เมียจ๋าของปะป๊า ลี่ฮุ่ยตบเข่าเสียงดังฉาดใหญ่ ส่วนโรสหัวเราะทั้งน้ำตา ฝ่ายคนที่ยังยืนงงที่สุดเห็นจะเป็นเถ้าแก่โจว กระนั้นก็บอกว่า ตัวเองคือคนแรกๆ ที่ยื่นมือช่วยเหลือม่านอวี้อัน ซึ่งเมื่อก่อนมีแต่คนคิดว่าเขาสนใจเธออยากได้เป็นภรรยา แต่เปล่าเลยเถ้าแก่โจวสงสาร และคิดถึงน้องสาวที่เสียชีวิตไปในขณะที่ตั้งท้องมากกว่า “เฮ้อ หมดเรื่องร้ายๆ เสียที ต่อไปจะได้สงบสุขกันแล้วสิเสี่ยวอัน” เถ้าแก่โจวกล่าว แต่ทั้งลี่ฮุ่ยกับโรส และสมาคมแม่บ้านต่างไม่เห็นด้วย พวกเธอรู้ว่าแค้นของผู้หญิงเวลาถูกฉีกหน้า ไม่มีวันจบง่ายๆ โรสเข้ามากอดม่านอวี้อัน และเอ่ยว่า “ถ้านังตัวร้ายแม็กกี้โผล่มาอีก...ฉันนี่แหละจะตบมันให้หน้าหงายเลยมาดาม” โรสทำท่าคันไม้คันมือ “อ๊ะ น้องโรส มันจะดีเหรอ ยังไงฝ่ายนั้นก็เป็นญาติของอันเอ๋อร์” ลี่ฮุ่ยได้ฟังแล้วก็ไม่อยากให้ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา ที่สำคัญแม็กกี้เป็นลูกพี่ลูกน้องม่านอวี้อัน อย่างไรควรไว้หน้าบ้าง “เมื่อก่อนฝ่ายนั้น อาจเป็นคนที่ฉันควรนับญาติ แต่ตอนนี้ทุกคนที่ถนนเนี่ยอินต่างหากที่เป็นญาติแท้ๆ ของฉัน” ม่านอวี้อันเอ่ยอย่างชัดเจน “อย่างไ
วันพบญาติ เซียงเจียวยืนตัวแข็งอยู่หลายวินาที เขาตกใจอยู่สักหน่อย เพราะได้ยินคนพูดกันที่ด้านนอก เยว่จือกำลังต่อว่าใครอยู่ ก่อนมีเสียงทุ้มๆ ของคนที่เซียงเจียวกลัวทุกครั้งที่เห็นหน้าดังสลับไปมา อีกฝ่ายคือผู้ชายตัวหนาใหญ่เหมือนหมี! ทั้งที่ช็อก แต่เด็กชายไม่วายหยิบเอาเค้กช็อกโกแลตเข้าปาก ซึ่งก่อนหน้านี้เขาต่อยท้องพี่ชายเต็มหมดเล็กๆ อีกฝ่ายเจ็บ แต่ไม่ตอบโต้ แถมยังปิดปากเงียบไม่ยอมคุยกัน เขาเลยไม่รู้จะง้ออย่างไร ซึ่งจำได้ว่าแม่ทำขนนแช่ไว้ในตู้เย็น ดังนั้นเลยอยากเอาไปแบ่งผิงกั่วกิน แต่เขาหิว เลยหยิบเข้าปากก่อน กินไปหนึ่งคำก็เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ เลยกินต่อไม่หยุด ทว่าเมื่อกี้มีเสียงเอะอะ จานที่ถือเอาไว้เกือบหล่นลงพื้น และด้วยความอยากรู้ เขาเลยย่องสลับคลานออกไป ตรงฝั่งด้านหน้าบ้านที่เป็นส่วนร้านอาหาร พอไปถึงกลับเห็นว่าผิงกั่วมีดาบของเล่นถือไว้ในมือ ส่วนเขาไม่ชอบใช้ดาบ เลยวิ่งกลับเข้าห้องนอน ได้ปืนเอ็มสิบหกของเล่นที่แจ็คสันซื้อให้ใหม่ติดมือมาด้วย เด็กชายก้าวมาสมทบพี่ชาย ทำหน้าขึงขังเลียนแบบสิ่งที่เคยเห็นในหน้าจอทีวี “น้องยิงพวกข้างนอกก่อน แล้
