Home / โรแมนติก / สยบเสือใหญ่ / บทที่1│เจ้าป่าลายพาดกลอน (2)

Share

บทที่1│เจ้าป่าลายพาดกลอน (2)

last update Last Updated: 2024-12-22 00:22:19

⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆

 “ว่าไงนะ!?”

 “ครับ เขาบอกว่าอย่างพี่จีบจะไปช่วยอะไรผมได้”

 เธอมันฆ่าได้หยามไม่ได้เสียด้วย

 “พี่เสือบอกว่ายังไงก็ต้องจ่ายสดทีเดียว ช้ากว่านี้คนที่ซื้อไปก็คงเอาไปขายต่อ”

 ผู้เป็นยายได้ยินเช่นนั้นก็ใจไม่ดี “จีบ เอาทองยายไปจำนำเถอะลูก”

 ปฏิกิริยาตอบรับของพิลลายังคงไม่ต่างจากครั้งก่อน เธอยันปลายเท้าไปที่พื้นแล้วหยัดยืนเต็มความสูง แบมือเพื่อขอกุญแจรถมอเตอร์ไซค์จากน้องชาย ที่อีกฝ่ายก็ส่งมาให้แต่โดยดี

 กัลยาเอ่ยถามลูกสาวคนโต “พุดจีบ นั่นลูกจะไปไหน”

 “ไปถลกหนังเสือ”

 สิ้นประโยค ร่างแน่งน้อยก็ออกจากบ้านในเวลามืดค่ำ เพื่อที่จะไปคุยกับคนที่กล้าหยามเกียรติเธอให้รู้เรื่อง แล้วเขาจะได้รู้ว่าคนอย่างเธอทำอะไรได้ ไอ้ที่เห็นว่าหนีกลับบ้านนั่นเพราะกลับมาตั้งหลักเฉยๆ

 ถอยหลังหนึ่งก้าว เวลากระโดดถีบจะได้มีแรงเยอะๆ

 ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีเธอก็พาตัวเองมาถึงที่หมาย ไฟถูกเปิดจนสว่างโร่ หน้าบ้านมีรถมอเตอร์ไซค์จอดเรียงรายนับสิบ ทั้งยังมีวัยรุ่นจับกลุ่มคุยกันอยู่ด้านหน้าอีกด้วย

 หนึ่งในกลุ่มจำได้ว่าเมื่อเย็นสาวหน้าหมวยมาที่นี่ไปครั้งหนึ่งแล้ว เขาเอิ้นบอกอย่างหวังดี “พี่เสืออยู่ที่โต๊ะครับ”

 พิลลาหันไปทางต้นเสียง “ขอบใจจ้ะ”

 ร่างระหงจึงก้าวเดินไปยังทางที่อยู่ข้างบ้าน ที่ทอดไปยังหลังบ้าน ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของเธอ

 คล้อยหลังสาวงาม เขาก็หันมาพูดกับเพื่อนๆ “พี่สาวไอ้พอใจน่ารักฉิบเป๋ง ตัวขาวยังกับสำลี แก้มก็เหมือนซาลาเปา โคตรน่าบีบ แค่ได้คุยก็ใจสั่น เฮ้อ วาสนาผมทีเถอะคนแบบนี้”

 “ไปคุยด้วยมากๆ โดนแดกหัวแน่ คนอะไร หน้าตาน่ารักฉิบหาย แต่ปากนี่กูนึกว่าฟาร์มหมา”

 คนที่ถูกพาดพิงพาตัวเองมาหยุดอยู่ที่เดิม กวาดตามองแค่ปราดเดียวก็เห็นเจ้าของบ้านนั่งอยู่ใกล้ๆ กับโต๊ะสนุกเกอร์ที่อยู่ด้านในสุด จึงเดินไปหาอย่างไม่รอช้า

 “พี่-เสือ-ใหญ่”

 เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกขานด้วยน้ำเสียงขุ่นมัวก็หันไปตามต้นเสียง เลิกคิ้วให้กับคนมาใหม่ราวไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่พาเธอมาที่นี่คือเรื่องอะไร

