Compartilhar

บทที่ 5

Autor: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 5

สวีเหยียนซีหายใจหอบอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็สงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็ว เธอวางมีดปอกผลไม้ลงก่อนจะหันไปหาพลาสเตอร์มาปิดบาดแผล

ถ้าสวีเหยียนเช่อไม่ตื้อไม่เลิก เธอก็ไม่จำเป็นต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้ ตอนนี้เธอจะรักตัวเองมากขึ้นและจะไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชอีกแล้ว

หลังจากแน่ใจว่าสวีเหยียนเช่อออกจากหมู่บ้านแล้ว เธอก็รีบขนของทั้งหมดขึ้นรถ

เธอไม่รอช้า มุ่งหน้าไปที่ว่านจิ่นฟุ เรสซิเด้นซ์ทันที ที่นี่มีห้องหลายประเภท แต่เมื่อเธอมาถึงชั้นคอนโดที่จ้าวจวิ้นโจวบอก เธอถึงรู้ว่านี่ไม่ใช่แค่คอนโดธรรมดา แต่เป็นห้องชุดขนาดใหญ่ทั้งชั้นแบบหนึ่งลิฟต์หนึ่งห้อง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอย้ายของเข้าไปแล้ว เธอก็เห็นคฤหาสน์จวี๋ซานที่ตั้งอยู่บนเนินเขาจากหน้าต่างในห้องหนังสือ

สีหน้าของสวีเหยียนซีดูซับซ้อน

“เจตนาแอบแฝง” ของจ้าวจวิ้นโจวช่างแอบแฝงจริง ๆ

หลังจากจัดข้าวของเรียบร้อยแล้ว สวีเหยียนซีก็ไปซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันที่ซูเปอร์มาร์เก็ต จากนั้นขับรถไปที่เฟิงไห่กรุ๊ป

เธอจอดรถริมถนนก่อนจะโทรหาฉินเซียว

สายถูกรับในทันที เสียงทุ้มแหบของชายหนุ่มดังมาจากปลายสายว่า “ที่รัก”

สวีเหยียนซีกำลังจะเอ่ยปากพูด แต่ด้วยความอ่อนไหวของเธอ เธอจึงฟังออกว่าเสียงของฉินเซียวผิดปกติมาก เธอจงใจถามว่า “คุณกำลังประชุมอยู่หรือเปล่า?”

“....ใช่แล้ว” ฉินเซียวหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้เสียงของเขาฟังดูเป็นปกติที่สุด “ที่รัก วันนี้น่าจะยุ่งมากเลย มีอะไรหรือเปล่า รอตอนเย็นค่อยกลับไปคุยกันที่เรือนหอดีกว่าไหม?...หืม”

สวีเหยียนซีหลับตาลง ภาพที่น่าขยะแขยงที่เห็นเมื่อคืนก็ปรากฏขึ้นในหัวของเธออีกครั้ง

เธอทนไม่ได้ที่จะต้องไปนั่งคุยเรื่องหย่ากับผู้ชายที่เพิ่งไปมีอะไรกับผู้หญิงอื่นมา

เธอกลัวว่ากลิ่นนั้นจะทำให้เธอสำลักตายเสียก่อน

“โอเค งั้นไว้คุยกันตอนเย็น” สวีเหยียนซีวางสายอย่างรวดเร็วด้วยความรังเกียจ แม้ว่ามือของเธอจะไม่สกปรก เธอก็ยังถูมันแรง ๆ และลบประวัติการโทรออกไปด้วย

ในขณะนั้นเอง เธอถึงรู้สึกว่าความรู้สึกขยะแขยงนั้นลดลงไปบ้าง

เมื่อสตาร์ทรถ เธอก็โทรหาโหยวฉี “ฉีฉี เธออยู่ที่ร้านไหม ฉันจะไปหาเธอเดี๋ยวนี้”

ในเวลาเดียวกัน ที่ห้องทำงานของฉินเซียว

หลังจากเสร็จกิจแล้ว เขาก็ดึงกางเกงขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย ท่าทางที่เต็มไปด้วยความใคร่เมื่อครู่หายไปอย่างสิ้นเชิง

“เสร็จแล้ว เธอไปได้แล้ว”

แก้มของสวีหว่านหนิงแดงก่ำ ดวงตาของเธอยังคงชุ่มชื้น “พี่ฉินเซียวใจร้ายจังเลย เสร็จแล้วก็รีบไล่ฉันไปเลยเหรอคะ?”

