แชร์

บทที่ 103

ผู้เขียน: กานเฟย
“ความจริงกระจ่างแล้ว ข้าขอประกาศว่าเยวี่ยเยวี่ยคือบุตรชายของอ๋องอี้เซียวหลินเทียน! เรื่องนี้ให้มันจบลงที่นี่และวันข้างหน้าจะไม่อนุญาตให้ผู้ใดเอ่ยถึงเรื่องลูกนอกสมรสอีก!”

จักรพรรดิอู่อันกวาดสายตามองทั่วลานพลางป่าวประกาศอย่างไร้ทางเลี่ยง

คราวนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะเล่นงานหลิงอวี๋เช่นไรแล้ว ไร้ซึ่งข้ออ้างจะประหาร!

มีเพียงความยินดีปรีดาเดียวเท่านั้นคือ เด็กคนนี้มีสายเลือดของราชวงศ์โดยแท้จริง ช่วยล้างมลทินความอัปยศอดสูที่ราชวงศ์ต้องประสบมานับหลายปีลง!

“หลิงอวี๋ขอขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงยืนยันฐานะของเยวี่ยเยวี่ย! ฝ่าบาท หลิงอวี๋ยังมีเรื่องจะขอกราบทูลอีกเพคะ!” หลิงอวี๋คำนับพลางกล่าวเคร่งขรึม

จักรพรรดิอู่อันทอดมองท่านอดีตเสนาบดีที่ยังคงคุกเข่าอยู่พลางนึกถึงความปรารถนาประหารแม่ลูกหลิงอวี๋อันแรงกล้าเมื่อครู่…

หลิงอวี๋ช่างหัวมัน! จะฆ่าหรือไม่ไม่สำคัญ!

แต่เด็กมีสายเลือดราชวงศ์และถือเป็นหลานชายตน!

ท่านอดีตเสนาบดีแสดงท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนอีกครั้ง สิ่งนี้ทำให้ความหลงใหลเกียรติศักดิ์ศรีของจักรพรรดิอู่อันพึงพอใจยิ่งยวด!

ถือว่าเห็นแก่เด็ก และให้หน้าหลิงอวี๋เล็กน้อย!

จักรพรรดิอู่อันผงกศีรษะแสดงความเคาร
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 104

    จักรพรรดิอู่อันตกตะลึงต่อฉากนี้จนพูดอะไรไม่ออก นี่เป็นความบันเทิงที่ไม่เคยพบในวังหลวงมาก่อน!เมื่อชายาผิงหยางคุกเข่าลง เขาถึงได้สติคืนพลางมองค้อนไปยังหลิงอวี๋อย่างไม่พอใจ กล่าวตำหนิว่า “หลิงอวี๋ ขอประทานอภัยต่ออ๋องผิงหยางเสีย!”หลิงอวี๋ตอบอย่างหัวรั้น “ฝ่าบาท หลิงอวี๋มิใช่กล่าวสิ่งใดผิด! หลิงอวี๋กล้าเอาศีรษะเป็นประกันเลยเพคะ! ว่าท่านอ๋องผิงหยางประสบภาวะมีบุตรยาก!”“หมอหลวงก็อยู่ที่นี่ โปรดฝ่าบาทอนุญาตให้เขาวินิจฉัยท่านอ๋องผิงหยางเถิด! หากยืนยันได้ว่า หลิงอวี๋ใส่ไคล้ หลิงอวี๋ไม่เพียงจะโขกหัวแสดงความขออภัยเท่านั้น แต่ยังจะให้ศีรษะที่อยู่บนคอนี้ถวายพวกเขาด้วยเพคะ!”เมื่อวาจานี้ได้เผยออกมา ทุกคนต่างเงียบสนิทไม่มีแม้แต่เสียงนกเสียงกาหลิงอวี๋กระทั่งเอาหัวตัวเองมาเดิมพันเช่นนี้ ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?ท่านอดีตเสนาบดีเดิมทีคิดไกล่เกลี่ยยุติขัดแย้งให้หลิงอวี๋ ทว่าวาจาห้ามปรามยังมิทันเอ่ย หลิงอวี๋ก็โพล่งออกมาซะแล้วเขานึกถึงความคับแค้นระหว่างตนกับท่านอ๋องอี้ แล้วก็นึกถึงฉากสองแม่ลูกหลิงอวี๋เมื่อครู่เกือบจะถูกพระชายาผิงหยางฆ่าตาย เขาก็ส่ายหัวสักพักไม่คิดเตือนใด ๆ แล้ว“ฝ่าบาท พระชายาผิง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 105

