จากที่คิดว่าจะอ่อนโยนและพูดดีทำดีกับมิรันดาให้มากขึ้น แต่หญิงสาวก็ทำให้เขาเปลี่ยนใจ ในเมื่อพูดกันดีๆ แล้วเธอไม่ฟัง เขาก็ไม่อยากเสียวเวลา เขาขึ้นมาพลิกกายเหนือร่างอีกครั้ง
“คุณคงไม่ทำอีกใช่ไหม ก็คุณเพิ่งทำไป”
“มันก็แค่ครั้งเดียว มิรันดาเชื่อสิคุณจะมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม”
“แต่ฉันเจ็บ”
“มันก็แค่แป๊บเดียวไม่ใช่เหรอ ครั้งนี้เราจะมีความสุขด้วยกันนะรัน”
มิรันแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองเมื่อเขาเรียกเธอด้วยชื่อเล่นและน้ำเสียงนั้นก็ฟังดูอ่อนโยนจนทำให้เธอยินยอมพร้อมใจให้กับเขาไปอีกครั้ง
มาร์คัสเป็นประกายเมื่อเห็นท่าทางของเธออ่อนอ่อนลง
เขาเลื่อนตัวขึ้นมาจูบปากนุ่มอีกครั้ง มิรันดาไม่ได้ขัดขืน แถมยังตอบรับด้วยความเต็มใจ เมื่อปลายลิ้นหนาส่งเข้ามาในโพรงปากร้อน กวาดเอาหวานอย่างกระหาย มาร์คัสไม่เคยรู้สึกอยากจูบกับใครจนแทบจะกลืนกินมาก่อนเลย แต่กับมิรันดาเขาแทบไม่อยากจะหยุดจูบเลยสักนิด
เสียงชายหนุ่มครางต่ำในลำคออย่างพอใจเมื่อหญิงสาวเริ่มเรียนรู้ที่จะหยอกเย้ากับลิ้นของเขาอย่ากล้าๆ กลัว ท่าทางไม่ประสานั้นกลับกระตุ้นความต้องการของเข้าไปอย่างประหลาด
ผ่ามือร้อนเคลื่อน ไปตามเรือนร่างบอบบาง สัมผัสทรวงอกนุ่มเคล้นคลึงอย่างเมามัน
แล้วริมฝีปากร้อนผ่าวก็ไต่ลงมาตามลำคอระหง ขบเม้มผิวเนียนนุ่ม เกิดรอยแดงเป็นจ้ำๆ เขาตั้งใจจะฝากรอยรักไว้บนร่างกายของเธอเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ และจากนี้จะไม่มีใครหน้าไหนได้เชยชมเรือนร่างของมิรันดาอีกเลย ตราบใดที่เธอยังเป็นผู้หญิงของเขา
ชายหนุ่มเลื่อนริมฝีปากร้อนเข้าครอบครองเม็ดทับทิมสีสวย ดูดดุนเข้าโพรงปากร้อนอย่างหิวกระหาย มิรันดาเสียวซ่านไปกับทุกสัมผัสร้อน เธอรับรู้ได้ว่าตอนนี้โพรงอุ่นร้อนของเธอกำลังตอดตุบๆ รอคอยบางอย่างจากผู้ชายตัวโตที่คร่อมอยู่เหนือร่าง
มาร์คัสเบียดความแข็งร้อนเข้ากับความอ่อนนุ่มก่อนจะกดส่วนปลายเข้าไปในโพรงถ้ำที่มีเขาผู้เดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าไปในนั้น
“รัน อย่าเกร็ง มองหน้าครั้งนี้มันจะไม่เจ็บ”
มิรันดาหายใจเข้าลึก พยายามผ่อนคลายตัวเองเพื่อให้ชายหนุ่มได้เขาไปในร่างกายของอีกครั้ง
“อื้อ”
ร่างหญิงสาวผวาเข้ากอดเมื่อโดนความใหญ่โตลุกล้ำเข้าไปทีละนิด
