ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก

ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก

last updateLast Updated : 2025-04-26
By:  เพลงมีนาUpdated just now
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
72Chapters
2.5Kviews
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่สายตาของนางมีเขาเพียงผู้เดียว เพราะหนีการถูกไล่ล่า หญิงสาวจึงเลือกจะกระโดดผาน้ำตกพร้อมนกหงส์หยกตัวน้อย เสียงวัตถุตกลงผิวน้ำอย่างแรงทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นหันไปมองทันที เขาใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปช่วยหญิงสาวในชุดสีแดงดำดิ่งลงไปในน้ำลึกอย่างเร็ว เลือดสีสดปะปนในสายน้ำ มือแกร่งแหวกสายน้ำพยายามคว้าร่างของหญิงสาวไว้ เขาประกบริมฝีปากส่งลมหายใจเข้าปากของนาง เพียงดวงตาคู่นั้นเบิกกว้าง สีหน้าของนางแสดงความตื่นตระหนก ริมฝีปากสั่นระริกพยายามส่งเสียงอย่างยากลำบาก ทำให้เขาจำใจโน้มศีรษะลงใกล้เพื่อได้ยินคำพูดของนาง “ข้า...ได้...พบ...ท่าน...แล้ว... ซือจื่อ”

View More

Chapter 1

Chapter 1. ‘หมอเทวดาไร้ใจ’

         “ไม่เอาแล้ว ข้าไม่ฝึกฝนอีกแล้ว”

เด็กน้อยมองฝ่ามือสองข้างที่ยังสั่นระริกของตนเอง ร่างเล็กนั่งขดตัวในพุ่มดงดอกโบตั๋น  ดวงตางดงามฉ่ำวาวด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอ เด็กหญิงกลั้นเสียงสะอื้นแล้วยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาเร็วๆ ไม่ให้น้ำตาไหลเปื้อนแก้ม

“ไม่เอาแล้ว ข้าไม่ฝึกฝนอีกแล้ว”

พุ่มไม้ที่นางซ่อนตัวอยู่ขยับสั่นไหว เด็กน้อยรู้สึกตัวจึงเงยหน้าขึ้น เป็นจังหวะที่มือข้างหนึ่งแหวกพุ่มไม้ออก นางหลุดปากหวีดร้องแล้วขยับกายเข้าไปด้านในเพื่อซ่อนตัว

            “อ้าว! มีคนอยู่รึ”

            น้ำเสียงคุ้นเคยแม้ไม่ได้อ่อนโยน แต่ทำให้เด็กหญิงได้สติ นางกะพริบไล่หยดน้ำตาที่เอ่อคลอ  เพื่อจะได้มองคนที่แหวกพุ่มไม้แล้วโน้มตัวลงมาจ้องมองนางอยู่

            “เจ้า!”  

นางอ้าปากส่งเสียงได้เพียงแค่หนึ่งคำ เด็กหนุ่มตรงหน้ายกมุมปากเป็นรอยยิ้มบางเบาที่แทบจะมองไม่เห็น และไม่ได้เห็นบ่อยนัก  

มันเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ไม่รู้ที่สายตาของนางมีเขาเพียงผู้เดียว

เสียงวัตถุตกลงผิวน้ำอย่างแรงทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นหันไปมองทันที  เพียงพริบตา ร่างสูงโปร่งทิ้งตะกร้าใส่สมุนไพรลงพื้น ใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปราวเหาะเหิน ทว่าร่างหญิงสาวในชุดสีแดงดำดิ่งลงไปในน้ำลึกอย่างเร็ว เลือดสีสดปะปนในสายน้ำ มือแกร่งแหวกสายน้ำพยายามคว้าร่างของหญิงสาวไว้ เขาแข็งใจพุ่งตัวไปจนคว้าข้อมือของหญิงสาวไว้ได้แล้วกระชากนาง เขารวบร่างของนางไว้ได้แล้วจึงยกมือขึ้นประคองใบหน้าซีดเซียวไว้ ประกบริมฝีปากส่งลมหายใจเข้าปากของนาง ดวงตาคมดุจเหยี่ยวจับจ้องใบหน้าของหญิงสาวแปลกหน้า เปลือกตาที่ปิดอยู่กระตุกเล็กน้อย เมื่อลมหายใจส่งผ่านไปจดหมด มือแกร่งโอบรัดเอวคอดกิ่วไว้แน่นแล้วพาร่างที่ยังไม่ได้สติขึ้นเหนือผิวน้ำ

เขาผงะเล็กน้อยที่เห็นโลหิตไหลเปื้อนเปรอะใบหน้าของนาง เสื้อผ้าที่สวมเปียกชื้นรัดรึงเรือนร่างจนเห็นเส้นโค้งอันเย้ายวนตา  เพียงปลายนิ้วสัมผัสผิวกายเนียนละเอียดดุจหยกใส  หัวคิ้วพลันขมวดผูกปมทันที นางตัวเย็นราวกับผิวน้ำในฤดูหนาว ริมฝีปากที่เผยอส่งเสียงครางเจ็บปวดนั้นเขียวคล้ำและสั่นระริก  ตัวนางเย็นเกินไป หากไม่ได้ยินเสียงครางนี่ละก็ เขามั่นใจว่านางตายไปแล้ว

