Share

บทที่ 390

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
วังหมัวมัวกล่าวต่อว่า “เรื่องเมื่อวาน ขอบพระทัยพระชายาที่ทรงช่วยพูดแก้สถานการณ์ให้บ่าวต่อฝ่าบาทเพคะ ไม่เช่นนั้นชีวิตนี้ของบ่าวคงจบลงเมื่อคืนแล้ว”

“ข้ารู้จักวังหมัวมัวดี ท่านไม่มีทางทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้ ต่อให้คิดทำก็ไม่มีทางปล่อยให้คนกำจุดอ่อนไว้ได้” เจียงเฟิ่งหัวมิได้เสแสร้งกับนาง คนที่สามารถรับใช้อยู่ข้างกายฮองเฮาได้ล้วนไม่โง่

วังหมัวมัวยิ้มออกมา แล้วกล่าวเสียงเบาว่า “การรับใช้อยู่ในวัง ทุกคนต่างเหมือนอยู่บนน้ำแข็งบางๆ โดยเฉพาะเมื่อฮองเฮากับฝ่าบาททรงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกัน พวกเรายิ่งต้องใส่ใจระมัดระวังมากขึ้น แม้พระชายารองซูจะมีสกุลซูคอยช่วย แต่ไม่ว่าอย่างไร ใต้หล้านี้สุดท้ายแล้วก็ยังคงมีฝ่าบาทเป็นผู้ตัดสิน”

วังหมัวมัวกำลังเตือนนางว่า หากคิดจะต่อสู้กับชายารองซู แค่กุมหัวใจของท่านอ๋องไว้ได้ยังไม่พอ ยังต้องอาศัยการคุ้มครองจากฮ่องเต้ด้วย เพราะสกุลซูก็มิใช่ว่าจะทำได้ทุกอย่าง ไม่เช่นนั้นตำแหน่งฮองเฮาคงเปลี่ยนเจ้าของไปนานแล้ว

ฮ่องเต้ทรงรังเกียจฮองเฮาถึงเพียงนี้ กระทั่งไม่ยอมให้พระนางปรนนิบัติบรรทม แถมไม่เสด็จมาตำหนักคุนหนิงอีก สกุลเฉิงทั้งตระกูลยิ่งถูกฮ่องเต้ทอดทิ้งไปแล้วด้วย ดัง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 396

    ใบหน้าราชครูเจียงเต็มไปด้วยความภูมิใจ “กลับมาก็ดีแล้ว”ในดวงตาของเจียงฮูหยินก็คลอไปด้วยหยาดน้ำตา “ในที่สุดก็กลับมาสักที”เจียงหรูเมิ่งเห็นเขากลับมาอย่างปลอดภัยในใจก็รู้สึกยินดี แต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความรังเกียจ “เขายังใช่พี่ใหญ่ของพวกเราอีกหรือ? พี่ใหญ่กลายมามีสภาพแบบนี้ได้อย่างไร? ไม่เจอกันแค่ไม่กี่เดือนเหตุใดจึงหนวดเครารกรุงรังเช่นนี้”เจียงเฟิ่งหัวมองไปที่ด้านหลังของเขาอย่างไม่รู้ตัวทีหนึ่ง “พี่ใหญ่กลับมาคนเดียวหรือ”เจียงจิ่นเหยียนอธิบายว่า “ตอนข้ากลับมาท่านอ๋องยังรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่ค่ายทัพ ตอนนี้น่าจะอยู่ระหว่างทางกลับเมืองแล้ว ในศึกครั้งสุดท้าย เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่หรวนหร่วนไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต มีแพทย์ทหารคอยดูแลอยู่ข้างกายเขา ที่ท่านอ๋องไม่ได้ส่งข่าวที่เขาบาดเจ็บกลับเมืองหลวง ก็เพราะกลัวว่าเจ้าจะเป็นห่วงด้วยนี่แหละ”“เป็นเช่นนั้นก็ดี” เจียงเฟิ่งหัวถามต่ออีกว่า “ซูถิงหว่านไปที่ชายแดน นางได้พบท่านอ๋องหรือยัง?”“สถานการณ์การศึกอันตรายมาก พวกเราไม่เห็นชายารองซูเลย”เจียงจิ่นเหยียนเป็นรองเจ้ากรมคลัง ภารกิจของเขาก็คือการจัดส่งเสบียงสิ่งของ จึงมิได

