Share

บทที่ 6 นักล่าผู้ชาย

last update Dernière mise à jour: 2025-04-15 13:48:10

บทที่ 6 นักล่าผู้ชาย

  

สามวันต่อมา

ในขณะที่จื่อรั่วอิงยังคงถูกขังอยู่แต่ภายในเรือน ของหมั้นจากจวนราชครูถังก็ถูกส่งมาถึงดูเหมือนว่าบิดาของนางจะยินดียิ่ง เรื่องที่นางถูกลวนลามก็ถูกปิดราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้น แน่นอนว่าย่อมไม่มีผู้ใดล่วงรู้

มารดาของจื่อรั่วอิงเปิดประตูเข้ามาด้วยน้ำตานองใบหน้านั่นคงเป็นเพราะว่ากำลังปลาบปลื้มกับวาสนาจอมปลอมของจื่อรั่วอิงเป็นแน่

แน่ล่ะในเมื่อมารดาของนางเป็นเพียงผู้ช่วยหมอในหมู่บ้านเล็ก ๆ  นับเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาที่บิดาต้องตาต้องใจในตอนที่เขาไปคุมงานสร้างเขื่อนนอกเมืองหลวงจึงได้รับนางมาเป็นอนุคนที่สี่ซึ่งนับเป็นอนุคนสุดท้ายของจวน

 บิดาของนางก็ล้วนให้ความเป็นธรรมกับบรรดาภรรยาทั้งสี่คนพวกเขาแม้จะไม่ถึงขนาดรักใคร่ปรองดองแต่ก็ไม่เคยอยู่ที่จวนนี้อย่างยากลำบากเหมือนสตรีจวนอื่น

มารดาของจื่อรั่วอิงก็เป็นเพียงสตรีโบราณการที่เห็นนางแต่งงานเป็นเมียน้อยคนมีฐานะมีหน้ามีตาในเมืองก็ย่อมต้องเห็นดีเห็นงามแทบอยากจะจัดงานแต่งวันนี้พรุ่งนี้เสียด้วยซ้ำ และที่สำคัญคนที่ตามมารดามาก็คือฮูหยินผู้เฒ่าหรือท่านย่าของจื่อรั่วอิงนั่นเอง

เรื่องที่จื่อรั่วอิงถูกลวนลามนั้นทั้งมารดาและท่านย่าต่างก็รู้ดี แต่ทั้งสองคนกลับปิดปากเงียบราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไม่ต่างจากท่านพ่อเลยแม้แต่น้อย จื่อรั่วอิงทำความเคารพคนทั้งสองด้วยใบหน้าบูดบึ้งเอาแต่ใจ สายตาของนางสำรวจท่านย่าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแล้วย้อนมาที่ศีรษะอีกครั้ง

"ท่านย่าเจ้าคะ อาการปวดคอของท่านยังไม่หายดีไม่ใช่หรือเจ้าคะ เหตุใดจึงได้ประโคมเครื่องทองทั้งปิ่นหยกเต็มศีรษะเช่นนั้น ไม่หนักแย่หรือเจ้าคะ"

บ่าวรับใช้ของฮูหยินใหญ่ประคองผู้ชราไปนั่งบนตั่งไม้ตัวหนึ่งขณะที่ท่านย่าของจื่อรั่วอิงหัวเราะลั่นอย่างมีความสุข ยามนั้นนั่นเองที่ท่านแม่ของจื่อรั่วอิงเอื้อมมือมาหยิกแขนนางเบา ๆ 

"อิงเอ๋อร์อย่าเสียมารยาท รีบขอโทษท่านย่าเดี๋ยวนี้"

จื่อรั่วอิงเบ้ปากทั้งแสร้งโวยวาย

"ท่านแม่ข้าเจ็บนะเจ้าคะ ที่ข้าพูดเพราะห่วงสุขภาพคอของท่านย่าไม่รู้เหรอ คนแก่อายุก็เจ็บสิบแล้วใส่เครื่องหัวแน่นขนาดนั้นกระดูกคอไม่เสื่อมก็ให้มันรู้ไป"

"นี่เจ้ายังไม่หยุดอีก"

ฮูหยินผู้เฒ่าวันนี้กำลังอารมณ์ดียิ่งนัก ด้วยสินสอดที่ส่งมานั้นมีนับไม่ถ้วน เดิมทีคิดมาต่อว่าจื่อรั่วอิงเรื่องที่ทำตัวตกต่ำถึงขั้นคิดคว้าคนตาบอดมาเป็นสามี ทว่าเมื่อเห็นเงินทองมากมายจึงอารมณ์ดีและยอมปล่อยผ่านไปสักครั้ง