    เมื่อหลิงอวี๋เห็นสถานการณ์ก็แทบอ้าปากตาค้าง ทว่าท้ายที่สุดยั้งกิริยาไว้ได้!คำก็ชินอ๋อง(1) สองคำก็อ๋องเพียงอาศัยสายสัมพันธ์ญาติพี่น้องกล่าวอ้างว่าการตรวจสายเลือดราชวงศ์ไม่ได้แม่นยำเสมอไป แต่อย่างไรเสียชายาผิงหยางควรถูกหย่าร้างก็เพียงพอแล้ว!นางยังไม่ได้โหดเหี้ยมถึงขั้นจะให้ชายาผิงหยางอยู่ในสภาพจิ้นจูหลงแน่นอน!สามารถไว้ชีวิตคนได้ก็ไว้ไปเถอะ!ครั้นทุกคนเห็นสถานการณ์ต่างปิดหน้าละอายแทนตระกูลอ๋องผิงหยางไม่เปรียบเทียบก็ไม่เจ็บปวด!“ข้าก็บอกแล้วว่าบุตรชายนางเป็นลูกนอกสมรส! พวกเจ้าไม่เห็นหรือ? อธิราชน้อยผู้นั้นมีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนท่านอ๋องผิงหยางสักนิด!”“ใช่แล้ว เจ้าไม่เห็นรึ บุตรชายของท่านอ๋องอี้ผู้นั้นมีมารยาท สุภาพและวางตัวดี! ถูกกรีดมือก็ไม่งอแงเลย! ”“ไฉนเลยจะเหมือนลูกนอกสมรสผู้นี้ ครั้นถูกกรีดมือก็ด่าคน… แถมยังด่าหมอหลวงเป็นทาสด้วย! ไม่เข้าใจเรื่องมรรยาทเลยสักนิดเดียว!”“เมื่อกี้พวกเจ้าไม่เห็นมารยาทบนโต๊ะของเขาหรือ? ยัดทุกสิ่งอย่างเข้าปาก! ราวกับผีหิวโหยกลับชาติมาเกิดก็ไม่ปาน!”“ลูกนอกสมรสก็คือลูกนอกสมรสนั่นแหละ! ไฉนเลยจะเทียบเคียงสายเลือดแห่งราชวงศ์ได้!”หลิงอวี๋ได้ยิน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 106

    “ใช่ พระชายาอ๋องอี้ พวกเราไม่ได้มีเงินแบบพระชายา แต่พ่อของข้าก็ถวายหยกแกะสลักให้ไทเฮาหนึ่งชิ้น มูลค่าห้าหมื่นตำลึงเงิน!”เพื่อที่จะขัดขวางหลิงอวี๋ เจิงจื่ออวี้เองก็ไม่ละความพยายามและพูดอย่างภาคภูมิใจ“เงินที่พระชายาซื้อแจกันดินเผาเคลือบสีนั่น คาดว่าจะซื้อไม่ได้แม้แต่กล่องหยกแกะสลักของพ่อข้าเลยนะ!”หลิงอวี๋ยิ้มไม่พูดอะไร ห้าหมื่น? เจิงจื่ออวี้จะกล้าพูดมากกว่านี้หรือไม่นะ?เจ้ากรมผู้หนึ่ง มีเงินเดือนในหนึ่งปีแค่เท่าไหร่เอง?นางยิ่งโอ้อวด เชื่อไหมว่าเดี๋ยวก็คล้ายกับที่พวกลูกสาวไร้สมองที่อวดรถหรูลงบนโซเชี่ยลในสมัยปัจจุบัน จนทำให้พ่อของนางต้องเข้าคุกเหล่าสตรีคนอื่นที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ไม่ได้นึกถึงขั้นนั้นเลย ต่างก็หัวเราะเยาะเย้ยของกำนัลที่ถวายไปกระทั่งมูลค่ากล่องของคนอื่นยังเทียบไม่ได้เลย พระชายาอ๋องอี้นี่ ช่างน่าสงสารเสียจริง!“ท่านอ๋องอี้ถวายฉากกั้นลมแกะสลักหนึ่งคู่ ส่วนพระชายาอ๋องอี้ถวายแจกันดินเผาเคลือบสีหนึ่งชิ้น!”“แจกันดินเผาเคลือบสีเนี่ยนะ! พระชายาอ๋องอี้ถวายสิ่งนั้นจริงหรือ?”เมื่อครู่ตอนที่เจ้าหน้าที่ลงทะเบียน ก็มีคนรับใช้จำนวนไม่น้อยที่เห็นแล้วรายงานต่อเจ้านายของตนเอง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 107

