Share

บทที่ 3

Penulis: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 3

สวีเหยียนซีกำหมัดแน่นจนเล็บแทบจะจิกเข้าไปในเนื้อ พยายามทำให้เสียงดูสงบที่สุด “พี่ใหญ่ ขอบคุณที่บอกเรื่องพวกนี้กับฉันนะคะ”

แต่สวีเหยียนเช่อก็ยังฟังออก น้ำเสียงของเขาจึงเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน “ซีซี อย่าโทษพี่เลยนะ เธอเป็นน้องสาวที่โตมาด้วยกันกับพี่ พี่อยากให้เธอเจอแต่ผู้ชายดี ๆ ไม่ใช่ไอ้สารเลวที่หลายใจแบบนี้”

คำพูดนี้ทำให้สวีเหยียนซีรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเสแสร้งสิ้นดี

ทั้ง ๆ ที่เขากำลังช่วยสวีหว่านหนิงแย่งฉินเซียวไปจากเธอ แต่กลับต้องพูดจาดี ๆ แบบนี้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นพี่ชายที่แสนดี

เธอหลับตาลงพลางหายใจเข้าลึก ๆ และตัดสินใจขั้นเด็ดขาดในที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นตระกูลสวีหรือฉินเซียว พวกเขาก็เหมือนขยะ

เธอไม่ต้องการขยะเหล่านี้

“ซีซี...”

“พี่ใหญ่คะ ฉันง่วงมากแล้ว เรื่องอื่นไว้คุยกันพรุ่งนี้เถอะค่ะ” สวีเหยียนซีพูดอย่างเย็นชาและวางสายทันที

สวีเหยียนเช่อโทรมาอีกครั้ง แต่เธอก็เลือกที่จะปฏิเสธ

เธอนั่งอยู่บนโซฟาเพื่อปรับอารมณ์อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หาชื่อหนึ่งในรายชื่อในโทรศัพท์

——จ้าวจวิ้นโจว

เธอส่งข้อความไปหาเขาว่า [คุณจ้าวคะ ข้อตกลงเมื่อสามปีก่อนยังใช้ได้อยู่ไหมคะ?]

ตอนนี้เป็นเวลาตีสอง แน่นอนว่าสวีเหยียนซีไม่ได้คาดหวังว่าจ้าวจวิ้นโจวจะตอบกลับมาทันที

ขณะที่เธอกำลังจะลุกขึ้นกลับห้องนอน โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เมื่อเห็นชื่อจ้าวจวิ้นโจวบนหน้าจอโทรศัพท์ หัวใจของสวีเหยียนซีก็เต้นแรงขึ้นมาทันที

“สวัสดีค่ะ คุณจ้าว”

“ถ้าผมจำไม่ผิด วันนี้คุณกับฉินเซียวเพิ่งจดทะเบียนสมรสกัน” เสียงของชายหนุ่มทุ้มต่ำแฝงไปด้วยความรู้สึกสบาย ๆ และแหบแห้งเล็กน้อย

คำพูดเย้าแหย่ของเขาทำให้ใบหน้าของสวีเหยียนซีแดงระเรื่อโดยไม่รู้ตัว

ในฐานะลูกสาวของตระกูลสวี เธอถูกกำหนดไว้ว่าไม่ต้องสร้างอาชีพใด ๆ เพียงแค่เรียนดนตรี การวาดภาพ การเขียน และการเล่นหมากรุก ให้เป็นกุลสตรีที่ดีก็พอ

ดังนั้นสวีเหยียนซีจึงถูกจัดให้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมายตั้งแต่เด็ก และสิ่งที่เธอถนัดที่สุดคือการออกแบบสถาปัตยกรรม การแปลภาษาต่างประเทศ และการร้องเพลง

ความจริงแล้วตอนที่เธอรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ ๆ เธอก็เริ่มวางแผนให้กับตัวเองอย่างลับ ๆ นั่นคือการเป็นครูสอนร้องเพลง และเธอก็บังเอิญพบกับจ้าวจวิ้นโจวครั้งหนึ่งในบ้านของนักเรียน

