พ่อบังเกิดเกล้าสร้างหนี้ไว้ก้อนใหญ่ ทว่าคนที่ต้องชดใช้กลับกลายเป็นลูกสาวแบบเธอ "มันถึงเวลาที่เธอต้องชดใช้หนี้ที่พ่อสร้างไว้แล้วเด็กน้อย" "ชดใช้ยังไงคะ" "ใช้ร่างกายเธอชดใช้หนี้ยังไงล่ะ" "หมายความว่างานที่คุณบอกว่าจะให้หนูทำตอนอายุครบยี่สิบ คือ เอาร่างกายขัดดอกรึคะ" "ใช่" สาวน้อยผู้แสนใสซื่อในวัยยี่สิบถึงกับน้ำตาคลอเบ้าเพราะหลงเข้าใจผิดมาตลอดว่าที่มาเฟียผู้แสนใจดีเลี้ยงดูเธอมาเป็นอย่างดีตลอดเวลาสามปีเพราะเขารัก และเอ็นดูเธอ แต่ที่ไหนได้กลับเห็นเป็นแค่ลูกหนี้
View Moreสายลมเอื่อย ๆ พัดพาดอกการ์ดิเนียร่วงลงจากต้น และปลิวล่องลอยไปตามสายลม กลิ่นหอมของมันลอยมาแตะจมูกหญิงสาวเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มพราวที่กำลังนั่งชมทิวทัศน์ของแม่น้ำหลังคฤหาสน์หลังใหญ่โต
กลิ่นแสนหอมหวานทำให้เธอรู้สึกสดชื่นไม่น้อยจนต้องหลับตาเชิดหน้าขึ้นสูดอากาศที่อบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้เข้าปอดพรืดใหญ่ ก่อนจะปรือตาขึ้นมองทิวทัศน์ด้านหน้าต่อ
แม้เวลานี้จะมีแสงแดดสีเงินสอดส่องผ่านทะลุใบไม้มาตกกระทบลงบนผิวกายขาวเนียน เธอก็ไม่รู้สึกร้อนเลยแม้แต่น้อย แถมเธอยังนั่งนิ่งๆ อยู่ตรงนี้ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนมานานแล้ว
เพราะเธอต้องการมองใครบางคนที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในแม่น้ำสีเขียวมรกต
ชายหนุ่มลูกครึ่งไทยอิตาลีอายุเข้าเลขสามแล้ว ทว่าหน้าตาของเขายังอ่อนเยาว์ราวกับเด็กหนุ่มยี่สิบกลาง ๆ ที่เธอนั่งมองมานานก็ค่อย ๆ ว่ายน้ำมาทางเธอ ก่อนจะขึ้นจากน้ำ และเดินตรงดิ่งมาหาที่โต๊ะริมแม่น้ำ
เธอรู้หน้าที่ตัวเองดีจึงหยิบผ้าเช็ดตัวที่เตรียมไว้ส่งให้ทันทีที่เขาเดินมาถึง "ผ้าค่ะ"
“นั่งให้แดดส่องแบบนี้ เธอไม่ร้อนหรือไง” เจ้าของเสียงทุ้มกล่าวถามจบก็เอื้อมมือไปรับผ้าขนหนูผืนสีขาวที่เธอยื่นให้มาซับหน้า
"ไม่ค่ะ" ยาหยีส่ายหน้าเบา ๆ ซึ่งมันก็จริงอยู่ที่ไทยอากาศมันร้อนอบอ้าว แถมช่วงนี้ก็เป็นหน้าร้อนที่สุดไทย
แล้วก็เป็นเดือนพิเศษสำหรับเธอเพราะเดือนนี้เป็นเดือนเกิดแสนพิเศษที่มันมอบความรู้สึกเศร้าโศก และทำให้รู้สึกว่าเธอเป็นคนที่โชคดีในเวลาเดียวกัน
“พรุ่งนี้ก็วันเกิดเธอแล้วสินะ” เควิลเช็ดผมตัวเองให้แห้งเสร็จก็เอ่ยออกมาพลางบิดขี้เกียจเบา ๆ จนได้ยินเสียงกระดูกที่ดังกรอบแกรบมาเป็นระยะ
