"ห้องยิ้มอยู่ฝั่งโน้นนะ ของพวกนี้ก็ใช้ได้หมดเลย ส่วนเสื้อผ้าจะไปเอาหรือจะให้ซื้อให้ใหม่"
"ไม่ต้องก็ได้ แค่เธอ ปะ ปล่อยเรา เราไปหาเองได้ "
รอยยิ้มแห้ง ๆ ส่งผ่านใบหน้าหวาน ซึ่งตอนนี้ด้านหนึ่งยังมีรอยแดงแต่ก็นับว่าดีกว่าเมื่อก่อน ตลอดระยะเวลาที่เดินทางมาที่คอนโดแห่งนี้ ไม่มีโอกาสสักครั้งที่เธอจะเล็ดลอดไปไหนได้ เพราะเขาไม่ปล่อยให้เธอคลาดสายตาเลยสักนิด แถมยังมีชายหนุ่มร่างบึกบึนอีกสองคนที่เขาบอกว่าเป็นผู้ช่วยส่วนตัว เดินประกบตลอดเวลา
"อยู่ครบสามเดือนค่อยว่ากัน" น้ำเสียงเยือกเย็นที่คนฟังไม่กล้าเปิดปากถามอะไรต่อ
บางทีเธอก็แอบกลัวว่าเขาอาจจะอารมณ์ไม่ดีและฆ่าเธอทิ้ง หากยังคงพูดประโยคเดิมซ้ำ ๆ เธอไม่เคยพบเจอกับเขามาก่อน แน่นอนว่าให้ตายยังไงก็เดาไม่ออกว่าแท้จริงเขานั้นมีนิสัยใจคออย่างไร?
"จะ จะให้อยู่ยังไง ต้องทำอะไรบ้าง "
ในเมื่อหนีไม่ได้ คนอ่อนแอแบบเธอจะเลือกสิ่งไหนได้นอกจากเจรจาและตกลงกับเขาให้ชัดเจน แต่ถ้าให้เดาสภาพแบบเธอเขาคงไม่เอาเธอมาเพื่อทำเรื่องแบบนั้นหรอกมั้ง ตัวเธอเองเดินผ่านกระจกเมื่อกี้นึกว่าคนเก็บขยะ ส่วนเขาเธอไม่กล้าเทียบแน่นอน เขาเหมือนอยู่ไกลจากเธอหลายร้อยเท่า…
"ใช้ชีวิตปกติ ทำเหมือนที่เคยทำ แต่แค่อยู่เป็นเพื่อนเรา ไปไหนก็ต้องไปด้วย แค่นั้น"
"เพื่ออะไร?"
"เพื่อความสบายใจ" ไบร์ทยังคงตอบเสียงเรียบ เช่นเดียวกับใบหน้านิ่งเฉยไร้ความรู้สึกใด ๆ
"เราไม่มีประโยชน์หรอก ออกจะน่าเบื่อ เป็นเพื่อนใครไม่ได้จริง ๆ" เสียงใสพยายามเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าจะกลัว ๆ เขาอยู่บ้างก็ตาม
"อย่าเอาคำพูดของคนเลว ๆ คนเดียวมาด้อยค่าตัวเอง"
คล้ายกับเขาเอ่ยลอย ๆ ก่อนที่จะเดินไปนั่งพักบนโซฟาตัวยาว พร้อมกับกวักมือเรียกเธอให้ตามไปด้วย
"ดูแมวไหม?"
"ฮะ!!"
