่งใบหน้าเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อธารามจึงดึงมือของตัวเองออก"ฉันคิดว่าจะให้เธอละเมอให้ตายไปเลย แต่ก็กลับตื่นขึ้นมาได้ซะงั้น" มือน้อยคลุมใบหน้าและก้มลง หลินหลินไม่ได้พูดอะไรโต้ตอบกลับสามี"ฉันอยากรู้ว่าคุณให้ใครไปทำเรื่องตรวจดีเอ็นเอใหม่?"หลินหลินเธอต้องการรู้ว่าธารามให้ใครทำเรื่องตรวจดีเอ็นเอน้องณธีใหม่เพราะผลตรวจดีเอ็นเอยืนยันว่าน้องณธีไม่ใช่ลูกของธาราม ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้"ฉันจะ
บทที่ 18 "นายครับเฉินลู่คงโกรธมากที่คุณหนูทำแบบนั้นกับเขาและได้รับความบาดเจ็บ ผมอยากให้นายไปช่วยคุณหนู" ธารามนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานของบ้านลูกน้องคนสนิทอดีตพ่อตาของตัวเองเข้ามาในห้องทำงานด้วยความกังวลใจหลังจากเกิดเรื่องเมื่อคืนนี้ เขามั่นใจว่าเฉินลู่จะต้องเอาเรื่องคุณหนูของเขาแน่ๆ จึงเข้าไปขอความช่วยเหลือ แต่คนที่เขาขอความช่วยเหลืออยู่นั้นกับนั่งนิ่งเซ็นเอกสารไม่สนใจในคำพูด"ผมขอร้องนะครับ ได้โปรดไปช่วยคุณหนูหน่อยเพราะยังไงคุณหนูก็คือภรรยาของคุณที่ยังไม่ได้หย่ากับคุณ ถ้าเกิดอะไรขึ้นคุณจะตอบกับสังคมว่ายังไง" ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นลูกน้องแต่ก็ไม่เคยคุกเข่าแล้วก็โมโหให้กับใคร ผู้เป็นลูกน้องคนสนิทคุกเข่าตรงหน้าด้านหน้าโต๊ะทำงานของธารามยกมือไหว้ผู้เป็นเจ้านาย จริงๆ เขาไม่ได้อยากเป็นลูกน้องของธารามแต่ด้วยที่คุณหนูของเขาต้องการให้สืบหาความจริงบางอย่างจึงต้องยอมธารามมองไปยังลูกน้องคนสนิทของว่าที่พ่อตาที่ตัวเองแกล้งทำเป็นลูกเขยแสนดีแต่จริงๆ แล้วเกลียดเขาต่างหาก อย่างที่ลูกน้องคนตรงหน้านั้นพูดก็ถูกเฉินลู่ต้องโกรธหลินหลินมากแน่ๆ เพราะถูกหลินหลินตีด้วยแจกกันจนหัวแตก"ฉันมีความจำเป็นต้องไปช่วยเธอด
บทที่ 18"นายครับเฉินลู่คงโกรธมากที่คุณหนูทำแบบนั้นกับเขาและได้รับความบาดเจ็บ ผมอยากให้นายไปช่วยคุณหนู" ธารามนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานของบ้านลูกน้องคนสนิทอดีตพ่อตาของตัวเองเข้ามาในห้องทำงานด้วยความกังวลใจหลังจากเกิดเรื่องเมื่อคืนนี้ เขามั่นใจว่าเฉินลู่จะต้องเอาเรื่องคุณหนูของเขาแน่ๆ จึงเข้าไปขอความช่วยเหลือ แต่คนที่เขาขอความช่วยเหลืออยู่นั้นกับนั่งนิ่งเซ็นเอกสารไม่สนใจในคำพูด"ผมขอร้องนะครับ ได้โปรดไปช่วยคุณหนูหน่อยเพราะยังไงคุณหนูก็คือภรรยาของคุณที่ยังไม่ได้หย่ากับคุณ ถ้าเกิดอะไรขึ้นคุณจะตอบกับสังคมว่ายังไง" ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นลูกน้องแต่ก็ไม่เคยคุกเข่าแล้วก็โมโหให้กับใคร ผู้เป็นลูกน้องคนสนิทคุกเข่าตรงหน้าด้านหน้าโต๊ะทำงานของธารามยกมือไหว้ผู้เป็นเจ้านาย จริงๆ เขาไม่ได้อยากเป็นลูกน้องของธารามแต่ด้วยที่คุณหนูของเขาต้องการให้สืบหาความจริงบางอย่างจึงต้องยอมธารามมองไปยังลูกน้องคนสนิทของว่าที่พ่อตาที่ตัวเองแกล้งทำเป็นลูกเขยแสนดีแต่จริงๆ แล้วเกลียดเขาต่างหาก อย่างที่ลูกน้องคนตรงหน้านั้นพูดก็ถูกเฉินลู่ต้องโกรธหลินหลินมากแน่ๆ เพราะถูกหลินหลินตีด้วยแจกกันจนหัวแ
บทที่ 17ประตูห้องของโรงพยาบาลเปิดเข้ามาพรวดพราดโดยที่ไม่เคาะประตู หมอคิมกำลังพูดกับหลินหลินแต่ยังไม่ทันได้บอกเรื่องที่หลินหลินท้องสามีของเธอก็เข้ามาขัดจังหวะ"โอ๊ย หลินเจ็บนะคะธาราม" ธารามไม่ได้พึ่งมาเขายืนอยู่หน้าประตูตั้งแต่เห็นหมอคิมจับมือของหลินหลินแล้วเขาพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองอยู่ภายใต้กระจกบานเล็กด้านหน้าประตูและอดไม่ไหวจึงรีบเดินเข้ามา"คุณจะทำอะไรหลินหลินเจ็บอยู่นะ" หมอคิมพยายามที่จะจับมือของธารามออกแต่ถูกต่อยเข้าใบหน้าจนเขาล้มลงไปกองกับพื้น"ผัวะ! คงเป็นมึงสินะ ที่สวมเขาให้กับกูแต่ไม่ใช่กูคิดผิด มึงเองก็โดนสวมเขาด้วยผู้หญิงแพศยาคนนี้ไม่ได้เป็นแค่เมียกูคนเดียว เธอร่านเธอเอาไปทั่ว" ธารามที่โมโหมากชี้หน้าด่าหมอคิมแต่พูดถึงหลินหลินภรรยาตัวเองทั้งดูถูกและต่อว่าจนกระทั่งหลินหลินทนไม่ได้ เธอลุกขึ้นตบหน้าธารามผู้เป็นสามี"เพี๊ยะ! พอสักทีหยุดดูถูกฉันได้แล้ว ในสิ่งที่คุณคิดอยู่นั้นมันเป็นเพียงเรื่องโกหก ฉันถูกใส่ร้ายผู้หญิงของคุณกำลังใส่ร้ายฉัน ฮื่อๆ ทำไมคุณถึงไม่ฟังเหตุผลฉันบ้าง"ธารามจ้องมองหน้าหลินหลินดวงตาแดงก่ำ เขาส่ายหน้า