ตระกูลจ้าวเป็นหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจมากที่สุดในเมืองจิง จ้าวจวิ้นโจวเป็นผู้ชายที่ยืนอยู่บนยอดพีระมิดตั้งแต่เกิด

สวีเหยียนซีจึงพยายามหลีกเลี่ยงเขา แต่เขากลับมักปรากฏตัวต่อสายตาของเธอโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยเสมอ

เธอรู้ดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่ควรเกิดขึ้น เธอจึงปฏิเสธเขาอย่างชัดเจนและเด็ดขาด

ตอนนั้นจ้าวจวิ้นโจวไม่ได้โกรธเคืองที่ถูกเธอปฏิเสธ แต่กลับยิ้มและพนันกับเธอ เขาบอกว่าเธอกับฉินเซียวจะไม่มีอนาคตที่ยั่งยืนด้วยกัน คำพูดนี้ทำให้เธอโกรธและในที่สุดเธอก็ยอมรับการเดิมพันของเขา

ภายในสามปี ถ้าเธอกับฉินเซียวไม่มีอนาคตร่วมกัน เธอจะต้องเข้าร่วมทีมสถาปนิกของเขา

ตอนกลางวัน เธอยังจงใจโพสต์รูปทะเบียนสมรสลงในไทม์ไลน์เฟสบุ๊ค และผู้ชายคนนี้ก็เป็นคนแรกที่กดไลก์

ใครจะไปคิดว่าในคืนเดียวกันนั้น เธอจะถูกตบหน้าอย่างจัง

สวีเหยียนซีไม่มีทางเลือกอื่น

เธอต้องการที่จะหลุดพ้นจากตระกูลสวีอย่างสมบูรณ์ เธอต้องสร้างรากฐานที่มั่นคงในเมืองจิง และเธอต้องการคนที่แข็งแกร่งกว่ามาเป็นที่พึ่ง

“ทะเบียนสมรสก็สามารถกลายเป็นใบหย่าได้ค่ะ” สวีเหยียนซีเอ่ย

จากนั้นเสียงหัวเราะเบา ๆ ของชายหนุ่มก็ดังออกมาจากโทรศัพท์ “สวีเหยียนซี การเดิมพันครั้งนี้ของคุณดูเหมือนจะยิ่งใหญ่ไปหน่อยนะ”

สวีเหยียนซีเงียบไป

“คฤหาสน์จวี๋ซาน คุณมาที่นี่เดี๋ยวนี้เลย”

เมื่อได้ยินดังนั้น เธอก็ตกใจ “ตอนนี้เหรอคะ?”

จ้าวจวิ้นโจวตอบอืมก่อนพูดว่า “มาช้าก็ไม่รอแล้วนะ คุณสวี”

สวีเหยียนซีเม้มริมฝีปาก “ได้ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย”

หนึ่งชั่วโมงต่อมา เธอก็ขับรถมาถึงคฤหาสน์จวี๋ซาน ซึ่งเป็นคฤหาสน์ส่วนตัวของจ้าวจวิ้นโจวที่มีมูลค่า 2,900 ล้านบาท

ภายในคฤหาสน์สว่างไสว ทันทีที่เธอเข้ามาก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น

เมื่อเดินมาถึงห้องรับแขก สิ่งแรกที่เธอเห็นคือชายหนุ่มที่สวมชุดนอนผ้าไหมหลวม ๆ นั่งอยู่กลางโซฟา เขามีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลามาก เส้นกรามที่คมสวยทอดยาวลงไปที่กระดูกไหปลาร้า ทำให้เขามีเสน่ห์ที่ชั่วร้ายมากขึ้น

เมื่อคนอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องเดินออกไป

จ้าวจวิ้นโจวยกคางขึ้น “นั่งสิ”

“ขอบคุณค่ะ” สวีเหยียนซีนั่งบนโซฟาเดี่ยว บนโต๊ะกาแฟมีเอกสารข้อตกลงฉบับหนึ่งวางอยู่

