ホーム / รักโบราณ / สามชาติ สองภพ จบปรารถนา / กำเนิดเกิดเป็นมนุษย์

共有

กำเนิดเกิดเป็นมนุษย์

จากวันกลายเป็นเดือน จากเดือนเคลื่อนเป็นปี โลกมนุษย์ทั้งอดีตเเละอนาคตผันผ่านไปตามกาลเวลา

กระบองเพชรน้อยต้นไม้จากเมืองมนุษย์ถูกนำลงสู่ยมโลก ได้ไอหยินเเละหยาดน้ำทิพย์จากสระมรกตหล่อเลี้ยงจนเริ่มมีพลังวิญญาณ ทว่ายังมิทันได้สร้างรูปลักษณ์ของตนเองขึ้นมา นางกลับถูกความมักง่ายของมหาเทพบรรพกาลนอกฝั่งฟ้าเล่นงาน โดนเปลี่ยนเเปลงวิญญาณด้วยพลังเทพ ต้องเข้าสู่วัฏสงสารเพื่อเวียนว่ายตายเกิด

บัดนี้นางถือกำเนิดเกิดเป็นมนุษย์เต็มตัวแล้ว อิ๋งอิ๋งน้อยของเหยียนหลัวหวางมีชื่อใหม่ในชาติภพนี้ว่า 'หยูหนิง' เกิดในครอบครัวสกุลหยูที่มีฐานะค่อนข้างดี ทว่าตอนที่หยูหนิงเกิด ในห้องคลอดนั้นไร้เสียงร้องของทารกให้ได้ยิน มีเพียงความเงียบที่แผ่ขยาย ไม่ว่าคุณหมอหรือนางพยายาลจะใช้วิธีไหน เด็กน้อยก็เพียงแค่นอนมองตาเเป๋ว

ข่าวร้ายที่มาพร้อมการเกิดของลูกสาวทำให้ผู้เป็นเเม่เเทบหัวใจสลาย สามีที่เป็นช่างภาพไปถ่ายงานนอกสถานที่ เกิดอุบัติเหตุรถที่โดยสารพลิกคว่ำ เพราะคนขับรถบัสประมาทจึงทำให้สามีเสียชีวิต ทว่าคนในตระกูลหยูกลับพากันกล่าวโทษว่าเพราะลูกสาวเธอเป็นตัวซวย

เฮอะ สารเลว...เด็กเกิดมาจะไปรู้เรื่องอะไร รถบัสพลิกคว่ำเพราะคนขับหลับใน เด็กสามขวบยังคิดได้เลยว่าเป็นความประมาทของโชเฟอร์ แต่คนพวกนั้นกลับมากรีดร้องโวยวายว่าดวงชะตาลูกสาวเธอเกิดมาเป็นกาลกิณี ทำให้คนเป็นพ่อต้องมาเสียชีวิตในวันที่กำเนิด

ช่างไร้สาระจริงๆ ว่ามั้ย...

สองเเม่ลูกถูกหมู่ญาติรังเกียจ คนสกุลหยูต่างอ้างเหตุผลต่างๆ นานา แต่ลู่เมิ่งรู้ดีว่าเป็นเพราะสาเหตุใดบรรดาญาติพวกนั้นถึงหาเรื่องกีดกันพวกเธอ หยูซานสามีที่เสียไปเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของบ้านใหญ่ เเม้จะมีฐานะครอบครัวปานกลาง แต่เรื่องการเงินของเขานั้นไม่ด้อย เงินฝากและที่ดินพร้อมบ้านทำให้คนเหล่านั้นตาลุกวาวด้วยความละโมบ คนเหล่านั้นจึงต้องการกีดกันเธอกับลูก หวังจะหยิบเนื้อติดมันชิ้นนี้เข้ากระเป๋าตัวเอง

เเน่นอนว่าลู่เมิ่งย่อมรู้เท่าทัน และที่สำคัญเธอเองก็ไม่ใช่นางเอกในละครผู้แสนดี ที่จะได้ยอมให้ใครมาเอาเปรียบง่ายๆ ด้วยเหตุนี้มรดกของสามีจึงไม่ได้กระเด็นเข้ากระเป๋าคนพวกนั้นแม้แต่หยวนเดียว ด้วยพินัยกรรมเเละใบทะเบียนสมรสที่ถูกนำมาเเสดงอย่างถูกต้อง บรรดาญาติผู้หิวโหยจึงได้เเต่พากันก่นด่าประณามเธอกับลูกสาวเสียๆ หายๆ ซึ่งคุณเเม่ยังสาวผู้สตรองก็ทำเพียงเเค่ยิ้มหวานรับคำพูดเหล่านั้น

แต่ถ้าถามว่าแคร์ไหม ลู่เมิ่งตอบได้ทันทีเลยว่าไม่...