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 395

    เจียงเฟิ่งหัวรีบเข้าไปต้อนรับ “พี่รอง พี่เขยรอง พวกท่านมาแล้วหรือ เด็กๆ ล่ะ?”เจียงหรูเมิ่งกล่าวว่า “พอเข้าบ้านมาก็ไปหาน้าเล็กของพวกเขาแล้ว เป็นพ่อบ้านบอกว่าพวกเจ้ากำลังยุ่งกันอยู่ในครัว” จินจี้หิ้วของขวัญมาจำนวนมาก “ข้าจะไปหาท่านพ่อท่านแม่ก่อน พวกเจ้าคุยกันไปก่อน…”เจียงเฟิ่งหัวห้ามเขาไว้ว่า “พี่เขย พวกเราไปคุยกันในห้องโถงเถอะ อย่าไปรบกวนท่านพ่อท่านแม่เลย ท่านพ่อของพวกเรากำลังแสดงทักษะเฉพาะตัวให้ท่านแม่ดูน่ะ”นางเพิ่งกล่าวจบ เจียงหวยก็ถือหนังสือปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน “กำลังนินทาอะไรพ่อของเจ้าอยู่อีกล่ะ?”“ไม่ได้พูดอะไรนิเจ้าค่ะ! ก็แค่บอกว่าท่านพ่อชอบอ่านตำรา”จากนั้นเขาก็เดินไปที่เบื้องหน้าของบุตรสาวคนที่สาม แล้วแสร้งทำเป็นสุขุมว่า “ต่อหน้าพี่สะใภ้ของเจ้า อย่าเอาแต่พูดเรื่องไร้สาระสิ แม่เจ้ากำลังยุ่งกับงานมากมายอยู่ก็ไม่รู้จักไปช่วย จะรอกินอย่างเดียวหรืออย่างไร!”จางอวี่มั่วราวนกที่ต้องเกาทัณฑ์ รีบกล่าวออกมาว่า “ข้าจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”นางจะมุดเข้าไปในห้องครัว แต่ถูกเฝิงจิ้งย่วนขวางไว้ เฝิงจิ้งย่วนก็รีบเปลี่ยนท่าทางอ่อนโยนเมื่อครู่ทันที ขึ้นเสียงขึ้นมา “ท่านอาจารย์เจียงท่

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 394

    เจียงหวยเห็นนางทำอาหารมากมายเช่นนี้อีกแล้ว “ทำอาหารเยอะแยะแบบนี้อีกแล้ว เหนื่อยออก ให้หลิวหมัวมัวช่วยก็ได้นี่นา”“ไม่ง่ายเลยกว่าหรวนหร่วนจะได้กลับมา ข้าต้องการให้นางได้กินฝีมือของมารดานางจะทำไม” มือนางเคลื่อนไหวไม่หยุด “อันที่จริงหลิวหมัวมัวเตรียมไว้หมดแล้ว ข้าแค่ลงมือทำเท่านั้น ก็ไม่ได้เหนื่อยอะไร รอเจ้ารองกลับมาพวกเราก็กินข้าวกัน”เจียงหวยรับมีดในมือของนางมาแล้วเริ่มลงมือช่วย “เจ้าเรียกสามีเจ้ามาช่วยได้นี่นา เจ้าก็มิใช่ไม่รู้จักฝีมือสามีของเจ้าสักหน่อย”เฝิงจิ้งย่วนรู้ว่าเขามีฝีมือ จึงมิได้ห้ามปรามเขา แต่ไปทำอย่างอื่นต่อแทน อันที่จริงแล้ว เป็นเพราะนางอยากให้ลูกๆ เคารพนับถือท่านพ่อของพวกเขา ในตำราบอกว่าสุภาพบุรุษควรอยู่ห่างจากครัว นี่ก็เพราะอยู่ลับหลังเด็กๆ นางถึงยอมให้เขาลงมือแต่เฝิงจิ้งย่วนทำอันนี้ เขาก็มาแย่งอันนี้มาทำ นางไปทำอันโน้น เขาก็ไปแย่งอันโน้นมาทำ เจียงหวยไม่เพียงทำเป็น ยังทำได้ดีอย่างมากด้วย ที่ควรหั่นก็หั่นแล้ว ทักษะการใช้มีดยังไม่เลว“นึ่งปลา ใส่เหล้าสักหน่อย ส่งมาที” ราชครูเจียงกล่าวตอนนี้กลายเป็นเฝิงจิ้งย่วนกลายเป็นผู้ช่วยแล้วจางอวี่มั่วแต่งเข้ามานานขนาดนี้