“ก่อนที่จะเซ็นสัญญา คุณซูควรจะขอโทษผมสำหรับคำพูดที่ไม่ระมัดระวังเมื่อสามปีก่อนไหม?” ดวงตาของจ้าวจวิ้นโจวที่แฝงด้วยรอยยิ้มของจ้าวจวิ้นโจวเหมือนกับเสือดำที่ซุ่มซ่อนอยู่ในยามค่ำคืน ลึกล้ำและอันตราย

“ก่อนจะขอโทษ ฉันขอถามคำถามหนึ่งได้ไหมคะ”

“เชิญ”

“เมื่อสามปีก่อน คุณจ้าวได้แอบสืบประวัติของฉินเซียวใช่ไหมคะ?”

“ตอนนี้คำถามนี้ดูเหมือนจะไม่มีความหมายแล้วมั้ง”

“มีค่ะ” สวีเหยียนซีพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

จ้าวจวิ้นโจวยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ใช่ ผมสืบมาแล้ว ทำไมเหรอ คุณจะถามหาความรับผิดชอบจากผมว่า ทำไมตอนนั้นถึงไม่บอกคุณตรง ๆ เหรอ? ผมอยากจะบอกคุณเหมือนกันนะ แต่ตอนนั้นคุณระวังตัวกับผมมากขนาดนั้น ต่อให้ผมเอาหลักฐานมาวางตรงหน้า คุณก็คงจะคิดว่าผมกุเรื่องขึ้นมาอยู่ดีใช่ไหม?”

“...” เธอปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนั้นเธอคงคิดแบบนั้นจริง ๆ

เพราะคนที่มีฐานะอย่างจ้าวจวิ้นโจวแล้ว การทำอะไรก็ตามมันเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเขาไปหมด

หลังจากเงียบไปนาน เธอก็พูดสามคำออกมาอย่างจริงใจ “ขอโทษค่ะ”

คิ้วของชายหนุ่มโค้งเป็นรูปพระจันทร์ ทำให้ดูเหมือนว่าอารมณ์ของเขาดีขึ้น “จะพร้อมทำงานเมื่อไหร่?”

“วันมะรืนนี้ค่ะ”

-

หลังจากเซ็นสัญญากับจ้าวจวิ้นโจวเสร็จ สวีเหยียนซีก็กลับมานอนหลับทันที

เช้าวันรุ่งขึ้น เธอตื่นขึ้นมาเพราะกลิ่นหอมของอาหาร เธอรู้สึกปวดศีรษะอย่างหนักเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอทั้งคืน

เธอเดินออกจากห้องด้วยสภาพที่ไม่สดชื่น และเห็นฉินเซียวที่สวมผ้ากันเปื้อนอยู่ในครัว กำลังทำอาหารเช้าให้เธอเหมือนปกติ

“ตื่นแล้วเหรอ ไปล้างหน้าแปรงฟันเร็วเข้า อาหารเช้ากำลังจะเสร็จแล้ว มีแต่ของที่คุณชอบทั้งนั้นเลย”

เมื่อเห็นการกระทำที่ดูอบอุ่นของผู้ชายคนนี้ สวีเหยียนซีก็ไม่ลังเลอีกต่อไป มีแต่ความรู้สึกตลกและเสแสร้งเท่านั้น

เธอได้รู้จักเขาในมุมมองใหม่

ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารเวลาและนักแสดงยอดเยี่ยม

หลังจากล้างหน้าเสร็จ เธอก็นั่งลงด้วยสีหน้าเรียบเฉย จากนั้นฉินเซียวก็ตักโจ๊กและตักกับข้าวให้เธอ

“ที่รัก ผมมีเรื่องจะปรึกษาหน่อย”

สวีเหยียนซียังไม่ทันได้หยิบตะเกียบขึ้นมา เธอก็เหลือบมองเห็นสีหน้าสำนึกผิดของเขา “มีอะไรเหรอ?”

