Share

บทที่ 8

Author: สายลมไร้กาลเวลา
“จวิ้นอ๋องจะตีอาวุธด้วยตนเองหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

เซียวหมิงแสร้งทำท่าทางตื่นตระหนก “ทำเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด หากฝ่าบาททรงทราบเข้า จะต้องลงโทษพวกเราอย่างหนักเป็นแน่”

หลุมพรางน่ะ ขุดรอฉู่หนิงไว้ก่อนแล้ว

รอจนเบื้องบนสืบสวนเรื่องนี้ขึ้นมา เขาก็จะสามารถปัดความรับผิดชอบได้อย่างสะอาดหมดจด

ฉู่หนิงขมวดคิ้ว บนใบหน้าเผยสีหน้าไม่พอใจ “ข้าตีอาวุธก็ไม่ใช่เพื่อตนเอง แต่เพื่อให้เหล่าผู้คุ้มกันมีอาวุธใช้ในสนามรบ!

หากเสด็จพ่อจะทรงลงโทษ เช่นนั้นก็ให้ลงโทษข้าคนเดียวเถิด!

หากกรมกลาโหมจะสืบสวน ก็ให้ข้ารับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

เถ้าแก่เซียวออกไปเถอะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้าและช่างตีเหล็กทุกคน!”

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทหารผ่านศึกกว่าสามสิบคนซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง

พวกเขาเป็นเพียงทหารผ่านศึกที่ถอยกลับมาจากแนวหน้า หลายคนกล่าวว่าพวกเขาเป็นทหารหนีทัพ ด้วยเหตุนี้จึงดูถูกพวกเขา

หลายปีมานี้ เพราะความพ่ายแพ้ในครั้งนั้น พวกเขาจึงถูกมองด้วยสายตาเย็นชาและถูกปฏิบัติอย่างหมางเมินมาโดยตลอด ไม่มีใครสนใจพวกเขาเลย

แต่วันนี้ เพื่อให้พวกเขามีอาวุธที่ถนัดมือ ฉู่หนิงถึงกับยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว

ในวินาทีนี้ ท่าทีที่พวกเขามีต่อฉู่หนิงก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ในตอนแรก พวกเขาเพียงแค่ต้องการติดตามฉู่หนิงไปที่แนวหน้า เพื่อทำตามความปรารถนาในฐานะทหารผ่านศึกของตนเองให้สำเร็จ

แต่ตอนนี้ พวกเขาต้องการปกป้องความปลอดภัยของฉู่หนิงจากใจจริง

“ท่านอ๋อง ท่านจะยอมรับโทษเพื่อพวกเราไม่ได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”

“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง เรื่องตีอาวุธมอบให้พวกเราจัดการก็พอแล้ว”

“ทุกคนช่วยกันลงมือ จะยอมให้ท่านอ๋องรับผิดชอบแทนพวกเราไม่ได้เด็ดขาด!”

“หากจะถูกลงโทษ พวกเรายินดีรับโทษร่วมกับท่านอ๋อง!”

ทุกคนรับเครื่องมือจากมือของเหล่าช่างตีเหล็กมาด้วยความซาบซึ้งใจ

เซียวหมิงมองภาพนี้ ถึงแม้บนใบหน้าจะแสดงความลำบากใจ แต่ในใจกลับตื่นเต้นยิ่งนัก

การตีอาวุธไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน หากหลายวันนี้ฉู่หนิงอยู่ที่นี่เพื่อตีอาวุธจริง ๆ จะต้องกลายเป็นเรื่องตลกของเมืองหลวงอย่างแน่นอน

เรื่องน่าสนุกเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องรายงานให้องค์รัชทายาทและองค์ชายรองทราบ!