“มันแน่นมากรัน มันดีมาก ผมขออีกนิดนะ”
มิรันดาหลับตาแน่น ใบหน้าแดงก่ำเมื่อร่างกายกำลังถูกไฟพิศวาสแผดเผา ริมฝีปากสีสวยเผยอกว้างร้องครางเสียงหลงเมื่อเขาเข้ามาลึกจนเธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอกับได้เป็นของกันและกัน มันต่างจากครั้งแรก ครั้งนี้มันวาบหวามและเสียวซ่านจนเสียงหวานร้องครางอีกครั้งเมื่อเขาขยับสะโพกช้าๆ
“เก่งมากรัน คุณตอดแรง แน่นมาก”
มาร์คัสเพิ่มความเสียวซ่านให้เธอด้วยการขบเม้มไปตามลำคอระหง มือสากยังคลึงเคล้นทรวงอกทั้งสองข้างอย่างมันมือ ปากร้อนดูดดื่มปลายถันที่ชูขัน เสียงครางแหบพร่าพอใจกับเรือนร่างที่ปรารถนา สะโพกสอบขยับพาตัวตนเข้าออกอย่างไม่รู้เหนื่อยยิ่งได้ยินเสียงครางหวานก็ยิ่งกระตุ้นให้ความต้องการเพิ่มมาก
ชายหนุ่มร่างสูงยืดลำตัวขึ้นจับเรียวขาของเธอข้างหนึ่งพาดที่บ่า ส่วนอีกข้างกางออกกว้างแนบไปบนที่นอน เพื่อจะให้ร่างกายของเขาและเธอประสานกันได้อย่างแนบสนิท
“อ้า มาร์คัส...”
หญิงสาวครางแหบพร่าเมื่อความเสียวซ่านที่เขามอบให้มันมากขึ้นมากขึ้นจนบรรยายเป็นคำพูดไม่ถูก
“เรียกผมว่ามาร์ค รันเรียกผมว่ามาร์คนะ”
เสียงกระซิบแหบพร่าที่ข้างหูทำให้เธอขนลุกซู่ไปทั่วทั้งร่าง
“ค่ะคุณมาร์ค”
เสียงหวานเอ่ยชื่อเล่นของเขาช่างไพเราะและฝังลึกเข้าไปในโสตประสาท
มาร์คัสเร่งเครื่องเต็มกำลังเมื่อรู้สึกว่าช่องทางรักนั้นกำลังตอดรัดถี่ขึ้น
ตาคมปลาบมองร่างที่นอนดิ้นพล่าน หญิงสาวกำลังจะไปถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง
“คุณมาร์ค ฉัน อื้อ มันเสียว ไม่ไหวคุณมาร์ค...”
มิรันดากรีดร้องเรียกชื่อเขาเมื่อพบพานกับความสุขอันแสนหวานที่ชายหนุ่มมอบให้
ร่างกายเธอกระตุก ท่อนเขาเรียวสั่นระริก ลมหายใจหอบเหนื่อยอย่างหนัก ใบหน้าหวานชื้นไปด้วยเหงื่อ
“ดีไหมรัน”
“คุณมาร์ค”
เธอมองหน้าเขาอย่างอายๆ เพราะเมื่อครู่มันดีจนเธอไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะทำให้เธอมีความสุขได้มากถึงเพียงนี้ ร่างกายของเธอยังหอบสะท้านไม่หาย
มาร์คัสเห็นหน้าเธอก็รู้คำตอบ ชายหนุ่มเริ่มขยับสะโพกอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง แรงอัดกระแทกแต่ละครั้ง ทำเอาคนที่เพิ่งสุขสมไปเมื่อครู่ เสียวซ่านขึ้นมาอีกครั้งอย่างง่ายดาย
“คุณมาร์คขา รันจะไม่ไหวอีกแล้ว อื้อ คุณมาร์ค...”