ฉินเซียวเอ่ยว่า “บริษัทมีเรื่องด่วนหลายอย่างรอให้ผมเข้าไปจัดการ แผนการไปฮันนีมูนอาจจะต้องเลื่อนออกไปก่อน แต่ก็ต้องถามความเห็นของคุณ ถ้าคุณอยากไปจริง ๆ ผมจะให้ผู้ช่วยเตรียมเอกสารงานไปด้วย ถ้า...”

“คุณเพิ่งได้รับอำนาจมาไม่เท่าไหร่ ตอนนี้ไปฮันนีมูนก็ไม่เหมาะสมจริง ๆ” เธอรู้ว่าเขากำลังหาข้ออ้างอยู่ แต่อย่างไรพวกเขาก็กำลังจะหย่ากัน การไปฮันนีมูนก็ไม่จำเป็นอยู่แล้ว

ฉินเซียวจับมือของเธอด้วยความรักอย่างลึกซึ้งและจริงใจ “ที่รัก ผมรู้ว่าคุณเข้าใจผมดีที่สุด เรื่องของสวีหว่านหนิงไม่ต้องห่วงนะ ผมจะจัดการให้เรียบร้อย วันนี้ผมจะให้คนสองคนช่วยขนของของคุณไปที่เรือนหอ”

สวีเหยียนซีดึงมือกลับอย่างรังเกียจ แล้วหยิบตะเกียบขึ้นมาทาน “ไม่ต้อง ฉันจัดการเองได้ แต่ตอนเที่ยงฉันอยากจะ...”

ก่อนที่เธอจะพูดจบ โทรศัพท์ของฉินเซียวก็ดังขึ้น

เขาหยิบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่สวีเหยียนซีก็เหลือบเห็นคำว่าหนิง

“ผู้ช่วยโทรมาน่ะ ที่รัก ทานอาหารเช้าตามสบายนะ ผมต้องไปแล้ว” ฉินเซียวอธิบายอย่างรีบร้อน ไม่กล้าแม้แต่จะมองตาของสวีเหยียนซี เขาคว้าเสื้อสูทแล้วรีบออกไปทันที

เมื่อประตูปิดลง สวีเหยียนซีก็วางตะเกียบลงเช่นกัน

เธอหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา ซึ่งกำลังสั่นพอดี ทันทีที่เปิดดูก็เห็นรูปสวีหว่านหนิงนั่งอยู่บนกระโปรงหน้ารถ Porsche SUV ของฉินเซียว

สวีหว่านหนิงส่งข้อความมายั่วยุอีกว่า [สวีเหยียนซี เธอคงไม่ใจกว้างถึงขนาดที่จะยอมใช้ผู้ชายคนเดียวกันกับฉันหรอกนะ]

น่าขยะแขยง!

สวีเหยียนซีเพิกเฉยต่อข้อความของเธอ ในขณะเดียวกันก็ส่งข้อความไปหาฉินเซียว [เที่ยงนี้กลับมาที่บ้านด้วยนะ]

ฉินเซียวตอบกลับมาทันที [ได้เลยครับ ที่รัก]
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 96