ดวงตากลอกไปมา เซียวหมิงแสร้งทำท่าทางจนปัญญา “ในเมื่อท่านอ๋องยืนกรานเช่นนี้ ข้าน้อยก็ทำได้เพียงปฏิบัติตามคำสั่ง”

“ช่วงนี้เหล่าช่างตีเหล็กเร่งงานจนเหนื่อยแล้วพอดี ถือโอกาสพักผ่อนสักสองสามวันก็แล้วกัน แต่ว่าค่าแรงนี่สิ ท่านอ๋องต้องจ่ายให้ตามปกตินะพ่ะย่ะค่ะ”

ใบหน้าของพวกช่างตีเหล็กที่อยู่รอบ ๆ เผยความยินดีออกมา

ไม่ต้องตีเหล็ก แต่ยังได้ค่าแรง เถ้าแก่เซียวช่างใจกว้างจริง ๆ !

แต่จ้าวอวี่เมื่อได้ยินดังนั้นสีหน้ากลับมืดมน “หัวหน้าเซียว เจ้าทำเช่นนี้ หรือว่าเจ้าดูถูกท่านอ๋องว่าไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้หรือ?”

เซียวหมิงทำหน้าตื่นตระหนก “คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไร หรือท่านคิดว่าข้าจงใจหาเรื่องท่านอ๋องอย่างนั้นหรือ?”

“เจ้า...”

“พอแล้ว!”

ฉู่หนิงโบกมือขัดจังหวะจ้าวอวี่ “จ้าวอวี่ เจ้าไปจ่ายค่าแรงของพวกช่างตีเหล็กให้เรียบร้อย แล้วให้พวกเขาไปได้”

ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ

จ่ายค่าแรงให้เรียบร้อยหมายความว่าอย่างไร?

นี่คือการไล่คนออกหรือ?

เซียวหมิงได้สติกลับมา ดวงตาฉายแววเยือกเย็นแวบหนึ่ง

หากช่างตีเหล็กถูกไล่ออกไปหมด เถ้าแก่อย่างเขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไปเช่นกัน

“ท่านอ๋อง ท่านจะโกรธเคืองช่างตีเหล็กเหล่านี้เพราะเรื่องเมื่อครู่นี้หรือพ่ะย่ะค่ะ?”

เซียวหมิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ช่างตีเหล็กเหล่านี้ทำงานที่นี่มาหลายปี ถึงไม่มีความดีความชอบ แต่ก็ทำงานหนักมาตลอด ท่านอ๋องจะตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นเช่นนี้ได้อย่างไร?”

ฉู่หนิงถอนหายใจยาว ใบหน้าเต็มไปด้วยความจนปัญญา “หัวหน้าเซียว เจ้าก็รู้ว่าข้าจะตีอาวุธ หากเรื่องนี้เสด็จพ่อทรงลงโทษขึ้นมา เกรงว่าจะพัวพันไปถึงคนอื่น ๆ

การไล่ช่างตีเหล็กเหล่านี้ออก ก็เพราะข้าไม่อยากให้พวกเขาต้องเดือดร้อนไปด้วย”

พูดจบ เขาก็มองไปยังพวกช่างตีเหล็ก แล้วกล่าวเสียงทุ้ม “ทุกท่าน หากพวกเจ้าอยากจะอยู่ต่อก็ได้ ข้าสามารถให้ค่าแรงพวกเจ้าเพิ่มได้

แต่เมื่อใดที่ราชสำนักลงโทษขึ้นมา พวกเจ้าก็ต้องรับผิดชอบร่วมกับข้า!”

เหล่าช่างตีเหล็กพอได้ยินดังนั้นก็ไม่ทำแล้ว

“ที่บ้านข้ายังมีมารดาแก่ชราต้องเลี้ยงดู ท่านอ๋องโปรดจ่ายค่าแรงให้ข้าด้วยเถิด”

“ท่านอ๋อง ภรรยาข้ากำลังจะคลอดแล้ว ข้าอยากจะขอเบิกค่าแรงไปดูแลภรรยา”

“ข้า... ข้ายังมีลูกเล็กต้องเลี้ยงดู ท่านอ๋องโปรดเข้าใจด้วย”

ไม่มีใครอยากจะรับผิดชอบ!

