Share

บทที่ 7

Author: สายลมไร้กาลเวลา
“ฝ่าบาท เผิงไหลจวิ้นอ๋องได้นำคนที่เขาเพิ่งรับเข้ามาใหม่มุ่งหน้าไปยังทิศใต้ของเมือง ข้าน้อยคาดว่าเขาน่าจะไปที่ร้านตีเหล็กพ่ะย่ะค่ะ”

ภายในพระราชวัง องครักษ์เงาคุกเข่าข้างหนึ่งรายงาน

ฮ่องเต้ที่ทรงฉลองพระองค์เรียบร้อยแล้ว พยักหน้าเล็กน้อย บนใบหน้าปรากฏความพึงพอใจ

“ไปร้านตีเหล็ก ย่อมเป็นเพราะเรื่องอาวุธ ในที่สุดฉู่หนิงก็ทำเรื่องที่ทำให้เราพอใจเสียที”

ฮ่องเต้สะบัดแขนเสื้อ พลางเสด็จไปยังนอกตำหนัก แย้มพระสรวลแล้วตรัสว่า “ไปว่าราชการ!”

องครักษ์เงาอ้าปากค้าง คำพูดที่มาถึงริมฝีปากแล้วก็ถูกกลืนกลับลงไปอย่างยากลำบาก

ยากนักที่ฮ่องเต้จะทรงเกษมสำราญเช่นนี้ จะไปขัดพระทัยฝ่าบาทไม่ได้!

หวังว่าการเดินทางครั้งนี้ของเผิงไหลจวิ้นอ๋องจะสามารถตีอาวุธได้อย่างราบรื่นเถอะ!

ในขณะนั้น ภายในตำหนักบูรพา องค์รัชทายาทที่กำลังคัดลอกพระคัมภีร์อยู่ก็ได้รับข่าวเช่นกัน

“อะไรนะ ฉู่หนิงพาคนไปที่ร้านตีเหล็กที่น้องรองมอบให้เขาหรือ?”

“จริงแท้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ คนของเราจับตาดูอยู่ตลอด” องครักษ์ส่วนตัวขององค์รัชทายาทที่สวมชุดเกราะตอบเสียงทุ้ม

องค์รัชทายาทหรี่ตาลง ดวงตาฉายแววเยือกเย็นแวบหนึ่ง

เจ้าฉู่หนิงสารเลว ก่อนตายยังทำให้ข้าต้องถูกกักบริเวณ กลายเป็นเรื่องตลกในหมู่ขุนนางอีก

การที่ฉู่หนิงไปร้านตีเหล็ก ต้องเป็นการไปตีอาวุธอย่างแน่นอน แต่เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเถ้าแก่ภายในร้านตีเหล็กเป็นคนของข้า!

ทำให้ข้าต้องถูกกักบริเวณ แล้วข้าจะยอมให้เขาสมหวังได้อย่างไร?

ครั้งนี้ จะต้องทำให้ฉู่หนิงพลาดท่าให้ได้

แล้วก็ถือโอกาส โยนความผิดให้น้องรอง

ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!

มุมปากขององค์รัชทายาทเผยรอยยิ้มเย็นชา “ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ไม่ว่าวันนี้ฉู่หนิงจะทำอะไร ห้ามให้เขาสมหวังเด็ดขาด!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

...

บนถนนทางใต้ของเมือง ผู้คนสัญจรไปมาไม่ขาดสาย ช่างคึกคักยิ่งนัก

สองข้างทางมีเสียงพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยตะโกนเรียกลูกค้าเป็นระยะ ๆ ผู้คนที่เดินทางมาจากทุกสารทิศต่างหยุดฝีเท้าเพื่อเลือกซื้อของที่ตนเองถูกใจ

สมแล้วที่เป็นเมืองหลวง ช่างเจริญรุ่งเรืองจริง ๆ !