หลังจัดการเรื่องพิธีศพของสามีเสร็จสิ้น ลู่เมิ่งได้ตัดสินใจขายบ้านหลังใหญ่เพื่อตัดปัญหาจากพวกญาติๆ หน้าเงิน เธอพาลูกสาวมาอาศัยอยู่กับน้องสาวเเละน้องเขย ลู่ซีกับหลินไห่ต้อนรับลู่เมิ่งและหยูหนิงอย่างอบอุ่น พวกเขาสองคนสามีภรรยาไม่มีลูก จึงให้ความเอ็นดูหลานสาวเป็นอย่างมาก

วันเวลายังคงไหลผ่านไปเรื่อยๆ ไม่นานไม่ช้าก็ล่วงเลยไปปีกว่าเเล้ว

เพราะเกิดมาพร้อมกับความเงียบ ลู่เมิ่งจึงตั้งชื่อให้เด็กน้อยเพียงคำเดียวว่า 'หนิง' ที่มาจากคำว่าสงบ เธอหวังแค่ให้ลูกได้เติบโตขึ้นมาอย่างสุขสงบ ผู้เป็นแม่คิดอย่างปวดร้าวหลังจากพาลูกสาวไปทดสอบพัฒนาการ เธอฟังผลด้วยท่าทางนิ่งสงบและยอมรับมันเงียบๆ เมื่อคุณหมอพูดถึงปฏิกิริยาตอบสนองของหยูหนิง ที่มองอย่างไรก็ช้าเกินกว่าเด็กปกติทั่วไป

ระหว่างทางกลับหญิงสาวอุ้มลูกน้อยแวะไปยังหลุมศพของสามีที่ล่วงลับ ดวงตาคู่สวยเเดงก่ำเอ่อคลอด้วยน้ำใส พลางพร่ำบอกสามีที่จากไปว่าไม่ต้องเป็นห่วง เธอจะดูเเลลูกของพวกตนให้ดีที่สุด เเม้ว่าคุณหมอจะลงความเห็นเเล้วว่าหยูหนิงลูกสาวเธอเป็นเด็กพิเศษ...เด็กออทิสติกเเล้วก็ตาม

กาลเวลายังคงหมุนเดิน จากฤดูหนาวกลายเป็นร้อน จากร้อนมาเป็นฝน และแล้วก็เวียนบรรจบเป็นหนาวอีกครั้ง จนผ่านไปเนิ่นนานหลายปี

เเม้ว่าจะเป็นเด็กพิเศษเเต่หยูหนิงก็รู้ความเป็นอย่างยิ่ง นอกจากอาการตอบสนองที่ช้าไปกว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน เธอไม่เคยปรากฏปัญหาเรื่องอื่นในการใช้ชีวิตเลย นั่นทำให้คนเป็นเเม่ตัดสินใจส่งลูกสาวเข้าโรงเรียนประถมของเด็กปกติ

เด็กหญิงใช้ชีวิตเเบบคนปกติได้ไม่ลำบาก เธอเติบโตมาท่ามกลางความรักและการดูแลเอาใจใส่จากคนรอบข้าง จนกระทั่งหยูหนิงอายุได้สิบขวบ ลู่เมิ่งผู้เป็นเเม่ก็มาจากไปตลอดกาลด้วยโรคลูคีเมีย

ในงานศพของมารดา ร่างน้อยๆ ยืนสงบนิ่งไร้น้ำตาผิดกับเด็กวัยเดียวกัน ดวงตากลมโตคู่สีดำมองภาพตรงหน้าไม่กะพริบ