"ไม่ ๆ แมวจริง ๆ ที่มันร้องเมี้ยว ๆ"
เมื่อเห็นว่าอีกคนตกใจจนดีดตัวลุก พ่อหนุ่มลูกครึ่งหน้าหล่อก็ดีดตัวลุกขึ้นตาม ก่อนที่จะรีบอธิบายและทำท่าทางประกอบ เขาเองก็ไม่รู้จะชวนเธอทำอะไร เพราะนี่เป็นวันแรกที่ได้เจอ เขากลัวเธอจะเหงาและประหม่าจนใช้ชีวิตลำบาก เลยอยากให้ผ่อนคลาย
"อะ อ๋อ เหรอ เหอะ ๆ"
หญิงสาวร้องอ๋อ พร้อมกับเสียงหัวเราะแห้ง ๆ ไปสองสามครั้ง เธอเป็นประเภทที่ต่อให้มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ใบหน้าก็มักจะเปื้อนยิ้มสมชื่อเสมอ
"อยู่ในห้องน่ะ เดินเข้าไปดูสิ ถ้าเบื่อ ๆ ก็เล่นกับมันได้" เขาพยักหน้าไปยังห้องที่อยู่ข้างกันกับห้องเธอ
"ไม่เป็นไร รอมันออกมาก็ได้" เธอตอบไปแบบนั้นเพราะไม่กล้าเข้าห้องเขาต่างหาก
"มันไม่ค่อยออกมาหรอก แมว Introvert มันเก็บตัวเก่งยิ่งกว่าอะไรดี"
"งั้นเหรอ"
"ยิ้ม"
"ฮะ?"
"จำไบร์ทไม่ได้จริง ๆ เหรอ?"
"เราเคยรู้จักกันงั้นเหรอ?"
เหมือนกับว่าหนุ่มหล่อคนนี้รู้จักเธอมานาน เขาพูดประโยคนี้ซ้ำเป็นครั้งที่สอง แต่จะให้ทำอย่างไรในเมื่อเธอจำเขาไม่ได้จริง ๆ ทำได้เพียงแสดงสีหน้างงงวยอย่างชัดเจน พร้อมกับส่ายหน้าปฏิเสธ
"อ๋อ ไม่เป็นไร ๆ"
ก่อนที่เขาจะก้มหน้างุดและเดินกลับเข้าห้องไป ทิ้งให้เธอหันซ้ายขวา เป้าหมายต่อมาคือประตูห้อง แต่เสียดายที่เปล่าประโยชน์ เพราะมันต้องใช้รหัสผ่าน
เธออับจนหนทางแล้วจริง ๆ จึงเดินเข้าห้องที่เขาชี้ให้ดูตอนแรก ภายในห้องดูสะอาดสะอ้าน ของตกเเต่งทุกอย่างดูเรียบง่าย การทาสีและตกแต่งทุกอย่างล้วนเป็นสีขาวสะอาดตา เธอเดินมาเปิดตู้เสื้อผ้าก็พบว่ามีเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ และเสื้อยืดอยู่ประมาณสามสี่ตัว เธอจึงเดินเข้าห้องน้ำชำระร่างกายเตรียมที่จะพักผ่อน
วันนี้เธอเหนื่อยมากเกินไปแล้วจริง ๆ เมื่อได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ก้อนสะอื้นแล่นมาจุกตรงกลางอกอีกระรอก ทั้งเจ็บปวด ผิดหวัง และเสียใจ...
ผู้ชายที่เธอรักและภักดีกับเขามาตลอดสี่ปี กลับให้บทเรียนที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่เธอเกิดมาจนอายุยี่สิบเอ็ดปี มันไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการที่ถูกแฟนตัวเองใช้เป็นของรางวัลให้กับคนที่ชนะพนันอีกแล้ว
ไม่มีอะไรที่ดูไร้ค่าเท่าเธออีกแล้ว…
"ฮึก~ ขอโทษนะยิ้ม ขอโทษที่พาตัวแกมาเจ็บแบบนี้"
ยิ่งคิดย้อนกลับไป เธอยิ่งสมเพชตัวเองที่อดทนให้เขาเหยียบหัวเล่น ทั้ง ๆ ที่ยิ้มคนเดิมไม่ใช่คนที่อ่อนแอ และยืมจมูกคนอื่นหายใจขนาดนี้ เธอควรพอได้แล้ว ควรกลับมารักษาตัวเองให้เป็นยิ้มตัวจริงสักที
เธอจะอดทนอยู่กับเขาคนนั้นให้ครบสามเดือน อย่างน้อยเขาก็ยังดูเป็นสุภาพบุรุษ มากกว่าคนที่เธอเคยรัก ถึงเขาจะน่ากลัวแค่ไหนก็ตาม...
ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขัดจังหวะการฟูมฟายของสาวเจ้าที่นั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง เธอค่อย ๆ ลุกไปเปิดประตูอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
เมื่อประตูถูกเปิดออกก็พบเข้ากับไบร์ทที่สวมเพียงกางเกงนอนขายาว เปลือยส่วนบนที่เต็มไปด้วยมวลกล้ามเนื้อ ยืนจังก้าอยู่หน้าห้องส่งสายตาแปลก ๆ มาที่เธอ บนตัวเขามีรอยสักมากมายเต็มไปหมด จนหญิงสาวที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่รีบถดตัวหนี เธอไม่กล้ามองนานกว่านี้ และยิ่งไม่กล้าสำรวจว่ามันมีลายอะไรบ้าง เพราะมันเยอะแยะไปหมด
"เอาชุดมาให้ เผื่อพรุ่งนี้อยากไปเรียน ถ้าดีขึ้นตอนไหนค่อยไปเก็บเอาของจำเป็นนะ"
"ขะ ขอบคุณ"
"ไม่ต้อง ๆ แค่นี้เอง อยากได้อะไรบอกนะ คิดซะว่าเราเป็นเพื่อนเธอ อือใช่สิ... เราเรียนคณะเดียวกับเธอด้วยนะ"
ชายหนุ่มเอ่ยพลางเดินเอาเสื้อผ้าที่เขาถืออยู่ เขานำมันมาวางลงบนเตียงกว้าง ก่อนที่จะยืนตัวตรงจ้องมองเธอโดยไม่มีท่าทีเขินอายเลยสักนิด เเหงล่ะ...เขาเป็นฝรั่งนี่นา ส่วนเธอนั้น แม้จะมีประสบการณ์ด้านนี้มาบ้างแต่เธอเคยเห็นแค่หุ่นแฟนตัวเองเท่านั้น จะให้มองนิ่ง ๆ คงเป็นไปได้ยาก ที่ทำตัวยุกยิกไม่ได้เขินหรอกนะ…เธอกลัว
"เราไม่เคยเห็นหน้าเธอเลย" ยิ้มพยายามปรับน้ำเสียงให้ฟังดูปกติที่สุด
"อ๋อ ไม่ค่อยไปเรียน แหะ ๆ" รอยยิ้มแรกปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อจนคนมองอาจจะวูบได้นั้น เขายิ้มงั้นเหรอ พอยิ้มแล้วหล่อมากจริง ๆ ราวกับเป็นคนละคนแน่ะ
"เอาไว้ให้ยิ้มดีขึ้นวันไหน ถ้ายิ้มอยากไปเราก็ไปด้วยกัน"
ประหลาดคนอีกแล้ว เขาจะรอไปเรียนพร้อมเธอทำไม? กลัวเธอหนี หรือมีเหตุผลอะไรกันแน่ ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเขาทำตัวแปลก ๆ ชอบกล
"เราออกกำลังกายอยู่ข้างนอกนะ มาดูได้"
"หา!?"
