Share

บทที่ 4

Penulis: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 4

สวีเหยียนซีปิดหน้าต่างแชทลง จากนั้นห่ออาหารทั้งหมดใส่ถุงด้วยสีหน้านิ่งเฉย แล้วนำไปให้สุนัขจรจัดที่เธอเคยให้อาหารก่อนหน้านี้

ขณะที่เธอกำลังจะหันหลังกลับ ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็พยักหน้าให้เธอเล็กน้อย “คุณสวี”

สวีเหยียนซีอึ้งไปสองวินาที เห็นได้ชัดว่าเธอไม่คิดเลยว่าฟางห่าว ผู้ช่วยพิเศษของจ้าวจวิ้นโจวจะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่

“ผู้ช่วยฟาง” เธอตอบกลับอย่างสุภาพ

ฟางห่าวยื่นซองเอกสารให้เธอ “ท่านประธานจ้าวให้ผมนำกุญแจคอนโดมาให้คุณสวี และเขาก็กำชับมาว่าหวังว่าคุณสวีจะสามารถจัดการเรื่องการย้ายบ้านให้เรียบร้อยภายในวันนี้ และปรับสภาพจิตใจให้พร้อม เพื่อไม่ให้กระทบกับการเริ่มงานในวันพรุ่งนี้ครับ”

สวีเหยียนซีรับมาอย่างใจเย็น “อืม ทราบแล้วค่ะ”

ในข้อตกลงที่เซ็นเมื่อคืนนี้ เธอได้เข้าร่วมทีมสถาปนิกของจ้าวจวิ้นโจวอย่างเป็นทางการ ข้อตกลงมีเงื่อนไขเพิ่มเติมคือเธอต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเขาอย่างเคร่งครัด

การย้ายบ้านเป็นเงื่อนไขแรกที่จ้าวจวิ้นโจวเสนอขึ้นก่อนที่เธอจะกลับบ้านเมื่อคืน

ถึงเขาจะไม่เสนอ แต่สวีเหยียนซีก็จะย้ายบ้านอยู่แล้ว

คอนโดนี้เป็นของขวัญที่ตระกูลสวีให้เธอในนาม ซึ่งเป็นการสร้างภาพลวงตาให้คนภายนอกเห็นว่าถึงแม้เธอจะไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ แต่ตระกูลสวีก็ยังดูแลเธอเหมือนลูกในไส้ แต่ในความเป็นจริง นี่เป็นข้อเสนอของสวีเหยียนเช่อ แล้วสองสามีภรรยาตระกูลสวีถึงยอมให้ไปอย่างเสียดาย

ถือเป็นค่าเสียหายทางจิตใจทางอ้อม

ยังไม่พูดถึงที่คนในตระกูลสวีสามารถเข้าออกคอนโดนี้ได้อย่างอิสระ แต่ภายในยังหลงเหลือร่องรอยมากมายของฉินเซียว

เธอรู้สึกขยะแขยงที่จะอยู่ที่นี่

เมื่อกลับมาถึงคอนโด เธอเปิดซองเอกสารและเห็นข้อความที่เขียนว่า... ว่านจิ่นฟุ เรสซิเด้นซ์? นี่คือย่านที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ที่อยู่ใกล้คฤหาสน์จวี๋ซานไม่ใช่เหรอ?

ถ้าเธอจำไม่ผิด ว่านจิ่นฟุ เรสซิเด้นซ์ก็เป็นหนึ่งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของจ้าวจวิ้นโจว

ก๊อก ๆ ๆ ๆ——เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันทำให้สวีเหยียนซีสะดุ้งตกใจ

เธอรีบซ่อนซองเอกสารไว้ในห้องนอน จากนั้นมองผ่านช่องตาแมว เมื่อเห็นคนที่มาเยือนชัด ดวงตาของเธอก็เย็นชาลงในทันที

เธอเปิดประตูออก

สวีเหยียนเช่อในชุดเสื้อโค้ทสีกาแฟยืนหลังตรงอยู่ตรงหน้าเธอ

“ซีซี” เขาเรียกเธออย่างเป็นกันเองด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนเหมือนปกติ สวีเหยียนซีรู้สึกเหมือนทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นเพียงภาพลวงตา

แต่สายตาที่เธอมองเขามีแต่ความเย็นชา มือขวาของเธอวางอยู่บนสลักประตูอย่างไม่ตั้งใจ ท่าทางของเธอชัดเจนว่าไม่ต้องการให้สวีเหยียนเช่อเข้ามาในห้อง “พี่มาหาฉันแต่เช้า มีธุระอะไรเหรอคะ?”