ฉู่หนิงถอนหายใจในใจ

น่าเสียดายที่สำหรับเขาแล้ว สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเจตนาสังหาร หากไม่รีบจากไปโดยเร็ว ท่านพี่ทั้งสิบเจ็ดคนของเขา แค่คนใดคนหนึ่งก็สามารถปลิดชีพเขาได้แล้ว

“ท่านอ๋อง พวกเรามาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ” กวนอวิ๋นชี้ไปยังร้านตีเหล็กแห่งหนึ่งทางขวามือของถนน

ฉู่หนิงเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นว่าร้านตีเหล็กนั้นกินพื้นที่ประมาณสองหมู่ มีชายฉกรรจ์เปลือยท่อนบนเจ็ดแปดคนกำลังทำงานกันอย่างขะมักเขม้น

คนกลุ่มนี้บ้างก็กำลังตีเหล็ก บ้างก็กำลังสูบลม ไม่ได้ให้ความสนใจกับการมาถึงของฉู่หนิงแม้แต่น้อย

ทันทีที่ฉู่หนิงเข้าไปใกล้ ช่างตีเหล็กคนหนึ่งก็ดึงเครื่องสูบลมอย่างแรง เปลวไฟในเตาหลอมพวยพุ่งออกมา ความร้อนสูงทำให้ภาพตรงหน้าบิดเบี้ยวในทันที

“บังอาจ!”

สีหน้าของจ้าวอวี่เคร่งขรึม ก้าวมายืนขวางหน้าฉู่หนิง สะบัดฝ่ามือออกไปครั้งหนึ่ง เปลวไฟก็ถูกดับลง

“บังอาจนัก ถึงกับกล้าไร้มารยาทต่อจวิ้นอ๋อง!”

“ยังไม่รีบขออภัยท่านอ๋องอีก?”

ทหารผ่านศึกกว่าสามสิบคนที่อยู่ด้านหลังฉู่หนิงปลดปล่อยแรงกดดันออกมา กลิ่นอายสังหารอันน่าสะพรึงกลัว ทำให้ช่างตีเหล็กทุกคนหวาดกลัวจนตัวแข็งทื่อ ราวกับว่าที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาไม่ใช่คน แต่เป็นสัตว์ป่าที่พร้อมจะขย้ำคน

แม้ว่าเหล่าช่างตีเหล็กจะเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่กำยำ แต่ก็ไม่เคยผ่านสนามรบ ไม่เคยเจอกลิ่นอายสังหารเช่นนี้มาก่อน ถึงกับตกตะลึงจนยืนนิ่งอยู่กับที่

“ที่แท้ก็คือจวิ้นอ๋องเสด็จมาถึงแล้ว ข้าน้อยขออภัยที่มิได้ออกไปต้อนรับ โปรดอภัยด้วย!”

บุรุษวัยกลางคนรูปร่างเตี้ยอ้วน พุงพลุ้ย ใบหน้าเต็มไปด้วยเนื้อไขมัน ดวงตาคู่หนึ่งกลอกไปมาอย่างรวดเร็ว เดินออกมาจากร้านตีเหล็กอย่างเร่งรีบ

“ข้าน้อยเซียวหมิง เป็นเถ้าแก่ของร้านตีเหล็กแห่งนี้ เมื่อครู่พวกเขาตั้งใจกับการตีเครื่องมือการเกษตรมากเกินไป หากมีสิ่งใดล่วงเกินท่านอ๋องไป ก็ขอให้ท่านอ๋องโปรดอภัยด้วย”

เซียวหมิงกล่าวไปพลาง ประสานมือโค้งคำนับไปพลาง ทำท่าทีนอบน้อมถ่อมตน

ฉู่หนิงเหลือบมองคนผู้นี้แวบหนึ่ง ดวงตาฉายแววเย็นเยียบที่ยากจะสังเกตเห็นได้

ตั้งใจมากเสียจนไม่รู้ว่ามีคนมากมายขนาดนี้เข้ามาใกล้อย่างนั้นหรือ?

อีกทั้งเปลวไฟนั่นไม่พุ่งไปทางอื่น แต่กลับพุ่งมาทางเขา หากบอกว่ามิได้ตั้งใจ ผีก็ยังไม่เชื่อเลย

ท่าทีเสแสร้งของเซียวหมิงผู้นี้ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้เขาลงโทษช่างตีเหล็กพวกนี้

มืองหลวงแห่งนี้ แม้แต่เถ้าแก่ร้านตีเหล็กก็ยังรับมือยากถึงเพียงนี้!