    บทที่ 96“มึงมันเหี้ย!”สวีเหยียนซีด่าคำหยาบอย่างชัดถ้อยชัดคำจนทำให้ใบหน้าของสี่คนที่อยู่ไม่ไกลแสดงความประหลาดใจออกมาในระดับที่แตกต่างกันสวีเหยียนซีมีใบหน้าสวยโดดเด่น ปกติจะมีกิริยามารยาทงดงามตามธรรมชาติ ความประทับใจแรกที่ทุกคนเห็นเธอคือเป็นลูกคุณหนูจากตระกูลใหญ่แต่เมื่อเธอพูดคำหยาบ มันกลับดูแตกต่างอย่างไม่น่าเชื่อจ้าวจวิ้นโจวยกยิ้ม นั่นแหละถึงจะดูเหมือนคนกำลังโกรธดวงตาของสวีเหยียนซีฉายแววตาเย็นชา “เรื่องนี้ ฉันจะจำคุณไปตลอดชีวิต!”“ไม่นะ!” ฉินเซียวคว้ามือเธอไว้ “ผมผิดไปแล้ว เสี่ยวซี! ผมจะไปหาหมอที่เก่งที่สุดในโลกมารักษาอาจารย์ถังเดี๋ยวนี้ ผมจะขอโทษเขา ผมจะหาทางชดเชยให้แน่นอน ได้โปรดอย่าโกรธผมเลยนะ อย่าไม่สนใจผม”เมื่อเห็นฉากนี้ ใบหน้าหล่อเหลาของจ้าวจวิ้นโจวก็เย็นชาลงทันทีเขาสาวเท้าเดินเข้าไปเมื่อลู่อวี่ที่กำลังโมโหอยู่เห็นว่าเจ้านายของเขากำลังจะไปเป็นฮีโร่ช่วยสาวงาม เขาก็ตามไปอย่างตื่นเต้น “บอสไปแล้ว เราก็ไปเหมือนกัน!”ทว่าฟางห่าวและอู๋เสว่นีกลับจับแขนเขาคนละข้างอย่างรู้ใจฟางห่าวพูดว่า “แค่บอสก็พอแล้ว”“โธ่เอ้ย คนเยอะก็มีพลังมาก พวกเราไปเป็นกำลังเสริมให้สถาปนิกสว

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 95

    บทที่ 95สวีหว่านหนิงส่ายหน้าอย่างบ้าคลั่งพลางมองฉินเซียวอย่างน่าสงสาร“พี่ฉินเซียว อย่าไปเชื่อที่พวกเขาพูดนะคะ ฉันไม่ได้ทำเลย! ไม่ได้ทำจริง ๆ!”ฉินเซียวจะไปเชื่อคำพูดของเธอได้อย่างไรเธอเป็นคนแบบไหน เขารู้ดีที่สุด“รู้ไหมว่าพ่อของเธอเพิ่งถูกควบคุมตัวเมื่อคืนนี้?” ฉินเซียวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ แทนที่จะอยู่อย่างสงบ เธอกลับเลือกที่จะทำเรื่องน่าอับอาย ถ้าพ่อฉันไม่สั่งให้ฉันมา เธอก็คิดเหรอว่าเรื่องไร้สาระของเธอแบบนี้ฉันอยากจะยุ่งด้วย?”คำพูดนี้เป็นการข่มขู่สวีหว่านหนิง แต่ก็เป็นการบอกสวีเหยียนซีทางอ้อมว่าเขาไม่ได้มาด้วยความสมัครใจสวีหว่านหนิงเม้มปาก น้ำตาเม็ดโตไหลลงมาไม่หยุด “พี่ฉินเซียว ฉันเป็นภรรยาของพี่นะคะ”“หุบปาก!” ฉินเซียวตะคอกใส่เธอด้วยความรำคาญ“คุณตำรวจจางครับ เราจะยืนดูละครรักที่นี่เหรอครับ?” จ้าวจวิ้นโจวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาตำรวจจางก็รู้สึกปวดหัวเช่นกัน เขาจึงส่งสายตาให้เพื่อนตำรวจคนอื่น ๆ แล้วสวีหว่านหนิงก็ถูกบังคับให้ควบคุมตัวไปเธอทั้งร้องไห้ทั้งเรียกหาพี่ฉินเซียว แต่ใครบางคนกลับไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเธอเลยจนกระทั่งเสียงของเ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 94

