LOGINจอมทัพเดินหน้าเซ็งเข้ามาในอาคารสูงยี่สิบสองชั้นกลางเมืองหลวง เขาเหมือนคนไม่มีชีวิตชีวา วันนี้เขายอมรับว่า ไม่มีกระจิตกระใจจะทำงาน นั่งทำงานก็เหมือนหุ่นยนต์ สมองไม่สั่งการ เข้าประชุมอย่างไม่มีสมาธิ เหม่อลอยหลายครั้งที่คนร่วมประชุมเรียกชื่อเขาหลายครั้ง กว่าที่จะรู้สึกตัว พอเสร็จสิ้นการประชุม เขาได้เดินทางมาหาศตวรรษ เพื่อนรักเพื่อปรับทุกข์
“ลมอะไรหอบนายมาถึงที่นี่ แล้วทำไมทำหน้าตาอย่างนั่นละ หุ้นตกหรือไง”
ศตวรรษนึกแปลกใจที่จอมทัพมาหาตนถึงที่ เพราะตั้งแต่คบกันมายี่สิบกว่าปี ส่วนใหญ่จะนัดเจอกันข้างนอกมากกว่า หรือไม่ก็ที่บ้านของแต่ละคน การมาของจอมทัพในวันนี้ ต้องมีเรื่องไม่สบายใจมาแน่ๆ
“หุ้นตกยังแย่กว่าเรื่องที่ฉันกำลังจะทำอาทิตย์นี้”
“เรื่องอะไรวะที่ทำให้นายรู้สึกแย่ขนาดนี้”
ศตวรรษอยากรู้ขึ้นมาจับใจว่า เพื่อนรักกำลังเผชิญปัญหาอะไรอยู่ แต่ดูท่าทางบวกกับสีหน้า เรื่องที่ว่านี้คงจะใหญ่พอตัว ไม่เช่นนั้นคงไม่มีสีหน้าเหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบ
“ฉันจะแต่งงานวันอาทิตย์นี้ แต่เจ้าสาวไม่ใช่น้ำหวาน”
จอมทัพบอกให้เพื่อนรู้ ศตวรรษร้อง ‘เฮ้ย!’ ออกมาเสียงดังลั่น ตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน เพราะมันเหนือความคาดเดาทั้งปวง
“นายล้อเล่นฉันใช่ไหม นายจอมทัพ รุจิเวโรจน์จะแต่งงานทั้งที ทำไมมันเงียบเป็นเป่าสากแบบนี้วะ มันน่าจะกระหึ่มไปทั่วประเทศไม่ใช่เหรอ” ศตวรรษหวังว่าจอมทัพจะพูดเล่น
“เรื่องแบบนี้พูดเล่นได้เหรอ ถ้าเป็นเรื่องไม่จริง หน้าฉันคงไม่ซังกะตายอย่างนี้หรอก” จอมทัพตอบเพื่อน “คุณปู่บังคับให้ฉันแต่งงานกับใครก็ไม่รู้ ถ้าไม่แต่งคุณปู่จะยกสมบัติให้ผู้หญิงคนนั้นครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งยกให้การกุศล ฉันเห็นแก่ส่วนรวมก็เลยจำใจแต่ง แล้วค่อยเลิกทีหลัง”
“แปลกแฮะ เท่าที่ฉันรู้จักคุณปู่ คุณปู่ไม่เคยบังคับลูกหลานให้ทำอะไรตามใจท่านนะ ยิ่งเรื่องนี้ยิ่งไม่น่าบังคับ สมัยนี้มันหมดยุคคลุมถุงชนแล้ว ที่สำคัญคุณปู่อยากให้นายแต่งงานมากถึงขึ้นตั้งเงื่อนไขแบบนี้เชียวเหรอ ทำให้ฉันคิดว่า คุณปู่คงอยากได้ผู้หญิงคนนั้นเป็นหลานสะใภ้มากๆ” ศตวรรษตั้งข้อสังเกต