 นึกว่าจะหายซ่า ที่ไหนได้ กลับมาหนนี้ดูซ่ากว่าเดิมอีก

 “ครับ มีอะไรครับ”

 “ขอคุยด้วยหน่อยค่ะ”

 เขาทำหน้าคล้ายว่าเสียดายมาก “ไม่ว่างแฮะ” พูดจบ แก้วเบียร์ที่เหลือเพียงก้นแก้วก็ถูกกระดกเข้าปาก

 “แป๊บเดียว”

 “อย่าตื้อได้ปะ ไม่ว่างคือไม่ว่าง” ว่าพลางพาดสายตาไปที่ขวดเบียร์ที่เหลือเกือบครึ่ง แล้ววกกลับมาที่คนอวดดี “หัดรอให้เป็นบ้างนะครับ มารยาทขั้นพื้นฐานอะ อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ ยังต้องให้สอน”

 พูดจบ เขาก็ยกขวดเบียร์มาเทใส่แก้วจนเต็ม แต่ยังไม่ทันที่น้ำสีเหลืองจะได้ไหลเข้าปากหนา มันก็ถูกมือบางคว้าไปถือไว้เสียก่อน

 พิลลายกแก้วจรดริมฝีปาก กระดกเข้าไปหลายอึกจนเกลี้ยงไปทั้งแก้ว มิหนำซ้ำยังคว้าขวดที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ เขามาเทอีกรอบ ทว่ารอบนี้เหลือเบียร์ไม่มากเท่าครั้งที่แล้ว ก่อนหญิงสาวจะซดมันอีกครั้ง

 แก้วในมือกระทบขอบโต๊ะสนุกเกอร์จนเกิดเสียงดัง เรียกสายตาของคนนับสิบให้หันไปมองเป็นจุดเดียว โดยที่ก่อนหน้านี้ การมาของพิลลาก็อยู่ในความสนใจของหนุ่มๆ อยู่แล้ว ผนวกกับการกระทำแสนบ้าบิ่นของอาหมวยคนสวย ก็ยากที่ผู้คนจะละสายตาจากเหตุการณ์นี้ไปได้

 คนตัวเล็กจ้องเจ้าหน้าของบ้านตาเขม็ง “ทีนี้ก็ว่างแล้ว”

 สารินกดมุมปากจนเกิดรอยยิ้ม เอี้ยวตัวไปทางซ้ายมือเล็กน้อย ก่อนจะคว้าขวดเบียร์ที่มีหยดน้ำเกาะพราวอยู่ข้างขวดมาถือไว้ อีกมือล้วงไปในกระเป๋าเพื่อหยิบไฟแช็ก ใช้แทนที่เปิดขวดได้อย่างง่ายดาย แล้วจึงส่งมันมาให้เธอ

 “หมดขวดนี้ก็ว่าง”

 พิลลายื่นมือไปรับขวดสีเขียวขนาดหกร้อยยี่สิบซีซีมาถือไว้ตามคำเชื้อเชิญ แต่แก้วที่เคยใช้บรรจุเบียร์เพื่อดื่มกลับไม่ได้รับการสนใจไยดี เธอยกปากขวดมาจรดปากตัวเองแล้วกระดกด้วยความโมโห แต่ผ่านไปไม่กี่อึดใจก็ต้องผละออก จึงได้เห็นว่าสารินส่งยิ้มให้กัน ในขณะที่สายตาของเธอแทบลุกเป็นไฟ

 เบียร์หมดขวดในที่สุด เธอยังไม่เมา แต่ยื้อได้ไม่นานนัก ในเมื่อในบรรดา ‘เนื้อนมไข่’ พิลลาถือเป็นคนที่คออ่อนที่สุด ชนิดที่ว่าถ้าเผลอดื่มเกินลิมิต ภาพตัดทันที

