LOGIN“แม่จะกลัวอะไรกับอีแค่เรื่องอดตาย ถ้าไม่มีพี่ใหญ่ เราอดตายไหมละ ก็ไม่เห็นอด แถมอยู่สุขสบายอยู่ที่นี่มาตั้งกี่ปีแล้ว หรือแม่ว่าไม่จริง” ธนัสสรณ์เถียงกลับ
“เออ ฉันไม่เถียงแกเรื่องนี้ แต่แกไม่คิดอยากมีเงินใช้สบายๆ โดยไม่ต้องเหนื่อยกายนอนกับผู้ชายมั้งเหรอ มีใหญ่เป็นผัวเท่ากับมีเงินใช้ไปตลอดชีวิต ยิ่งใหญ่รักแกมากมีเหรอจะไม่ปรนเปรอแกมาก แกอยากได้อะไรก็ประเคนให้ สบายทั้งแกทั้งฉัน ที่ฉันพูด ฉันบ่นเพราะฉันอยากให้แกเลิกทำตัวแบบนี้ แล้วลงหลักปักฐานกับใหญ่ซะที แกนี่โง่หรือบ้านะที่ไม่ยอมแต่งงาน”
ธนวรรณระอาไม่น้อยกับพฤติกรรมของบุตรสาว แล้วรู้สาเหตุที่ธนัสสรณ์ไม่ยอมแต่งงานกับจอมทัพ ทั้งที่มีโอกาสหลายร้อยครั้ง เป็นเพราะธนัสสรณ์อยากมีชีวิตอิสระ ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ยังไม่อยากผูกมัดจากใครทั้งสิ้น
ส่วนเรื่องการเรียน ธนัสสรณ์ไม่สนใจเท่าไหร่นัก เพื่อนในวัยเดียวกันต่างจบปริญญาตรีกันเกือบทุกคน ต่างกับลูกสาวของนางที่ต้องเปลี่ยนมหาวิทยาลัยถึงสามแห่ง หากจะนับเวลาเรียนก็เข้าปีที่สิบแล้ว ธนัสสรณ์ยังไม่มีวี่แววว่าจะจบ ทว่าธนัสสรณ์บอกกับจอมทัพว่า ขณะนี้ตนกำลังเรียนปริญญาเอกอยู่ หากเรียนจบเมื่อไหร่จะแต่งงานกับเขาทันที เป็นข้ออ้างที่ทำให้จอมทัพไม่เร่งรัดงานวิวาห์
“เอาน่าแม่ อย่าบ่นไปหน่อยเลย เดี๋ยวหวานโทรหาพี่ใหญ่เอง” พูดจบ เจ้าของห้องปิดประตูห้องทันที เพราะไม่อยากทนฟังมารดาบ่น
“คุยอะไรกับแม่เหรอ ท่าทางจะเครียด” เดวิดถาม เพราะสองแม่ลูกคุยกันเป็นภาษาไทย
“เรื่องทั่วๆ ไปน่ะ แต่แม่ชอบคิดมากก็เลยทำหน้าเครียด” เธอบอกปัด “คุณไปอาบน้ำเถอะ เราจะได้ออกไปหาอะไรกินกัน”
“ไปอาบน้ำด้วยกันนะ ฉันอยากให้เธอถูหลังให้”
เขาโอบเอวบางร่างน้อยแล้วยิ้มกริ่ม ซึ่งเธอเองก็ไม่ปฏิเสธ ก้าวเดินไปพร้อมกับเดวิดเข้าไปในห้องน้ำ ลืมเรื่องที่รับปากไว้กับมารดาสนิทใจ
ตกดึกวันเดียวกัน
เสียงเคาะประตูดังควบคู่กับเสียงร้องเรียกของเจ้าของมือที่ยังคงเคาะต่อเนื่อง ทำให้เจ้าของห้องที่กำลังล้มตัวลงนอนถึงกับหงุดหงิด ลุกเดินไปเปิดประตูอย่างอารมณ์เสีย
“แกจะเคาะหาสวรรค์วิมานอะไรนักหนาห๊ะ ทอร์นาโดถล่มเมืองรึไง” ธนวรรณหัวเสียใส่บุตรสาว
“หวานจะมาบอกแม่ว่า พี่ใหญ่กำลังจะแต่งงานอาทิตย์นี้”
ธนัสสรณ์บอกมารดาเสียงเรียบ คล้ายกับว่าไม่ใส่ใจหรือรู้สึกใดกับเรื่องที่ได้รับรู้มาสดๆ ร้อนๆ