ความรู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังอยู่ในพายุลูกใหญ่ที่กำลังพัดเข้าหา แรงหมุนและแรงเหวี่ยงทำเอาเสียงหวานครางกระเส่าจนเสียงแทบแห้ง ร่างกายปั่นป่วนไปหมดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
หญิงสาวเผลอยกสะโพกขึ้นตอบรับกายแกร่งที่โจนจ้วงเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
“รัน มันดีมาก คุณทำผมเสียวไปหมดแล้ว รัดแรงแบบนั้น โอ้ว ที่รักมันดีมาก คุณเก่งมากรัน”
มาร์คัสไม่รู้เลยว่าตนเองหลุดคำว่าที่รักออกมาจากปาก
แต่คนฟังอย่างมิรันดานั้นรู้สึกดีจนเผลอยิ้ม เมื่อใจเป็นสุขร่างกายก็เป็นสุขจนบีบรัดกายแกร่งแรงขึ้นอย่างไม่อาจห้าม
มาร์คัสครางแหบต่ำ เมื่อภายในกลีบสาวของมิรันดานั้นตอดรัดกายแกร่ง อย่างรุนแรงอีกครั้ง เขาขยับกายถาโถมกระแทกเข้าลึกอย่างหนักหน่วงและรุนแรงติดกับแทบไม่ยั้ง
มิรันดากรีดร้องอีกครั้งพร้อมร่างกายกระตุกถี่ เสียงหวานครางประสานเสียงแหบพร่าที่มาพร้อมธารลาวาร้อนฉีดพ่นเข้าไปในกายเธออีกครั้ง
“ผมมีความสุขมากมิรันดา คุณก็มีความสุขเหมือนกันใช่ไหม เหนื่อยหรือเปล่า”
“ค่ะ ฉันเหนื่อยมาก” เธอตอบเขาไปแบบนั้นแต่ก็อยากจะเติมท้ายประโยคไปด้วยว่ามีความสุขมากเช่นกัน
มาร์คัสเลื่อนถอนตัวตนออกแล้วขยับลงนอนข้างกายมิรันดาท่าตะแคง แล้วพลิกให้เธอหันหน้ามาทางเขาให้เธอนอนไปบนแผงอกแกร่งของตนเอง
“เหมือนคุณยังโกรธผมอยู่” เขาถามพลางไล้มือไปตามใบหน้าหวานที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ
“แล้วจะให้ฉันดีใจเหรอคะ ในเมื่อสิ่งที่คุณพรากไปจากฉันมันเรียกกลับคืนมาไม่ได้”
“แต่ผมยินดีรับผิดชอบ”
“อย่ารับผิดชอบเพราะรู้สึกผิดเลยค่ะ”
“เปล่าเลยที่ผมอยากรับผิดชอบก็เพราะผมรู้สึกดีกับคุณ อยากให้คุณมาเป็นผู้หญิงของผม”
“ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใครมาจากไหน รู้แค่อย่างเดียวว่าคุณมีเงินก็เท่านั้น แต่คุณรู้ไหม บางครั้งเงินมันก็สามารถทดแทนสิ่งที่เสียไปได้”
“ผมขอโทษ ผมน่าจะเชื่อคำพูดคุณตั้งแต่แรก”
“คุณไม่ผิดหรอกค่ะ ฉันเองที่ผิดถ้าฉันพยายามบอกคุณมากกว่านี้ว่าฉันไม่ใช่เมียน้อยพี่ต้นเรื่องก็ควงไม่เป็นอย่างนี้ แต่คุณจะเอาเงินคืนไม่ได้นะ ฉันใช่หมดแล้ว” เสียใจตัวเองเสียตัวก็เรื่องหนึ่ง แต่อีกเรื่องหนึ่งมันก็สำคัญเกินกว่าจะปล่อยผ่าน
“เวลาผ่านไปหนึ่งวันคุณจะเอาเงินไปใช่ที่ไหนหมด หรือว่าคุณเป็นหนี้ใครเขา”
“เปล่า ฉันเอาเงินไปให้แม่ครู”