“ค่ะ..” ยาหยีไม่รู้ว่าจะตอบชายหนุ่มไปอย่างไงดี เธอเลยได้แต่ขานรับ
“มานี่สิ” คนตัวโตทิ้งตัวลงนั่งปั๊บก็กวักมือเรียกหญิงสาวให้เดินมาหา และทันทีที่คนตัวเล็กเดินมาหยุดตรงหน้าเขาก็คว้าหมับเข้าข้อมือเล็กดึงให้เธอนั่งลงบนตัก
"คุณเควิลทำอะไรคะ" ยาหยีทั้งตกใจและประหม่าเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอใกล้ชิดกับชายหนุ่มมากขนาดนี้ พยายามจะลุกจากตักแกร่ง แต่กับถูกวงแขนแข็งแรงกอดรัดแน่นจนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
และเสี้ยวนาทีต่อมาหัวใจเธอก็ต้องเต้นแรง ขนกายพลันลุกชูชันเมื่อถูกอีกคนใช้ปลายจมูกโด่งสันซุกไซ้ช่วงลำคอจนต้องรีบย่นคอหนีแต่ก็ไม่พ้น
กว่าเควิลจะพอใจกับการสูดดมกลิ่นหอมก็ใช้เวลาไปหลายนาที แถมมันก็ทำให้เธอต้องนั่งตัวเกร็งแล้วเกร็งอีกจนหายใจไม่ทั่วท้องเพราะความรู้สึกวาบหวาม
“พรุ่งนี้อยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?” เสียงทุ้มกล่าวถามพร้อมลูบมือวนหน้าท้องเธอ
"ไม่อยากได้อะไรค่ะ" ยาหยีรีบส่ายหน้าปฏิเสธไปเพราะการที่อีกคนใจดีกับ ‘ลูกหนี้’ อย่างเธอมันก็มากพอแล้ว เขาทั้งส่งเสียเธอเรียน และมอบชีวิตสุขสบายให้กับเธอมันมากเกินพอไปแล้วจริงๆ..
แล้วเหมือนกับว่าการที่เธอคิดแบบนี้มันไปเปิดปุ่มที่เธอผนึกความทรงจำสุดแสนเศร้าหมองไว้
ภาพที่เธอไม่อยากจะจดจำก็ฉายทับภาพทิวทัศน์สวยงาม
"พ่อนี่มันคืออะไร..?"
ยาหยีในตอนนั้นเธอเพียงแค่อายุสิบเจ็ด และพึ่งกลับมาจากที่ทำงานซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อ ทว่าเมื่อเปิดประตูเข้ามาในบ้านเธอก็แทบหมดแรงเพราะข้าวของทุกชิ้นภายในบ้านหายไปหมด ไม่ว่าจะเป็นโซฟา ตู้เย็น ทีวี หมอหุงข้าว และของอื่น ๆ อีกหลายอย่าง เธอเอ่ยถามคนเป็นพ่อไปก็ได้คำตอบว่า
"เจ้าหนี้มันเอาของไปหมดแล้วโว้ย!" พ่อของเธอตอบอย่างไม่สำนึก "แต่ยังไม่พอค่าใช้หนี้เลยมึงมีเงินไหม เอามาให้กูหน่อย"
"ฮึก! ทำไมพ่อทำตัวแบบนี้ พ่อไปเล่นการพนันอีกแล้วใช่ไหม" เธอถึงกับเข่าทรุดเมื่อได้ฟังคำตอบ น้ำสีใสพลันไหลพรากออกมาด้วยความผิดหวังเสียใจที่ผู้เป็นพ่อสร้างแต่ปัญหากี่ครั้งกี่หนแล้วที่เธอต้องทำงานงก ๆ เพื่อตามชดใช้หนีให้ แต่ท่านก็ไม่เคยสำนึกยังกลับไปทำอีกทั้งขี้เหล้าทั้งเล่นการพนัน
เธออยากได้พ่อคนเก่ากลับมาเหลือเกิน พ่อที่รักครอบครัว และขยันทำงาน