“หา...แกว่าอะไรนะ ใหญ่น่ะเหรอจะแต่งงาน เป็นไปได้ยังไง แกหูฟาดหรือเปล่า”
อารมณ์ของธนวรรณเปลี่ยนแปลงไปในทันที จากเดิมที่หงุดหงิดกลับกลายเป็นตกใจถึงขั้นตื่นตะลึง เนื่องจากนางไม่คิดมาก่อนว่า จอมทัพจะวิวาห์กับหญิงสาวคนอื่น เพราะเขาเอ่ยคำมั่นสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะกับนางว่า เจ้าสาวของเขาคือธนัสสรณ์คนเดียว
“หูฟาดที่ไหนกันแม่ ได้ยินเต็มสองรูหูเลย แล้วที่พี่ใหญ่โทรมาหาหวานเป็นสิบครั้งเพราะจะบอกเรื่องนี้นี่แหละ” ธนัสสรณ์ก้าวเดินเข้าไปในห้องมารดา ทรุดกายนั่งริมเตียง “หวานโทรกลับไปหาพี่ใหญ่เมื่อกี้นี้ พี่ใหญ่บอกเรื่องนี้ให้หวานฟัง แล้วที่ต้องแต่งงานก็เพราะคุณปู่บังคับ ไม่อย่างนั้นจะยกสมบัติครึ่งหนึ่งให้แม่นั่น ส่วนอีกครึ่งยกให้การกุศล พี่ใหญ่ไม่อยากให้ทุกคนลำบากเพราะตัวเองเป็นต้นเหตุก็เลยตกลงแต่งงานไปก่อน รอสักพักค่อยเลิกกับแม่นั่น พี่ใหญ่ยังบอกอีกว่า ถ้าเลิกกันมันแล้วก็จะแต่งงานกับหวานทันที”
ธนวรรณลดระดับความตกใจและกังวลลง เมื่อได้ยินประโยคต่อมาของบุตรสาว แต่ก็ไม่หมดไปเสียทีเดียว จะให้นางสบายใจก็ต่อเมื่อ จอมทัพเข้าพิธีวิวาห์กับธนัสสรณ์ตามที่หมายมั่นไว้หลายปี ทว่านางก็ยังนึกสงสัยอยู่ว่า เหตุใดลิขิตถึงได้บังคับให้จอมทัพแต่งงาน
“ถ้าใหญ่บอกแบบนี้ก็ไม่ต้องกังวลอะไรสิ เพราะเดี๋ยวก็หย่า แต่แม่สงสัยว่า อยู่ๆ คุณปู่ถึงทำแบบนี้ล่ะ เท่าที่แม่รู้มา คุณปู่ไม่มีนิสัยบังคับลูกหลานนะ จะตามใจซะมากกว่าด้วยซ้ำไป”
“พี่ใหญ่ไม่ได้บอกนะแม่ แต่หวานก็สงสัยอยู่เหมือนกัน อาจเป็นเพราะอยากเห็นพี่ใหญ่เป็นฝั่งเป็นฝาก้ได้นะ” ธนัสรณ์คาดเดา
“คุณปู่ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่า ใหญ่รักและจะแต่งงานกับแกคนเดียว ถ้าอยากให้ใหญ่แต่งงานกับผู้หญิงสักคน คนนั้นก็ต้องเป็นแกไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมกลับเป็นใครก็ไม่รู้”
ธนัสสรณ์ทำท่าทางคิดตามคำพูดของธนวรรณ
“นั่นสิแม่ ทางบ้านพี่ใหญ่ก็รู้กันหมด แล้วทำไมคุณปู่ถึงบังคับพี่ใหญ่ให้แต่งงานกับมันนะ”
“หรือว่าทนรอแกไม่ไหว ต้องใช้แน่ๆ เลย ใหญ่รอแกมาตั้งหลายปี แกก็มัวแต่เล่นตัวอยู่นั่นแหละ เป็นไงล่ะ ปลาชิ้นใหญ่หลุดมือไปเลย เหลือแต่ปลาซิวปลาสร้อยให้แกแทะกิน” ธนวรรณหันมาต่อว่าลูกสาว
