Share

ตอนที่ 9 ชอบกินหอย

last update Last Updated: 2025-05-03 21:34:40

รถสปอตคันหรูขับลัดเลาะมาตามถนนเลียบชายหาด วันนี้อากาศดี ไม่ร้อนมาก ฟาบริซขับรถมาจอดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากริมหาดมากนัก เป็นร้านอาหารแบบธรรมดาๆ แต่ดูสะอาดสะอ้านและบรรยากาศดี

"สวัสดีค่ะคุณฟาบริซ หายไปนานเลยนะคะ ป้านึกว่าลืมป้าเสียแล้ว" ป้าเจ้าของร้านยิ้มให้และพูดคุยทักทายกับฟาบริซด้วยท่าทางสนิทสนม แสดงว่าเขาคงมาฝากท้องที่ร้านนี้บ่อยแน่ๆ

"ของผมขอเหมือนเดิมนะครับแล้วขอเพิ่มข้าวผัดปู ต้มยำกุ้งน้ำข้น ปลาหมึกนึ่งมะนาว ห่อหมกลูกชิ้นปลากราย แล้วก็ทอดมันกุ้งครับ" ฟาบริซสั่งอาหารกับป้าเจ้าของร้านที่ท่าทางใจดีคนนั้นโดยที่ไม่ถามความเห็นของฉันสักคำ แต่ดูๆ แล้วเมนูที่เขาสั่งมันเป็นเมนูโปรดของฉันทั้งนั้นเลยนะ เอ๊ะ! แล้วเขารู้ได้ไงว่าฉันชอบกินอะไร หรือเขาเองก็ชอบกินเหมือนฉัน

ความจริงเรื่องอาหารที่ทั้งสองครอบครัวของเราชอบทานมันก็ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่หรอก เพราะมัมของเราทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกัน แล้วก็เป็นคนไทยเหมือนกันแถมทั้งสองครอบครัวจะมีนัดทานอาหารด้วยกันทุกสัปดาห์ ถ้าใครจะสังเกตว่าคนไหนชอบอะไรก็คงรู้ได้ไม่ยาก เพียงแต่ที่ผ่านมาฉันไม่เคยใส่ใจใครนอกจากเฮียฟาคนเดียวเท่านั้น

เพียงครู่เดียวอาหารที่สั่งทั้งหมดก็ถูกวางลงบนโต๊ะอาหารตรงหน้า กลิ่นอาหารคือยั่วยวนมาก แถมหน้าตาก็น่ากินสุดๆ ฉันหยิบจานเล็กตักแบ่งข้าวผัดปูสำหรับตัวเองและตักอีกจานส่งให้ฟาบริซ

"ฉันไม่ชอบกินปู" เขาตอบสั้นๆ

"แล้วนายสั่งมาทำไม?" ฉันเอ่ยถามด้วยความงุนงง

เขาไม่ตอบแต่ใช้ช้อนซ้อมม้วนเส้นสปาเก็ตตี้หอยลายเข้าปาก อาหารที่นี่คือดีงาม อร่อยจนฉันวางช้อนไม่ลง มารู้สึกตัวอีกทีคือฟาบริซนั่งกอดอกมองฉันที่กำลังกินตุ้ยๆ อยู่ ฉันจึงตักต้มยำกุ้งใส่ถ้วยเล็กแล้วส่งให้เขาเป็นมารยาทนิดนึง เดี๋ยวจะหาว่าฉันตะกละ

"ไม่ชอบกินกุ้ง" เขาตอบเสียงห้วนๆ มาอีกแล้ว อะไรกันเนี่ย

"งั้นเอาหมึกนึ่ง..." ฉันถามยังไม่ทันขาดคำ..

