หลายวันนี้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยรู้สึกว่าอะไรก็มิราบรื่นไปเสียทุกอย่าง นางไม่มีตระกูลอยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ ฉะนั้นสถานะย่อมด้อยกว่าคุณหนูสูงศักดิ์ในเมืองหลวงแดนเทพเหล่านี้อยู่ขั้นหนึ่งกอปรกับที่อัครเสนาบดีจ้าวบิดาของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยประคบประหงมนางราวกับไข่ในหินมาตั้งแต่เล็กด้วยชีวิตหรูหราสุขสบาย จนทำใหนางกลายเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ผู้ถือตัวทว่าบัดนี้อัครเสนาบดีจ้าวถูกเซียวหลินเทียนประหารชีวิต คนตระกูลจ้าวต่างก็แตกแยกกันไปคนละทิศละทางจ้าวหรุ่ยหรุ่ยต้องหนีมายังเมืองหลวงแดนเทพ ถึงได้รอดพ้นชะตากรรมถูกประหารทั้งครอบครัวมาได้เมื่อปราศจากการสนับสนุนจากตระกูล นางก็มิอาจหาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง ดังนั้นจึงจำต้องใช้ชีวิตอย่างขัดสนข้นแค้นก่อนหน้านี้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังเอาอกเอาใจฮูหยินผู้เฒ่าเฉียว คิดจะแต่งเข้าตระกูลเฉียวเป็นฮูหยินของเฉียวไป๋ทว่าหลงอิงศัตรูตัวฉกาจของนางก็มีความคิดเดียวกัน อีกทั้งหลงอิงยังอ่อนเยาว์และงดงามกว่า ทั้งยังเป็นคนตระกูลหลง ฮูหยินเฉียวและฮูหยินผู้เฒ่าเฉียวจึงชื่นชอบหลงอิงมากกว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคิดจะเข้าหาทางเฉียวไป๋ แต่อนิจจา เฉียวไป๋กลับทำตัวเหมือนท่อนไม้ มิสนใจการทอดไมตรีของนางเลย
“ท่านอาจารย์ หลายวันนี้หอโอสถไป๋เป่าของไป๋หลี่ไห่มิได้มารังควานหอโอสถซ่างกู่หรือเจ้าคะ?”หลิงอวี๋และสิงจั๋วช่วยเย่ซื่อฝานคัดแยกสมุนไพร พลางเอ่ยถามขึ้นมาลอย ๆ“มิได้มา ช่วงนี้เขาโดนเรื่องของตระกูลเหมียวเล่นงานเสียจนหัวหมุน ยามนี้คงไม่มีกระจิตกระใจกระมัง!”เย่ซื่อฝานยิ้มกล่าว “ประกาศเปิดโปงเรื่องหอโอสถไป๋เป่าหลอกลวงต้มตุ๋นของเถ้าแก่เหมียวเหล่านั้น ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาต้องสงบเสงี่ยมไปพักใหญ่ ได้ยินว่าสองวันนี้ยังมีคนขายสมุนไพรมิน้อยไปปิดล้อมที่หน้าประตูหอโอสถไป๋เป่าเพื่อทวงถามความยุติธรรมจากเขาด้วย!”“ต่อให้เจ้าแห่งทะเลจะส่งทหารไปรักษาการณ์ก็ทำอะไรพวกเขามิได้ เพราะคนขายสมุนไพรเหล่านี้มิได้เข้าไปปล้นชิง เพียงแค่ยืนโวยวายอยู่หน้าประตู เจ้าแห่งทะเลกลัวเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงมิอาจใช้กำลังปราบปรามพวกเขาได้!”