“แม่ครู แม่คุณเหรอ”
“เปล่า เธอเป็นมากกว่าแม่ เธอเป็นทุกอย่างของฉัน”
“เล่าให้ผมฟังได้ไหม”
มิรันดาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้กับมาร์คัสฟัง เธออยากให้เขาเข้าใจและเห็นใจเพราะกลัวเขาจะเอาเงินจำนวนนั้นคืน
“คุณคงไม่เอาเงินคืนใช่ไหมคะ อย่าลืมนะฉันบอกคุณแล้วว่าฉันไม่ใช่เมียน้อย บอกตั้งหลายครั้งแต่คุณก็หาว่าฉันแก้ตัวและไม่ยอมฟังต่อ”
“ก็ลูกน้องผมบอกว่าคุณคือเมียน้อยนายต้น”
“ฉันว่าคงมีอะไรเข้าใจผิด ฉันกับพี่ต้นไม่เคยมีอะไรกันเลย เพราะคนที่เขาคบอยู่คือเพื่อนของฉัน”
“เพื่อนของคุณ”
“เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งทำหน้าตกใจอย่างนั้น”
“คุณก็เจ้าเล่ห์เหมือนกันนะ คุณเซ็นสัญญาว่าจะไม่ติดต่อกับนายต้นอีก จะไม่มีอะไรกับนายต้นอีกเพราะคุณกับเขาไม่มีอะไรกันตั้งแต่แรก”
“ที่ฉันรับปากว่าจะไม่ยุ่งกับเขามันก็หมายความถึงเพื่อนของฉันด้วย ฉันปรึกษาเธอแล้ว เธอก็ยอมถอยเพราะรู้ว่าคบกันต่อไปก็มองไม่เห็นอนาคต”
“แล้วที่นายต้นโทรหาคุณล่ะ มันหมายความว่ายังไง”
“ที่พี่ต้นโทรหาก็เพราะเขาติดต่อเพื่อนฉันไม่ได้ยังไงล่ะ”
“เพื่อนคุณจะเลิกกับเขาจริงๆ ใช่ไหม”
“แน่นอนถ้าอย่างนั้นฉันจะรับปากคุณทำไมล่ะ ตอนนี้น้องเขยของคุณต่างหากที่ไม่ยอมจบ”
“ผมเข้าใจแล้ว”
“คุณมาร์คัส”
“ผมให้เรียกยังไง”
“คุณมาร์คคือฉันอยากขอร้อง คุณอย่าเอาเงินคืนเลยนะคะ”
“ผมบอกหรือยังว่าจะเอาคืน”
“ขอบคุณนะคะ คุณเป็นผู้ใหญ่ที่ทั้งหล่อและใจดี”
“มากกว่าโอปป้าของคุณไหม”
“เท่ากันค่ะ”
“มิรันดาผมให้คุณตอบอีกทีนะ”
“มันสำคัญด้วยเหรอคะ”
“สำคัญสิ ผมไม่อยากให้ผู้หญิงของผมชอบคนอื่นมากกว่าผม”
“มันก็แค่ชอบ”
“มิรันดาตอบผม”
“ก็ได้ๆ ฉันยกให้คุณเหนือกว่ากงยูนิดหนึ่งก็ได้”
“แน่นอนสิเพราะผมน่ะ ตัวจริงสัมผัสได้” เขาพูดอย่างภูมิใจ ถ้าตอนนี้ลูกน้องเขาอยู่ที่นี่ก็คงพากันเขาเอาตัวเองไปแข่งกับดาราเกาหลี
“คุณมาร์คคะ ฉันรู้ว่าเงินที่คุณให้มันมาก แต่ดูท่าทางคุณก็รวยดีออก ทำบุญกับเด็ก แบบนั้นมันดีมากเลยนะคะ คุณไม่ควรเอาคืน”
“ผมไม่คิดจะเอาคืนหรอกน่า”
“น่ารักมากค่ะ ถึงกงยูจะมายืนอยู่ตรงหน้าฉันก็ยกให้คุณเป็นที่หนึ่งเลยค่ะ”
“ผมไม่ได้อยากเป็นคนที่หนึ่ง”
“อ้าว”
“ผมขอเป็นคนเดียวของคุณได้ไหม มาเป็นผู้หญิงของผมนะมิรันดา”
มาร์คัสวนกลับมาที่คำถามเดิมอีกครั้ง เขารู้สึกหวงแหนมิรันดาและไม่อยากเสียเธอให้กับใคร
“นานแค่ไหนคะ ตามสัญญาหรือเปล่า”
