Share

บทที่ 1286

Author: หูเทียนเสี่ยว
"นี่คือ..." จั๋วซือหรานมองร่องรอยบนพื้น

บนมีหลุมอยู่หลายหลุม ยิ่งไปกว่านั้นยังมีรอยเป็นทางยาวอีกหลายรอย

ดูเหมือนสถานการณ์จะวุ่นวายสับสนน่าดู

จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว เข้าไปสำรวจที่หน้าหลุมหลายหลุม และรอยลากยาวเป็นทางเหล่านั้น นางก็ไปดูอย่างละเอียดด้วย

"พวกนี้เป็นสิ่งที่สัตว์ประหลาดนั่นทำเอาไว้" จั๋วซือหรานชี้ไปยังหลุมหลายหลุมในนี้

จากนั้นจึงชี้ไปยังหลุมที่ใหญ่ที่สุด "ส่วนตรงนี้เหมือนจะไม่ใช่"

เพราะนางเคยต่อสู้กับสัตว์ประหลาดตัวนิ่มนี้แล้ว ดังนั้นถือว่ามีประสบการณ์อยู่ และรู้ว่าเจ้านั่นชอบขดตัวเองเป็นก้อน จากนั้นก็กลิ้งเข้ากระแทกโจมตี

ดังนั้นมีหลายหลุมที่ขนาดใกล้เคียงกัน เอาจริงๆ ก็คือ น่าจะขนาดพอๆ กับรูปร่างของสัตว์ประหลาดตัวนิ่มนี้

แต่หลุมที่ใหญ่สุดนั่น ใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงมองออกว่าหลุมนี้ไม่ธรรมดา

ยิ่งไปกว่านั้นในรอยยาวหลายรอยนี้ มีหลายรอยที่เป็นรอยซึ่งเกิดจากสัตว์ประหลาดกลิ้งตัวเข้าโจมตี ดังนั้นจึงค่อนข้างหนาหน่อย

แต่มีอยู่รอยหนึ่งที่เล็กมาก ไม่หนาเท่าไร

จั๋วซือหรานโค้งตัวลง ยื่นมือไปลูบบนรอยนี้ จากนั้นก็ยกขึ้นดม

"เลือดมนุษย์" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น จาก
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1287

    จวงชิ่งหมิงมองไล่ไปตามสายตาจั๋วซือหราน ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่เด็กน้อยสมองสับสนที่พูดจาตะกุกตะกักแบบตอนนั้นแล้วดังนั้นจากสายตานี้ของจั๋วซือหราน ในสมองเขาก็มีปฏิกิริยาต่อความหมายของนางอย่างรวดเร็ว"เจ้าจะบอกว่า..." ดวงตาของจวงชิ่งหมิงที่เดิมทีดูหม่นแสงสิ้นหวัง ก็เปล่งประกายขึ้นมาเล็กน้อย จ้องมองจั๋วซือหรานนิ่ง ความหวังเหล่านั้น ราวกับเป็นแสงเรืองรองสุดท้ายในความมืดมิดจั๋วซือหรานประกบสองมือเข้าด้วยกัน ถูๆ ฝ่ามือ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าลองดูหน่อย ช่วงนี้สภาพร่างกายยังไม่ค่อยดี เจ้ายักษ์นี่ก่อนหน้าก็ไม่ค่อยลงรอยกับข้าด้วย บางที...ข้าคงต้องลุยเต็มที่หน่อย"จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้เคยปะทะกับอสูรกลืนแมลงตัวนี้แล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงไม่กล้าพูดโอ้อวด หนึ่งเพราะเคยสู้กันมาแล้ว สัตว์ประหลาดบางตัวก็หยิ่งทะนงมาก ยอมตายมากกว่ายอมจำนนยิ่งเป็นสัตว์ประหลาดที่พลังแข็งแกร่งมากเท่าไร ก็ยิ่งวิวัฒนาการสติปัญญาได้มากขึ้นเท่านั้น ในด้านนี้พวกมันก็ยิ่งหยิ่งผยองขึ้นไปอีก ไม่แน่อาจจะไม่ยอมศิโรราบต่อจั๋วซือหรานก็ได้สองคือเพราะ ชิ่งหมิงตอนนี้คาดหวังมากสำหรับความคาดหวังที่มากเกินไปของคนอื่น กระทั่งการให้ความหวัง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1288

