หลิวซินเยว่ตัวประกอบในนิยายดันดวงซวยมีอะไรกับตัวร้ายที่ถูกวางยาปลุกกำหนัดจนเจ้าตัวสิ้นชีพวิญญาณสายลับสาวดันเข้ามาสิงร่างเธอในจังหวะ'กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม'พอดี เธอต้องหาทางรอดจากสถานการณ์บ้าๆนี้ให้ได้
View Moreปี 2024 เมืองเซี่ยงไฮ้
สายฝนเดือนมิถุนายนยังคงโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย เสียงกระทบของเม็ดฝนบนหลังคาสังกะสีดังระรัวราวกับเสียงกลองรบ บรรยากาศในตรอกแคบแห่งหนึ่งของเซี่ยงไฮ้ช่างอึมครึมและเหนียวหนะ รถราที่วิ่งผ่านไปมาสาดน้ำขุ่น ๆ ขึ้นมาบนทางเท้า ใต้แสงไฟนีออนสลัว ๆ ของบาร์แห่งหนึ่ง หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงเพลิงกำลังยืนกลาง ใบหน้าของเธอสวยคมภายใต้เครื่องสำอางจัดจ้าน ดวงตาคู่คมกริบนั้นฉายแววเฉียบแหลม
หลิวซินเยว่คือสายลับสายฝีมือดีของกรมตำรวจ เธอเชี่ยวชาญทั้งการต่อสู้ การปลอมตัว และการสืบสวน ภายใต้ใบหน้าอันงดงามนั้นซ่อนความสามารถในการสังเกตและวิเคราะห์ที่เฉียบแหลม เธอสามารถอ่านความคิดของคนผ่านแววตาและกิริยาท่าทาง
ชีวิตของหญิงสาวไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เธอเป็นเด็กกำพร้าที่ต้องเผชิญกับความโหดร้ายของโลกตั้งแต่ยังเยาว์วัย พ่อแม่ของเธอถูกคนเมายาบ้าฆ่าตาย ทำให้เธอต้องระหกระเหินเข้าไปอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ
แม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่หลิวซินเยว่ก็ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา เธอฝึกฝนตัวเองอย่างหนักทั้งบุ๋นและบู๊ จนกลายเป็นสายลับฝีมือดีที่สุดคนหนึ่งของกรมตำรวจ
ในยามว่างจากภารกิจเสี่ยงตาย หลิวซินเยว่มักจะใช้เวลาอยู่กับงานอดิเรกที่เธอโปรดปราน นั่นคือการอ่านนิยาย เธอหลงใหลไปกับโลกแห่งจินตนาการอันกว้างใหญ่ ที่ซึ่งความฝันและความหวังยังคงมีอยู่จริง
บางที... การได้หลีกหนีไปอยู่ในโลกของนิยาย อาจเป็นวิธีเดียวที่ทำให้เธอลืมความโหดร้ายของโลกใบนี้ได้
ภารกิจในค่ำคืนนี้ของเธอคือการแทรกซึมเข้าไปในแก๊ง "มังกรดำ" แก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่แฝงตัวอยู่ในบาร์แห่งนี้ หลิวซินเยว่ต้องสืบหาเบื้องหลังของหัวหน้าแก๊ง รวบรวมหลักฐาน และส่งสัญญาณให้กับทีมตำรวจเพื่อเข้าจับกุม ตอนนี้เธอไว้วางเครื่องดักฟังไว้ในห้องที่ไอ้เฉินจินหลงใช้งานอยู่เป็นประจำ
"เยว่เยว่ เธอแน่ใจเหรอว่าจะเข้าไปสืบข้อมูลเฉินจินหลง พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่" เสียงทุ้มต่ำของหลี่เจี้ยนดังขึ้นข้างๆ เขาเป็นตำรวจหนุ่มไฟแรง รูปหล่อ และมีฝีมือไม่เป็นรองใคร ที่ร่วมปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายในครั้งนี้ด้วย
