Share

บทที่ 8

Penulis: สายลมไร้กาลเวลา
“จวิ้นอ๋องจะตีอาวุธด้วยตนเองหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

เซียวหมิงแสร้งทำท่าทางตื่นตระหนก “ทำเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด หากฝ่าบาททรงทราบเข้า จะต้องลงโทษพวกเราอย่างหนักเป็นแน่”

หลุมพรางน่ะ ขุดรอฉู่หนิงไว้ก่อนแล้ว

รอจนเบื้องบนสืบสวนเรื่องนี้ขึ้นมา เขาก็จะสามารถปัดความรับผิดชอบได้อย่างสะอาดหมดจด

ฉู่หนิงขมวดคิ้ว บนใบหน้าเผยสีหน้าไม่พอใจ “ข้าตีอาวุธก็ไม่ใช่เพื่อตนเอง แต่เพื่อให้เหล่าผู้คุ้มกันมีอาวุธใช้ในสนามรบ!

หากเสด็จพ่อจะทรงลงโทษ เช่นนั้นก็ให้ลงโทษข้าคนเดียวเถิด!

หากกรมกลาโหมจะสืบสวน ก็ให้ข้ารับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

เถ้าแก่เซียวออกไปเถอะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้าและช่างตีเหล็กทุกคน!”

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทหารผ่านศึกกว่าสามสิบคนซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง

พวกเขาเป็นเพียงทหารผ่านศึกที่ถอยกลับมาจากแนวหน้า หลายคนกล่าวว่าพวกเขาเป็นทหารหนีทัพ ด้วยเหตุนี้จึงดูถูกพวกเขา

หลายปีมานี้ เพราะความพ่ายแพ้ในครั้งนั้น พวกเขาจึงถูกมองด้วยสายตาเย็นชาและถูกปฏิบัติอย่างหมางเมินมาโดยตลอด ไม่มีใครสนใจพวกเขาเลย

แต่วันนี้ เพื่อให้พวกเขามีอาวุธที่ถนัดมือ ฉู่หนิงถึงกับยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว

ในวินาทีนี้ ท่าทีที่พวกเขามีต่อฉู่หนิงก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ในตอนแรก พวกเขาเพียงแค่ต้องการติดตามฉู่หนิงไปที่แนวหน้า เพื่อทำตามความปรารถนาในฐานะทหารผ่านศึกของตนเองให้สำเร็จ

แต่ตอนนี้ พวกเขาต้องการปกป้องความปลอดภัยของฉู่หนิงจากใจจริง

“ท่านอ๋อง ท่านจะยอมรับโทษเพื่อพวกเราไม่ได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”

“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง เรื่องตีอาวุธมอบให้พวกเราจัดการก็พอแล้ว”

“ทุกคนช่วยกันลงมือ จะยอมให้ท่านอ๋องรับผิดชอบแทนพวกเราไม่ได้เด็ดขาด!”

“หากจะถูกลงโทษ พวกเรายินดีรับโทษร่วมกับท่านอ๋อง!”

ทุกคนรับเครื่องมือจากมือของเหล่าช่างตีเหล็กมาด้วยความซาบซึ้งใจ

เซียวหมิงมองภาพนี้ ถึงแม้บนใบหน้าจะแสดงความลำบากใจ แต่ในใจกลับตื่นเต้นยิ่งนัก

การตีอาวุธไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน หากหลายวันนี้ฉู่หนิงอยู่ที่นี่เพื่อตีอาวุธจริง ๆ จะต้องกลายเป็นเรื่องตลกของเมืองหลวงอย่างแน่นอน

เรื่องน่าสนุกเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องรายงานให้องค์รัชทายาทและองค์ชายรองทราบ!