"ไม่ชอบกินปลาหมึก" คำตอบที่ออกจากปากของเขามันปั่นประสาทฉันเป็นอย่างมาก

"ว๊อยยย .. ไอ้นั่นก็ไม่ชอบ ไอ้นี่ก็ไม่ชอบ แล้วสั่งมาทำมะเขืออะไรเยอะแยะเนี่ย" ฉันปรี๊ดเสียงใส่

"สั่งให้เธอ" เขายังตอบห้วนๆ ตามสไตล์แต่มันดูกวนเบื้องล่างฉันเหลือเกิน ฉันหายใจเข้าปอดลึกๆ พยายามข่มอารมณ์หงุดหงิดไว้ เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงสะใจน่าดูที่ยั่วโทสะฉันได้

"ปูไม่ชอบ กุ้งไม่ชอบ หมึกก็ไม่ชอบ แล้วคุณชายฟาบริซชอบทานอะไรล่ะคะ เดี๋ยวดิฉันจะได้สั่งให้ค่ะ" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันสุดฤทธิ์ เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ มองหน้าฉันแล้วยิ้ม ก่อนที่จะตอบออกมา

"ชอบกินหอย"

พรวดดด ...แค่กๆ แค่กๆ

ฉันที่กำลังซดน้ำแกงต้มยำกุ้งอยู่ๆ ก็สำลักพรวดเมื่อได้ยินคำตอบ เขาหัวเราะเสียงดังอย่างอารมณ์ดีที่แกล้งฉันได้ เดี๋ยวเถอะ.. อย่าให้ถึงคราวฉันบ้างแล้วกัน

ฉันโบกมือเรียกพนักงานเพื่อสั่งอาหาร พักหนึ่งก็มีน้องพนักงานชายหนุ่มเดินเข้ามาก้มหน้าก้มตาจรดปากกาลงกับสมุดเตรียมรับออเดอร์

"พี่ขอหอยนางรมทรงเครื่องค่ะ" น้องพนักงานเงยหน้าขึ้นมามองฉันแว่บหนึ่งแล้วมองไปที่ฟาบริซพร้อมกับยิ้มแปลกๆ

"คุณผู้หญิงจะรับกี่ชุดครับ" น้องพนักงานเอ่ยถาม

"สามชุดไปเลยค่ะน้อง" ฉันตอบกลับไปเรียบๆ ในขณะที่น้องพนักงานหันกลับไปมองฟาบริซพร้อมกับยิ้มให้กันแบบมีเลศนัยอย่างเปิดเผย

"จะไหวเหรอครับพี่ฟาบริซ" เขาสองคนพูดกระซิบกระซาบกันยิ้มๆ แสดงว่าคงจะสนิทกันพอสมควรแหละ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจหรอก

จริงๆ แล้วฉันชอบทานหอยนางรมทรงเครื่องมากๆ เลยนะ แต่ที่สั่งมาหลายชุดเพราะอยากแกล้งฟาบริซ ฉันคิดว่าคนกินยากอย่างเขาต้องกินไม่ได้แน่ๆ แต่งานนี้เขาคงไม่ยอมเสียเชิงง่ายๆ หรอก อยากบอกเองหนิว่าชอบกินหอย จะเอาให้อ้วกแตกไปเลย ถึงทีฉันเอาคืนบ้างล่ะ ส่วนหอยสามชุดนั้นที่เขากินไม่ได้ ฉันนี่แหละจะฟาดให้ราบพนาสูญเชียว

หลังจากนั้นไม่นานหอยนางรมทรงเครื่องทั้งสามชุดก็พรั่งพร้อมอยู่บนโต๊ะอาหารเป็นที่เรียบร้อย ฉันงี้น้ำลายแทบราด ก็หอยมันสดและตัวใหญ่มากๆ ไหนจะน้ำจิ้มซีฟู้ดและเครื่องเคียงต่างๆ ที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนชวนน้ำลายแตกนั่นอีก แต่ฉันต้องสงบสติอารมณ์ไว้ก่อนไม่งั้นจะเสียการใหญ่

"ทานสิคะคุณชาย ชอบกินหอยไม่ใช่เหรอ ฉันอุตส่าสั่งให้แล้วนะ ต้องให้ป้อนไหมคะ?" ฉันคะยั้นคะยอเต็มที่ คราวนี้คงได้เห็นคนหน้าแหกกันบ้างแหละ

"ป้อนสิ"

คำตอบของเขาไม่ผิดกับที่ฉันคิดไว้เลย คงกลัวจะเสียเชิงล่ะสิท่า ถึงได้ยอมกิน แต่เอาเถอะ ไปให้สุดเลยจ้ะพ่อคู๊ณ ฉันขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆ เขาแล้วตักหอยนางรมตัวโตลงในถ้วยเล็กพร้อมกับเครื่องเคียงราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดพร้อมตักไปจ่อที่ปากของเขา เขาอ้าปากเตรียมรับทันที