“ดูสิ ลูกสาวเจ้าหยูซาน เกิดมาก็ทำให้พ่อตายเเล้ว ฉันพูดผิดที่ไหนกัน เสียดายยายลู่เมิ่งไม่ยอมเชื่อ รั้นจะเลี้ยงเด็กนั่นเอง สุดท้ายเป็นไงก็ต้องตายเหมือนกัน” 

“นั่นน่ะสิ เด็กนั่นมีดวงกินพ่อกินเเม่ กาลกิณีจริงๆ ใครนำไปเลี้ยงก็ต้องซวยไปด้วยแน่ๆ” 

“แล้วอย่างนี้ใครจะเป็นคนรับเด็กหยูหนิงนั่นไปดูเเลต่อ” 

เสียงซุบซิบนินทาในหมู่เครือญาติดังขึ้นเป็นช่วงๆ ลู่ซีตวัดสายตาขุ่นเคืองไปทางคนเหล่านั้น หากไม่เพราะนี่เป็นงานส่งวิญญาณของพี่สาว เธอคงกระโดดเข้าไปทำสงครามน้ำลายกับอีกฝ่ายเเล้วแน่นอน

คนพวกนี้แต่ละคนล้วนจอมปลอมทั้งนั้น พูดว่าหลานสาวเธอเสียจนไม่มีดี แต่ก็ยังกล้าเสนอหน้ามาออกปากรับดูเเล จะเพราะอะไรถ้าไม่ใช่เพราะเงินมรดกที่หนิงหนิงจะได้รับ พวกคนสารเลวเห็นเเก่ตัว!

ผู้มีศักดิ์เป็นน้าคิดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด หยูหนิงเป็นหลานสาวของเธอ เป็นทายาทสืบทอดสายเลือดของพี่สาวที่รักยิ่ง ลู่ซีไม่มีทางยอมให้หลานตัวเองต้องตกอยู่ในอุ้งมือคนพวกนั้นเป็นเเน่ ในตอนนั้นลู่ซีนึกขอบคุณความรอบคอบของพี่สาว ที่เขียนพินัยกรรมทิ้งเอาไว้อย่างชัดเจนว่า ให้เธอเป็นผู้ดูเเลหยูหนิงเเละจัดการมรดกทุกอย่างจนกว่าหลานสาวจะบรรลุนิติภาวะ

หลังเสร็จสิ้นพิธีศพ บรรดาคนฝั่งสกุลหยูบ้านรองจึงต้องจำใจล่าถอยกลับไปมือเปล่า คุณนายหยูภรรยาของน้องชายบิดาหยูซานเองก็จากไปพร้อมถ้อยคำเเช่งชักหักกระดูก

“เฮอะ! อย่าคิดว่าหล่อนจะโชคดีนะ เด็กหยูหนิงนั่นเป็นตัวซวย ไม่ช้าก็เร็วเธอจะต้องมีอันเป็นไปไม่ต่างจากพี่สาว”

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   พบกันอีกครั้ง

    ท้องฟ้ายามราตรีมืดมิดเป็นสีดำสนิท หยาดฝนเม็ดใหญ่โปรยปรายลงมาไม่ขาดสายราวม่านน้ำตก เสียงฟ้าร้องดังขึ้นเป็นระยะสลับกับสายลมที่กรรโชกแรง หยูหนิงในร่างลูกสุนัขจิ้งจอกกำลังยืนหอบหายใจหนักหน่วง ด้านหลังของร่างเล็กคือผาหินอันไร้หนทางให้หลบหนี ส่วนเบื้องหน้ามีเจ้าสัตว์ร้ายลำตัวยาวเหยียดกำลังจ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาดุร้ายสายลมสายหนึ่งพัดผ่านร่างเล็กจ้อยที่ชุ่มไปด้วยน้ำฝน ทำให้รู้สึกได้ถึงความเหน็บหนาวที่สะท้านสะเทือนหัวใจ หยูหนิงอดที่จะร้องครางเสียงแผ่วออกมาไม่ได้ ทว่าน่าเสียดายนัก ท่าทางอันน่าสงสารที่แสดงออกนั้น ไม่สามารถเรียกความเห็นใจจากเจ้าอสรพิษตรงหน้าได้แม้แต่น้อย มันยังคงจ้องมองเธอประหนึ่งเหยื่ออันโอชะ ลิ้นสีแดงแลบตวัดผ่านจมูกเปียกชื้นราวกับต้องการชิมรสชาติเจ้าตัวน้อยตรงหน้า เห็นอย่างนี้หยูหนิงอยากจะบอกกับมันเสียเหลือเกินว่าพี่ชาย ถึงนายจะกินฉันลงไปก็ไม่ทำให้อิ่มท้องได้หรอกนะ แถมกระดูกอาจจะไปติดซอกฟันเอาเสียเปล่าๆมองการจากไปของครอบครัวตัวเองในชาตินี้ หยูหนิงก็อดนึกสะท้อนในใจไม่ได้ แม้จะใช้เวลาอยู่ร่วมกันเพียงไม่นาน แต่ความผูกพันย่อมเริ่มก่อตัว ความอาลัยมีหรือจะไม่มีได้ คิดไปเธอพลันเร

