“คุณปู่เหมือนไม่มีทางเลือกให้ผมเลย” เขาเอ่ยเสียงอ่อน
“ย่าไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงว่า คุณปู่ทำแบบนี้ทำไม แต่ในเมื่อเป็นความต้องการของคุณปู่ หลานก็ทำไปก่อน แต่การเลิกลากันเพราะอยู่กันไม่ได้ คุณปู่คงไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย ใหญ่ไม่ต้องห่วงนะลูก ย่าจะช่วยหลานเอง รับรองมันอยู่บ้านหลังนี้ในฐานะเมียของใหญ่ได้ไม่นานแน่” นางหาทางโน้มน้าวต่อ
“คุณปู่กำหนดวันแต่งงานหรือยังครับคุณย่า”
“วันอาทิตย์หน้าจ้ะ” จอมทัพตกใจอีกรอบ เมื่อได้ยินคำตอบ
“ทำไมมันเร็วจังครับ ผมมีเวลาทำใจแค่อาทิตย์เดียวเอง”
อย่างนี้สินะที่เรียกกันว่า แต่งงานสายฟ้าแลบ หากเป็นงานวิวาห์ที่เขาปรารถนา เร็วกว่านี้เขาก็ยอม ทว่าสถานการณ์แบบนี้มันไม่ใช่
“คุณปู่บอกว่า เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว รอแค่ใหญ่ยอมแต่งเท่านั้น” สกาวใจเองก็ไม่คิดว่าจะเร็วปานจรวดเช่นนี้ “แต่งเร็วก็ดีนะ มันจะได้กระเด็นออกไปจากบ้านหลังนี้เร็วๆ หลานจะได้ไปแต่งงานกับน้ำหวานไง นะใหญ่นะ ทำตามที่คุณปู่ว่านะลูก”
จอมทัพถอนหายใจอีกรอบก่อนจะตอบ
“ผมมีทางเลือกด้วยหรือครับคุณย่า คุณปู่ประกาศิตมาซะขนาดนี้” ใช่...ลิขิตไม่ให้ทางเลือกเขาเลย “ผมจะทำตามที่คุณปู่ต้องการ ผมจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นรู้ว่า เป็นเมียผมมันไม่ง่าย ไม่สุขสบายเหมือนที่คิด เธอทำให้ผมทุกข์เท่าไหร่ เธอจะได้คืนกลับเป็นสองเท่า”
เขาชักเริ่มเป็นเดือดเป็นแค้นว่าที่เจ้าสาว ที่เป็นสาเหตุทำให้ตนคล้ายคนจนตรอก หาทางออกไม่ได้ จำต้องเดินไปตามทางที่ลิขิตกำหนด จนจอมทัพนึกอยากทำลายความสุขทั้งชีวิตของสตรีนางนั้น
“ย่าจะช่วยหลานอีกแรง รับรองว่าเป็นหลานสะใภ้ย่าก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน” ปากนางก็พูดไป แต่ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ จะทำหรือไม่ก็ว่ากันอีกเรื่อง “เรื่องที่ย่าจะพูดก็มีแค่นี้ ย่ากลับห้องก่อนนะลูก แล้วอย่าลืมโทรไปเคลียร์กับน้ำหวานล่ะ บอกน้ำหวานว่า หลานสะใภ้ที่ย่าต้องการคือ น้ำหวานคนเดียว”
“ครับคุณย่า”