สวีเหยียนเช่อรู้ว่าเธอกำลังโกรธ แต่ไม่ใส่ใจกับอารมณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ของสวีเหยียนซี เขาถือถุงกระดาษในมือและยิ้มอย่างอบอุ่น “เอาเค้กเครปมะม่วงที่เธอชอบที่สุดมาให้”

“ฉันไม่ชอบทานมะม่วงแล้ว”

เมื่อได้ยินดังนั้น สวีเหยียนเช่ออึ้งไปชั่วขณะ แต่ก็ยังคงยิ้ม “ซีซี ข้างนอกอากาศหนาว ให้พี่เข้าไปนั่งข้างในหน่อยได้ไหม?”

“พี่ใหญ่คะ ถ้าไม่มีเรื่องอะไร...” ก่อนที่สวีเหยียนซีจะพูดจบ สวีเหยียนเช่อก็จับมือขวาของเธอไว้ทันที

“ซีซี เราเป็นพี่น้องที่โตมาด้วยกัน พี่น้องไม่ควรโกรธกันข้ามคืน และความสัมพันธ์ของเราก็ไม่ควรถูกทำลายเพราะผู้ชายอีกคน”

พูดจบ เขาก็ดันสวีเหยียนซีเข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตู

สวีเหยียนซีพยายามสะบัดมือของเขาออกและพูดอย่างไม่พอใจว่า “เอาล่ะ ไหน ๆ พี่ก็เข้ามาแล้ว พูดมาเถอะว่ามาหาฉันมีธุระอะไร”

สวีเหยียนเช่อสังเกตเห็นกระเป๋าเดินทางสองใบที่วางอยู่ทางเดินไปห้องนอน เขาขมวดคิ้ว “เธอยังจะย้ายไปอยู่กับฉินเซียวเหรอ?”

สวีเหยียนซีแสยะยิ้ม ดูสิ จุดประสงค์ที่เขามาจริง ๆ แล้วก็เพื่อมาเป็นคนกลางให้กับสวีหว่านหนิง

ยังจะบอกว่าเป็นพี่น้องที่โตมาด้วยกันอะไร พวกเขาไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ กันสักหน่อย

“ไม่งั้นล่ะ ฉันเพิ่งจดทะเบียนสมรสกับเขาเมื่อวาน แต่งปุ๊บอย่าปั๊บ จะไม่กลายเป็นเรื่องตลกในสายตาคนอื่นเหรอคะ?”

“ถ้าเธอกลัวว่าจะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ ไม่เป็นไร พี่จะช่วยเธอจัดการเอง จะไม่ปล่อยให้คนนอกมาหัวเราะเยาะเธอได้” สวีเหยียนเช่อคลายคิ้วลงพร้อมให้คำมั่นสัญญา

เมื่อได้ยินดังนั้น สวีเหยียนซีก็เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างสงสัย แล้วความคิดที่เหลวไหลก็แวบเข้ามาในหัวของเธอ “พี่คงไม่ได้จะบอกคนภายนอกว่าคนที่จดทะเบียนสมรสกับฉินเซียว จริง ๆ แล้วคือสวีหว่านหนิงใช่ไหมคะ”