    ท่านลุงไม่รอให้จักรพรรดิอู่อันได้ซักไซ้เอาความใด ๆ ก็ชิงเอ่ยขึ้นมา “พระชายาอ๋องอี้ แม้ว่าเจ้าจะติดหนี้เงินกู้อยู่ไม่น้อย ไม่มีเงินที่จะไปซื้อของกำนัลราคาแพง ๆ แต่ก็ไม่ควรถวายแจกันดินเผาเคลือบสีนี่มาแค่พอเป็นพิธีเช่นนี้นะ!”“สิ่งนั้นมันราคาเท่าไหร่กันเอง! ยังจะเป็นของที่แตกอีก!”“ได้ยินว่าเจ้าก็ไปกู้ยืมเงินมาเป็นหมื่นเพื่อที่จะซื้อดาบมีชื่อเสียงให้กับอ๋องอี้นี่! เช่นนั้นเหตุใดจึงไม่กู้อีกสักหน่อย มาซื้อของกำนัลเช่นนั้นให้ไทเฮาเล่า?”“หรือว่าในสายตาของเจ้า ไทเฮายังไม่ได้มีคุณค่าเทียบเทียมอ๋องอี้!”ทันทีที่ประโยคนี้ออกมา สีหน้าของจักรพรรดิอู่อันก็แย่อีกกว่าเดิม สีหน้าของไทเฮาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแล้ว เรื่องสมบัติเงินทองนางไม่ได้สนใจเลยจะให้มากให้น้อย แค่ให้ด้วยใจก็พอแล้ว!เพื่อที่จะให้เกียรติหลิงอวี๋ นางยังเขียนเทียบเชิญให้หลิงอวี๋ด้วยตัวของนางเอง แต่หลิงอวี๋กลับละเลยตนเองเช่นนี้หรือ?เดิมทีทุกคนจะผสมโรงคำพูดของท่านลุงไปเพื่อจะดูถูกหลิงอวี๋ แต่นึกถึงเมื่อครู่ที่เอ็ดตะโรกันจนเกือบถูกองค์จักรพรรดิลงโทษพอนึกถึงจุดจบของพระชายาผิงหยางอีก คนที่คิดจะช่วยพูดสนับสนุนในครั้งนี้ล้วนไม่กล้าเอ่ยอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 108

    เส้าเจิ้งซานอึ้งไปครู่หนึ่ง พอตั้งสติได้ก็โวยขึ้นมาอย่างหวั่นวิตก “หลิงอวี๋ เจ้าไม่เข้าใจอะไรก็อย่าเที่ยวพูดจาเหลวไหล! นี่จะไม่ใช่งานแกะสลักของปรมาจารย์จูจู้ได้เยี่ยงไร?”“เจ้าไม่เคยเห็นงานฝีมือของปรมาจารย์จูจู้เสียด้วยซ้ำ เหตุใดจึงกล้าพูดอย่างไม่ละอายว่าเป็นของปลอม? อีกอย่าง ทั้งกู่ฉิน หมากล้อม พู่กันจีนและภาพวาดจีนเจ้าเองก็ไม่รู้สักอย่าง แล้วเจ้าจะเข้าใจงานศิลปะเช่นนี้หรือ?”เหล่าขุนนางและฮูหยินด้านล่างที่ชื่นชอบงานแกะสลักต่างพากันพยักหน้าหลิงอวี๋นั้นโง่เขลาเบาปัญญา ชื่อเสียงของนางที่ไม่มีความสามารถทั้งกู่ฉิน หมากล้อม พู่กันจีนและภาพวาดจีนนั้นแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวง นางจะมาเข้าใจงานศิลปะที่งดงามชั้นสูงเช่นนี้ได้เยี่ยงไร!“หลิงอวี๋ เจ้าไม่เข้าใจก็อย่างแสร้งทำเป็นเข้าใจเลย! มาแอบอ้างทำเป็นผู้เชี่ยวชาญ มันจะไม่ให้คนอื่นหัวเราะเยาะหรือไง!”“เจ้าแยกแยะได้เพียงแค่เสื้อผ้าดีหรือไม่น่ะสิ! เพราะว่าสามารถทะเลาะกับคนอื่นเพื่อเสื้อผ้าเครื่องประดับได้!”“ใช่ คนเช่นเจ้ามาเชยชมผลงานของปรมาจารย์จูจู้ ก็จะเป็นการดูหมิ่นปรมาจารย์จูจู้ รีบหุบปากไปเสียเถิด!”คนจำนวนต่างพากันดูถูกหลิงอวี๋ แ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 109

    เส้าเจิ้งซานมองอย่างสับสน พลางเอ่ยอย่างไม่พอใจ “งานทุกชิ้นของปรมาจารย์จูจู้นั้นมีรูปแบบต่างกัน ท่าทางของมือต่างกันก็เป็นเรื่องปกติมาก!”“ท่านลุงพูดเช่นนี้ผิดแล้ว!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างไม่รีบไม่ร้อน “เทพเจ้าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปรมาจารย์จูจู้ปฏิบัติต่องานทุกชิ้นของตัวเอง โดยเฉพาะการแกะสลักรูปเทพเจ้านั้น ไม่มีทางที่จะดูหมิ่นต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นแน่!”“ท่าทางนี้ มันคือการดูหมิ่นต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์! ผู้ที่แกะสลักมีจิตใจที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ หรือไม่ก็มีความสามารถแต่ไม่ได้รับการยอมรับ หรือไม่ก็ชิงชังโชคชะตาที่ไม่ยุติธรรม ถึงได้ดูหมิ่นท้าววิรุฬหกมหาราชด้วยท่าทางเช่นนี้!”หลิงอวี๋ยกนิ้วก้อยของตนเองขึ้นมา พลางเอ่ยกับทุกคน “ในใต้หล้าของพวกเราการดูหมิ่นคนผู้หนึ่ง ก็ใช้นิ้วนี้แทนใช่หรือไม่?”“ปรมาจารย์จูจู้เป็นคนเปิดเผยและตรงไปตรงมา อีกทั้งยังภูมิใจในความสามารถของตน งานของเขาไม่มีทางที่จะมีท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยามใครเช่นนี้! นี่ยังไม่ได้พูดเรื่องอื่นเลยนะ อย่างแรกเลยก็คือ การไม่เคารพผลงานของตน!”“พวกท่าาคิดดูเถิด ปรมาจารย์จูจู้เป็นอัจฉริยะแห่งยุค เขาอาจจะมีการแสดงผลงานที่ไม่เหมือนกันได้ แต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 110