“ลูกค้าที่มาซื้อสมุนไพรจำนวนมากถูกสถานการณ์นี้ทำให้ตกใจกลัวจนมิกล้าไปซื้อยาที่หอโอสถไป๋เป่าอีก ต่างก็มาซื้อที่ฝั่งพวกเราแทน หอโอสถซ่างกู่ช่วงนี้กิจการดีมาก โอสถชั้นดีล้วนขายออกจนของขาด!”หลิงอวี๋ฟังแล้วกลับมินึกยินดี กล่าวด้วยความกังวล “ท่านอาจารย์ ท่านควรจะเตือนท่านผู้นำตระกูลเย่
เมื่อเย่หรงได้ฟังก็ขมวดคิ้ว “ที่เจ้าพูดอาจจะเป็นเรื่องจริง!”“ผู้ที่ไปสำนักซิงหลัวเหล่านั้น นอกเหนือจากบุตรหลานตระกูลสูงศักดิ์แล้วยังมีผู้ฝึกตนมากมายจากทั่วทุกสารทิศ หากถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยฆ่าตาย คาดว่าคงไม่มีใครพบว่าพวกเขาหายตัวไป!”หลงเพ่ยเพ่ยเพียงรู้สึกขนลุกชัน เพื่อยกระดับวรยุทธ์ของตนแล้วถึงกับสังหารผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจเช่นนี้ เช่นนั้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็มิต่างอะไรกับจอมมารแล้วมิใช่หรือ?หากปล่อยให้นางยกระดับวรยุทธ์เช่นนี้ต่อไป จะต้องมีคนตายอีกเท่าใดจึงจะทำให้นางสำเร็จได้?“ข้ากลับไปแล้วจะบอกท่านพ่อ ให้เขาไปแจ้งแม่ทัพเติ้งผู้รับผิดชอบความสงบเรียบร้อยของเมืองหลวงแดนเทพ ให้เขาส่งคนไปจับตาดูจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ขอเพียงนางกล้าฆ่าคน เราจะต้องเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของนางให้ได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวอย่างร้อนรน“นี่ก็พอได้!”หลิงอวี๋นึกถึงเรื่องที่ตนให้หานเหมยวางยาพิษจ้าวหรุ่ยหรุ่ย สองวันนี้พิษของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยต้องกำเริบแน่ นางจะต้องออกไปตามหาบุรุษหากแม่ทัพเติ้งให้ความสนใจเรื่องนี้ ก็จะค้นพบการกระทำอันชั่วร้ายของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยทั้งสามหารือกันเสร็จสิ้น หลิงอวี๋และหลงเพ่ยเพ่ยก็กล่าวลารอจนพวก
หลิงอวี๋มิรู้การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ในใจของท่านหญิงอวิ๋น กลับมาถึงห้องก็ยังคงขุ่นเคืองแทนหยวนซานอยู่เด็กอายุน้อยเพียงเท่านี้ ในฐานะมารดา ท่านหญิงอวิ๋นลำเอียงเข้าข้างหยวนซือเช่นนี้ นี่มันเกินไปแล้ว!เย่หรงเห็นหลิงอวี๋สงสารหยวนซาน จึงเล่าเรื่องของท่านหญิงอวิ๋นและเฉาฮุยให้หลิงอวี๋ฟังสุดท้ายเย่หรงยิ้มเย็นชา “หยวนซิ่งเป็นลูกผู้ชายอย่างแท้จริง ให้อภัยนางกับบุตรชายถึงเพียงนี้ แต่ท่านหญิงอวิ๋นกลับมิเห็นคุณค่า!”