คงไม่ใช่ว่าหูเธอฝาด สายตาพร่ามัวไปแล้วใช่ไหม.…ผู้ชายที่หุ่นหนาเป็นกัปตันอเมริกาแต่หน้าตาแบบองคุลีมาลในเเบบความคิดของเธอ ตอนนี้เขายิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวทุกซี่ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคล้ายแผ่ความรู้สึกบางอย่างออกมา ก่อนที่จะเดินออกไปทันที ทิ้งให้เธออ้าปากค้างหน้าเหวอแบบงง ๆ อยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน
หลังจากนั้นยิ้มก็เดินลงจากโกดัง ใช่ มันคือโกดังทั้งหมดหกชั้น ห้องที่เธอถูกพาขึ้นไปอยู่ชั้นบนสุด เธอเดินนำหน้าชายหนุ่มร่างสูงลงมาจนถึงชั้นล่าง โดยไม่เอ่ยอะไรเลยสักนิดและไม่คิดจะหันหลังกลับไปมองแม้เพียงเสี้ยว ท่าทีตอนนี้ไม่เหมือนยิ้มที่อ่อนแอเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าตั้งตรงไม่วอกแวกนั่น ทำเอาชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ข้างกายประหลาดใจ"ไม่กลัวแล้วเหรอ?""กลัวสิ ถามได้"เพียงประตูรถฝั่งคนขับปิดลง ใบหน้าหวานที่ก่อนหน้าดูเข้มแข็งก็แปรเปลี่ยนทันทีเมื่อผู้เป็นแฟนเอ่ยถาม ยิ้มรีบซุกตัวเข้ากอดร่างหนาทันทีอย่างโหยหา และต้องการที่พึ่ง"ฮึก~ทั้งกลัว ทั้งโกรธ ฮึ้ย!"เดี๋ยวก็ร้อง เดี๋ยวก็กัดฟันฮึดฮัด โถ่ ๆ …มันน่านัก"โอ๋ ๆ ขอโทษที่ดูแลยิ้มได้ไม่มีดี ต่อไปจะไม่เกิดเรื่องอะไรแบบนี้เด็ดขาด สัญญา"ไบร์ททั้งโอ๋ทั้งโอบกอดเธอจนแน่น ครั้งนี้เขาพลาดจริง ๆ ที่ปล่อยเธอให้คลาดสายตา ต่อไปนี้เขาจะไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรไปแม้เพียงเสี้ยวเล็บเขาจะดูแลและทะนุถนอมเธอให้ดีกว่านี้ จะไม่ปล่อยให้สิ่งใดมาทำให้เรื่องระหว่างเขาสองคนมีช่องโหว่เด็ดขาด"สัญญางั้นเหรอ"
ปัง! ราวกับนัดหมายเวลา เพียงแค่ผู้หญิงชั่วคนนั้นพูดจบประโยคประตูห้องก็ถูกถีบพังลงทั้งบานประตู ตามด้วยร่างชายฉกรรจ์ชุดดำนับสิบกรูกันเข้ามาในห้องยิ้มและนิกเห็นแบบนั้นใจก็ตกไปถึงตาตุ่มทันที เชอรี่เตรียมการทุกอย่างเพื่อที่จะทำลายเธอไว้ขนาดนี้เชียวหรือ เพียงเพราะคำว่าอิจฉา ทำให้คนเราน่ากลัวได้ถึงเพียงนี้...เธอไม่อยากเชื่อเลยจริง ๆ"หึ ได้เวลาสนุกแล้วสิ เอาไอ้นั่นไปกระทืบ ส่วนอีนั่น พวกมึงจะทำอะไรก็ทำ จะเอามันจนตายกูก็ไม่ว่า แต่อย่าลืมถ่ายคลิปให้กูด้วยนะ"รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นอย่างคนเหนือชั้น ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นพอใจอย่างมากถึงมากที่สุด แต่ทว่า!ความดีใจนั้นกลับอยู่ได้ไม่นาน"มึงถ่ายเองไหมล่ะ?"แกร๊ก!!ประโยคเย็นชาและเรียบเฉย แต่สามารถกระชากวิญญาณคนบางคนให้หลุดออกจากร่างได้นั้นมีอยู่จริง เสียงนั่นมาพร้อมกับกระบอกปืนที่จ่อหัวเชอรี่อยู่!"ไบร์ท!!!"ร่างบางรีบโผลเข้ากอดคนตัวโตเจ้าของเสียงทันที เวลานี้เธอมองเห็นเขาคนเดียว คนเดียวเท่านั้น!"ฮึก ฮือ ๆ ไบร์ท ไบร์ท~ "ยิ้มดีใจจนร้องไห้โฮ เธอไม่เอ่ยสิ่งอื่นใดนอกจากเรียกชื่อเขาซ้ำ