ดวงตากลอกไปมา เซียวหมิงแสร้งทำท่าทางจนปัญญา “ในเมื่อท่านอ๋องยืนกรานเช่นนี้ ข้าน้อยก็ทำได้เพียงปฏิบัติตามคำสั่ง”

“ช่วงนี้เหล่าช่างตีเหล็กเร่งงานจนเหนื่อยแล้วพอดี ถือโอกาสพักผ่อนสักสองสามวันก็แล้วกัน แต่ว่าค่าแรงนี่สิ ท่านอ๋องต้องจ่ายให้ตามปกตินะพ่ะย่ะค่ะ”

ใบหน้าของพวกช่างตีเหล็กที่อยู่รอบ ๆ เผยความยินดีออกมา

ไม่ต้องตีเหล็ก แต่ยังได้ค่าแรง เถ้าแก่เซียวช่างใจกว้างจริง ๆ !

แต่จ้าวอวี่เมื่อได้ยินดังนั้นสีหน้ากลับมืดมน “หัวหน้าเซียว เจ้าทำเช่นนี้ หรือว่าเจ้าดูถูกท่านอ๋องว่าไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้หรือ?”

เซียวหมิงทำหน้าตื่นตระหนก “คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไร หรือท่านคิดว่าข้าจงใจหาเรื่องท่านอ๋องอย่างนั้นหรือ?”

“เจ้า...”

“พอแล้ว!”

ฉู่หนิงโบกมือขัดจังหวะจ้าวอวี่ “จ้าวอวี่ เจ้าไปจ่ายค่าแรงของพวกช่างตีเหล็กให้เรียบร้อย แล้วให้พวกเขาไปได้”

ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ

จ่ายค่าแรงให้เรียบร้อยหมายความว่าอย่างไร?

นี่คือการไล่คนออกหรือ?

เซียวหมิงได้สติกลับมา ดวงตาฉายแววเยือกเย็นแวบหนึ่ง

หากช่างตีเหล็กถูกไล่ออกไปหมด เถ้าแก่อย่างเขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไปเช่นกัน

“ท่านอ๋อง ท่านจะโกรธเคืองช่างตีเหล็กเหล่านี้เพราะเรื่องเมื่อครู่นี้หรือพ่ะย่ะค่ะ?”

เซียวหมิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ช่างตีเหล็กเหล่านี้ทำงานที่นี่มาหลายปี ถึงไม่มีความดีความชอบ แต่ก็ทำงานหนักมาตลอด ท่านอ๋องจะตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นเช่นนี้ได้อย่างไร?”

ฉู่หนิงถอนหายใจยาว ใบหน้าเต็มไปด้วยความจนปัญญา “หัวหน้าเซียว เจ้าก็รู้ว่าข้าจะตีอาวุธ หากเรื่องนี้เสด็จพ่อทรงลงโทษขึ้นมา เกรงว่าจะพัวพันไปถึงคนอื่น ๆ

การไล่ช่างตีเหล็กเหล่านี้ออก ก็เพราะข้าไม่อยากให้พวกเขาต้องเดือดร้อนไปด้วย”

พูดจบ เขาก็มองไปยังพวกช่างตีเหล็ก แล้วกล่าวเสียงทุ้ม “ทุกท่าน หากพวกเจ้าอยากจะอยู่ต่อก็ได้ ข้าสามารถให้ค่าแรงพวกเจ้าเพิ่มได้

แต่เมื่อใดที่ราชสำนักลงโทษขึ้นมา พวกเจ้าก็ต้องรับผิดชอบร่วมกับข้า!”

เหล่าช่างตีเหล็กพอได้ยินดังนั้นก็ไม่ทำแล้ว

“ที่บ้านข้ายังมีมารดาแก่ชราต้องเลี้ยงดู ท่านอ๋องโปรดจ่ายค่าแรงให้ข้าด้วยเถิด”

“ท่านอ๋อง ภรรยาข้ากำลังจะคลอดแล้ว ข้าอยากจะขอเบิกค่าแรงไปดูแลภรรยา”

“ข้า... ข้ายังมีลูกเล็กต้องเลี้ยงดู ท่านอ๋องโปรดเข้าใจด้วย”

ไม่มีใครอยากจะรับผิดชอบ!