ฉินเซียวเหลือบมองเธอ “เธอเป็นน้องเมีย มาอยู่ในห้องทำงานฉันนานขนาดนี้ ไม่คิดเหรอว่าจะมีคนเอาไปนินทา? ถ้าเรื่องนี้ไปถึงหูของเสี่ยวซี ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่”

พอได้ยินว่าเขายังคงคิดถึงแต่สวีเหยียนซี นังคนน่ารังเกียจนั่น สวีหว่านหนิงก็รู้สึกอิจฉาริษยาอย่างบ้าคลั่ง แทบอยากจะให้สวีเหยียนซีรีบไปตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด

เธอเม้มริมฝีปาก “พี่ฉินเซียว ฉันยอมเป็นชู้รักของพี่แล้ว ฉันไม่ได้ต้องการอะไรมาก แค่หวังว่าพี่จะใจดีกับฉันบ้าง แค่นี้ก็ไม่ได้เหรอ?”

ฉินเซียวตอบอย่างเฉยเมยว่า “ฉันจะเตรียมเครื่องประดับให้เธอชุดหนึ่ง”

เมื่อเห็นเขาจะเอาเครื่องประดับมาให้เพื่อไล่เธอไป สวีหว่านหนิงก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้น “พี่ฉินเซียว ฉันต้องการเป็นคนรักของพี่ ไม่ได้ต้องการเงินของพี่!”

“ฉันมีแต่เงินให้เธอได้เท่านั้น ส่วนความรัก ฉันให้ได้แค่เสี่ยวซี” ฉินเซียวไม่เปิดโอกาสให้เธออาละวาด “ยังคิดจะเอาเรื่องฆ่าตัวตายมาขู่ฉันอีกเหรอ? ถ้าเธอกล้าอีกครั้ง งั้นเธอก็อย่าตายในเมืองจิง ไปตายไกล ๆ ซะ”

“...” สวีหว่านหนิงรู้สึกไม่พอใจจนจุกอกไปหมด แต่เมื่อคิดได้ว่ากว่าจะได้ตัวฉินเซียวมา เธอก็ทำได้แค่ระงับอารมณ์และยอมอ่อนข้อ “ฉันผิดไปแล้วค่ะ พี่ฉินเซียว”

“งั้นก็รีบไปได้แล้ว” ฉินเซียวออกคำสั่งไล่อย่างหงุดหงิด

เธอเม้มริมฝีปากอย่างไม่เต็มใจและทำได้แค่จากไปก่อน

ขณะยืนอยู่ในลิฟต์ เธอก็คิดแผนหนึ่งขึ้นมาได้ แล้วถ่ายรูปข้อความในลิฟต์ จากนั้นส่งให้สวีเหยียนซีอย่างได้ใจ พร้อมคำบรรยายว่า [สวีเหยียนซี เมื่อกี้ตอนที่เธอคุยโทรศัพท์กับพี่ฉินเซียว ฉันก็อยู่ในห้องทำงานของเขาด้วยนะ]

สวีเหยียนซีเพิ่งเปิดข้อความอ่านผ่าน ๆ โทรศัพท์ก็ถูกโหยวฉีแย่งไป

โหยวฉีอ่านแล้วก็สบถด่าออกมาทันที “ยัยแอ๊บเป็นโรคซึมเศร้าหน้าไม่อายนี่! ฉันว่านักจิตวิทยาที่ตระกูลสวีหามาเชื่อถือได้จริงเหรอ ดูนิสัยยัยนี่แล้ว ฉันว่าไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้าหรอก แต่เป็นโรคอยากเป็นเมียน้อยมากกว่า”