            “แม่นาง” เขาเรียกแล้วประคองร่างที่ยังไร้สติไปที่ฝั่ง พยายามไม่สนใจเสื้อผ้าที่เปียกแนบเนื้อของหญิงสาว เขาเรียกนางอยู่สองสามครั้ง ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆ เปิดขึ้น เพียงดวงตาคู่นั้นเบิกกว้าง สีหน้าของนางแสดงความตื่นตระหนก

            “ใจเย็นก่อน ข้ามิได้ทำร้ายเจ้า” เขากลัวนางจะส่งเสียงหวีดร้อง ยื่นมือไปเกลี่ยเส้นผมที่ปรกใบหน้า เพื่อจะดูบาดแผลที่ศีรษะของนาง “บาดแผลนี้ท่าทางจะเกิดจากศีรษะกระแทกก้อนหินกระมัง”

            ยังไม่ทันที่เขาจะหยิบผ้าเช็ดหน้ามาห้ามเลือดให้นาง มือเรียวเล็กกลับยื่นมาจับมือของเขาไว้ก่อน ริมฝีปากที่สั่นระริกพยายามส่งเสียงอย่างยากลำบาก ทำให้เขาจำใจโน้มศีรษะลงใกล้เพื่อได้ยินคำพูดของนาง

            “ข้า...ได้...พบ...ท่าน...แล้ว...” นางขยับปากพูดทีละคำ “ซือจื่อ”

            สิ้นคำพูดสุดท้าย ดวงตาของนางก็ปิดลงอีกครั้ง พร้อมกับร่างของนางที่เอนลงสู่แผ่นอกของเขา

เซียวเหรินกายสั่นสะท้านขึ้นมา มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เรียกเขาด้วยชื่อนี้ แต่นั่นเป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้ว นานจนเขาเกือบลืมเรื่องเหล่านี้ไปแล้ว

            ไม่มีใครเรียกชื่อนี้นานแล้วจริงๆ

ชายหนุ่มรูปร่างค่อนไปทางผอมบางก้มๆ เงยๆ อยู่ใกล้โคนต้นไม้ใหญ่ ใบหน้าที่เรียบนิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ใดจ้องมองที่เห็ดดอกใหญ่ ดวงตาฉายแววพอใจแล้วนั่งลง ค่อยๆ บรรจงเอาเห็ดเหล่านั้นออกมาใส่ตะกร้าที่สะพายอยู่ด้านหลัง สภาพภูมิอากาศของที่นี่ทำให้เห็ดหลินจือและพืชสมุนไพรหลายชนิดเติบโตงอกงาม แต่ที่ทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้ามาเก็บเพราะเป็นพื้นที่ชายแดนที่มีการปะทะกันของทหารทั้งสองฝ่าย

            กว่ายี่สิบปีที่ผ่านมา สองแคว้นทำศึกกันอยู่เนิ่นนาน จนกระทั่งเมื่อห้าปีก่อน แต่ละแคว้นต่างส่งองค์ชายและองค์หญิงมาเป็นเชลย มองผิวเผินเหมือนบ้านเมืองกลับสู่ความสงบสุข ทว่าเหมือนท้องฟ้าก่อนเกิดพายุฝน สงบนิ่งก่อนลมพายุมาเยือน แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องราวเหล่านี้มานานแล้ว ใครจะเป็นผู้กุมอำนาจไว้ในมือนั้น เขาหาได้ใส่ใจไม่

            หมอเทวดาไร้ใจ’ 

            ใครต่อใครเรียกขานเขาเช่นนั้น  เซียวเหรินไม่ต้องการให้ใครเรียกเขาว่าหมอ ไม่ได้สนใจอยากรักษาผู้ใดนัก ทว่าผู้คนมากมายกลับแบกหามคนเจ็บป่วยมาให้รักษา ถ้อยคำบอกปัดไปเท่าไหร่ก็ไม่มีความหมาย พอไล่ไม่ไป เขาเกรงว่าคนเหล่านั้นจะมานอนตายหน้ากระท่อมหลังน้อย ทำให้เขาจำใจต้องลงมือดูแลรักษาไปตามสภาพ

            หลายปีมานี้เขาตั้งใจศึกษาตำราแพทย์อย่างเงียบสงบไม่สนใจเรื่องใด ไม่สนใจว่าใครจะเป็นฮ่องเต้หรือแคว้นใดวางแผนใดอยู่ ใครจะอยู่เบื้องหน้า ใครจะกุมอำนาจ ล้วนมิใช่เรื่องที่เขาใส่ใจ