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 393

    เจียงเฟิ่งหัวกลับไปที่ตำหนักเฉินซี และรู้ว่าฮ่องเต้เสด็จไปที่ตำหนักเฉินซี ที่นางทำเช่นนี้ ก็เพียงเพื่อทำให้ฮ่องเต้เกิดความประทับใจที่ดี นางต้องการให้ฮ่องเต้รู้ว่านางอยากเป็นเพียงภรรยาที่ดีของเซี่ยซางเท่านั้นนางต้องการให้ทั้งฮ่องเต้และฮองเฮารู้ว่า นางคือคนที่เหมาะจะเป็นพระชายาเหิงอ๋องมากที่สุด พวกเขามิได้เลือกคนผิดเชื่อว่าเมื่อเซี่ยซางได้รู้ว่าฮ่องเต้และฮองเฮารักใคร่กันเหมือนคู่รักในโลกของสามัญชน เขาก็จะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง กระทั่งยังจะรู้สึกขอบคุณนางด้วยเมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อย นางก็ออกจากวังแล้วจริงๆ เพราะถึงอย่างไรวันเวลาที่อยู่นอกวังก็มีไม่มากแล้ว ในอนาคต โอกาสที่จะได้อยู่ร่วมกับท่านพ่อท่านแม่ในเทศกาลโคมไฟก็จะกลายเป็นเรื่องยากแล้วเมื่อนางกลับถึงสกุลเจียงก็สามารถปลดการเสแสร้งทั้งหมดออก ช่วยท่านแม่เตรียมอาหารเทศกาลโคมไฟอย่างเบิกบาน ปีนี้ที่บ้านยังมีคนเพิ่มมาอีกคน จางอวี่มั่วก็มิได้อยู่ว่างเช่นกัน นางกวาดความรับผิดชอบมาที่ตนเองมากมายแต่เจียงฮูหยินกลับไม่ยอมให้พวกนางทำสิ่งใดทั้งสิ้น “ยากนักที่หรวนหร่วนจะกลับมา พวกเจ้าไปเล่นสนุกเถอะ รอพี่รองกับพี่เขยรองของพวกเจ้ามาแล้ว พวกเราค่อ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 392

    เฉิงฮองเฮานั่นหดหู่อยู่หน้ากระจก ในอดีตนางเคยภาคภูมิใจต่อใบหน้าที่งดงามดวงนี้นัก อายุสิบสี่เข้าวัง อายุสิบแปดให้กำเนิดบุตร แล้วหลังจากนั้นเล่า นางกลับปล่อยเวลาครึ่งชีวิตไปอย่างเสียเปล่าอยู่ในวัง ที่แท้เหตุใดนางต้องชีวิตเช่นนี้กันนะตอนยังไม่ได้เข้าวัง ทุกคนล้วนปรารถนาจะเข้าวัง แต่เมื่อเข้าวังมาแล้วจริงๆ กลับได้แต่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาเช่นนี้ ไม่มีความสนุกสนานแม้แต่น้อย วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า พวกนางเหมือนนกคีรีบูนที่ถูกขังอยู่ในกรง ไร้คนชื่นชมไม่แปลกเลยที่เยี่ยนเฟยจะเสียสติ ตอนที่นางเริ่มมาอยู่กับฮ่องเต้ ฮ่องเต้ยังเป็นเพียงรัชทายาทเท่านั้น แม้จะให้กำเนิดโอรส แต่กลับมิได้รับความโปรดปราน ผู้หญิงแบบเยี่ยนเฟย ไม่รู้ในวังมีจำนวนเท่าใด พวกนางมีความทุกข์เช่นเดียวกันจึงเข้าใจและเห็นใจในความทุกข์ของอีกฝ่ายยังมีพวกที่ปลิดชีพตนเองเพราะอาการซึมเศร้าอีก ฮ่องเต้ทรงเคยใส่พระทัยสักกี่นางกัน บัดนี้ นางก็จะเดินตามรอยของพวกนางบ้างแล้ว ไปเสียสติเหมือนเยี่ยนเฟยไปมีความสุข เหมือนหวังเจาอี๋…ในตอนที่เฉิงฮองเฮายังสาวก็ไม่เคยคิดทำเรื่องที่ผิดต่อคุณธรรมของสตรี ยามนี้นางก็ไม่มีทางกระทำเช่