หลิวซินเยว่หันมายิ้มบางๆ ให้หลี่เจี้ยน "ไม่เป็นไรหรอกน่า พี่เจี้ยนก็รู้ฝีมือของฉันดี ฉันสามารถเอาตัวรอดได้ค่ะ เดี๋ยวเสร็จจากงานนี้แล้วฉันจะไม่รับงานเสี่ยงๆ อีกจะนอนอ่านนิยายชิวชิวอยู่ที่บ้าน ดีไหมคะ"
"แต่ว่า..." หลี่เจี้ยนยังคงเป็นห่วง
หลิวซินเยว่จับมือหลี่เจี้ยนเบาๆ "ไม่มีแต่ พี่ก็รู้ว่าภารกิจครั้งนี้สำคัญแค่ไหน เราต้องจับไอ้ตัวการใหญ่พ่อค้ายาเสพติดให้ได้" น้ำเสียงของเธอหนักแน่นขึ้น "ฉันไม่อยากให้มีใครต้องตกเป็นเหยื่อของมันอีก เพราะยาเสพติดพวกนี้..ถึงทำให้ฉันต้องกลายมาเป็นเด็กกำพร้า"
หลี่เจี้ยนมองลึกเข้าไปในดวงตาของหลิวซินเยว่ เขาเห็นความเจ็บปวด ความแค้น และความมุ่งมั่นอันแรงกล้า ชายหนุ่มถอนหายใจ "ก็ได้ แต่น้องต้องระวังตัวด้วยนะ มีอะไรให้ส่งสัญญาณทันที พี่จะเข้าไปช่วย"
หลิวซินเยว่พยักหน้ารับ "ค่ะ " เธอส่งยิ้มให้หลี่เจี้ยนเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะผละมือจากคนรักแล้วเดินเข้าไปในบาร์ เมื่อหญิงสาวเดินหายเข้าไปในบาร์ใบหน้าที่เคยอบอุ่นของชายหนุ่มแปลเปลี่ยนเป็นเย็นชา ชายหนุ่มกดโทรศัพท์มือถือโทรไปหาคนๆ หนึ่ง
"นี่หลี่เจี้ยน แกโทรมาทำไมวะ เดี๋ยวก็ถูกพวกตำรวจจับได้หรอก? " เสียงเข้มๆ ของเฉินจินหลงดังขึ้นจากปลายสาย
"นายครับ นังหลิวซินเยว่มันเข้ามาในบาร์แล้วมันปลอมตัวมาเพื่อสืบหาข้อมูลว่าใครอยู่เบื้องหลังขบวนการค้ายาเสพติดครับนาย" หลี่เจี้ยนรีบรายงาน
"หึ ในที่สุดมันก็โผล่หัวมาจนได้" เฉินจินหลงหัวเราะในลำคอ "คราวนี้แหละ กูจะจัดการมันให้สิ้นซาก"
"แต่คราวนี้มันไม่เหมือนทุกครั้งนะนาย" หลี่เจี้ยนพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน "ผมรู้สึกสังหรณ์ใจยังไงชอบกล"
"เอาน่า ไม่ต้องกลัวไปหรอกน่า แค่ยัยตำรวจกระจอกคนเดียว แก๊งของพวกเรารับมือได้สบายมาก"
"ครับนาย" หลี่เจี้ยนตอบรับ
แต่ในใจเขากลับเต็มไปด้วยความกังวล ครั้งนี้หลิวซินเยว่ดูเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน... หรือว่าเธอจะมีแผนอะไรซ่อนอยู่?
ทันใดนั้น เสียง "ซ่า..." เบาๆ ก็แว่วเข้ามาในโสตประสาทอันเฉียบคมของหลี่เจี้ยน ราวกับเสียงของเครื่องดักฟัง เขาเงียบนิ่งไปในทันที
"มีอะไรเหรอ?" หัวหน้าแก๊งเอ่ยถามอย่างสงสัย
หลี่เจี้ยนส่ายหน้า "เปล่าครับ ผมแค่รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ เหมือนกับบริเวณที่เจ้านายอยู่จะติดเครื่องดักฟังไว้"
"แย่แล้ว...เจ้านายครับนังหลิวซินเยว่น่าจะติดเครื่องดักฟังไว้"
….