“ข้าคิดว่า ครั้งนี้หยวนซิ่งคงมิยอมทนท่านหญิงอวิ๋นอีกต่อไปแล้ว! เอาใจเขามาใส่ใจเรา หากเปลี่ยนเป็นข้าก็มิอาจใจกว้างได้!”หลงเพ่ยเพ่ยเดินเข้ามาพอดี ได้ยินคำพูดของทั้งสองก็คาดเดาเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้คร่าว ๆนางเห็นโอสถสมานแผลระดับสูงวางอยู่ข้างเตียงเย่หรง จึงมิได้นำของตนออกมาการปักเพิ่มดอกไม้บนผ้าไหมไม่มีประโยชน์อันใด หากนางต้องการตอบแทนบุญคุณช่วยชีวิตของเย่หรง ค่อยหาโอกาสในภายหลังแล้วกัน“เย่หรง เจ้ากินโอสถสมานแผลเถอะ อย่าทำให้ความปรารถนาดีของแม่ทัพหยวนต้องเสียเปล่า!”หลงเพ่ยเพ่ยรินน้ำให้เย่หรง หลิงอวี๋หยิบโอสถสมานแผลระดับสูงขึ้นมาตรวจสอบดูหลิงอวี๋เชื่อในความมีมนุษยธรรมของหย
หลิงอวี๋และเย่หรงฟังแล้วต่างก็รู้สึกหดหู่ใจ พลางนึกถึงท่าทางของหยวนซานเมื่อครู่ที่ไม่มีความขุ่นเคืองต่อหยวนซือและท่านหญิงอวิ๋นเลยแม้แต่น้อย หลิงอวี๋และเย่หรงต่างก็เริ่มเป็นห่วงหยวนซานขึ้นมามีมารดาที่ลำเอียงเช่นนี้ เด็กหยวนซานผู้นี้ช่างน่าสงสารเสียจริง!“เย่หรง เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ หรือ?”หยวนซิ่งดูเหมือนจะตัดสินใจบางอย่างได้แล้ว จึงถามเสียงเคร่งขรึม“ขอรับ! ท่านแม่ของข้าก็ถูกขังอยู่ในคุกน้ำเช่นกัน ก่อนหน้านี้ข้าพยายามหาลู่ทางอยากจะไปพบนางสักครั้ง ครั้นสืบข่าวถึงได้รู้ว่าเฉาฮุยก็ถูกชายาเจ้าแห่งทะเลขังไว้ในคุกน้ำเช่นเดียวกัน!”พูดถึงตรงนี้ เย่หรงก็ยื่นกล่องที่บรรจุโอสถสมานแผลให้หยวนซิ่ง“แม่ทัพหยวน ข้าขอใช้โอสถสมานแผลนี้แลกกับการร้องขอให้ท่านช่วยข้าทำธุระเรื่องหนึ่งได้หรือไม่?”“ท่านวางใจเถิด ข้ามิได้จะร้องขอให้ท่านช่วยท่านแม่ออกมา ข้าเพียงแค่อยากรู้ว่าในคุกน้ำเกิดเรื่องใหญ่กระไรขึ้นหรือไม่ จะเป็นอันตรายถึงชีวิตท่านแม่หรือไม่ก็เท่านั้น!”หยวนซิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ได้ ข้าจะช่วยเจ้าสืบข่าวให้!”“โอสถสมานแผลนี้ก็มิต้องคืนให้ข้า! ข้าเองที่ต้องการขอบคุณเจ้าที่ช่วยซาน
รอจนคนอื่น ๆ เดินออกไปหมดแล้ว เย่หรงก็มองหยวนซิ่งอย่างสงสัยตนกับหยวนซิ่งมิเคยมีความเกี่ยวข้องอันใดกันมาโดยตลอด แล้วเหตุใดหยวนซิ่งจึงต้องการพูดคุยกับตนตามลำพัง?“เย่หรง ข้ามิชอบคำเรียกคุณชายอะไรนั่น! ข้าขอเรียกชื่อเจ้าตรง ๆ เลยแล้วกัน เจ้าก็สามารถเรียกชื่อข้าได้เช่นกัน!”