หากเขาแม้แต่เถ้าแก่ร้านตีเหล็กคนเดียวยังจัดการไม่ได้ ของขวัญแรกพบที่องค์ชายคนอื่น ๆ ให้มา ก็อย่าหวังว่าจะได้ครอบครองอย่างสมบูรณ์!

ฉู่หนิงหัวเราะเบา ๆ เดินเข้าไปพยุงเซียวหมิงขึ้น “เถ้าแก่เซียวพูดล้อเล่นแล้ว ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด แค่เรื่องเล็กน้อย ข้าจะลงโทษได้อย่างไร?”

เป็นแค่ไอ้ขยะที่ไร้ประโยชน์จริง ๆ

มุมปากของเซียวหมิงยกยิ้มเล็กน้อย เผยสีหน้าลำพองใจ

บุตรนอกสมรสที่ไม่มีอำนาจหนุนหลังใด ๆ จุดจบที่ดีที่สุดก็คือการตายในสงครามที่แนวหน้า

ในฐานะไส้ศึกที่องค์รัชทายาทส่งมาแฝงตัวอยู่กับองค์ชายรอง เขาจะยอมให้ร้านตีเหล็กนี้ตกไปอยู่ในมือของไอ้ขยะนี่ไม่ได้เด็ดขาด

วันนี้หากสามารถทำให้ฉู่หนิงต้องเสียหน้าได้ ก็ถือเป็นการระบายความโกรธแทนองค์รัชทายาท จะต้องได้รับความไว้วางใจจากองค์รัชทายาทเป็นแน่!

“จวิ้นอ๋องช่างมีน้ำใจกว้างขวาง พวกเจ้ายังไม่รีบขอบคุณจวิ้นอ๋องอีก?” เซียวหมิงขยิบตาให้พวกช่างตีเหล็ก

“ขอบคุณท่านอ๋องที่เมตตา”

“ท่านอ๋อง เชิญเข้ามาพูดคุยด้านในพ่ะย่ะค่ะ” เซียวหมิงหรี่ตาเล็ก ๆ ของเขาลงแล้วเชิญฉู่หนิงเข้าไปในร้านตีเหล็ก

หลังจากนั่งลงแล้ว ฉู่หนิงก็ไม่ปิดบังจุดประสงค์ของตนเองเลยแม้แต่น้อย “เถ้าแก่เซียว ร้านตีเหล็กแห่งนี้ พี่รองได้มอบให้ข้าแล้ว วันนี้ที่มาที่นี่ ก็เพื่อต้องการตีอาวุธที่ถนัดมือให้เหล่าผู้คุ้มกัน”

เซียวหมิงเหลือบมองทหารผ่านศึกกว่าสามสิบคนที่ยืนอยู่ด้านนอกแวบหนึ่ง แอบหัวเราะเยาะในใจ

ตีอาวุธหรือ?

เจ้าฉู่หนิงคิดว่าร้านตีเหล็กแห่งนี้เป็นของตัวเองจริง ๆ หรือไร?

อาวุธนี่ ไม่ใช่ว่าเจ้าอยากจะตีก็ตีได้นะ!

เซียวหมิงหัวเราะอย่างขมขื่น แสร้งทำหน้าจนปัญญา “ท่านอ๋องคงยังไม่ทราบ ร้านตีเหล็กของราชวงศ์เราสามารถตีได้เพียงเครื่องมือการเกษตรเท่านั้น และต่อให้เป็นเครื่องมือการเกษตรก็ต้องรายงานเบื้องบน”

“การลักลอบตีอาวุธเป็นความผิดมหันต์ ข้าน้อย... ข้าน้อยไม่กล้าพ่ะย่ะค่ะ”

ฉู่หนิงขมวดคิ้ว หันไปมองจ้าวอวี่ที่อยู่ข้าง ๆ

จ้าวอวี่ขยับเข้ามาใกล้ กระซิบเสียงเบา “ท่านอ๋อง คนผู้นี้พูดถูกพ่ะย่ะค่ะ การตีอาวุธต้องได้รับอนุญาตจากกรมกลาโหม แต่ท่านเป็นองค์ชาย การตีอาวุธให้ผู้คุ้มกันของตนเอง กรมกลาโหมย่อมให้ความยินยอมไปโดยปริยาย”

นั่นก็หมายความว่าเจ้าเซียวหมิงนี่ไม่ไว้หน้าเขาสินะ!