ตอนนี้ไม่ไป แล้วจะรอให้ราชสำนักลงโทษก่อนหรือไร

หากเป็นองค์ชายคนอื่น ราชสำนักย่อมไม่กล้าลงโทษ แต่เผิงไหลจวิ้นอ๋องผู้นี้ไม่มีทั้งอำนาจและบารมี พวกเขาไม่อยากจะไปร่วมรับผิดชอบกับคนแบบนี้หรอก

ฉู่หนิงมองพวกช่างตีเหล็กที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย มุมปากก็เผยรอยยิ้มออกมา

“จ้าวอวี่ จ่ายค่าแรงให้พวกเขา!”

สิ้นเสียงคำสั่ง พวกช่างตีเหล็กก็กรูกันเข้าไปหาจ้าวอวี่

เซียวหมิงกลอกตาไปมา ถึงเพิ่งจะได้สติ

เมื่อมองไปยังเหล่าทหารผ่านศึกที่เริ่มตีเหล็กแล้ว เขาก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง

แท้จริงแล้ว ฉู่หนิงก็คิดที่จะยึดครองร้านตีเหล็กนี้มาตั้งแต่แรก!

น่าขันที่เขายังไม่รู้ตัว คิดว่าฉู่หนิงเพียงแค่ต้องการตีอาวุธเท่านั้น ยังคิดจะรอดูเรื่องตลกของฉู่หนิงอีก

ตอนนี้ดีแล้ว เรื่องตลกของฉู่หนิงไม่ได้เห็น แต่กลับเป็นเขาเองที่กลายเป็นเรื่องตลก

ไม่ได้ จะปล่อยให้ช่างตีเหล็กจากไปไม่ได้เด็ดขาด มิเช่นนั้นทุกอย่างก็จบสิ้น

เขาคือไส้ศึกที่องค์รัชทายาทส่งมาแฝงตัวอยู่กับองค์ชายรอง หากไม่มีร้านตีเหล็ก ไม่ว่าจะเป็นองค์รัชทายาทหรือองค์ชายรองก็จะไม่เห็นค่าเขาอีกต่อไป

“เดี๋ยวก่อน!”

เซียวหมิงพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว ยืนขวางหน้าพวกช่างตีเหล็ก แล้วกล่าวเสียงเย็น “ค่าแรงยังคำนวณไม่เสร็จ หากจ่ายเกินไป ท่านอ๋องจะไม่เสียเปรียบหรือ?”

พวกช่างตีเหล็กถึงกับตะลึง

ค่าแรงล้วนเป็นเซียวหมิงที่คำนวณมาตลอด ตอนนี้เซียวหมิงคัดค้าน แล้วพวกเขาจะได้ค่าแรงหรือไม่?

“เถ้าแก่เซียว พวกเราเอาน้อยหน่อยก็ได้”

“ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเราอยากจะรีบกลับบ้าน”

“เถ้าแก่ ท่านปล่อยพวกเราไปเถอะ”

พวกช่างตีเหล็กอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร แต่เซียวหมิงกลับทำหน้าเย็นชา ไม่ยอมตกลง

ฉู่หนิงหัวเราะเบา ๆ “เถ้าแก่เซียว เจ้าก็เพิ่งพูดเองว่า ถึงพวกเขาไม่มีความดีความชอบ แต่ก็ทำงานหนักมาตลอด เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้ายอมเสียเปรียบหน่อย ให้พวกเจ้าคนละสิบตำลึง!”

เงินสิบตำลึง เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายของครอบครัวสี่คนได้หนึ่งเดือน

เหล่าช่างตีเหล็กต่างดีใจจนเนื้อเต้น พากันคุกเข่าลงกับพื้นแล้วก้มศีรษะ

“ขอบพระทัยท่านอ๋อง!”