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่า ทำไมคุณปู่ถึงอยากให้ฉันแต่งงาน ฉันว่าจะถามอยู่ แต่คิดไปคิดมาไม่จำเป็นต้องรู้ เพราะการแต่งงานครั้งนี้ฉันไม่จำใจแต่ง แต่งตามความต้องการของคุณปู่ ท้ายสุดฉันก็จะเลิกกับผู้หญิงคนนั้น”
“ว่าที่เจ้าสาวของนายคือใคร ชื่ออะไร ลูกเต้าเหล่าใคร” ศตวรรษถามต่อ
“ฉันไม่รู้หรอก แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย”
“อะไรวะจะแต่งงานอยู่แล้ว นายยังไม่เคยเห็นว่าที่เจ้าสาวเลยเหรอ เป็นไปได้ยังไงวะเนี่ย”
“เป็นไปแล้วไง อย่างที่บอก ฉันจำใจแต่ง แต่งสักพักก็เลิก ฉันก็เลยคิดว่า ไม่จำเป็นต้องรู้ประวัติของผู้หญิงคนนั้น”
“นายแน่ใจเหรอว่าคุณปู่จะให้เลิกกับผู้หญิงคนนั้นง่ายๆ ขนาดตอนแต่งงานยังตั้งเงื่อนไข แต่งไปคุณปู่จะเล่นแง่อะไรอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้”
คำพูดของศตวรรษทำให้จอมทัพฉุกใจคิด เขาลืมนึกถึงข้อนี้เสียสนิท คิดเพียงว่าแต่งงานตามความของลิขิต และจะเลิกล้างในเวลาต่อมา
“ฉันคิดว่าคุณปู่ไม่น่าตั้งแง่อะไรแล้วนะ แค่ถึงตั้งแง่ฉันก็ไม่กลัว ฉันจะหาทางเลิกกับผู้หญิงคนนั้นให้ได้”
จอมทัพไม่หวั่น แค่เขาจำยอมเข้างานวิวาห์ก็เหลือทนแล้ว อย่าให้ต้องอยู่กับคนที่ไม่รัก ไม่ปรารถนาไปตลอดชีวิตเลย หากลิขิตมีข้อแม้อีก เขาก็จะทำทุกวิถีทางที่จะให้ตนเองพ้นจากบ่วงชีวิตคู่ให้ได้
“เอาเถอะ มันอาจจะไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ก็ได้ แล้วนายแต่งงานที่ไหน เชิญแขกยังไง”
“ไม่ได้เชิญใคร แต่งกันภายในแค่นั้น”
“น้ำหวานรู้เรื่องนี้หรือยัง” เจ้าของห้องถามถึงคนสำคัญอีกหนึ่งคนของจอมทัพ
“รู้แล้ว ฉันโทรไปบอกน้ำหวานตั้งแต่วันที่ตอบตกลงแต่งงาน และบอกเหตุผลที่ฉันจำต้องแต่งให้น้ำหวานรู้ด้วย ยังบอกอีกว่าฉันเลิกกับผู้หญิงคนนั้นเมื่อไหร่ ฉันจะแต่งงานกับน้ำหวานทันที” จอมทัพทำสีหน้าเศร้าลงถนัดตา เมื่อเอ่ยถึงธนัสสรณ์ หญิงงามในดวงใจ
ศตวรรษเห็นหน้าเพื่อนแล้วก็ไม่อยากเซ้าซี้ถามต่อ จึงเปลี่ยนเรื่องให้เพื่อนคลายจากความทุกข์
“ไปหาอะไรดื่มกันไหม ฉันว่างพอดี”
“ไปสิ ฉันมาที่นี่ก็กะว่าจะชวนนายไปดื่มแก้กลุ้ม ทำงานก็ไม่มีสามธิ”
“งั้นไปเลยละกัน ไปคอนโดฉันก่อนนะ แล้วค่ำๆ ค่อยไปคลับ”
“อืม” ศตวรรษชวนไปไหมจอมทัพไปหมด เพราะตอนนี้เขาต้องการแอลกอฮอล์แรงๆ มาดับความกลัดกลุ้มที่กินเซาะจิตใจ สองเพื่อนสนิทพากันเดินออกจากห้อง จุดมุ่งหมายคือคอนโดมิเนียมสุดหรูใจกลางเมืองหลวง สถานที่ดับกลุ้มของจอมทัพ