สวีเหยียนเช่อเงียบไปทันที

หัวใจของสวีเหยียนซีเหมือนถูกฉีกขาดออกเป็นเสี่ยง ๆ อย่างไร้ความปรานี

แม้ว่าตระกูลสวีจะปฏิบัติต่อเธอไม่เหมือนเดิมตั้งแต่รู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่เธอก็ยังคงจดจำบุญคุณที่เลี้ยงดูเธอไว้ โดยเฉพาะสวีเหยียนเช่อที่ปฏิบัติต่อเธอไม่เคยเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเธอจึงเคารพพี่ชายคนนี้มากที่สุด

แต่ตั้งแต่สวีหว่านหนิงกลับมา สวีเหยียนเช่อก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเช่นกัน

และตอนนี้... เหอะ ๆ

สวีเหยียนเช่อเห็นใบหน้าซีดเผือดและแววตาที่เจ็บปวดของสวีเหยียนซี หัวใจของเขาก็เจ็บปวดไปด้วย

เขายืนอยู่ข้างหน้าสวีเหยียนซี จับไหล่เธอด้วยมือทั้งสองข้างพลางพูดเกลี้ยกล่อมอย่างอ่อนโยนว่า “ซีซี ฉินเซียวไม่คู่ควรกับคนดี ๆ อย่างเธอ เธอสามารถมีชีวิตที่ดีกว่านี้ได้ ฟังที่พี่พูดนะ หย่ากับเขาเถอะ พี่ได้เตรียมทุกอย่างไว้ที่ต่างประเทศแล้ว หลังจากที่พวกเธอหย่ากันอย่างราบรื่นแล้ว พี่จะพาเธอไปพักผ่อนและอาศัยอยู่ที่นั่นยาว ๆ เลย...”

เมื่อได้ยินว่าเขากำลังเตรียมจะให้เธอไปต่างประเทศ สวีเหยียนซีก็รู้สึกพังทลายอย่างสิ้นเชิง

เธอพยายามผลักสวีเหยียนเช่อออกทั้งดวงตาแดงก่ำ น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ “คนตระกูลสวีมีปัญหาทางสมองทุกคนหรือเปล่า! การที่ฉันกับสวีหว่านหนิงถูกสลับตัวกันเป็นฝีมือของศัตรูของพวกคุณ ไม่เกี่ยวกับฉันสักนิด!”

“ฉันพูดแล้วพูดอีกว่าจะไปจากที่นี่เอง แต่พวกคุณก็ไม่ยอม ตอนนี้เพื่อสวีหว่านหนิง พวกคุณกลับจะส่งฉันไปต่างประเทศ! เห็นฉันเป็นอะไร เป็นของที่ตระกูลสวีอยากได้ก็ได้ ไม่อยากได้ก็ทิ้งเหรอ!”

“ซีซี ทำไมเธอถึงคิดกับพวกเราแบบนี้นะ?” สวีเหยียนเช่อพูดด้วยน้ำเสียงที่ดี “เธอก็เป็นคนตระกูลสวีมาตลอดนะ”

“โกหก! อย่ามาเสแสร้งหน่อยเลย! ถ้าเห็นฉันเป็นคนในตระกูลสวีจริง ๆ แล้วทำไมเมื่อคืนนี้ถึงยืนดูสวีหว่านหนิงนอนอยู่ในอ้อมแขนของสามีฉันโดยไม่ทำอะไรเลย!”

“พี่เอาแต่พูดว่าเขาไม่ดีตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และยังโน้มน้าวให้ฉันหย่ากับเขาอีก สวีเหยียนเช่อ ลองถามใจตัวเองดูสิว่าที่ทำไปเพื่อฉันจริง ๆ หรือเพื่อช่วยน้องสาวแท้ ๆ ของพี่กันแน่!”

สวีเหยียนเช่อตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ คำพูดที่เกือบจะหลุดปากออกมาในที่สุดก็ถูกกลืนลงไป เขาก้าวไปข้างหน้าและยังคงพูดเกลี้ยกล่อมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ซีซี พี่รู้ว่าเธอรู้สึกไม่เป็นธรรม แต่พี่รับรองได้ว่าความไม่เป็นธรรมที่เธอได้รับในตอนนี้ พี่จะชดเชยให้เธอเป็นสองเท่า”

“ชดเชยให้น้องสาวพี่เถอะ!”