 แต่ศักดิ์ศรีค้ำคอ จะยอมให้ผู้ชายคนนี้มาหยามไม่ได้เด็ดขาด

 สารินคงไม่มีสัจจะพอจะให้เชื่อถือ เพราะเขาดันส่งมาอีกขวด “โทษๆ นึกว่ามีแค่นี้ แต่นี่ขวดสุดท้ายจริงๆ”

 พิลลากระชากขวดสีเขียวในมือของเขามากระดกโดยไม่มีปากมีเสียง แม่ในใจจะก่นด่าคนตรงหน้าไปจนนับจำนวนคำไม่ถูกแล้วก็ตาม

 หลังส่งขวดเปล่าคืนไป เธอก็เผลอยื่นมือไปจับขอบโต๊ะสนุกเกอร์เป็นที่ยึด ตวัดสายตามองเจ้าของร่างกำยำ “คุยได้ยังคะ”

 ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามเป็นคำพูด แต่เลือกที่จะเดินผ่านหน้าเธอไปยังประตูหลังบ้าน แม้ไม่มีคำเชิญ หญิงสาวก็เข้าใจได้ว่านั่นเป็นการอนุญาตให้เธอได้เข้าไปในบ้านของเขา ขาเรียวจึงก้าวตามไปติดๆ โดยที่เขาก็ไม่ได้เดินนำไปไหน เพียงแค่หยุดอยู่ที่ประตู ทันทีที่เธอเข้ามาเหยียบพื้นบ้านของเขา ประตูก็ถูกปิดลง ตามมาด้วยเสียงล็อกโดยฝีมือของคนตัวโต

 “เดี๋ยวเด็กๆ มากวน”

 นัยน์ตาเรียวเพียงปรายมองผู้พูด ก่อนจะยกฝีเท้าก้าวเดินไปยังโซนที่อยู่กลางบ้าน ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างถือวิสาสะ เพราะให้ยืนนานๆ เห็นทีว่าจะไม่เป็นผลดีกับตัวเอง

 เบียร์สองขวดครึ่ง มันก็ไม่ถือเป็นเรื่องง่ายของคนคออ่อน

 สารินไม่ได้เดินมานั่งที่เดียวกัน เขาเลือกที่จะยืนกอดอกพิงไปกับผนัง วางสายตาไว้ที่ร่างระหงที่ใบหน้าขึ้นสีด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์

 พิลลากอบโกยสติทั้งหมดที่มีมาไว้ที่บทสนทนา ที่ก็พยายามเข้าเรื่องให้เร็วที่สุดก่อนคอจะพับไปเสียก่อน “ค่าไถ่ตัวเรไรสี่หมื่นแปดใช่ไหม”

 “อาฮะ เงินมา นกไป ถ้าโอนเลยเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่เอาเรไรไปให้” รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นบนกรอบหน้าผู้พูด “แต่ถ้าจะโอนจริงๆ ก็คงไม่ต้องเสียเวลาคุย ที่จะคุยให้ได้เพราะไม่มีใช่ไหม”

 “มี”

 “ก็จ่ายมา”

 “มีไม่ถึง”

 ชายหนุ่มแค่นหัวเราะ “แบบนั้นเรียกว่าไม่มีค่ะหนูพุดจีบ อย่าสับสน”

 มือบางกำแน่น “ภาระจีบเยอะ”

 “ก็เยอะกันทั้งนั้น อย่ามาอ้าง มันฟังไม่ขึ้น”

 เธอจึงได้รู้ ไม้อ่อนใช้กับคนอย่างสารินไม่ได้ หมอนี่ไม่น่าจะมีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่น ไม่อย่างนั้นคงไม่ใจร้ายกับเด็กสิบหกได้ลงคอ เลยมาแค่วันเดียวก็เอาของหลุดจำนำไปส่งต่อ หน้าเลือดเสียไม่มี พิรภพทั้งรักทั้งเคารพเขา แต่พอเห็นว่าแม้แต่สัจจะเขายังไม่มี เธอก็คิดว่ามันเป็นความผิดของน้องชายเองที่ไปหลงผิด นับถือผิดคน