"เดี๋ยวเถอะได้อ้วกแตกแน่ๆ " ฉันแอบคิดกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจในขณะที่ฟาบริซรับหอยนางรมทรงเครื่องเข้าไปในปาก แต่เขากลับเคี้ยวมันอย่างเอร็ดอร่อยแถมยังเร่งให้ฉันป้อนต่ออีกต่างหาก

O_O อะไรครับเนี่ย!! ฉันขมวดคิ้วงุนงงจนเขาต้องร้องเตือนให้ป้อนอีกรอบ อีตาบ้านั่นไม่อ้วก เคี้ยวตุ้ยๆ แถมทำหน้าฟินมากๆ ใส่ฉันอีก ฮึ่ยยย!!! สรุปแล้วหอยนางรมสามชุดฉันไม่ได้กินเลยสักคำ เพราะอีตาบ้านี่ฟาดเรียบ ฉันจิ๊ปากอย่างหงุดหงิดที่ไม่ได้กินของโปรด แต่ก็เอาเถอะ สั่งใหม่ก็ได้หนิ

"น้องคะ พี่สั่งอาหารหน่อยค่ะ" ฉันยกมือเรียกน้องพนักงานคนเดิมให้มารับออเดอร์

"เธออย่าบอกนะว่าจะสั่งหอยนางรมทรงเครื่องอีก" ฟาบริซเอ่ยถาม ฉันพยักหน้ารัวๆ

"ก็นายเล่นกินคนเดียวหมดสามชุด ฉันยังไม่ได้กินสักคำเลยนะ แล้วคราวนี้ห้ามแย่งฉันกินด้วย ไม่งั้นน่าดู"

"ฉันว่าเธออย่าสั่งเลยดีกว่า ไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือนนะ" เขาพูดยิ้มๆ แต่ทำไมฉันต้องเชื่อด้วย เมื่อน้องพนักงานเดินมาถึงฉันก็สั่งทันที

"น้องคะ พี่ขอหอยนางรมทรงเครื่องอีกสามชุดค่ะ" น้องพนักงานอ้าปากหวอทำตาโต แล้วหันไปทางฟาบริซแล้วกระซิบกระซาบกัน แต่ฉันหูดีไงก็เลยได้ยิน แต่ก็งงๆ อยู่ว่าเขาพูดเรื่องอะไรกัน

"โอ้โหพี่ฟาบริซ แฟนพี่บำรุงหนักขนาดนี้พี่ได้คลานลงเตียงแน่ๆ"

"น้องคะ .. ทำไมพูดแบบนี้คะ พี่ไม่โอเคนะ" ฉันถึงกับลมออกหูเมื่อได้ยินสิ่งที่พนักงานพูดเมื่อครู่

"เอ่อ..ผมขอโทษด้วยครับที่พูดถึงพี่ไม่สุภาพ" น้องพนักงานกล่าวขอโทษ

"อยู่ๆ มาบอกว่าพี่เป็นแฟนหมอนี่ได้ยังไง ถึงพี่จะสวยมากขนาดนี้ แต่พี่ก็เลือกนะคะน้อง" ฉันเชิดหน้าใส่ ในขณะที่น้องพนักงานกล่าวขอโทษฉันอีกครั้งแล้วรีบเดินออกไปทันที

...

Write Talk ยัยหนูอยากแกล้งเขา แต่ดันผิดแผนซะได้ ว่าแต่สั่งหอยนางรมรัวๆ ขนาดนี้ยัยน้องจะรู้บ้างไหมว่าผู้ชายมันชอบคิดลึก 555 😂

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วุ่นนักรักอลเวง (ฟาบริซ-แอลลี่)    ตอนที่ 31 สิทธิเท่าเทียม