“ซีซี เธอเริ่มพูดตรงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” สวีเหยียนเช่อขมวดคิ้วแน่น เขารู้สึกว่าสวีเหยียนซีในตอนนี้ไม่เหมือนกับสวีเหยียนซีที่เคยเป็นคนว่านอนสอนง่ายและอ่อนโยนอีกต่อไป

สวีเหยียนซีหัวเราะเยาะ “ฉันพูดตรงได้มากกว่านี้อีก”

“ซีซี!” สวีเหยียนเช่อมองเธอด้วยสายตาที่แฝงด้วยการเตือน “เธอเคยเชื่อฟังพี่มากที่สุดไม่ใช่เหรอ?”

เชื่อฟัง เชื่อฟัง! ก็เพราะเธอว่าเชื่อฟังเกินไป ผูกมัดตัวเองด้วยศีลธรรมมากเกินไปไง เธอถึงได้ถูกเหยียบย่ำอย่างไม่ปรานี!

“ซีซี ที่พี่พูดไปเมื่อกี้...”

ก่อนที่สวีเหยียนเช่อจะพูดจบ สวีเหยียนซีก็หยิบมีดปอกผลไม้บนโต๊ะกาแฟก่อนจะยกขึ้นจ่อคอตัวเองทันที

“ซีซี!” เสียงของสวีเหยียนเช่อที่ตะโกนเรียกชื่อเธอสั่นเทา เขาไม่คิดเลยว่าสวีเหยียนซีจะทำเรื่องบ้าบิ่นแบบนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน

สวีเหยียนซีถอยหลังไปสองก้าว และชี้ไปที่ประตูด้วยนิ้วมืออีกข้าง “เอาเค้กของพี่ออกไป!”

“ซีซี เธอไม่ใช่คนหัวร้อนเอาแต่ใจแบบนี้นะ” สวีเหยียนเช่อพูดพร้อมขมวดคิ้ว

ทันทีที่พูดจบ เลือดก็ไหลซึมออกจากลำคอของสวีเหยียนซี เธอพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ยังคิดว่าฉันใจร้อนอยู่เหรอ?”

สวีเหยียนเช่อกัดฟันแน่น และในที่สุดก็ยอมแพ้ เขาหยิบเค้กขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ “โอเค งั้นเดี๋ยวรอเธอใจเย็นลงค่อยคุยกัน ซีซี เธอจะเข้าใจเองในสักวันว่าใครจะหลอกเธอ ใครจะทำร้ายเธอก็ได้ แต่พี่จะไม่ทำ พี่จะทำดีกับเธอคนเดียว”

“ออกไป!” สวีเหยียนซีจ้องมองเขาพลางตะโกนเสียงต่ำ

วินาทีที่สวีเหยียนเช่อก้าวออกจากห้อง สวีเหยียนซีก็ปิดประตูอย่างแรงและล็อคมันทันที
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 96

