ในจวนปลัดอำเภอเมืองตุนโจว เช้าวันหนึ่งที่อากาศเย็นแต่ไม่ถึงกับหนาว โจวจิงหยูนั่งอยู่ในเรือนกลาง ลมหอบบางๆ พัดชายม่านผืนบางให้พลิ้วไหว แต่มิอาจทำให้อารมณ์ขุ่นเคืองของนางจางลงได้
บนโต๊ะไม้ฝังลายมุกตรงหน้า นางวางกระดาษแผ่นหนึ่งที่เพิ่งอ่านจบ เป็นข่าวจากเมืองหลวง กล่าวถึงพิธีสมรสอันยิ่งใหญ่ของ “เผิงโหว” ผู้ได้รับพระราชทานสมรสจากฮ่องเต้ และเจ้าสาวผู้ได้เป็นถึง ฮูหยินขั้นสองแห่งจวนโหว
ใบหน้างดงามแต่เฉี่ยวคมของโจวจิงหยูบึ้งตึง ขณะที่นิ้วเรียวยังคงกำแน่นกับพัดในมือ เสียงพัดกระทบโต๊ะเป็นจังหวะ ขณะที่นางหรี่ตาลงแล้วเอ่ยเสียงเย็น
“หึ ในที่สุดก็ได้ขึ้นแท่นฮูหยินสมบูรณ์แบบ สมกับที่วางหมากมาดี”
เสียงฝีเท้าดังขึ้นช้าๆ ก่อนที่สามีของนางซ่งจื่ออวี้ จะเดินเข้ามาในห้อง สีหน้าชายหนุ่มเรียบนิ่ง แต่แฝงด้วยความไม่พอใจ เขาเดินตรงเข้ามาหานาง แล้วเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา
“เจ้าจะโมโหเรื่องเผิงเหยียนเฉิงอีกทำไม ในเมื่อเจ้าก็เป็นภรรยาข้าแล้ว”
โจวจิงหยูเชิดหน้าเล็กน้อย กล่าวเสียงห้วน
“ข้ามิได้โมโหเพราะคิดถึงเขา”
&l
กลางดึกคืนนั้น ภายในห้องหนังสือของจวนเผิงโหว ไฟตะเกียงส่องสว่างเพียงริบหรี่ เสียงพู่กันจุ่มหมึกและลากผ่านกระดาษอย่างมั่นคงแต่เร่งรีบ เผิงเหยียนเฉิงนั่งอยู่หน้าตั่งไม้หอม ใบหน้าเคร่งขรึมดั่งผู้แบกรับภาระของบ้านเมืองไว้บนบ่ารายงานฉบับล่าสุดจากตุนโจววางกางอยู่ข้างจดหมายฉบับใหม่ที่เขากำลังเขียน มุมกระดาษสั่นไหวเล็กน้อยจากลมยามค่ำ ทว่ามือของเขากลับไม่สั่นเลยแม้แต่น้อย[ เรียนท่านแม่อันเหม่ยฉินข้ามีเรื่องเร่งด่วนจำต้องรบกวนท่าน ขออภัยที่จดหมายนี้มิใช่เพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ แต่เพราะข้ามิอาจรอเวลาได้อีกข้าได้รับรายงานว่ามีโรคประหลาดระบาดในเมืองตุนโจว ลักษณะคล้ายไข้ร้อนแรง ผิวมีจุดคล้ำ หายใจติดขัด หากท่านพอจะมีตำรับสมุนไพร หรือเคยพบลักษณะโรคในอดีต ขอความกรุณาช่วยชี้แนะ ข้าจะให้คนไปนำตัวอย่างมาส่งให้หากจำเป็นข้ารู้ว่าเวลานี้ทุกวันคือชีวิตของผู้คน ขอท่านเมตตาเผิงเหยียนเฉิง ] เขาเขียนชื่อตนลงท้ายด้วยหมึกหนักแน่น พลันเรียกอาหมิงเข้ามา“
ในห้องทำงานของปลัดอำเภอตุนโจว ซ่งจื่ออวี้ยืนก้มหน้าอยู่เหนือแผนที่ของเมืองตุนโจว รายงานการเจ็บป่วยถูกวางเรียงไว้รอบตัว“จำนวนผู้ป่วยเพิ่มอีกหกรายในหมู่บ้านซูเหนียน หากยังเป็นเช่นนี้ ภายในไม่กี่วัน เราอาจต้องส่งข่าวไปยังเมืองหลวง...” เขาพึมพำกับตัวเอง สีหน้าหนักใจขณะที่เขากำลังไตร่ตรอง โจวจิงหยูก็เดินเข้ามาอย่างสง่างาม เสียงส้นรองเท้าสะท้อนเบา ๆ กับพื้นไม้“ท่านกำลังจะส่งข่าวไปรายงานหรือ”ซ่งจื่ออวี้เงยหน้าขึ้น “ข้าคิดว่าเราเริ่มไม่สามารถควบคุมได้แล้ว...