    “สิ่งนี้เรียกว่าแว่นตากระจ่าง!”หลิงอวี๋รู้สึกว่าชื่อแว่นสายตามันไม่หรูหรามากพอ จึงได้เปลี่ยนชื่อนางยิ้มพลางเอ่ย “ตัวชั้นวางนี้ทำจากไม้กฤษณาฉีหนาน!”หลิงอวี๋เอ่ยคำนี้ออกไป ทุกคนก็เบิกตาโตหันมามองคนที่รู้เรื่องต่างก็รู้กัน ว่าไม้กฤษณามีหลายประเภท หากบอกว่าไม้กฤษณาทั่วไปคือไข่มุก เช่นนั้นไม้กฤษณาฉีหนานก็เป็นเหมือนเครื่องประดับราคาแพง!ไม้กฤษณาฉีหนานอย่างดีชิ้นหนึ่งสามารถขายได้ในราคานับหมื่นไปจนถึงนับแสนเลยทีเดียว!ดูเหมือนหลิงอวี๋จะไม่เห็นความปั่นป่วนที่นางก่อขึ้น นางหยิบแว่นตากระจ่างขึ้นมาและสาธิตวิธีใช้นางคล้องสร้อยไข่มุกไว้บนคอ ใส่เลนส์ไว้ที่สันจมูก สวมแล้วยิ้มพลางเอ่ย “เช่นนี้เพคะ ไทเฮาใช้สิ่งนี้จะทรงพระอักษรได้ชัดเจนมากเพคะ!"นี่คือสิ่งที่หลิงอวี๋ได้เตรียมไว้หลังจากที่ได้ยินแม่นมลี่พูดถึงในวังมีวิธีที่จะใส่ร้ายมากมาย เป็นการเลี่ยงไม่ให้มีใครมาทำอะไรกับของกำนัลของตนเอง ไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้จริง ๆ “มีของที่มหัศจรรย์เช่นนี้ด้วยหรือ?”ทันทีที่ไทเฮาเหลียงได้ยินก็ให้ความสนใจทันที นางยิ้มพลางเอ่ย “ส่งขึ้นมาให้ข้าดูหน่อย! ข้ากำลังคิดว่าข้าแก่แล้ว มองสิ่งใดก็เลือนรางไปหมด หากสาม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 111

    ขณะที่หลิงอวี๋กำลังชมการแสดงร้องรำทำเพลงอยู่นั้น ไป่ซุ่ยนางกำนัลข้างกายไทเฮาก็เข้ามาและกระซิบข้างหูนาง“พระชายาอ๋องอี้ เชิญตามข้ามาเจ้าค่ะ ไทเฮาต้องการพบพระชายาตามลำพัง!”หลิงอวี๋ตะลึงไปครู่หนึ่ง เหลือบมองขึ้นมา เห็นไทเฮาที่อยู่บนเวทีไม่ได้อยู่ที่นั่งตรงนั้นแล้วนางพยักหน้าเบา ๆ แล้วจูงหลิงเยวี่ยเดินตามไป่ซุ่ยไป“พระชายาอ๋องอี้ ไทเฮามีพระชนมายุมากแล้ว ไม่ใช่ผู้ที่จะลืมบุญคุณคน...”ไป่ซุ่ยกระซิบ “เมื่อครู่ตอนที่พระชายาจะถูกบั่นหัว ไม่ใช่ว่าพระองค์ไม่อยากช่วย… พระชายาคิดดูดี ๆ ก็จะเข้าใจความลำบากพระทัยของไทเฮาเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋รู้ว่าไป๋ซุ่ยมีเจตนาดี มาเตือนตนเองว่า อย่าพูดเหลวไหลเมื่อพบกับไทเฮา ดังนั้นจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจออกมาจากศาลาในสวน ก็จะพบกับศาลาแห่งหนึ่งเมื่อครู่ไทเฮาเหน็ดเหนื่อยมา จึงมานั่งพักอยู่ที่นี่“หลิงอวี๋คารวะไทเฮาเพคะ!”หลิงอวี๋ทำมือแสดงให้หลิงเยวี่ยอยู่ที่เดิม แล้วตนก็เดินไปที่บันไดและโค้งคำนับไทเฮาเหลียงถอดมงกุฎหงส์ออกแล้ว เผยให้เห็นผมสีขาวของนาง มองแล้วไม่ได้สง่างามเท่าบนเวทีก่อนหน้านี้ แต่เสื้อคลุมหงส์อันหรูหราบนร่างนั้น ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและต

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2246

    หากหยางหงหนิงบอกทันทีว่าจะมิชอบเย่หรงแล้ว หลงเพ่ยเพ่ยย่อมมิเชื่อแต่ตอนนี้หยางหงหนิงบอกว่าต้องการเวลา หลงเพ่ยเพ่ยจึงเชื่อสนิทใจนางจัดเส้นผมที่กระเซิงของหยางหงหนิงให้อย่างสงสารพลางปลอบใจว่า “ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปเถอะ เจ้าเป็นคนฉลาด ข้าเชื่อว่าเจ้าต้องผ่านพ้นไปได้แน่นอน!”“อืม!”หยางหงหนิงพยักหน้า และเงยหน้าขึ้นยิ้มให้หลงเพ่ยเพ่ย “เรื่องที่บอกว่าจะไปเที่ยวสระเก้ามังกรครั้งก่อน เจ้าอย่าลืมนะ รอให้แผลเย่หรงรักษาหายดี ข้าก็น่าจะปรับสภาพจิตใจได้แล้ว!”“ถึงเวลานั้น เจ้าจะได้เห็นด้านใหม่ของข้า!”หลงเพ่ยเพ่ยพยักหน้า “รอให้แผลเย่หรงรักษาหายดี ข้าจะนัดเจ้าออกไปเที่ยวด้วยกัน!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ หลงจิ้งและเจ้าแห่งทิศใต้ต่างก็คิดจะช่วยมารดาของเย่หรงออกมา หลงเพ่ยเพ่ยรู้สึกว่าการไปสระเก้ามังกรสามารถสำรวจตำแหน่งที่ตั้งได้ จึงมิคิดจะผิดคำพูดหยางหงหนิงได้รับคำรับปากของหลงเพ่ยเพ่ยแล้วก็จากไปเพียงแต่นางมิได้ออกจากจวนตระกูลเย่เสียทีเดียว นางตรงไปยังเรือนของเย่ซวินเพื่อดำเนินการตามแผนเมื่อไปถึงเรือนของเย่ซวิน กลับมิเห็นเย่ซวินอยู่ที่นั่นหยางหงหนิงยังมิรู้เรื่องที่เย่ซวินถูกขังอยู่ในหอบรรพบุรุ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2245

    ตนเองทำเพื่อเย่หรงไปตั้งมากมาย ถึงขนาดยอมกล้ำกลืนฝืนทนเสียหน้าไปอ้อนวอนองค์หญิงหานเยวี่ยอย่างน่าสงสาร ถึงได้โอสถรักษาแผลระดับสูงนี้มาแต่เย่หรงกลับคายออกมา นี่มิใช่เพราะต้องการรักษาระยะห่างกับตนหรอกหรือ?เหตุใดเย่หรงถึงได้ดื้อด้านเช่นนี้?เขาแค่กังวลว่าหากรับยาของตนไปแล้ว จะทำให้หลงเพ่ยเพ่ยมิพอใจมิใช่หรือ?หยางหงหนิงคิดไปเองตอนนี้นางคิดเพียงอย่างเดียวว่า เย่หรงกับหลงเพ่ยเพ่ยลอบคบหากันแล้ว ดังนั้นเย่หรงถึงได้ผลักไสตนมาโดยตลอดมิฉะนั้นต่อให้ใจของเย่หรงแข็งดั่งหินผา ก็ต้องถูกความรักของนางทำให้ใจอ่อนไปแล้ว!ความโกรธของหยางหงหนิงพลุ่งขึ้นมาในบัดดลมีชั่วขณะหนึ่งที่นางแทบจะควบคุมตนเองมิได้ อยากจะฉวยโอกาสที่เย่หรงยังอ่อนแออยู่ตอนนี้ ยัดยาพิษให้เขาตาย ๆ ไปเสียแต่หยางหงหนิงก็ยังคงกดข่มความโกรธของตนไว้อย่างสุดกำลัง นางมิอาจปล่อยเย่หรงไปง่าย ๆ เช่นนี้ได้ เขาเลือกหลงเพ่ยเพ่ยใช่หรือไม่?เช่นนั้นนางก็จะให้เย่หรงกับหลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นสามีภรรยากันในปรโลก!หยางหงหนิงนึกถึงแผนการของเย่ซวิน ในแววตาฉายประกายความอำมหิต แต่ภายนอกกลับแสร้งทำเป็นน้อยเนื้อต่ำใจย่อตัวลงนางเก็บโอสถรักษาแผลระดับสูงข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2244