หลานสาวคนนี้แม้จะรูปโฉมงดงามไม่เป็นรองจื่อกุ้ยเฟย ทว่ากลับถูกกิริยาหยาบช้าปกปิดความงามเอาไว้จนมิด ถ้าหากจะโทษก็ต้องโทษที่ลูกชายของเขาดันไปคว้าสตรีชาวบ้านมาเป็นภรรยา จึงได้คลอดบุตรสาวที่ไม่อาจขัดเกลาได้คนนี้ออกมา

แต่วันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นแก่สินสอดที่ซื่อจื่อแห่งจวนถังอ๋องนำมามอบให้ด้วยตนเอง ทำให้ฮูหยินชรามองหลานสาวคนนี้ว่าน่าเอ็นดูขึ้นมาเล็กน้อย

"พอเถิดวันนี้จะละเว้นโทษให้นางสักวัน สินสอดก็ส่งมาแล้วแม้เจ้าจะแต่งเข้าไปจวนอ๋องมีฐานะเป็นเพียงอนุ แต่ก็เป็นอนุของซื่อจื่อ ถังป๋อคนนี้ดีนักใบหน้าหล่อเหลา เขาคงถูกตาต้องใจเจ้าจึงได้ทุ่มเทมากมายเช่นนี้ เดิมทีข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะมีโชควาสนาอันใดกับเขาแต่ครานี้โชคมาถึงที่แล้ว วันนี้มาบอกเจ้าให้เตรียมตัว เรื่องแต่งงานข้าจะเร่งให้เร็วที่สุด หาไม่หากฝ่ายนั้นเปลี่ยนใจขึ้นมาเราเป็นฝ่ายหญิงจะเสียหายเอาได้"

จื่อรั่วอิงหน้าตึงอย่างไม่พอใจทันที

"ท่านย่าเจ้าคะ ข้าอยากแต่งเข้าจวนลี่หมิงอ๋องท่านกลับไม่อนุญาต แต่กลับยินดีที่ข้าจะแต่งเข้าจวนซื่อจื่อที่มีอนุอยู่ก่อนมากมาย ยังคิดถึงเรื่องกลัวเสียชื่อเสียงทั้ง ๆ ที่ข้าบอกว่าถูกลี่หมิงอ๋องลวนลามพวกท่านกลับไม่เอ่ยถึง การกระทำกับคำพูดของพวกท่านช่างย้อนแย้งกันเป็นอย่างยิ่ง ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ เลย"

"หุบปากเสีย อย่าเสียงดังโวยวายจนคนอื่นได้ยิน ข้าบอกแล้วว่าเรื่องที่เจ้าพูดไม่เคยเกิดขึ้น เป็นเพียงเรื่องเพ้อเจ้อของเจ้าเพียงลำพัง หากยังพูดอีกข้าจะให้ท่านพ่อของเจ้าขังเจ้าจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน โชคดีที่วันนี้ข้าอารมณ์ดียิ่งจึงไม่อยากให้วันดี ๆ ของข้าต้องมาเสียเพราะเจ้า หยุดทำตัวเหลวไหลแล้วเตรียมตัวแต่งงานให้ซื่อจื่อสกุลถัง อย่าได้คิดแต่งกับผู้ใดอีก"

"ท่านย่า ข้าไม่แต่งกับซื่อจื่อนั่น ข้าจะแต่งกับลี่หมิงอ๋อง ท่านคืนสินสอดเขาไปเถิดคนผู้นี้จะร่ำรวยกว่าลี่หมิงอ๋องได้อย่างไร ท่านย่าข้าจะหาสินสอดมาให้ท่านมากกว่านี้อีกข้ารับรอง ท่านชอบเงินชอบทองไม่ใช่หรือ ข้าสัญญาถ้าท่านเชื่อข้า ข้าจะหามาให้ท่านเป็นสองเท่ามากกว่าที่ได้รับวันนี้เลย"

สิ่งที่ได้รับคืออาการเจ็บแปลบที่ลำแขนของตน ด้วยบัดนี้นางถูกมือเหี่ยว ๆ ของท่านย่าบิดอย่างแรง

"เจ้าหลานคนนี้หมายความว่าอย่างไร เจ้าเห็นข้าเป็นสตรีเห็นแก่เงินหรือ ด้วยฐานะลูกอนุอย่างเจ้ายังหวังให้ผู้ใดส่งสินสอดจำนวนมากเช่นนี้มาให้อีก จะให้ข้าเอาไปคืนหรือฝันไปเถิด นับจากนี้ข้าจะให้คนมาสั่งสอนเจ้าให้ดี สตรีออกเรือนต้องทำเช่นใด คงหวังพึ่งแม่เจ้าให้สั่งสอนไม่ได้ หากยังมีนิสัยเช่นนี้แต่งเข้าจวนคนอื่นคงได้ถูกแม่สามีรังเกียจเอาเป็นแน่ อย่างไรเจ้าก็ต้องคิดหน้าตาสกุลจื่อของข้าด้วย"

