Share

บทที่ 1096

Penulis: ไห่ตงชิง
ทั้งพิธีศพ ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ

เมื่อศิลาจารึกถูกฝังลง เสียงสะอื้นปนเงียบงันปกคลุมเหล่าองครักษ์เสื้อแพรกว่าร้อยนาย สายตาของพวกเขาล้วนมีน้ำตาเจืออยู่กว่าครึ่ง

เฉินทงเองก็รู้สึกหดหู่ เขาเดินไปข้างวั่นเจียวเจียวแล้วกล่าวว่า “แม่นางวั่น ผู้ล่วงลับไปแล้ว โปรดระงับโศกเถิด”

วั่นเจียวเจียวเช็ดน้ำตา แล้วกล่าวว่า “ขอบพระคุณแม่ทัพเฉินที่จัดงานศพให้ท่านพ่อเจ้าค่ะ”

เฉินทงกล่าวเสียงต่ำว่า “ท่านกวางกงเคยมีพระคุณแก่พวกข้าไม่น้อย ตัวข้าเองก็เคยได้รับการชุบเลี้ยงจากท่านอยู่หลายครั้ง บัดนี้ท่านพลีชีพเพื่อแผ่นดิน ข้าจะไม่ทุ่มเทสุดกำลังได้อย่างไร?”

“เพียงแต่ช่วงนี้สถานการณ์ไม่ปกติ งานศพจึงจัดได้เพียงเท่านี้ หวังว่าดวงวิญญาณของท่านกวางกงจะไม่ถือโทษโกรธเคือง”

วั่นเจียวเจียวเอ่ยเสียงสั่น “ถ้าท่านพ่อได้เห็นภาพเช่นนี้ แม้จะอยู่ใต้ผืนดิน ก็คงยิ้มได้”

เฉินทงพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็หันไปมองศิลาจารึกที่สลักตราองค์รัชทายาทแห่งต้าฉิน แล้วกล่าวว่า “องค์ชายทรงเมตตาต่อผู้ใต้บังคับบัญชาเพียงนี้ หากเราต้องตายแทนองค์ชาย ก็หาเสียดายไม่”

เฉินทงถอนหายใจยาว แล้วกล่าวต่อ “แม่นางวั่น ฝนลมภายนอกแรงนัก กลับ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1097

    “แต่แม้จะมีตำแหน่งมากเพียงใด ก็ใช่ว่าจะเหมือนกันหมด”“บางตำแหน่ง จำเป็นต้องใช้บุคลากรที่เชี่ยวชาญในเชิงปฏิบัติงานจริง คนเช่นนี้อาจไม่ถนัดเรื่องประจบประแจง หรือไม่มีตำแหน่งสูงส่งนัก แต่ชนะที่ขยันขันแข็ง มุ่งมั่นทำงานให้ลุล่วง อย่างเช่นกรมโยธาธิการ ที่ต้องการคนที่มีความสามารถเฉพาะทาง”“อีกบางตำแหน่ง กลับต้องใช้คนที่รู้จักอ่านสีหน้าคนเป็น ต้องรู้จักประสานงานกับทุกฝ่าย บทบาทของตำแหน่งเหล่านี้คือการเชื่อมต่อระหว่างเบื้องบนกับเบื้องล่าง ต้องรู้จักเอาใจใส่ความสัมพันธ์กับเพื่อนขุนนาง ต้องดึงใจผู้ใต้บังคับบัญชาไว้ให้มั่น และต้องไม่ทำให้ผู้บังคับบัญชาเดือดร้อน เช่นกรมทะเบียนขุนนาง”“อีกบางตำแหน่ง อาจไม่ต้องมีความรู้มากนัก แต่ต้องรู้จักอ่านสถานการณ์ให้เป็น พบคนต้องพูดให้ถูกใจ พบผีต้องพูดให้เข้าหู ไม่ทำให้ใครโกรธ แต่ก็ต้องไม่เป็นคนที่คนพูดอย่างไรก็พยักหน้าไปหมด ต้องรู้จักรักษาหลักการของตนเองให้มั่น เช่น กรมครัวเรือน”หลี่เฉินเงยหน้าขึ้นมองเหอคุน แล้วกล่าวว่า “ข้าถามเจ้า เจ้าคิดว่าตัวเองเหมาะไปอยู่ที่ใด?”เมื่อถูกถามเป็นครั้งที่สอง เหอคุนก็ไม่อาจตอบด้วยถ้อยคำสวยหรูแบบทั่วๆ ไปได้อีกเขาครุ่นคิ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1096