คนธรรมดาจะตีอาวุธย่อมทำไม่ได้อย่างแน่นอน แต่องค์ชายก็เป็นคนของราชวงศ์ การตีอาวุธให้ผู้คุ้มกัน กรมกลาโหมจะกล้าพูดอะไรได้?

เรื่องที่แม้แต่ทหารรักษาพระองค์อย่างจ้าวอวี่ยังรู้ แล้วเซียวหมิงมีหรือจะไม่รู้?

แต่เซียวหมิงผู้นี้ไม่เพียงแต่ไม่อธิบาย กลับจงใจบ่ายเบี่ยง เห็นได้ชัดว่าจงใจหาเรื่อง!

ดูท่าว่าร้านตีเหล็กของพี่รองนี้ คงจะไม่ได้มาง่าย ๆ เสียแล้ว

ดวงตาของฉู่หนิงหรี่ลง ลุกขึ้นยืนทันที แล้วกล่าวเสียงเย็นชา “คนเหล่านี้คือผู้คุ้มกันที่จะต้องติดตามข้าไปรบที่แนวหน้า หากไม่มีอาวุธ พวกเขาจะรับใช้บ้านเมืองได้อย่างไร?”

“เถ้าแก่เซียว เห็นแก่ที่คนเหล่านี้กำลังจะเดินทางไปยังแนวหน้า พอจะตีอาวุธให้พวกเขาคนละชิ้นได้หรือไม่?”

เหอะ ๆ ๆ คิดจะใช้อำนาจขององค์ชายแล้วหรือ?

น่าเสียดาย เจ้าฉู่หนิงไม่มีทั้งอำนาจและบารมี แรงกดดันแค่นี้ไม่มีผลกับเขาหรอก

เซียวหมิงส่ายหน้า ยังคงแสดงสีหน้าจนปัญญา “จวิ้นอ๋อง เรื่องนี้ข้าน้อยสุดความสามารถจริง ๆ เว้นแต่ท่านจะไปนำหนังสือรับรองจากกรมกลาโหมมาได้”

แค่องค์ชายขยะคนหนึ่ง กรมกลาโหมจะยอมให้ความร่วมมือหรือไร!

ฉู่หนิงดูเหมือนจะรู้สถานการณ์ของตนเองดี เมื่อเห็นว่าการข่มขู่ไม่ได้ผล แรงกดดันบนร่างก็พลันลดลงไปกว่าครึ่ง

“เฮ้อ การไปกรมกลาโหมช่างเสียเวลาและยุ่งยากนัก ข้ารอไม่ได้นานขนาดนั้น!”

ฉู่หนิงเหลือบมองทหารผ่านศึกกว่าสามสิบคนที่อยู่ด้านนอก ดวงตาฉายแววเด็ดเดี่ยวออกมา “ข้าจะนำพวกเขาตีอาวุธด้วยตนเอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเถ้าแก่เซียว แบบนี้คงได้แล้วกระมัง?”

เซียวหมิงถึงกับตกตะลึง

องค์ชายผู้สูงศักดิ์ จะมาตีอาวุธด้วยตนเอง?

นี่มันเรื่องน่าอับอายขายหน้ามาก!

แต่ทันใดนั้น เซียวหมิงก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างยิ่ง

เป้าหมายของเขาก็คือการทำให้ฉู่หนิงต้องอับอายขายหน้า เพื่อระบายความโกรธแทนองค์รัชทายาทอย่างไรเล่า!