“สัญญาฉบับนั้นลืมมันไปได้เลย ผมจะให้คุณมาเป็นผู้หญิงของผมตลอดไป”
“คุณเชื่อแล้วใช่ไหมคะว่าฉันเคยเป็นเมียน้อยของพี่ต้นจริงๆ” มิรันดาถามกลับแต่ไม่ยอมตอบว่าจะเป็นผู้หญิงของเขาหรือเปล่า
“ผมเชื่อหมดใจเลยว่าคุณนายต้นไม่เคยมีอะไรกัน”
งานแต่งเล็กๆ ผ่านไปอย่างเรียบง่าย แม้หลายคนจะแปลกใจที่ทุกอย่างมันดูรวดเร็ว แต่เมื่อเห็นแววตาที่ทั้งสองคนมองกันและกัน ต่างก็ต้องยอมรับว่าความรักของคนนั้นสองนั้นสุกงอมมากแค่ไหนความรักและความจริงใจที่เฟลิกซ์แสดงออกนั้นทำให้เพื่อนครู และเพื่อนสมัยเรียนของมิรันดาต่างพากันอิจฉา แม้จะไม่มีงานแต่งที่เลิศหรู แต่เฟลิกซ็ก็มอบแหวนเพชรเม็ดโตให้กับเจ้าสาว รวมถึงชุดเครื่องเพชรอีกหลายต่อหลายชุด ที่เขามอบทุกอย่างให้เธอต่อหน้าแขกวันนี้ก็เพราะรู้ว่าถ้าให้สองต่อสองมิรันดาจะต้องไม่ยอมรับแน่ ๆ นอกจากเครื่องเพชรแล้วยังมีเงินในบัญชีอีกจำนวนหนึ่งซึ่งเฟลิกซ์ไม่ยอมให้มิรันดาเห็นจนกระทั่งเธอยอมรับจึงจะเปิดดูจำนวนเงินได้ “พี่เฟย์ รันว่ามันมากเกินไปนะคะ” “ถ้าไม่รับจำเพิ่มจำนวนนะครับ” เขากระซิบกลับจำนวนเงินมากขนาดนั้นทำให้แขกต่างสงสัยว่าชายหนุ่มเป็นแค่เจ้าของร้านจริงหรือเปล่า เฟลิกซ์เลยบอกกับทุกคนไปว่าแต่ก่อนเข้าเป็นนักธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์จึงมีเงินมากขนาดนั้น แต่ตอนนี้เงินทุกบาททุกสตางค์ของเขาได้ยกให้มิรันดาไปหมดแล้วงานเลี้ยงเลิกในเวลาสี่ทุ่มเฟลิกซ์กับมิรันดาก็กลับ
วันนี้มาร์คัสพามิรันดามายังบ้านของจัสมินซึ่งกลับมาจากอิตาลีพร้อมกับจอมทัพ “พี่มาร์ค เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ทำไมต้องทำตัวลึกลับแบบนี้ รู้ไหมว่าน้องกับรันเสียใจมากแค่ไหนที่รู้ว่าพี่จากพวกเราไปแล้ว พี่ใจร้ายมากที่ทำแบบนี้กับพวกเรา” “พี่ขอโทษนะจัสมิน พี่รู้ว่าเราต้องเสียใจมาก” “พี่วางแผนมานานแล้วใช่ไหมคะ” “พี่เคยวางแผนกับแพทริคไว้ แต่ไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ วันนั้นก่อนสลบพี่ก็เลยบอกให้โรแบร์โต้เป็นคนจัดการ พี่เองก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่ในห้อง ICU นานขนาดนั้นแถมยังไฟไหม้ไปทั้งหน้า” “แล้วทำไมพี่ถึงไม่บอกน้องเรื่องนี่ละคะ น้องจะได้ไปดูแล” “พี่อยากให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน ถ้าจัสมินกับมิรันเห็นหน้าพี่ก็คงพากันกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้” “ไม่มีใครคิดอย่างนั้นเลย แล้วจากนี้พี่จะเอายังไงต่อ พี่จะเป็นมาร์คัสมาเฟียหนุ่มหรือจะเป็นเฟลิกซ์เจ้าของร้านอาหาร” “พี่อยากเป็นมาร์คัสของจัสมินและมิรัน” “บอสครับ ผมว่าถ้าบอสคิดจะวางมือจริงก็ควรจะทิ้งทุกอย่างรวมทั้งตัวตนเดิมของบอสด้วย” จอมทัพที่นั่งฟังอยู่เสนอขึ้น