ตอนนี้ไม่ไป แล้วจะรอให้ราชสำนักลงโทษก่อนหรือไร

หากเป็นองค์ชายคนอื่น ราชสำนักย่อมไม่กล้าลงโทษ แต่เผิงไหลจวิ้นอ๋องผู้นี้ไม่มีทั้งอำนาจและบารมี พวกเขาไม่อยากจะไปร่วมรับผิดชอบกับคนแบบนี้หรอก

ฉู่หนิงมองพวกช่างตีเหล็กที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย มุมปากก็เผยรอยยิ้มออกมา

“จ้าวอวี่ จ่ายค่าแรงให้พวกเขา!”

สิ้นเสียงคำสั่ง พวกช่างตีเหล็กก็กรูกันเข้าไปหาจ้าวอวี่

เซียวหมิงกลอกตาไปมา ถึงเพิ่งจะได้สติ

เมื่อมองไปยังเหล่าทหารผ่านศึกที่เริ่มตีเหล็กแล้ว เขาก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง

แท้จริงแล้ว ฉู่หนิงก็คิดที่จะยึดครองร้านตีเหล็กนี้มาตั้งแต่แรก!

น่าขันที่เขายังไม่รู้ตัว คิดว่าฉู่หนิงเพียงแค่ต้องการตีอาวุธเท่านั้น ยังคิดจะรอดูเรื่องตลกของฉู่หนิงอีก

ตอนนี้ดีแล้ว เรื่องตลกของฉู่หนิงไม่ได้เห็น แต่กลับเป็นเขาเองที่กลายเป็นเรื่องตลก

ไม่ได้ จะปล่อยให้ช่างตีเหล็กจากไปไม่ได้เด็ดขาด มิเช่นนั้นทุกอย่างก็จบสิ้น

เขาคือไส้ศึกที่องค์รัชทายาทส่งมาแฝงตัวอยู่กับองค์ชายรอง หากไม่มีร้านตีเหล็ก ไม่ว่าจะเป็นองค์รัชทายาทหรือองค์ชายรองก็จะไม่เห็นค่าเขาอีกต่อไป

“เดี๋ยวก่อน!”

เซียวหมิงพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว ยืนขวางหน้าพวกช่างตีเหล็ก แล้วกล่าวเสียงเย็น “ค่าแรงยังคำนวณไม่เสร็จ หากจ่ายเกินไป ท่านอ๋องจะไม่เสียเปรียบหรือ?”

พวกช่างตีเหล็กถึงกับตะลึง

ค่าแรงล้วนเป็นเซียวหมิงที่คำนวณมาตลอด ตอนนี้เซียวหมิงคัดค้าน แล้วพวกเขาจะได้ค่าแรงหรือไม่?

“เถ้าแก่เซียว พวกเราเอาน้อยหน่อยก็ได้”

“ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเราอยากจะรีบกลับบ้าน”

“เถ้าแก่ ท่านปล่อยพวกเราไปเถอะ”

พวกช่างตีเหล็กอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร แต่เซียวหมิงกลับทำหน้าเย็นชา ไม่ยอมตกลง

ฉู่หนิงหัวเราะเบา ๆ “เถ้าแก่เซียว เจ้าก็เพิ่งพูดเองว่า ถึงพวกเขาไม่มีความดีความชอบ แต่ก็ทำงานหนักมาตลอด เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้ายอมเสียเปรียบหน่อย ให้พวกเจ้าคนละสิบตำลึง!”

เงินสิบตำลึง เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายของครอบครัวสี่คนได้หนึ่งเดือน

เหล่าช่างตีเหล็กต่างดีใจจนเนื้อเต้น พากันคุกเข่าลงกับพื้นแล้วก้มศีรษะ

“ขอบพระทัยท่านอ๋อง!”

จ้าวอวี่ก็ไม่รอช้า หยิบเงินออกมาแจกจ่ายให้พวกช่างตีเหล็กทันที

พวกช่างตีเหล็กที่ได้รับเงินแล้วก็โขกศีรษะขอบคุณฉู่หนิง แล้วจึงพากันจากไป

“กลับมา พวกเจ้ากลับมาเดี๋ยวนี้!”