    บทที่ 94สวีเหยียนซีรู้สึกชาไปหมด “นี่คือคำชมเหรอคะ?”จ้าวจวิ้นโจวยิ้ม “ไม่งั้นล่ะ?”ไม่นานพวกเขาก็มาถึงสถานีตำรวจ และบังเอิญมากที่ฉินเซียวก็มาถึงเช่นกันเมื่อฉินเซียวเห็นพวกเขามาด้วยกัน ดวงตาที่ลุกเป็นไฟของเขาก็แทบจะทะลุเข้าไปร่างของจ้าวจวิ้นโจวเมื่อมองมาที่สวีเหยียนซี สายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความคับแค้นใจและเจ็บปวดดูยังไงก็เหมือนผู้หญิงที่ขี้น้อยใจสวีเหยียนซีรู้สึกรำคาญ จึงไม่มองตรง ๆ แต่ต่อให้อยากจะมองก็ไม่มีโอกาส เพราะจ้าวจวิ้นโจวเดินบังเธอไว้มิด และก้าวเท้าเข้าไปพร้อมกับเธอฉินเซียวกำหมัดแน่นและรีบตามไป ฟางห่าวเดินเข้ามาขวางหน้าเขาอย่างไร้เสียง “คุณชายรองฉิน ที่นี่คือสถานีตำรวจนะครับ”“ไม่ต้องให้นายเตือน” เขาแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะสาวเท้าก้าวเข้าไปข้างในเมื่อสวีเหยียนซีเห็นอู๋เสว่นีและลู่อวี่ก็พูดว่า “สถาปนิกอู๋ สถาปนิกลู่”ในขณะเดียวกัน สวีหว่านหนิงที่ได้ยินเสียงของเธอก็เดือดพล่านทันที เธอวิ่งออกจากห้องสอบสวนโดยไม่สนใจว่าตำรวจกำลังสอบปากคำเธออยู่เมื่อเห็นสวีเหยียนซี เธอก็แสดงสีหน้าดุดัน “สวีเหยียนซี!”สวีเหยียนซีตกใจที่ถูกเธอตะคอกใส่อู๋เสว่นีตะโกนว่า “สถาปนิกสวี

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 93

    บทที่ 93สวีเหยียนซีที่แปรงฟันอยู่ถึงกับหยุดชะงักทันทีอืม? หือ!?โหยวฉียังคงพูดต่อไป “เพราะมีคนไปขุดเรื่องที่เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับฉินเซียว แม้แต่รูปถ่ายสมัยมัธยมต้น มัธยมปลาย มหาวิทยาลัยของพวกเธอก็ถูกเอามาโพสต์ด้วย ดังนั้นพอเห็นชาวเน็ตคนนั้นพูด ทุกคนก็เริ่มเชื่อและเริ่มวิเคราะห์กันยกใหญ่”“แล้วสวีหว่านหนิงดันกระโดดเข้าไปด่าเอง เลยทำให้ทุกคนเชื่อว่าเธอคือคนที่เป็นมือที่สามจริง ๆ ฮ่า ๆ ๆ เธอโง่หรือเปล่านะ ขุดหลุมฝังตัวเองชัด ๆ”“ตอนแรกเป็นข่าวเรื่องบริษัทฮุ่ยตี๋เลี่ยงภาษี แต่ตอนนี้ในอินเทอร์เน็ตมีแต่คนด่าว่าเธอเป็นมือที่สามและด่าว่าฉินเซียวเป็นผู้ชายหน้าเหี้ย”สวีเหยียนซีหัวเราะอย่างจนใจ “ทำไมเธอถึงได้เอาตัวเองไปตายแบบนี้”โหยวฉียังคงหัวเราะไม่หยุด “ใช่ นี่เรียกว่าอะไรนะ ขุดหลุมฝังตัวเอง กรรมตามสนองแล้ว!”หลังจากวางสายจากโหยวฉี สวีเหยียนซีก็ทำอาหารเช้าง่าย ๆ แล้วนั่งทานไปพลางดูเนื้อหาในอินเทอร์เน็ตไปพลางมีข่าวมากมายที่ถูกลบไปแล้ว ดังนั้นจึงเห็นได้เพียงเล็กน้อยไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่ลบข่าวจะต้องคือตระกูลสวีหรือไม่ก็ตระกูลฉินเมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ เธอก็ขับรถไปยังบริษัทย่า