สวีเหยียนซีโค้งริมฝีปาก แต่ก็ต้องชี้แจงเรื่องหนึ่ง “นักจิตวิทยาที่จ้างมาเป็นนักจิตวิทยาชั้นนำของประเทศ ไม่มีทางผิดพลาดได้หรอก”

“อ๋อ งั้นโรคซึมเศร้าของยัยนั่นก็กลายพันธุ์แล้วล่ะสิ เธอเลยเริ่มคลั่ง” โหยวฉีคืนโทรศัพท์ให้พลางมองสวีเหยียนซีด้วยความสงสาร “เธอกับไอ้หมาตัวนั้นคบกันมานานขนาดนี้ แน่ใจนะว่าจะตัดใจได้?”

สวีเหยียนซีดื่มชา ขณะที่ดวงตาที่หลุบลงฉายแววตาเจ็บปวด “ฉันเป็นโรคกลัวความสกปรกทางความสัมพันธ์”

เธอไม่สนใจว่าแฟนเธอจะเคยมีแฟนเก่า แต่เธอไม่สามารถทนได้หากเขายังไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นในระหว่างที่คบกับเธอ

ทั้ง ๆ ที่ฉินเซียวรู้เรื่องนี้ดี แต่เขาก็ยังทำ

“ฉันคิดว่าผู้ชายทุกคนบนโลกนี้อาจจะนอกใจได้ แต่ฉินเซียวจะไม่มีวันเป็นแบบนั้นแน่ ๆ ฮึ!” โหยวฉีสบถด่าด้วยความโกรธ “ผู้ชายที่นอกใจก็เหมือนก้อนอึ”

ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์ของสวีเหยียนซีก็ดังขึ้น

ซึ่งเป็นสายจากแม่สวี

โหยวฉีก็เห็นเช่นกัน คิ้วของเธอกระตุกเล็กน้อย “ต้องให้เธอกลับบ้านแน่เลย หาข้ออ้างปฏิเสธสิ?”

สวีเหยียนซีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมแสยะมุมปาก “วันนี้ไม่ได้ ก็ต้องพรุ่งนี้ ยังไงก็หนีไม่พ้นหรอก”

พูดจบ เธอก็รับสาย “แม่คะ”

แม่สวีออกคำสั่งในโทรศัพท์ “บอกฉินเซียวว่าให้มาทานข้าวที่บ้านคืนนี้ เธอน่ะมาก่อน แม่มีเรื่องจะคุยด้วย”

หนึ่งชั่วโมงต่อมา สวีเหยียนซีก็มาถึงบ้านตระกูลสวี

ทันทีที่เธอเดินเข้าไปในห้องรับแขกก็เห็นสวีหว่านหนิงกำลังซบอยู่ในอ้อมกอดของแม่สวี แม่สวีมีสีหน้ายิ้มแย้มและกำลังป้อนผลไม้ให้เธออย่างเอ็นดู ขณะที่สวีเหยียนซีกำลังจะละสายตา สวีหว่านหนิงกลับส่งสายตาที่ท้าทายมาให้เธอ เธอเลือกที่จะเมินเฉยและเอ่ยว่า “แม่คะ หนูกลับมาแล้ว”

เกือบจะในเวลาเดียวกัน “แม่คะ หนูง่วงแล้วค่ะ ถ้าทำอาหารเสร็จแล้วค่อยปลุกหนูนะคะ” สวีหว่านหนิงลุกขึ้น หาวนอนแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน

แม่สวีลุกขึ้นและพูดกับเธออย่างอ่อนโยน “ได้จ้ะ เดี๋ยวอาหารเสร็จแล้วแม่จะเรียกนะ”

พูดจบ เธอก็หันมามองสวีเหยียนซีด้วยสีหน้าอื่น “เมื่อคืนหนิงหนิงอาการแย่ขนาดนั้น เธอกล้าดียังไงถึงพาฉินเซียวไปโดยไม่สนใจใครเลย สวีเหยียนซี เธอคิดว่าแค่จดทะเบียนสมรสแล้วก็กลายเป็นคนตระกูลฉินจริง ๆ แล้วใช่ไหม!”