 “จีบรู้ว่ามันเป็นสิทธิ์ของพี่ที่จะทำยังไงก็ได้กับเรไร เพราะพอใจมันทำผิดข้อตกลงของพี่จริงๆ แต่พี่ไม่คิดถึงใจน้องมันบ้างเหรอ น้องมันมองพี่เป็นพี่ชายนะ แล้วทำไมพี่กล้าทำ”

 “แล้วทำไมมันไม่มาตั้งแต่เมื่อวาน”

 “ก็เมื่อวานจีบต้องจ่ายค่างวดรถ น้องมันก็เห็นใจ คิดว่าเลยไปสักวันคงไม่เป็นอะไร ใครจะไปคิดว่าพี่จะชิงขายไปก่อน”

 “นี่มันความผิดใคร”

 เธอจนคำพูด เพราะถ้าให้พูด เธอโทษคนใจร้ายอย่างเขาแน่ๆ ซึ่งนั่นคงไม่ส่งผลดีต่อการเจรจา

 เธอหลับตาพริ้ม ก่อนจะค่อยๆ เปิดเปลือกตาอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งเพื่อทำสมาธิและเรียกสติตัวเอง เพราะรู้สึกว่าแอลกอฮอล์เริ่มเล่นงานเธอแล้ว “จะทำยังไงให้ได้เรไรกลับมา”

 “สี่หมื่นแปด”

 พิลลาพูดเสียงลอดไรฟัน “ไม่-มี”

 หากจะมีเงินจำนวนนั้นต้องแลกมากับการนำของสำคัญของยายและแม่ไปจำนำ นั่นจึงนับว่าไม่มี เพราะเธอจะไม่ทำ

 “ก็อด”

 “มันหน้าเลือดเกินไปไหมพี่เสือใหญ่ พี่หากินแบบนี้เหรอคะ”

 “ถ้าได้เงิน เอาหมด”

 หญิงสาวกระแทกลมหายใจระบายความอัดอั้น “ไปเอามาให้ก่อนได้เปล่า เดี๋ยวเขาขายไปอีกทอดแล้วจะยุ่ง ไว้จีบจะผ่อนคืน”

 “ไม่เอา ไม่ชอบพวกสินเชื่อ เบื่อต้องคอยทวง”

 “แล้วจะเอาอะไร”

 นิ้วเรียวยาวถูกชี้มาที่คนถาม “เอาจีบ”

⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สยบเสือใหญ่   บทที่4│ใครจะใหญ่กว่าเสือ (5)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “อีนม” มือที่ตั้งท่าจะคว้าผ้าขนหนูเป็นอันชะงัก ก่อนหันกลับมาเลิกคิ้วใส่มัทรี “หล่อนได้กับพี่เสือใหญ่ยัง” ลมหายใจของพิลลาสะดุดกึก นัยน์ตาเบิกโต ภาพความทรงจำที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ผุดมาอย่างกับมีใครไปตั้งโปรแกรมไว้ สัมผัสนั้นคล้ายว่ายังติดอยู่ที่มือ ทำให้พิลลาแข็งทื่อไปทั้งตัว กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอก็เป็นนาที “ยัง ไม่ใช่ ใช่นั่นแหละ แต่หมายถึงว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน จะได้กับเขาได้ไง” สองเสียงประสานกัน “เหรอ / เหรอ” “ใช่ ฉันเคยโกหกอะไรพวกหล่อนหรือ-” “เยอะแยะ” “แต่เรื่องนี้พูดจริง” พิลลายืนยันหนักแน่น หลังได้ผ้าขนหนูมาไว้ในมือ เธอก็โพล่งขึ้นเพื่อตัดบท “ไปอาบน้ำละ” บรรยากาศในร้าน PEEK A BEER เป็นอย่างที่เคยเป็น มีเสียงเพลงจากนักร้องที่เคล้าไปกับเบียร์เย็นๆ เหล้าที่แสนบาดคอ และกับแกล้มที่ขาดไม่ได้ ช่วงหัวค่ำมักเป็นเช่นนี้ แต่พอดึกเข้าหน่อย ผีเสื้อราตรีก็ออกโรง และพวกเธอสามคนไม่เคยแผ่ว “ใครพอจะทราบข่าวบ้างว่าช่วงนี้ยายฟายมันตีกับใคร” ประโยคนั้นเรียกสายตาของสองสาวต่างขั้วได้เป็นอย่างดี ‘ยายฟาย’ ของมัทรีคืออรอนงค์ เพราะเป็นคู่ปรับกันมานาน เห็นว่าชื่อฝ้าย เลยเปล