พวกหมาหมู่ เยว่จือยืนตัวสั่นอยู่หน้าประตูส่วนที่เป็นร้านอาหาร ก่อนหน้าเธอบอกให้เด็กๆ อยู่ในห้องนอน ด้วยพวกเขามีเรื่องชกต่อยกันตามประสาวัยซุกซน ยามนี้เกือบหกโมงเย็นแล้ว ม่านอวี้อันควรกลับบ้าน หากหลังจากเธอออกมาทิ้งขยะ และนั่งรออีกฝ่ายพักใหญ่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา กระทั่งมีรถคันหรูพร้อมกลุ่มมอเตอร์ไซค์มาจอดลานด้านหน้า เยว่จือจึงรีบวิ่งกลับเข้ามาในบ้าน หากไม่ทันปิดประตูร้านด้วยซ้ำ คนที่เธอต้องรับหน้าด้วยความเสียขวัญก็คือ เหวินเฉียง! คนผู้นี้ หล่อเหลาปานพระเอกละคร ในหน้าจอทีวี ทว่ากลับมีความน่ากลัว และบ้าอำนาจโอบคลุมท่วมร่าง “คุณเหวิน นังหนูนี่มันไม่รู้เรื่องอะไร ครั้งหน้าค่อยมาใหม่ดีไหมครับ ให้คุณนายอันกับผัวใหม่มันอยู่ร้านเสียก่อน คงคุยกันรู้เรื่อง” อาซูเอ่ยกับเหวินเฉียง และพยายามโบกมือไล่เยว่จือไปให้พ้นๆ แต่เธอยังทำใจดีสู้เสือ ด้วยเด็กสาวจะไม่ยอมให้เหวินเฉียงมายุ่มย่ามที่นี่ เหวินเฉียงกวาดตามองไปทั่วๆ บริเวณหน้าร้าน มีการติดป้ายผ้า และจัดมุมต่างๆ ให้น่าสนใจ “ทั้งที่ร้านปิดมาเกือบห้าเดือน แต่ไม่เงียบเหงา เพราะตั้งโต๊ะขายของหน้า
ลูกหมาหลงทาง ในห้องครัวที่เพิ่งอบขนมปังเสร็จใหม่ๆ ส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ทำให้ความอยากอาหารเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว “อาหารกลางวันของเด็กหรือคะมาดาม” เยว่จือถาม และมองขนมปังผสมมันฝรั่งบดตรงหน้าที่ม่านอวี้อันพึ่งอบเสร็จใหม่ๆ มันหอมจัด พออีกฝ่ายฉีกขนมปังส่งให้ เด็กสาวก็ยิ้มขอบคุณ เมื่อกัดคำแรก เธอจึงเอ่ยว่า “นุ่มและอร่อยที่สุดเลยค่ะ ขนมปังแบบนี้มาดามจะทำเป็นอาหารกลางวันเด็กๆ หรือคะ” “น่าจะเป็นส่วนหนึ่งในมื้ออาหาร ฉันอยากทำเป็นเบอร์เกอร์ไก่ มีสลัดผักง่ายๆ และขนมกินเล่นสักอย่าง” “แต่เด็กในโรงเรียนสมาคมบางคน มาจากครอบครัวฐานะยากจน อาหารกลางวันคืออาหารเช้า หลายคนเก็บไปกินมื้อเย็นด้วย” ม่านอวี้อันได้ยินแบบนั้นก็ใจหาย ฐานะเธอในโลกที่จากมามีเงินมีทองเหลือใช้ไปสามชาติ กระนั้นก่อนย้ายมาอยู่กับบิดา มีช่วงหนึ่งที่แม่อาศัยอยู่กับคุณตาซึ่งทำร้านเช่าวีดีโอ ถึงไม่ร่ำรวย หากเป็นช่วงที่อบอุ่นและมีความสุขที่สุดในชีวิต ซึ่งเธอเรียนรู้การทำอาหารจากตาและยาย กินข้าวพร้อมครอบครัว ทั้งแบ่งปันผู้อื่นที่ยากลำบาก “จำได้ว่าหนูเคยเห็นไซซีขายหมากคนหนึ่ง มีลูกหลายคน เด็กพวก