จ้าวอวี่ก็ไม่รอช้า หยิบเงินออกมาแจกจ่ายให้พวกช่างตีเหล็กทันที

พวกช่างตีเหล็กที่ได้รับเงินแล้วก็โขกศีรษะขอบคุณฉู่หนิง แล้วจึงพากันจากไป

“กลับมา พวกเจ้ากลับมาเดี๋ยวนี้!”

ไม่ว่าเซียวหมิงจะตะโกนเกรี้ยวกราดอยู่ข้างหลังอย่างไร เหล่าช่างตีเหล็กก็ไม่หันกลับมามอง หายลับไปจากสายตาของเขาโดยสิ้นเชิง

ฉู่หนิงมองเซียวหมิงที่ยืนอยู่เพียงลำพัง บนใบหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมา

“เถ้าแก่เซียว คิดว่าท่านก็คงไม่อยากจะรับผิดชอบร่วมกับข้ากระมัง?”

“ข้า...”

“เถ้าแก่เซียวไม่ต้องอธิบาย ข้าเข้าใจ!”

ฉู่หนิงหยิบถุงเงินใบเล็กจากมือของจ้าวอวี่แล้วโยนไปให้ “ในนี้มีเงินห้าสิบตำลึง น่าจะเกินพอสำหรับค่าแรงของเถ้าแก่เซียว”

พูดจบ เงินก็ถูกโยนไปอยู่ในมือของเซียวหมิง

สีหน้าของเซียวหมิงพลันมืดมนลงอย่างสิ้นเชิง

ในที่สุดเขาก็เข้าใจจุดประสงค์ที่ฉู่หนิงมาที่นี่ในวันนี้แล้ว!

ตั้งแต่แรก ฉู่หนิงก็ขุดหลุมพรางรอเขาอยู่แล้ว จุดประสงค์ก็คือการยึดครองร้านตีเหล็กแห่งนี้โดยสมบูรณ์

ฉู่หนิงผู้นี้ องค์ชายที่กำลังจะเป็นตัวตายตัวแทนแท้ ๆ ยังกล้ามาเล่นตลกกับเขาเช่นนี้!

ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ในดวงตาของเซียวหมิงฉายแววอำมหิตออกมา เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับฉู่หนิงทันที

“เผิงไหลจวิ้นอ๋องช่างมีเล่ห์เหลี่ยมนัก เรื่องนี้ข้าจะรายงานให้องค์ชายรองทราบแน่นอน!”

พูดจบ เซียวหมิงก็กำเงินไว้แล้วจ้องมองฉู่หนิงอย่างอาฆาตแค้น จากนั้นจึงหันหลังเดินจากไป

สายตาของกวนอวิ๋นพลันเย็นชา เจตนาสังหารทั่วร่างพุ่งขึ้นมาทันที “ท่านอ๋อง จะให้...”

เขาทำท่าทางปาดคอ!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 100

    ฉู่หนิงถือจอกเหล้าแล้วยิ้ม “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ช่วยให้ลูกได้แต่งงานในครั้งนี้”ฮ่องเต้พยักหน้าถือจอกเหล้า “จากนี้ เจ้าต้องดีกับท่านหญิงเสิ่นให้มาก”“เสด็จพ่อวางพระทัย ลูกจะไม่ทำให้หว่านอิ๋งต้องลำบากใจ!”“ดี ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”เมื่อเห็นฉู่หนิงเปลี่ยนกระทั่งสรรพนาม ส่วนเสิ่นหว่านอิ๋งไม่แสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ ฮ่องเต้หัวเราะเสียงดังยกจอกเหล้าในมือขึ้นดื่มจนหมดทว่า ในขณะที่ฉู่หนิงเตรียมดื่มคารวะฮองเฮา กลิ่นหอมโชยมาพร้อมเสียงฝีเท้าอย่างรวดเร็วต่อมา เสียงใสกังวานดังขึ้นด้านหลังเขา “ยินดีกับเผิงไหลจวิ้นอ๋องที่หมั้นหมายสำเร็จแล้ว เหล้าจอกนี้ข้าขอดื่มคารวะเจ้า!”ฉู่หนิงเลิกคิ้ว แม้จะแปลกใจอยู่บ้างที่จ้าวเฟยเยี่ยนเป็นฝ่ายเสนอหน้า แต่ก็หันหลังพร้อมหัวเราะเสียงค่อย“นานทีองค์หญิงแห่งต้าจ้าวจะเดินทางมาต้าฉู่ เหล้าจอกนี้ ข้าดื่มหมดจอก!”พูดจบ ฉู่หนิงดื่มจนหมดในคราวเดียวจ้าวเฟยเยี่ยนมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ยกจอกเหล้าขึ้นดื่มจนหมดในคราวเดียวเช่นกันแม้จะเป็นสตรี แต่ความองอาจบนตัวนางกลับไม่แพ้ชายใดเมื่อดื่มเสร็จ จ้าวเฟยเยี่ยนหันมองเสิ่นหว่านอิ๋ง หยิบกาเหล้ารินเหล้าให้ตัวเองหนึ่งจอก พลางยิ้มแล้ว

