Accueil / เมือง / สิ้นสุดปลายฟ้าไม่กล้าหวนคืน / เรื่องเล่าของปู้ต้านซิน

Share

เรื่องเล่าของปู้ต้านซิน

last update Dernière mise à jour: 2024-10-25 15:50:21

การต่อสู้พันตูหน้าป้ายสำนักเกาซิ่งที่บ่งบอกว่าผู้ที่มาต้องการจะได้มันไปครอบครอง ส่วนผู้ที่ปกป้องก็สู้ยิบตาต่างยืนลิ้นห้อยหอบเหนื่อยจากการสู้รบ

“ปู้ตานซิน มอบป้ายสำนักมาให้ข้าเสียแต่โดยดี”เสียงคำรามดังลั่น

ปู้ตานซินถอนหายใจ พยักหน้าให้กับหวังต้าฉิน

“อาจารย์ศิษย์โง่งมไม่เข้าใจความหมาย”หวังต้าฉินยิ้มเจื่อนๆ

“ปลดป้าย สำนักลงมาให้ ท่านอาวุโสเง็กเต็กเสีย”

“อาจารย์ยยยยยยยย”

เสียงทัดทานด้วยความตกใจของเหล่าศิษย์ระงมไปทั่วบริเวณ

“ปลดลงมาให้เขาเสีย”

พูดดังๆด้วยเสียงเข็มดุ หวังต้าฉินทะยานขึ้นไปปลดป้ายลงมา ยื่นส่งให้อาวุโสเง็กเต็กไปถือไว้ อย่างนอบน้อม

“555 ข้าประเมินท่านสูงจนเกินไป แม้จะคิดไว้ล่วงหน้าว่าสำนักเกาซิ่งในเวลาสามปียิ่งใหญ่ได้เพียงนี้ก็เพียงแค่ราคาคุย เจ้าสำนักที่เหล่าศิษย์หลายรุ่นเรียกว่าปรมาจารย์ก็ยังหนุ่มแน่น จะมีฝีมือเพียงใดกัน ข้ากำลังคิดว่าประมือกับท่านคงไม่ต้องออกแรง ส่งป้ายสำนักมาแต่โดยดีแบบนี้นับว่าทำถูกแล้ว จึงจะได้ไม่ต้องมีใครบาดเจ็บ”แววตาเย้ยหยัน

ศิษย์หลายคนทิ้งกระบี่ทรุดกายลงด้วยความผิดหวัง บ้างก็ปาดน้ำตาและหยาดเหงื่อลงทุนปกป้องป้ายสำนัก บ้างก็คิดว่าข้าเหตุใดถึงได้โง่งมเสี่ยงตายฝ่าค่ายกลขึ้นมาบนเขาเพื่อมาคารวะปรมาจารย์โง่งมอย่างปู้ตานซินเป็นอาจารย์ ยังความผิดหวังเสียจริง มีเพียงหวังต้าฉินที่ยังมีสายตาเชื่อมั่นศรัทธาในอาจารย์เหมือนเดิมไม่แปรเปลี่ยน ปู้ตานซินเองยิ้มส่ายหน้าไปมาหาได้มีอาการเสียขวัญไม่ สีหน้ายังคงไม่แยแส ก็ในเมื่อเขารู้ดีว่าตัวเองเป็นต่อ

“เดือนจิ่วเยว่ ปกติข้าไม่รับศิษย์เพราะปิดปรับปรุงค่ายกลที่พวกท่านขึ้นมาได้ เพียงเพราะข้าปิดค่ายกลเสียครึ่งหนึ่งในเดือนนี้ เพราะอย่างนี้จึงจะบอกว่าเสี่ยวงตายขึ้นมาก้ไม่ใช่ค่ายกลถูกปิดเปิดตามใจข้า อีกอย่างอยากจะได้ป้ายสำนักราคาถูกที่ข้า... ซื้อจากตลาดด้านล่างแล้วสั่งให้ช่างแกะสลักเพียงไม่ถึงชั่วยาม ก็บอกกันดีๆ ข้าสั่งให้ศิษย์ของข้าที่มีวรยุทธ์สูงส่งผ่าค่ายกลนำป้ายสำนักไปมอบให้กับท่านอาวุโสเง็กเต็กไม่จำเป็นต้องแบกสังขารขึ้นมาเอง”