ไม่ว่าเซียวหมิงจะตะโกนเกรี้ยวกราดอยู่ข้างหลังอย่างไร เหล่าช่างตีเหล็กก็ไม่หันกลับมามอง หายลับไปจากสายตาของเขาโดยสิ้นเชิง

ฉู่หนิงมองเซียวหมิงที่ยืนอยู่เพียงลำพัง บนใบหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมา

“เถ้าแก่เซียว คิดว่าท่านก็คงไม่อยากจะรับผิดชอบร่วมกับข้ากระมัง?”

“ข้า...”

“เถ้าแก่เซียวไม่ต้องอธิบาย ข้าเข้าใจ!”

ฉู่หนิงหยิบถุงเงินใบเล็กจากมือของจ้าวอวี่แล้วโยนไปให้ “ในนี้มีเงินห้าสิบตำลึง น่าจะเกินพอสำหรับค่าแรงของเถ้าแก่เซียว”

พูดจบ เงินก็ถูกโยนไปอยู่ในมือของเซียวหมิง

สีหน้าของเซียวหมิงพลันมืดมนลงอย่างสิ้นเชิง

ในที่สุดเขาก็เข้าใจจุดประสงค์ที่ฉู่หนิงมาที่นี่ในวันนี้แล้ว!

ตั้งแต่แรก ฉู่หนิงก็ขุดหลุมพรางรอเขาอยู่แล้ว จุดประสงค์ก็คือการยึดครองร้านตีเหล็กแห่งนี้โดยสมบูรณ์

ฉู่หนิงผู้นี้ องค์ชายที่กำลังจะเป็นตัวตายตัวแทนแท้ ๆ ยังกล้ามาเล่นตลกกับเขาเช่นนี้!

ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ในดวงตาของเซียวหมิงฉายแววอำมหิตออกมา เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับฉู่หนิงทันที

“เผิงไหลจวิ้นอ๋องช่างมีเล่ห์เหลี่ยมนัก เรื่องนี้ข้าจะรายงานให้องค์ชายรองทราบแน่นอน!”

พูดจบ เซียวหมิงก็กำเงินไว้แล้วจ้องมองฉู่หนิงอย่างอาฆาตแค้น จากนั้นจึงหันหลังเดินจากไป

สายตาของกวนอวิ๋นพลันเย็นชา เจตนาสังหารทั่วร่างพุ่งขึ้นมาทันที “ท่านอ๋อง จะให้...”

เขาทำท่าทางปาดคอ!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 318

    คำพูดนี้ทำให้องค์รัชทายาทและบรรดาองค์ชายถอนหายใจโล่งอกแม้ว่าเฝิงอันกั๋วจะไม่ได้ปฏิเสธ แต่เขาก็ไม่ได้ตอบตกลงเช่นกัน ไม่ได้ให้เหตุผลที่ฮ่องเต้จะตัดสินได้โดยตรงฮ่องเต้ขมวดคิ้ว นึกไม่ถึงว่าเฝิงอันกั๋วจะมีมุมที่เจ้าเล่ห์แบบนี้ด้วยแต่ที่เขาพูดก็มีเหตุผล อย่างไรสมญานามฉู่อ๋องก็เคยถูกใช้โดยฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งราชวงศ์มาก่อน หากลูกหลานจะใช้ก็ต้องถามสำนักราชวงศ์ฮ่องเต้พยักหน้าเล็กน้อย “ใต้เท้าเฝิงพูดได้มีเหตุผล”จากนั้นหันไปมองชายชราผมขาวที่ถือไม้เท้าอยู่ในแถว “เสด็จอา ท่านคิดเห็นอย่างไร?”ชายชราผู้นี้มีนามว่าฉู่อวี๋ เป็นอาแท้ ๆ ของฮ่องเต้ ได้รับแต่งตั้งเป็นฉินอ๋อง ดูแลสำนักราชวงศ์ฉู่อวี๋ถอนหายใจยาว ๆ ก่อนจะค้ำไม่เท้าก้าวออกมา พูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า “ฝ่าบาท เรื่องนี้ไม่เคยมีในราชวงศ์มาก่อน”ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว รู้สึกไม่ค่อยพอใจแต่ฉู่อวี๋กลับเสริมเพิ่มว่า “แต่ในกฎของราชวงศ์ก่อน ๆ เหมือนจะไม่ได้มีข้อห้ามว่าห้ามใช้พระนามของฮ่องเต้ผู้บุกเบิกราชวงศ์ กระหม่อมตัดสินเรื่องนี้ไม่ได้ พระองค์ทรงตัดสินพระทัยได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”ความหมายชัดเจนมาก ไม่มีกฎห้ามไม่ให้ใช้ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่เคยมีผู้ใดใช้มาก่อ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 317