    เย่หมิงและเย่ซวินเป็นพี่น้องที่รักกันอย่างยิ่ง แม้ว่าเขาจะปิดบังฮูหยินเย่ไว้ตามคำสั่งของท่านผู้เฒ่าเย่ แต่เมื่อเห็นท่าทางของเย่ซวินในยามที่อาการติดยากำเริบขึ้นมานั้นเขาก็ยังทนมิได้อยู่ดี“ยาแก้ปวดมิสามารถใช้ส่งเดชได้!”หลิงอวี๋เอ่ยออกมา “หากเย่ซวินมิพึ่งความตั้งใจของตนในการเลิกยาแล้วให้ยาแก้ปวดแก่เขา เช่นนี้แม้เขาจะเลิกยาได้ แต่ก็จะติดยาแก้ปวดเช่นกัน!”เย่หมิงเองก็เข้าใจหลักการของเครื่องยาสมุนไพรเช่นกัน ไหนเลยจะมิรู้หลักการนี้แต่เขาก็ยังคงเอ่ยออกมาอย่างวิงวอน “เช่นนั้นให้เขาแค่หนึ่งหรือสองเม็ดก็พอ หากเขาทนมิได้จริง ๆ ข้าจึงจะให้เขา แต่หากเขาทนได้ ข้าก็จะมิให้เขา!”หลิงอวี๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หยิบขวดยาออกมาเทยาแก้ปวดสามเม็ดให้กับเย่หมิง“ขอบคุณนะ!”เย่หมิงรีบเก็บไปอย่างรวดเร็ว แล้วกระซิบกับหลิงอวี๋ “อย่าบอกท่านปู่กับท่านพ่อเรื่องที่ข้ามาขอยาจากเจ้านะ หากพวกเขารู้เข้าต้องดุด่าข้าจนตายแน่!”“อื้ม!”หลิงอวี๋เอ่ยกำชับเขา “เย่หมิง ท่านเองก็ต้องควบคุมให้เหมาะสม บางครั้งหากท่านเห็นใจและช่วยเหลือเขา แต่แท้จริงแล้วเป็นการทำร้ายเขาอยู่!”“ข้ารู้!”เย่หมิงพยักหน้าอย่างระมัดระ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2243

    นี่คือโชคชะตาหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยรู้สึกหนักใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากในแง่ของความได้เปรียบนั้นท่านพ่อของตนสู้เจ้าแห่งทะเลมิได้หากเจ้าแห่งทะเลควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้ จวนเจ้าแห่งทิศใต้ก็จะยิ่งมิสามารถต่อกรกับเจ้าแห่งทะเลได้เลยหรือว่าครอบครัวของตนจะต้องถูกเจ้าแห่งทะเลกำจัดจนหมดสิ้นเสียแล้ว?“อย่าเพิ่งท้อแท้ไป รอให้พี่สามของเจ้าสืบจนรู้ที่มาของขี้ผึ้งหอมเสียก่อน แล้วพวกเราจะไปทำลายแหล่งยาของพวกเขากัน การทำเช่นนี้ต่างหากจึงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะบังคับให้บุตรหลานเหล่านั้นเลิกยากันได้!”หลิงอวี๋เห็นว่าสีหน้าของหลงเพ่ยเพ่ยดูเศร้าหมอง จึงเอ่ยปลอบใจนางออกไปเถาจื่อฟังแล้วก็แอบหัวเราะอยู่ในใจ หลิงอวี๋มิสงสัยตนแม้แต่น้อย ทั้งยังคุยเรื่องลับ ๆ มากมายถึงเพียงนี้ต่อหน้านางอีกรอให้นางส่งข่าวเหล่านี้ไปให้ชายาเจ้าแห่งทะเลก่อนเถิด ชายาเจ้าแห่งทะเลจะต้องดีใจอย่างแน่นอนเถาจื่อลืมเรื่องราวในอดีตที่ฝ่าฟันมากับหลิงอวี๋ไปจนหมดสิ้นแล้ว ยามนี้ในหัวของนางถูกชายาเจ้าแห่งทะเลงปลูกฝังความทรงจำใหม่เข้าไปแล้วในความทรงจำใหม่นี้ เถาจื่อมีตัวตนใหม่นางคือบุตรีของชายาเจ้าแห่งทะเล ทั้งยังเป็นท่าน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2242