ติดกระดุมเม็ดแรกผิด ก่อนงานเลี้ยงต้อนรับม่านอวี้อัน ไห่ถังมาพร้อมเจ้าอิง ทั้งคู่มีสีหน้าเครียดจัด จากนั้นไห่ถังจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณนายอัน อั๊วเห็นว่าเธอทำอาหารพอใช้ และช่วงนี้ยังไม่เปิดร้าน” ไห่ถังกล่าว และลดน้ำเสียงไม่ให้น่าหมั่นไส้จนเกินไป หญิงสาวมองไห่ถังพร้อมพรรคพวกที่มากับเขา และกวาดตาไล่สำรวจทีละคนเพื่อประเมินสถานการณ์ แจ็คสันที่ดูแลสองแฝดอยู่เตรียมก้าวมาช่วยไกล่เกลี่ย ทว่าม่านอวี้อันยกมือห้าม ส่งสัญญาณให้เขาดูแลลูกจะดีกว่า ด้วยเขาใจร้อน อาจไม่ทันได้คุยเรื่องใดอาจเกิดการปะทะเสียก่อน “มีเรื่องอะไรล่ะ ถ้าจะมาคิดบัญชีที่ค้าง ไม่ต้องห่วงหรอกนะ อีกไม่นานฉันจ่ายครบทุกเหรียญแน่นอน แต่หนนี้ฝากบอกคุณเหวินทำหนังสือยอมรับการใช้หนี้ของฉันให้เรียบร้อยด้วย และสำหรับที่แล้วมา ฉันยอมรับว่าพลาดไปหลายสิ่ง แต่ต่อไปอย่าได้คิดจะลักไก่กันได้ง่ายๆ อีก” ไห่ถังพ่นลมหายใจร้อนๆ ระบายความอึดอัดใจ เหวินเฉียงมีคำสั่งว่า ยามนี้เขาไม่ต้องการเงินจากม่านอวี้อัน แต่ให้หาวิธีบีบเธอเพื่อจะเอาที่ดินของร้านอาหารแห่งนี้ให้ได้มากกว่า “คุณเหวิน อยากให้เธอ ช่วยคิ
ขอเป็นเหล่ากงของอาหมวย ลี่ฮุ่ยไม่ได้อยากรีดไถ่เงินแจ็คสัน แต่หล่อนยื่นคำขาดว่า ยามนี้อีกฝ่ายคือลูกสาวบุญธรรมของตน ฉะนั้นหากอยากได้ม่านอวี้อันเป็นภรรยา เขาต้องแสดงให้ประจักษ์ว่า เป็นผู้ชายที่สามารถพึงพาและดูแลเธอกับสองฝาแฝดได้ “เงินทอง ฉันไม่ติดขัดหรอก แต่คุณต้องมีหลักประกันที่มั่นคง ให้อันเอ๋อร์” หญิงวัยกลางคนเรียกม่านอวี้อันราวกับเป็นลูกสาวของตนที่เบ่งคลอดออกมาเสียอย่างนั้น พลอยให้เจ้าตัวที่ฟังอยู่ รู้สึกปลื้มปิติ “เอ่อ..ปะ ป้า...ไม่ใช่สิ แม่บุญธรรม” ม่านอวี้อันเอ่ยอย่างนั้น ลี่ฮุ่ยจึงยกมือขึ้นห้ามและบอกว่า “เรียกแม่ก็แม่สิ ทำไมต้องมีอะไรต่อท้ายด้วย” “อย่างไร ฉันกับแจ็คสัน ก็ไม่ใช่เด็กด้วยกันทั้งคู่ แม่...ก็ผ่อนปรนเขาบ้าง อีกอย่างสองแฝดเป็นเขาเลี้ยงดูมาระยะหนึ่งแล้ว และอาจดูแลได้ดีกว่าฉันเสียอีก แม่ก็เห็นนี่นา” ลี่ฮุ่ยส่ายหน้า และกล่าวขึ้น “ถึงจะรู้จะเห็นอย่างนั้น แต่ฉันมีลูกสาวคนสวย แถมหลานชายทั้งสองยังว่านอนสอนง่าย ในอนาคตยังจะมี เด็กๆ อีกกี่คนก็ไม่รู้ที่จะคลานตามก้นกันมา อย่างไรต้องเชื่อมั่นว่า ลูกเขยคนนี้จริงใจมากพอ ผู้หญิงอ