    “ฝ่าบาท ลูกไม่กล้าก้าวก่ายการตัดสินพระทัยขององค์พระองค์พ่ะย่ะค่ะ ลูกเพียงรู้สึกว่าสมญานามฉู่อ๋องเป็นพระนามของฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ หากมอบให้ฉู่หนิง เกรงว่าจะไม่เหมาะสม”องค์รัชทายาทไม่ใช่คนโง่ ย่อมได้ยินถึงความไม่พอพระทัยในน้ำเสียงของฮ่องเต้หากยังยืนกรานคัดค้าน ฮ่องเต้จะต้องไม่พอพระทัยแน่นอน!ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว ละสายตาจากฮ่องเต้ไปที่องค์ชายคนอื่นและถาม“พวกเจ้าคิดอย่างไรกับคำพูดของรัชทายาท?”องค์ชายรองเป็นคนแรกที่ก้าวออกมา “เสด็จพ่อ ลูกมองว่าที่เสด็จพี่รัชทายาทกล่าวมาก็มีเหตุผลพ่ะย่ะค่ะ”องค์ชายที่เหลือเห็นว่ามีคนนำก็ใจกล้าขึ้นมา พากันก้าวออกไปพูดสนับสนุน“เสด็จพ่อ ในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์เรา ไม่เคยมีผู้ใดกล้าใช้สมญาฉู่อ๋อง!”“ฉู่หนิงเกิดในหมู่สามัญชน หากได้รับแต่งตั้งเป็นฉู่อ๋องเพียงเพราะผลงานการรบ เกรงว่าจะเร่งร้อนเกินไปพ่ะย่ะค่ะ”“ใช่พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ ต่อให้จะแต่งตั้งฉู่หนิงเป็นชินอ๋อง แต่จะให้เป็นฉู่อ๋องไม่ได้”บรรดาองค์ชายต่างแสดงความไม่พอใจฮ่องเต้มองท่าทีของทุกคน พระพักตร์แสดงถึงความไม่พอพระทัยมีคนกล้าคัดค้านความต้องการของเรางั้นหรือ?นี่มันพวกลูกทรพี!เหอะ ตอนน