จอมทัพไม่ได้เดินมาส่งสกาวใจที่ประตู เขานั่งอยู่ตรงนั้นพร้อมกับรวบรวมความกล้า นั่งมองมือถือของตนบนโต๊ะนิ่ง การโทรศัพท์ไปหาธนัสสรณ์ในวันนี้ ต่างกับวันอื่นๆ เพราะเรื่องที่จะสนทนาจอมทัพเชื่อว่า เธอต้องกรีดร้องบ้านแตก ร้องห่มร้องไห้ฟูมฟาย เขาต้องทนฟังเสียงสะอื้นที่ไม่รู้ว่าจะร้องไห้ตามหรือไม่ แต่ถึงอย่างไรจอมทัพก็ต้องบอกเรื่องนี้ให้เธอรู้
แมนฮัตตั้น ประเทศสหรัฐอเมริกา
ภายในอพาต์เม้นต์ใจกลางเมือง กำลังร้อนระอุแม้ว่าอากาศภายนอกจะเย็นจัดจากอากาศที่หนาวเหน็บ ฝ่ายหญิงกำลังเป็นคนคุมเกมกามอย่างเร่าร้อนและเจนจัด จนทำให้ฝ่ายชายถึงกับครางไม่ขาดปาก ยิ่งฝ่ายหญิงได้ยินเสียงครวญรัญจวนของเขาก็ยิ่งชอบใจ ร่ายลีลาสวาทปรนเปรอให้เขามากขึ้น
“ซาร่าดีมาก...คุณสุดยอด...อา”
เดวิดชื่นชมจากใจ เขาหลับนอนกับสตรีมากนักต่อนัก แต่ไม่มีใครทำให้หัวใจตนเต้นแรงเท่านี้มาก่อน เธอเก่งจนเขาสูดลมสูดปากเข้าออกตลอดเวลา ภายในร่างกายเสมือนมีไฟลามเลีย
“คุณชอบไหมคะ...อา...ชอบแบบนี้หรือเปล่า” ธนัสสรณ์ถามเสียงสั่น ขณะที่โยกตัวขึ้นลงไม่หยุด
“ชะ...ชอบมาก...รักคุณที่สุด”
เขาตอบตามความจริงจากใจ การบรรเลงเพลงสวาทดำเนินไปอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน หลังจากเธอควบคุมเกมต่ออีกชั่วครู่ เดวิดได้พลิกร่างสาวสวยให้อยู่ใต้ร่าง ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายมอบความสุขตามแบบฉบับของให้เธอบ้างเขา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
เสียงเคาะประตูห้องดังถี่ ทำให้สองร่างที่หอบหายใจแรงจากภารกิจพิศวาสที่เพิ่งเสร็จสิ้นหันไปมองประตูห้องที่ยังคงถูกเคาะต่อเนื่อง
“ใครมาเคาะประตูซาร่า” เดวิดถามเจ้าของห้องชุดสุดหรู
“สงสัยแม่น่ะ”
ธนัสสรณ์วาดเท้าลงบนพื้นก่อนจะลุกขึ้นยืน เอื้อมมือไปหยิบชุดคลุมที่พาดตรงเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งมาสวมทับร่างเปลือยของตน ก่อนจะเดินไปยังประตูห้อง กระชากเปิดอย่างคนอารมณ์เสีย
“มีอะไรแม่ เคาะซะดังเลย” ธนัสสรณ์ถามเสียงขุ่น
“แกทำอะไรอยู่ รู้ไหมว่าใหญ่โทรหาแกเป็นสิบครั้งแล้ว จนเขาต้องโทรมาหาฉัน”
“หวานกำลังนอนกับเดวิดอยู่เลยปิดเครื่อง” เธอตอบอย่างไม่อาย “พี่ใหญ่จะโทรมาทำไมตั้งหลายรอบ ปกติโทรมาสองรอบหวานไม่รับก็ไม่โทรแล้ว ไม่รู้จะโทรมาทำไมนักหนาไม่เห็นอยากจะรับเลย”