ในที่สุดงานวิวาห์ที่จอมทัพไม่ปรารถนาก็มาถึง ครอบครัวรุจิเวโรจน์มารวมตัวกันอยู่ในห้องโถงใหญ่ เพื่อรอเจ้าสาวที่เวลานี้กำลังเดินทางมาถึงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เพื่อทำพิธีแต่งงานอันเรียบง่ายตามกำหนด เริ่มจากตักบาตรพระสงฆ์ ทำบุญเลี้ยงพระ จากนั้นก็เป็นการรดน้ำสังข์ เสร็จสิ้นก็จะเป็นการรับประทานอาหารเลี้ยงฉลองมงคลสมรส ต่อจากนี้จะเป็นการส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอ
งานวิวาห์วันนี้ไม่มีแขกเหรื่อมาร่วมงาน จะมีเพียงสมาชิกในครอบครัวรุจิเวโรจน์และบิดามารดาของเจ้าสาวเท่านั้น หรือจะเรียกได้ว่า แต่งเฉพาะคนภายใน ช่างเป็นงานแต่งงานที่เงียบเฉียบยิ่งนัก ไม่สมกับฐานะขอตระกูลนี้เลย
“มาแล้วค่ะคุณท่าน” ประนอมแม่บ้านวัยดึกเดินมาบอกเจ้านายที่นั่งรอเจ้าสาว
“แหม อยากจจะเห็นหน้าเหลือเกินว่า จะสวยหยาดเยิ้มแค่ไหน เป็นลูกบ้านใคร คุณถึงอยากให้แต่งงานกับใหญ่จนเนื้อเต้น”
สกาวใจไม่วายเหน็บลิขิต ทุกคนที่ยังไม่เคยเห็นหน้าว่าที่เจ้าสาวของจอมทัพ พากันตื่นเต้นและอยากยลโฉม ยกเว้นจอมทัพเพียงคนเดียว
“อีกไม่กี่อึดใจคุณก็ได้เห็นหน้าหลานสะใภ้แล้ว รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังในความสวย” ลิขิตไม่อยากต่อล้อต่อเถียง เขาบอกภรรยาหลวงเสียงเรียบ ทว่าใบหน้ากลับมีรอยยิ้ม “นั่นไง เดินมาโน่นแล้ว”
สกาวใจ วิมุต ดวงดาราและบุตรสาวอีกสองคน ต่างมองเจ้าของชุดไทยประยุคย์สีงาช้าง รูปร่างของเธอสมส่วน ใบหน้าแต่งแต้มเล็กน้อยทว่าส่งเสริมความงดงามได้มากโข ทั้งหมดที่มองเห็นต่างพากันชื่นชมในความสวยของศรัญญา ส่วนเจ้าบ่าวหาได้ชายตาแล เขานั่งตัวตรง สายตามองไปทางอื่น เธอเดินมาพร้อมกับหญิงชายอีกสองคน ที่คาดเดาได้ว่าอาจจะเป็นบิดามารดา
Chapter 93“ปู่ไม่เครียดก็ได้ แต่ต้องสัญญากับปู่นะว่า จะไม่ปิดกั้นตัวเอง”“ค่ะคุณปู่” รุ่งอัมพรรับปาก “เย็นนี้สาวตั้งใจทำกับข้าวให้คุณปู่กินค่ะ คุณปู่อยากกินอะไรคะ”ลิขิตทำท่านึกก่อนจะตอบ “อยากกินต้มยำทะเล ข้าวผัดปู คะน้าน้ำมันหอย”“ได้เลยค่ะ รับรองเย็นนี้คุณปู่พุงกางแน่”“ปู่ไม่กลัวพุงแตก แต่กลัวว่าจะกินกับข้าวฝีมือเราไม่ได้มากกว่า” ปู่หยอกเย้าหลานสาวคนโตกลับ ทั้งที่รู้เต็มอกว่า ฝีมือการทำอาหารของรุ่งอัมพรไม่เป็นรองใคร“แหม คุณปู่พูดอย่างนี้ กำลังใจสาวหดเหลือนิดเดียวเอง ใช่สิ...