ทางด้านหลิวซินเยว่เมื่อเธอเดินเข้ามาในบาร์ เสียงเพลงดังกระหึ่มแทรกผ่านม่านควันบุหรี่หนา หลิวซินเยว่ในชุดเดรสแดงเพลิงสะดุดตา นั่งจิบไวน์แดงอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ ดวงตาคมกริบกวาดมองรอบๆ อย่างระแวดระวัง เป้าหมายของเธอในค่ำคืนนี้คือ เฉินจินหลง เจ้าพ่อค้ายาเสพติดข้ามชาติที่ทางการต้องการตัวมานาน
"ขอเบียร์เย็นๆ สักแก้ว" เสียงทุ้มดังขึ้นข้างๆ หลิวซินเยว่หันไปมอง ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำ ใบหน้าคมคาย ดวงตาเป็นประกาย หลิวซินเยว่แอบประเมินเขาในใจ ดูท่าทางแล้วน่าจะเป็นพวกขี้ยาหรือลูกน้องเฉินจินหลง
"ค่ะ" หลิวซินเยว่ส่งยิ้มหวานให้บาร์เทนเดอร์ สายตายังคงจับจ้องไปที่ชายหนุ่มคนนั้น เขาสั่งเบียร์เสร็จก็เดินเลี่ยงไปมุมมืดของบาร์ หลิวซินเยว่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู สัญญาณที่เธอดักฟังจากมือถือของเฉินจินหลงยังเงียบอยู่
ทันใดนั้นโทรศัพท์ในมือเธอก็ดังขึ้น เป็นสัญญาณเตือนว่าเฉินจินหลงรับโทรศัพท์กำลังติดต่อใครบางคน หลิวซินเยว่รีบกดรับสาย แสร้งทำเป็นคุยโทรศัพท์ สายตาเหลือบมองไปที่ชายหนุ่ม เขาทำท่าทีสนใจฟังเธอคุยโทรศัพท์
".... ได้สิ ฉันอยู่ที่บาร์... ใช่ๆ เดี๋ยวฉันรอ..." หลิวซินเยว่พูดเสียงดัง แอบกดปุ่มบันทึกเสียงสนทนาไปด้วย ปลายสายคือเสียงของเฉินจินหลง กำลังคุยกับชายคนหนึ่ง แล้วเธอก็ต้องตกตะลึงเมื่อคนที่อยู่ปลายสายคือชายคนรักของเธอ
หญิงสาวกำโทรศัพท์แน่น ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ น้ำตาเอ่อคลอเบ้า เธอไม่เคยคิดเลยว่าหลี่เจี้ยน คนที่เธอรักและไว้ใจที่สุด จะทรยศเธอได้ลงคอ
หลังจากแอบฟังเสร็จเธอก็รีบวางสายทันที ความรู้สึกสับสน เสียใจ และโกรธแค้น ประดังประเดเข้ามาในหัว เธอต้องหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดตอนนี้หลี่เจี้ยนมันรู้ตัวแล้วว่าเธอติดเครื่องดักฟังเอาไว้
เสียงฝนเริ่มตกหนัก หลิวซินเยว่รีบวิ่งฝ่าสายฝนออกจากบาร์ เฉินจินหลงเมื่อรู้ตัวว่าถูกดักฟังโทรศัพท์เขา รีบสั่งให้คนตามล่าเธอพร้อมกับลูกน้อง เสียงปืนดังขึ้น ท่ามกลางความมืดและสายฝน หลิวซินเยว่ต้องเอาชีวิตรอดจากการไล่ล่าของเหล่าคนร้าย
"หยุดนะ หลิวซินเยว่" เสียงตวาดของหลี่เจี้ยนดังก้องกังวาน พร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่พุ่งเข้ามาประชิดตัว ในมือของเขาถือปืนพกเล็งมาที่เธอ ดวงตาที่เคยอบอุ่น บัดนี้เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม "แกมันแสบมากนะที่ดักฟังโทรศัพท์ของฉัน แกชักจะรู้มากเกินไปแล้ว "