  • สยบเสือใหญ่   บทที่4│ใครจะใหญ่กว่าเสือ (4)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “ช่วยไอ้เสือกำพร้าแม่ตัวนี้หน่อยได้ไหมครับ” ร่างระหงบนตักแกร่งอาศัยจังหวะนี้ในการพุ่งตัวไปหาชายหนุ่ม แตะริมฝีปากไปที่ปากหยักติดคล้ำ แล้วจึงผละออกมาก่อนที่สารินจะทันตั้งตัว นอกจากริมฝีปาก ร่างแน่งน้อยก็ผละออกจากตักแกร่งในเวลาถัดมา “สอง” เธอหอบหายใจราวกับเพิ่งวิ่งมาราธอนมาก็ไม่ปาน “สองครั้งแล้ว เหลืออีกแค่แปดครั้ง” นัยน์ตาคมจ้องมองไปยังผู้พูด ยกมุมปากขึ้นจนกลายเป็นรอยยิ้ม เสียงแค่นหัวเราะดังขึ้น “อ้อ เมื่อกี้เรียกจูบ?” “ก็ใช่ ของวันนี้ถือว่าเรียบร้อยแล้ว” “ไม่เอาน่า ใครมันจูบกันแบบนี้ เด็กน้อยมาก โคตรรับไม่ได้” “รับไม่ได้ก็เรื่องของพี่ จีบจะกลับบ้านแล้ว” “พุดจีบ” เสียงเข้มๆ เอ่ยเรียกชื่อของเธอ สีหน้าและแววตาไร้แววล้อเล่น ทำให้เธอคาดเดาอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่ได้ พิลลาจึงค่อยๆ ก้าวเท้าถอยหลังเพื่อเว้นระยะห่าง “มานี่” “ไม่ จะกลับบ้าน” “มา” สารินยันกายลุกขึ้นยืน พร้อมกับที่ก้าวเท้ามาทางนี้ “แบบนี้มันไม่เรียกว่าจูบ อย่ามาโกง” พิลลาไม่อยู่ฟัง รีบสับเท้าวิ่งออกจากบ้าน ก่อนตรงไปยังรถมอเตอร์ไซค์แล้วบิดสุดแรงเกิด เธอไม่เคยหมดท่าขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยรู้สึกแพ้ย่อยยับจนม