    จั๋วซือหรานพยักหน้าเบาๆ ไม่พูดอะไร แค่หันหน้าไปบอกคำหนึ่งกับชิ่งหมิงว่า "รอข้าครู่หนึ่ง ข้าขอทำความเข้าใจก่อนว่าเป็นสถานการณ์แบบไหน่"เพราะตอนแรกข่าวที่ตระกูลซางเผยออกมา พวกเขาล้วนเข้าใจว่าจั๋วซือหรานมีความสามารถของนักภาษาสัตว์ ดังนั้นให้รอนางเข้าไปพูดคุยกับอสูรกลืนแมลงนั่นก่อนในมิติ อสูรกลืนแมลงตัวนั้นหายใจรวยริน นอนอยู่ในมุมหนึ่งที่ห่างไกลที่สุดสัตว์อสูรตัวอื่นๆ ก็ล้วนเว้นระยะห่างจากมันหลังจากจั๋วซือหรานเข้ามาในมิติ ก็สาดน้ำของน้ำพุวิเศษใส่มันทันทีสัตว์อสูรที่แต่เดิมดูร้ายกาจมาก อาจจะเพราะมันบาดเจ็บสาหัส บวกกับหลังจากสัตว์ประหลาดเข้ามาในมิติน้ำพุวิเศษ รูปร่างของมันจะปรับตัวไปด้วยดังนั้นมันตอนนี้จึงดุแล้ว รูปร่างไม่ได้ใหญ่โตเหมือนตอนอยู่ด้านนอกแบบนั้นในความรู้สึกก็ไม่ได้ดูชั่วร้ายแบบนั้นแล้ว สภาพหายใจรวยริน ก็ดูน่าเวทนาอยู่เหมือนกันพอเห็นจั๋วซือหรานเดินเข้าไป หนังตาของมันก็เลิกขึ้น ดูน่าสงสารมากมือของจั๋วซือหรานกดอยู่บนตัวมัน บาดแผลที่ถูกน้ำพุวิเศษสาดไปก่อนหน้า หลังจากสัมผัสกับพลังวิญญาณของจั๋วซือหราน ก็ยิ่งสมานตัวกันไวขึ้นในดวงตาครึ่งเปิดครึ่งปิดของมัน ความอ่อนแอใน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1289

    ตาของจั๋วซือหรานก็แหงนขึ้นฉับพลันเช่นกัน มองไปทางเฟิงเหยียนเพราะถ้าหากจั๋วซือหรานจำไม่ผิด ตอนนั้นที่เฟิงเหยียนกับฉุนจวินถูกลอบทำร้าย เฟิงเหยียนนำพลังวิญญาณที่นางเอาไว้ให้ใช้ปกป้องแสงแดดรุกล้ำบนตัวเขา ไปใช้ปกป้องชีวิตของฉุนจวินทั้งหมดส่วนตัวเขาก็ถูกคนพวกนั้นพาไป ตอนนั้นคนเหล่านั้น...ก็เป็นกลุ่มสิบคนเห็นได้ว่า นับจากตอนนั้น ตระกูลเฟิงเป็นแค่ชนวนเท่านั้น ตัวสำคัญอยู่ที่สภาผู้อาวุโสมาตลอดริมฝีปากชิ่งหมิงสั่นระริกเบาๆ "ดังนั้นก็คือ...คนของสภาผู้อาวุโสลงมือ พาตัวป๋อยวนไป"เขากระทั่งไม่ใช้ประโยคคำถาม น้ำเสียงหนักแน่นมั่นใจมากสำหรับตัวตนฐานะของเฟิงเหยียน ชิ่งหมิงอันที่จริงคาดเดาไว้แล้ว ถ้าหากเป็นเขาในอดีตที่ยังไม่รู้เรื่องราว คงเดาไม่ออกแน่นอนแต่เขาตอนนี้ ไม่ใช่เด็กน้อยที่ไม่รู้อะไรเหมือนเมื่อตอนนั้นแล้ว ดังนั้นจึงเข้าใจได้ปรุโปร่งมากขึ้นต่อให้ไม่ได้พูดออกมาชัดเจน ก็มีการคาดเดาไว้บ้างแล้วต่อฐานะของเฟิงเหยียนเช่นนั้นความน่าเชื่อถือของคำพูดเฟิงเหยียนจึงไม่ต้องสงสัยเลยจั๋วซือหรานเดิมทีไม่รู้สึกว่าชิ่งหมิงจะไปอยู่แล้ว ตอนนี้จึงยิ่งไม่ต้องเกลี้ยกล่อมอะไรเดิมทียังคิดว่าจะรอให้ฟ้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1290