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ก่อนที่เสียงเครื่องอบผ้าจะร้องเตือนว่าตอนนี้มันทำงานเสร็จแล้ว “เสื้อคุณแห้งแล้ว เดี๋ยวฉันเอามาให้นะคะ” “เดี๋ยวสิ มิรันคุยกับพี่ก่อน” “พี่เหรอคะ เราไม่สนิทกันขนาดนั้น” เธอแทบจะกรีดร้องด้วยความดีใจที่ได้ยินคำเรียกนั้นออกมาจากปากของเขา “มิรันครับพี่ขอโทษ ที่ปิดบังมิรันแต่พี่มีเหตุผล” “เอาไว้คุยกันวันหลังเถอะค่ะ คืนนี้ดึกแล้วคุณควรกลับบ้าน” “มิรันอย่าใจร้ายกับพี่เลยนะครับ ที่ผ่านมาพี่ยอมรับว่าพี่ผิดที่ไม่รีบกลับมาหามิรันตั้งแต่แรก” “แล้วทำไมอยู่ๆ ถึงกลับเข้ามาอีก” “พี่ยังจำเรื่องของเราไม่ได้ทั้งหมด แต่พอพี่เจอในสวนวันนั้นพี่ตกหลุมรักมิรันอีกครั้ง พอพี่บอกจะจีบรันก็บอกว่ามีสามีแล้ว พี่ยิ่งสับสนไปใหญ่ ดีใจที่มิรันยังรักพี่ แต่ก็เสียใจที่พี่จำเรื่องของเราไม่ได้” “แล้วทำไม่คิดจะบอกถ้ารันจับไม่ได้ก็จะโกหกไปแบบนี้เรื่อยๆ ใช่ไหม” “พี่กลัวว่ามิรันจะรังเกียจพี่ พี่ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ทั้งแผลเป็นที่ตัวและที่หน้า มันน่าเกลียดมาก” “มันไม่น่าเกลียดเลยเวลา
จัสมินโทรศัพท์มาหามิรันดาหลังจากที่เธอบินไปถึงอิตาลีได้เพียงสองชั่วโมง “โรแบร์โต้ยอมรับแล้วว่าเขาช่วยมาร์คัสออกมาจากรถคันนั้นจริง แต่ก่อนที่มาร์คัสจะหมดสติเขาบอกให้โรแบร์โต้แจ้งทุกคนไปว่าเขาเสียชีวิตแล้ว” “แต่ทำไม่เขาถึงไม่ติดต่อเรามาเลย เขาใจร้ายมากนะคะพี่จัสมิน เขาสนุกไหมที่เห็นเราเสียใจ” “รันฟังพี่ก่อนนะ” จัสมินเล่าให้ฟังต่อว่ามาร์คัสเจ็บหนักและนอนอยู่ในห้องICU ถึงสามเดือนเขาต้องทำศัลยกรรมหลายครั้งเพราะใบหน้าโดนเปลวไฟจนผิวหนังชั้นนอกได้รับความเสียหาย กว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางก็ใช้เวลาเกือบหกเดือน “รันสงสารเขา ช่วงที่เขาลำบากรันไม่มีโอกาสได้อยู่ใกล้ ได้ดูแลเข้าเลย” จากที่จะโกรธกลายเป็นว่าเห็นใจที่เขาต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวตามลำพัง “ตอนนี้เขาไม่เป็นไรแล้วเขาแข็งแรงดีแล้ว พี่มีอีกเรื่องที่จะบอก” “อะไรคะ” “โรแบร์โต้บอกว่าเขาจำเรื่องราวก่อนหน้านั้นไม่ได้” “หมายความว่ายังไง” “พอเขาหายดีแล้ว โรแบร์โต้ก็ตามแพทริคมาเจอกับเขา แพทริคบอกเขาเรื่องของรัน แต่เขาไม่เชื่อว่าตัวเอ