ในตอนนั้นเธอมีความสุขมาก ๆ ครอบครัวอยู่อย่างสุขสบาย แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปครั้นเธออายุได้สิบสาม พ่อกับแม่ของเธอเริ่มมีปัญหากันระหงระแหงเพราะพ่อของเธอเริ่มยุ่งเกี่ยวกับการพนันจนในที่สุดพวกท่านทั้งสองก็เลิกกัน แม่ของเธอเลือกจะทิ้งเธอไว้กับพ่อแล้วหนีไป
และหลังจากแม่หนีไปพ่อของเธอก็เอาแต่กินเหล้าจนกลายเป็นคนติดเหล้าไปในที่สุด แค่นั้นไม่พอท่านยังติดการพนันอีกด้วยโดยที่ไม่สนใจใยดีเธอสักนิดจนเธอต้องทำงานหาเลี้ยงส่งเสียตัวเองเรียน
เธอเรียนจบแค่มัธยมปีที่สามเท่านั้นก็ออกมาทำงานอย่างเต็มตัว ต้องทำงานเลี้ยงดูทั้งตัวเองและพ่อเธอต้องแบกรับภาระทุกอย่าง หนำซ้ำยังต้องคอยตามใช้หนี้พนันให้พ่ออีก
บางครั้งเธอก็อยากจะหนีไปไกล ๆ จากคนเป็นพ่อ แต่ความผูกพันทางสายเลือดมันทำให้เธอทำไม่ได้จึงต้องคอยตามใช้หนี้ให้พ่อเพราะกลัวว่าพ่อจะถูกเจ้าหนี้ฆ่า
เธอสะอื้นไห้ออกมาอย่างหนักพร้อมกับเดินเข้าไปเขย่าแขนผู้เป็นพ่อ "หนูทำงานหนักเพื่อหาเงินมาไว้ให้พ่อใช้ ไว้กิน ไว้อยู่ แต่ทำไมพ่อถึงทำกับหนูแบบนี้"
"บ่นมากรำคาญ ไปหาเงินมาให้กูหนึ่งล้านกูจะเอาไปใช้หนี้" แทนที่พ่อเธอจะสำนึกกลับสะบัดแขนเธอออกแล้วโวยวายเสียงดังลั่น แต่นั้นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกช็อคเท่ากับจำนวนเงินที่ท่านเป็นหนี้อยู่
"นะ..หนึ่งล้านเลยเหรอ" เธอเอ่ยออกมาอย่างอ่อนแรงมันจุกในอกจนพูดไม่ออกครั้งนี้พ่อเธอเป็นหนี้มากมากจนเธอไม่มีปัญญาจะหาได้
เธอสะอื้นไห้ออกมาหนักกว่าเก่าความรู้สึกมันตีบตันไปหมดเธอไม่เคยคิดเลยจริง ๆ ว่าคนเป็นพ่อจะมาถึงจุดที่ติดการพนันจนมีหนี้เป็นล้าน
"ฮึก! หนูจะไปหาจากที่ไหนมาให้พ่อเงินตั้งหนึ่งล้าน ลำพังแค่กินไปวัน ๆ ก็แทบจะไม่พออยู่แล้ว พ่อรู้ไหมว่าแต่ละวันหนูต้องทำงานเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะได้เงินมาแต่ละบาทแล้วทำไมพ่อถึงทำกับหนูแบบนี้ ทำไม"
"ไม่รู้โว้ย แต่มึงต้องไปหาเงินมาใช้หนี้ให้กูภายในเย็นนี้ไม่อย่างนั้นเจ้าหนี้มันต้องฆ่ากูแน่ ๆ"
"ครั้งนี้หนูคงช่วยพ่อไม่ได้ ทุกอย่างแล้วแต่เวรแต่กรรมแล้วกัน" วันนี้ความอดทนอดกลั้นของยาหยีหมดลงแล้ว หมดแล้วจริง ๆ เธอเอ่ยอย่างคนปลงตกพร้อมกับหยัดกายลุกขึ้นยืนมองคนเป็นพ่อด้วยสายตาว่างเปล่า
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจอมาตลอดระยะเวลาสองปีมันค่อย ๆ ทำให้ความผูกพันที่มีต่อคนเป็นพ่อลดลงเรื่อยจนมาถึงจุดนี้
เธอพอแล้วจริง ๆ ..