หากไม่ระวัง อาจลามไปถึงเมืองใกล้เคียง”โจวจิงหยูมองเขาด้วยดวงตานิ่งลึก ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “ท่านลืมแล้วหรือ ว่าเราเริ่มต้นเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อให้ท่านได้แสดงความสามารถ”ซ่งจื่ออวี้ชะงัก“หากตอนนี้ท่านเร่งควบคุมโรค แล้วรายงานความสำเร็จไปที่เมืองหลวง ย่อมมีรางวัลตอบแทนไม่มากนัก เพราะโรคนี้ยังไม่ถูกมองว่าร้ายแรงพอ” นางกล่าวขณะเดินวนไปรอบ ๆ เขา“แต่หากปล่อยให้แพร่กระจายเพียงเล็กน้อยไปยังอีกสองสามหมู่บ้าน แล้วท่านค่อยแ
หมู่บ้านท้ายเมืองตุนโจวท้องฟ้าตอนเย็นมืดครึ้ม แดดร้อนคล้ายจะแผดเผาแม้ไม่แรง พื้นดินแล้งแห้งแตก บ้านเรือนหลังเล็ก ๆ ของหมู่บ้านท้ายเมืองยังคงปิดเงียบ แทบไม่มีใครเดินไปมากลิ่นยาขมตลบอบอวล คนเจ็บที่เริ่มมีอาการถูกกักรวมไว้ในศาลเจ้าร้าง มีเพียงชายฉกรรจ์ไม่กี่คนที่แต่งกายคลุมหน้าคล้ายทหารเงา คอยควบคุมไม่ให้ผู้ป่วยออกจากเขตโจวจิงหยูยืนอยู่ใต้ต้นท้อเก่าแก่บนเนินเขา ไม่ไกลจากศาลเจ้า เงามืดจากหมวกผ้าแพรปิดบังใบหน้านาง แต่แววตาใต้เงานั้นเปล่งประกายด้วยความมั่นใจซ่งจื่ออวี้เดินเข้ามาหานางหลังจากตรวจดูพื้นที่รอบนอก“คนเจ็บเพิ่มอีกห้าราย อาการยังไม่ถึงตาย แต่ก็ไม่น่าไว้วางใจนัก” เขาพูดเสียงเรียบ“ดี” โจวจิงหยูพึมพำเบา ๆ แล้วหันมามองสามี“แต่ก็ยังต้องควบคุมไว้ในหมู่บ้านนี้เท่านั้น เข้าใจหรือไม่”ซ่งจื่ออวี้นิ่งไปนิด ก่อนเอ่ยอย่างไม่แน่ใจ “เจ้าแน่ใจหรือว่าวิธีนี้จะทำให้ข้าก้าวหน้าได้จริง”“แน่ใจ” เสียงนางแน่นิ่ง ดวงตาทอแววแหลมคม “หากเกิดโรคขึ้น แล้วท่านควบคุมได้ ก็จะ
เมืองหลวง จวนโหวเผิงในห้องนอนหลักของจวนโหว ลู่ซือหนานนั่งอยู่หน้ากระจกทองเหลือง ชายผ้าคลุมไหล่ผืนบางลู่ไปตามสายลม เสี่ยวหลานกำลังหวีผมให้นางช้า ๆ อย่างทะนุถนอม“ฮูหยินยิ้มอีกแล้วเจ้าค่ะ ฝันดีหรือเจ้าคะ” เสี่ยวหลานเอ่ยเย้าลู่ซือหนานเงยหน้าขึ้นสบตาตัวเองในกระจก แววตาของหญิงสาวที่ผ่านเรื่องราวมากมายกลับนุ่มนวลอย่างน่าประหลาด“ไม่ได้ฝัน... แต่เมื่อคืนเขาเล่าเรื่องตลกให้ฟัง” น้ำเสียงนางอบอุ่น นึกถึงใบหน้าของเผิงเหยียนเฉิงที่มักทำท่าขึงขังแต่แฝงรอยขี้เล่นเวลาสองต่อสอง ทำให้นางไม่กดดันที่จากบ้านเดิมมาอยู่ที่นี่หลังแต่งงาน ทั้งคู่มีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่น่าประทับใจ แม้จะต่างมีภาระงานมาก แต่ทุกเช้าหากไม่มีราชการเร่งด่วน เผิงเหยียนเฉิงจะร่วมโต๊ะอาหารกับภรรยาเสมอเช้านี้ก็เช่นกันเผิงเหยียนเฉิงในชุดเต็มยศสีเข้ม เดินเข้ามาในเรือนพร้อมรอยยิ้ม“เจ้าตื่นแต่เช้าอีกตามเคย ข้าเพิ่งให้ห้องครัวต้มน้ำขิง อากาศเช้านี้เย็นไปนิด”นางหันไปต้อนรับ ยื่นมือไปจับชายแขนเสื้อเขาเบา ๆ “ข้ายังติดนิสัยตื่นเช้าจากตอน