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 316

    เหล่าขุนนางไม่กล้าเข้าไปยุ่งกับพวกเขาในตอนนี้ พากันหลีกทางให้หลังจากทักทายไม่นาน ทุกคนก็มายืนเรียงแถวเป็นสองฝั่งที่ตำหนักอิงอู่“กระหม่อม/ลูก ถวายพระพรฝ่าบาท!”ฮ่องเต้แย้มพระโอษฐ์ “ไม่ต้องมากพิธี ครั้งนี้ฉู่หนิงคว้าชัยชนะที่แนวหน้า พวกเจ้าก็มาฟังรายละเอียดด้วยกัน”จ้าวหมิงที่อยู่ด้านข้างนำรายงานชัยชนะออกมาอ่าน “กราบทูลเสด็จพ่อ ลูกใช้ขบวนลำเลียงเสบียงเป็นเหยื่อล่อให้ทัพศัตรูออกมาโจมตี แต่แท้จริงคือแอบซ่อนกำลังทหารไว้ในขบวนอยู่ก่อนแล้ว ทำลายกองโจมตีและกองซุ่มของศัตรูในคราเดียว”“จากนั้นเปิดประตูเมืองเพื่อล่อศัตรูมายังกำแพงเมืองฝั่งใต้ เมืองค่ายใหญ่ของศัตรูว่างเปล่าก็ส่งทหารที่จัดเตรียมไว้ก่อนแล้วเข้าไปเผาค่ายศัตรู พร้อมทั้งบุกเข้าไปยังกองบัญชาการ สังหารมู่หรงจู๋!”“ศึกครั้งนี้กำจัดทัพศัตรูไปสองแสนนาย อีกแสนนายที่เหลือได้เข้ายึดเมืองทั้งสี่ ลูกได้สั่งให้ไปตียึดคืนแล้ว”“กระนั้น ครั้งนี้กองทัพฝ่ายเราก็เสียกำลังพลไปเกินครึ่ง บัดนี้เหลือเพียงหกหมื่นนาย หวังว่าเสด็จพ่อจะส่งอนุญาตให้รับสมัครเพิ่ม พร้อมทั้งจัดหาเสบียงมาสนับสนุน อีกไม่นานก็จะตีคืนเมืองทั้งสี่จากศัตรูได้สำเร็จ”เมื่อรายง

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 315

    สถานการณ์ของเมืองติ้งเซียงเริ่มเข้าที่เข้าทาง เมืองฉู่หนิงเปิดประตูให้ทุกคนเข้าทดสอบส่วนพวกจ้าวอวี่กับกวนอวิ๋นที่กำลังโจมตีเมืองอีกสี่แห่งก็กำลังดำเนินการตามแผนแต่เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามยึดครองเมือง การโจมตีจึงไม่รุนแรงนัก ใช้วิธีปิดล้อมเพื่อตัดกำลังช่วยเหลือกองทัพปิดล้อมเมืองหนึ่งแห่ง รอให้อีกสามเมืองส่งคนมาช่วยเหลือ จากนั้นรอกำจัดระหว่างทางแต่กองทัพแคว้นจ้าวไม่ได้โง่ พวกเขาไม่ได้ส่งคนมาช่วยเหลือแต่อย่างใดฉู่หนิงไม่แปลกใจเมื่อได้ยินข่าวนี้ สั่งให้พวกเขาล้อมเมืองแค่หนึ่งแห่งก็พอ รอให้เสบียงในเมืองหมดลง กองทัพแคว้นจ้าวก็จะพ่ายแพ้ไปเองกาลเวลายืนอยู่ฝั่งของกองทัพฉู่ ฉู่หนิงไม่รีบร้อนแม้แต่น้อยยิ่งไปกว่านั้น การเก็บกองทัพแคว้นฉู่เหล่านี้ไว้ก็ใช้ต่อรองกับราชสำนักได้ด้วยและหลังจากวันนี้ ในที่สุด ฮ่องเต้ประทับอยู่ในเมืองหลวงก็ได้รับข่าวของฉู่หนิง“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ข่าวชัยชนะ เป็นข่าวชัยชนะจริง ๆ ด้วย!”ฮ่องเต้กำรายงานชัยชนะของฉู่หนิงไว้ในมือ เดินออกจากตำหนักอิงอู่ด้วยเสียงหัวเราะ“สวรรค์คุ้มครองแคว้นฉู่ สวรรค์คุ้มครองแคว้นฉู่!”ฮ่องเต้มีพระพักตร์ปลื้มปิติ “เด็ก ๆ เรียกขุนนางทุกฝ่ายม