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   ยมทูตที่ไร้ความรับผิดชอบที่สุด

    ปลายเดือนหกสายฝนโปรยปรายลงมาไม่ขาด ในหุบเขามังกรฟ้าที่เงียบสงบมีเพียงจวินเทียนเฮ่อที่พักอาศัย หลายปีก่อนหน้านี้อาหม่าที่ติดตามเขาได้ถึงแก่กรรมไปตามวัย ทำให้ที่แห่งนี้เหลือเพียงเขาพำนักอาศัย วิชาที่อาจารย์สอนสั่งมานับเป็นเลิศหาใดเปรียบ จวบจนทุกวันนี้ตัวเขาคล้ายจะหยุดอายุขัยไว้ที่วัยยี่สิบกว่าปีเท่านั้นดวงตาคู่เรียวเหม่อมองฝ่าสายฝนที่บดบังทัศนวิสัย เสียงลมหายใจแผ่วเบาดังขึ้นเป็นบางเวลา จวินเทียนเฮ่อบอกกับตัวเองท่ามกลางความเงียบงันว่า การเฝ้ารอคอยบางครั้งก็เนิ่นนานชวนให้รู้สึกว่ายากจะทานทนเสียจริง“เสี่ยวฉาง นี่พวกเรากำลังจะไปที่ไหนกันแน่” หยูหนิงก้าวเดินตามสองยมทูตไปในความมืดอย่างไม่รู้ทิศทาง ช่วงหลายวันมานี้เฮ่ยเสี่ยวอู่กับเฮ่ยเสี่ยวฉางเอาแต่ซุบซิบกันตลอดเวลา อีกทั้งยังช่วยกันปิดบังจนทำให้เธอเกิดความรู้สึกกังวลอย่างประหลาด ในใจก็ได้แต่หวังว่าอีกฝ่ายคงไม่คิดทำอะไรแปลกๆเฮ่ยเสี่ยวฉางก้าวนำด้วยรอยยิ้มสดชื่น มุมปากโค้งเป็นแนวกว้างอย่างอารมณ์ดี หลังจากคิดหาหนทางอยู่เป็นนาน ในที่สุดพวกตนก็พบวิธีดีๆ ที่จะทำให้ด่านเคราะห์ของตี้จวินผ่านพ้นไปได้ ในขณะที่สหายกำลังอยู่ในความเบิกบาน เฮ่ยเสี่ยวอู่ก