ท่านย่าโมโหจนควันออกหู ไม่คิดว่าหลานสาวปากร้ายผู้นี้จะกล้าว่านางเห็นแก่เงินเช่นนี้ ทั้งหมดนี่ต้องโทษเลือดไพร่ของอนุหลินผู้เป็นมารดา

อนุหลินได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าเอ่ยคำใด ทุกครั้งที่บุตรสาวต่อล้อต่อเถียงกับฮูหยินผู้เฒ่านางก็มักจะยืนดูอยู่ห่าง ๆ ด้วยรู้ดีว่าหากยื่นมือเข้าไปยุ่งก็ยิ่งทำให้เรื่องราวบานปลาย

 ถึงแม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะไม่ค่อยชอบจื่อรั่วอิงที่ซุกซนเกินไปแต่ การลงโทษที่บุตรสาวได้รับ นอกจากคุกเข่า ถูกบิดแขน แล้วก็มีเพียงกักบริเวณเท่านั้น ซึ่งหากจะเปรียบเทียบกับเรื่องที่จื่อรั่วอิงก่อเอาไว้ก็นับเป็นการลงโทษสถานเบานัก

"คุกเข่าลง ฟังคำของข้าให้ดี"

ท่านย่ากล่าวจบก็เริ่มต้นสั่งสอนหลานสาวตัวดีให้ได้รู้สำนึก คนแก่เอ่ยแต่ละคำเชื่องช้าและยืดยาด แรก ๆ จื่อรั่วอิงก็ผงกศีรษะฟังอยู่บ้าง แต่ประโยคหลัง ๆ ก็เริ่มไม่เข้าหู เวลาผ่านไปไม่นานจื่อรั่วอิงก็เริ่มหาว

เมื่อเห็นหลานสาวตั้งใจฟังคำอย่างดี ท่านย่าผู้มีความรู้อันมากมายก็เริ่มพรั่งพรูคำสอนออกมาไม่หยุด หลังจากสั่งสอนจื่อรั่วอิงชุดใหญ่ผู้ชราก็พักเหนื่อยจิบน้ำชาไปหลายอึกเนื่องจากคอแห้ง ท่านย่าวางถ้วยน้ำชาลงแล้วเอ่ยต่อ

"จื่อรั่วอิง คำของย่าที่พูดไปเมื่อสักครู่เข้าใจหรือไม่"

เงียบ...

มารดาของจื่อรั่วอิงกระแอมเล็กน้อยแล้วเอ่ยเรียกเบา ๆ 

"อิงเอ๋อร์ ท่านย่ากำลังถามเจ้า"

คร่อก...ฟี้.... 

เมื่อเสียงกรนเบา ๆ ดังขึ้น สตรีชราถึงกับโกรธจนหน้าสั่น

"จื่อรั่วอิง!"

คราวนี้ฮูหยินชราถึงกับแผดเสียงจนจื่อรั่วอิงสะดุ้งตื่น นางหันไปรอบ ๆ พร้อมกับยกหลังมือปาดน้ำลายที่เกือบจะหยดลงมาทั้งอ้าปากหาวจนน้ำตาคลอเบ้า

"ท่านย่า ท่านเรียกข้าทำไมเจ้าคะ"

จื่อรั่วอิงมองท่านย่าอย่างงุนงง แน่นอนว่าท่านย่าของนางบัดนี้รู้ได้ว่า หลานสาวคนนี้ไร้หนทางเยียวยาแล้วกระทั่งคุกเข่าอยู่เช่นนี้ยังนอนหลับได้อย่างน่าอัศจรรย์ ท่านย่าส่ายหน้าไปมาทั้งลุกขึ้นด้วยความรู้สึกหมดหวังในตัวหลานสาวผู้นี้

"ช่างเถิด สตรีที่แต่งออกไปแล้วก็เหมือนกับน้ำที่สาดออก ต่อไปเรื่องของเจ้าหลังแต่งงานจะไม่เกี่ยวข้องกับจวนเสนาบดีอีก เฮ้อ เหนื่อยใจเหลือเกิน"

กล่าวจบท่านย่าก็ถูกท่านแม่ของนางและบ่าวรับใช้คนนั้นพยุงออกจากเรือนไปช้า ๆ โดยไม่หันมามองนางอีก

 จื่อรั่วอิงยังมึนงงแคะขี้ตาที่ดูเหมือนว่าจะติดที่หางตาเล็กน้อยแล้วปัดมือทำท่าจะลุกขึ้น ทว่าเสียงเย็นเยียบจากผู้ชราที่หันหลังให้นางกลับดังขึ้น

"ผู้ใดให้เจ้าลุกขึ้น คุกเข่าเช่นนั้นจนกว่าจะพ้นยามซวีวันนี้[1]  พวกเจ้าไปนับสินสอดให้ดีแล้วเอาไปเก็บที่เรือนข้างในของข้า อย่าให้นังเด็กตัวดีเอาสินสอดไปคืนจวนถังอ๋องได้เป็นอันขาด"