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 185

    “ขะ...ขอบคุณในความหวังดีของท่านพี่องค์รัชทายาท แต่ข้า…ข้าจะกลับ”ฉู่หนิงที่ดื่มจนเมาลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปทางประตูตำหนักอย่างโซซัดโซเซ รัชทายาทยิ้มหยันดื่มจนเมาก็จะกลับทั้งเช่นนี้เลย?ฝันไปเถอะ!คืนนี้ เจ้าสารเลวฉู่หนิงต้องชดใช้รัชทายาทรีบลุกขึ้นประคองฉู่หนิง “น้องสิบแปดดื่มจนเป็นสภาพเช่นนี้ เกรงว่าขี่ม้าไม่ไหวด้วยซ้ำ ยังจะกลับอย่างไร?ที่ข้ามีตำหนักเยอะแยะ เดี๋ยวข้าจัดห้องให้เจ้าพัก!”เมื่อกล่าวจบ ก็หันไปสั่งหลิงเฟยเยียนที่อยู่ข้างๆ “เรื่องนี้ให้ชายาที่รักจัดการก็แล้วกัน”หลิงเฟยเยียนยิ้มหยันในใจให้ข้าจัดการ ฮึ่ม เจ้าอยากรู้ว่าข้ากับฉู่หนิงมีอะไรกันจริงหรือไม่มากกว่ากระมังในเมื่อเจ้าไม่เชื่อใจข้า เช่นนั้นข้าก็ทำให้เจ้าดู!หลิงเฟยเยี่ยนที่ไม่พอใจเดินเข้าไปประคองแขนของฉู่หนิงด้วยรอยยิ้ม นางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในเมื่อองค์รัชทายาทมีรับสั่ง คืนนี้น้องสิบแปดก็ค้างคืนที่นี่เถิด ข้าจะให้คนไปแจ้งองครักษ์ของเจ้า”ทันทีที่รู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลจากแขน ร่างกายฉู่หนิงก็พลันสั่นสะท้าน เขาแสร้งทำท่าจะดึงมือขวาออก แต่ในความเป็นจริงกลับใช้โอกาสนี้ถูร่างกายหลิงเฟยเยียนแถมเขายัง

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 184

    ขณะเดียวกันก็ทำให้ฉู่หนิงที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารตาไม่กล้ามองต่อล้อเล่นหรือเปล่า มองต่อไปมีหวังได้เรื่องแน่!รัชทายาทกำลังจ้องเขาอยู่ที่ข้างๆ นะหากทนไม่ไหวจนเลือดกำเดาไหล เช่นนั้นก็อธิบายยากแล้วรัชทายาทย่อมสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวเล็กน้อยระหว่างฉู่หนิงกับหลิงเฟยเยียน แม้รู้สึกเจ็บใจ แต่ก็ยังกล่าวด้วยรอยยิ้ม“น้องสิบแปดไม่ต้องมากพิธี วันนี้ข้าใจร้อนเกินไป ล่วงเกินฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่น คืนนี้จึงตั้งใจจัดงานเลี้ยง หวังว่าน้องสิบแปดจะช่วยพูดอะไรดีๆ ต่อหน้าฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นหน่อย”รัชทายาทกล่าวพลางลากฉู่หนิงไปนั่งที่ฝั่งขวาของตนเองเมื่อหลิงเฟยเยียนเห็นทั้งสองนั่งลง นางก็ไปนั่งลงตรงฝั่งซ้ายของรัชทายาท หรือก็คือตรงข้ามกับฉู่หนิงนั้นเองนางยกกาเหล้ารินให้ฉู่หนิงหนึ่งจอกโดยไม่รอให้รัชทายาทเอ่ยปาก หลังจากนั้นจึงจะรินให้รัชทายาทกับตนเองตามลำดับภาพนี้ทำให้ฉู่หนิงอึ้งเล็กน้อยเหตุใดจึงรินเหล้าให้ตนก่อน?ควรรินให้รัชทายาทก่อนไม่ใช่หรือ?รัชทายาทในเวลานี้กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาคิดไม่ถึงว่าต่อหน้าเขาเช่นนี้ หลิงเฟยเยียนไม่คิดจะปกปิดเลยนางแพศยาผู้นี้ต้องมีอะไรกับฉู่หนิงแน่!รัชทายา