“แกอย่าพูดแบบนี้ให้ใหญ่ได้ยินนะ มีของตายในมือก็อย่าปล่อยให้หลุดมือไป รีบโทรกลับไปหาใหญ่เดี๋ยวนี้ ท่าทางจะมีเรื่องสำคัญไม่งั้นคงไม่โทรหาแกขนาดนี้ แล้วคงไม่โทรหาแม่ด้วย ไปเลยนะ ไปโทรหาใหญ่ตอนนี้เลย” ธนวรรณตำหนิบุตรสาว ตามด้วยคำสั่ง
“พี่ใหญ่ยังไงเสียก็ไม่มีทางไปไหนรอดหรอก รักหวานปานจะกลืนกิน ปีหน้าหวานเรียนจบรับรองว่า หวานจะรีบแจ้นไปแต่งงานกับพี่ใหญ่ที่เมืองไทยทันที”
ธนัสสรณ์รู้ว่าจอมทัพรักตน แต่เธอก็ไม่คิดจะเก็บความสาวไว้ให้เขา กลับใช้ชีวิตเสรี ฟรีเซ็กซ์ตามกลุ่มเพื่อนสาว หลับนอนกับผู้ชายที่ตนพอใจ แม้ว่าบางคนจะเพิ่งเจอกันแค่ครั้งแรก อีกทั้งยังใช้ร่างกายแลกกับของแบรนด์เนมและความสุขสบายตามแต่ใจต้องการ บางครั้งเธอก็ลืมผู้ชายที่ชื่อจอมทัพไปเสียสนิท
“แล้วปีหน้าแกจะจบจริงๆ เหรอ เรียนมาตั้งกี่ปีแล้วยังไม่เห็นวี่แววว่าจะจบ เรียนที่นั่นทีที่นี่ที ทำอะไรไม่เคยเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากนอนกับผู้ชายงานถนัดของแก ฉันละกลัวจริงๆ กลัวว่าใหญ่จะรู้เรื่องความเหลวแหลกของแกจนไม่แต่งงานด้วย คราวนี้แหละอดตายกันแน่ๆ”
ธนวรรณบ่นลูกสาวยกใหญ่ แต่นางก็ได้แค่บ่น เพราะไม่อาจบังคับหรือให้ธนัสสรณ์เลิกทำตัวแบบนี้ได้ เนื่องจากรายได้ที่นำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ส่วนหนึ่งมาจากเรื่องเซ็กซ์ของบุตรสาว
เหตุผลที่บุตรสาวต้องทำเช่นนี้เป็นเพราะ หลังจากสามีของธนวรรณเสียชีวิต ทรัพย์สมบัติทุกอย่างก็ตกเป็นของลูกของสามี ส่วนนางได้เพียงอพาต์เม้นต์แห่งนี้และเงินอีกจำนวนหนึ่งเท่านั้น ครั้นจะกลับเมืองไทยก็ต้องไปเริ่มต้นใหม่ บ้านหลังเก่าได้ขายหลังจากมาอยู่ที่นี่ได้สามเดือน นางกับลูกจึงอยู่ที่นี่ต่อ เพราะอย่างน้อยก็มีที่อยู่อาศัย
Chapter 10“ว่าแต่คุณพ่อคุณแม่ของแก้วทำงานอะไรคะ นามสกุลไม่คุ้นหูเลย หรือว่าจะมีกิจการอยู่ต่างจังหวัดประมาณว่า เป็นเจ้าของรีสอร์ท เจ้าของไร่ส้ม ไร่องุ่นหรือไม่ก็ไร่กาแฟอะไรเทือกนี้ใช่ไหมจ้ะ”สกาวใจอดทนกับความสงสัยไม่ไหว นางคิดว่า การที่ลิขิตหาคู่ให้หลานรัก หญิงสาวคนนั้นจะต้องมีพื้นเพที่ดี มีฐานะและร่ำรวย เพื่อจะได้เทียบเทียมกับตระกูลรุจิเวโรจ ทว่านามสกุลใจจันทร์ทึกที่นางได้ยิน นอกจากจะไม่คุ้นหูยังรู้สึกว่าเป็นนามสกุลบ้านๆ เหมือนคนไม่มีชาติตระกูล