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 99

    “ถวายบังคมเสด็จพ่อ ฮองเฮา!”ฉู่หนิงเดินเข้าไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มรถม้าขบวนเสด็จหยุดลง ฮ่องเต้ที่สวมชุดสีเหลืองทองเป็นฝ่ายเดินลงมาก่อนฮ่องเต้เปลี่ยนจากความน่าเกรงขามในยามปกติที่สวมชุดมังกร เป็นรอยยิ้มที่มีเมตตาของบิดาต่อมา หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งที่สวมชุดฝ่ายในสีม่วงเดินลงมาจากรถม้าหลวงอย่างเชื่องช้าแม้รูปโฉมนางจะไม่ได้งดงามมากนัก แต่บนตัวกลับมีพลังของความเป็นแม่แห่งแผ่นดินเผยออกมา!นั่นคือฮองเฮาแห่งต้าฉู่ มารดาแท้ ๆ ของรัชทายาทองค์ปัจจุบัน จูซูเหยา!เมื่อมองฉู่หนิงที่ก้มลงทำความเคารพแวบหนึ่ง ดวงตาฮองเฮามีความแปลกใจแวบผ่านช่วงเวลานี้ นางพอจะได้ยินเรื่องราวการกระทำของฉู่หนิงมาบ้าง แต่รู้ว่าฉู่หนิงกำลังจะไปเป็นตัวตายตัวแทนที่แนวหน้า ดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสนใจฉู่หนิงมากนักหากไม่ใช่เพราะฮ่องเต้เรียนเชิญด้วยพระองค์เอง นางคงไม่มีทางปรากฏตัวในงานหมั้นของฉู่หนิงครั้งแรกที่เห็นฉู่หนิง มองดูใบหน้าที่ละม้ายกับฮ่องเต้อยู่บ้าง ไม่รู้เหตุใด ในใจกลับรู้สึกประหม่าว่าฉู่หนิงจะชิงบัลลังก์กับลูกชายของนางต่อมาเมื่อนึกได้ว่าฉู่หนิงกำลังจะไปแนวหน้า ความกังวลนั้นก็หายเข้าไปในกลีบเมฆขณะ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 98