“โธ่แม่ ไม่ต้องมาลงที่หวานเลย พี่ใหญ่บอกเองว่า มันเป็นแค่การแต่งงานตามใจคุณปู่ ไม่มีวันมีอะไรกับแม่นั่น แล้วที่สำคัญคุณย่าจะหาทางกำจัดมันออกไปจากบ้านให้เร็วที่สุด แล้วมาแต่งงานกับหวาน ถ้าวันนั้นมาถึง หวานจะไม่พลาดเลยแม่ รับรองว่าคราวนี้จะจับพี่ใหญ่ให้อยู่หมัด”
“ขอให้มันจริงเถอะ แกนะแก ตกลงกับใหญ่ตั้งแต่ปีมะโว้ก็จบเรื่องแล้ว” ธนวรรณนึกเสียดายโอกาสที่จะได้มีลูกเขยฐานะร่ำรวย
“แม่เชื่อหวานเถอะ พี่ใหญ่ดิ้นไปไหนไม่ได้แน่ รักหวานขนาดนั้น” เธอยังคงมั่นใจเช่นเดิม
“เออฉันรู้ว่าใหญ่รักแกมาก แต่ก็อดหวั่นไม่ได้นี่นา”
“พี่ใหญ่ย้ำบอกหวานอีกว่า ไม่มีวันลืมสัญญาที่ให้ไว้ ขอให้หวานมั่นใจในความรักที่พี่ใหญ่มีต่อหวาน คำพูดแค่นี้ก็การันตีได้แล้วนะแม่ว่า หัวใจพี่ใหญ่ไม่มีวันมอบให้ใครนอกจากหวานคนเดียว”
“แต่แม่ว่า ถ้าจะให้มั่นใจกว่านี้ มั่นใจชนิดที่ว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราต้องทำอะไรสักอย่าง” ธนัสสรณ์สนใจคำพูดของมารดาขึ้นมา เธอรีบถามทันควัน
“ทำอะไรแม่”
“ตอนนี้คิดไม่ออก คิดออกจะบอก”
“ถ้างั้นแม่คิดไปก่อนนะ หวานจะกลับห้องแล้ว คืนนี้แซมมานอนค้างที่นี่ หวานไม่อยากให้แซมคอยนาน” พูดจบธนัสสรณ์ก็รีบลุกเดินออกไปจากห้อง ไม่สนใจเสียงธนวรรณที่ดังไล่หลัง
“แกนะแก แทนที่จะช่วยกันคิดกลับไม่สนใจซะนี่ ฉันเอือมแกจริงๆ”
ธนวรรณอ่อนอกอ่อนใจแต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้นอกจากบ่นและบ่น เมื่อธนัสสรณ์นำเรื่องร้อนใจมาให้ ธนวรรณถึงกับนอนไม่หลับ นั่งขบคิดหาวิธีสร้างความมั่นใจให้กับตนและบุตรสาว ครั้นจะคิดคนเดียวคงไม่ได้เรื่องแน่ งานนี้นางจึงต้องหาตัวช่วย แล้วคนที่นางนึกถึงเป็นคนแรกคือ ธนพรน้องสาว
Chapter 93“ปู่ไม่เครียดก็ได้ แต่ต้องสัญญากับปู่นะว่า จะไม่ปิดกั้นตัวเอง”“ค่ะคุณปู่” รุ่งอัมพรรับปาก “เย็นนี้สาวตั้งใจทำกับข้าวให้คุณปู่กินค่ะ คุณปู่อยากกินอะไรคะ”ลิขิตทำท่านึกก่อนจะตอบ “อยากกินต้มยำทะเล ข้าวผัดปู คะน้าน้ำมันหอย”“ได้เลยค่ะ รับรองเย็นนี้คุณปู่พุงกางแน่”“ปู่ไม่กลัวพุงแตก แต่กลัวว่าจะกินกับข้าวฝีมือเราไม่ได้มากกว่า” ปู่หยอกเย้าหลานสาวคนโตกลับ ทั้งที่รู้เต็มอกว่า ฝีมือการทำอาหารของรุ่งอัมพรไม่เป็นรองใคร“แหม คุณปู่พูดอย่างนี้ กำลังใจสาวหดเหลือนิดเดียวเอง ใช่สิ...