แต่คิดไปคิดมาหากไม่มีชาติตระกูลลิขิตคงไม่บังคับให้จอมทัพแต่งงานกับเธอแน่ หรืออาจจะเป็นเศรษฐีบ้านนอก สิ่งเดียวที่จะทำให้ความสงสัยคลายลงคือ ต้องถามให้รู้แจ้ง“ไม่ใช่ค่ะครอบครัวของแก้วคงไม่มีปัญญาเป็นเจ้าของรีสอร์ตหรือเจ้าของไร่ค่ะ แก้วเปิดร้านเบอเกอรี่และกาแฟอยู่แถวศาลาแดงค่ะ ส่วนพ่อกับแม่ทำอาชีพรับจ้างค่ะ”สกาวใจคิ้วขมวดยุ่ง สีหน้าแปลกใจกับคำตอบที่ได้ยิน เท่าที่ฟังครอบครัวศรัญญาเป็นชนชั้นธรรมดา ไม่ได้อยู่ในชนชั้นสูงหรือมีชาติตระกูลเทียบเทียมรุจิเวโรจน์ แล้วเหตุใดลิขิตจึงเลือกศรัญญามาเป็นหลานสะใภ้ ทั้งที่มีลูกหลานคุณหญิงคุณนายอีกหลายสิบคนให้เลือ
Chapter 9“สวัสดีค่ะ” ศรัญญาประนมมือไหว้บุคคลที่อยู่ในห้องรับแขก ก่อนจะหันมาไหว้จอมทัพ “สวัสดีค่ะคุณใหญ่” เจ้าสาวหน้าเสียเมื่อเห็นท่าทีแข็งกระด้างของจอมทัพ ที่แม้แต่มองหน้าเธอ เขายังไม่ทำ แล้วมีหรือจอมทัพจะรับไหว้เธอ “ใหญ่ไม่เห็นหรือไงว่าหนูแก้วไหว้ ทำไมถึงนั่งนิ่งเฉย”ลิขิตปรามหลานชาย จ้องมองอย่างไม่พอใจ แต่จอมทัพก็ยังคงทำเช่นเดิม ไม่สนใจคำพูดของคนเป็นปู่ “ใหญ่ วันนี้วันดีอย่าให้เสียฤกษ์สิลูก”วิมุตเข้าใจความรู้สึกของลูกชาย ทว่าเขาก็ไม่อยากให้ลิขิตอารมณ์เสีย เรพาะถึงอย่างไรจอมทัพก็ต้องอยู่ใช้ชีวิตคู่กับศรัญญา“ทำตามที่คุณปู่บอกนะใหญ่” ดวงดาราช่วยพูดอีกคน จอมทัพมีทีท่าอ่อนลง เขาถอนหายใจก่อนจะเงยหน้ามองเจ้าสาวชั่วขณะหนึ่งจอมทัพตกอยู่ในอาการอึ้ง เมื่อได้เห็นหน้าเจ้าสาวของตน ที่มีความงามแบบธรรมชาติ ไร้การศัลยกรรมดัง ริมฝีปากสีชมพูอ่อนที่คลี่ยิ้ม แม้เป็นรอยยิ้มเพียงน้อยนิด แต่กลับส่งเสริมให้ดวงหน้านวลงดงามมากขึ้น เสี้ยวหนึ่งในความคิด จอมทัพกำลังคิดว่า หากเธอยิ้มเต็มใบหน้าจะสวยงามมากแค่ไหน ทว่าฉับพลันนั้นหญิงสาวอีกคนก็วิ่งเข้ามาในสมอง กระตุ้นบอ
Chapter 8 จอมทัพเดินหน้าเซ็งเข้ามาในอาคารสูงยี่สิบสองชั้นกลางเมืองหลวง เขาเหมือนคนไม่มีชีวิตชีวา วันนี้เขายอมรับว่า ไม่มีกระจิตกระใจจะทำงาน นั่งทำงานก็เหมือนหุ่นยนต์ สมองไม่สั่งการ เข้าประชุมอย่างไม่มีสมาธิ เหม่อลอยหลายครั้งที่คนร่วมประชุมเรียกชื่อเขาหลายครั้ง กว่าที่จะรู้สึกตัว พอเสร็จสิ้นการประชุม เขาได้เดินทางมาหาศตวรรษ เพื่อนรักเพื่อปรับทุกข์ “ลมอะไรหอบนายมาถึงที่นี่ แล้วทำไมทำหน้าตาอย่างนั่นละ หุ้นตกหรือไง”ศตวรรษนึกแปลกใจที่จอมทัพมาหาตนถึงที่ เพราะตั้งแต่คบกันมายี่สิบกว่าปี ส่วนใหญ่จะนัดเจอกันข้างนอกมากกว่า หรือไม่ก็ที่บ้านของแต่ละคน การมาของจอมทัพในวันนี้ ต้องมีเรื่องไม่สบายใจมาแน่ๆ“หุ้นตกยังแย่กว่าเรื่องที่ฉันกำลังจะทำอาทิตย์นี้”“เรื่องอะไรวะที่ทำให้นายรู้สึกแย่ขนาดนี้”ศตวรรษอยากรู้ขึ้นมาจับใจว่า เพื่อนรักกำลังเผชิญปัญหาอะไรอยู่ แต่ดูท่าทางบวกกับสีหน้า เรื่องที่ว่านี้คงจะใหญ่พอตัว ไม่เช่นนั้นคงไม่มีสีหน้าเหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบ“ฉันจะแต่งงานวันอาทิตย์นี้ แต่เจ้าสาวไม่ใช่น้ำหวาน”จอมทัพบอกให้เพื่อนรู้ ศตวรรษร้อง ‘เฮ้ย!’ ออกมาเสียงดังลั่น ตกใจกับเร
Chapter 7“แม่จะกลัวอะไรกับอีแค่เรื่องอดตาย ถ้าไม่มีพี่ใหญ่ เราอดตายไหมละ ก็ไม่เห็นอด แถมอยู่สุขสบายอยู่ที่นี่มาตั้งกี่ปีแล้ว หรือแม่ว่าไม่จริง” ธนัสสรณ์เถียงกลับ“เออ ฉันไม่เถียงแกเรื่องนี้ แต่แกไม่คิดอยากมีเงินใช้สบายๆ โดยไม่ต้องเหนื่อยกายนอนกับผู้ชายมั้งเหรอ มีใหญ่เป็นผัวเท่ากับมีเงินใช้ไปตลอดชีวิต ยิ่งใหญ่รักแกมากมีเหรอจะไม่ปรนเปรอแกมาก แกอยากได้อะไรก็ประเคนให้ สบายทั้งแกทั้งฉัน ที่ฉันพูด ฉันบ่นเพราะฉันอยากให้แกเลิกทำตัวแบบนี้ แล้วลงหลักปักฐานกับใหญ่ซะที แกนี่โง่หรือบ้านะที่ไม่ยอมแต่งงาน”ธนวรรณระอาไม่น้อยกับพฤติกรรมของบุตรสาว แล้วรู้สาเหตุที่ธนัสสรณ์ไม่ยอมแต่งงานกับจอมทัพ ทั้งที่มีโอกาสหลายร้อยครั้ง เป็นเพราะธนัสสรณ์อยากมีชีวิตอิสระ ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ยังไม่อยากผูกมัดจากใครทั้งสิ้นส่วนเรื่องการเรียน ธนัสสรณ์ไม่สนใจเท่าไหร่นัก เพื่อนในวัยเดียวกันต่างจบปริญญาตรีกันเกือบทุกคน ต่างกับลูกสาวของนางที่ต้องเปลี่ยนมหาวิทยาลัยถึงสามแห่ง หากจะนับเวลาเรียนก็เข้าปีที่สิบแล้ว ธนัสสรณ์ยังไม่มีวี่แววว่าจะจบ ทว่าธนัสสรณ์บอกกับจอมทัพว่า ขณะนี้ตนกำลังเรียนปริญญาเอกอยู่ หากเรียนจบเมื่อไหร่จะแ