    ทั้งพิธีศพ ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพเมื่อศิลาจารึกถูกฝังลง เสียงสะอื้นปนเงียบงันปกคลุมเหล่าองครักษ์เสื้อแพรกว่าร้อยนาย สายตาของพวกเขาล้วนมีน้ำตาเจืออยู่กว่าครึ่งเฉินทงเองก็รู้สึกหดหู่ เขาเดินไปข้างวั่นเจียวเจียวแล้วกล่าวว่า “แม่นางวั่น ผู้ล่วงลับไปแล้ว โปรดระงับโศกเถิด”วั่นเจียวเจียวเช็ดน้ำตา แล้วกล่าวว่า “ขอบพระคุณแม่ทัพเฉินที่จัดงานศพให้ท่านพ่อเจ้าค่ะ”เฉินทงกล่าวเสียงต่ำว่า “ท่านกวางกงเคยมีพระคุณแก่พวกข้าไม่น้อย ตัวข้าเองก็เคยได้รับการชุบเลี้ยงจากท่านอยู่หลายครั้ง บัดนี้ท่านพลีชีพเพื่อแผ่นดิน ข้าจะไม่ทุ่มเทสุดกำลังได้อย่างไร?”“เพียงแต่ช่วงนี้สถานการณ์ไม่ปกติ งานศพจึงจัดได้เพียงเท่านี้ หวังว่าดวงวิญญาณของท่านกวางกงจะไม่ถือโทษโกรธเคือง”วั่นเจียวเจียวเอ่ยเสียงสั่น “ถ้าท่านพ่อได้เห็นภาพเช่นนี้ แม้จะอยู่ใต้ผืนดิน ก็คงยิ้มได้”เฉินทงพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็หันไปมองศิลาจารึกที่สลักตราองค์รัชทายาทแห่งต้าฉิน แล้วกล่าวว่า “องค์ชายทรงเมตตาต่อผู้ใต้บังคับบัญชาเพียงนี้ หากเราต้องตายแทนองค์ชาย ก็หาเสียดายไม่”เฉินทงถอนหายใจยาว แล้วกล่าวต่อ “แม่นางวั่น ฝนลมภายนอกแรงนัก กลับ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1095

    หลี่อิ๋นหู่ตายอย่างอื้อฉาวเกรียงไกรอย่างน้อยที่สุด เขาก็ยังถูกหลี่เฉินและจ้าวเสวียนจีใช้ประโยชน์เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อโยนความผิดทั้งปวงลงบนบ่าเขาคาดว่าตัวเขาเองก็คงไม่อาจมีคำใดจะค้านแม้จะมี ก็ไร้ประโยชน์คนตาย… ไม่อาจเอ่ยคำใดได้อีกเมื่อออกจากจวนจ้าว หลี่เฉินก็เสด็จกลับตำหนักบูรพา และในวันเดียวกันนั้น ก็มีพระราชโองการออกมาสามฉบับพระราชโองการทั้งสามฉบับนี้ สั่นสะเทือนไปทั่วใต้หล้าเพราะพระราชโองการทั้งสามฉบับนี้ ล้วนเป็นพระราชลิขิตที่จักรพรรดิแห่งต้าฉินทรงพระอักษรด้วยพระองค์เองไม่เพียงบอกเล่าถึงเหตุการณ์การกบฏทั้งหมด แต่ยังชี้ชัดถึงลักษณะของเหตุการณ์นั้นกล่าวอย่างแน่ชัดว่า การก่อกบฏของอดีตอ๋องหลี่อิ๋นหู่นั้นเป็นแผนการชิงอำนาจด้วยอาวุธที่ซุกซ่อนมานาน และเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นไม่วันใดก็วันหนึ่งโชคยังดี ที่องค์รัชทายาทผู้เปี่ยมด้วยปัญญาและวีรกรรม สามารถบดขยี้การก่อกบฏครั้งนี้ลงได้อย่างราบคาบ และยังสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้จำนวนมากพระราชโองการฉบับแรก เป็นการยืนยันคุณความดีขององค์รัชทายาทนับตั้งแต่ทรงทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการ และยังเป็นการประกาศตำแหน่งรัชทายาทอย่าง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1094