    ริมฝีปากจวงชิ่งหมิงเม้มแน่น เขายืนยันได้แล้ว ว่าป๋อยวนออกไปพร้อมอาการบาดเจ็บ ถูกพวกเขาทำร้าย กระทั่งบาดเจ็บจนสูญเสียความสามารถการเคลื่อนไหวด้วย...จั๋วซือหรานลูบผ้าชิ้นนี้อีก เหมือนสัมผัสได้ถึงความผิดปกติจางๆ นางขมวดคิ้ว"เดี๋ยวนะ..." จั๋วซือหรานขมวดคิ้วเอ่ยขึ้นชิ่งหมิงงงงันไป "มีอะไรหรือ?""เหมือนไม่ใช่แค่รอยเลือดเท่านั้น" จั๋วซือหรานพูดพลางหยิบผ้าผืนนั้นวางไปที่แสงไฟของคบเพลิงแล้วดูอย่างละเอียดถ้าหากเป็นแค่รอยเลือด รอยเลือดมันจะไม่..ละเอียดแบบนี้รอยเลือดหลังมนุษย์บาดเจ็บ ปกติจะเป็นก้อนใหญ่ๆ แต่รอยเลือดที่ละเอียดแบบนี้ กลับดูคล้าย...เขียนอักษร?พอเห็นจั๋วซือหรานมองรอยเลือดนี้อย่างละเอียด เฟิงเหยียนที่อยู่ข้างๆ ก็ถามขึ้นเสียงต่ำ "มีตัวอักษรอยู่หรือ?"จั๋วซือหรานพยักหน้าเงียบๆ "แต่มองไม่ค่อยชัด นี่เป็นชุดสีดำ..."จะหาอักษรเลือดบนเสื้อสีดำ ภายใต้สภาพที่แสงสว่างแรงมากบางทีอาจยังพอทดลองดูได้ตอนนี้ในความมืดที่ไม่มีแสงไฟ นอกจากแสงของคบเพลิงแล้ว ก็มีแค่แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาเท่านั้นหากคิดจะมองเห็นตัวอักษรเลือดบนเสื้อผ้าสีดำ ถือเป็นเรื่องที่ยากมากแต่ไม่รู้เพราะอะไร จั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1291

    ‘จั๋วจิ่วปกป้องชิ่งหมิงฝากด้วยนะ'จั๋วซือหรานมองอักษรพวกนี้ ก็อดถอนใจเงียบๆ ออกมาไม่ได้ชิ่งหมิงยืนอยู่ข้างๆ เนื้อหาอักษรไม่กี่ตัวนั้น เขาเองก็เห็นมันอย่างชัดเจนบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา สีหน้ายังคงปั้นยากอยู่ไม่มีน้ำตาใดๆ แต่ดวงตากลับแดงก่ำ"..." จั๋วซือหรานเม้มปาก มองชิ่งหมิง เรียกขึ้นมาเสียงทุ้มต่ำ "ชิ่งหมิง..."แต่ชิ่งหมิงไม่ใช่เด็กหนุ่มที่พูดจาตะกุกตะกักแบบแต่ก่อนแล้ว จั๋วซือหรานรักษาอาการป่วยเรื้อรังของเขาจนหายดีแล้วเขาในตอนนี้ เป็นชายหนุ่มที่รับผิดชอบเรื่องต่างๆ ได้แล้วดังนั้นตอนนี้ เขาไม่รอให้จั๋วซือหรานได้ปลอบหรือเกลี้ยกล่อม เอ่ยขึ้นมาก่อนว่า "ดู่ท่าป๋อยวนจะถูกพวกเขาพาตัวไปแล้ว พวกเรามาเสียเวลาอยู่ที่นี่ก็ไม่มีความหมายอะไร"จวงชิ่งหมิงเอียงตามองไปทางจั๋วซือหราน "ไปเถอะ ไม่งั้นอีกเดี๋ยว..." เขามองไปทางเส้นขอบฟ้า "...ฟ้าจะสางแล้ว"เขาเข้าใจสถานการณ์ของเฟิงเหยียนอย่างชัดเจนจั๋วซือหรานมองสีหน้าของเขาอย่างละเอียด จากนั้นก็พยักหน้าเบาๆ "ได้ เช่นนั้นไปกันก่อนเถอะ กลับไปแล้วค่อยหารือกัน"หลังจากชิ่งหมิงเดินออกไปสองสามก้าว ก็หันกลับไปมองยังจุดก่อนหน้านี้ ร่องรอยหลุมบ่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1

    “เสียวจิ่ว ผู้นี้คือจวงเหยาเหยา นางมีเลือดเนื้อเชื้อไขของข้าอยู่ในท้องของนางแล้ว ในเมื่อวันนี้เป็นพิธีงานแต่งระหว่างข้าและเจ้า ข้าไม่อยากปิดบังอะไรเจ้า ข้าได้วางแผนที่จะให้นางมาเป็นนางสนม และข้าจะแต่งเจ้ากับนางเข้าเรือนในวันนี้"ฉินรุ่ยหยางไม่รู้สึกไร้ยางอายแม้แต่นิดเดียว“เจ้า...เมื่อครู่นี้เจ้าพูดอะไรนะ เจ้าพูดอีกครั้งสิ…”สีหน้าของจั๋วซือหรานดูซีดขาวมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับชุดแต่งงานสีแดงสดและมงกุฎหงส์นางจ้องเขม็งไปยังชายและหญิงที่อยู่ตรงหน้านางฉินรุ่ยหยาง"เสียวจิ่ว เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไป เจ้าจะเป็นภรรยาหลวงที่มีเกียรติเสมอ ไม่มีใครมีอำนาจเหนือเจ้าได้ ในภายภาคหน้า เหยาเหยาจะเคารพเจ้าอันเป็นแท้ และลูกของนางก็จะเรียกเจ้าว่า แม่ใหญ่"จั๋วซือหรานยิ้มเยาะ "ข้าเกลียดคำเรียกนี้เสียจริง เด็กเหี้ยอะไรกันกล้ามาเรียกข้าเป็นแม่"ใบหน้าของฉินรุ่ยหยางนิ่งขรึมจวงเหยาเหยาน้ำตาเอ่อคลอ " พี่จั๋วเจ้าคะ หนูรู้ดีว่าตนเองมีฐานะต่ำต้อย แต่เด็กที่อยู่ในท้องของข้านั้น เด็กไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย โปรดเห็นแก่เด็กคนนี้ที่เป็นสายเลือดของพี่ฉินด้วยนะ... "จั๋วซือหรานไม่มองนาง สายตาจ้องไปยังฉินรุ่ยหยางอย่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 2