หลิวซินเยว่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอไม่อยากจะเชื่อ ว่าชายคนรักจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ น้ำตาแห่งความเสียใจ ผิดหวัง และเจ็บแค้น เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตา ปะปนกับสายฝนที่สาดซัดใบหน้า
"ทำไม...พี่เจี้ยน...ทำไม" เธอเอ่ยถามเสียงสั่นเครือ
"หุบปากซะ" หลี่เจี้ยนคำราม "แกมันโง่เอง ที่ไว้ใจฉันมากเกินไป"
ปัง เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว ปลอกกระสุนร้อน ๆ กระเด็นออกจากลำกล้อง
หลิวซินเยว่ทรุดลงกับพื้น แรงกายที่มีเริ่มโรยรา บาดแผลจากคมกระสุนที่ไหล่ซ้ายส่งผลให้เลือดไหลออกมามาก แต่บาดแผลทางกายนั้นเทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดในใจ ความรู้สึกผิดหวัง เสียใจ และโดดเดี่ยว ประดังประเดเข้ามาจนแทบหยุดหายใจ
"ทำไม...พี่เจี้ยน ทำไมต้องทำแบบนี้" หลิวซินเยว่กัดฟันถาม น้ำตาเธอไหลอาบแก้ม ปะปนไปกับสายฝน
หลี่เจี้ยนแสยะยิ้ม ดวงตาที่เคยอบอุ่น บัดนี้กลับเต็มไปด้วยความเหี้ยมเกรียม "ฮ่าๆๆ ก็เพราะเธอมันโง่ไง หลิวซินเยว่ ฉันไม่เคยรักเธอเลยสักนิด เธอมันก็แค่เครื่องมือ แค่หมากตัวหนึ่งในแผนการของฉันเท่านั้น"
"แผนการอะไร ทำไมพี่ถึงต้องไปช่วยเฉินจินหลงพ่อค้ายาเสพติดนั่นด้วย" หลิวซินเยว่เอ่ยถาม พยายามรวบรวมแรงเฮือกสุดท้าย
"เธอไม่จำเป็นต้องรู้หรอก รู้แค่ว่าเธอต้องตายก็พอ" หลี่เจี้ยนยกปืนขึ้นเล็งไปที่หลิวซินเยว่
ในวินาทีนั้นเอง ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ความทรงจำอันแสนหวานที่เคยมีร่วมกัน ไหลเข้ามาในหัวของหลิวซินเยว่ เธอเคยรักหลี่เจี้ยนมากแค่ไหน ไว้ใจเขามากเพียงใด แต่สุดท้ายเขาก็ทรยศเธอ
"พี่เจี้ยน...พี่มันเลว" หลิวซินเยว่ตะโกน เสียงของเธอแหบพร่า แต่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
หลี่เจี้ยนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง "ใช่ ฉันมันเลว แล้วเธอจะทำไม" เขากดไกปืน
"ปัง" เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวท่ามกลางสายฝน ร่างของหลิวซินเยว่ล้มลงนอนแน่นิ่ง ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ ความรู้สึกสุดท้ายที่หลิวซินเยว่สัมผัสได้คือความหนาวเหน็บ และความว่างเปล่า
เสียงประทัดดังสนั่นหวั่นไหว บอกให้คนเมืองหลวงรับรู้ว่าวันนี้เป็นวันมงคลสมรสของตระกูลหวัง งานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี กำลังจะเริ่มต้นขึ้นภายในห้องโถงใหญ่ แขกเหรื่อมากมายต่างทยอยเดินทางมาร่วมแสดงความยินดี ในที่สุดวันนี้ วันที่หวังหย่งเจี๋ยเฝ้ารอคอยก็มาถึง หลังจากที่เขาต้องอดทนรอให้หลิวซินเยว่ คนรักของตนเรียนจบมหาวิทยาลัยตลอดหนึ่งปีเต็ม วันนี้เขาจะได้แต่งงานกับผู้หญิงที่เขารักที่สุดเสียทีหวังหย่งเจี๋ยในชุดสูทสีดำดูที่ดูหล่อเหลา