    กรมพิธีการ!หนึ่งในหกกรมหลัก แม้จะเป็นเพียงกรมระดับกลางที่ไม่สูงไม่ต่ำ แต่ตามระบบของต้าฉินแล้ว กรมพิธีการรับผิดชอบทั้งพิธีกรรมของแผ่นดิน การศึกษา และการทูตโดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าที่ด้านการศึกษา สำคัญที่สุดการศึกษานี้ มิใช่เพียงการสอบเข้ารับราชการของบัณฑิตเท่านั้น แต่หมายถึงการศึกษา การเข้าศึกษาของผู้เรียนทั่วทั้งแว่นแคว้น ล้วนอยู่ภายใต้การดูแลของกรมพิธีการอำนาจเช่นนี้ จะกล่าวว่าสำคัญก็สำคัญ จะกล่าวว่าไม่สำคัญ… ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยจ้าวเสวียนจีมองหลี่เฉิน แม้แต่เขาที่มีสติปัญญาเฉียบแหลมเกินคน ยังไม่อาจเข้าใจว่าในใจของหลี่เฉินคิดสิ่งใดในสายตาของเขา เวลานี้สิ่งที่หลี่เฉินควรทำที่สุด คือใช้โอกาสนี้บีบอำนาจในมือของเขาให้เล็กที่สุด ขยายอำนาจของตำหนักบูรพาให้กว้างที่สุดแต่หลี่เฉินกลับเริ่มต้นด้วยการมอบอำนาจของกรมพิธีการให้ แล้วในน้ำเต้าของเขานั้น ซ่อนยาอะไรไว้กันแน่?“ตลอดหลายปีที่ผ่านมาใต้เท้าฟู่ ดำรงตำแหน่งเพียงมหาบัณฑิตแห่งสำนักราชเลขา งานการก็มิได้หนักหนา เพียงแต่…”คำพูดยังไม่ทันจบ หลี่เฉินก็โบกมือแล้วว่า “ในเมื่อขุนนางอาวุโสไม่เห็นว่ามีปัญหา เช่นนั้นเรื่องนี้ก็เป็นอันตกลงตามน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1093

    “เมื่อคืนลมกรรโชกฝนกระหน่ำ อากาศเยี่ยงนี้มักทำให้ป่วยไข้ง่าย ขุนนางอาวุโสพึงต้องระวังรักษาสุขภาพให้ดี”ประโยคแรกที่เปิดปากเอ่ย หลี่เฉินก็แสดงสัญญาณแห่งไมตรีออกมาจ้าวเสวียนจีประสานมือคำนับเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “กระหม่อมร่างกายยังแข็งแรงอยู่บ้าง ขอบพระทัยองค์ชายที่ทรงเป็นห่วง เพียงแต่น้ำเสียงขององค์ชายฟังดูเสียงจมูกแน่นนัก หรือว่าทรงติดลมหนาวเข้าแล้ว?”หลี่เฉินปรายตามองถ้วยน้ำชาที่ว่างเปล่า แล้วกล่าวว่า “เมื่อคืนข้าถูกฝนเข้าเล็กน้อย จึงติดลมหนาวมา แต่ได้ให้หมอหลวงตรวจดูแล้ว หาเป็นเรื่องร้ายแรงไม่ ดื่มยาสองสามขนานก็หายแล้ว”จ้าวเสวียนจีลุกขึ้น รินน้ำชาให้หลี่เฉินด้วยมือตนเอง พลางกล่าวว่า “บัดนี้องค์ชายทรงเป็นผู้กุมราชการแผ่นดิน ไม่ว่าเรื่องใหญ่เรื่องเล็กในแว่นแคว้นก็ล้วนต้องผ่านพระหัตถ์ของพระองค์ ฉะนั้นไม่ว่าจะเพื่อแผ่นดินประชาราษฎร์ หรือเพื่อพระองค์เอง ก็พึงต้องทรงระวังรักษาพระวรกายไว้ให้ดีพ่ะย่ะค่ะ”ผู้กุมราชการแผ่นดิน ไม่ว่าเรื่องใหญ่เรื่องเล็กในแว่นแคว้นก็ล้วนต้องผ่านพระหัตถ์ของพระองค์หลี่เฉินจับประโยคนี้ได้ในทันทีว่าแฝงนัยแห่งอะไรอยู่ เขารับถ้วยชาที่ร้อนจัดมาในมือ ก้มหน้าพลาง