    เมื่อมองดูใบหน้าของจ้าวเฟยเยี่ยนที่โกรธจนหน้าถมึงทึง เหล่าขุนนางหัวเราะเสียงดัง ต่างเยาะเย้ย“องค์ชายกล่าวถูกต้อง องค์หญิงเฟยเยี่ยนช่างเป็นคนดีเหลือเกิน”“ต้นโสมช่างให้ได้เหมาะเจาะ องค์หญิงเฟยเยี่ยน หากครั้งหน้ายังมีต้นโสมเช่นนี้โปรดส่งมาสักหลายต้น!”“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า องค์ชายรับต้นโสมเอาไว้ ได้ประโยชน์ถึงสองทาง!”“สมแล้วที่เป็นต้าจ้าว มั่งคั่งร่ำรวย รู้ว่ายามนี้องค์ชายต้องการต้นโสม ถึงกับนำมามอบให้เอง ถือเป็นการช่วยเหลือกันในยามยาก!”คำพูดของเหล่าขุนนางราวกระบี่คมกริบ เชือดเฉือนใจจ้าวเฟยเยี่ยนอย่างแรงนางไม่เคยนึกไม่เคยฝัน เจ้าฉู่หนิงกลับนึกถึงเหตุผลที่ไร้ยางอายขนาดนี้ได้นางปรามาสฉู่หนิงเกินไป!จ้าวเฟยเยี่ยนแววตาเย็นเยียบ ความทรงพลังทั่วร่างล่มสลายในวินาทีนี้ ไม่มีความกำเริบเสิบสานเหมือนตอนที่เพิ่งมาถึงจวนอ๋องทว่าขณะนั้น เจ้าฉู่หนิงกลัวหัวเราะ “ทำไมองค์หญิงเฟยเยี่ยนไม่พูดซะแล้วล่ะ? หรือไม่เห็นด้วยกับคำพูดของข้า?”จ้าวเฟยเยี่ยนจ้องมองฉู่หนิงครู่หนึ่ง “นึกไม่ถึงว่าองค์ชายจะพูดจาฉะฉานเช่นนี้ กลับเป็นเฟยเยี่ยนที่ไม่รอบคอบ ทว่า วันนี้เป็นวันมหามงคลขององค์ชาย เฟยเยี่ยนไม่ขอโดดเด่นเก

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 97

    ต้นโสมสามร้อยปีหนึ่งต้นทำให้ฉู่หนิงจมสู่ห้วงความคิดทว่าขณะนั้น นอกจวนอ๋องดันมีเสียงฝีเท้าม้าดังขึ้น ขุนนางมากมายต่างทยอยมาถึงแล้วพิธีกรที่เดิมทียืนอยู่หน้าประตูเตรียมเรียกขานสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เข้ามากระซิบข้างกายฉู่หนิง “องค์ชาย ใกล้ถึงฤกษ์ดีแล้ว เหล่าขุนนางในราชสำนักมาแล้วขอรับ”ฉู่หนิงขมวดคิ้ว เงยหน้ามองไปที่ถนน พบว่ามีขุนนางมากมายบ้างก็ขี่ม้า บ้างก็นั่งเกี้ยวกำลังมุ่งหน้ามาทางจวนอ๋องหากยังมัวร่ำไรอยู่กับจ้าวเฟยเยี่ยน รอให้ทุกคนมาถึง กลับกลายเป็นที่ขบขันของทุกคนระหว่างครุ่นคิด มุมปากจ้าวเฟยเยี่ยนยกขึ้นเล็กน้อย จนเป็นองศาที่น่าตะลึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกละสิ?เหงื่อคงเต็มแผ่นหลังสินะ!ใครใช้ให้เจ้าเป็นอริกับข้า!วันนี้ ข้าจะทำให้เจ้าอับอายขายหน้าต่อหน้าธารกำนัลฮึ กล้าปฏิเสธองค์หญิงอย่างข้า ข้าจะให้เจ้าได้เห็นดีกัน!“แค่โสมต้นเดียวก็ทำให้จวิ้นอ๋องลำบากใจเพียงนี้เชียวหรือ?”จ้าวเฟยเยี่ยนขยับริมฝีปากแดงแผ่วเบา เหลือบมองร่างกายท่อนล่างของฉู่หนิง หัวเราะกล่าวว่า “หรือองค์ชายมีความลำบากที่ยากจะเอื้อยเอ่ย?”คำพูดประโยคหลัง นางเน้นย้ำเป็นพิเศษ!ฉู่หนิงเลิกคิ้ว “องค์หญิงเฟ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 96