ท่านย่ารู้ทันนิสัยหลานสาว ก่อนจากไปแล้วทิ้งน้ำเสียงอำมหิตเอาไว้ให้คนกลัว

 จื่อรั่วอิงชะเง้อคอมองท่านย่ากระทั่งไม่เห็นแผ่นหลังของผู้ชราแล้วจึงได้ปัดมือแล้วลุกขึ้น

"หึ จะให้ข้านั่งทั้งวันทั้งคืนเลยหรือไร ผู้ใดเชื่อฟังก็โง่แล้ว แค่เผลอหลับไปแป๊บเดียวเองทำไมท่านย่าต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วยนะ ไร้สาระจริง ๆ สินสอดไม่คืนก็ไม่คืนสิ ข้าต้องหาวิธีจนได้แน่ ๆ"

ในขณะที่ครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

"คุณหนูขอรับ"

จื่อรั่วอิงมองไปตามเสียง เห็นว่าเป็นเจ้าอ้วนเป่าที่อยู่ในชุดบ่าวรับใช้เช่นเดิมแล้วจึงยิ้มด้วยความดีใจเป็นอย่างยิ่ง เจ้าอ้วนเป่ามาได้จังหวะเหมือนนัดเอาไว้

"เจ้าไม่เป็นพระแล้วหรือจึงมาอยู่ที่นี่ได้"

"ขอรับ ข้าน้อยสึกออกมารับใช้คุณหนูแล้ว หลังจากวันนั้นที่เกิดเรื่องพระพวกนั้นก็ไม่ไว้ใจบ่าวอีกขอรับ"

"อ้วนเป่าเจ้ารีบเข้ามาแล้วปิดประตูเร็วเข้า เราต้องระดมสมองคิดหาวิธีโดยด่วน"

หนึ่งชั่วยามต่อมา รายชื่อบุรุษหนุ่มในแคว้นที่ก่อนหน้านี้จื่อรั่วอิงให้อ้วนเป่าทำรายชื่อเอาไว้ก็ถูกกางออกมาอีกครั้ง หลังจากที่ถูกครอบครัวกีดกันอย่างหนักนางจึงคิดถอดใจจากอ๋องตาบอดผู้เย็นชาโหดเหี้ยมและยังเข้าถึงยากผู้นั้นแล้ว

จื่อรั่วอิงค่อย ๆ ขีดรายชื่อออกทีละคนกระทั่งรายชื่อคนสุดท้ายที่อยู่ในมือ น้ำตานางก็ไหลพรากคนทั้งเมืองที่พอจะพึ่งพาได้มีแค่คนพิการสองคนนี้เท่านั้น นี่มันวาสนาชะตาหงส์อะไรกันโกหกสิ้นดี

"คนที่ข้าต้องการ ต้องร่ำรวยและมีความสามารถหยุดการแต่งงานของข้ากับถังซื่อจื่อได้ อีกทั้งต้องไร้ภรรยาและบุตรกวนใจในเมืองนี้นอกจากจวิ้นอ๋องที่ป่วยติดเตียงแล้วก็มีเพียงลี่หมิงอ๋องที่ตาบอด เจ้าอ้วนหรือว่าข้าจะเลือกคนป่วยติดเตียงที่ถูกเมียทิ้งผู้นั้นดี"

"จวิ้นอ๋องผู้นี้ป่วยหนัก ยังถูกพระชายา รวมทั้งอนุทอดทิ้งเพราะได้ข่าวว่าพวกนางทนเวลาที่ท่านอ๋องถ่ายหนักไม่ไหว พวกนางเป็นภรรยาแท้ ๆ ยังทนไม่ได้ คุณหนูของบ่าวเองก็ไม่เคยปรนนิบัติผู้ใดจะทนได้หรือขอรับ สภาพของคนผู้นั้นย่ำแย่กว่าลี่หมิงอ๋องยิ่งนัก ที่ตอนแรกคุณหนูไม่เลือกเขาเพราะเหตุนี้ไม่ใช่หรือขอรับ"

"ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้วอ๋องตาบอดนั่นเข้าถึงยากมาก ครอบครัวข้าก็ไม่เห็นด้วยแต่ก่อนข้าไม่คิดว่าแผนของเราจะล้มเหลวไม่เป็นท่าเช่นนี้ ข้าคิดดีแล้วเปลี่ยนแผนเลือกคนป่วยติดเตียงยังจะดีกว่า จวิ้นอ๋องป่วยเช่นนั้นโอกาสตายมีสูง เจ้าคิดดูสิหากข้าเป็นภรรยาจวิ้นอ๋องถ้าเขาตายเร็วข้าจะมีความสุขเพียงใด อ้วนเป่าสิ่งสำคัญในตอนนี้คือข้าต้องหาทางใกล้ชิดและขอจวิ้นอ๋องแต่งงานให้ได้ เจ้าบอกข้าเองว่าจวิ้นอ๋องเป็นคนดีมีน้ำใจกว้างขวาง ชอบช่วยเหลือผู้คนไม่ใช่หรือ เขาต้องฟังคำข้าเป็นแน่"