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 183

    “องค์รัชทายาทเชิญข้าไปร่วมงานเลี้ยงที่ตำหนักบูรพาคืนนี้?”ภายในจวนอ๋อง หลังจากฉู่หนิงได้รับข่าว บนใบหน้ากลับฉายแววพินิจฉู่หนิงมองบัตรเชิญในมือ เผยอมุมปากขึ้นเล็กน้อย “เจ้ากลับไปบอกองค์รัชทายาทว่า คืนนี้ข้าจะไปตรงตามเวลาแน่นอน”องครักษ์ตำหนักบูรพาขานรับ ประสานมือคารวะถอยออกไปสีหน้าจ้าวอวี่เปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “พระองค์ เกรงว่างานเลี้ยงคืนนี้ ไม่ใช่งานเลี้ยงที่ดีอะไรพ่ะย่ะค่ะ!”พระองค์เพิ่งให้องค์ชายทั้งหลายไปหาเรื่ององค์รัชทายาทที่ตำหนักบูรพา องค์รัชทายาทไม่เพียงไม่โกรธ กลับกันยังจะเชิญไปร่วมงานเลี้ยง ต้องมีเจตนาที่ไม่ดีแอบแฝงแน่นอนงานเลี้ยงครั้งนี้ ไปไม่ได้!แต่ฉู่หนิงกลับหัวเราะเบาๆ “วางใจเถิด องค์รัชทายาทยังรอให้ข้าไปแนวหน้า เขาไม่มีทางลงมือกับข้าในเวลานี้แน่นอนใช่แล้ว ทางหร่านหมิงเป็นอย่างไรบ้าง?”วันนี้ฉู่หนิงมอบหมายเรื่องรับนักโทษให้หร่านหมิงรับผิดชอบทั้งหมด จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางนั้นเป็นอย่างไรแม้ช่วงแรกรับนักโทษสองพันกว่าคนมาได้อย่างราบรื่น แต่ยังเหลืออีกแปดพันคน ส่วนหร่านหมิงก็มีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เกิด สามารถควบคุมสถานก

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 182

    จ้าวเฟยเยี่ยนกลอกตาหนึ่งรอบ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ “องค์ชายรอง ข้อหาที่ร้ายแรงเช่นนี้ ข้าแบกรับไม่ไหวหรอกนะ!”เมื่อกล่าวจบ นางก็เดินไปแทรกตรงกลางระหว่างรัชทายาทกับองค์ชายทั้งหลาย ทำให้ทั้งสองฝ่ายใจเย็นลงชั่วคราวรัชทายาทย่อมไม่อยากสร้างปัญหาเพิ่มในเวลานี้ จึงได้แต่แค่นเสียงเย็น ‘ฮึ่ม’ โดยไม่พูดอะไรต่อส่วนองค์ชายรองเผยอมุมปากหัวเราะเบาๆ “เมื่อครู่ข้ากับน้องๆ ทุกคนล้วนได้ยินเจ้าพูดว่าแตะต้องฉู่หนิงไม่ได้แล้ว ทำไม เจ้ายังจะแก้ตัวอีกหรือ?” จ้าวเฟยเยี่ยนหัวเราะเบาๆ “ข้าแค่กำลังเกลี้ยกล่อมองค์รัชทายาท อย่าไปทวงถามเงินหนึ่งล้านตำลึงกับฉู่หนิงก็เท่านั้น อย่างไรข้าก็ยังเป็นหนี้ฉู่หนิงอยู่หนึ่งแสนตำลึงเงินหากองค์รัชทายาทกดดันฉู่หนิงมากเกินไป เขาก็จะมาทวงเงินกับข้า ดังนั้นข้าจึงเกลี้ยกล่อมองค์รัชทายาท อย่าแตะต้องฉู่หนิง” สมกับที่เป็นหญิงแกร่งของต้าจ้าว เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็หาคำแก้ตัวที่เหมาะสมได้แล้ว“นี่…”องค์ชายรองขมวดคิ้ว ชั่วขณะไม่รู้ควรตอบอย่างไรทั้งที่รู้ว่าจ้าวเฟยเยี่ยนสมคบคิดกับรัชทายาท แต่ไม่มีหลักฐานเอาผิดต่อให้เอาเรื่องนี้ไปฟ้องฮ่องเต้ ฮ่องเต้ก็คงมองว่าพวกเขากำลังทะเลาะกันเ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 181