            ขณะที่เก็บเห็ดได้มากจนพอใจแล้ว เขายืนขึ้นและคิดถึงหญิงสาวแปลกหน้าที่จำใจต้องดูแล นางหลับใหลไม่ได้สติมาสองวันแล้ว จากที่เขาตรวจดู นอกจากบาดแผลบนศีรษะแล้ว ตามเนื้อตัวมีรอยบอบช้ำหลายแห่ง นางใส่ชุดเจ้าสาวสีแดงงดงาม เนื้อผ้าตัดเย็บอย่างประณีต ดูแล้วไม่น่าเป็นหญิงชาวบ้านทั่วไป

            ‘ซือจื่อ’ 

            ถ้อยคำนั้นยังติดค้างในความรู้สึกของเขา

            อาจเป็นความบังเอิญก็ได้

            ‘ซือจื่อ’ เป็นชื่อรองของเขา ท่านอาจารย์โจวเป้าตั้งให้เมื่อครั้งที่เขายังเป็นเด็กชายคึกคะนอง มีนิสัยเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ ไม่พอใจผู้ใดเป็นอันได้ลงไม้ลงมือโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ท่านอาจารย์โจวเป้าไม่รับศิษย์มากนัก คราวนั้นมีเพียงสามคน เขาไม่ถนัดทั้งบุ๋นและบู๊ แต่ชื่นชอบการแพทย์ จึงมีน้อยคนนักที่จะรู้ชื่อรองของเขา แต่นั่นเป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้ว นานจนเขาเกือบลืมเรื่องเหล่านี้ไปแล้ว

            ไม่มีใครเรียกชื่อนี้นานแล้วจริงๆ

            ตะกร้าของเซียวเหรินมีเห็ดและสมุนไพรอื่นๆ ที่นับว่ามีค่ายิ่ง เขาสะพายขึ้นหลังแล้วเดินกลับไปที่กระท่อมหลังน้อยของตนที่อยู่ตีนเขาเป่ยหมาง หากคนปกติทั่วไปเดินเท้าใช้เวลาราวสองชั่วยาม แต่เซียวเหรินใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วยามก็มาถึงที่หมาย เขาอยู่อย่างสันโดษ ไม่มีผู้ติดตามหรือบ่าวรับใช้ เขาไม่อนุญาตให้คนเจ็บคนป่วยพักอยู่ในเรือนของเขา แต่กระนั้นกระท่อมของเขาก็ไม่ไกลหมู่บ้านนัก แม้เรือนของเขาไม่ต้อนรับคนเจ็บคนป่วย แต่คนเหล่านั้นก็อาศัยขอแบ่งปันห้องพักจากชาวบ้านเพื่อรอให้เขารักษา แต่ครั้งนี้เขากลับละเมิดกฎของตนเอง เพราะหญิงสาวในชุดเจ้าสาวสีแดงมงคล

            เพียงเข้าไปในรั้วบ้าน ดวงตาของเขาเห็น ติงชุ่ยหญิงสาวในหมู่บ้านที่มักเข้ามาดูแลความเป็นอยู่ของเขา ทั้งที่ปฏิเสธนางไปหลายครั้ง แต่นางก็ยังมาช่วยซักเสื้อผ้าทำความสะอาดบ้านให้เขา

            “ท่านเซียว” 

            เนื่องจากเขาไม่ชอบให้ผู้อื่นเรียกว่า ‘หมอ’ นางจึงเรียกเขาว่า ‘ท่านเซียว’ หญิงสาวท่าทางโผงผางยิ้มเจื่อนแล้วขยับตัวออกห่างจากบานประตูที่ปิดสนิท

            เซียวเหรินเพียงถอนหายใจหนักๆ เช่นทุกครั้ง เขาเดินเข้าไปแล้ววางตะกร้าสมุนไพรลง ติงชุ่ยกุลีกุจอรินน้ำชาส่งได้  แต่สายตายังพะวักพะวนที่หลังบานประตูนั้น

            “เจ้ามาก็ดีแล้ว” เซียวเหรินจิบน้ำชาชุ่มคอแล้วเอ่ย  “มีคนเจ็บอยู่

ข้างใน ข้าอยากให้เจ้าช่วยหาเสื้อผ้าสตรีให้สักชุดสองชุด”

            “สตรี!” ติงชุ่ยหลุดปากพูดเสียงดัง “มะ...มีสตรีอยู่ที่บ้านท่าน!”

            “นางได้รับบาดเจ็บต่อหน้าข้า” เซียวเหรินทำเป็นไม่เห็นสีหน้าตกใจของติงชุ่ย ขณะที่กำลังจะผลักบานประตูเข้าไปด้านใน เขาก็รับรู้ได้ว่ามีชายอีกคนเดินแบกฟืนเต็มบ่าเข้ามา

            “ท่านเซียว ข้าเอาฟืนมาเพิ่มให้ อีกสี่ห้าวันเผาถ่านเสร็จจะเอามาให้ท่านเซียวอีกขอรับ”

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

Comments

No Comments
72 Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status