ในเช้าวันหนึ่งที่อากาศเย็นจัดผิดฤดู โจวจิงหยูสวมอาภรณ์เนื้อดีคลุมด้วยเสื้อนอกบุผ้าขนสัตว์สีเข้ม ยืนอยู่บนศาลาริมเนินเขาเล็กๆ ทางด้านตะวันตกของเมืองตุนโจว เบื้องหน้าเป็นภาพทุ่งหญ้าแห้งกรังและหมู่บ้านเล็กๆ ที่ห่างไกลจากตัวเมืองข้างกายนางคือเสี่ยวหนิว สาวใช้คนสนิทผู้ไม่เคยขัดคำสั่ง“หมู่บ้านตีนเขาซื่อเจีย มีชาวบ้านอยู่ไม่ถึงห้าสิบคน อยู่ห่างจากตุนโจวพอสมควร ไม่มีใครไปมาเท่าใด” เสี่ยวหนิวรายงานเสียงเรียบ โจวจิงหยูพยักหน้าเบา ๆ“ดี...เลือกคนที่อาการยังไม่หนักนัก แต่มีเชื้อชัดเจน พอให้แพร่กระจายได้”นางส่งสายตาให้กับบุรุษในชุดคลุมดำซึ่งยืนรออยู่ห่างออกไป คนผู้นี้เป็นอดีตทหารรับจ้างของสกุลโจว ที่โจวจิงหยูใช้เป็นเงามืดลอบทำงานไม่เปิดเผย“จงออกเดินทางทันที ไปยังหมู่บ้านซ่างเจิ้นในเขตอวิ๋นหลิง ทางนั้นมีรายงานโรคระบาดในฤดูที่แล้ว ค้นหาคนที่ยังมีอาการ แล้วจงนำตัวกลับมา กักไว้ในกระท่อมท้ายหมู่บ้านซื่อเจีย”ชายผู้นั้นก้มศีรษะรับคำสั่งแล้วหายลับไปในเส้นทางลาดเขาเสี่ยวหนิวเอ่ยเบาๆ ขณะยื่นแผนที่เล็กๆ ที่ขีดเส้นไว้
ณ จวนโหว เมืองหลวงหลังพิธีแต่งงานอันยิ่งใหญ่ผ่านพ้นไปเพียงไม่กี่วัน จวนโหวก็กลับเข้าสู่บรรยากาศสงบสุข แต่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นและเบิกบานบรรยากาศในจวนโหวเผิงเต็มไปด้วยความอบอุ่นและบรรยากาศแห่งความสุข ลู่ซือหนานปรับตัวเข้ากับบทบาทฮูหยินของจวนโหวได้อย่างงดงาม นางจัดระเบียบภายในอย่างเรียบร้อย ดูแลบ่าวไพร่ด้วยความเมตตาแต่เด็ดขาดส่วนเผิงเหยียนเฉิงเมื่อออกจากจวนก็ปฏิบัติหน้าที่ในราชสำนักอย่างเต็มความสามารถ กลับถึงเรือนยามใดก็จะมีรอยยิ้มเมื่อนางอยู่ตรงหน้าทุกค่ำคืนที่จวนโหว เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอ่อนหวานของนางเอกและเสียงพูดคุยเบาๆ ของสามีภรรยา ทั้งสองมักร่วมโต๊ะอาหาร พูดคุยเรื่องราษฎร์เรื่องหลวง บางคืนเผิงเหยียนเฉิงก็พานางเอกออกไปเดินชมสวนในยามจันทร์สว่าง คล้ายทุกอย่างจะราบรื่นไร้สิ่งใดให้กังวลเสี่ยวหลานในฐานะสาวใช้คนสนิท ก็มีหน้าที่แน่นอนในจวนใหม่ ได้แต่งชุดบ่าวของจวนโหวอย่างภาคภูมิใจ คอยดูแลคุณหนูของตนอย่างใกล้ชิดไม่เปลี่ยนวันนี้ ลู่ซือหนานตื่นแต่เช้า นางสวมผ้าไหมเรียบหรูสีอ่อนผูกปมเรียบง่าย คลุมเส้นผมด้วยปิ่นหยกที่เผิงเหยียนเฉิงให้เป็นของขวั