    หลังจากสัปดาห์ที่แล้วจนมาถึงวันนี้ครบสิบวันพอดิบพอดีของการจากไปของอีฟาบริซ ใช่ค่ะ.. เขาหายไปเลยจริงๆ โทรหาไม่รับ ไลน์ไปไม่อ่าน ไปดักที่เพนท์เฮาส์ก็ไม่เจอ แต่พอถามน้ารินทร์ก็บอกว่าเขาไม่ได้กลับบ้าน นอนที่เพนท์เฮาส์ ฉันล่ะหัวจะปวด.. เออ.. เอากะเขาสิอีตานี่ ถ้าฉันไม่ได้รู้จากเฮียฟาว่าเขาไปทำงานปกติทุกวันฉันคงคิดว่าเขาหายไปจากโลกนี้แล้วซะอีก เพราะเมื่อศุกร์ที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้มาทานข้าวกับครอบครัว น้ารินทร์บอกว่าเขาขอไปดูไซด์งานที่ต่างจังหวัดแทนเฮียฟา ที่จริงฉันก็ไม่ได้คิดถึงอะไรเขามากมายนักหรอก เพียงแต่แปลกใจว่าทำไมอยู่ดีๆ เขาถึงตั้งใจหลบหน้าฉันแบบนี้ ฉันไม่ชอบอะไรที่ค้างคาใจเพราะมันน่าหงุดหงิด วันนี้เลยตัดสินใจไปหาเขาที่ออฟฟิศซะเลย ให้มันรู้ไปสิว่าจะหลบหน้านังแอลลี่คนนี้ได้ตลอด ฉันก้าวเท้าเข้ามายังมาร์ตินกรุ๊ป พนักงานทุกคนกล่าวสวัสดีต้อนรับกันเป็นแถว ฉันก้มตัวน้อมรับพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้พนักงานทุกคนอย่างทั่วถึง เห็นฉันเปรี้ยวๆ แบบนี้แต่ฉันเป็นขวัญใจมหาชนของพนักงานที่นี่นะ เพราะฉันวิ่งเล่นที่นี่มาตั้งแต่เด็กจนโตเป็นสาว ดังนั้นพนักงานทั้งเก่าทั้งใหม่จึงคุ้นเคยกับฉันเป็นอย่างดี "สวัสด

  • วุ่นนักรักอลเวง (ฟาบริซ-แอลลี่)    ตอนที่ 30 หนีหน้า

    หลังจากทำอาหารเรียบร้อยแล้ว ฉันกับหม่ามี๊ก็เตรียมจัดโต๊ะอาหารไว้รอเวลานัดทานข้าว ปกติพวกเราจะมาพร้อมกันที่โต๊ะอาหารราวๆ หกโมงเย็น "ยังมีเวลาเหลือ งั้นแอลลี่ขอขึ้นไปอาบน้ำหน่อยนะคะหม่ามี๊ เหนียวตัวจัง" ฉันกลับลงมาอีกครั้งด้วยชุดเดรสผ้าชีฟองลายดอกไม้แขนตุ๊กตาสีชมพูหวานแหววซึ่งขัดกับลุคของฉันอย่างแรง ชุดนี้เป็นหนึ่งในชุดที่ฟาบริซสั่งมาให้เมื่อเช้า วันนี้ฉันอยากลองเปลี่ยนลุคเป็นสาวหวานดูบ้างเลยหยิบติดมือมาด้วย "โอ้โหเจ๊ วันนี้ฝนจะตกมั้ย หวานเวอร์" ยัยไอด้าที่เดินมากับเซลลีนเอ่ยแซวทันที ฉันเชิดหน้าใส่ไม่ยี่หระ คนสวยทำอะไรก็สวยอยู่แล้ว "ก็แค่อยากเปลี่ยนสไตล์ดูบ้าง เป็นยังงัยน่ารักใช่มั้ยล่ะ" ฉันหมุนตัวไปรอบๆ ให้น้องสาวดู "ก็แปลกตาดีนะเจ๊ ลุคหวานๆ แบบนี้ แต่ถ้าจะให้หวานหยดย้อยต้องผูกโบว์ที่ผมอีกสักหน่อย" ยัยเซลลีนพูดพร้อมกับดึงโบว์ผ้าสีชมพูที่ผูกอยู่บนศรีษะทุยของเธอออกมา "หันหลังมาค่ะ เดี๋ยวเซลลีนผูกให้" เธอจับไหล่ฉันหมุนหันหลัง ฉันยืนอยู่นานก็ยังไม่เห็นว่าเธอจะผูกให้สักที "เอ๊า! ยังไง จะผูกมั้ยเนี่ย รอนานแล้วนะ" หลังจากพูดจบผมของฉันที่มัดไว้หลวมๆ ก็ถูกยกขึ้นแล้วโบว์ผ้าสีชมพูก็ถูกผ