“แม่คะ หนิงหนิงเกิดเรื่อง หนูเองก็เป็นห่วง แต่หนูกับฉินเซียวไม่ใช่หมอจิตเวช อยู่ตรงนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้” เธออธิบายอย่างใจเย็น

“ยังจะหาเหตุผลเถียงข้าง ๆ คู ๆ กับฉันอีก!” แม่สวีโกรธมากและยกมือขึ้นจะตบ

“แม่ครับ!” สวีเหยียนเช่อปรากฎตัวขึ้นอย่างทันท่วงทีและจับข้อมือของแม่สวีไว้ “คืนนี้เป็นครั้งแรกที่ฉินเซียวจะมาทานข้าวที่บ้าน ทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา แม่จะตบซีซีตอนนี้ แล้วคืนนี้เธอจะไปเจอคนอื่นได้ยังไง?”

สวีเหยียนซียืนอยู่กับที่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งใจกับการช่วยเหลือของสวีเหยียนเช่อเลย เพราะแม้ไม่มีเขา เธอก็ไม่คิดจะยืนอยู่เฉย ๆ ให้โดนตบอยู่แล้ว

“เธอมันลูกอกตัญญู แกยังจะปกป้องเธออีกทำไม!” แม่สวีพูดอย่างโกรธจัด

สวีเหยียนซีไม่ได้รอให้สวีเหยียนเช่อพูด พูดด้วยรอยยิ้มที่ฝืนว่า “แม่จะคิดว่าหนูเป็นลูกอกตัญญูก็ได้ค่ะ แต่แม่คะ อย่างน้อนตระกูลสวีเองก็มีชื่อเสียงในเมืองจิงนะคะ ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องเมื่อคืนนี้แพร่งพรายออกไปข้างนอก แม่รู้ไหมว่าคนอื่นจะพูดถึงเรายังไง?”

“ซีซี พูดให้น้อยหน่อย” สวีเหยียนเช่อดึงมือเธอไว้

“เรื่องในบ้านของเรา ใครจะไปรู้ได้ ถ้ามีคนรู้จริง ๆ ก็คงเพราะแกควบคุมปากของตัวเองไม่ได้!” แม่สวีชี้หน้าเธอและด่าว่า “ถ้าไม่มีตระกูลสวีเลี้ยงดูแก แกจะมีวันนี้ได้เหรอ? แกจะได้แต่งงานกับคนที่มีฐานะอย่างฉินเซียวได้เหรอ? คิดให้ดี ๆ หน่อย ฉันเลี้ยงแกมาตั้งหลายปี แกก็ควรจะรู้จักตอบแทนบุญคุณซะบ้าง!”

สวีเหยียนซีดิ้นรนหลุดจากการจับกุมของสวีเหยียนเช่อ เธอเผชิญหน้ากับแม่สวีอย่างตรง ๆ และพูดออกมาว่า “เรื่องที่ตระกูลสวีเลี้ยงดูหนู หนูไม่มีอะไรจะพูดค่ะ แต่แม่คะ สวีหว่านหนิงเป็นลูกสาวแท้ ๆ ที่แม่ตามหากลับมาอย่างยากลำบากนะคะ”

“หนูรู้ว่าแม่กับพ่ออยากจะชดเชยให้เธออย่างไม่มีขีดจำกัด แต่การชดเชยแบบนี้ก็ควรมีขอบเขตนะคะ หนูกับฉินเซียวเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว แต่แม่กลับปล่อยให้ลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเองไปยั่วยวนสามีของหนู แบบนี้มันถูกต้องแล้วเหรอคะ?”
Continue a ler este livro gratuitamente
Escaneie o código para baixar o App