"ฮึก! ฮือ ๆ""โอ๋ ~อย่าร้องสิ ไม่ชอบเวลายิ้มร้องไห้เลย""อึก อื้อ! ๆ"ใบหน้าเคล้าน้ำตารีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน เมื่อได้ยินประโยคชวนสะอิดสะเอียนนั่น เธออยากจะร้องตะโกนขอความช่วยเหลือใจจะขาด แต่น่าเสียดายที่ไร้ซึ่งโอกาสนั้นเธอถูกปิดปากด้วยผ้าทำได้เพียงส่งเสียงอู้อี้ มือสองข้างถูกมัดไพล่หลังไว้ไม่สามารถดิ้นหนีหรือต่อสู้ หนำซ้ำเธอกำลังถูกลวนลามจากไอ้ชาติชั่วที่ปากมันบอกว่ารักเธอ แต่การกระทำกลับดูต่ำช้าเห็นแก่ตัวเกินบรรยาย"เมื่อไหร่มึงจะจัดการมันฮะ? รอให้กูตัดริบบิ้นหรือไง!"เสียงหวีดแหลมที่ดูท่าไม่พอใจเป็นอย่างมากดังมาจากมุมห้อง เธอคนนั้นสวมเดรสรัดรูปชุดเดิมที่ยิ้มเจอในผับ กำลังถือกล้องโทรศัพท์มือถือรอถ่ายวิดิโออย่างใจจดใจจ่อ ใช่แล้ว... ผู้หญิงคนนั้นคือ 'เชอรี่' คนที่เธอไม่เคยคิดว่าจะร้ายกาจกับเธอได้ขนาดนี้!"ยุ่งอะไรด้วยวะ!" นิกตะโกนอย่างไม่พอใจ เขาไม่ต้องการให้เชอรี่มาบงการอีกต่อไปเรื่องนี้แม้ว่าจะเป็นความคิดของเชอรี่ที่จะให้เขาทำเรื่องแบบนั้นกับยิ้ม แล้วถ่ายคลิปประจานทำไมเขาจะไม่รู้ เขาต้องการยิ้มและแอบชอบยิ้มก็จริง แต่ไม่ได้อยา
"..."เหมือนกับว่าศรีษะถูกของหนักกดทับไว้จนเเทบยกไม่ขึ้น เธอตัวชาสมองหนักอึ้งไปชั่วขณะ เมื่อคำพูดรุนแรงประโคมสาดเข้าใส่หน้าเธอจัง ๆแววตาของคนตรงหน้าดูเดือดดาลราวกับโกรธแค้นคนพวกนั้นมากมาย ต่างจากเธอที่ดวงตาสั่นไหว ความรู้สึกจุกเเน่นหน้าอกเข้าเล่นงานจนเธอหายใจติดขัด"เฮ้อ~~"เมื่อเห็นว่ายิ้มน้ำตาคลอคล้ายกับจะร้องไห้ มือเล็กที่บีบแน่นจนเหงื่อซึม เขารับรู้ได้ในทันทีว่าตอนนี้ในใจของยิ้มนั้นสับสนและเสียใจไม่น้อยเขาไม่อยากทำลายความรู้สึกเธอ แต่จะปล่อยให้เธอกลายเป็นคนโง่ โดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเขาก็ทำไม่ได้เหมือนกัน"ขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ แต่ยิ้มต้องรู้เรื่องนี้จริง ๆ""..." ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับ ยิ้มขยับตัวนั่งหันไปยังถนนเบื้องหน้า โดยไม่พูดจา ไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาเลยสักนิด เอาแต่นิ่ง แล้วก็นิ่ง จนกระทั่ง......"ถ้าวันนี้หาเมียกูไม่เจอ กูจะฆ่าพวกมึงให้หมด!!"ชายหนุ่มร่างหนา ปลือยส่วนบนของร่างกายเผยให้เห็นรอยสักมากมาย แผดเสียงตวาดลั่นยิ่งทำให้เขาดูน่ากลัวจนลูกน้องนับสิบถอยหลังกรู มีเพียงลูกน้องคนสนิทที่เดิ