คุณปู่มีเหลนคนโปรดแล้วนี่ หลานสาวคนนี้ก็เลยตกกระป๋อง” รุ่งอัมพรทำท่างอนไม่จริงจัง พูดติดตลกว่า “สงสัยสมบัติคงจะไหลเข้าไปอยู่ในกระเป๋าน้องนิวคนเดียวแน่ๆ งานนี้สงสัยต้องหาผัวรวยๆ ไว้เลี้ยงตัวเองซะแล้ว”ทั้งหมดพากันหัวเราะกับประโยคจิกกัดของรุ่งอัมพร ที่ผู้พูดพูดเองยังนึกขำไปด้วย เป็นเสียงหัวเราะที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข เด็กชายจอมพลเข้ามาเติมเต็มความสุขให้กับครอบครัวรุจิเวโรจน์ให้เพิ่มมากขึ้น และจะเพิ่มมากขึ้นทุกๆ วันนับต่อจากนี้ ตกบ่าย หลังจากให้นมจอมพลและกล่อมจนหลับ ศรัญญาก็ได้มีเว
Chapter 92“ไม่ต้องกลัวนะแก้ว พี่จะอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหน” เขาให้กำลังใจศรัญญา“ค่ะพี่ใหญ่” และแล้วเวลาที่ทั้งสองรอคอยก็มาถึง ทุกขั้นตอนระหว่างการผ่าคลอด จอมทัพทำหน้าที่บันทึกไว้ในกล้องวิดีโอทุกขึ้นตอน จนกระทั่งวินาทีสำคัญ ทารกน้อยเพศชายออกจากครรภ์ศรัญญา“ลูกชายของเราน่ารักน่าชังมากๆ เลยแก้ว” จอมทัพบอกภรรยา ในขณะที่พยาบาลนำทารกมาให้ผู้เป็นแม่ดู ศรัญญาน้ำตาไหลเมื่อเห็นหน้าลูก แล้วยิ่งได้ยินประโยคต่อมาของสามี เธอก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้ “พี่รักแก้ว รักมากที่สุด”คำรักมาพร้อมกับจุมพิตที่แนบลงบนหน้าผากของเธอ ศรัญญายิ้มอย่างมีความสุข เธอรู้มาตลอดว่าเขารักตน เพียงแค่ว่าเขาไม่เคยเอ่ยปาก แล้ววันนี้จอมทัพก็ได้เอ่ยคำนั้นออกมาแล้ว ศรัญญาสุขล้นทั้งกายและใจ สามเดือนต่อมา รถตู้สีดำแล่นมาจอดหน้าบ้านสุขเกษม จอมทัพอุ้มเด็กชายจอมพล รุจิเวโรจน์ หรือน้องนิววัยสามเดือนก้าวลงมาเป็นคนแรก ตามด้วยศรัญญา รุ่งอัมพร รุ่งทิวาและตบท้ายด้วยตาล สาวใช้ที่ติดสอยห้อยตามไปทุกที่ ก่อนที่ทั้งหมดจะก้าวเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ พอก้าวเข้าไปในห้องโถงใหญ่ พวกเขาก็พบว่า เจ้าของบ้านมานั่งรอด้วยใบหน้ายิ
Chapter 91 หนึ่งปีผ่านไป บ้านสุขเกษมคือบั้นปลายชีวิตของลิขิตกับสกาวใจ ทั้งสองตัดสินใจไปอยู่ที่นั่นแบบถาวร เป็นเพราะสถานที่แห่งนี้เหมาะกับการพักผ่อน บรรยากาศดี สภาพแวดล้อมไร้มลพิษ เหมาะกับการพักรักษาตัวของลิขิตเป็นที่สุด โดยมีนภาพรเป็นผู้ร่วมอาศัยด้วยอีกคน แต่ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะอยู่ห่างไกล ทว่าลูกหลานก็หมั่นไปเยี่ยมเยียนเสมอ บางครั้งวิมุตกับดวงดารามาอยู่นานเป็นเดือน ทางด้านจอมทัพ หลังจากทุกอย่างลงตัว เขาได้เดินมาหาศรัญญาพร้อมกับต้นดอกรัก ใบหน้าจอมทัพเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่คนที่มองเห็นรู้สึกงง โดยเฉพาะต้นดอกรักในมือหนา “พี่มีเรื่องอยากจะให้แก้วช่วย”สรรพนามที่ทั้งคู่เคยใช้ ฉันและเธอ เวลานี้ได้เปลี่ยนไป เสมือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง “ช่วยอะไรคะ” ศรัญญายังงงไม่หาย “ช่วยปลูกดอกรักของเราให้เติบโตและงอกงามไง” จอมทัพยิ้มให้เธอ “พี่รู้ว่า ตลอดระยะเวลาที่เราแต่งงานกัน พี่เป็นสามีที่ไม่ดี ไม่ดูแลแก้วเหมือนกับที่ควรจะเป็น แถมยังทำร้ายจิตใจแก้วสารพัด พี่ขอโทษกับทุกเรื่องที่ผ่านมา พี่สัญญ
Chapter 90 “อา...อืม...คุณจิม”เธอเปล่งเสียงครางทรมานอันแสนสุขตลอดเวลาที่เขาสร้างความสุขให้ตน ศตวรรษเองก็ยังคงลิ้มรสความหอมหวานจากน้ำเสน่หาที่เขาไม่คิดจะละห่าง เพราะทั้งกลิ่นและรสมันทำให้หัวใจเขาเต้นเร่า ร่างกายดูสมบุกสมบรรณ ทุกสัดส่วนตื่นตัวจนทนไม่ไหว แต่ก็ยังเชยชมดอกทิวลิปช่อน้อยต่อไป สร้างกระแสลาวาปรารถนาให้เธอ“หวานที่สุด ชื่นใจจัง”เขาบ่นพึมพำอยู่บริเวณนั้น เน้นขบเม้มทับทิมสวาทจนเธอสะดุ้งเฮือก ครางเสียงกระเส่า ความรัญจวนไม่ต้องพูดถึง ทะลุเพด่านความรู้สึก สูงลิบลิ่วไปบนท้องนภา“อา...อา...อืม...คุณจิม...คุณจิม...พะ...พอคะ”มันเกิดขีดสุดที่ไพลินจะทานรับได้ เธอร้องขอเขา แต่เขากลับไม่สนใจ ชื่นชมทิวลิปงามต่อไป ทว่าศตวรรษสร้างความทรมานอันแสนสุขให้เธอได้ไม่นาน เพราะเวลานี้ ความอดทนอดกลั้นของตนก็จวนเจียนจะไม่ไหว ร่างกายตอบสนองความใคร่ทุกสัดส่วน รีบสะบัดผ้าขนหนูที่พันกายไว้ทันที“ฉันต้องการเธอ...หลิน...เมีนรักของฉัน” เขาไม่รอช้า แทรกความเป็นชายเข้าสู้ถ้ำสวาทที่รู้สึกถึงความซาบซ่านอย่างอธิบายไม่ถูก แต่ที่รู้สึกได้คือ ขนในกายลุกเกลียว ฝ่าความคับแน่นที่แน่นจับจิตจับใจ“โอ๊ย...คุณจิม...คุณจิ
Chapter 89“คุณแม่จะทำอย่างนี้ทำไมคะ”“ก็อยากได้เธอมาเป็นสะใภ้น่ะสิคุณแม่วางแผนตั้งแต่ต้นแล้ว ตั้งแต่ขอตัวเธอมาเป็นเลขาส่วนตัว และทำให้ฉันหึงเธอต่างๆ นานา ที่ฉันรู้เพราะฉันเป็นลูกคุณแม่ ย่อมรู้นิสัยคุณแม่ดีกว่าใคร เพียงแค่ว่าฉันไม่พูดก็แค่นั้น ท่านอยากทำอะไรฉันก็ให้ท่านทำไป คล้อยตามไปตามแผน ซึ่งมันก็ส่งผลดีกับฉันด้วย