เขานั่งรอเจ้าสาวอย่างใจจดใจจ่อ เสียงประตูห้องแต่งตัวเปิดออก หวังหย่งเจี๋ยที่ยืนรออยู่ด้านนอกแทบหยุดหายใจ หัวใจเต้นโครมครามอยู่ในอก เสียงฝีเท้าของหญิงสาวที่เขารักดังใกล้เข้ามาทุกขณะ ก่อนที่ดวงตาคมจะเบิกกว้างเมื่อเห็นเจ้าสาวของเขาหลิวซินเยว่ในชุดเจ้าสาวสีแดงสดปักลวดลายด้วยดิ้นเงินระยิบระยับเข้ารูปกับเรือนร่างอรชร ใบหน้างดงามแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบาแต่ขับเน้นให้ดวงตากลมโตดูสดใสเป็นประกาย ริมฝีปากอิ่มทาด้วยลิปสติกสีแดงสดตัดกับผิวขาวผ่องราวกับหยกชั้นดี ยิ่งขับให้เธอดูงดงามราวกับนางฟ้า เธอเดินออกมาพร้อมหลี่เหมยฮัวเพื่อนสนิทของเ
พิธีหมั้นดำเนินไปอย่างราบรื่น หลังเสร็จสิ้นพิธี หลี่เหมยฮัวและซุนเจ๋อคู่สามีภรรยาผู้เป็นเพื่อนสนิทของหลิวซินเยว่ ก็เข้ามาแสดงความยินดีหลิวซินเยว่ เข้ามาทักทายคนมี้งคู่ทันที "เหมยฮัว ดีใจจังที่มาได้" เธอกอดคุณนางเอกไว้แน่น"เยว่เยว่ ยินดีด้วยนะ วันนี้เธอสวยมาก" เหมยฮัวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม"ขอบคุณนะเหมยฮัว" เธอกล่าวขอบคุณ สายตาเหลือบไปเห็นหน้าท้องที่เริ่มใหญ่ขึ้นของคุณนางเอก"เหมยฮัว เธอเป็นอย่างไรบ้าง แพ้ท้องบ้างหรือเปล่า" หลิวซินเยว่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง"นิดหน่อยนะ ช่วงนี้ฉันแทบทานอะไรไม่ได้เลย"คนเป็นแม่หมาดๆ เอ่ยตอบ"ถ้าเธอไม่สบาย ไม่ต้องบังคับตัวเองมางานหมั้นฉันก็ได้นะ" หลิวซินเยว่กล่าว"ฉันจะไม่มางานหมั้นเพื่อนสนิทของฉันได้อย่างไร" เหมยฮัวตอบกลับด้วยรอยยิ้มสดใส แม้ใบหน้าจะซีดเซียวเล็กน้อยจากอาการแพ้ท้อง"แล้วตอนนี้เธอรู้หรือยังว่าได้ลูกชายหรือลูกสาว" หลิวซินเยว่เอ่ยถามอย่างตื่นเต้นพลางลูบท้องของเพื่อนเบาๆ"ยังไม่รู้เพศเลย" หลี่เหมยฮัวตอบ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ"ถ้าฉันมีลูกชาย แล้วเยว่เยว่มีลูกสาว พวกเราจับทั้งสองหมั้
ไม่นานนักพวกเขาทั้งคู่ก็ก้าวลงจากรถยนต์คันหรูด้วยท่าทางตื่นตาตื่นใจ เบื้องหน้าเธอคือร้านอาหารฝรั่งเศสตกแต่งสไตล์ยุโรป ดูหรูหรา ทันสมัย ตัดกับบรรยากาศรอบข้างอย่างสิ้นเชิง"ว้าว สวยจังเลยค่ะพี่หย่งเจี๋ย" เยว่เยว่อุทานอย่างตื่นเต้น ดวงตากลมโตเป็นประกายหวังหย่งเจี๋ยยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ "ชอบไหม?พี่ตั้งใจเลือกเลยนะ""ชอบมากค่ะ" หลิวซินเยว่พยักหน้าหงึกหงัก "ไม่คิดว่าปักกิ่งจะมีร้านแบบนี้ด้วย""ร้านนี้เพิ่งเปิดใหม่ เขาว่ากันว่าอาหารอร่อยมาก แถมบรรยากาศยังโรแมนติก เหมาะกับคู่รักอย่างเรา" หวังหย่งเจี๋ยขยิบตาให้หลิวซินเยว่ ก่อนจะคว้ามือบางของเธอเดินเข้าไปในร้านภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาว-ทอง ดูหรูหรา โอ่อ่า