  • วุ่นนักรักอลเวง (ฟาบริซ-แอลลี่)    ตอนที่ 29 ทำไปได้

    (Ally Talk). เช้าวันต่อมา ครืดดดดด ครืดดดด เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น ฉันปัดป่ายมือไปทั่วเพื่อควานหาแหล่งที่มาของเสียง จนรู้สึกตัวว่ากำลังนอนตะแคงหนุนแขนล่ำๆ อยู่ และฝ่ามือของฉันยังปัดป่ายไปยังกล้ามท้องแน่นๆ ของชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างๆ ด้วย"ฟาบริซ หยิบโทรศัพท์ให้หน่อย" ฉันพูดอู้อี้ในขณะที่ใบหน้าเล็กยังซุกอยู่ที่ซอกคอหนาเจ้าของร่างแกร่งเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ส่งให้ฉัน แต่ฉันขี้เกียจเหลือเกิน อยากนอนนิ่งๆ ไม่อยากขยับเลย"ใครโทรมา?" ฉันเอ่ยถามเขา"แองจี้""รับเลย" ฉันบอกกับเขาแล้วเลื่อนใบหน้าลงมาที่อกแกร่ง ในขณะที่ฟาบริซกดรับสายยัยแองจี้"ว่างัย" ฟาบริซเอ่ยทัก แต่ปลายสายเงียบไปพักหนึ่ง ฟาบริซจึงกดเปิดโฟนให้ฉัน(พี่ฟาบริซเหรอคะ?) ยัยแองจี้เอ่ยถาม ก็ยังจะถามอีกนะ ก็รู้ทั้งรู้ว่าฉันมีแค่เขาคนเดียว"อืม ว่าไง เพื่อนเธอรอฟังอยู่" ฟาบริซบอกกับปลายสาย(แองจี้จะโทรมาบอกว่าวันนี้อาจารย์ยกคลาสค่ะ) สิ้นเสียงยัยแองจี้ ฉันก็ยิ้มทันที สวรรค์แท้ๆ วันนี้มีเรียนเช้าแค่วิชาเดียวเอง อาจารย์ยกคลาสแบบนี้ฉันก็สบายเลยดิ ยิ่งขี้เกียจตื่นอยู่ด้วย และวันนี้ก็เป็นวันศุกร์ เท่ากับได้หยุดสามวันเลย"อืมๆ ขอบใจนะแ

  • วุ่นนักรักอลเวง (ฟาบริซ-แอลลี่)    28 อาการของคนหึง NC 20+

    ฉันถูกสะกิดไหล่ถี่ๆ จากใครสักคนจนรู้สึกรำคาญ .. ไม่ใช่สิ.. ไม่ใช่ใครสักคนคน แต่น่าจะมากกว่าหนึ่งคนฉันหันไปตามแรงสะกิด ก็เห็นยัยแองจี้กับยัยน้ำชากำลังสะกิดฉันยิกๆ"สะกิดทำไม? มีอะไร?" ฉันเอ่ยถามพลางยกหลังมือเช็ดน้ำตาป้อยๆ"เอ่อ.. เจ้าที่แกมา" เสียงแองจี้กระซิบกระซาบกับฉันเจ้าที่? เจ้าที่อะไรกัน แองจี้ ท่าทางจะเพี้ยน"จะกลับได้รึยัง" เสียงนั้น..มัน..คุ้นมากฉันหันกลับไปตามเสียงอย่างช้าๆ แต่ก็เร็วกว่าตัวสล็อตนิดนึง เพราะตอนนี้ฉันรู้สึกมึนมาก จะขยับแต่ละทีแสนจะเชื่องช้า"ฟะ..ฟาบริซ" ฉันเอ่ยเรียกชื่อเขาแผ่วเบา ไม่แน่ใจว่าเป็นความฝันหรือความจริงกันแน่"แองจี้ เอากระเป๋าแอลลี่มาให้พี่" เขาบอกเพื่อนฉัน ยัยแองจี้รีบส่งกระเป๋าให้ เขารับกระเป๋าฉันขึ้นคล้องบ่าตัวเองแล้วจับฉันแยกออกจากพี่เลโอ ฉันรู้สึกว่าร่างกายตัวเองมันหนักมาก ยืนแทบไม่ไหว สักพักหนึ่งร่างเล็กก็ถูกยกลอยขึ้นจากพื้น ฉันรู้สึกหนักหัวมากๆ จึงซบหน้าลงบนแผงอกแกร่งที่มีกลิ่นหอมที่คุ้นเคย พลันน้ำตาเจ้ากรรม มันก็ไหลออกมาอีกแล้ว ไม่รู้ว่าจะไหลมาทำไมนักหนา ไม่รักดีเลยจริง ๆ. (Fabriz Talk) ผมอุ้มร่างยัยขี้เมาแล้วเดินมาที่รถปอร์เช่ของตัวเอ