เจ้าอ้วนเป่าได้ยินดังนั้นก็ชื่นชมคุณหนูของตนเป็นอย่างยิ่ง

"แผนการของคุณหนูช่างล้ำลึกโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนักไม่รู้คิดได้อย่างไรว่าจะเอาคนพิการมาเป็นโล่กำบังยังแช่งให้เขาตายไวตั้งแต่ยังไม่พบหน้า สุดยอดขอรับบ่าวขอยกนิ้วให้แต่คุณหนู แต่คุณหนูขอรับบ่าวไม่เข้าใจบางเรื่อง ไหนคุณหนูบอกว่าตกหลุมรักลี่หมิงอ๋องแล้วไม่ใช่หรือขอรับ เมื่อรักลี่หมิงอ๋องไปแล้วจะแต่งกับคนอื่นได้อย่างไร"

จื่อรั่วอิงที่ยืดอกรับคำชมของอ้วนเป่าด้วยความสุขบัดนี้ส่ายหน้าไปมาให้กับความไร้เดียงสาของเจ้าอ้วนเป่า

"เจ้าจะบ้าหรือ ข้าก็พูดไปเช่นนั้น จะรักได้อย่างไรเขาน่ากลัวเพียงนั้น ไม่ใช่หนุ่มหล่อในฝันเลยสักนิดหนวดเคราเฟิ้มเหมือนโจรราคะแบบนั้นใครจะรักลง ก็แค่พูดขำ ๆ ให้คนคิดจริงจังก็เท่านั้นเผื่อพวกเขาจะเห็นใจข้าบ้าง"

"อ้อ คุณหนูยอดเยี่ยมอีกแล้ว แต่คุณหนูขอรับท่านอ๋องล่วงเกินคุณหนูเพียงนั้นแล้วนะขอรับ จะไม่แต่งได้อย่างไร"

เจ้าอ้วนเป่าไม่พูดเปล่า เขายังยกมือจับหน้าอกตัวเองเลียนแบบท่าทางของลี่หมิงอ๋องในวันนั้น จื่อรั่วอิงเองคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วถึงกับหน้าแดง นางส่ายหน้าสลัดความรู้สึกประหลาดออกไปแล้วเอ่ยว่า

"จับแล้วอย่างไร เอาไปไม่ได้สักหน่อย ข้าจะคิดเป็นกุศลถือว่าทำทานให้หมามันกินก็ได้ ข้าตัดสินใจแล้ว เจ้าไปสืบความมาทำอย่างไรถึงจะเข้าจวนจวิ้นอ๋องได้"

"คุณหนูตัดสินใจแน่แล้วหรือขอรับ"

"ใช่ เจ้ารีบไปเถิดกำหนดวันแต่งงานของข้าจะมีขึ้นในอีกไม่ช้า เราไม่มีเวลามาก"

อ้วนเป่ารับคำ รีบวิ่งออกไปจากเรือนของจื่อรั่วอิงตามคำสั่ง จื่อรั่วอิงเดินวนไปวนมาในเรือนของตนไม่อาจออกไปที่ใดได้เพราะว่าถูกกักบริเวณ กระทั่งหลายชั่วยามต่อมาเจ้าอ้วนเป่าก็วิ่งกลับเข้ามาด้วยเหงื่อที่โทรมกาย

"สำเร็จแล้วหรือ ทำไมไวยิ่งนัก"

อ้วนเป่าส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า "ข่าวร้ายขอรับจวิ้นอ๋องสิ้นใจไปเสียแล้วที่จวนกำลังวุ่นวายขอรับ ได้ข่าวว่าฮ่องเต้เพิ่งเสด็จมาด้วยตนเอง"

จื่อรั่วอิงดวงตาเบิกค้าง "อะไรนะ เจ้าว่าเขาตายแล้วหรือ"

"ขอรับ ข่าวว่าจวิ้นอ๋องอาการป่วยหนักมาหลายวันแล้วขอรับ"

จื่อรั่วอิงรู้สึกหมดแรงได้แต่ก่นด่าสวรรค์ออกมา

 "นี่จวิ้นอ๋องหวาดกลัวข้าจนกระทั่งชิงตายไปเสียแล้วหรือ ทำไมสวรรค์ใจร้ายกับข้าเช่นนี้ ท่านเทพท่านได้ยินข้าหรือไม่ ท่านกำลังบีบให้ข้าจมมุมใช่หรือไม่"

อ้วนเป่าหอบหายใจแรงทั้งเอ่ยถาม

"แล้วเราจะทำอย่างไรกันต่อขอรับ"

จื่อรั่วอิงนั่งลงเอามือเท้าคางบนโต๊ะ เคาะนิ้วเรียวอย่างใช้ความคิด นางนิ่งไปสักครู่ก่อนจะเอ่ยว่า