    ฉินตวนหยางงและจวงเหยาเหยาถูกมัดอย่างแน่นจั๋วซือหรานก้าวขาเดินออกจากห้องด้วยความมั่นใจนางสวมชุดแต่งงานสีแดงอันสดใสและงดงาม เสมือนนางกำลังสวมชุดสู้รบ นางดูทรงมีพลังและองอาจหลังจากที่คุณหนูและคนใช้ทั้งสามเดินออกจากห้องไป บนหลังคามีเสียงหัวเราะดังขึ้นแผ่นกระเบื้องที่มุมหลังคาที่มิอาจได้รู้ว่า ถูกเปิดออกมาเมื่อใดเวลานี้กำลังถูกค่อย ๆ เคลื่อนกลับไปอยู่ที่เดิมร่างของสองคนค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนหลังคาชายหนุ่มทางด้านซ้ายแต่งกายด้วยชุดสีดำ เขามีใบหน้าเรียวงามส่วนชายหนุ่มทางด้านขวา เขายิ้มและมองเฟิงเหยียนที่อันหล่อเหลา บัดนี้เฟิงเหยียนกำลังเมินเฉยชายหนุ่มทางด้านขวาหัวเราะและพูด"เดิมทีข้าแค่อยากรู้ว่าจั๋วซือหรานที่ถอนหมั้นกับเจ้าจะงามเช่นใด ไม่คิดเลยว่า ภรรยาในอนาคตของเจ้าจะน่าสนใจขเช่นนี้หรอกนะ"ใบหน้าของเฟิงเหยียนนิ่งเฉย “เหยียนฉี เจ้าลากข้ามาที่นี่เพื่อปีนหลังคาของบ้านคนอื่นหรือ”แววตาของเฟิงเหยียนเย็นชา บุคคลิกของเขาประกายอารมณ์ที่ปฏิเสธผู้อื่นเข้าใกล้ชิดอย่างหนักแน่น "อีกอย่าง นางไม่ใช่คู่หมั้นของข้า"“เชอะ อย่าเย็นชาขนาดนี้สิ” ดวงตากลมโตของเหยียนฉีหรี่ลง “จั๋วจิ่วเพิ่งพูดไปเมื่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 3

    แววตาของจั๋วซือหรานเต็มไปด้วยความสับสน มีพลังที่มองไม่เห็นกำลังล่อลวงหัวใจของนาง เพื่อให้นางทำตามคำพูดของฉินตวนหยางนางพยายามทรงตัวไว้และอดความเจ็บปวดไว้ไม่แปลกเลย ชะตากรรมอันเดิมของเจ้าของร่างคนนี้ราวกับคนตาบอด นางรักคนไร้ความสามารถอย่างฉินตวนหยางขนาดนี้ แท้จริงแล้ว นางถูกอาคมหนอนพิษกู่ควบคุมสติไว้พิษแปลก ๆ ดังกล่าวแปลกอย่างมากจนทำให้เจ้าของร่างเดิมโดนอาคมหนอนพิษกู่โดยไม่รู้ตัว แม้ตายไปก็ไม่ทราบว่าตัวเองโดนหนอนพิษกู่ หากจั๋วซือหรานไม่ได้เดินทางข้ามเวลามา ร่างเดิมคงใช้ชีวิตอันน่าสงเวชอย่างชะตากรรมอันเดิมที่กำหนดไว้แต่ในเมื่อจั๋วซือหรานมาแล้ว นางจะไม่มีวันฉินตวนหยางสมหวังฉินตวนหยางเห็นนางไม่ตอบ จึงเสกเป่าอีกที "เสี่ยวจิ่ว เจ้าเชื่อข้าไหมขอรับ"จั๋วซือหรานมองไปที่ฉินตวนหยาง นางค่อย ๆ อ้าริมฝีปากอันสีแดงให้กว้างขึ้น“เจ้าฝันไปเสียเถิด”เสียง 'คลิก'ดังขึ้น“อา”ขาของฉินตวนหยางถูกคนหัก และเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเขาตกใจด้วยความเจ็บปวดทรมาน ผู้นั้นได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า ตราบใดเสน่ห์หนอนพิษกู่นี้ยังคงอยู่ จั๋วซือหรานก็สามารถเชื่อฟังเขาไปตลอดชีวิต ทำไมหนอนพิษกู่จึงใช้งานไม่ไ