  • สยบเสือใหญ่   บทที่4│ใครจะใหญ่กว่าเสือ (3)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ บ้านทั้งหลังมืดสนิท พิลลาจึงเปิดไฟจนพอมีแสงสว่าง คงจะเป็นอย่างที่เด็กวัยรุ่นหน้าบ้านบอก สารินอยู่หลังบ้าน และเธอก็ไม่ได้พกมือถือติดตัวมาด้วย หากต้องเดินออกไปเรียกอย่างไรก็คงต้องเจอกับคนที่อยู่ด้านหลัง จึงหวังว่าความเปลี่ยนไปในบ้านจะเรียกสายตาของเขาได้ ไฟในบ้านเปิดเอง เจ้าของบ้านจะไม่สงสัยแล้วเข้ามาดูหน่อยหรือ แต่ผ่านมาห้านาทีเห็นจะได้ ก็ไม่มีใครเดินเข้ามาด้านใน และวันนี้เธอก็ไม่ได้ว่างมารอเขานานๆ ด้วย เพราะอยากกลับให้ถึงบ้านก่อนที่สองสาวจะมาถึง ไม่อย่างนั้นต้องปั้นน้ำเป็นตัวอีกเช่นเคย พิลลาเดินไปที่ประตู แนบหูไปกับบานไม้เพื่อฟังความเคลื่อนไหวรอบนอก ที่ก็ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวของพวกวัยรุ่นที่มารวมตัวกัน บางครั้งก็มีเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นหูดังเข้าโสตประสาท ร่างระหงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ยื่นมือไปแตะที่ลูกบิดแล้วออกแรงหมุนช้าๆ จนมันถูกเปิดในที่สุด ไม่รู้ว่ากี่สายตากันแน่ที่มองมา แต่เธอตวัดตาไปมองเพียงสารินคนเดียว อย่างน้อยการมองแค่เขาก็ลดความอายลงไปได้มากโข “มีธุระจะคุยด้วยค่ะ” ว่าจบก็ปิดประตูลงทันที ก่อนสับเท้าเดินไปนั่งที่โซฟาทั้งใบหน้าบึ้งตึง เธอโกรธตัวเองที่เลือก

  • สยบเสือใหญ่   บทที่4│ใครจะใหญ่กว่าเสือ (2)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ Pudjeeb Philla: พี่ลืมของไว้ที่ร้าน เธอกำลังจะถ่ายรูปกระเป๋าสตางค์ส่งไปให้ หลังเปิดดูแล้วพบสารพัดบัตร รวมถึงบัตรประชาชนที่มีหน้าเขาแปะหราไว้ พร้อมกับชื่อ ‘สาริน อัศวกมล’ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ลัลนารีบต่อสายหามัทรีอย่างเร่งด่วน ทว่าข้อความของเขาก็ถูกส่งเข้ามาเสียก่อน Sarin Asawakamol: หัวใจ?? จากตั้งใจจะถ่ายรูป เธอก็เปลี่ยนมาโต้ตอบกับเขาแทน เห็นแล้วคันไม้คันมืออยากหยุมหัวคน Pudjeeb Philla: ใช่จ้า กำลังจะเอาไปต้มให้หมากิน Sarin Asawakamol: หมาในปากหรือเปล่าครับ Sarin Asawakamol: เลี้ยงดีจังเลยนะ ถึงว่า ขยันทำงานเหลือเกิน Pudjeeb Philla: อ๋อค่ะ คนที่จีบเพิ่งยกพวกไปรุมกระทืบก็พูดแบบนี้แหละ Sarin Asawakamol: อยากโดนจังSarin Asawakamol: โคตรอยาก เธอด่าเขาในใจ แต่ไม่พิมพ์ด่าให้เรื่องยืดยาว เลือกที่จะตัดบทด้วยการส่งรูปกระเป๋าสตางค์ไปให้ Pudjeeb Philla: จะให้เอาไปให้หรือจะมาเอาเอง Pudjeeb Philla: ร้านปิดห้าโมง ถ้ามาก็อย่าเกินนี้ แต่ถ้ารอจีบเอาไปให้ก็ค่ำๆ Pudjeeb Philla: แต่ของพี่นั่นแหละ มีบัตรประชาชน ส่วนเงินไม่ได้นับ แต่ไม่ได้ยุ่งอะไร ถ้าหายก็ไม่เกี่ยวกับจีบ