"ไม่มีทางเลือกแล้ว พรุ่งนี้เจ้ากับข้าจะบุกจวนลี่หมิงอ๋อง ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วข้าจะถือว่าเป็นเพราะสวรรค์ลิขิต ข้าจะไม่มีทางให้พลาดอีกเป็นครั้งที่สอง ลี่หมิงอ๋องในเมื่อเจ้าหลบเก่งนักข้าจะแสดงให้เจ้าดูว่านักล่าตัวจริงเป็นเช่นใด"

 เชิงอรรถ

^ ยามซวี ประมาณ 3 ทุ่ม

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 55 ตอนพิเศษ 4 (จบตอนพิเศษ)

    “กวนเกอร์เอ๋อร์ วาดอะไรอยู่หรือ”เด็กน้อยตัวอวบอ้วนวัยสามขวบเงยหน้าขึ้นมาจากกระดาษที่อยู่ตรงหน้า มือเล็กยังถือพู่กันเอาไว้พร้อมกับเอ่ยว่า“วาดภูเขาพ่ะย่ะค่ะ”จื่อรั่วอิงเดินท้องโย้เข้ามาใกล้บุตรชาย โดยมีเสี่ยวหยุนคอยประคอง“ไหนเอามาให้แม่ดูหน่อย”เด็กน้อยส่งกระดาษให้ผู้เป็นมารดาดู พร้อมกับมองตาแป๋ว“ลูกวาดเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ”จื่อรั่วอิงเห็นว่าภูเขาของบุตรชายประหลาดนัก ทว่าก็ได้แต่อมยิ้มแล้วพยักหน้าช้า ๆ“งามมาก กวนเกอร์เอ๋อร์ของแม่ช่างเป็นผู้มีพรสวรรค์จริง ๆ วาดภูเขาได้เหมือนมาก แล้วจุดสองจุดตรงภูเขาคืออะไรหรือ”เด็กน้อยเกาศีรษะกลมพร้อมกับส่ายหน้า“ยังไม่รู้พ่ะย่ะค่ะ ต้องถามเสด็จพ่อ”จื่อรั่วอิงขมวดคิ้ว ด้วยบัดนี้ท่านอ๋องเข้าวัง มีเพียงบ่าวของนางเจ้าอ้วนเป่าที่คอยฝนหมึกให้และบ่าวของท่านอ๋องอาฟงที่คอยปรนนิบัติอยู่ข้าง ๆ“ไยต้องถามเสด็จพ่อเล่า”“เพราะลูกมีภาพวาดของเสด็จพ่อเป็นต้นแบบ อาฟงบอกลูกว่ายามนั้นเสด็จพ่อตาบอดมองไม่เห็นสิ่งใดยังพากเพียรวาดรูปฝึกปรือฝีมือ ความเพียรนี้สมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างพ่ะย่ะค่ะ”จื่อรั่วอิงนั่งลงข้าง ๆ บุตรชาย นางลูบท้องใหญ่ของตนเองที่บัดนี้ตั้งครรภ์ได้เ

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 54 ตอนพิเศษ 3

    “ทะท่านอ๋อง ช่วยหม่อมฉันด้วยเพคะ”จื่อรั่วอิงมือสั่น“นี่เจ้ากล้าเรียกสามีข้าหรือ เจ้าไม่ได้ตายดีแน่”สาวใช้ของคุณหนูผู้นั้นกอดคุณหนูของตนเองเอาไว้แน่น ยังเอ่ยว่า“พระชายา คุณหนูของบ่าวได้รับบาดเจ็บข้อเท้าแพลงไม่อาจขยับได้เพคะ อย่าทำร้ายคุณหนูของข้า นางได้รับบาดเจ็บอยู่นะเพคะ”“เจ็บจริง ๆ หรือไม่ข้าต้องทดสอบ เจ้ารู้หรือไม่หากข้าฟาดแส้ไปที่ใบหน้าของนาง คงต้องเสียโฉมไปตลอดกาลเป็นแน่ อยากลองดีหรือไม่”กล่าวจบจื่อรั่วอิงฟาดแส้ลงมาครั้งหนึ่งลงไปข้างกายของนางผู้นั้น ผู้คนเริ่มมามุงดูกันด้วยความสงสัย ในขณะที่สตรีทั้งสองคนกรีดร้องอย่างหวาดกลัวสาวใช้กลับไม่ยินยอม“ท่านถือดีอย่างไรจึงได้ลงมือตีคนกลางถนนเช่นนี้ คุณหนูของข้าเป็นถึงธิดาของท่านผู้ว่าการศึกษานะเพคะ”จื่อรั่วอิงถลึงตาใส่คนทั้งสอง“ข้าถามหรือว่านางเป็นลูกใคร ได้ไล่ไม่ไปใช่หรือไม่ หากไม่ไปอย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ ข้าจะตีพวกเจ้าทั้งนายและบ่าวให้ตายไปข้างหนึ่ง”จื่อรั่วอิงเงื้อมือขึ้นเตรียมฟาดแส้ลงมา ไม่น่าเชื่อว่าสตรีที่บ่อน้ำตาแตกท่าทางอ่อนแอนางนั้นบัดนี้จะลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีไปสุดชีวิต ทว่ากลับไม่ทันเสียแล้ว เมื่อแส้ในมือของนางยังฟาดเข้าท