Último capítulo

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 44

    บทที่ 44จ้าวจวิ้นโจวเก็บมือกลับอย่างพึงพอใจ แล้วหันไปคุยเรื่องงานกับเหมารุ่ยเฟิงต่ออย่างเป็นธรรมชาติระหว่างนั้น เหมารุ่ยเฟิงก็เปลี่ยนหัวข้อมากล่าวถึงสวีเหยียนซี “สถาปนิกสวีมาที่เมืองไห่กับประธานจ้าวในครั้งนี้ ก็เพื่อเก็บข้อมูลนี่เอง แบบนี้ผมก็ยิ่งตั้งตารอแบบร่างเบื้องต้นของสถาปนิกสวีมากขึ้นแล้วสิ”สวีเหยียนซียิ้มอย่างสุภาพ “วางใจได้เลยค่ะ”เมื่อเหมาเจียนั่วได้ยินดังนั้นก็เข้าใจความหมายในทันที จึงเอ่ยถามว่า “พ่อคะ เธอสถาปนิกที่รับงานโปรเจกต์ก่อสร้างล่าสุดของพ่อเหรอคะ?!”“อืม” เหมารุ่ยเฟิงตอบห้วน ๆ พลางตำหนิลูกสาวของตัวเอง “ดูสถาปนิกสวีสิ ทั้งอายุน้อย ทั้งเก่งกาจขนาดนี้ แกควรจะเรียนรู้จากสถาปนิกสวีบ้างนะ เลิกเอาแต่เล่นเป็นเด็กไร้ประโยชน์ได้แล้ว”เหมาเจียนั่วหน้าแดง “พ่อคะ อยู่ข้างนอกไว้หน้าหนูหน่อยเถอะคะ”“แล้วแกเคยไว้หน้าฉันบ้างไหม?”“...”แม้จะดูเหมือนพ่อลูกทะเลาะกัน แต่ก็ไม่ได้ดูเหมือนโกรธกันจริงจัง สวีเหยียนซีมองแล้วก็อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้ เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่เธอเผลอเหม่อ หากตอนนั้นเธอไม่ได้ถูกสลับตัวตั้งแต่แรก เธอกับพ่อแท้ ๆ ก็คงจะมีความสัมพันธ์ที่อบอุ่นแบบนี้เช่นกัน“เ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 43

    บทที่ 43“เจ้าของของที่นี่เป็นเพื่อนกับผมเอง” จ้าวจวิ้นโจวอธิบาย พร้อมกับถามเธอกลับ “คุณมีเวลาหาข้อมูลในนี้เงียบ ๆ ชั่วโมงเดียวเท่านั้น แน่ใจเหรอว่าจะเสียเวลาถามคำถามนี้?”สวีเหยียนซีได้สติในทันที แล้วรีบหยิบกล้องขึ้นมา “ขอบคุณค่ะท่านประธานจ้าว”พูดจบ เธอก็เริ่มตั้งสมาธิทำงานทันทีจ้าวจวิ้นโจวเดินตามเธออยู่ไม่ห่างด้วยท่าทีที่สบาย ๆ ไม่นานนัก ในมือของเขาก็มีทั้งกาแฟที่เธอยังดื่มไม่หมด รวมถึงกระเป๋าของเธอสวีเหยียนซีไม่รู้ตัวเลยว่า ในขณะที่เธอเพลิดเพลินอยู่กับงาน เธอกลับส่งของพวกนั้นให้เขาไปโดยไม่รู้ตัวเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สวีเหยียนซีเก็บข้อมูลครบทุกอย่างที่ต้องการแล้วก็รู้สึกเบิกบานด้วยความดีใจพอเธอหันกลับมาจะบอกจ้าวจวิ้นโจวว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นกระเป๋าของตัวเองอยู่ในมือเขา!เธอแทบอยากจะสบถออกมา รีบคว้ากระเป๋าคืนจากมือเขา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด “ขอโทษค่ะท่านประธานจ้าว เมื่อกี้คุณควรเตือนฉันนะคะ”เพราะเมื่อก่อนตอนที่อยู่กับฉินเซียว เธอชินกับการส่งของให้เขาช่วยถือโดยไม่ทันคิดอะไร คราวนี้ก็เลยเผลอแสดงพฤติกรรมแบบเดิมออกมาโดยไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 42