เสียงเพลงคลาสสิกบรรเลงเบาๆ สร้างบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก พนักงานในชุดยูนิฟอร์มสีขาวสะอาดตา โค้งคำนับต้อนรับทั้งสองด้วยรอยยิ้ม"โต๊ะริมหน้าต่าง วิวดีที่สุดครับ" หวังหย่งเจี๋ยบอกพนักงาน ก่อนจะพาหลิวซินเยว่ ไปนั่งประจำที่"พี่หย่งเจี๋ยคะ ที่นี่ดูแพงมากเลย" เยว่เยว่กระซิบเสียงเบา รู้สึกประหม่าเล็กน้อย"ไม่ต้องห่วงน่า พี่เลี้ยงเอง" หวังหย่
เวลาผ่านไปอย่ารวดเร็ว ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมากิจการร้านขายเสื้อผ้าบูติกที่ถนนหนานจิงขายดีเป็นอย่างมาก ภายในร้าน หลิวซินเยว่กำลังสาละวนอยู่กับการจัดเรียงเสื้อผ้าตัวใหม่ๆ"คุณหลิว เสื้อผ้าที่ทำออกมาขายแทบจะตัดเย็บไม่ทันแล้วนะ" เสียงจินฮวาดังขึ้นขณะกำลังแขวนชุดเดรสลายดอกไม้สีสดใส "ลูกค้าติดใจแบบเสื้อผ้าของเราใหญ่เลย คนแน่นร้านทุกวัน""จริงอย่างที่พี่จินฮวาว่า" เสี่ยวหลันพูดพลางจัดเรียงกางเกงยีนตัวใหม่ "เมื่อวานตอนบ่าย ฉันเห็นลูกค้าต่อแถวรอซื้อเสื้อผ้าหน้าร้านยาวเหยียดเลย"หลิวซินเยว่ยิ้มกว้าง พลางหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหม่ขึ้นมาพับอย่างบรรจง "ฉันก็ดีใจเหมือนกันที่ร้านของเราขายดีแบบนี้ ต้องขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยกันเต็มที่ขนาดนี้""แต่ว่านะคุณหลิว" จินฮวาพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล "พวกเราจะทำเสื้อผ้าทันขายเหรอ?แค่พวกคุณซูกับป้าหวังคงไม่ไหวแน่ๆ "หลิวซินเยว่พยักหน้าเห็นด้วย "ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เราคงต้องหาคนมาช่วยเพิ่มแล้วล่ะ" หลังจากจัดของในร้านเสร็จเธอก็ไปหาแม่และป้าหวังที่บ้านของเธอเพื่อพูดคุยเรื่องสำคัญ"ป้าหวัง ...เหนื่อยหน่อยนะช่วงนี้ กว่าโ
เช้าวันรุ่งซินเยว่ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความรู้สึกตื่นเต้นปนยินดี เธอจัดแจงแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนที่เตรียมไว้ ก่อนจะลงไปข้างล่างเพื่อทานอาหารเช้ากับนางซูหลินผู้เป็นแม่"อรุณสวัสดิ์ค่ะแม่" ซินเยว่กล่าวทักทายพร้อมกับนั่งลงที่โต๊ะอาหาร"อรุณสวัสดิ์จ้ะเยว่เยว่ เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหม" นางซูหลินถามด้วยรอยยิ้ม"ค่ะแม่ เมื่อคืนหนูนอนหลับสบายมากเลยค่ะ"บนโต๊ะอาหารมีโจ๊กข้าวต้มร้อนๆ กับหมั่นโถววางอยู่ หลิวซินเยว่ตักโจ๊กเข้าปากพลางเล่าเรื่องราวที่ร้านเมื่อวานนี้ให้แม่ฟังด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข"แม่คะ เมื่อวานนี้คนมาซื้อเสื้อผ้าที่ร้านเยอะมากเลยค่ะ ขายดีจนสินค้าในร้านหายไปครึ่งหนึ่งเลย""จริงเหรอจ๊ะ แม่ดีใจด้วยนะลูก" นางซูยิ้มกว้าง "แล้วขายได้เงินเท่าไหร่ล่ะ""เมื่อวานขายได้ตั้ง 1,000 หยวนแน่ะค่ะ แม้ว่าจะลดราคาครึ่งหนึ่งก็ตาม" ซินเยว่บอกด้วยความภูมิใจ"เก่งมากจ้ะลูก"ซูหลินลูบหัวลูกสาวด้วยความเอ็นดู "วันนี้แม่จะเอาเสื้อผ้าชุดใหม่ไปเติมที่ร้านให้เอง ลูกจะได้ไปงานแต่งงานของเหมยฮัวได้อย่างสบายใจ""ขอบคุณมากนะคะแม่" หลิวซินเยว่ยิ้มกว