    ฉู่หนิงไปเยี่ยมองค์ชายหลายพระองค์ติดต่อกัน พอไปถึงก็พูดถึงจุดประสงค์ที่มาโดยตรง…ขอยืมเงิน!เมื่อองค์ชายเหล่านั้นได้ยินว่าฉู่หนิงขอยืมเงินเพราะรัชทายาท ก็พากันเดือดดาลทันทีอุตส่าห์หาตัวตายตัวแทนมาได้แล้ว อีกทั้งกำลังจะไปแนวหน้าแล้วด้วย รัชทายาทกลับหาเรื่องเดือดร้อนให้พวกเขาในเวลานี้โดยเฉพาะองค์ชายรองฉู่หมิงโมโหจนลุกขึ้นตบโต๊ะ เขาพลางปลอบใจฉู่หนิง พลางเรียกองค์ชายท่านอื่นมารวมตัว เตรียมบุกไปถามรัชทายาทที่ตำหนักบูรพาให้รู้เรื่องแม้ฉู่หนิงจะ ‘ห้ามปราม’ แล้ว แต่พวกเขามีคนเยอะกว่า สุดท้ายก็จำต้องปล่อยให้เหล่าองค์ชายมุ่งหน้าไปยังตำหนักบูรพาขณะเดียวกัน ภายในตำหนักบูรพา เมื่อรัชทายาทได้ยินคำพูดของจ้าวเฟยเยี่ยน สีหน้าเคร่งขรึม เอาแต่นิ่งเงียบจ้าวเฟยเยี่ยนที่อยู่ในตำหนักยิ้มหยัน “ดูท่าว่าฉู่หนิงอยากยืมเงินให้ท่านจริงๆ ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มาหาข้าหรอกเจ้าฉู่หนิงช่างเพ้อฝันเก่งจริงๆ คิดว่าข้าจะยอมจ่ายหนึ่งแสนตำลึงเงินที่เหลือให้เขา น่าขำสิ้นดีแต่พูดก็พูดเถอะ องค์รัชทายาทวางหมากตานี้ได้เฉียบจริงๆ ตอนนี้ฉู่หนิงคงจะทำอะไรไม่ถูกแล้วกระมัง!” จ้าวเฟยเยี่ยนยังไม่รู้ว่ารัชทายาทโดนฮ่องเต้สั่งส

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 180  

    จ้าวเฟยเยี่ยนแววตาสั่นไหว รู้สึกแปลกประหลาดในใจไม่หยุด ฉู่หนิงเจ้าหมอนี่จะมาหาข้าเพื่ออะไร? ได้ยินว่าเจ้าหมอนี่ไปขอตัวนักโทษจำนวนมากมาจากเสนาบดีกรมอาญา เขาไม่ไปฝึกยุทธ์ให้คนเหล่านี้ แต่กลับมาหาข้า สงสัยจะว่างมากกระมัง แน่นอนว่า คำพูดนี้นางไม่กล้าเอ่ยออกมา ระหว่างที่แผนการยังไม่ลุล่วงตามประสงค์ นางจำเป็นต้องประคับประคองฉู่หนิงไว้ก่อน จ้าวเฟยเยี่ยนหัวเราะออกมาเบา ๆ “เผิงไหลจวิ้นอ๋องไม่เคยมาหาใครโดยไร้เหตุผล แต่วันนี้อุตส่าห์มาถึงที่นี่ ไม่ทราบมีเรื่องอันใดหรือ?” ใบหน้าของฉู่หนิงเผยแววลำบากใจออกมา “เฮ้อ ความจริงเรื่องนี้ข้าเองก็พูดยากนัก หากมิใช่เพราะถึงทางตัน ข้าก็คงไม่ถ่อมาหาท่านหรอกองค์หญิงเฟยเยี่ยน” คิ้วเรียวกระตุกเบา ๆ จ้าวเฟยเยี่ยนพลันใจเต้นหวิว ๆ ขึ้นมาทันใด ไม่รู้เหตุผลใด นางพลันรู้สึกขึ้นมาว่าฉู่หนิงดูคล้ายจะมาเอาประโยชน์จากตนเองอย่างบอกไม่ถูก ปรับสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังขึ้นมา จ้าวเฟยเยี่ยนก็หรี่ตาพลางเอ่ยถามว่า “เรื่องใดกันทำให้เผิงไหลจวิ้นอ๋องถึงขั้นเสด็จมาพบข้าด้วยตนเองเช่นนี้?” ฉู่หนิงแสร้งทำท่าทีหมดสิ้นหนทาง “เฮ้อ ความจริงก็มิใช่เรื่องใหญ่อะไรนักหรอก เพียง

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status