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 53 ตอนพิเศษ 2

    “กอดข้าหน่อยเพคะ”เขาถอดรองเท้าแล้วสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนนั้นกอดมือใหญ่ดึงร่างเล็กมากอด จื่อรั่วอิงขยับกายมาแนบชิดเกยก่ายร่างตนเองบนร่างกายใหญ่โตของเขาอบอุ่นและหอมกรุ่นยิ่งนักเขาลูบแผ่นหลังของนางอย่างรักใคร่“เหตุใดเอาแต่นอน หากนอนมากจะไม่สบายไม่รู้หรือ”จื่อรั่วอิงส่ายหน้า“ไม่ได้นอนอย่างเดียวเพคะ ยังตื่นขึ้นมากินด้วย”“กินกับนอนไม่กลัวอ้วนหรือ”“ไม่กลัวเพคะ คนเราต้องใช้ชีวิตให้ดีหากชอบกินก็กินเสียก่อนที่จะไม่ได้กิน หม่อมฉันเคยตายมาแล้วของที่อยากได้ก็ไม่ได้ใช้จึงคิดเสียดายยิ่ง ชาตินี้จึงคิดว่าหากอยากจะทำอะไรก็จะทำเพคะ”นางมักจะพูดเช่นนี้เสมอว่าตนเองเคยตายมาแล้ว ปกติจื่อรั่วอิงมักพูดจาประหลาดอยู่แล้ว ลี่หมิงอ๋องจึงเคยชินกับคำพูดของนางจึงไม่ได้เอ่ยถามคำใดเขาขยับตัวขึ้นนั่งโดยมีจื่อรั่วอิงพังพาบอยู่บนร่างกายเขา ได้กอดสามีเหมือนกอดเตาอุ่นนางจึงซุกหน้าเข้ากับอกของเขาแล้วถูเบา ๆ“ไม่คิดออกไปข้างนอกหรือ มีข่าวว่ามีของน่าสนใจมากับเรือเทียบท่าลำใหญ่ที่เพิ่งมาถึง”“ไม่ไปเพคะ หนาวข้าไม่ชอบความหนาวอยากนอน”“ไม่ไปจริงหรือ”“จริงเพคะ”แน่นอนว่านอกจากนางจะไม่ไปแล้ว ยังล็อกตัวสามีแน่นหนาไม่ยอมให

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 52 ตอนพิเศษ1

    ตอนพิเศษ ตอนที่ 1หลังแต่งงานใหม่เข้าจวนอ๋องในฐานะพระชายาได้สองปีกว่าจื่อรั่วอิงก็ไม่ยอมตั้งครรภ์ ด้วยนางยังห่วงความสนุกสนานในชีวิตวัยรุ่นของนางยิ่งนักในแต่ละวันหลังจากท่านอ๋องเข้าวังหลวงไปทำงาน จื่อรั่วอิงก็มักจะกลับไปจวนของตนเองเพื่อไปเยี่ยมท่านย่าและน้องสาวทั้งสองอยู่เสมอโดยขากลับต้องลำบากลี่หมิงอ๋องต้องไปรับนางด้วยตัวเองทุกวันก่อนหน้านี้ท่านย่ามาเยี่ยมที่จวนอ๋อง หลังจากเดินวนชื่นชมความงดงามของจวนพร้อมกับบ่าวคนสนิทและน้องสี่น้องห้าจนเหนื่อยก็ลงมือต้มน้ำแกงให้นางดื่มบำรุงกำลัง“เจ้าสามอย่าหาว่าย่าสั่งสอน อย่างไรเราเป็นสตรีการมีบุตรให้สามีคือหน้าที่ เจ้าแต่งมาสองปีแล้วยังไม่มีวี่แววเช่นนี้นับว่าบกพร่องต่อหน้าที่แล้ว”“ท่านย่าข้าเป็นภรรยาคน ไม่ใช่แม่พันธ์เพาะลูก อายุก็น้อยเพียงนี้จะรีบมีไปทำไม รอข้าพร้อมก่อนจะมีแน่นอนไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ”“น้อยได้อย่างไร คนอื่นลูกเขาต่างวิ่งกันได้แล้วดูเจ้าสิอย่าทำตัวเหลวไหลนักเลย ของที่ย่านำมาด้วยดื่มให้เป็นประจำบำรุงร่างกายทั้งนั้น ร่างกายสมบูรณ์จะได้ตั้งครรภ์เสียที”จากนั้นก็หันไปสั่งเสี่ยวหยุน“เสี่ยวหยุนอย่าลืมให้พระชายาดื่มยาบำรุงของข้าทุกวัน ร