หนึ่งเดือนที่ผ่านมาริมันดากลายเป็นลูกค้าประจำของร้านทิรามิสุ เพราะชนิศาขอย้ายออกไปอยู่กันแฟนทำให้เธอฝากท้องที่นั่นเกือบทุกวัน และความสนิทสนมของเธอกับเจ้าของร้านก็มีมากขึ้น เขามักจะเป็นคนเอาอาหารมาส่งให้เธอที่บ้าน หรือถ้าวันไหนเธอไปทานที่ร้านเขาก็จะดูแลเอย่างดี มิรันดาเลยถามเขาไปตรงๆ ว่าเขากำลังจะจีบเธอใช่ไหม และเมื่อรู้คำตอบเธอก็บอกให้เขาเลิกคิดเพราะไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่มีทางมองผู้ชายคนอื่นอย่างเด็ดขาด แต่ดูเหมือนสิ่งที่เธอพูดนั้นจะไม่เข้าหูเขาเลยเพราะเขายังคงทำตัวเหมือนเดิม จนเธอเริ่มชินกับการมีเฟลิกซ์อยู่ข้างๆ ความรู้สึกเวลาที่อยู่ใกล้เขามันเหมือนกับตอนที่อยู่กับมาร์คัสจนบางครั้งก็เผลอคิดว่าเขาคือคนคนเดียวกัน และเธอก็จะต้องรู้ให้ได้เพราะไม่อยากจะปวดหัวมากไปกว่านี้อีกแล้ว วันนี้มิรันดาชวนจัสมินมาทานข้าวที่บ้านโดยสั่งอาหารจากร้านทิรามิสุและกำชับว่าให้เจ้าของร้านมาส่งเองเพราะเธอมีเรื่องจะคุยกับเขานิดหน่อย จอมทัพขับรถมาส่งจัสมินจากนั้นก็ขับรถออกไปตรวจงานที่ผับ ตอนนี้ที่บ้านหลังเล็กจึงเหลือสองสาวที่กำลังนั่งรออาหารด้วยความร้อนใจ
มาถึงร้านอาหารพี่ครูท่านอื่นก็กำลังเริ่มสั่งอาหารกันพอดี มิรันดาเข้าไปนั่งเก้าอี้ตัวที่ติดกับครูรัตนาซึ่งเป็นครูที่เธอสนิทที่สุดเพราะมาทำงานที่นี่ด้วยกันตั้งแต่วันแรก “สั่งอะไรเพิ่มไหมคะครูรัน” ครูวิลาวัลย์ถามคนที่เพิ่งมาถึง “เอาเท่าที่ครูหนิงสั่งก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าไม่พอเราค่อยสั่งเพิ่มก็ได้ค่ะ ของหวานก็น่าสนใจนะคะ เมื่อวานรันสั่งไปทานที่บ้านเจลาโต้กับทิรามิสุก็อร่อยใช้ได้เลยค่ะ” “จริงสิ เราลืมได้ยังไงว่ามาร้านทิรามิสุก็ต้องสั่งทิรามิสุมากินด้วย” “หนูนามองหาอะไร” “ก็มองหาเจ้าของร้านน่ะสิครูหนิงบอกว่าเจ้าของร้านหล่อแต่นี่หนูนายังไม่เห็นมีใครหล่อเข้าตาเลยสักคน” “ลูกค้าเต็มร้านอย่างนี้ บางทีเจ้าของร้านคงกำลังยุ่งอยู่ก็ได้นะ” “นั่นสิ เราไปถ่ายรูปข้างนอกกันได้ไหมมีมุมถ่ายรูปเยอะเลย” “ไปสิ” สองสาวขอตัวออกไปถ่ายรูประหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟ ระหว่างนั้นมิรันดาก็เห็นคนรูปร่างคุ้นตาเดินเข้ามาพอดี “พี่มาร์ค” มิรันดาเรียก แต่เขาก็เดินผ่านไปโดยไม่สนใจ “รันรู้จักเหรอ แต่เหมือนเขาจะไม่