Pinakabagong kabanata

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1291

    ‘จั๋วจิ่วปกป้องชิ่งหมิงฝากด้วยนะ'จั๋วซือหรานมองอักษรพวกนี้ ก็อดถอนใจเงียบๆ ออกมาไม่ได้ชิ่งหมิงยืนอยู่ข้างๆ เนื้อหาอักษรไม่กี่ตัวนั้น เขาเองก็เห็นมันอย่างชัดเจนบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา สีหน้ายังคงปั้นยากอยู่ไม่มีน้ำตาใดๆ แต่ดวงตากลับแดงก่ำ"..." จั๋วซือหรานเม้มปาก มองชิ่งหมิง เรียกขึ้นมาเสียงทุ้มต่ำ "ชิ่งหมิง..."แต่ชิ่งหมิงไม่ใช่เด็กหนุ่มที่พูดจาตะกุกตะกักแบบแต่ก่อนแล้ว จั๋วซือหรานรักษาอาการป่วยเรื้อรังของเขาจนหายดีแล้วเขาในตอนนี้ เป็นชายหนุ่มที่รับผิดชอบเรื่องต่างๆ ได้แล้วดังนั้นตอนนี้ เขาไม่รอให้จั๋วซือหรานได้ปลอบหรือเกลี้ยกล่อม เอ่ยขึ้นมาก่อนว่า "ดู่ท่าป๋อยวนจะถูกพวกเขาพาตัวไปแล้ว พวกเรามาเสียเวลาอยู่ที่นี่ก็ไม่มีความหมายอะไร"จวงชิ่งหมิงเอียงตามองไปทางจั๋วซือหราน "ไปเถอะ ไม่งั้นอีกเดี๋ยว..." เขามองไปทางเส้นขอบฟ้า "...ฟ้าจะสางแล้ว"เขาเข้าใจสถานการณ์ของเฟิงเหยียนอย่างชัดเจนจั๋วซือหรานมองสีหน้าของเขาอย่างละเอียด จากนั้นก็พยักหน้าเบาๆ "ได้ เช่นนั้นไปกันก่อนเถอะ กลับไปแล้วค่อยหารือกัน"หลังจากชิ่งหมิงเดินออกไปสองสามก้าว ก็หันกลับไปมองยังจุดก่อนหน้านี้ ร่องรอยหลุมบ่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1290

    ริมฝีปากจวงชิ่งหมิงเม้มแน่น เขายืนยันได้แล้ว ว่าป๋อยวนออกไปพร้อมอาการบาดเจ็บ ถูกพวกเขาทำร้าย กระทั่งบาดเจ็บจนสูญเสียความสามารถการเคลื่อนไหวด้วย...จั๋วซือหรานลูบผ้าชิ้นนี้อีก เหมือนสัมผัสได้ถึงความผิดปกติจางๆ นางขมวดคิ้ว"เดี๋ยวนะ..." จั๋วซือหรานขมวดคิ้วเอ่ยขึ้นชิ่งหมิงงงงันไป "มีอะไรหรือ?""เหมือนไม่ใช่แค่รอยเลือดเท่านั้น" จั๋วซือหรานพูดพลางหยิบผ้าผืนนั้นวางไปที่แสงไฟของคบเพลิงแล้วดูอย่างละเอียดถ้าหากเป็นแค่รอยเลือด รอยเลือดมันจะไม่..ละเอียดแบบนี้รอยเลือดหลังมนุษย์บาดเจ็บ ปกติจะเป็นก้อนใหญ่ๆ แต่รอยเลือดที่ละเอียดแบบนี้ กลับดูคล้าย...เขียนอักษร?พอเห็นจั๋วซือหรานมองรอยเลือดนี้อย่างละเอียด เฟิงเหยียนที่อยู่ข้างๆ ก็ถามขึ้นเสียงต่ำ "มีตัวอักษรอยู่หรือ?"จั๋วซือหรานพยักหน้าเงียบๆ "แต่มองไม่ค่อยชัด นี่เป็นชุดสีดำ..."จะหาอักษรเลือดบนเสื้อสีดำ ภายใต้สภาพที่แสงสว่างแรงมากบางทีอาจยังพอทดลองดูได้ตอนนี้ในความมืดที่ไม่มีแสงไฟ นอกจากแสงของคบเพลิงแล้ว ก็มีแค่แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาเท่านั้นหากคิดจะมองเห็นตัวอักษรเลือดบนเสื้อผ้าสีดำ ถือเป็นเรื่องที่ยากมากแต่ไม่รู้เพราะอะไร จั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1289