“เจ้า…. ป้ายสำนักเป็นของสำคัญเช่นไรจึงพูดแบบนี้ ”

ผู้อาวุโสเง็กเต็กเลือดขึ้นหน้าเหมือนถูกตบหน้าด้วยวาจาเชือดเฉือน

“เฮ้อ ความจริงป้ายไม้อันนี้มองไปก็สวยดี ทรงคุณค่าไม่น้อย แต่ติดที่เก่าไปหน่อย หลายเดือนมานี้ข้าว่างจึงได้รังสรรค์หยกชั้นดีจากหุบเขาเซียน มาแกะป้ายสำนักเสียใหม่ งดงามยิ่ง ข้าเองรอวันที่จะปลดป้ายอันเก่าลงพอดี ในเมื่อมีคนฟันฝ่าค่ายกลขึ้นมารับมันนับว่าดีต่อใจข้าไม่น้อย หวังต้าฉินไปหยิบป้ายหยกที่ห้องอาจารย์มาแขวนแทนป้ายไม้สัปปะรังเคนั้นเสีย”

 อาวุโสเง็กเต็กกระอักเลือดสดๆ ออกมาด้วยความโมโหสุดขีดจะเป็นด้วย โดนค่ายกลเล่นงานหรืออาจเป็นเพราะ เส้นโลหิตแตกไปแล้วก็ ไม่อาจคาดเดา เหล่าศิษย์ของหงซิ่งต่าง ช่วยกันพยุง

ป้ายหยกชื่อสำนักเกาซิ่งอันใหม่งดงามด้วยฝีมือแกะสลักของปู้ตานซิน งดงาม วิ้งวับ ในสายตาของบรรดาศิษย์ทั้งหลาย ปู้ตานซินรับมาไว้ในมือทะยานขึ้นไปบน หลังคาสูงแขวนป้ายหยกไว้เห็นเด่นเป็นสง่างดงามแวววาวสวยกว่าของเก่าที่ขมุกขมอม

“ปะปะ ไปชิงป้ายหยกอันนั้นมา”

อาวุโสเง็กเต็กยังไม่วาย

“หวังต้าฉินอาจารย์กระหายอยากจะดื่มชา”

ท่ามกล่างสายตา งงงันของคนทั้งหลาย แต่ปู้ตานซินกลับเพียงว่าท่าให้สง่างาม เหมือนเทพสวรรค์มิได้ความรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึง หวังต้าฉินไปยกจอกชามาก่อนจะนั่งลงบีบนวดให้กับปู้ตานซิน

เหล่าศิษย์หงซิ่งกระโดดตามขึ้นไปหมายปลดป้าย แต่มีบางอย่างที่ผลักร่างของเหล่าศิษย์ที่ทะยานเข้าไปไม่แม้แต่จะเข้าใกล้

“ข้า ส่งพลังยุทธ์หมุนเวียนอยู่ในป้ายหยก หากข้าไม่อนุญาตใครก็ไม่บังอาจแตะต้องป้ายชื่อสำนัก พวกเจ้าต่อไปก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาปกป้องป้ายสำนักให้วุ่นวายเอาเวลาไปฝึกปรือวิชาของสำนักเราจะได้เก่งเหมือนอาจารย์จะดีไม่น้อย”

เหล่าศิษย์ต่างยิ้มย่อง อาวุโสเง็กเต็กหมดสติไปแล้ว ปู้ตานซินกวักมือเรียกสองเด็กน้อยทั้งสอง

“จูจ้าน ยกอาหารสำหรับศิษย์น้องกับอาจารย์ข้าหิวเต็มทนแล้ว หวังต้าฉิน เปิดทางส่งคนลงเขา ขึ้นมาก็สะบักสะบอมหากไม่ฝึกยุทธ์กับข้าเป็นเวลาหนึ่งปีเกรงว่าจะผ่านค่ายกลของเกาซิ่งไปไม่ได้เกรงว่าอาวุโสเง็กเต็กอาจสิ้นชื่อเช่นนั้นให้คนนำป้ายและเปิดทาง”