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   เอาแต่ใจที่สุดก็คือเทพ

    แดนสวรรค์...นอกจากเทพซื่อมิ่งแล้วยังมีอีกหนึ่งที่เฝ้าดูเหตุการณ์วุ่นวายดังกล่าวอยู่ ซึ่งก็หาใช่ผู้ใดใครอื่น แต่เป็นประมุขสวรรค์นายของเขานั่นเอง เง็กเซียนมองเรื่องราวที่จบลงด้วยดีอย่างไม่พอใจ เจ้าเอ้อร์หลางนั่นช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี ตนอุตส่าห์ชักนำให้มาพบกับมารดามนุษย์ของตี้จวินแล้วแท้ๆ แต่กลับจัดการไม่ได้แม้แต่วิญญาณต้นไม้ธรรมดาดวงหนึ่ง“หากเจ้าวิญญาณต้นไม้นั่นมีอันเป็นไป ตี้จวินก็จะไม่มีทางผ่านด่านเคราะห์ เขารับคำสาบานไปแล้วย่อมไม่กล้าตระบัดสัตย์กลับคืนแดนเทพ ข้าก็จะไม่ต้องมีตัวหายนะเป็นหนามยอกอก เรื่องดีๆ เช่นนี้กลับถูกเจ้าเอ้อร์หลางทำเสียหายได้ น่าโมโหนัก น่าโมโหที่สุด” ผู้ปกครองแดนสวรรค์บ่นพึมพำสบถกับตนเองลั่นตำหนัก ยิ่งคิดก็ยิ่งขุ่นเคืองผู้ใต้บังคับบัญชาเซียนรับใช้หลายนางพากันก้มหน้าลงต่ำ แม้แต่ผู้ที่รับใช้ใกล้ชิดก็ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตา พวกเขาล้วนรู้นิสัยไร้เหตุผลของเจ้านายดี จึงไม่มีใครคิดอยากวุ่นวาย ดูท่านเทพเอ้อร์หลางเป็นตัวอย่างก็น่าจะเข้าใจ เพราะเพียงแค่ความเห็นไม่ลงรอยยังถูกโยนข้อหาใส่ ทุกวันนี้แม้เวลาจะผ่านไปหลายร้อยปี ก็ยังต้องเผชิญวิบากกรรมอยู่บนโลกมนุษย์เลยเทพซื่อ

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   กลยุทธ์ถอยเพื่อตั้งหลัก

    หยูหนิงที่หนีออกมานั้นกำลังมืดแปดด้าน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองเพิ่งจะหลบหนีออกมาจากเขตอาคมของนักพรตได้อย่างง่ายดาย ในหัวมีเพียงคำพูดของไป๋เฟิ่งที่ร้องเตือนให้ซ่อนตัวเท่านั้น และแน่นอนว่าเธอไม่มีทางที่จะไม่ทำตาม ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าการชำระวิญญาณที่นักพรตนั่นเอ่ยถึง จะเป็นการส่งไปเกิดใหม่หรือทำให้ดวงวิญญาณแตกสลายกันแน่ร่างเล็กทะยานไปในอากาศ ดวงตากลมหรี่ลงครุ่นคิด สุดท้ายก็มุ่งหน้าไปทางเรือนมู่ตานที่คุ้นเคย “ที่ที่อันตรายคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด” เธอยังคงเชื่อมั่นในประโยคนี้ ความมั่นใจจึงล้นปรี่อีกครั้งยามกระโดดข้ามผ่านขอบหน้าต่างเข้าสู่ห้องนอนของเจ้าของเรือน ยังไม่ได้พูดคุยกับคนที่สู้อุตส่าห์ติดตามมาแม้แต่คำเดียว แล้วใครเล่าจะยอมจากไปโดยไม่คิดขัดขืน“ยังไม่ได้คุยกันสักคำ ใครจะยอมทำตามเล่า นักพรตบ้า”เทพซื่อมิ่งได้ยินวาจาพึมพำความในใจก็นึกขบขันจนหัวร่องอหงาย นางต้นไม้นี่ช่างน่าสนใจอะไรเช่นนี้ บอกว่ามาเพื่อบุรุษก็ทำดั่งพูดจริงๆ ไม่มัวมานั่งอายขวยเขิน มุ่งตรงหาเป้าหมายอย่างแน่วแน่ แม้แต่ในยามคับขันก็ยังไม่ลืมเหตุผลของตน สตรีที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้เหมาะสมยิ่งนักกับท่านเทพอันธพาลคิ้วเรียวยาวถูกเจ้าขอ