    บทที่ 42สวีเหยียนซีกัดริมฝีปากด้วยความรู้สึกกระอักกระอวน ก่อนจะรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ท่านประธานจ้าวมาเจอลูกค้าแถวนี้เหรอคะ?”จ้าวจวิ้นโจวตอบตรง ๆ โดยไม่ปิดบัง “ในโทรศัพท์มีระบบแชร์พิกัดอยู่”“???” สวีเหยียนซีเบิกตากว้าง มองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าตัวเองอย่างเหลือเชื่อครู่หนึ่ง ก่อนพูดอย่างหงุดหงิดว่า “คุณ!”จ้าวจวิ้นโจวเลิกคิ้วขึ้น “โทรศัพท์ที่ผมให้คุณใช้ คุณไม่เคยเปิดดูเลยหรือไง?”เธออึ้งไปชั่วขณะ “นั่นเป็นโทรศัพท์ของคุณ ฉันจะกล้าไปค้นอะไรแบบนั้นได้ยังไง?”“ผมให้คุณใช้ ก็เท่ากับว่ามันเป็นของคุณชั่วคราว ถ้าคุณเปิดดูแล้วปิดระบบนี้ไป ผมก็คงหาคุณไม่เจอ แบบนี้จะโทษใครดีล่ะ?”สวีเหยียนซีชื่นชมสกิลปากของเขาจริง ๆ เธอฝืนยิ้ม “คุณบอกกันตรง ๆ ก็ได้ ว่ามีระบบนี้อยู่”ตอนแรกเธอก็รู้สึกว่าโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นเหมือนตัวปัญหาอยู่แล้ว ตอนนี้เธอยิ่งมั่นใจว่าจะไม่ใช้มันอีกจ้าวจวิ้นโจวไม่ได้ต่อล้อต่อเถียง แต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดหน้าจอให้เธอเห็น ก่อนจะกดปิดระบบแชร์พิกัดนั้นต่อหน้าเธอ “ทีนี้ก็สบายใจได้แล้ว รอบหน้าผมหาคุณไม่เจอแล้ว”สวีเหยียนซีปฏิเสธ “ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะคะ แต่ไม่จำเ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 41

    บทที่ 41สวีเหยียนซีไม่พูดอะไร เพียงแต่กดโทรออกสีหน้าของเหมาเจียนั่วค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้น ชัดเจนว่าเธอไม่คิดว่าสวีเหยียนซีจะกล้าทำจริง!ไม่นาน เสียงของฟางห่าวก็ดังขึ้นจากปลายสาย “สถาปนิกสวี?”“ผู้ช่วยฟางคะ ฉันเจอคุณเหมาเจียนั่วที่ลานจอดรถใต้ดินของโรงแรม ดูเหมือนว่าเธอจะมีเรื่องด่วนอยากพบท่านประธานจ้าว แต่เพราะฉันขับรถของเขาออกมา เธอก็เลยตามมารังควานฉันอยู่ ตอนนี้ทำให้ฉันไม่สามารถทำงานได้ตามปกติค่ะ”เหมาเจียนั่วเบิกตากว้างทันที “???”ฟางห่าวพูดว่า “รอสักครู่นะครับสถาปนิกสวี เดี๋ยวผมจะจัดการให้”ทันทีที่วางสาย เหมาเจียนั่วก็ระเบิดอารมณ์ออกมาอีกครั้ง “เธอบอกว่าจะโทรแจ้งตำรวจไม่ใช่เหรอ! แล้วทำไมถึงโทรหาผู้ช่วยของจ้าวจวิ้นโจวแทนล่ะ!?”สวีเหยียนซียักไหล่เบา ๆ “ก็เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าที่นี่คือเมืองไห่ไม่ใช่เมืองจิง? ฉันก็แค่ทำตามคำแนะนำของเธอ การโทรหาตำรวจก็ไม่มีประโยชน์กับฉันอยู่ดี”“...” ไม่ใช่! ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเชื่อฟังกันจริง ๆ ด้วย?!ขณะที่เหมาเจียนั่วเอียงคอพลางชี้ไปที่สวีเหยียนซี เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น พอไม่มีทางเลือก เธอจึงหยิบขึ้นมาดูและเห็นว่าเป็นสายจากพ่อ หน้าขอ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 40