คุณปู่มีเหลนคนโปรดแล้วนี่ หลานสาวคนนี้ก็เลยตกกระป๋อง” รุ่งอัมพรทำท่างอนไม่จริงจัง พูดติดตลกว่า “สงสัยสมบัติคงจะไหลเข้าไปอยู่ในกระเป๋าน้องนิวคนเดียวแน่ๆ งานนี้สงสัยต้องหาผัวรวยๆ ไว้เลี้ยงตัวเองซะแล้ว”ทั้งหมดพากันหัวเราะกับประโยคจิกกัดของรุ่งอัมพร ที่ผู้พูดพูดเองยังนึกขำไปด้วย เป็นเสียงหัวเราะที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข เด็กชายจอมพลเข้ามาเติมเต็มความสุขให้กับครอบครัวรุจิเวโรจน์ให้เพิ่มมากขึ้น และจะเพิ่มมากขึ้นทุกๆ วันนับต่อจากนี้ ตกบ่าย หลังจากให้นมจอมพลและกล่อมจนหลับ ศรัญญาก็ได้มีเว
Chapter 92“ไม่ต้องกลัวนะแก้ว พี่จะอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหน” เขาให้กำลังใจศรัญญา“ค่ะพี่ใหญ่” และแล้วเวลาที่ทั้งสองรอคอยก็มาถึง ทุกขั้นตอนระหว่างการผ่าคลอด จอมทัพทำหน้าที่บันทึกไว้ในกล้องวิดีโอทุกขึ้นตอน จนกระทั่งวินาทีสำคัญ ทารกน้อยเพศชายออกจากครรภ์ศรัญญา“ลูกชายของเราน่ารักน่าชังมากๆ เลยแก้ว” จอมทัพบอกภรรยา ในขณะที่พยาบาลนำทารกมาให้ผู้เป็นแม่ดู ศรัญญาน้ำตาไหลเมื่อเห็นหน้าลูก แล้วยิ่งได้ยินประโยคต่อมาของสามี เธอก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้ “พี่รักแก้ว รักมากที่สุด”คำรักมาพร้อมกับจุมพิตที่แนบลงบนหน้าผากของเธอ ศรัญญายิ้มอย่างมีความสุข เธอรู้มาตลอดว่าเขารักตน เพียงแค่ว่าเขาไม่เคยเอ่ยปาก แล้ววันนี้จอมทัพก็ได้เอ่ยคำนั้นออกมาแล้ว ศรัญญาสุขล้นทั้งกายและใจ สามเดือนต่อมา รถตู้สีดำแล่นมาจอดหน้าบ้านสุขเกษม จอมทัพอุ้มเด็กชายจอมพล รุจิเวโรจน์ หรือน้องนิววัยสามเดือนก้าวลงมาเป็นคนแรก ตามด้วยศรัญญา รุ่งอัมพร รุ่งทิวาและตบท้ายด้วยตาล สาวใช้ที่ติดสอยห้อยตามไปทุกที่ ก่อนที่ทั้งหมดจะก้าวเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ พอก้าวเข้าไปในห้องโถงใหญ่ พวกเขาก็พบว่า เจ้าของบ้านมานั่งรอด้วยใบหน้ายิ