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 391

    ฮ่องเต้มองเจียงเฟิ่งหัว แสดงสีหน้าเหมือนกลืนแมลงวันเป็นๆ เข้าไปออกมา “งั้นเราเต็มใจทำตัวเป็นเต่าหดหัวอย่างนั้นหรือ?”เจียงเฟิ่งหัวรู้ว่าฮ่องเต้เข้าใจผิดแล้ว สีหน้าลนลาน แต่นางจะคุกเข่าก็คุกเข่าไม่ลง ได้แต่รีบอธิบายว่า “ความหมายของลูกคือ โจรเถื่อนบุกมาถึงประตูแคว้นเราแล้ว ท่านอ๋องมีฐานะเป็นองค์ชาย แถมอายุยังอยู่ในช่วงเลือดลมร้อนระอุอีก ดุจดั่งลูกวัวแรกเกิดไม่กลัวเสือ เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต แม้ปีนั้นเขาจะขัดคำสั่งกองทัพไม่ยอมเชื่อฟัง บุกเข้าไปในค่ายทหารศัตรูโดยพลการ แต่เสด็จพ่อเห็นแก่ที่เขาอายุยังน้อยไม่รู้ความ และภายหลังก็ไม่ได้เกิดปัญหาร้ายแรงอะไร จึงทรงใช้ผลงานหักลบความผิด อภัยให้ท่านอ๋องใช่ไหมเพคะ!”เมื่อพูดมาถึงตอนสุดท้าย เจียงเฟิ่งหัวก็เริ่มทำตัวเหมือนลูกสาวที่กำลังออดอ้อน ราวกับเด็กน้อยที่กระทำความผิดแล้วอยากได้รับความรักจากบิดา “ตั้งแต่เด็กจนโตท่านอ๋องล้วนพยายามอย่างมาก เขาอยากได้รับการยอมรับจากพระองค์มาโดยตลอด อันที่จริงแล้วเขาเคารพนับถือเสด็จพ่อของเขามากเพคะ เขาก็นับว่าน่าสงสารนัก…”เมื่อฮ่องเต้เห็นท่าทางร้อนใจของนาง จู่ๆ ก็หัวเราะออกมาเจียงเฟิ่งหัวตะลึงไป เรียกออกมาอย่างลอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 390

    วังหมัวมัวกล่าวต่อว่า “เรื่องเมื่อวาน ขอบพระทัยพระชายาที่ทรงช่วยพูดแก้สถานการณ์ให้บ่าวต่อฝ่าบาทเพคะ ไม่เช่นนั้นชีวิตนี้ของบ่าวคงจบลงเมื่อคืนแล้ว”“ข้ารู้จักวังหมัวมัวดี ท่านไม่มีทางทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้ ต่อให้คิดทำก็ไม่มีทางปล่อยให้คนกำจุดอ่อนไว้ได้” เจียงเฟิ่งหัวมิได้เสแสร้งกับนาง คนที่สามารถรับใช้อยู่ข้างกายฮองเฮาได้ล้วนไม่โง่วังหมัวมัวยิ้มออกมา แล้วกล่าวเสียงเบาว่า “การรับใช้อยู่ในวัง ทุกคนต่างเหมือนอยู่บนน้ำแข็งบางๆ โดยเฉพาะเมื่อฮองเฮากับฝ่าบาททรงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกัน พวกเรายิ่งต้องใส่ใจระมัดระวังมากขึ้น แม้พระชายารองซูจะมีสกุลซูคอยช่วย แต่ไม่ว่าอย่างไร ใต้หล้านี้สุดท้ายแล้วก็ยังคงมีฝ่าบาทเป็นผู้ตัดสิน”วังหมัวมัวกำลังเตือนนางว่า หากคิดจะต่อสู้กับชายารองซู แค่กุมหัวใจของท่านอ๋องไว้ได้ยังไม่พอ ยังต้องอาศัยการคุ้มครองจากฮ่องเต้ด้วย เพราะสกุลซูก็มิใช่ว่าจะทำได้ทุกอย่าง ไม่เช่นนั้นตำแหน่งฮองเฮาคงเปลี่ยนเจ้าของไปนานแล้วฮ่องเต้ทรงรังเกียจฮองเฮาถึงเพียงนี้ กระทั่งไม่ยอมให้พระนางปรนนิบัติบรรทม แถมไม่เสด็จมาตำหนักคุนหนิงอีก สกุลเฉิงทั้งตระกูลยิ่งถูกฮ่องเต้ทอดทิ้งไปแล้วด้วย ดัง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 389