  • วุ่นนักรักอลเวง (ฟาบริซ-แอลลี่)    ตอนที่ 27 เซนส์สิทีฟ

    เสียงเพลง EDM ดังสนั่น นักเที่ยวทั้งหลายพากันโยกย้ายสนุกสนานไปตามเสียงเพลง ฉันกับเพื่อนๆ ก็เช่นเดียวกัน แต่ในขณะที่กำลังเต้นสนุกๆ อยู่นั้น..."อร๊ายยย... ยัยแอลลี่ วิล..วิล.. คุณวิลลล" ฉันมองหน้ายัยแองจี้ที่อยู่ๆ ก็แหกปากแล้วก็เงียบเสียงไป แถมยังตะลึงตาค้างอีก ยัยน้ำชาก็เช่นกัน"อะไรของพวกแกวะ?" ฉันเอ่ยถามด้วยความงุนงง"โน่นๆๆ คุณวิลไง วิลอะไรไม่รู้ แต่กำลังเดินยิ้มมาทางนี้แล้ว" ยัยแองจี้พูดไปดีดดิ้นไป ฉันมองตามไปก็เห็นเขาเดินหล่อออร่ามาทางนี้จริงๆ สไตล์การแต่งตัวแบบนี้ ยิ้มเจ้าชู้เรี่ยราดแบบนี้ไม่มีใครหรอกค่ะ ใครแยกไม่ออกว่าเป็นวิลไหน แต่นังแอลลี่รู้ดี"อ้อ..นั่นคุณวิลเซนต์" ฉันบอกกับสองสาว พวกหล่อนหันหน้ามามองฉันเป็นตาเดียวโดยมิได้นัดหมาย ใช่ค่ะ.. เพื่อนๆ ฉันไม่รู้หรอกว่าฉันกับทริปเปิลวิลล์รู้จักกัน แถมไม่ได้รู้จักแบบธรรมดาด้วยนะ แต่สนิทกันมาตั้งแต่เด็กเลย"กะ..แกรู้ได้ไง รู้จักเขาเหรอ?"ยัยแองจี้ตาลุกวาว ฉันไม่ตอบแต่ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วขยิบตาให้เพื่อน ฉันหันกลับไปมองพี่วิลเซนส์ที่กำลังเดินยิ้มมาหาพร้อมกับอ้าแขนกว้างๆ เท่านั้นแหละ พ่อสุดหล่อก็เดินเข้ามาสวมกอดฉันทันที ทำเอาสาวๆ แถวนั้นทำ