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1092

    คิดแล้วคิดอีก เหอคุนก็ยังรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่เหมาะสมเขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นว่า “องค์ชาย แม้กบฏจะถูกปราบแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีผู้ฉวยโอกาสแอบแฝงอยู่ในความวุ่นวาย เวลานี้พระองค์เสด็จออกไปเกรงว่าจะไม่เหมาะนัก กระหม่อมขออาสาไปแทน เรียกให้ขุนนางอาวุโสมาพบพระองค์ที่ตำหนักบูรพา จะดีกว่าหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”หลี่เฉินปรายตามองเหอคุนแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ข้าสั่งให้เตรียม ก็จงไปเตรียม อย่าได้ตั้งคำถามกับคำสั่งของข้า”หัวใจของเหอคุนพลันหดเกร็งในเมื่อองค์รัชทายาทยังคงยืนกรานที่จะเสด็จไปยังจวนจ้าวด้วยพระองค์เอง มิแม้แต่จะยอมให้จ้าวเสวียนจีมาพบที่ตำหนักบูรพา นั่นย่อมหมายความว่า การเจรจาครานี้ระหว่างองค์รัชทายาทกับจ้าวเสวียนจี มีความลับยิ่งนัก และที่สำคัญไปกว่านั้น นี่คือท่าทีหนึ่งท่าทีที่แสดงแก่ทุกผู้ในใต้หล้า ว่าตำหนักบูรพายังมิได้มีเจตนาจะเคลื่อนไหวใดต่อขุนนางอาวุโสสัญญาณจากท่าทีเช่นนี้ ย่อมเพียงพอให้ผู้คนที่เฝ้าจับตามองสถานการณ์ในเมืองหลวงต้องขบคิดใคร่ครวญยาวนานนักเหอคุนไม่กล้าพูดมากความอีก ได้แต่ขานรับแล้วรีบวิ่งไปเตรียมการทันทีทันทีที่เหอคุนจากไป วั่นเจียวเจียวก

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1091

    เมิ่งปิ่งเหวินทั้งร่างดั่งวิญญาณหลุดลอยแต่หัวหน้ากองร้อยนั้นหมดความอดทนแล้ววันนี้มีคนต้องจับกุมมากมาย จำต้องจัดการให้แล้วเสร็จก่อนตะวันจะโผล่พ้นขอบฟ้า เขาจึงไม่มีแม้แต่ใจจะผัดวันประกันพรุ่ง“นำตัวไป”เพียงสิ้นคำสั่ง องครักษ์เสื้อแพรก็กรูกันเข้ามา คว้าเอาเครื่องพันธนาการมาสวมให้เมิ่งปิ่งเหวินในทันทีเครื่องพันธนาการนี้หนักหนาสาหัส ยังจำกัดการเคลื่อนไหวของศีรษะและแขนสองข้าง คนธรรมดายังแทบทนไม่ไหว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงขุนนางที่เคยลอยชายภรรยาเมิ่งปิ่งเหวินร่ำไห้ปานใจจะขาด “ท่านพี่ ท่านจากไปเช่นนี้ พวกเราจะอยู่กันอย่างไร?”เมิ่งปิ่งเหวินหันมองภรรยาและลูกทั้งหลาย ขบกรามแน่นพลางกล่าวว่า “ข้าก็ไม่อาจใส่ใจได้มากไปกว่านี้แล้ว หากได้รับพระเมตตาไว้ชีวิตพวกเจ้า เจ้าจงพาลูกๆ กลับบ้านเกิด เลี้ยงดูพวกเขาให้เติบโต แล้วจงสั่งสอนพวกเขาให้ดีว่าชั่วชีวิตของลูกหลานรุ่นหลัง อย่าได้สอบเป็นขุนนาง จงเป็นเพียงสามัญชนธรรมดา จะดียิ่งกว่า!”กล่าวจบ เมิ่งปิ่งเหวินก็ถูกองครักษ์เสื้อแพรพาตัวไป ทิ้งไว้เพียงเสียงร่ำไห้ของภรรยาและบุตรที่ค่อยๆ ถูกกลืนหายไปในสายฝนกระหน่ำภายใต้สายฝนที่คลุมคลั่งไปทั่วเมืองหลวง เหตุก