Chapter 91 หนึ่งปีผ่านไป บ้านสุขเกษมคือบั้นปลายชีวิตของลิขิตกับสกาวใจ ทั้งสองตัดสินใจไปอยู่ที่นั่นแบบถาวร เป็นเพราะสถานที่แห่งนี้เหมาะกับการพักผ่อน บรรยากาศดี สภาพแวดล้อมไร้มลพิษ เหมาะกับการพักรักษาตัวของลิขิตเป็นที่สุด โดยมีนภาพรเป็นผู้ร่วมอาศัยด้วยอีกคน แต่ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะอยู่ห่างไกล ทว่าลูกหลานก็หมั่นไปเยี่ยมเยียนเสมอ บางครั้งวิมุตกับดวงดารามาอยู่นานเป็นเดือน ทางด้านจอมทัพ หลังจากทุกอย่างลงตัว เขาได้เดินมาหาศรัญญาพร้อมกับต้นดอกรัก ใบหน้าจอมทัพเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่คนที่มองเห็นรู้สึกงง โดยเฉพาะต้นดอกรักในมือหนา “พี่มีเรื่องอยากจะให้แก้วช่วย”สรรพนามที่ทั้งคู่เคยใช้ ฉันและเธอ เวลานี้ได้เปลี่ยนไป เสมือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง “ช่วยอะไรคะ” ศรัญญายังงงไม่หาย “ช่วยปลูกดอกรักของเราให้เติบโตและงอกงามไง” จอมทัพยิ้มให้เธอ “พี่รู้ว่า ตลอดระยะเวลาที่เราแต่งงานกัน พี่เป็นสามีที่ไม่ดี ไม่ดูแลแก้วเหมือนกับที่ควรจะเป็น แถมยังทำร้ายจิตใจแก้วสารพัด พี่ขอโทษกับทุกเรื่องที่ผ่านมา พี่สัญญ
Chapter 90 “อา...อืม...คุณจิม”เธอเปล่งเสียงครางทรมานอันแสนสุขตลอดเวลาที่เขาสร้างความสุขให้ตน ศตวรรษเองก็ยังคงลิ้มรสความหอมหวานจากน้ำเสน่หาที่เขาไม่คิดจะละห่าง เพราะทั้งกลิ่นและรสมันทำให้หัวใจเขาเต้นเร่า ร่างกายดูสมบุกสมบรรณ ทุกสัดส่วนตื่นตัวจนทนไม่ไหว แต่ก็ยังเชยชมดอกทิวลิปช่อน้อยต่อไป สร้างกระแสลาวาปรารถนาให้เธอ“หวานที่สุด ชื่นใจจัง”เขาบ่นพึมพำอยู่บริเวณนั้น เน้นขบเม้มทับทิมสวาทจนเธอสะดุ้งเฮือก ครางเสียงกระเส่า ความรัญจวนไม่ต้องพูดถึง ทะลุเพด่านความรู้สึก สูงลิบลิ่วไปบนท้องนภา“อา...อา...อืม...คุณจิม...คุณจิม...พะ...พอคะ”มันเกิดขีดสุดที่ไพลินจะทานรับได้ เธอร้องขอเขา แต่เขากลับไม่สนใจ ชื่นชมทิวลิปงามต่อไป ทว่าศตวรรษสร้างความทรมานอันแสนสุขให้เธอได้ไม่นาน เพราะเวลานี้ ความอดทนอดกลั้นของตนก็จวนเจียนจะไม่ไหว ร่างกายตอบสนองความใคร่ทุกสัดส่วน รีบสะบัดผ้าขนหนูที่พันกายไว้ทันที“ฉันต้องการเธอ...หลิน...เมีนรักของฉัน” เขาไม่รอช้า แทรกความเป็นชายเข้าสู้ถ้ำสวาทที่รู้สึกถึงความซาบซ่านอย่างอธิบายไม่ถูก แต่ที่รู้สึกได้คือ ขนในกายลุกเกลียว ฝ่าความคับแน่นที่แน่นจับจิตจับใจ“โอ๊ย...คุณจิม...คุณจิ