    เมื่อเฉิงฮองเฮาออกมาจากตำหนักบรรทม สี่หมัวมัวและวังหมัวมัวก็รีบเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง “ฮองเฮา ทรงเป็นอันใดหรือไม่เพคะ!”แต่นางกลับไม่กล่าวสิ่งใดแม้แต่คำเดียว สาวเท้าไปบนทางเดินอันเงียบสงัด สี่หมัวมัวรีบนำเสื้อคลุมสะอาดมาคลุมไว้บนร่างของนาง แล้วไปประคองนางอีกครั้ง “ฮองเฮาช้าลงหน่อยเถิดเพคะ ระวังพื้นใต้เท้าลื่นนะเพคะ กระโปรงของพระองค์เปียกหมดแล้ว ขาเป็นอย่างไรบ้างแล้วเพคะ ทรงนั่งเกี้ยวเถิดเพคะ”เฉิงฮองเฮาไม่รู้ว่าตนกำลังยินดีหรือเป็นทุกข์กันแน่ ในตอนที่ซูถิงหว่านบอกเรื่องนี้กับนาง นางรู้สึกเพียงว่าจิตใจปลอดโปร่งราวกับได้ล้างแค้น ทุกอณูในร่างกายของนางมีชีวิตชีวาขึ้นมา โอรสของนางจะกลายเป็นฮ่องเต้ ในที่สุดนางก็ได้ลืมตาอ้าปากเชิดหน้าชูตาเสียทีนางทนต่อความอยุติธรรมมานานนับยี่สิบปี แต่นางเป็นผู้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย นางมิได้รักฮ่องเต้ เขาจะรักซูชิงชิงหรือไม่ก็ช่างปะไร แต่ยามนี้ เมื่อครู่ตอนที่นางเห็นสายตาเย็นชาเสียดกระดูกของฮ่องเต้ หัวใจของนางก็เกิดความรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาฮ่องเต้ถึงขนาดบอกกับนางด้วยตนเองว่า จะแต่งตั้งลูกชายของนางเป็นรัชทายาทเมื่อเฉิงฮองเฮากลับไปถึงตำหนักคุนหนิงก็ป่วย

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 388

    เฉิงฮองเฮาตะลึงไป ฮ่องเต้หมายความว่าอย่างไรกัน?นางกล่าวว่า “หม่อมฉันอบรมองค์หญิงเก้าอย่างใส่ใจ มิได้ปฏิบัติต่อนางอย่างโหดร้ายเลย เรื่องนี้มิใช่ตรวจสอบจนกระจ่างแล้วหรือเพคะ”“ลุกขึ้นมาเถอะ ถอดเสื้อผ้าให้เรา แล้วปรนนิบัติเราเข้านอนซะ” ฮ่องเต้ตั้งใจทำให้นางอับอายเฉิงฮองเฮาคุกเข่าอยู่บนพื้น “มิสู้ให้น้องหย่าเฟยมาปรนนิบัติฝ่าบาท เสื้อผ้าของหม่อมฉันเปียกชื้นหมดแล้ว เครื่องประทินโฉมที่แต่งไว้ก็ไม่น่ามองแล้วเพคะ” นางกลับไม่รู้ว่า ยิ่งตอนนี้นางปฏิเสธฮ่องเต้ นางก็จะยิ่งลำบากฮ่องเต้สามารถทำให้นางมีชีวิตที่เป็นสุขได้ ก็สามารถทรมานนางจนอยู่มิสู้ตายได้เช่นเดียวกัน บุรุษที่ในใจนางคิดถึงมีได้เพียงฮ่องเต้เท่านั้นฮ่องเต้แววตาเย็นชาดุจน้ำแข็ง ไร้ความรู้สึก น้ำเสียงแทบจะเป็นคำสั่ง “หลบมายี่สิบปี เจ้าแทบจะเลี่ยงจนสบายเกินไปแล้ว ภรรยาปรนนิบัติสามีมิใช่เรื่องที่ควรเป็นหรือไร เจ้าลืมหน้าที่ของตัวเองไปแล้ว หรือไม่ถือตัวไม่อยากปรนนิบัติข้าเหมือนหวังเจาอี๋กันล่ะ”“หม่อมฉันมิกล้า” ฮองเฮารู้ว่าเขาพูดถึงเรื่องในอดีตอีกแล้ว นางยังคิดว่า ที่ช่วงก่อนฮ่องเต้อ่อนโยนต่อนาง สายตาสิเน่หาในตัวนาง เป็นเพราะปล่อยวาง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status