    บทที่ 96“มึงมันเหี้ย!”สวีเหยียนซีด่าคำหยาบอย่างชัดถ้อยชัดคำจนทำให้ใบหน้าของสี่คนที่อยู่ไม่ไกลแสดงความประหลาดใจออกมาในระดับที่แตกต่างกันสวีเหยียนซีมีใบหน้าสวยโดดเด่น ปกติจะมีกิริยามารยาทงดงามตามธรรมชาติ ความประทับใจแรกที่ทุกคนเห็นเธอคือเป็นลูกคุณหนูจากตระกูลใหญ่แต่เมื่อเธอพูดคำหยาบ มันกลับดูแตกต่างอย่างไม่น่าเชื่อจ้าวจวิ้นโจวยกยิ้ม นั่นแหละถึงจะดูเหมือนคนกำลังโกรธดวงตาของสวีเหยียนซีฉายแววตาเย็นชา “เรื่องนี้ ฉันจะจำคุณไปตลอดชีวิต!”“ไม่นะ!” ฉินเซียวคว้ามือเธอไว้ “ผมผิดไปแล้ว เสี่ยวซี! ผมจะไปหาหมอที่เก่งที่สุดในโลกมารักษาอาจารย์ถังเดี๋ยวนี้ ผมจะขอโทษเขา ผมจะหาทางชดเชยให้แน่นอน ได้โปรดอย่าโกรธผมเลยนะ อย่าไม่สนใจผม”เมื่อเห็นฉากนี้ ใบหน้าหล่อเหลาของจ้าวจวิ้นโจวก็เย็นชาลงทันทีเขาสาวเท้าเดินเข้าไปเมื่อลู่อวี่ที่กำลังโมโหอยู่เห็นว่าเจ้านายของเขากำลังจะไปเป็นฮีโร่ช่วยสาวงาม เขาก็ตามไปอย่างตื่นเต้น “บอสไปแล้ว เราก็ไปเหมือนกัน!”ทว่าฟางห่าวและอู๋เสว่นีกลับจับแขนเขาคนละข้างอย่างรู้ใจฟางห่าวพูดว่า “แค่บอสก็พอแล้ว”“โธ่เอ้ย คนเยอะก็มีพลังมาก พวกเราไปเป็นกำลังเสริมให้สถาปนิกสว

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 95

    บทที่ 95สวีหว่านหนิงส่ายหน้าอย่างบ้าคลั่งพลางมองฉินเซียวอย่างน่าสงสาร“พี่ฉินเซียว อย่าไปเชื่อที่พวกเขาพูดนะคะ ฉันไม่ได้ทำเลย! ไม่ได้ทำจริง ๆ!”ฉินเซียวจะไปเชื่อคำพูดของเธอได้อย่างไรเธอเป็นคนแบบไหน เขารู้ดีที่สุด“รู้ไหมว่าพ่อของเธอเพิ่งถูกควบคุมตัวเมื่อคืนนี้?” ฉินเซียวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ แทนที่จะอยู่อย่างสงบ เธอกลับเลือกที่จะทำเรื่องน่าอับอาย ถ้าพ่อฉันไม่สั่งให้ฉันมา เธอก็คิดเหรอว่าเรื่องไร้สาระของเธอแบบนี้ฉันอยากจะยุ่งด้วย?”คำพูดนี้เป็นการข่มขู่สวีหว่านหนิง แต่ก็เป็นการบอกสวีเหยียนซีทางอ้อมว่าเขาไม่ได้มาด้วยความสมัครใจสวีหว่านหนิงเม้มปาก น้ำตาเม็ดโตไหลลงมาไม่หยุด “พี่ฉินเซียว ฉันเป็นภรรยาของพี่นะคะ”“หุบปาก!” ฉินเซียวตะคอกใส่เธอด้วยความรำคาญ“คุณตำรวจจางครับ เราจะยืนดูละครรักที่นี่เหรอครับ?” จ้าวจวิ้นโจวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาตำรวจจางก็รู้สึกปวดหัวเช่นกัน เขาจึงส่งสายตาให้เพื่อนตำรวจคนอื่น ๆ แล้วสวีหว่านหนิงก็ถูกบังคับให้ควบคุมตัวไปเธอทั้งร้องไห้ทั้งเรียกหาพี่ฉินเซียว แต่ใครบางคนกลับไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเธอเลยจนกระทั่งเสียงของเ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 94

