Share

บทที่ 1097

Author: ไห่ตงชิง
“แต่แม้จะมีตำแหน่งมากเพียงใด ก็ใช่ว่าจะเหมือนกันหมด”

“บางตำแหน่ง จำเป็นต้องใช้บุคลากรที่เชี่ยวชาญในเชิงปฏิบัติงานจริง คนเช่นนี้อาจไม่ถนัดเรื่องประจบประแจง หรือไม่มีตำแหน่งสูงส่งนัก แต่ชนะที่ขยันขันแข็ง มุ่งมั่นทำงานให้ลุล่วง อย่างเช่นกรมโยธาธิการ ที่ต้องการคนที่มีความสามารถเฉพาะทาง”

“อีกบางตำแหน่ง กลับต้องใช้คนที่รู้จักอ่านสีหน้าคนเป็น ต้องรู้จักประสานงานกับทุกฝ่าย บทบาทของตำแหน่งเหล่านี้คือการเชื่อมต่อระหว่างเบื้องบนกับเบื้องล่าง ต้องรู้จักเอาใจใส่ความสัมพันธ์กับเพื่อนขุนนาง ต้องดึงใจผู้ใต้บังคับบัญชาไว้ให้มั่น และต้องไม่ทำให้ผู้บังคับบัญชาเดือดร้อน เช่นกรมทะเบียนขุนนาง”

“อีกบางตำแหน่ง อาจไม่ต้องมีความรู้มากนัก แต่ต้องรู้จักอ่านสถานการณ์ให้เป็น พบคนต้องพูดให้ถูกใจ พบผีต้องพูดให้เข้าหู ไม่ทำให้ใครโกรธ แต่ก็ต้องไม่เป็นคนที่คนพูดอย่างไรก็พยักหน้าไปหมด ต้องรู้จักรักษาหลักการของตนเองให้มั่น เช่น กรมครัวเรือน”

หลี่เฉินเงยหน้าขึ้นมองเหอคุน แล้วกล่าวว่า “ข้าถามเจ้า เจ้าคิดว่าตัวเองเหมาะไปอยู่ที่ใด?”

เมื่อถูกถามเป็นครั้งที่สอง เหอคุนก็ไม่อาจตอบด้วยถ้อยคำสวยหรูแบบทั่วๆ ไปได้อีก

เขาครุ่นคิ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1105

    “หากเจ้ารับตำแหน่งอาจารย์แห่งรัฐผู้พิทักษ์แผ่นดินจากข้า และยอมให้สำนักบัวขาวถอนตัวออกจากแผ่นดินจงหยวนทั้งหมด ไปยังดินแดนของอ๋องแห่งแคว้น ข้าจะเปิดโอกาสให้พวกเจ้าขยายศรัทธา”น้ำเสียงของหลี่เฉินเปี่ยมล้นด้วยความมั่นใจจากนั้น เขาก็ลดเสียงให้ต่ำลง แฝงไปด้วยความเย้ายวนดุจเสียงปีศาจกล่าวว่า “และนั่นยังเป็นแค่จุดเริ่มต้น หากเราร่วมมือกันอย่างราบรื่น ข้าจะหาทางส่งพวกเจ้าไปเผยแผ่ศรัทธาที่แคว้นเหลียว แคว้นจิน และดินแดนตะวันออก”“เลิกคิดถึงการล้มล้างราชสำนักเสียที ไร้อนาคต หากดูจากสภาพพวกเจ้า ต่อให้วันนี้ข้ายกบัลลังก์ให้ ยกแผ่นดินต้าฉินให้ทั้งแคว้น พวกเจ้าจะบริหารมันได้หรือ?”“การปกครองแผ่นดินนั้น ต้องใช้มันสมอง ต้องมีวัฒนธรรม”“แล้วพวกสาวกของสำนักบัวขาวพวกเจ้าคือใครกัน? ชาวไร่ชาวนาอาภัพ ผู้ประสบภัย ผู้ที่ข้าวสักคำยังหามิได้ ผู้ที่หิวโหยจนจะตายอยู่แล้ว คนกลุ่มนี้จะบริหารแผ่นดินได้หรือ?”เมื่อได้ฟังคำของหลี่เฉิน เจี่ยนตี้ซินก็รู้สึกทั้งโกรธทั้งอับอายแต่แล้ว หลี่เฉินก็กล่าวอีกว่า “เจ้าไม่พอใจ? งั้นเจ้าลองกลับไปนับดูเองก็ได้ ว่าคนในระดับบริหารของสำนักบัวขาวของเจ้า มีสักกี่คนที่เขียนชื่อตัวเ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1104