    กลับเป็นเสิ่นหว่านอิ๋งที่มองฉู่หนิงอย่างขอโทษ จากนั้นจึงคล้องแขนมารดาตัวเองเข้าไปพร้อมกันฉู่หนิงลูบจมูกตัวเอง แล้วหัวเราะเจื่อน กลับไม่ได้ซักไซ้อะไรให้มากความ อย่างไรวันนี้เป้าหมายของเขาคือของขวัญของเหล่าองค์ชายและขุนนาง ท่าทีที่เสิ่นฮูหยินมีต่อเขาไม่ใช่เรื่องสำคัญ“ดูแลเสิ่นฮูหยินกับท่านหญิงให้ดี ข้าจะไปต้อนรับทุกคนที่หน้าประตูด้วยตนเอง!”ฉู่หนิงสั่งการเสร็จสรรพ จึงได้พากวนอวิ๋นและจ้าวอวี่สองคนเดินไปต้อนรับหน้าประตูจวนภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป แขกที่มาร่วมงานคนแรกปรากฏตัวแล้วคนผู้นั้นอยู่ในชุดทะมัดทะแมงสีน้ำเงิน ผมยาวถักเปียเป็นเส้นเล็กมากมาย ปล่อยสยายอยู่บนบ่าและแผ่นหลังดวงตาสดใสมีชีวิตชีวาคู่นั้น เข้าคู่กับใบหน้าที่มีรอยยิ้มจาง ๆ หากไม่ใช่จ้าวเฟยเยี่ยนองค์หญิงสิบแห่งต้าจ้าวจะเป็นใครได้อีก!ฉู่หนิงอึ้งไปชั่วขณะ นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมาถึงเป็นคนแรกส่วนกวนอวิ๋นกับจ้าวอวี่สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เคลื่อนฝีเท้าไปข้างกายฉู่หนิง หากอีกฝ่ายกล้าก่อเรื่อง พวกเขาไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่!”“ขอแสดงความยินดีกับเผิงไหลจวิ้นอ๋องที่หมั้นหมายในวันนี้ ข้ามาด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่าจวิ้นอ๋องคงไม่อย

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 95

    “อะไรนะ ฉู่หนิงเอาเรื่องที่เรากับฮองเฮาจะไปร่วมงานหมั้นของเขาไปเผยแพร่หรือ?”คืนนั้น ภายในตำหนักอิงอู่ของวังหลวงเสียงประหลาดใจของฮ่องเต้ดังขึ้นมาองครักษ์เงาภายในตำหนักเอ่ยด้วยความเคารพว่า “เรื่องนี้แพร่กระจายในเมืองแล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายทั้งหมดกับขุนนางใหญ่ได้ยินข่าวนี้ก็กำลังเปลี่ยนของขวัญที่เตรียมไว้แต่เดิมกันแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้ตาเป็นประกายขึ้นมา ทำหน้าเข้าใจทันทีที่แท้ฉู่หนิงทำเพื่อของขวัญแสดงความยินดีที่คนเหล่านี้มอบให้ถึงแม้ว่าเดิมทีอยากเก็บเรื่องเข้าร่วมงานนี้ไว้อย่างเงียบ ๆ ข่มขวัญพวกคนที่อยากจะก่อความวุ่นวายในงานหมั้นเพื่อหนุนหลังฉู่หนิง แต่ในเมื่อฉู่หนิงอยากให้เอิกเกริก เช่นนั้นก็เอาให้เอิกเกริกไปเลยถึงอย่างไรของขวัญแสดงความยินดีที่ฉู่หนิงได้รับพวกนั้นก็ไม่อาจเก็บไว้ได้อยู่ดี ถูกนำไปใช้ในแนวหน้ามากกว่าครึ่งว่าไปแล้วนี่ก็เป็นเรื่องดีสำหรับต้าฉู่เหมือนกัน“ในเมื่อเรื่องแพร่ไปแล้ว เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังแล้ว จ้าวหมิง เจ้าให้กรมวังไปเตรียมราชรถสำหรับอีกสองวันข้างหน้า” “กระหม่อมน้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ!” จ้าวหมิงรับคำแล้วไปเตรียมการทันทีต่อมา ฮ่องเต้ก็เผยส

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status