  • สยบเสือใหญ่   บทที่4│ใครจะใหญ่กว่าเสือ (1)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ สารินกลับไปแล้ว หลังจากนั่งๆ นอนๆ อยู่หลังโต๊ะทำงานของเธออยู่หลายชั่วโมง ที่จริงเขายังไม่คิดจะกลับ ถ้าไม่ติดที่เธอไล่ตะเพิดเพราะลัลนากำลังจะมาที่ร้าน เพื่อนสนิทเดินมาทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้ “คืนนี้ออกไหม” “ถ้าหล่อนกับเมลฟี่ไป ฉันก็ไป” “เป็นไร” พิลลาหันไปมุ่นคิ้วใส่เพื่อน “เห็นทำหน้าเซ็งๆ” เป็นอย่างที่ลัลนาว่า เธอเซ็งมากๆ ที่คนอย่างสารินเข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิต ยิ่งเขาพยายามล้ำเส้นที่ตกลงกันไว้ ไม่ยอมให้มันหยุดที่การจูบ แต่คิดจะจีบ เธอก็เกิดอาการอึดอัดคับแน่นในใจ ครั้นจะให้จ่ายเงินก็มีไม่พอ กว่าจะได้แต่ละบาทนั้นไม่ใช่ง่ายๆ ยิ่งต้องจำนำข้าวของสำคัญหรือเลือกหยิบยืมเพื่อนสนิท เธอทำไม่ได้ เนื้อนมไข่คบกันได้นานเพราะไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง ไม่มีใครเคยยืมเงินกันให้ต้องผิดใจ ไม่ร่วมธุรกิจกันในหมู่เพื่อน ทานข้าวก็หารเท่า ดื่มเหล้าไม่เคยเอาเปรียบ มาครั้งนี้เธอก็ไม่มีความกล้ามากพอจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเพื่อน แม้จะรู้ว่าเพื่อนต้องช่วย แต่มันจะเป็นปมในใจว่าครั้งหนึ่งเธอเคยหยิบยืมเงินคนสนิท แค่ยอมให้ไอ้หน้าวัวจูบไม่กี่ครั้ง เปลืองตัวแค่นี้ สบาย ก็ถ้ามันทำแค่นั้น เธอค

  • สยบเสือใหญ่   บทที่3│คืนฝนพรำที่กำแพงแสน (5)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ ‘ป๋า’ เดินออกไปจากร้าน ควบมอเตอร์ไซค์ไปทางร้านน้ำ พิลลามองจนลับสายตาก่อนส่ายหัวน้อยๆ ป๋าอะไรกัน คนที่ขายนกทอดตลาดทั้งๆ ที่เพิ่งเลยกำหนดมาวันเดียวน่ะ หรือจะขอผ่อนก็แสนจะเรื่องมาก สารินมันเค็มยิ่งกว่าน้ำทะเลเสียอีก ช่วงเที่ยงๆ แบบนี้ ร้านน้ำของปาริฉัตรมีลูกค้าหนาตาทีเดียว หนึ่งในนั้นคืออรอนงค์ บ้านของอรอนงค์ประกอบกิจการซัก อบ รีด ตั้งแต่เขาย้ายมาดูแลตาที่นี่ ก็ได้บ้านนี้ในการจัดการส่วนของเสื้อผ้าอาภรณ์ ไม่ต้องลำบากซักตากเองให้เหนื่อย หลังจากตาถึงแก่กรรม เขาก็ไม่คิดจะย้ายกลับไปอยู่กับครอบครัวที่กรุงเทพฯ เพราะหลงรักกำแพงแสนเสียแล้ว นอกจากส่งเสื้อผ้าซักกับบ้านของอรอนงค์ สาวเจ้ายังอาสาเข้ามาดูแลความสะอาดของบ้านทุกสัปดาห์อีกด้วย เขามีหน้าที่จ่าย และก็ยินดีจ่าย เพราะเธอทำมันได้ดีไร้ที่ติ “ไปไงมาไงเนี่ยพี่เสือใหญ่” สารินระบายยิ้มให้แม่ค้าร้านน้ำ “มาซื้อน้ำน่ะ” “แหม อยากลัดคิวให้สุดหล่อจริงๆ แต่เดี๋ยวโดนคนอื่นเขม่นเอา เพราะงั้นนั่งรอก่อนนะ” เขาเลือกที่จะนั่งโต๊ะเดียวกับอรอนงค์และกีรติ ซึ่งเป็นสองสาวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี “มาซื้อน้ำเหรอพี่” ชายหนุ่มพยักหน้าเป็

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status