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1090

    หญิงวัยกลางคนมีสีหน้าอ่อนโยน เอ่ยว่า “เรื่องก็ผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว ยังคิดคำนึงอยู่ไย อีกทั้งทุกวันนี้ชีวิตของพวกเราใช่ว่าจะเลวร้ายอะไร ท่านแม้ไม่มีอำนาจในมือมากนัก แต่ทุกคนก็รู้ว่าท่านมีสายสัมพันธ์ทางดองกับท่านจางอยู่บ้าง ใครต่อใครก็มักยอมให้พวกเราสักเล็กสักน้อย”“ฝ่ายบ้านเมืองยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง เมื่อเดือนก่อนบ้านเกิดส่งจดหมายมาบอกว่า ผู้ว่าราชการในเมืองนั้นได้สั่งให้บูรณะสุสานบรรพบุรุษของพวกเราใหม่ทั้งแผง แค่ท่านที่เป็นขุนนางในเมืองหลวงเช่นนี้ ตระกูลทั้งตระกูลก็พลอยได้รับเกียรติยศไปด้วย”“เรื่องเหล่านี้ ล้วนเป็นผลดีมิใช่หรือ”เมิ่งปิ่งเหวินพ่นเสียงหึเบาๆ เอ่ยว่า “เจ้ามิรู้ ในท้องถิ่น เรื่องต่างๆ แม้จะมากมาย แต่ก็ยังเป็นเพียงการงานและความสัมพันธ์ในท้องถิ่น วนเวียนไปมา ข้าก็ยังสามารถควบคุมได้ ทว่าในเมืองหลวง เพียงมีคลื่นสะเทือนเพียงเล็กน้อย สำหรับข้าแล้ว ก็อาจกลายเป็นคลื่นยักษ์ที่ทำให้ร่างแหลกเป็นผุยผง”จากถ้อยคำของสามี หญิงวัยกลางคนจับได้ถึงความจนปัญญาและความหวาดหวั่น รีบเอ่ยถามว่า “หรือว่าวันนี้เกิดเรื่องผิดคาดขึ้น? ทั้งวันข้าก็ใจไม่สงบเลย เพิ่งได้เห็นท่านกลับมาก็รู้สึกสบายใจขึ้นบ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1089

    “หากเขามาจริงๆ แล้วคิดจะทำสิ่งใดกับเจ้า ข้าก็ช่วยเจ้าไม่ได้” กงฮุยอวี่กล่าวเสียงเย็น นางคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวอีกว่า “ได้ยินว่าซานเป่า... ตายแล้ว?”หลี่เฉินกล่าวเรียบๆ ว่า “เขาใช้พลังทั้งชีวิต เพื่อประคองลมหายใจของเสด็จพ่อเอาไว้”กงฮุยอวี่ชะงักไปชั่วครู่ แล้วจึงเอ่ยว่า “ขันทีเป็นร่างที่พิกลพิการโดยกำเนิด แม้จะฝึกวิชาบางอย่างได้ผลล้ำเลิศ ทว่าในแง่ของธาตุทั้งห้าภายในร่าง ย่อมไม่สมบูรณ์จึงมีช่องโหว่ แต่เขาก็มีพรสวรรค์สูง วิชาที่ฝึกก็เป็นระดับยอดเยี่ยม จึงพาตัวเองมาถึงขั้นนั้นได้ ทว่าก็แลกมากับการสึกกร่อนอายุขัยอย่างมาก”“เมื่อฝีมือระดับนั้นสูญสิ้น พิษเก่าที่สะสมมาย่อมปะทุขึ้นในบัดดล บวกกับพลังชีวิตที่ร่อยหรอ เขาย่อมไม่อาจรอดชีวิตได้”หลี่เฉินไม่ได้ตอบคำใดในถ้อยคำของกงฮุยอวี่ เพียงแต่จ้องมองสายฝนอันกระหน่ำอยู่นอกศาลาค่ำคืนนี้มีเรื่องมากมายเกินไป หวือหวาสูงต่ำสลับกัน ทำให้อารมณ์ของหลี่เฉินพลอยผันผวนไปตลอด จนรู้สึกราวกับค่ำคืนนี้ยาวนานเป็นพิเศษกงฮุยอวี่ยืนเงียบอยู่อีกครู่ ก่อนจะจากไปโดยไม่ส่งเสียงแม้แต่คำกล่าวลา นางก็ไม่เอ่ย ช่างไร้มารยาทยิ่งแต่ดูเหมือนว่า ‘ไร้มารยาท’ ก็คื

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status