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 51 ตอนจบ

    บทที่ 51 จบบริบูรณ์วันนี้เป็นวันอันสำคัญที่ฝ่าบาทจัดขึ้นเพื่อลี่หมิงอ๋อง จึงทรงเชิญคนมากมายรวมทั้งคนในครอบครัวของจื่อรั่วอิงมาร่วมงานเลี้ยงฉลอง ท่านย่าของจื่อรั่วอิงตื่นเต้นเป็นอันมาก นางยังได้เชิญญาติ ๆ มาร่วมงานด้วยโดยที่ฝ่าบาทเองก็ไม่ได้ขัดข้องที่เหล่าชนชั้นพ่อค้าเหล่านี้จะเข้าวังร่วมแสดงความยินดี ในขณะที่บิดาและภรรยาทั้งสี่ของเขาต่างก็เข้าร่วมงานด้วยความสำราญใจและยังได้รับการคารวะสุราแทบจะไม่ว่างเว้นจื่อรั่วอิงถึงกับส่ายหน้าเมื่อเห็นท่านย่าแต่งกายด้วยอาภรณ์และเครื่องประดับสีทองทั้งตัว นางกลัวว่าจะถูกคนในวังตำหนิที่ทำตัวเด่นดังเกินหน้าเกินตาน้องสี่ของนางจึงเอ่ยว่า"ฝ่าบาทพระราชทานให้ท่านย่า เพราะบอกว่าเลี้ยงพี่สามมาดียิ่งทำให้พบคนร้ายที่ทำลายดวงตาท่านอ๋อง ความดีความชอบยกให้ท่านย่าทั้งหมด อีกทั้งเครื่องประดับเหล่านั้นจึงยังเป็นลี่ไท่เฟยที่มอบให้ อีกไม่นานลี่ไท่เฟยจะดำรงตำแหน่งไทฮองไทเฮาแล้ว พระนางจึงมีของมากมาย ของกำนัลเหล่านี้ล้วนเป็นพระนางที่คัดเลือกส่งให้ท่านย่าทั้งหมดเจ้าค่ะ"จื่อรั่วอิงย่อมรู้ว่าแม่สามีตอบรับตำแหน่งไทฮองไทเฮาแล้ว นางดีใจจนเนื้อเต้น ไม่ใช่เพราะแม่สามีจะได้ตำ

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 50 ผู้ใดทำผิดต้องรับการลงโทษ

    บทที่ 50 ผู้ใดทำผิดต้องได้รับการลงโทษเจียวลู่ตามคนผู้นั้นมายังสถานที่หนึ่ง บัดนี้นางคุกเข่าอยู่ต่อหน้าคนผู้นั้นพร้อมกับเอ่ยว่า"จัดการเรียบร้อยแล้วเพคะ พวกเขาจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกต่อไป""เจ้าแน่ใจหรือไม่""เพคะ หม่อมฉันลงมือด้วยตนเอง และก่อนออกจากจวนก็ไปพบพวกเขา ทุกคนล้วนนอนหลับแล้วเพคะ""อืม ดีมาก คงมีเพียงเจ้าที่ไว้ใจได้ เจ้าทำพลาดมาแล้วครั้งหนึ่ง คงนี้คงไม่พลาดอีกใช่หรือไม่""เพคะ ทรงไว้ใจหม่อมฉันได้ ไม่พลาดแน่นอน"สตรีนางนั้นแย้มยิ้ม แล้วยกแขนขึ้นกวักมือเรียกเจียวลู่ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"ลูกแม่ มาหาแม่สิ มาใกล้ ๆ แม่"เจียวลู่ขยับเข้าไปใกล้คนผู้นั้น แล้วซบใบหน้าลงบนตัก"เสด็จแม่ยอมรับหม่อมฉันแล้วใช่หรือไม่"สตรีนางนั้นเอ่ยว่า"ไม่ยอมรับได้อย่างไร เจ้าคือลูกแม่มิใช่หรือ หลายปีมานี้ใช้งานเจ้าให้หลบซ่อนตัวในจวนอ๋อง เจ้าทำตามที่แม่สั่งมาเนิ่นนาน สุดท้ายมือของเจ้ายังแปดเปื้อนเลือดคน ทั้งหมดเจ้าแสดงให้เห็นแล้วว่าซื่อสัตย์ต่อแม่เพียงใด แม่ซาบซึ้งใจยิ่งนัก"เจียวลู่เงยหน้ามองนางผู้นั้นแล้วเอ่ยว่า"ไยจึงเปลี่ยนพระทัยสังหารไท่เฟยเพคะ นางโดนยาพิษมาหลายปีเพียงนี้อีกไม่นานก็คงล้มป่วยแล้ว"สองมือข

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status