เพราะในที่สุดเราก็ได้แต่งงานกัน”ทุกเรื่องที่วิมาลทำ ศตวรรษรู้ทุกอย่าง แต่เขาเลือกที่จะไม่พูด เดินไปตามเกมของมารดา เพราะคิดว่า เรื่องนี้ตนมีแต่ได้กับได้ แล้วจะค้านไปเพื่ออะไรไพลินเพิ่งเข้าใจเรื่องทั้งหมด เธอเองก็เคยสงสัยว่า เหตุใดวิมาลาต้องให้ตนไปเป็นเลขาส่วนตัวชั่วคราวด้วย ทั้งที่นางมีคนทำงานแทนพี่แนนหลายคน เลือกมาสักคนก็ได้ หรือจะให้วลีมาทำแทนก็ได้ แต่นางกลับเลือกตน ที่แท้เหตุผลเป็นเช่นนี้เอง“แล้ว...” เธอกำลังจะถามต่อ แต่เขาไม่ยอม“นี่แม่คุณ นี่คืนเข้าหอนะ จะมาเล่นร้อยแปดคำถามทั้งคืนหรือไง” ศตวรรษทำเสียงดุ “ฉันว่าเราปั้มหลานให้คุณแม่ดีกว่า ก่อนออกจากห้องเธอไม่ได้ยินเหรอว่า คุณแม่สั่งให้เรามีลุกเร็วๆ อย่าทำให้คนแก่ต้องคอยนานเลยนะ เริ่มเลยดีกว่า”ศตวรรษรอคอยช่วงเวลานี้จ
Chapter 88 “รับรองครับว่า คุณแม่ได้อุ้มหลานแน่ๆ” ฝ่ายลูกชายก็รับลูกคู่แม่สุดที่รัก “ผมกับหลินจะทำเต็มที่ครับ”วิมาลายิ้มกว้าง ตบบ่าศตวรรษ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้เจ้าบ่างเจ้าสาวอยู่กันตามลำพัง ทันทีที่ประตูห้องหอปิดลง ไพลินลุกขึ้นยืน ร่างสาวสั่นเล็กน้อย แต่หัวใจสั่นยิ่งกว่า เพราะตอนนี้เธออยู่กันสองต่อสองกับเขา ช่วงเวลาที่เธอกลัวและกังวลมากที่สุดกำลังมาถึงแล้ว“หลินไปอาบน้ำก่อนนะคะ”เธอพูดจบก็รีบเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที ส่วนศตวรรษก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเดินผิวปากไปนอนหงายบนเตียง หันไปมองบานประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทอย่างคนอารมณ์ดีไพลินใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง พอเธอก้าวออกมาจากห้องดังกล่าวด้วยชุดคลุมสีขาว ศตวรรษก็เข้าไปทำธุระในห้องน้ำเป็นคนต่อไป ไพลินจึงใช้โอกาสนี้รีบเดินไปหยิบชุดนอนในตู้เสื้อผ้า แล้วสวมใส่ทันที ก่อนจะมาล้มตัวลงนอน ดึงผ้าห่มมาคลุมกายจนเห็นแต่ศีรษะ นอนใจเต้นระทึก แรงยวบของที่นอนทำให้คนที่กำลังนอนตะแคงตัวสั่น ใจสั่นถึงกับหายใจไม่สะดวก นอนตัวเกร็งอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา ยิ่งรับรู้ว่า คนตัวโตขยับเข้ามาใกล้ กายเธอก็แข็งทื่อ อยากจะขยับหนี แต่ทำไม






![บำเรอรักบอดี้การ์ดของคุณพ่อ [ Love Slave ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