    ตาของจั๋วซือหรานก็แหงนขึ้นฉับพลันเช่นกัน มองไปทางเฟิงเหยียนเพราะถ้าหากจั๋วซือหรานจำไม่ผิด ตอนนั้นที่เฟิงเหยียนกับฉุนจวินถูกลอบทำร้าย เฟิงเหยียนนำพลังวิญญาณที่นางเอาไว้ให้ใช้ปกป้องแสงแดดรุกล้ำบนตัวเขา ไปใช้ปกป้องชีวิตของฉุนจวินทั้งหมดส่วนตัวเขาก็ถูกคนพวกนั้นพาไป ตอนนั้นคนเหล่านั้น...ก็เป็นกลุ่มสิบคนเห็นได้ว่า นับจากตอนนั้น ตระกูลเฟิงเป็นแค่ชนวนเท่านั้น ตัวสำคัญอยู่ที่สภาผู้อาวุโสมาตลอดริมฝีปากชิ่งหมิงสั่นระริกเบาๆ "ดังนั้นก็คือ...คนของสภาผู้อาวุโสลงมือ พาตัวป๋อยวนไป"เขากระทั่งไม่ใช้ประโยคคำถาม น้ำเสียงหนักแน่นมั่นใจมากสำหรับตัวตนฐานะของเฟิงเหยียน ชิ่งหมิงอันที่จริงคาดเดาไว้แล้ว ถ้าหากเป็นเขาในอดีตที่ยังไม่รู้เรื่องราว คงเดาไม่ออกแน่นอนแต่เขาตอนนี้ ไม่ใช่เด็กน้อยที่ไม่รู้อะไรเหมือนเมื่อตอนนั้นแล้ว ดังนั้นจึงเข้าใจได้ปรุโปร่งมากขึ้นต่อให้ไม่ได้พูดออกมาชัดเจน ก็มีการคาดเดาไว้บ้างแล้วต่อฐานะของเฟิงเหยียนเช่นนั้นความน่าเชื่อถือของคำพูดเฟิงเหยียนจึงไม่ต้องสงสัยเลยจั๋วซือหรานเดิมทีไม่รู้สึกว่าชิ่งหมิงจะไปอยู่แล้ว ตอนนี้จึงยิ่งไม่ต้องเกลี้ยกล่อมอะไรเดิมทียังคิดว่าจะรอให้ฟ้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1288

    จั๋วซือหรานพยักหน้าเบาๆ ไม่พูดอะไร แค่หันหน้าไปบอกคำหนึ่งกับชิ่งหมิงว่า "รอข้าครู่หนึ่ง ข้าขอทำความเข้าใจก่อนว่าเป็นสถานการณ์แบบไหน่"เพราะตอนแรกข่าวที่ตระกูลซางเผยออกมา พวกเขาล้วนเข้าใจว่าจั๋วซือหรานมีความสามารถของนักภาษาสัตว์ ดังนั้นให้รอนางเข้าไปพูดคุยกับอสูรกลืนแมลงนั่นก่อนในมิติ อสูรกลืนแมลงตัวนั้นหายใจรวยริน นอนอยู่ในมุมหนึ่งที่ห่างไกลที่สุดสัตว์อสูรตัวอื่นๆ ก็ล้วนเว้นระยะห่างจากมันหลังจากจั๋วซือหรานเข้ามาในมิติ ก็สาดน้ำของน้ำพุวิเศษใส่มันทันทีสัตว์อสูรที่แต่เดิมดูร้ายกาจมาก อาจจะเพราะมันบาดเจ็บสาหัส บวกกับหลังจากสัตว์ประหลาดเข้ามาในมิติน้ำพุวิเศษ รูปร่างของมันจะปรับตัวไปด้วยดังนั้นมันตอนนี้จึงดุแล้ว รูปร่างไม่ได้ใหญ่โตเหมือนตอนอยู่ด้านนอกแบบนั้นในความรู้สึกก็ไม่ได้ดูชั่วร้ายแบบนั้นแล้ว สภาพหายใจรวยริน ก็ดูน่าเวทนาอยู่เหมือนกันพอเห็นจั๋วซือหรานเดินเข้าไป หนังตาของมันก็เลิกขึ้น ดูน่าสงสารมากมือของจั๋วซือหรานกดอยู่บนตัวมัน บาดแผลที่ถูกน้ำพุวิเศษสาดไปก่อนหน้า หลังจากสัมผัสกับพลังวิญญาณของจั๋วซือหราน ก็ยิ่งสมานตัวกันไวขึ้นในดวงตาครึ่งเปิดครึ่งปิดของมัน ความอ่อนแอใน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1287