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   นักพรตปรากฏกาย

    เมื่อยามค่ำมาเยือนภายในบ้านสกุลจวินเงียบสงบไร้เสียงอึกทึก ทว่านั่นเป็นเพียงมุมมองในด้านของมนุษย์เท่านั้น เพราะในมุมมองโลกที่สามเวลานี้มีสองดวงวิญญาณกำลังเคลื่อนที่ตามกันไม่ห่างโดยมีสตรีเป็นผู้นำ ดวงวิญญาณของหญิงสาวก็คือหยูหนิงนั่นเอง และแน่นอนว่าวิญญาณบุรุษที่อยู่ด้านหลังย่อมเป็นไป๋เฟิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย“หยูหนิงหมายความว่าอย่างไร ที่เจ้าบอกว่ามีวิธีช่วยให้ข้าสมหวัง”ไป๋เฟิ่งเอ่ยถามน้ำเสียงสั่นไหว ดวงตาเหลือบมองฝ่ามือที่ถูกจับจูงโดยคนข้างหน้าไม่กะพริบ วิญญาณไม่มีเลือดเนื้อและร่างกายจึงไร้ความรู้สึก ทว่ามือที่ถูกเกาะกุมนั้นกลับมีความอบอุ่นไปจนถึงจิตใจ“ใช่แล้ว นี่นับว่าเป็นโอกาสอันดีของเจ้าเลยรู้หรือไม่” เสียงใสตอบด้วยน้ำเสียงยินดีครั้งแรกที่หยูหนิงเอ่ยปากเรื่องช่วยเหลืออีกฝ่าย เธอยังคิดว่าคงต้องรอจนสองยมทูตกลับมา ไหนเลยจะบังเอิญมีเรื่องโชคดีเข้ามาก่อน เห็นไป๋เฟิ่งมีสีหน้างงงวยหยูหนิงจึงอมยิ้มพลางอธิบายเรื่องราวให้ฟังอย่างละเอียดที่แท้เมื่อสามวันก่อนบุตรชายของลูกผู้น้องญาติห่างๆ นายท่านจวินได้เดินทางจากบ้านเดิมมาขอพักพิงชั่วคราวเพื่อเตรียมตัวเข้าสอบเป็นจิ้นซื่อที่จะถึงในปีนี้ ไป๋เฟิ่

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   วิญญาณบุรุษผู้อาภัพ (2)

    เวลาผ่านไปหลายวันภายในบ้านสกุลจวินยังคงเงียบสงบ เนื่องจากหลิวซีเยี่ยนได้รับคำแนะนำจากท่านนักพรตให้หยุดเรื่องพิธีดูตัวเอาไว้ก่อน จึงไม่มีเหตุผลให้วิญญาณร้ายต้องปรากฏตัวมาไล่ตัดวาสนาดอกท้อหญิงสาวเหล่านั้น อีกทั้งสองยมทูตเองก็ยังไม่สามารถปลีกตัวมาหาได้ ทำให้หยูหนิงในตอนนี้มีเวลาว่างมากพอที่จะมานั่งเสวนากับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามา‘ไป๋เฟิ่ง’ คือนามของผู้มาใหม่ วิญญาณบัณฑิตหนุ่มผู้สิ้นชีพลงในวัยเพียงแค่ยี่สิบปี ซึ่งแฝงตนมากับโต๊ะเขียนหนังสือไม้สลักเก่าแก่อายุหลายร้อยปี ที่นายท่านจวินเพิ่งจะได้มาครอบครอง ไป๋เฟิ่งเองก็ได้เล่าถึงสาเหตุที่ตนเองต้องมาผูกติดอยู่กับโต๊ะตัวนี้ให้หยูหนิงฟังอย่างละเอียดแต่เดิมยามเป็นมนุษย์ไป๋เฟิ่งเกิดในสกุลไป๋ที่เป็นตระกูลบัณฑิตเก่าแก่แห่งต้าเหลียว บรรพบุรุษของเขาทุกรุ่นล้วนแต่รับราชการ อุทิศตนเพื่อบ้านเมืองมาตลอด เมื่อมาถึงยุคสมัยของตัวไป๋เฟิ่งก็ยังมีพี่ชายที่เป็นความหวังของบ้าน ทว่าก่อนวันสอบเพียงไม่กี่วัน ไป๋มู่ผู้เป็นพี่ชายก็มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปก่อนเพราะไม่อาจทนมองบิดามารดาผู้เฒ่าจมอยู่กับความผิดหวัง ไป๋เฟิ่งที่เดิมร่างกายอ่อนแอจึงตัดสินใจสืบทอดเจต

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status