Chapter 6“คุณปู่เหมือนไม่มีทางเลือกให้ผมเลย” เขาเอ่ยเสียงอ่อน“ย่าไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงว่า คุณปู่ทำแบบนี้ทำไม แต่ในเมื่อเป็นความต้องการของคุณปู่ หลานก็ทำไปก่อน แต่การเลิกลากันเพราะอยู่กันไม่ได้ คุณปู่คงไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย ใหญ่ไม่ต้องห่วงนะลูก ย่าจะช่วยหลานเอง รับรองมันอยู่บ้านหลังนี้ในฐานะเมียของใหญ่ได้ไม่นานแน่” นางหาทางโน้มน้าวต่อ“คุณปู่กำหนดวันแต่งงานหรือยังครับคุณย่า”“วันอาทิตย์หน้าจ้ะ” จอมทัพตกใจอีกรอบ เมื่อได้ยินคำตอบ“ทำไมมันเร็วจังครับ ผมมีเวลาทำใจแค่อาทิตย์เดียวเอง”อย่างนี้สินะที่เรียกกันว่า แต่งงานสายฟ้าแลบ หากเป็นงานวิวาห์ที่เขาปรารถนา เร็วกว่านี้เขาก็ยอม ทว่าสถานการณ์แบบนี้มันไม่ใช่“คุณปู่บอกว่า เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว รอแค่ใหญ่ยอมแต่งเท่านั้น” สกาวใจเองก็ไม่คิดว่าจะเร็วปานจรวดเช่นนี้ “แต่งเร็วก็ดีนะ มันจะได้กระเด็นออกไปจากบ้านหลังนี้เร็วๆ หลานจะได้ไปแต่งงานกับน้ำหวานไง นะใหญ่นะ ทำตามที่คุณปู่ว่านะลูก”จอมทัพถอนหายใจอีกรอบก่อนจะตอบ“ผมมีทางเลือกด้วยหรือครับคุณย่า คุณปู่ประกาศิตมาซะขนาดนี้” ใช่...ลิขิตไม่ให้ทางเลือกเขาเลย “ผมจะทำตามที่คุณปู่ต้องการ ผมจะทำให้ผู้หญิง
Chapter 5 สกาวใจเดินมาหยุดหน้าห้องนอนของหลานชาย วันนี้นางตั้งใจจะพูดเกลี่ยกล่อมให้จอมทัพยอมแต่งงาน ถึงแม้ว่าจะหนักใจไม่น้อยกับภารกิจนี้ แต่พอนึกถึงผลประโยชน์ที่ตนจะได้ ทำให้กำลังใจพุ่งสูง แผนการพูดหว่านล้อมก็บังเกิด แล้วคิดว่ามันจะสำเร็จสวยงามตามตั้งใจ ก่อนจะรวบรวมพลังเคาะประตูห้อง อึดใจต่อมาประตูห้องบานนั้นก็เปิดออก “ย่ามีเรื่องจะคุยด้วย ใหญ่พอมีเวลาให้ย่าไหมลูก”จอมทัพชะงักไปเล็กน้อยกับประโยคที่ได้ยิน เพราะตลอดหลายปีมานี้ สกาวใจไม่เคยมาหาเขาที่ห้อง หากจะมีเรื่องคุยก็ไปคุยระหว่างทานอาหาร หรือไม่ก็ในห้องรับแขก ห้องนั่งเล่นแล้วแต่โอกาส การที่สกาวใจมาหาเขาในวันนี้ ต้องมีเรื่องสำคัญจะพูดด้วยแน่นอน ในใจคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องการถูกคลุมถุงชน “เชิญครับคุณย่า” สกาวใจก้าวเข้าไปในห้องหลานรัก ทรุดกายลงนั่งบนโซฟาปลายเตียง โดยมีจอมทัพนั่งอยู่ใกล้ๆ “คุณย่ามีอะไรจะพูดกับผมครับ” “ย่าพูดตรงๆ นะใหญ่ ย่าอยากให้ใหญ่แต่งงานตามที่คุณปู่บอก”จอมทัพอึ้งและตกใจ ที่อยู่ๆ สกาวใจก็มาพูดให้เขายอมทำตามความต้องการของลิขิต ทั้งที่เมื่อวานนี้สกาวใจมีทีท่าไม่เห