    จวงชิ่งหมิงมองไล่ไปตามสายตาจั๋วซือหราน ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่เด็กน้อยสมองสับสนที่พูดจาตะกุกตะกักแบบตอนนั้นแล้วดังนั้นจากสายตานี้ของจั๋วซือหราน ในสมองเขาก็มีปฏิกิริยาต่อความหมายของนางอย่างรวดเร็ว"เจ้าจะบอกว่า..." ดวงตาของจวงชิ่งหมิงที่เดิมทีดูหม่นแสงสิ้นหวัง ก็เปล่งประกายขึ้นมาเล็กน้อย จ้องมองจั๋วซือหรานนิ่ง ความหวังเหล่านั้น ราวกับเป็นแสงเรืองรองสุดท้ายในความมืดมิดจั๋วซือหรานประกบสองมือเข้าด้วยกัน ถูๆ ฝ่ามือ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าลองดูหน่อย ช่วงนี้สภาพร่างกายยังไม่ค่อยดี เจ้ายักษ์นี่ก่อนหน้าก็ไม่ค่อยลงรอยกับข้าด้วย บางที...ข้าคงต้องลุยเต็มที่หน่อย"จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้เคยปะทะกับอสูรกลืนแมลงตัวนี้แล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงไม่กล้าพูดโอ้อวด หนึ่งเพราะเคยสู้กันมาแล้ว สัตว์ประหลาดบางตัวก็หยิ่งทะนงมาก ยอมตายมากกว่ายอมจำนนยิ่งเป็นสัตว์ประหลาดที่พลังแข็งแกร่งมากเท่าไร ก็ยิ่งวิวัฒนาการสติปัญญาได้มากขึ้นเท่านั้น ในด้านนี้พวกมันก็ยิ่งหยิ่งผยองขึ้นไปอีก ไม่แน่อาจจะไม่ยอมศิโรราบต่อจั๋วซือหรานก็ได้สองคือเพราะ ชิ่งหมิงตอนนี้คาดหวังมากสำหรับความคาดหวังที่มากเกินไปของคนอื่น กระทั่งการให้ความหวัง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1286

    "นี่คือ..." จั๋วซือหรานมองร่องรอยบนพื้นบนมีหลุมอยู่หลายหลุม ยิ่งไปกว่านั้นยังมีรอยเป็นทางยาวอีกหลายรอยดูเหมือนสถานการณ์จะวุ่นวายสับสนน่าดูจั๋วซือหรานขมวดคิ้ว เข้าไปสำรวจที่หน้าหลุมหลายหลุม และรอยลากยาวเป็นทางเหล่านั้น นางก็ไปดูอย่างละเอียดด้วย"พวกนี้เป็นสิ่งที่สัตว์ประหลาดนั่นทำเอาไว้" จั๋วซือหรานชี้ไปยังหลุมหลายหลุมในนี้จากนั้นจึงชี้ไปยังหลุมที่ใหญ่ที่สุด "ส่วนตรงนี้เหมือนจะไม่ใช่"เพราะนางเคยต่อสู้กับสัตว์ประหลาดตัวนิ่มนี้แล้ว ดังนั้นถือว่ามีประสบการณ์อยู่ และรู้ว่าเจ้านั่นชอบขดตัวเองเป็นก้อน จากนั้นก็กลิ้งเข้ากระแทกโจมตีดังนั้นมีหลายหลุมที่ขนาดใกล้เคียงกัน เอาจริงๆ ก็คือ น่าจะขนาดพอๆ กับรูปร่างของสัตว์ประหลาดตัวนิ่มนี้แต่หลุมที่ใหญ่สุดนั่น ใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัดดังนั้นจั๋วซือหรานจึงมองออกว่าหลุมนี้ไม่ธรรมดายิ่งไปกว่านั้นในรอยยาวหลายรอยนี้ มีหลายรอยที่เป็นรอยซึ่งเกิดจากสัตว์ประหลาดกลิ้งตัวเข้าโจมตี ดังนั้นจึงค่อนข้างหนาหน่อยแต่มีอยู่รอยหนึ่งที่เล็กมาก ไม่หนาเท่าไรจั๋วซือหรานโค้งตัวลง ยื่นมือไปลูบบนรอยนี้ จากนั้นก็ยกขึ้นดม"เลือดมนุษย์" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น จาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1285

    แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีเวลามาจดจ่อกับเรื่องนี้เสียงของจวงชิ่งหมิงมีความร้อนรน "ซือหราน! ป๋อยวนเขา..."จั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ ก็เข้าใจความหมายของชิ่งหมิง เสียงดังสนั่นก่อนหน้านั้น นางเองก็ได้ยินเหมือนกันดังนั้นนางจึงบอกกับเซี่ยอวิ๋นซีว่า "ท่านแม่ เอาไว้ค่อยคุยกัน ข้าต้องไปดูหน่อย"เพราะสถานการณ์ตรงหน้านี้ จั๋วซือหรานไม่ต้องถามก็รู้ ชิ่งหมิงกับเวินป๋อยวน จะต้องติดตามแม่ของนางมาเพราะเรื่องของนางแน่...กระทั่งพูดได้ว่าคุ้มกันมาส่งแม่ของนางด้วยและเวินป๋อยวนไม่ได้เข้ามาพร้อมพวกเขา คงจะเพราะสัตว์ประหลาดตัวนิ่มนั่นแน่ๆ...นางตัดสินใจเหมือนที่นางตัดสินใจตอนนั้นจั๋วซือหรานถึงแม้จะยังไม่ค่อยเข้าใจความสามารถแท้จริงของเวินป๋อยวนนัก แต่ก็เข้าใจเป็นอย่างดี ว่าเวินป๋อยวนมาจากสำนักตันติ่ง เป็นนักกลั่นยาที่เก่งกาจคนหนึ่งในด้านวิชาแพทย์เองก็มีพรสวรรค์อยู่ วิชาแพทย์ กลั่นยา วิชาพิษ น่าจะไม่เลวทั้งหมดแต่ก็พอดีเลย เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนิ่มนั่น ข่มความสามารถเหล่านี้เอาไว้ทั้งหมดเซี่ยอวิ๋นซีไม่มีความเห็นอะไรกับเรื่องนี้ ต่อให้กังวลลูกสาวแค่ไหน นางก็ยังเข้าใจสถานการณ์ดี"ได้ งั้นเจ้าก็รีบกลับมาหน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1284