"ไงไอ้แก่กูมาเอาเงินที่มึงติดหนี้เจ้านายกูอยู่"
จู่ ๆ ยาหยีก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อมีเสียงอันทรงพลังดังขึ้นจากด้านหลัง เธอรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาแล้วหันไปมองก็พบกับชายรูปร่างบึกบึน หน้าตาเหี้ยมโหดสามคนกำลังเดินเข้ามา สัญชาติญาณมันบอกให้เธอรีบถอยหลงกรูด ความกลัวเริ่มเข้าเกาะกุมจิตใจ
ชายสามคนเดินไปยืนล้อมพ่อของเธอไว้ ก่อนจะมีคนหนึ่งกระชากคอเสื้อพ่อของเธอให้ลุกขึ้นนั่ง "ไหนเงิน"
"กูไม่มี" พ่อของเธอบอกหน้าตาเฉย ขณะที่เธอนั่นยืนตัวสั่นอยู่ลึก ๆ ในใจก็ยังกลัวว่าพ่อเธอจะถูกฆ่า
หลายปีต่อมา"มาให้แด๊ดดี้หอมหน่อยสิครับ" เควิลร้องเรียกลูกชายตัวน้อยที่กำลังนั่งเล่นอยู่กับพี่เลี้ยงบนพื้นในห้องนั่งเล่นทันทีที่กลับมาถึงบ้าน"แด๊ดดี้กลับมาแล้ววว" เด็กน้อยหน้าตาหล่อเหลาอายุย่างเข้า 5ขวบฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้ยินเสียงผู้เป็นพ่อ รีบดีดตัวลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้ากอดผู้เป็นพ่อที่กำลังนั่งยองๆอ้าแขนรอกอดด้วยความดีใจ "คิดถึงแด๊ดดี้ที่สุดเลยครับ""แด็ดดี้ก็คิดถึงลูกครับ วันนี้ทำงานมาเหนื่อยขอหอมให้หายเหนื่อยหน่อย" เควิลกอดบุตรชายแนบแน่นพลางกระหน่ำหอมแก้มกลม ๆ ทั้งซ้ายทั้งขวาฟอดใหญ่"หอมจนแก้มลูกช้ำหมดแล้วไหมคะนั้นแด๊ดดี้" ยาหยีที่กำลังถือจานผลไม้ออกมาจากในครัวเอ่ยแซวคนเป็นสามียิ้ม ๆ"ก็ลูกน่าหอมนิ" คนถูกแซวเงยขึ้นมองเมียสาวด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้ม ก่อนจะผละกอดจากลูกเดินไปโอบกอดเมียสาว"แม่ก็น่าหอม" เอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมหอมแก้มขาวผ่องฟอดใหญ่ ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาด้วยกลัวว่าลูกจะได้ยิน "น่าเย็..*ด้วย""คนทะลึ่ง ในสมองมีแต่เรื่องพันนี้รึไงคะ" ยาหยีตีอกคนเป็นสามีไปหนึ่งทีโทษฐานที่พูดจาทะลึ่ง แต่ก็มิวายรู้สึกเขินอายไม่ได้แม้เธอกับเขาจะแต่งงานกันมาสี่ปีแล้ว หรือนับตั้งแต
สามเดือนต่อมา..เวลาล่วงเลยมาได้สามเดือนเต็มนับจากวันนั้นเหมือนความสัมพันธ์ของเควิลกับยาหยีจะแนบแน่นขึ้นเรื่อย ๆยาหยีได้รู้ซึ้งกับคำว่าชอบของเควิลแล้วว่าเป็นอย่างไง และเธอก็ต้องหนักใจมากกับคำว่าเวอร์วังของเขา ซึ่งเธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะมีมุมแบบนั้นเพราะทำเอาเธอปรับตัวแทบไม่ทันในช่วงอาทิตย์แรกนอกจากอีกฝ่ายจะป่าวกล่าวประกาศกับเหล่าบอดี้การ์ดและเหล่าแม่บ้านว่าเธอไม่ใช่ลูกหนี้ แต่เขากับเธอกำลังดูใจกันอยู่แล้วเขายังยกหนี้จำนวนหนึ่งล้านถ้วนที่พ่อเธอได้สร้างไว้เขาก็ยกให้ฟรี ๆ เพื่อเป็นการบอกว่าเธอไม่ใช่คนที่มาที่นี่เพื่อใช้หนี้อีกต่อไปไม่เพียงเท่านั้นเขายังพาเธอไปดินเนอร์ที่ร้านอาหารหรูแทบทุกวัน