สองอาทิตย์ต่อไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ร้านบูติกของหลิวซินเยว่ก็ได้เปิดทำการที่ถนนหนานจิง เธอจัดร้านแบบร้านขายเสื้อผ้าในห้างยุคปัจจุบัน ทำให้ร้านของเธอเป็นที่สนใจของคนทั่วไปเป็นอย่างมาก หน้าร้านเป็นกระจกใส มี หุ่นโชว์เสื้อผ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางร้านดูโดดเด่นสะดุดตา เสื้อผ้าสีสันสดใสตัดเย็บอย่างประณีตถูกสวมใส่โดยหุ่นเหล่านั้นราวกับมีชีวิตผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างชะงักฝีเท้า จ้องมองผ่านกระจกใสเข้าไปในร้านด้วยความสนใจ บ้างก็กระซิบกระซาบพูดคุยกันถึงความแปลกใหม่ บ้างก็จูงมือกันเข้ามาในร้านด้วยความอยากรู้อยากเห็น"นี่มันร้านอะไรกันเนี่ย ตกแต่งแปลกตาดีจัง" หญิงสาวคนหนึ่งพูดกับเพื่อนที่เดินข้างกันหลิวซินเยว่ในชุดเดรสสีแดงสด ยืนยิ้มต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าเคาน์เตอร์ "ยินดีต้อนรับค่ะ เชิญชมสินค้าตามสบายได้เลยนะคะ วันนี้ร้านเราเปิดร้านวันแรก ลดราคา 50% ทุกชิ้นเลยค่ะ"เสียงพูดของหลิวซินเยว่ ดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาจับจ่ายซื้อของ"ลดตั้งครึ่งราคาเลยเหรอ จริงหรือเนี่ย" พี่สาวเฉิน สาวโรงงานเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น"จริงค่ะพี่สาววันนี้วันเดียวเท่านั้นนะค
หลี่ฉินจัดการวางร่างคุณหนูจางผู้แสนเย่อหยิ่งลงบนเตียง ตอนนี้ยาเริ่มออกฤทธิ์คุณหนูตัวร้ายมีอารมณ์เป็นอย่างมาก เขาจัดการถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกายจนตัวของเขาเปลือยเปล่า ก่อนจะเดินเข้ามาหาคุณหนูตัวร้าย“นี่แกจะทำอะไรฉัน ไอ้คนขับรถ ปล่อยฉันนะ กรี๊ดดดดดด ไอ้โรคจิต”หลี่ฉินเมื่อได้ยินคุณหนูตัวร้ายด่า เขาจัดการประกบริมฝีปากของเธอทันที ก่อนจะจูบอย่างหนักหน่วง จางเจียอิน พยายามจะผลักคนขับรถออกจากร่างกายแต่เรี่ยวแรงเธอเริ่มหายไป แต่ยิ่งเธอดิ้น เธอยิ่งมีอารมณ์ร่วมมากขึ้นร่างบางแทบไม่อยากยอมรับ ว่าตอนนี้เธอรู้สึกดีและเสียวซ่านเป็นอย่างมาก จนน้ำในช่องทางรักฉ่ำเยิ้ม“ไอ้คนชั้นต่ำ แกวางยาฉันใช่ไหม แกปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะ “เธอดิ้นรนอย่างสุดชีวิต“ยิ่งดิ้นผมยิ่งชอบ คุณหนูรู้รึเปล่าครับ” สิ้นเสียงชายหนุ่มริมฝีปากของเขาก็ประกบลงมาอีกครั้ง เสื้อที่เธอใส่ถูกเขาฉีกจนเกิดเสียงดังแขวกก่อนจะโยนทิ้งไปไหนก็ไม่รู้หลี่ฉินบีบขยำเข้าที่หน้าอกของคุณหนูตัวร้ายอย่างแรง ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากของเขาลงสู่ลำคอของเธอ ไล่เลียซอกคอ ไล่ลงมาจนถึงเนินอกขาว เข