    เซียวหลินเทียนเอ่ยขึ้นมาด้วยความรู้สึก “ตอนนี้เผยอวี้ก็กังวลว่าหากหลิงหว่านแข็งแกร่งเกินไปจนมิยอมพึ่งพาใครแล้วจะยิ่งมิยอมแต่งงานกับเขา!”หลิงอวี๋มิได้ต่อต้านเซียวหลินเทียนมากถึงเพียงนั้นแล้วเมื่อนางฟังมาถึงตรงนี้ แม้ว่าจะยังจำเรื่องราวในอดีตมิได้ แต่รู้สึกได้ว่าหลิงหว่านสามารถยืนด้วยตนเองได้ หากต้องเผชิญหน้ากับตระกูลเผยก็เชิดหน้าชูตาได้เช่นกันขณะที่นางกำลังฟังเซียวหลินเทียนพูดถึงบรรดาคนที่ตนรู้จักในฉินตะวันตก ในใจของนางก็เกิดความปรารถนาขึ้นมา นางอยากจะไปพบญาติสนิทมิตรสหายเหล่านี้ที่ฉินตะวันตก“อาอวี๋ เมื่อเรื่องที่นี่จบสิ้นแล้ว เจ้ากลับฉินตะวันตกกับข้าเถิด!”เซียวหลินเทียนเอ่ยออกมาอย่างจริงใจ “ข้าพูดกับเก๋อเฟิ่วฉินไปอย่างชัดเจนแล้ว ชาตินี้จะไม่มีใครมาแทนที่ตำแหน่งของเจ้าในใจข้าได้!”“พวกเรากลับไป ไปเลี้ยงดูเยวี่ยเยวี่ยให้ดี! สิ่งที่ข้าติดค้างพวกเจ้าไว้เมื่อก่อน ข้าจะชดเชยให้ทั้งหมด!”หลิงอวี๋พยักหน้า “เมื่อช่วยแม่นมอูและแม่ของเย่หรงออกมาได้แล้ว ข้าจะกลับไปกับพวกท่าน!”หลิงอวี๋รับปากที่จะกลับไปกับเซียวหลินเทียนก็เพื่อไปพิสูจน์ความจริง ส่วนเรื่องที่ว่าจะยังเป็นสามีภรรยากับเซียวห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2241

    คำถามในชุดนี้คือสิ่งที่พวกเขาทั้งสองคนมิสามารถตอบได้ทั้งสองมองหน้ากันไปมา รู้สึกเพียงว่าแดนเทพเต็มไปด้วยวิกฤติ ความซับซ้อนในความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเหล่านี้ทุกสิ่งเป็นดังหลุมลึกหลุมหนึ่ง“พวกเราทำทั้งสองสิ่งไปพร้อมกันดีกว่า ด้านหนึ่งคือการตามหาที่อยู่ของแม่นมอูและขันทีโม่ ส่วนอีกด้านหนึ่งคือคิดหาวิธีช่วยมารดาของเย่หรง!”หลิงอวี๋เอ่ยขึ้นมาด้วยความกังวล “วันนี้เจ้าแห่งทะเลมิสามารถล้วงความลับของหยกหล้าสุขาวดีไปได้ เขาจะต้องมีแผนสำรองอยู่เป็นแน่ พวกเรามีเวลามิมากแล้ว!”เซียวหลินเทียนพยักหน้า “ตอนนี้พวกเขารู้ตัวตนของพวกเราอย่างชัดแจ้งแล้ว มหาปราชญ์เองก็คงจะมิปล่อยไปง่าย ๆ เช่นกัน หากช่วยเหลือมารดาของเย่หรงและแม่นมอูออกมาได้แล้ว พวกเราก็ไปจากเมืองหลวงแดนเทพกันก่อนเถิด!”หลิงอวี๋มองเซียวหลินเทียนแล้วอดมิได้ที่จะเอ่ยถามออกไป “เซียวเยวี่ยสบายดีหรือไม่?”ที่จวนเจ้าแห่งทะเล ชายาเจ้าแห่งทะเลก็เอ่ยถึงเซียวเยวี่ยเช่นกัน ทั้งคำพูดและน้ำเสียงล้วนใช้ชีวิตของเซียวเยวี่ยมาข่มขู่หลิงอวี่เรื่องนี้ทำให้หลิงอวี๋คิดเรื่องปัญหาของเซียวเยวี่ยอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยบอกว่า เซียวเยวี่ยถูก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2240

    ภายในห้องหลิงอวี๋เล่าเรื่องที่ตนได้ประสบที่จวนเจ้าแห่งทะเลให้เซียวหลินเทียนฟังเมื่อเล่าถึงท่านอาสุ่ยใช้วิชาดูดกลืนวิญญาณกับหลิงอวี๋เพื่อหลอกล่อให้นางบอกความลับของหยกหล้าสุขาวดี เซียวหลินเทียนก็รู้สึกกังวลขึ้นมา“สตรีผู้นั้นปลอมเป็นท่านแม่ของข้า เพียงแต่ข้าลืมหลานฮุ่ยจวนไปจึงมิได้หลงกล!”หลิงอวี๋ยิ้มแล้วเอ่ยออกมา “หลังจากนั้นข้าก็นึกถึงสิ่งที่ปรมาจารย์เย่พูดกับข้าไว้ จึงได้ลองใช้หยกหล้าสุขาวดีควบคุมนาง และนั่นคือวิธีที่ข้าหนีรอดจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้!"“เสียดายที่พลังของข้าสู้เจ้าแห่งทะเลมิได้ อีกทั้งเขาก็ยังเป็นคนที่จิตแข็งมากด้วย มิฉะนั้นข้าคงจะลองควบคุมเจ้าแห่งทะเลดู!”หลังจากเซียวหลินเทียนได้ยินเช่นนี้ก็แอบรู้สึกดีใจที่หลิงอวี๋สูญเสียความทรงจำไป มิฉะนั้นก็คงจะหลงกลไปกับแผนการร้ายของท่านอาสุ่ยไปแล้ว“เซียวหลินเทียน ก่อนหน้านี้ข้าได้ยอมรับตัวตนไปภายใต้การควบคุมของท่านอาสุ่ยแล้ว! เจ้าแห่งทะเลเองก็รู้ว่าพวกเราใกล้ชิดกัน และเขาก็รู้ตัวตนของท่านด้วย!”หลิงอวี๋เอ่ยออกไป “ท่านพักฟื้นสักสองวัน แล้วหาโอกาสออกจากเมืองหลวงแดนเทพไปโดยเร็วจะดีกว่า!”เซียวหลินเทียนมองไปที่นาง “เจ้ามิไปห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2239