    “แต่อ๋องแห่งแคว้นก็ใช่ว่าจะไร้พลังอำนาจเสียทีเดียว”เจี่ยนตี้ซินไม่ใช่คนเขลาเอาแต่นั่งหลับหูหลับตาอยู่ในบ้าน ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับโลกภายนอกเขาโต้กลับทันทีว่า “อย่างเช่นเหวินอ๋อง กับเนี่ยงอ๋อง เหวินอ๋องครองนครจินหลิง อันเป็นแผ่นดินที่มั่งคั่งที่สุดในใต้หล้า ส่วนเนี่ยงอ๋องอยู่ไกลถึงชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือ แม้ยากจน แต่ผู้คนในถิ่นนั้นกล้าหาญแข็งกร้าว และรวมกลุ่มกันแน่นแฟ้น ต่อต้านคนนอกเป็นพิเศษ หลักคำสอนของสำนักบัวขาวของข้า ย่อมไม่เหมาะกับสองที่นี้โดยธรรมชาติ”“ถูกต้อง”หลี่เฉินไม่เพียงไม่ขัดแย้ง หากยังพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเจี่ยนตี้ซิน“สำนักบัวขาวของพวกเจ้านั้น ถนัดที่สุดคือการชักจูงผู้คน หากเป็นยุคสันติสุข แน่นอนว่าย่อมยากจะขยายอิทธิพล แต่หากเจอปีแห่งภัยพิบัติหรือยุคสมัยที่บ้านเมืองปั่นป่วน ราษฎรทุกข์ยากแสนสาหัส เช่นนั้นก็ย่อมเป็นดินแดนชั้นยอดสำหรับพวกเจ้าจะหยั่งรากเติบโต อย่างเช่นปีเคราะห์สองปีที่ผ่านมา สำนักของเจ้าก็ขยายตัวขึ้นกี่เท่าใช่หรือไม่? หรือจะให้ข้าพูดให้ละเอียดลึกลงไปอีก?”เจี่ยนตี้ซินกล่าวเสียงขรึมว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ องค์ชายก็ย่อมรู้ว่า การไปขยายสำนักในดินแ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1103

    เจี่ยนตี้ซินถึงกับเตรียมใจไว้แล้ว ว่าหลี่เฉินจะต้องเปิดปากเรียกร้องอย่างมักใหญ่ใฝ่สูง ฉีกเนื้อจากร่างเขาไปชิ้นหนึ่งอย่างไม่ไว้หน้าเพราะแค่ดูจากจุดจบของกงฮุยอวี่ ก็พอจะรู้ว่าองค์รัชทายาทผู้นี้ หาใช่คนที่ใครจะกล้าล้อเล่นด้วยไม่เมื่อครั้งหลี่เฉินจับตัวกงฮุยอวี่ได้ เขาเคยคาดเดาว่านางอาจถูกล่วงเกิน หรือไม่ก็ถูกฆ่าทิ้งเสียเลยแต่สิ่งเดียวที่เขาไม่เคยคิดก็คือ หลี่เฉินกลับควบคุมกงฮุยอวี่ไว้ข้างกายตนเองเรื่องเช่นนี้ เมื่อก่อนย่อมไม่มีทางเป็นไปได้ แม้แต่คิดก็ไม่ควรคิดแต่เรื่องประหลาดก็คือ หลี่เฉินกลับทำได้จริงตอนนี้กงฮุยอวี่เป็นอิสระอย่างแท้จริง แต่กลับไม่อาจจากหลี่เฉินไปได้พันธนาการเช่นนี้ น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าตรวนเหล็ก และได้ผลยิ่งกว่าเสียอีกด้วยมีตัวอย่างของกงฮุยอวี่อยู่ตรงหน้า ทำให้เมื่อเจี่ยนตี้ซินได้ยินหลี่เฉินบอกว่าไม่ต้องจ่ายสิ่งใดเลย ความระแวดระวังก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวการประลองครั้งนี้ เป็นการประลองด้วยเล่ห์กล ไม่เกี่ยวข้องกับพลังฝีมือสิ่งที่ถูกทดสอบ คือมันสมองของทั้งสองฝ่ายด้วยผลแห่งการหยั่งเชิงก่อนหน้า หลี่เฉินได้วางไพ่ใบแรกลงแล้วตอนนี้ ถึงคราวเจี่ยนตี้ซินจะวางไพ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1102