ทางด้านจางเจียอิน ลูกสาวคนเดียวของจอมพลจาง ผู้ทรงอำนาจแห่งกองทัพจีน ใบหน้าสวยหวานของเธอซีดเผือด ริมฝีปากบางเม้มแน่น ดวงตาคู่คมฉายแววผิดหวังและโกรธแค้น"เป็นไปไม่ได้ นี่มันต้องมีอะไรผิดพลาด" เจียอินพึมพำกับตัวเอง ขณะจ้องมองภาพข่าวในหนังสือพิมพ์ ข่าวประกาศการแต่งงานของ ซุนเจ๋อ ชายหนุ่มที่เธอหมายปองกับ หลี่เหมยฮัว ที่จะจัดขึ้นในอีก2อาทิตย์ ยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดในใจจางเจียอินวางแผนทุกอย่างอย่างรัดกุมเพื่อให้ได้ครอบครองซุนเจ๋อ แต่สถานการณ์กลับพลิกพลันให้ทั้งสองได้ลงเอยกัน ทุกอย่างกลับพังทลายลง ซุนเจ๋อ ไม่เพียงแต่หลุดรอดจากตกหลุมพรางของเธอ แต่เขายังไปแต่งงานกับศัตรูของเธอ"นังเหมยฮัว แกมันก็แค่ผู้หญิงหน้าด้าน ไร้ยางอาย" จางเจียอินกัดฟันกรอด "แกกล้าดียังไงมาแย่งพี่เจ๋อไปจากฉัน"ความโกรธแค้นในใจของจางเจียอิน พลุ่งพล่านราวกับไฟที่พร้อมจะเผาผลาญทุกสิ่ง เธอขยำหนังสือพิมพ์ในมือจนยับยู่ยี่ ก่อนจะปาลงพื้นอย่างแรง"กรี๊ดดด...มันเป็นไปไม่ได้ พี่เจ๋อจะแต่งงานกับนังเหมยฮัวได้อย่างไร" จางเจียอินอาละวาดข้าวปาข้าวของ แจกันใบสวยราคาแพงจะลอยละลิ่วในห้องไปกระ
เช้าวันรุ่งขึ้น หลิวซินเยว่รีบตื่นแต่เช้า วันนี้เป็นวันสำคัญที่หวังหย่งเจี๋ยจะมารับเธอไปร่วมงานประมูลที่ดิน ซึ่งเป็นก้าวแรกสู่ความฝันในการสร้างธุรกิจของเธอเสียงแตรรถดังขึ้นเบาๆ หน้าบ้าน ทำให้หลิวซินเยว่สะดุ้งเล็กน้อย เธอรีบแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อน เรียบง่ายแต่ดูดี หวีผมยาวสลวยให้เรียบร้อย ก่อนจะคว้ากระเป๋าถือใบเล็กแล้วรีบวิ่งลงไปข้างล่างหวังหย่งเจี๋ยยืนพิงรถจี๊ปสีเขียวเข้ม ใบหน้าคมคายประดับด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเมื่อเห็นหลิวซินเยว่เดินออกมา เขาก้าวเข้ามา"ขอโทษที่มาช้านะคะ พี่รอนานหรือเปล่า" หลิวซินเยว่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเกรงใจ"ไม่นานเลย พี่เองก็เพิ่งมาถึง" หวังหย่งเจี๋ยตอบ "พร้อมจะไปฟังผลการประมูลกันหรือยัง? "หลิวซินเยว่พยักหน้ารับ ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น "พร้อมแล้วค่ะ"หวังหย่งเจี๋ยปิดประตูให้เธอ ก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ เขาสตาร์ทรถ แล้วขับออกไปบนถนนสายหลักหลิวซินเยว่มองออกไปนอกหน้าต่าง รถยนต์คันแล้วคันเล่าแล่นผ่านไปมา ผู้คนต่างรีบเร่งไปยังจุดหมายปลายทางของตนเอง บรรยากาศเต็มไปด้วยชีวิตชีวา"ตื่นเต้นไหม? " ช
Comments