และทุกครั้งจะมีช่อดอกไม้มอบให้เสมอจนห้องนอนของเธอมันเต็มไปด้วยดอกไม้ของเขาเขาตามใจเธอสุดฤทธิ์เพียงแค่เอ่ยปากบอกสิ่งนั้นก็จะมาวางตรงหน้า เธออยากจะไปเที่ยวที่ไหนเขาก็ไม่เคยขัดเธอรู้ซึ้งแล้วว่าการได้รับความรู้สึกพิเศษจากมาเฟียที่เย็นชามันเป็นแบบไหน ถึงเขาจะไม่มีคำพูดแสนหวานเพื่อเอาใจ ทว่าการกระทำของเขามันบ่งบอกให้เธอได้รู้ได้รู้ว่าเขาชอบเธอจริง ๆ..."หึ.." พอคิดถึงสิ่งดี ๆ ที่เขาคอยทำให้เธอ
"ไม่เอาเสียเวลา..ฉันใจร้อน"สิ้นเสียงพูดเควิลก็จับร่างบางกดให้นอนหงายบนโซฟาด้วยความเร็วแล้วตามลงไปทาบทับเอาไว้ สองมือจับมือเล็กที่พยายามดันอกไปกดเหนือศีรษะเล็กทุยแน่นอนว่ายาหยีสู้แรงคนตัวโตกว่าหลายเท่าไม่ได้ทำได้แค่ทำหน้าคว่ำร้องโวยวายออกไปเสียงดังลั่น"คุณขี้โกง หนูยังไม่อนุญาตเลยนะคะ""เธออย่าผิดคำพูดสิที่บอกว่าถ้าฉันให้คำตอบแล้วจะให้เอา""หนูไม่ได้ผิดคำพูดสักหน่อย" คราวนี้ยาหยีถึงกับเอ่ยเสียงอ่อยเพราะเถียงไม่ออกเธอดันพูดแบบนั้นไปจริง ๆ นี่น่าทำให้อีกคนได้ทีใช้โอกาสที่เธอนิ่งสงบก้มลงประกบจูบริมฝีปากอิ่มดูดเม้มกลีบปากบนล่างสลับกันแผ่วพลิ้วต้องการตะล่อมเธอให้คล้อยตามสองมือคลายพันธนาการจากข้อมือเล็กเลื่อนลงลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งสุดยั่วยวนที่อยู่ภายใต้ชุดเดรส ขณะที่สะโพกขยับบดเบียดกับเนินเนื้อสาวอวบอูมทำคนที่ยังด้อยประสบการณ์อยู่มากเริ่มเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัส หลับตาพริ้มจูบตอบอย่างดูดดื่ม ปากอ้าเผยอให้เรียวลิ้นสากสอดเข้ามาเกี่ยวกระหวัดหยอกเย้ากับเรียวลิ้นนุ่ม สองมือเคลื่อนไปโอบกอดลำคอแกร่งแน่น ส่งเสียงครางในลำคออื้ออึงด้วยความรู้สึกวาบหวาม"อื้อ.."ไม่ต่างจากชายหนุ่มที่อารมณ์เริ
คำถามจากริมฝีปากอิ่มทำเควิลนิ่งไปเพราะเขาเองก็ยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองเลยว่ารู้สึกยังไงกันแน่ เขาเองก็กำลังหาคำตอบให้ตัวเองเหมือนกัน แต่ที่แน่ ๆ เขาไม่เคยเห็นเธอเป็นนางบำเรอเลย"ฉันยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง ไว้ฉันมั่นใจเมื่อไรจะบอกนะ แต่ที่แน่ ๆ ฉันไม่เคยเห็นเธอเป็นนางบำเรอหรือผู้หญิงขัดดอกเลย อาจจะมีบ้างครั้งที่ฉันพูดจาไม่ดีแต่ทั้งหมดเป็นเพราะอารมณ์ล้วน ๆ ไม่เคยคิดจริง ๆ""ค่ะ.." ยาหยีเพียงขานรับเสียงแผ่วและไม่คิดจะซักไซ้อะไรต่อถึงแม้เธออยากรู้ใจแทบขาดถึงความรู้สึกที่ชายหนุ่มมีต่อตัวเองซึ่งลึก ๆ ในใจเธอก็เกิดความหวังขึ้นมาน้อย ๆ ว่าเขาอาจจะรู้สึกอะไรกับเธอบ้างถึงต้องใช้เวลาคิด จากที่เคยพยายามจะตัดใจก็เริ่มลังเลขึ้นมาจะว่าเธอใจง่ายก็ได้ก็คนมันรักมาตั้งนานแล้วนิ..ภายในรถตกอยู่ในความเงียบนานนับนาที ก่อนเควิลจะเอ่ยทำลายความเงียบ สายตาจ้องมองใบหน้าหวานอย่างอ่อนโยน"เราเข้าใจกันแล้วนะ กลับมาเป็นยาหยีเด็กน้อยทึ่น่ารักของฉันได้แล้ว""ก็ได้ค่ะ แต่หนูมีข้อแม้หากคุณไม่ได้เห็นหนูเป็นนางบำเรอ หรือผู้หญิงขัดดอกจริง ๆ จนกว่าคุณจะให้ตอบว่ารู้สึกยังไงกับหนู เราห้ามมีอะไรกันตกลงไหมคะ