หยวนซิ่งเป็นทหาร นิสัยตรงไปตรงมา พูดตรงประเด็น “เจ้าพอจะบอกข้าได้หรือไม่ว่าหยวนซานของข้าตกหน้าผาไปได้อย่างไร?”เย่หรงขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่หมายความว่าอย่างไร?เขาสงสัยตนหรือ?หลิงอวี๋นึกถึงความเกลียดชังในแววตาของหยวนซือเมื่อครู่ กอปรกับท่าทีปกป้องบุตรชายของท่านหญิงอวิ๋น ก็พอจะคาดเดาเจตนาของหยวนซิ่งได้หลิงอวี๋จึงเป็นฝ่ายเอ่ยถาม “แม่ทัพหยวนสงสัยว่าหยวนซานมิได้พลัดตกหน้าผาไปเองใช่หรือไม่เจ้าคะ?”หยวนซิ่งมองหลิงอวี๋ ใบหน้าที่เดิมทีเรียบเฉยพลันสับสนขึ้นมา ดูเหมือนมิรู้ว่าควรจะยอมรับในความคิดของตนดีหรือไม่“แม่ทัพหยวน ยามนั้นข้าอยู่กับเพ่ยเพ่ยและฮองเฮา เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกถึงได้วิ่งไป ตอนนั้นหยวนซานตกหน้าผาไปแล้ว ทั้งร่างห้อยต่องแต่งอยู่บนกิ่งไม้!”เย่หรงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ดังนั้นข้าจึงมิรู้ว่าหยวนซานตกไปได้อ
เย่หมิงจึงกลับไปรายงานท่านผู้เฒ่าเย่ครู่ต่อมา หยวนซิ่งก็นำท่านหญิงอวิ๋นและบุตรชายทั้งสองคนมาถึงหลิงอวี๋เห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงอวิ๋นก็ชะงักไปเล็กน้อย ท่านหญิงอวิ๋นกับตนมีส่วนคล้ายคลึงกันอยู่หลายส่วนเช่นนั้นแล้ว ตนก็คงจะเป็นบุตรีของเจ้าแห่งทะเลจริง ๆ ท่านหญิงอวิ๋นผู้นี้ก็คือพี่สาวร่วมบิดาต่างมารดาของตนเองสินะ?หยวนซิ่งมีรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาภูมิฐาน การแต่งกายสะอาดสะอ้านทะมัดทะแมงบนใบหน้าของเขาแฝงไว้ด้วยความเคร่งขรึมและเที่ยงธรรม เพียงแต่ค่อนข้างจะมีใบหน้าไร้ความรู้สึกไปบ้างหยวนซิ่งจูงมือหยวนซาน ส่วนท่านหญิงอวิ๋นจูงมือหยวนซือหากมองเพียงรูปลักษณ์ภายนอก สองสามีภรรยาคู่นี้นับเป็นบุรุษผู้มากความสามารถเคียงคู่สตรีโฉมงาม เหมาะสมกันอย่างยิ่ง ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นชื่นมื่น“คุณชายเย่ วันนี้หยวนซิ่งตั้งใจพาบุตรชายมาขอบคุณในบุญคุณที่คุณชายเย่ช่วยชีวิตไว้เมื่อวานนี้!”หยวนซิ่งเดินไปหยุดข้างเตียง เขาปล่อยมือหยวนซานแล้วคารวะต่อเย่หรงอย่างนอบน้อมท่านหญิงอวิ๋นก็กล่าวเสียงเข้มขรึม “ขอบคุณคุณชายเย่ที่ยื่นมือช่วยเหลือซานเอ๋อร์ บุญคุณอันใหญ่หลวง ยากจะลืมเลือนชั่วชีวิต!”ท่านหญิงอวิ๋นกล่