    นับตั้งแต่บรรลุญาณปฐมและก้าวเข้าสู่ขั้นเซียนเดินดิน เจี่ยนตี้ซินก็ไม่เคยตกตะลึงถึงเพียงนี้มาก่อนเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพระเฒ่ารูปนี้มีพลังเหนือกว่าตนอย่างท่วมท้นความรู้สึกที่ถูกจัดอยู่ในฝั่งอ่อนแอ ทำให้เขาอึดอัดใจยิ่งนักเมื่อครั้งนั้น เขาก็เพราะไม่อยากลิ้มรสความอึดอัดนี้อีก จึงมุ่งฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง ประกอบกับพรสวรรค์ล้ำเลิศ วาสนาแกร่งกล้า จึงสามารถเป็นผู้บรรลุขั้นเซียนเดินดินได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์แคว้นต้าฉินแต่ความรู้สึกว่าใต้หล้านี้ไร้ผู้ต่อต้านได้ วันนี้กลับถูกทลายลงอย่างย่อยยับเจี้ยวั่งยังคงไม่เอ่ยวาจาเขายืนอยู่ข้างกายหลี่เฉิน เงียบงันไม่เอื้อนเอ่ยความเพิกเฉยเช่นนี้ ทำให้เจี่ยนตี้ซินผู้มีจิตมั่นคงยิ่งดั่งศิลา พลันโทสะระเบิดทันทีเจี่ยนตี้ซินเดือดดาล ส่วนหลี่เฉินกลับยิ้มขำเขารู้สึกว่าเจี้ยวั่งผู้นี้ช่างเหมาะสมกับบท “จอมวางท่า” ยิ่งนักไม่ต้องพูดแม้สักคำ ก็สามารถทำให้เซียนเดินดินเดือดถึงขีดสุดได้น่าเสียดาย องครักษ์ฝีมือเช่นนี้ กลับใช้ได้เพียงครั้งเดียว“ตอนนี้ ท่านพอจะลดท่าทีเซียนเดินดินของท่านลง แล้วคุยกันอย่างคนปกติได้หรือยัง?”หลี่เฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1101

    เจี่ยนตี้ซินมิได้บ้าคลั่งเพียงแค่ปากพูดหากแต่น่าหวาดหวั่นยิ่งกว่าก็คือ เขากล้าลงมือจริงๆเมื่อคำพูดจบลง เจี่ยนตี้ซินยกเท้าขึ้นอย่างแผ่วเบา แล้วเหยียบลงอย่างช้าๆเสียงบูทกระทบพื้นอีกครั้ง ทำเอาทุกผู้คนรู้สึกเหมือนมีเสียงอื้อดังในหัวเหมือนมีช้างบ้าคลั่งตัวหนึ่งในสมอง เงื้อตัวขึ้น แล้วยกขาหน้าทั้งสองกระแทกลงบนกะโหลกศีรษะตนเองอย่างรุนแรงกระแสพลังที่มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ หากแต่มีอยู่จริง แผ่ออกมาจากร่างของเจี่ยนตี้ซิน บิดเบือนอากาศรอบกายจนมองเห็นด้วยตาเปล่า แรงสั่นสะเทือนระลอกนั้นแม้แรกเริ่มจะเชื่องช้า แต่เพียงชั่วพริบตา ก็ระเบิดออกประหนึ่งลูกกระสุนที่พุ่งออกจากลำกล้อง กวาดผ่านเหล่าทหารองครักษ์ที่ล้อมรอบเขาอย่างใบไม้ปลิวตามสายลมในฤดูใบไม้ร่วงพรวด พรวด พรวดเสียงของทหารหลายสิบคนที่อ้าปากพ่นโลหิตออกมาอย่างบ้าคลั่งเพียงแค่เหยียบพื้นหนึ่งครั้ง เจี่ยนตี้ซินก็ทำให้ทหารนับสิบได้รับบาดเจ็บภายในเขามิได้ชายตามองเหล่าทหารที่ล้มกลิ้งอยู่เต็มพื้นแม้แต่น้อย เจี่ยนตี้ซินเหลือบมองหลี่เฉินอย่างเฉยเมย “ฝ่าบาท ท่านคิดเห็นเช่นไร?”บนใบหน้าของหลี่เฉินปราศจากแม้แต่วี่แววของความรู้สึกเขารู้อย