หวังตาฉินยิ้ม ผายมือเชิญเหล่าศิษยานุศิษย์ของหงซิ่งที่ หันหน้าหันหลังเลิ่กลักหวาดกลัวและไม่แน่ใจบางคนถึงกับทรุดกายลง คุกเข่าตรงหน้าปู้ตานซิน

“ข้าน้อยคารวะอาจารย์”หลายคนเริ่มลังเลไม่ยอมลงเขายินดีคารวะปู้ตานซินเป็นอาจารย์ทว่า

“เดือนจิ่วเยว่ข้าไม่รับศิษย์ รอเดือนต่อไปฝึกปรือตัวเองให้กล้าแกร่งค่อยขึ้นมาคารวะข้ายังไม่สาย” 

หวังต้าฉินผายมือเชิญอีกครั้ง

เหล่าศิษย์ของเกาซิ่งล้วนยืดอกด้วยความภาคภูมิ ที่ได้เป็นศิษย์ของปรมาจารย์ปู้ตานซิน ไอ้ความคิดเมื่อครู่ที่คิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรบัดนี้กลับเปลี่ยนเป็นความคิดที่ว่าตัวเองโชคดีที่ได้เป็นศิษย์ของปู้ต้านซิน

นับแต่วันนั้นเรื่องการขึ้นเขาชิงป้าย ล้วนเป็นเรื่องเล่าสุดฮา ใครบ้างไม่เคยได้ยิน แล้วใครบ้างไม่อยากเล่าต่อ เรื่องเล่าเกินจริงยังไม่หมดแค่นั้นบางคนถึงกับบอกว่าอาวุโสเง็กเต็กถึงกับกระอักเลือดเพียงแค่ปู้ตานซินยิ้ม ช่างเป็นเรื่องเล่าที่ขจรไปไกล ต่างแคว้นต่างสำนักล้วนได้ยินเรื่องเล่าขบขันนี้และยังจะกลายเป็นเรื่องเล่าที่ต่อเติมเสริมแต่งให้ผู้ฟังสนุกสนานและ สร้างชื่อเสียงให้กับ ปู้ตานซินและสำนัก..เกาซิ่ง..

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • สิ้นสุดปลายฟ้าไม่กล้าหวนคืน   ตอนพิเศษเวิ่นเวอร์

    หย่างหว่าน กับเริ่นเจินเดินลัดเลาะทุ่งหญ้ากว้างออกเดินทางรอนแรมตามหาท่านปรมาจารย์กกก๋งมานานนับเดือนแต่ไร้วีแวว หุบเขาชุมนุมเซียนที่สูงตะหง่านที่แห่งเดียวที่หย่างหว่านยังมาไม่ถึง“มีเคล็ดวิชาก็ดีสินะอย่างน้อยก็ไม่ต้องเดินให้เหนื่อย”เรินเจิ่นพูดขึ้นดังๆ เดินเลาะหน้าผาสูงน่าหวาดกลัว“เคล็ดวิชามีผู้สือบทอดก็ต้องมีผู้ริเริ่มคิดค้น เรินเจิ่นเจ้าเหมาะที่จะริเริ่มเคล็ดวิชาใหม่ๆ”“หือเช่นนั้นข้าก็จะได้เป็นปรมาจารย์เลยใช่ไหม”“ก็เหมาะอยู่นะ ศิษย์พี่กำลังคิดว่า การริเริ่มคิดวิชาต่างๆก็ต้องคนที่มีแรงใจในการฝึกฝนและฝึกปรือ”“คิดถึงอาจารย์จริงๆหากอาจารย์อยู่คงให้คำปรึกษาได้ดีกว่านี้แน่”หย่างหว่านยิ้มเศร้าผ่านไปนานแสนนานแล้วแม้ความเศร้าไม่มากเท่ากับวันแรกๆแต่ก้ยังคงคิดถึงอาจารย์ผู้ที่สูงส่งบริสุทธิ์คนนั้น ป่านนี้กำลังทำอะไรอยู่จะหาทางกลับมาเหมือนที่ศิษย์พี่หวังตาฉินพูดไว้หรือเปล่าแล้วทำไมยังไม่มา ถึงจะคิดว่าแค่คำลวงให้หายเศร้าโศกแต่ก็พอให้ได้ชื่นฉ่ำหัวใจ“ศิษย์พี่ ถ้าเราได้เคล็ดวิชามาจากอาจารย์ปู่กกก๋งบางทีข้าอาจท่องกาลเวลา เพื่อหาวิธีริเริ่มเคล็ดวิชาดีไหม”“เรื่องนี้เกินความคาดเดาของศิษย์พี่เรินเจ