เย่ซวินรู้ว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่เย่ซื่อเจียงให้แก่ตนแล้วก่อนหน้านี้เขาก็เคยคิดจะเลิกยา แต่เมื่ออดทนไปได้เพียงสองวัน ก็รู้สึกว่าอยู่เหมือนตายทั้งเป็นหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เขาต้องตายแน่!เย่ซวินขอให้บ่าวรับใช้และเย่หมิงไปตามมารดาของตน แต่เย่หมิงจำคำพูดของท่านปู่เย่ได้ขึ้นใจหากมิช่วยเย่ซวินเลิกยา ก็เท่ากับเป็นการทำร้ายเขาอย่างถึงที่สุด!ดังนั้นเย่หมิงจึงมิสะทกสะท้านแม้แต่น้อย ทั้งยังคอยตักเตือนเย่ซวินว่าอดทนอีกหน่อยก็ผ่านไปแล้วทว่าความทุกข์ทรมานจากการเลิกยานั้นมิใช่สิ่งที่เย่ซวินคุณชายที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างสุขสบายแต่เกิดเช่นเขาจะทนได้เขามิฟังคำตักเตือนของเย่หมิงเลยแม้แต่น้อย ในใจยังแอบคิดว่าเย่หมิงต้องการฉวยโอกาสนี้กำจัดตนแน่ในเมื่อตอนนี้มีโอกาสหนีออกไป เย่ซวินจะปล่อยโอกาสหลุดมือไปได้อย่างไร!เขาพยุงตัวขึ้น ถอดอาภรณ์ของบ่าวรับใช้มาสวม ทั้งยังคิดแผนต่อจากนี้ขึ้นมาได้ ให้บ่าวรับใช้เปลี่ยนไปสวมอาภรณ์ของตนแล้วมัดเขาไว้กับเสาแทนตนหยางหงหนิงลากบ่าวรับใช้อีกคนไปยังด้านหลังหอบรรพบุรุษ เมื่อกลับมาเย่ซวินก็จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนางให้เย่ซวินจัดผมเผ้าให้เรียบร้อย สวมหน
หากหยางหงหนิงบอกทันทีว่าจะมิชอบเย่หรงแล้ว หลงเพ่ยเพ่ยย่อมมิเชื่อแต่ตอนนี้หยางหงหนิงบอกว่าต้องการเวลา หลงเพ่ยเพ่ยจึงเชื่อสนิทใจนางจัดเส้นผมที่กระเซิงของหยางหงหนิงให้อย่างสงสารพลางปลอบใจว่า “ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปเถอะ เจ้าเป็นคนฉลาด ข้าเชื่อว่าเจ้าต้องผ่านพ้นไปได้แน่นอน!”“อืม!”หยางหงหนิงพยักหน้า และเงยหน้าขึ้นยิ้มให้หลงเพ่ยเพ่ย “เรื่องที่บอกว่าจะไปเที่ยวสระเก้ามังกรครั้งก่อน เจ้าอย่าลืมนะ รอให้แผลเย่หรงรักษาหายดี ข้าก็น่าจะปรับสภาพจิตใจได้แล้ว!”“ถึงเวลานั้น เจ้าจะได้เห็นด้านใหม่ของข้า!”หลงเพ่ยเพ่ยพยักหน้า “รอให้แผลเย่หรงรักษาหายดี ข้าจะนัดเจ้าออกไปเที่ยวด้วยกัน!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ หลงจิ้งและเจ้าแห่งทิศใต้ต่างก็คิดจะช่วยมารดาของเย่หรงออกมา หลงเพ่ยเพ่ยรู้สึกว่าการไปสระเก้ามังกรสามารถสำรวจตำแหน่งที่ตั้งได้ จึงมิคิดจะผิดคำพูดหยางหงหนิงได้รับคำรับปากของหลงเพ่ยเพ่ยแล้วก็จากไปเพียงแต่นางมิได้ออกจากจวนตระกูลเย่เสียทีเดียว นางตรงไปยังเรือนของเย่ซวินเพื่อดำเนินการตามแผนเมื่อไปถึงเรือนของเย่ซวิน กลับมิเห็นเย่ซวินอยู่ที่นั่นหยางหงหนิงยังมิรู้เรื่องที่เย่ซวินถูกขังอยู่ในหอบรรพบุรุ