ร่างสาวขี้เมาถูกปล่อยมือหลุดลงกองกับพื้น หญิงสาวร่างเล็กค่อย ๆ ยืดตัวมองการกระทำของคนที่อยู่ห่างกับเธอไกลพอสมควร แต่เธอกลับมองเห็นทั้งสองคนนั้นที่อยู่ในห้องน้ำได้ชัดเจนมือเล็กกำหมัดเเน่น เมื่อสองคนสบตาและพูดคุยบางอย่างที่เธอไม่ได้ยินเลยสักนิด เพราะตอนนี้หูสองข้างมันอื้ออึงไปหมด มีเพียงตาสองข้างเท่านั้นที่ยังรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของภาพเบื้องหน้าราวกับกำลังชมละครหลังข่าว"อึก" น้ำลายถูกกลืนลงคออย่างยากลำบากชายหนุ่มผู้นั้นก้มลงมองรอยลิปสติกบนอกเสื้อด้านซ้าย ก่อนที่จะยกยิ้มมุมปากอย่างพิกล แต่สิ่งที่เขาทำในเวลาต่อมามันยิ่งกว่าเอาน้ำเย็นทั้งถังมาสาดหน้าเธอเขาถอดเสื้อเชิ้ตตัวนั้นออก และขยับตัวเข้าหาผู้หญิงคนนั้น ทำให้หล่อนขยับตาม ยิ้มไม่รู้ว่าควรจะช็อคกับสิ่งไหนดี ผู้หญิงคนนั้นคือคนที่เธอเองก็เรียกว่าเพื่อน ‘เชอรี่’ ไบร์ทกับเชอรี่? หรือว่า..."อ๊ะ!"ยังไม่ทันที่เธอจะได้เห็นเหตุการณ์ต่อจากนั้น ภาพตรงหน้าก็ดันมืดสนิทเพราะถูกมือใครบางคนปิดตาเธอไว้"เราเอง อย่าดูเลยนะ""นิก?"ใช่แล้ว...เสียงนี้เธอจำได้แม่น เพราะรู้จ
"ไปไหนมา?"น้ำเสียงเเข็งกระด้างผิดจากปกติที่พอแฟนจ๋าเปิดประตูมาจะต้องเอ่ยเรียกเสียงหวาน มาวันนี้พอยิ้มเข้าห้องปุ๊บกลับรู้สึกถึงบางอย่างที่แปลกไป"ไปหาม๊ามา ยิ้มก็แชทบอกแล้วนะ""งั้นเหรอ" คนตัวโตนั่งกอดอกอยู่บนโซฟาที่เดิม พร้อมกับเอ่ยปากถามแต่สีหน้าดูไม่วางใจแบบสุด ๆ เขาเป็นอะไร ไม่พอใจอะไรอย่างนั้นเหรอ?"เอ้า ทำไมถามแบบนั้นอะ เมื่อวานก็โอเคไม่ใช่เหรอคะ"ยิ้มเดินเข้าไปนั่งข้างกายชายหนุ่มผู้เป็นแฟน จ้องมองและสังเกตคนตรงหน้าอย่างเช่นปกติ ดูว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมไหม ซึ่งแน่นอนสีหน้าเขาดูเปลี่ยนไปจากทุกวันจริง ๆ นั่นแหละ"เป็นอะไรคะ คิดถึงเหรอ? จุ๊บ"ริมฝีปากสวยจุ๊บแก้มซ้ายของคนตัวโตอย่างเอาใจ แต่เขานั้นกลับทำหน้าหน้าตึงอย่างกับอะไรดี"จะไปไหน?"จู่ ๆ เขาก็ลุกพรวดพรวดจะเดินหนีไปโดยไม่พูดจา ดีที่มือเธอคว้าตัวเขารั้งไว้ได้เสียก่อน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เขาไม่เคยทำแบบนี้กับเธอ ไม่เคยเมินเฉย และยิ่งไม่เคยชักสีหน้าใส่เธอแบบนี้เลยสักครั้ง!"ไปทำงาน""ทำงานที่ไหน""ผับ""เพิ่งกลับมาเจอกัน อยู่กับยิ