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 314

    เมื่อมองฝูงชนเบื้องหน้า คนเหล่านี้มาเพราะเชื่อมั่นในตัวเขา!เขาสูดหายใจเข้าลุก ๆ ก่อนจะยกมือสั่งเสียงทุ้ม “ทหาร เปิดประตูเมือง!”สีหน้าของหลิวโส่วพลันเปลี่ยนไป “ท่านอ๋อง ท่าน…ท่านจะทำอันใด?”“ข้าจะออกไปปลอบโยนทุกคน!”“ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ คนเหล่านี้เป็นคนอดอยาก หากประสงค์ร้ายขึ้นมา…”“พอแล้ว ข้ารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร หากความกล้าแค่นี้ก็ยังไม่มี ข้าก็ไม่เหมาะสมที่จะเป็นองค์ชาย!”ฉู่หนิงมีท่าทีแน่วแน่ ว่าจบก็ลงจากกำแพงเมืองไม่นาน ประตูเมืองก็เปิดออก ฉู่หนิงควบม้านำทหารกลุ่มหนึ่งออกไปช้า ๆหลิวโส่วเริ่นตะโกนเสียงดัง “เผิงไหลจวิ้นอ๋องเสด็จ เหตุใดยังไม่คำนับอีก?”ทุกคนรีบโค้งตัวประสานมือ “คารวะท่านอ๋อง!”ฉู่หนิงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ทั้งสองกลุ่มอยู่ใกล้กันมาก ทำให้เขาเห็นสภาพของทุกคนชัดเจนราษฎรส่วนใหญ่สวมเสื้อผ้าชุดบาง ร่างกายผ่ายผอม สีหน้ามีความตื่นตระหนกฉู่หนิงถอนหายใจยาว ๆ แล้วพูดเสียงทุ้ม “ข้าทราบถึงจุดประสงค์ที่ทุกคนมาที่นี่ แต่ข้าต้องการผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงกำยำ พวกเจ้ามีสภาพเช่นนี้ ต่อให้ส่งเข้าสนามรบไปก็เปล่าประโยชน์”แม้จะฟังดูใจร้าย แต่มันก็เป็นความจริงคนแบบนี้เข้าส

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 313

    ฉู่หนิงสังหารตู้หยวนจีด้วยกลยุทธ์สายฟ้าฟาด เป็นที่หวั่นเกรงของเจ้าเมืองทั้งสี่ด้วยเหตุนี้ ในช่วงเวลาหลายวันต่อมา เจ้าเมืองทั้งสี่ไม่กล้าล่าช้าแม้แต่น้อย ทำตามคำสั่งของฉู่หนิงอย่างเต็มกำลังและผลลัพธ์ ก็เกินความคาดหมาย!สามวันต่อมา ขณะที่ฉู่หนิงกำลังฝึกใช้หอกอยู่ในลานบ้าน จู่ ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังมาจากด้านนอกจากนั้น เสียงที่ดูร้อนรนของหลิวโส่วเริ่นก็ดังขึ้น “ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง เกิดเรื่องใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ฉู่หนิงขมวดคิ้ว โยนหอกในมือกลับขึ้นแท่นวางอาวุธอย่างมั่นคง“มีเรื่องอันใดกัน ใต้เท้าหลิวจึงต้องตื่นตระหนกเช่นนี้?”ฉู่หนิงยื่นมือไปรับผ้าจากสาวใช้ด้านข้าง เช็ดเหงื่อที่หน้าผากไปพลาง ถามด้วยรอยยิ้มไปพลางหลิวโส่วเริ่นรับราชการมาหลายปี เรื่องที่ทำให้เขาตื่นตระหนกแบบนี้น่าจะมีไม่มาก“ท่านอ๋อง ท่านรีบไปดูเถิด นอกเมืองมีคนเยอะมาก!”หลิวโส่วเริ่นพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น “คนเหล่านี้บอกว่ามาเข้าร่วมกองทัพ นอกจากนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นชายฉกรรจ์ กระหม่อมกลัวว่าจะมีกองทัพแคว้นจ้าวปะปน ฉวยโอกาสโจมตีเมืองในจังหวะที่ทัพเราไม่ทันระวัง!”มีคนมาเยอะมากหรือ?ฉู่หนิงหรี่ตา โยนผ้าลงในกะละมังและ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status