  • วุ่นนักรักอลเวง (ฟาบริซ-แอลลี่)    ตอนที่ 26 แม่สาวคัพD

    ตั้งแต่เกิดเรื่องที่มหาลัยวันนั้น ฟาบริซก็เงียบหายไปเลย ฉันเองก็ไม่ได้โทรไปหาเขาเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดกับเขายังไง ก็เลยปล่อยผ่านไปจนเกือบสัปดาห์ รวมถึงตอนนี้ฉันก็ยุ่ง ๆ เรื่องเรียนด้วย เพราะเป็นเทอมสุดท้ายที่จะจบแล้ว ส่วนกับไนซ์เราก็ไม่ได้เจอกัน มีแต่เขาที่ทักไลน์มาบ้างแค่นั้นเอง"แอลลี่ แกเคลียร์กับพี่ฟาบริซแล้วยังเรื่องวันนั้นน่ะ?" น้ำชาเอ่ยถามในขณะที่กำลังคีบซูชิเข้าปาก ตั้งแต่วันนั้นพวกเราก็เพิ่งได้มากินอาหารญี่ปุ่นกันวันนี่เนี่ยแหละ"ยังเลย ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้เจอกัน ฉันยังไม่ได้กลับบ้านแล้วก็ไม่ได้โทรหาเขาด้วย ไม่รู้จะเริ่มพูดยังไงดีอะ" ฉันตอบเพื่อนไปตามที่ตัวเองคิด จริง ๆ ฉันก็รู้สึกผิดนะ แต่จะให้ฉันโทรไปง้อเขามันก็จะดูแปลก ๆ ไปนิด และอีกอย่างฉันก็ไม่เคยง้อใคร โดยเฉพาะผู้ชาย"แต่จากที่แกเล่าให้ฟังเรื่องแพ้ลิลลี่ตอนเด็กน่ะ ถ้าคนที่มาช่วยแกคือเฮียฟา แล้วพี่ฟาบริซเขาจะรู้ได้ไงว่าแกแพ้เฉพาะลิลลี่สีชมพู แล้วเขาต้องจำมันด้วยเหรอ ก็ไหนแกบอกว่าไม่ถูกกันตั้งแต่เด็ก ๆ ไง" แองจี้เริ่มเปิดประเด็น"เออว่ะ ก็จริงของแองจี้มันนะ ไม่ใช่แค่รู้ว่าแพ้ลิลลี่ แต่รู้ถึงขนาดว่าต้องสีชมพูด้วยงี้"

  • วุ่นนักรักอลเวง (ฟาบริซ-แอลลี่)    ตอนที่ 25 ลิลลี่สีชมพูในตำนาน

    "กินข้าวที่ไหนกันดีพวกแก?" ฉันเอ่ยถามน้ำชากับแองจี้พร้อมกับสะพายกระเป๋าเตรียมหยิบกุญแจรถ วันนี้มีเรียนเช้าพวกเราจึงเลิกเรียนแค่บ่ายโมงเท่านั้น"อยากกินอาหารญี่ปุ่นอะแก" น้ำชาตอบพร้อมกับทำตาปริบๆ ขอความเห็นใจ"เคๆ ไปก็ไป" พวกเราสามสาวเดินลงมาจากตึกและตรงไปยังลานจอดรถทันที"เฮ้ย แอลลี่ นั่นไนซ์นี่หว่า" เสียงพูดของแองจี้ทำให้ฉันหันไปมองทันที เป็นไนซ์จริง ๆ นั่นแหละ เขายืนยิ้มพิงรถพอร์ชของฉันอยู่ ในมือถือดอกไม้ช่อบะเริ่มเทิ่ม เอิ่มมม.. นี่ไม่ใช่คณะของไนซ์ เพราะฉะนั้นเดาได้เลยว่าต้องมาหาฉันแน่นอน"เฮ้ยๆๆ แอลลี่ นั่นมันพี่ฟาบริซใช่ไหม มาทำไมวะน่ะ แกนัดเขาไว้เหรอ?" น้ำชาพูดพร้อมกับทำหน้าเหมือนเห็นผี"เปล่านี่ ฉันไม่ได้นัดใครสักหน่อย""งั้นแสดงว่ารถไฟมารอชนกันเองโดยมิได้นัดหมายสินะ" แองจี้กอดอกพลางส่ายหน้าไปมา เพื่อนสุดแสบของฉันสองคนหันไปมองหน้ากันพร้อมกับยิ้มร้าย เดาว่าพวกหล่อนต้องมีความคิดอะไรพิเรนทร์แน่ ๆ"ฉันเล่นข้างพี่ฟาบริซร้อยนึง วันนี้ต้องมีเรื่องแน่ๆ แกดูหน้าพี่เขาซะก่อน จะแดกหัวไอ้ไนซ์อยู่แล้วนั่น" นี่ยัยน้ำชา"โอเค งั้นฉันเล่นข้างไนซ์ร้อยนึง ฉันว่าไนซ์มันต้องไม่ยอมแน่ ๆ เป้าหมายมีไว