  • สิ้นสุดปลายฟ้าไม่กล้าหวนคืน   ใครกันมีรอยยิ้มก่อนใครกัน

    “อาจารย์อา..อาจารย์อา...จะต้องตบตูด หยางหว่านให้หลับไปไม่อย่างนั้นข้าก็จะนอนไม่หลับ”หยางหว่านในวัยสี่ขวบพูดเจื้อยแจ้ว“ข้ารู้แล้ว ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาข้ารู้แล้วว่าจะต้องตบตูดให้พวกเจ้านอนกันเสีย พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าสองคนชมสำนักเกาซิ่ง”จี้โม๋น้อยยิ้มหวาน“อาจารย์อา ข้าเพิ่งจะพบกับศิษย์พี่ เจวียนจิ่วหยา นางอายุอานามไม่ต่างจากเรา อาจารย์ยอมให้นางดื่มน้ำสาบานเป็นสหายข้าสองคนจะได้ไหม”ปู้ตานซินยิ้มลูบหัวจี้โม่กับหยางหว่านพร้อมกันเบาๆ“มานี่เพื่อศึกษาเคล็ดวิชา อาจารย์ไม่ได้พาพวกเจ้ามากักขังเสียหน่อย แค่เพียงดื่มน้ำร่วมสาบานเป็นสหาย ไม่ได้ฆ่าคนวางเพลิง พรุ่งนี้ให้ศิษย์พี่หวังต้าฉินจัดการเรื่องนี้ให้พวกเจ้าทั้งสามคน”“อาจารย์ศิษย์น้องจี้โม๋ ดื่มน้ำสาบานเป็นสหายกับเจวียนจิ่วหยา ข้าหยางหว่านอยากดื่มน้ำสาบานเป็น ภรรยาอาจารย์คอยดูแลอาจารย์ต่อจากนี้จะดีไหม”ปู้ตานซินยิ้ม ก้มลงจุมพิตหน้าผากของ หยางหว่านเบาๆ นี่เขาเลี้ยงต้อยศิษย์ไว้เพื่อเป็นภรรยาหรือไร“ได้สิอาจารย์มัดจำไว้ด้วยจูบนี้ที่หน้าผากเจ้า อีกสิบปีจึงแต่งเป็นภรรยาอาจารย์จะดีไหม”หยางหว่านยิ้ม จี้โม๋เบ้ปากอมยิ้ม ปู้ตานซินถอนหายใจเอนกายลงพิง

  • สิ้นสุดปลายฟ้าไม่กล้าหวนคืน   กวงเสี่ยวอึ้ง

    กวงเสี่ยวอึ้งเอ๊ยกวงเสี่ยวอึ้งเจ้าพลาดเสียแล้ว มาครั้งนี้หยางหว่านจะจับให้มั่นคั้นให้ตายเสียจะได้ไม่ต้องผิดพลาดเหมือนที่ผ่านมา“เจ้ามีนางร่วมเดินทาง ข้าเองก็มีนางมารน้อยผู้หนึ่งร่วมเดินทางเช่นกัน”หยางหว่านเลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นว่า ร่างบางของอีกคนในอาภรณ์ของบุรุษนั่นคือเจวียนจิ่วหยานั่นเอง“เจวียนจิ่วหยาคารวะท่านพี่ทั้งสองข้าเองตั้งใจท่องยุทธภพกับฉูฉางท่านนี้”“ข้าเองก็ยากที่จะสลัดนางหลุดได้เช่นกัน กวงเสี่ยวอึ้งเราสองคนล้วนมีชะตากรรมเดียวกัน นางมารนี่ตามข้าไม่หยุด”หยางหว่านยิ้มเคล็ดวิชาเปลี่ยนใจคงจะต้องได้ใช้ในอีกไม่นานนี้ในเมื่อตอนนี้ฉูฉางไม่ได้มีใจให้กับเจวียนจิ่วหยาแต่ก่อนจะใช้ต้องอาศัยลิขิตสวรรค์ดูก่อนจึงดี และกวงเสี่ยวอึ้งเองในใจเขาคิดเช่นไร หยางหว่านไม่อาจรู้ได้คงต้องรอให้สวรรค์เป็นผู้กำหนดต่อจากนี้สามปีผ่านไป“กงล้ง ฉูฉางสำเร็จเคล็ดวิชาของสำนักกระบี่ฟ้าแล้วหวังว่าเจ้าทั้งสองจะนำเคล็ดวิชาเหล่านี้ ไปสืบทอดให้กับศิษย์น้องรุ่นต่อๆ ไป”“น้อมคำสั่งอาจารย์”ทั้งสองประสานมือพร้อมกันก่อนจะหันมายิ้มให้กันทั้งคู่“ข้า เพื่อจะบอกกับท่านกงล้งว่าข้ามาถึงเวลาที่ต้องบอกลา เพื่อที่จะใช้โอกาสนี้ท่