Chapter 89“คุณแม่จะทำอย่างนี้ทำไมคะ”“ก็อยากได้เธอมาเป็นสะใภ้น่ะสิคุณแม่วางแผนตั้งแต่ต้นแล้ว ตั้งแต่ขอตัวเธอมาเป็นเลขาส่วนตัว และทำให้ฉันหึงเธอต่างๆ นานา ที่ฉันรู้เพราะฉันเป็นลูกคุณแม่ ย่อมรู้นิสัยคุณแม่ดีกว่าใคร เพียงแค่ว่าฉันไม่พูดก็แค่นั้น ท่านอยากทำอะไรฉันก็ให้ท่านทำไป คล้อยตามไปตามแผน ซึ่งมันก็ส่งผลดีกับฉันด้วย เพราะในที่สุดเราก็ได้แต่งงานกัน”ทุกเรื่องที่วิมาลทำ ศตวรรษรู้ทุกอย่าง แต่เขาเลือกที่จะไม่พูด เดินไปตามเกมของมารดา เพราะคิดว่า เรื่องนี้ตนมีแต่ได้กับได้ แล้วจะค้านไปเพื่ออะไรไพลินเพิ่งเข้าใจเรื่องทั้งหมด เธอเองก็เคยสงสัยว่า เหตุใดวิมาลาต้องให้ตนไปเป็นเลขาส่วนตัวชั่วคราวด้วย ทั้งที่นางมีคนทำงานแทนพี่แนนหลายคน เลือกมาสักคนก็ได้ หรือจะให้วลีมาทำแทนก็ได้ แต่นางกลับเลือกตน ที่แท้เหตุผลเป็นเช่นนี้เอง“แล้ว...” เธอกำลังจะถามต่อ แต่เขาไม่ยอม“นี่แม่คุณ นี่คืนเข้าหอนะ จะมาเล่นร้อยแปดคำถามทั้งคืนหรือไง” ศตวรรษทำเสียงดุ “ฉันว่าเราปั้มหลานให้คุณแม่ดีกว่า ก่อนออกจากห้องเธอไม่ได้ยินเหรอว่า คุณแม่สั่งให้เรามีลุกเร็วๆ อย่าทำให้คนแก่ต้องคอยนานเลยนะ เริ่มเลยดีกว่า”ศตวรรษรอคอยช่วงเวลานี้จ
Chapter 88 “รับรองครับว่า คุณแม่ได้อุ้มหลานแน่ๆ” ฝ่ายลูกชายก็รับลูกคู่แม่สุดที่รัก “ผมกับหลินจะทำเต็มที่ครับ”วิมาลายิ้มกว้าง ตบบ่าศตวรรษ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้เจ้าบ่างเจ้าสาวอยู่กันตามลำพัง ทันทีที่ประตูห้องหอปิดลง ไพลินลุกขึ้นยืน ร่างสาวสั่นเล็กน้อย แต่หัวใจสั่นยิ่งกว่า เพราะตอนนี้เธออยู่กันสองต่อสองกับเขา ช่วงเวลาที่เธอกลัวและกังวลมากที่สุดกำลังมาถึงแล้ว“หลินไปอาบน้ำก่อนนะคะ”เธอพูดจบก็รีบเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที ส่วนศตวรรษก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเดินผิวปากไปนอนหงายบนเตียง หันไปมองบานประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทอย่างคนอารมณ์ดีไพลินใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง พอเธอก้าวออกมาจากห้องดังกล่าวด้วยชุดคลุมสีขาว ศตวรรษก็เข้าไปทำธุระในห้องน้ำเป็นคนต่อไป ไพลินจึงใช้โอกาสนี้รีบเดินไปหยิบชุดนอนในตู้เสื้อผ้า แล้วสวมใส่ทันที ก่อนจะมาล้มตัวลงนอน ดึงผ้าห่มมาคลุมกายจนเห็นแต่ศีรษะ นอนใจเต้นระทึก แรงยวบของที่นอนทำให้คนที่กำลังนอนตะแคงตัวสั่น ใจสั่นถึงกับหายใจไม่สะดวก นอนตัวเกร็งอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา ยิ่งรับรู้ว่า คนตัวโตขยับเข้ามาใกล้ กายเธอก็แข็งทื่อ อยากจะขยับหนี แต่ทำไม