  • วุ่นนักรักอลเวง (ฟาบริซ-แอลลี่)    ตอนที่ 24 เธอทำให้หงุดหงิด

    เรียวขาสวยบนรองเท้าส้นสูงสีขาวมุกก้าวลงมาจากรถพอร์ชคันหรู ฉันเดินตรงไปยังด้านในของร้านอาหารที่บรรยากาศรายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี บรรยากาศริมน้ำยามเย็นแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันตา"แอลลี่ ทางนี้" เสียงยัยน้ำชาโบกมือเรียก ฉันจึงเดินตรงไปยังโต๊ะที่ถูกจัดอยู่บริเวณระเบียงที่ยื่นออกไปยังแม่น้ำ ทุกคนมาพร้อมกันหมดแล้ว ไนซ์ขยับตัวลุกขึ้นแล้วเลื่อนเก้าอี้ให้ฉันนั่งลงฝั่งเดียวกันใกล้ ๆ กับเขา"วันนี้มากันพร้อมหน้าเลย ไนซ์สั่งอาหารไว้แล้วนะ อีกสักพักหนึ่งพนักงานคงเอามาเสริฟ แอลลี่หิวมากไหม"ไนซ์เอ่ยถามในขณะที่ฉันส่ายหน้าน้อย ๆ แล้วมุ่งความสนใจไปที่พระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน แสงสีส้มที่ทอแสงมากระทบผืนน้ำระยิบระยับสีทองอร่ามตา สวยงามมากจริง ๆ"พระอาทิตย์จะตกดินแล้ว สวยจัง น้ำชาแกถ่ายรูปให้ฉันหน่อยสิ" ฉันพูดพร้อมกับส่งโทรศัพท์หรูให้กับเพื่อน ยัยน้ำชาถ่ายให้ฉันหลายรูปเลย แต่ละรูปสวย ๆ ทั้งนั้น ยัยนี่ถ่ายรูปได้เทพมาก ฉันจึงชอบใช้ให้ถ่ายให้บ่อย ๆ"ไนซ์ขอถ่ายคู่กับแอลลี่บ้างได้ไหม" ฉันพยักหน้า ก็แค่ถ่ายรูป เพื่อนกันไม่เห็นจะเป็นไรเลย ยัยน้ำชาจึงเป็นตากล้องให้พวกเราเหมือนเดิม"รูปสวยมากเลย ไนซ์ข

  • วุ่นนักรักอลเวง (ฟาบริซ-แอลลี่)     ตอนที่ 23 หัวร้อน

    ติ๊ง ติ๊ง ติ๊งเสียงสัญญาณไลน์แจ้งเตือนที่ดังขึ้นทำให้ผมรู้สึกตัวตื่นแล้วเอื้อมมือไปคลำหาที่มาของเสียงโดยไม่ได้ลืมตาขึ้นมามองแต่อย่างใด เมื่อฝ่ามือหนากระทบกับวัตถุรูปสี่เหลี่ยมจึงรีบหยิบขึ้นมาทันที ผมค่อย ๆ ลืมตาสู้กับแสงที่ส่องเข้ามาในห้องนอนในเพนท์เฮาส์ นาฬิกาบนโทรศัพท์บอกเวลาสิบโมงเช้า พร้อมกับไลน์ที่เด้งขึ้นมารัว ๆ LineNice: Hello แอลลี่ (sticker หมีโบกมือ)Nice: คิดถึงเธอจัง อยากเห็นหน้าNice: ได้ยินไหมว่าคิดถึง ๆๆ "คิดถึงพ่อมึงสิ" ผมหลุดคำด่าออกไปเพราะอดหมั่นไส้ไม่ได้ ไอ้เวรนี่ขยันทำให้ผมหัวร้อนจริงๆ ผมเหลือบมองคนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังนอนซุกอกแกร่งของผมอยู่และเธอกำลังหลับสนิท ก็แหงล่ะ!! เมื่อคืนผมกับเธอฟาดฟันกันอย่างเร่าร้อน กว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบหกโมงเช้าติ๊ง... เสียงไลน์มันดังขึ้นมาอีกแล้วNice: เย็นนี้ทานข้าวกันไหม ไม่ได้เจอกันนานแล้วนะ อยากคุยด้วยยัง..มันยังไม่เลิกเซ้าซี้ นี่ขนาดไลน์มาผมยังหงุดหงิดได้ขนาดนี้ ถ้ามันมาพูดกับแอลลี่ใกล้ ๆ ผมคงได้ล่อหน้ามันสักทีสองที ข้อหาหมั่นไส้"อืมมมมม"เสียงแอลลี่ครางเบา ๆ ในลำคอแล้วขยับแขนเล็กขึ้นกอดเอวหนาของผมแน่นขึ้น ผมวางโทรศัพท

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status