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1100

    เจี่ยนตี้ซิน…เพียงชื่อดังกล่าวผ่านเข้าหู หลี่เฉินก็รู้สึกไม่พอใจทันที“กล้าใช้ตัวอักษร ‘ตี้’ ซึ่งหมายถึง ‘จักรพรรดิ’ เป็นชื่อ เจ้านี่ช่างกล้าหาญนัก” หลี่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาการตั้งชื่อ ไม่ว่าจะเป็นคนขายของข้างถนนหรือถึงขั้นขุนนางชั้นสูง ต่างก็ต้องรู้จักหลีกเลี่ยงถ้อยคำต้องห้ามโดยเฉพาะคำว่า ‘หวง’ และ ‘ตี้’ ซึ่งแปลว่าองค์จักรพรรดิย่อมเป็นข้อห้ามสูงสุดนอกจากนี้ยังรวมถึงพระนามขององค์จักรพรรดิในรัชกาลปัจจุบันที่ต้องหลีกเลี่ยงเช่นกันสำหรับคนที่เข้มงวด ย่อมรวมไปถึงพระนามของจักรพรรดิองค์ก่อน และชื่อแผ่นดินด้วยแม้แต่หากเสียงอ่านคล้ายกัน ก็ต้องรีบเปลี่ยนชื่อทันทีไม่เช่นนั้น ย่อมถือว่าเป็นการล่วงเกินอย่างใหญ่หลวงนอกจากนี้ ยังมีธรรมเนียมการหลีกเลี่ยงชื่อผู้ใหญ่ในบ้าน ซึ่งสืบต่อกันมาจนถึงยุคปัจจุบันสำหรับจักรวรรดิต้าฉิน แม้จะถือว่าเข้มงวดน้อยกว่า อย่างน้อยก็ไม่ถึงกับต้องหลีกเลี่ยงพระนามขององค์จักรพรรดิที่ล่วงลับหรือชื่อแผ่นดินที่สิ้นสุดลง แต่กระนั้น ก็ไม่เคยมีผู้ใดกล้าใช้คำว่า ‘ตี้’ เป็นชื่อเจี่ยนตี้ซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ก็แค่ชื่อหนึ่ง ฝ่าบาทจะวิตกไปใย?”“นี่มิใช

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1099

    “อามิตตาพุทธ”เจี้ยวั่งโค้งคำนับถวายคารวะหนึ่งครั้ง โดยไม่เอื้อนเอ่ยวาจาใดเกี่ยวกับวาจาห้ามฆ่าสัตว์ของชาวพุทธให้เสียเวลาแผนสำรองที่หลี่เฉินเตรียมไว้เพื่อรับมือเจ้าสำนักบัวขาว มิได้เสียเปล่าพลบค่ำวันเดียวกัน ขณะที่หลี่เฉินยังยุ่งอยู่กับราชการในพระที่นั่งสีเจิ้ง กงฮุยอวี่ก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าของเขา“เขามาแล้วหรือ?”หลี่เฉินเงยหน้ามองกงฮุยอวี่เพียงแวบหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้ากลับไปตรวจแก้แผนปฏิรูปราชการต่อ น้ำเสียงทั้งเรียบเฉยทั้งห่างเหินกงฮุยอวี่พยักหน้าตอบ “มาแล้ว”“เหตุใดจึงไม่เข้ามา?” ครั้งนี้หลี่เฉินแม้แต่หน้าก็ไม่แย้มขึ้นมองกงฮุยอวี่กล่าวอย่างราบเรียบว่า “เขาว่าเขาไม่ชอบวังหลวง จึงขอเชิญฝ่าบาทเสด็จออกไปพบข้างนอก”“หึ”หลี่เฉินหัวเราะในลำคอ แล้วกล่าวว่า “ช่างวางท่าทางได้ใหญ่โตนัก”“ในเมื่อองค์ชายเป็นฝ่ายร้องขอเขา ก็ควรแสดงคุณธรรมของผู้รู้จักถ่อมตนเพื่อคนมีคุณธรรม”กงฮุยอวี่กล่าวจบ หยุดไปครู่หนึ่ง แล้วเสริมว่า “เขากล่าวเช่นนั้นเอง”“ถ้าเช่นนั้น ก็ให้เขากลับไปที่ที่เขามาเถอะ”หลี่เฉินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าเป็นองค์รัชทายาท เขาเป็นอะไร? แค่คนใช้กำลัง ที่รวบรวมพวกหัวไม