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 92

    บทที่ 92เพราะสวีกั๋วหมิงถึงกับยอมเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องสวีเหยียนเช่อ แต่เมื่อคิดอีกที เขาก็เป็นลูกชายแท้ ๆ เป็นผู้สืบทอดนี่นา “งั้นก็น่าเสียดายแย่เลย!” โหยวฉีตบมือครั้งหนึ่งด้วยสีหน้าเสียดายอย่างเต็มที่ “คาดว่าน่าจะเสียหายเป็นหลายพันล้าน” คำพูดของจ้าวจวิ้นโจวทำให้โหยวฉีรู้สึกสะใจขึ้นมาอีกครั้ง “แบบนี้มันสะใจจริง ๆ!” สวีเหยียนซีเงียบไป แต่ก็ยังรู้สึกว่ามีบางอย่างที่แปลก ๆ ท้ายที่สุด จ้าวจวิ้นโจวก็ขับรถไปส่งโหยวฉีกลับบ้านก่อน เมื่อเหลือแค่พวกเขาสองคนในรถ บรรยากาศก็เงียบสงบเป็นพิเศษ “อยากถามอะไรก็ถามสิ จะอั้นไว้ทำไม” เมื่อได้ยินเช่นนั้น สวีเหยียนซีก็กะพริบตาปริบ ๆ แล้วเงยหน้ามองเขา “ไม่ถามเหรอ?” “ฉันรู้สึกว่าคุณจงใจปล่อยสวีกั๋วหมิงและลูกชายเขาไปอีกแล้ว” เธอไม่อยากคิดแบบนี้ แต่เมื่อรวมกับสไตล์การทำงานของจ้าวจวิ้นโจวที่ผ่านมาแล้ว มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ถ้าจะบอกว่าเพราะเขานึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับตระกูลสวี มันก็ดูไม่ถูกต้องอยู่ดี “ฉลาดจริง ๆ” จ้าวจวิ้นโจวหัวเราะเบา ๆ และไม่ปิดบัง “พูดแล้วมันก็บังเอิญจริง ๆ ตอนแรกผมแค่ต้องการให้พวกเขาล้มไม่เป็นท่า อย่างน้อยจ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 91

    บทที่ 91จ้าวจวิ้นโจวเดินลงมาจากรถ เมื่อสวีเหยียนเช่อและฉินเซียวเห็นเขา ทั้งคู่ก็ลดความโกรธลงอย่างพร้อมเพรียงกัน ถึงขนาดมีท่าทีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ผู้ชายสามคนต่างก็ดูดีในแบบของตัวเอง สวีเหยียนซีรู้สึกพูดไม่ออก ได้แต่มองฟ้า ทำไมปากของโหยวฉีถึงได้แม่นยำขนาดนี้นะ เอาล่ะ ตอนนี้มันคือการแสดงละครของชายสามคนจริง ๆ แล้ว เธอไม่อยากเป็นข่าวหน้าหนึ่งในตอนกลางคืน โหยวฉีเป็นคนรักใครรักจริง ใครดีกับสวีเหยียนซี เธอก็จะดีกับคนนั้นด้วย ในช่วงเวลานี้ จ้าวจวิ้นโจวได้รับคะแนนพิเศษในใจของโหยวฉีมากมายเหลือเกิน ตอนนี้เธอจึงทักทายอย่างกระตือรือร้น “ประธานจ้าว จัดการเรื่องเสร็จแล้วเหรอคะ” จ้าวจวิ้นโจวล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยมือข้างเดียว เขารู้สึกสนิทกับโหยวฉีมากกว่าคนอื่น เพราะเธอเป็นเหมือนครอบครัวเพียงคนเดียวของสวีเหยียนซี “อืม เกือบจะเรียบร้อยแล้ว คุณโหยวฉีขับรถมาเหรอ?” “เปล่าค่ะ นั่งแท็กซี่มา” โหยวฉีคล้องแขนสวีเหยียนซี “ประธานจ้าวคะ ช่วยไปส่งพวกเราหน่อยได้ไหมคะ” “ได้เลย ไปกันเถอะ” โหยวฉีแอบเพิ่มคะแนนให้จ้าวจวิ้นโจวอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะอะไรเลย เพียงเพราะจ้าวจวิ้นโจวไม่ได้มองเธอด้วยสาย

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status