วันต่อมา.."เดี๋ยววันนี้เลิกเรียนแล้วฉันไปรับ" เควิลที่นั่งดื่มกาแฟอยู่ในห้องโถงเปล่งเสียงขึ้นทันทีที่หญิงสาวเดินลงจากบันไดทำให้ยาหยีถึงกับชะงักมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างสงสัยเพราะน้อยครั้งที่เขาจะไปรับเธอด้วยตัวเองที่มหาวิทยาลัย แต่เธอก็ไม่คิดจะถามหาเหตุผลเพียงขานรับ แล้วเดินออกไปขึ้นรถตรงไปมหาวิทยาลัยครั้นเลิกเรียนเธอก็มายืนรอชายหนุ่มตรงที่ที่ยืนรอรถมารับประจำ รอเพียงไม่นานรถแลมโบกีนี่ราคาหลายสิบล้านก็เคลื่อนตัวมาจอดลงตรงหน้านักศึกษาที่อยู่บริเวณต่างพากันมองมาด้วยสายตาลุกวาวอดทำให้เธอประหม่าไม่ได้จริง ๆ จนต้องรีบวิ่งไปขึ้นรถเพื่อหลบหลีกสายตาหลายคู่ที่จ้องมอง"เป็นอะไร ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนั้น" ทำคนที่นั่งหลังพวงมาลัยขย่นคิ้วด้วยความสงสัยกับท่าทางรีบร้อนของเธอ"คนมองหนูไม่ชอบค่ะ" ยาหยีตอบไปตามจริงพลางมองไปยังกลุ่มนักศึกษาที่มองมา พอได้ฟังคำตอบของหญิงสาวเควิลก็ยกยิ้มมุมปากน้อย ๆ หากเป็นคนอื่นคงจะเดินยืดอกมาขึ้นรถอย่างภาคภูมิใจ แต่เธอกลับไม่ชอบเสียอย่างนั้น"เธอนี่ก็แปลกคนนะยาหยี" มือหนายื่นไปยีศีรษะเล็กทุยด้วยความเอ็นดูจนเรือนผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิง"อย่ามายุ่งกับผมหนู" ยาหยีทำหน้าคว่ำใส่เจ
นับตั้งแต่วันที่เธอถูกชายหนุ่มลงโทษอย่างหนักเวลาก็ผ่านมาหนึ่งเดือนเต็ม ๆ และแน่นอนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปความสุขที่เธอเคยมีมันหายไปหมดสิ้น คฤหาสน์แห่งนี้กลายเป็นที่จองจำสำหรับเธอทั้งที่เมื่อก่อนมันเป็นสถานที่ที่น่าอยู่สำหรับเธอมาก ๆเธอต้องทนอยู่ด้วยความเจ็บปวดจากการที่พยายามหักห้ามใจไม่ให้รักชายหนุ่ม ต้อนทนขมขืนยามขึ้นเตียงกับเขาด้วยสถานะนางบำเรอเด็กสาวที่เคยสดใสในเมื่อก่อนกลายเป็นคนเงียบขรึม รอยยิ้มบนใบหน้าแทบไม่มีให้เห็น แววตาแสนสดใสมีแต่ความหมองหม่นเธอไม่มีความสุขอีกต่อไปในคฤหาสน์หลังใหญ่โตนี้...เฉกเช่นเดียวกับเควิลที่รู้สึกหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหญิงสาวเปลี่ยนไปนับตั้งแต่วันนั้นเธอก็ทำตัวห่างเหินเขาเข้าไปเรื่อย ๆ ไม่เข้าใกล้ถ้าเขาไม่เรียก ไม่ออดอ้อน ไม่มาวอแว ไม่สดใสเหมือนในเมื่อก่อน บ่อยครั้งที่เขาเห็นเธอแอบนั่งเหม่อลอยบอกตามตรงว่าเขาไม่ชอบเลยที่เห็นเธอดูเศร้า และยิ่งพานหงุดหงิดทุกอย่างรอบตัวเมื่อเธอทำตัวเย็นชา ห่างเหินเขา เวลามีอะไรกันก็ไม่มีอารมณ์ร่วมเหมือนเป็นแค่หน้าที่ที่จำเป็นต้องทำให้เสร็จ ๆ ไปซึ่งเขาไม่โอเคเ
Comments