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1098

    ผู้ที่สามารถมาเยือนตำหนักบูรพาได้โดยไม่ต้องแจ้งก่อนนั้น ทั้งใต้หล้านี้มีเพียงท่านเจี้ยวั่งรูปเดียวเท่านั้นหลี่เฉินจึงทรงรีบมีรับสั่งให้เข้าเฝ้าทันทีก่อนที่เจี้ยวั่งจะก้าวเข้าสู่พระที่นั่งสีเจิ้ง เขาถอดเสื้อฝนที่เปียกโชกด้วยน้ำฝนออกก่อน แล้วจึงเดินเข้าด้านในหลี่เฉินสังเกตเห็นรายละเอียดนี้ จึงยิ้มพลางกล่าวว่า “ตามที่ข้ารู้มา ยอดฝีมือผู้ฝึกฝนภายในจนกล้าแกร่งแล้ว ย่อมสามารถฝ่าสายฝนโดยไม่ให้แม้แต่ขนนกเปียกตัวได้มิใช่หรือ?”พระเจี้ยวั่งประนมมือ กล่าวพุทธคุณเสียงต่ำหนึ่งคำ ก่อนจะตอบว่า “ก็เป็นเช่นนั้น แต่ในเมื่อมาเข้าเฝ้าองค์ชาย ข้าพเจ้าย่อมไม่จำเป็นต้องอวดฝีมือให้เห็น”หลี่เฉินเพ่งมองเจี้ยวั่งอย่างละเอียด พลางขมวดคิ้วถามว่า “ที่ท่านบอกข้าไว้เมื่อคราวก่อน เป็นเรื่องจริงหรือ? ข้ามองดูท่านยังแข็งแรงกระปรี้กระเปร่า หาใช่คนที่ใกล้สิ้นอายุขัยไม่”เจี้ยวั่งไม่ได้โกรธหรือรีบอธิบายใดๆ หากแต่เปิดจีวรของตนออกตรงๆเมื่อจีวรถูกยกขึ้น หลี่เฉินก็ได้เห็นผิวกายที่แห้งเหี่ยวและยับย่นราวกับเปลือกไม้ ตัดกับผิวพรรณของใบหน้าและแขนขาที่ยังเปล่งประกายเรียบเนียนเป็นอย่างมากหลี่เฉินขมวดคิ้วทันทีผิวกายลั

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1097

    “แต่แม้จะมีตำแหน่งมากเพียงใด ก็ใช่ว่าจะเหมือนกันหมด”“บางตำแหน่ง จำเป็นต้องใช้บุคลากรที่เชี่ยวชาญในเชิงปฏิบัติงานจริง คนเช่นนี้อาจไม่ถนัดเรื่องประจบประแจง หรือไม่มีตำแหน่งสูงส่งนัก แต่ชนะที่ขยันขันแข็ง มุ่งมั่นทำงานให้ลุล่วง อย่างเช่นกรมโยธาธิการ ที่ต้องการคนที่มีความสามารถเฉพาะทาง”“อีกบางตำแหน่ง กลับต้องใช้คนที่รู้จักอ่านสีหน้าคนเป็น ต้องรู้จักประสานงานกับทุกฝ่าย บทบาทของตำแหน่งเหล่านี้คือการเชื่อมต่อระหว่างเบื้องบนกับเบื้องล่าง ต้องรู้จักเอาใจใส่ความสัมพันธ์กับเพื่อนขุนนาง ต้องดึงใจผู้ใต้บังคับบัญชาไว้ให้มั่น และต้องไม่ทำให้ผู้บังคับบัญชาเดือดร้อน เช่นกรมทะเบียนขุนนาง”“อีกบางตำแหน่ง อาจไม่ต้องมีความรู้มากนัก แต่ต้องรู้จักอ่านสถานการณ์ให้เป็น พบคนต้องพูดให้ถูกใจ พบผีต้องพูดให้เข้าหู ไม่ทำให้ใครโกรธ แต่ก็ต้องไม่เป็นคนที่คนพูดอย่างไรก็พยักหน้าไปหมด ต้องรู้จักรักษาหลักการของตนเองให้มั่น เช่น กรมครัวเรือน”หลี่เฉินเงยหน้าขึ้นมองเหอคุน แล้วกล่าวว่า “ข้าถามเจ้า เจ้าคิดว่าตัวเองเหมาะไปอยู่ที่ใด?”เมื่อถูกถามเป็นครั้งที่สอง เหอคุนก็ไม่อาจตอบด้วยถ้อยคำสวยหรูแบบทั่วๆ ไปได้อีกเขาครุ่นคิ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status