    จั๋วเฮ่ออิงพยักหน้าเห็นด้วย "ใช่เลย ข้าเองก็ไม่ใช่คนอ่อนแอที่ไม่มีเรี่ยวแรงด้วย เส้นทางหลังจากนี้ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร"จวงชิ่งหมิงหลังจากได้ยินคำนี้ ก็พยักหน้าให้เบาๆ "ได้ เช่นนั้นข้าจะรีบส่งพวกท่านออกไป แล้วค่อยกลับไปช่วยเขา"เขายิ้มๆ แม้ในสายตาจะเป็นไปด้วยความกังวล แต่กลับยังยิ้มพูดมาว่า "ให้ป๋อยวนยืนหยัดสักหน่อย น่าจะพอไหวอยู่"จวงชิ่งหมิงเพิ่มความเร็ว ส่งรถกับม้าเข้าไปยังส่วนลึกของหุบเขา"เอาล่ะ ถึงที่นี่น่าจะใกล้เคียงแล้ว" จั๋วเฮ่ออิงเอ่ยขึ้น "ข้าจำที่นี่ได้ ที่นี่อยู่ใกล้หุบเขาหมื่นพิษแล้ว พวกเราไปต่อกันเองได้"จวงชิ่งหมิงพอได้ยินคำนี้ วางใจลงมาได้หน่อย พยักหน้าให้ "ได้ ถ้างั้นข้ากลับไปหาป๋อ..."คำว่า 'ยวน' ยังไม่ทันจะพูดออกมา ก็ได้ยินเสียงตูมดังสนั่น!เสียงนั้นดังมาก ทำให้คนเมินไปไม่ได้เลย!ดวงตาจวงชิ่งหมิงเองก็ถลึงโตขึ้นด้วย น่าจะเพราะเสียงนั้นดังเอามากๆสมองของเขาเหมือนว่างเปล่าไปในพริบตานี่มัน...เสียงอะไรกัน?ความกระวนกระวายที่ไม่อาจพรรณนาได้ ราวกับเป็นโรคร้ายที่ฝังอยู่ในกระดูกเซี่ยอวิ๋นซีเองก็ถูกเสียงนี้ทำให้ตกใจด้วย นางหันไปมองจั๋วเฮ่ออิง สายตานั้นราวกับสอบถาม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1283

    จากการประสานฝ่ามือกันของจวงชิ่งหมิง แม้จะไม่แจ่มชัดนัก แต่เนื่องจากหมอกในหุบเขาหมื่นพิษนี้หนามาก ดังนั้นจึงทำให้เงาที่ปรากฏขึ้นกลางอากาศยิ่งแจ่มชัดขึ้น!นั่นเป็นกระถางสามขาโบราณหนาหนักใบหนึ่งฝากระถางสามขาปิดลงมาตามฝ่ามือจวงชิ่งหมิงที่ประกบเข้าหากันอสูรกลืนแมลงตัวนั้นถูกขังไว้ด้านในกระถางสามขาที่ดูเหมือนจริงเหมือนไม่จริง!พอเห็นฉากนี้ เวินป๋อยวนก็ขมวดคิ้วเอ่ยเสียงต่ำขึ้นมาว่า "เหลวไหล!"มีความหมายเชิงตำหนิอยู่ แต่ที่มากยิ่งกว่าคือความเป็นห่วงชิ่งหมิงเป็นวิญญาณวัตถุแต่กำเนิด ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นกระถางสามขาด้วย...ดังนั้นในด้านหลอมวัตถุ พรสวรรค์จึงค่อนข้างสูง แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ การนำสิ่งมีชีวิตเข้าไปอยู่ในกระถางสามขาแบบนี้ ยังถือว่าเป็นเรื่องยากและอันตรายมากเพราะการหลอมสกัดสิ่งมีชีวิต พูดได้ว่าเป็นการฝืนชะตาฟ้าดังนั้นต่อให้พวกคนจากพรมแดนใต้จะหลอมสกัดหุ่นเชิดความมืด แต่อย่างน้อยก็ยังทำให้สิ่งมีชีวิตตายเสียก่อน จากนั้นค่อยดำเนินการหลอมสกัดดังนั้นวิธีการของชิ่งหมิงตอนนี้ เวินป๋อยวนจะไม่กังวลได้อย่างไร!เขาขมวดคิ้วแน่น พลิกฝ่ามือ ดาบยาวด้ามหนึ่งก็ปรากฏขึ้นฉับพลันในมือวิ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status