    บทที่ 94สวีเหยียนซีรู้สึกชาไปหมด “นี่คือคำชมเหรอคะ?”จ้าวจวิ้นโจวยิ้ม “ไม่งั้นล่ะ?”ไม่นานพวกเขาก็มาถึงสถานีตำรวจ และบังเอิญมากที่ฉินเซียวก็มาถึงเช่นกันเมื่อฉินเซียวเห็นพวกเขามาด้วยกัน ดวงตาที่ลุกเป็นไฟของเขาก็แทบจะทะลุเข้าไปร่างของจ้าวจวิ้นโจวเมื่อมองมาที่สวีเหยียนซี สายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความคับแค้นใจและเจ็บปวดดูยังไงก็เหมือนผู้หญิงที่ขี้น้อยใจสวีเหยียนซีรู้สึกรำคาญ จึงไม่มองตรง ๆ แต่ต่อให้อยากจะมองก็ไม่มีโอกาส เพราะจ้าวจวิ้นโจวเดินบังเธอไว้มิด และก้าวเท้าเข้าไปพร้อมกับเธอฉินเซียวกำหมัดแน่นและรีบตามไป ฟางห่าวเดินเข้ามาขวางหน้าเขาอย่างไร้เสียง “คุณชายรองฉิน ที่นี่คือสถานีตำรวจนะครับ”“ไม่ต้องให้นายเตือน” เขาแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะสาวเท้าก้าวเข้าไปข้างในเมื่อสวีเหยียนซีเห็นอู๋เสว่นีและลู่อวี่ก็พูดว่า “สถาปนิกอู๋ สถาปนิกลู่”ในขณะเดียวกัน สวีหว่านหนิงที่ได้ยินเสียงของเธอก็เดือดพล่านทันที เธอวิ่งออกจากห้องสอบสวนโดยไม่สนใจว่าตำรวจกำลังสอบปากคำเธออยู่เมื่อเห็นสวีเหยียนซี เธอก็แสดงสีหน้าดุดัน “สวีเหยียนซี!”สวีเหยียนซีตกใจที่ถูกเธอตะคอกใส่อู๋เสว่นีตะโกนว่า “สถาปนิกสวี

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 93

    บทที่ 93สวีเหยียนซีที่แปรงฟันอยู่ถึงกับหยุดชะงักทันทีอืม? หือ!?โหยวฉียังคงพูดต่อไป “เพราะมีคนไปขุดเรื่องที่เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับฉินเซียว แม้แต่รูปถ่ายสมัยมัธยมต้น มัธยมปลาย มหาวิทยาลัยของพวกเธอก็ถูกเอามาโพสต์ด้วย ดังนั้นพอเห็นชาวเน็ตคนนั้นพูด ทุกคนก็เริ่มเชื่อและเริ่มวิเคราะห์กันยกใหญ่”“แล้วสวีหว่านหนิงดันกระโดดเข้าไปด่าเอง เลยทำให้ทุกคนเชื่อว่าเธอคือคนที่เป็นมือที่สามจริง ๆ ฮ่า ๆ ๆ เธอโง่หรือเปล่านะ ขุดหลุมฝังตัวเองชัด ๆ”“ตอนแรกเป็นข่าวเรื่องบริษัทฮุ่ยตี๋เลี่ยงภาษี แต่ตอนนี้ในอินเทอร์เน็ตมีแต่คนด่าว่าเธอเป็นมือที่สามและด่าว่าฉินเซียวเป็นผู้ชายหน้าเหี้ย”สวีเหยียนซีหัวเราะอย่างจนใจ “ทำไมเธอถึงได้เอาตัวเองไปตายแบบนี้”โหยวฉียังคงหัวเราะไม่หยุด “ใช่ นี่เรียกว่าอะไรนะ ขุดหลุมฝังตัวเอง กรรมตามสนองแล้ว!”หลังจากวางสายจากโหยวฉี สวีเหยียนซีก็ทำอาหารเช้าง่าย ๆ แล้วนั่งทานไปพลางดูเนื้อหาในอินเทอร์เน็ตไปพลางมีข่าวมากมายที่ถูกลบไปแล้ว ดังนั้นจึงเห็นได้เพียงเล็กน้อยไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่ลบข่าวจะต้องคือตระกูลสวีหรือไม่ก็ตระกูลฉินเมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ เธอก็ขับรถไปยังบริษัทย่า