  • สิ้นสุดปลายฟ้าไม่กล้าหวนคืน   สวยงาม

    “เคล็ดวิชาท่องกาลเวลา ในยุทธภพนี้มีข้า ปรมาจารย์เตี่ยงเลี่ยงและอาจารย์เจ้าเท่านั้นที่สามารถใช้มันได้ ปู้ตานซินแต่เดิมมีเคล็ดวิชาอ่านใจผู้คน แต่เขาเก็บงำเป็นความลับแต่เมื่อเขาสละร่างไปแล้ว ข้าจึงไม่จำเป็นต้องรักษาความลับให้เขาอีกต่อไป ข้ากับปรมาจารย์เตี่ยงเลี่ยงได้เคล็ดวิชาจากอาจารย์มาต่างกันออกไป เคล็ดวิชาของข้า ที่จะมอบให้เจ้าคือเคล็ดวิชาเปลี่ยนใจผู้คน” (จำได้ไหมตอนที่กกก๋งไปคุยกับปู้ตานซิน ทีแรกปู้ตานซินไม่อยากย้อนไปในตอนที่ต้นเรื่องเขากับฉูฉางแต่ท่านปรมาจารย์กกก๋งใช้เคล็ดวิชาเปลี่ยนใจคนกับปู้ตานซิน)“อาจารย์ปู่ท่าน จะถ่ายทอดเคล็ดวิชาทั้งสองให้ข้าได้หรือไม่”ปรมาจารย์กกก๋งหลับตาลงช้าๆ“อาจารย์เจ้าสละร่างไปแล้ว เคล็ดวิชาท่องกาลเวลาข้าไม่อาจถ่ายทอดให้ได้ทั้งหมดเจ้าจะต้องศึกษาเองเพียงลำพัง แม้แต่บิดาเจ้าป้อก้านยังไม่อาจได้ไปครอบครอง เจ้าแน่ใจหรือว่าจะสามารถสำเร็จเคล็ดวิชาได้ ส่วนเคล็ดวิชาเปลี่ยนใจคนนั้น ตอนนี้ข้าไร้ผู้สืบทอดจึงอาจจะยอมมอบมันให้เจ้าเพื่อสืบทอดต่อไป”“ตกลงข้ายินดีให้เจ้าไปด้วย”หยางหว่านใช้เคล็ดวิชาเปลี่ยนใจกับกวงเสี่ยวอึ้ง หยางหว่านบ่นเบาๆ“เจ้ายังอ่อนหัดนักกวงเสี่ยวอึ้งเ