    หัวใจของเก๋อเฟิ่งฉิงจมดิ่งลงนี่เป็นครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนพูดกับตนชัดเจนเช่นนี้ ้เช่นนั้นก็แสดงว่าเซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วและไม่มีทางยอมรับนาง!“พี่ใหญ่ ข้า… ข้าจะมิแย่งชิงความโปรดปรานกับพี่หญิงหลิงอวี๋ ขอเพียงได้อยู่ข้างกายท่าน จะให้ข้าเป็นนางสนมข้าก็ยินดี!”เก๋อเฟิ่งฉิงทุ่มสุดตัวแล้ว ทั้งยังเอ่ยออกไปอย่างร้อนรน“ข้าจะให้ความเคารพพี่หญิงหลิงอวี๋ จะมิทำให้ท่านลำบากใจ!”เซียวหลินเทียนส่ายหัว “เฟิ่งฉิง อาอวี๋เป็นคนที่มิยอมทนกับสิ่งที่ตนยอมรับมิได้! ข้ามิอยากให้เป็นเพราะเจ้าจึงเกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของข้ากับอาอวี๋!”“ในเวลาเดียวกัน ข้าก็มิยินดีที่จะให้เจ้าได้รับความอยุติธรรมเช่นกัน!”“เฟิ่งฉิง ข้ามองเจ้าเป็นน้องหญิงของข้า นี่คือคำพูดจากใจจริง!”“ข้าหวังว่าเจ้าจะได้พบกับบุรุษที่ดี คนที่จะปฏิบัติกับเจ้าเช่นเดียวกับที่ข้าปฏิบัติต่ออาอวี๋ คนที่จะมิยอมให้เจ้าเสียใจ และมิยอมให้เจ้าได้รับความอยุติธรรมแม้เพียงเล็กน้อย!”“เฟิ่งฉิง จะต้องมีคนที่มองเห็นความดีของเจ้าแน่นอน แล้วเหตุใดเจ้าถึงต้องฝืนใจตนเองด้วยเล่า!”ใต้หล้านี้มีบุรุษเช่นนี้ด้วยหรือ?เก๋อเฟิ่งฉิงรู้สึกสิ้นหวัง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2238

    หานเหมยพูดทุกสิ่งที่ควรจะพูดออกไปจนหมดหลังจากที่นางออกไป เซียวหลินเทียนก็ครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่นานหานเหมยพูดถูก นิสัยของหลิงอวี๋เป็นคนประเภทที่ยอมหักมิยอมงอ นางไม่มีทางยอมที่ตนจะแต่งงานกับเก๋อเฟิ่งฉิงแน่ส่วนก่อนหน้านี้เขาเองก็มิได้มีแผนที่จะแต่งงานกับเก๋อเฟิ่งฉิงเช่นกันหากว่าเพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณที่เก๋อเฟิ่งฉิงที่ช่วยชีวิตไว้แล้วต้องแต่งงานกับนาง เช่นนั้นก็ดูจะเลอะเลือนมากเกินไปดังนั้นเมื่อเก๋อเฟิ่งฉิงมาดูแลเขา เซียวหลินเทียนจึงเอ่ยออกไปตรง ๆ “น้องหญิงเก๋อ ประเดี๋ยวข้าจะให้คนไปส่งเจ้ากลับไปที่บ้านตระกูลเก๋อนะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงตะลึงไปชั่วครู่ จากนั้นก็ฝืนยิ้มแล้วเอ่ยออกมา “พี่ใหญ่ เป็นเพราะข้าอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้แล้วรบกวนพวกท่านใช่หรือไม่?”“ซูจู๋เด็กมิรู้ความผู้นั้น นางไปบอกกับท่านย่าของข้าว่าข้าออกไปเที่ยวเล่นกับท่าน หากจู่ ๆ กลับไปเช่นนี้ ท่านย่าของข้าจะต้องสงสัยเป็นแน่!”เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินเรื่องนี้ก็รู้ทันทีว่าเก๋อเฟิ่งฉิงกำลังอ้าง แต่เขาก็มิอยากเปิดโปงนางเขาจึงนิ่งไปสักพักหนึ่งแล้วเอ่ยออกมา “เจ้านั่งลงสิ! ข้าอยากคุยกับเจ้าสักหน่อย!”เก๋อเฟิ่งฉิงมีลางสังหรณ์ที่มิ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status