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 92

    บทที่ 92เพราะสวีกั๋วหมิงถึงกับยอมเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องสวีเหยียนเช่อ แต่เมื่อคิดอีกที เขาก็เป็นลูกชายแท้ ๆ เป็นผู้สืบทอดนี่นา “งั้นก็น่าเสียดายแย่เลย!” โหยวฉีตบมือครั้งหนึ่งด้วยสีหน้าเสียดายอย่างเต็มที่ “คาดว่าน่าจะเสียหายเป็นหลายพันล้าน” คำพูดของจ้าวจวิ้นโจวทำให้โหยวฉีรู้สึกสะใจขึ้นมาอีกครั้ง “แบบนี้มันสะใจจริง ๆ!” สวีเหยียนซีเงียบไป แต่ก็ยังรู้สึกว่ามีบางอย่างที่แปลก ๆ ท้ายที่สุด จ้าวจวิ้นโจวก็ขับรถไปส่งโหยวฉีกลับบ้านก่อน เมื่อเหลือแค่พวกเขาสองคนในรถ บรรยากาศก็เงียบสงบเป็นพิเศษ “อยากถามอะไรก็ถามสิ จะอั้นไว้ทำไม” เมื่อได้ยินเช่นนั้น สวีเหยียนซีก็กะพริบตาปริบ ๆ แล้วเงยหน้ามองเขา “ไม่ถามเหรอ?” “ฉันรู้สึกว่าคุณจงใจปล่อยสวีกั๋วหมิงและลูกชายเขาไปอีกแล้ว” เธอไม่อยากคิดแบบนี้ แต่เมื่อรวมกับสไตล์การทำงานของจ้าวจวิ้นโจวที่ผ่านมาแล้ว มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ถ้าจะบอกว่าเพราะเขานึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับตระกูลสวี มันก็ดูไม่ถูกต้องอยู่ดี “ฉลาดจริง ๆ” จ้าวจวิ้นโจวหัวเราะเบา ๆ และไม่ปิดบัง “พูดแล้วมันก็บังเอิญจริง ๆ ตอนแรกผมแค่ต้องการให้พวกเขาล้มไม่เป็นท่า อย่างน้อยจ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 91

    บทที่ 91จ้าวจวิ้นโจวเดินลงมาจากรถ เมื่อสวีเหยียนเช่อและฉินเซียวเห็นเขา ทั้งคู่ก็ลดความโกรธลงอย่างพร้อมเพรียงกัน ถึงขนาดมีท่าทีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ผู้ชายสามคนต่างก็ดูดีในแบบของตัวเอง สวีเหยียนซีรู้สึกพูดไม่ออก ได้แต่มองฟ้า ทำไมปากของโหยวฉีถึงได้แม่นยำขนาดนี้นะ เอาล่ะ ตอนนี้มันคือการแสดงละครของชายสามคนจริง ๆ แล้ว เธอไม่อยากเป็นข่าวหน้าหนึ่งในตอนกลางคืน โหยวฉีเป็นคนรักใครรักจริง ใครดีกับสวีเหยียนซี เธอก็จะดีกับคนนั้นด้วย ในช่วงเวลานี้ จ้าวจวิ้นโจวได้รับคะแนนพิเศษในใจของโหยวฉีมากมายเหลือเกิน ตอนนี้เธอจึงทักทายอย่างกระตือรือร้น “ประธานจ้าว จัดการเรื่องเสร็จแล้วเหรอคะ” จ้าวจวิ้นโจวล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยมือข้างเดียว เขารู้สึกสนิทกับโหยวฉีมากกว่าคนอื่น เพราะเธอเป็นเหมือนครอบครัวเพียงคนเดียวของสวีเหยียนซี “อืม เกือบจะเรียบร้อยแล้ว คุณโหยวฉีขับรถมาเหรอ?” “เปล่าค่ะ นั่งแท็กซี่มา” โหยวฉีคล้องแขนสวีเหยียนซี “ประธานจ้าวคะ ช่วยไปส่งพวกเราหน่อยได้ไหมคะ” “ได้เลย ไปกันเถอะ” โหยวฉีแอบเพิ่มคะแนนให้จ้าวจวิ้นโจวอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะอะไรเลย เพียงเพราะจ้าวจวิ้นโจวไม่ได้มองเธอด้วยสาย

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status