  • สิ้นสุดปลายฟ้าไม่กล้าหวนคืน   หวนคืน

    “หากท่านพบอาจารย์ ช่วยบอกอาจารย์ด้วยว่า ...ข้าขอโทษและขอบคุณสำหรับทุกอย่าง”รอยยิ้ม หม่นหมองของเจวียนจิ่วหยาที่หยางหว่านไม่เคยเห็นมาก่อน หยางหว่านโอบรอบตัวของเจวียนจิ่วหยา“เราสองคนต่างเป็นคนที่หวังดีต่อท่านปรมาจารย์ปู้ตานซิน ศิษย์พี่ท่านคงไม่ว่าหากข้าจะบอกว่าข้าเองก็ชอบท่านปรมาจารย์ปู้ตานซินเช่นกันแต่เมื่อข้าเห็นว่าท่านร้องไห้ปานจะขาดใจ เมื่อท่านปรมาจารย์จากไปถึงได้เข้าใจว่าถึงข้าจะชอบท่านปรมาจารย์เพียงใดก็คงไม่เท่ากับที่ท่านรักท่านปรมาจารย์ปู้ตานซิน” หยางหว่านยิ้มบางๆ“ข้ายินดีหากพบอาจารย์จะเร่งบอกเขาตามที่เจ้าต้องการ”“เริ่นเจินเจ้าเดินทางพร้อมกับศิษย์พี่เพื่อพบกับอาจารย์ปู่กกก๋ง ศิษย์พี่ข้าลาแล้ว”หยางหว่านและเริ่นเจิน ประสานมือตรงหน้าหวังต้าฉิน“ศิษย์น้อง ศิษย์น้องหลงตั๋วได้ส่งคนของเขาให้ติดตามเจ้าไปในครั้งนี้ด้วย”หลงตั๋วยิ้มอยู่ไม่ห่าง“ศิษย์น้องเจ้าไม่น่าต้องลำบาก”“ศิษย์พี่เกรงใจไปแล้วความจริงข้าอยากติดตามท่าน ผิดที่ชายาเอกของข้ากำลังตั้งครรภ์จึงไม่อาจช่วยแบ่งเบาท่านได้ ข้าเพียงแต่หวังว่าท่านจะพบอาจารย์ปู่โดยเร็ว”คนมาส่งพร้อมหน้า คนกำลังจะจากไปก็พร้อมแล้ว จี้โม๋ยิ้มในร่างของฉ

  • สิ้นสุดปลายฟ้าไม่กล้าหวนคืน   พิเศษ

    “ศิษย์น้องหยางหว่านอาจารย์ให้ข้าผนึกเจ้าเสีย”“ศิษย์พี่ต้าฉิน หยางหว่านไร้คำกล่าวใดหากไร้ซึ่งอาจารย์ข้าก็ไม่อาจมีชีวิต”“ข้าเสียใจไม่น้อยไปกว่าเจ้าแต่ด้วยคำสั่งเสียของอาจารย์นับต่อแต่นี้เจ้าจงอยู่ในผนึกรอเพื่อจอมมารฉูฉางที่กำลังจะฟื้นกำลังขึ้นมาไม่อาจหาเจ้าจนพบ ข้ากับเหล่าจอมยุทธ์คงต้องเผชิญชะตากรรมกันเพียงลำพังต่อแต่นี้ อีกกี่ปีจึงจะมีผู้ที่สามารถผนึกฉูฉางไว้ได้อีก”“ไม่สู้ข้าตายไปเลยไม่ดีกว่าหรือ ที่จะต้องกลายเป็นมารเช่นเดียวกับฉูฉาง”หยางหว่านพูดขึ้นดังๆ“ครั้งนั้นเป็นเพราะจอมมาร ใช้วิชาสลายความจำของเจ้า จึงทำให้เจ้า ทำผิดพลาดไปช่วยคัดคนบริสุทธิ์ให้จอมมารดื่มเลือดสูบเนื้อ”“ควรเป็นข้าที่ต้องตาย คนเช่นอาจารย์ไม่ควรที่จะต้องมาสละร่าง ศิษย์พี่ท่านฆ่าข้าเสียอย่าต้องใช้ลมปราณของท่านโดยเปล่าประโยชน์เพื่อผนึกข้าอีกเลย”“หยางหว่าน อาจารย์ให้ผนึกเจ้าเพื่อที่รอคอยว่าอาจารย์จะหวนคืนอีกครั้ง”หยางหว่านหลับตาไล่หยาดน้ำตา“ศิษย์พี่ อาจารย์ให้ท่านมาล่อหลอกข้าใช่หรือไม่ หยางหว่านมิใช่เด็กสี่ขวบเช่นตอนที่พบอาจารย์ในครั้งแรก ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่า อาจารย์ไม่มีทางหวนคืนท่านฆ่าข้าเสียจึงดี ข้าคือสาเหตุทั้ง

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status