    บทที่ 40แต่ว่าจ้าวจวิ้นโจวกดตัดสายไปแล้วเอาไว้รับสายอย่างเดียว ส่วนเวลาอื่น ๆ ก็เก็บไว้ในกระเป๋าก็พอ สวีเหยียนซีบอกแบบนั้นเพื่อปลอบใจตัวเอง ก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วลงไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดินเมื่อกวาดตามองไปรอบ ๆ ทั้งลานจอดรถ รถเบนท์ลีย์คอนติเนนทัลสีฟ้าโดดเด่นสะดุดตาเกินกว่าจะหาไม่เจอ เพราะมันมีอยู่เพียงคันเดียวเท่านั้นพอปลดล็อกด้วยกุญแจรถ สวีเหยียนซีก็แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายอย่างจ้าวจวิ้นโจวจะมีรถหรูที่สีหวานละมุนราวกับรถของนางฟ้าแบบนี้หรือว่าในใจเขาเองก็อาจจะมีมุมความเป็นเด็กสาวแอบซ่อนอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ขณะที่เธอกำลังจะเปิดประตูรถ จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งก้าวมาขวางตรงหน้า ยืนกอดอกพลางจ้องเธอตาไม่กะพริบ “นี่มันรถของจ้าวจวิ้นโจว! ทำไมกุญแจถึงอยู่ในมือเธอได้?”สวีเหยียนซีสะดุ้งเล็กน้อย ความคิดแรกคือนี่คงเป็นผู้หญิงที่ตามจีบเขาอยู่แน่ ๆเพียงแต่ใบหน้านี้ เธอไม่เคยเห็นมาก่อนที่เมืองจิง แต่ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่านี่เป็นรถของจ้าวจวิ้นโจว ก็แปลว่าต้องรู้จักเขา เพียงแต่เธอไม่เคยเจอเท่านั้นเองเธอพูดว่า “ท่านประธานจ้าวให้ฉันยืมรถค่ะ”สิ้นคำพูดนั้น ผู้หญิงตรงหน้าก็ระเบิดอา

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 39

    บทที่ 39สวีเหยียนซีถึงกับอึ้งไปอีกครั้งจ้าวจวิ้นโจวรู้แม้กระทั่งรสนิยมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอ!ยิ่งไปกว่านั้น เธอเพิ่งเริ่มชอบชาลี่ซานเมื่อปีนี้เองด้วยซ้ำ แม้แต่ฉินเซียวยังคิดมาโดยตลอดว่าเธอชอบลาเต้ ทั้งที่เธอเคยบอกเขาไปหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยจำได้สักที ถึงอย่างนั้น เขายังอุตส่าห์ชงลาเต้มาให้ทุกวันไม่รู้เบื่อ เธอเลยไม่อยากทำให้ความตั้งใจของเขาเสียเปล่า สุดท้ายก็เลยไม่คิดจะเถียงให้มากความ ว่าเธอชอบชาลี่ซานหรือลาเต้กันแน่สวีเหยียนซีหลุบตาลงซ่อนความรู้สึกในแววตา ก่อนจะยกยิ้มบาง ๆ รับถ้วยชา พร้อมเอ่ยคำขอบคุณเธอก้มลงจิบชาหนึ่งอึก กลิ่นหอมหวานละมุนกระจายทั่วในปาก พอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สายตากลับเผลอทอดมองไปยังฝั่งตรงข้าม จ้าวจวิ้นโจวกำลังอ่านนิตยสาร แขนซ้ายพาดไว้บนที่วางแขนเป็นท่าทางสบาย ๆ ทุกครั้งที่เขาเปิดหน้าหนังสือ ก็พลอยทำให้เธอเห็นชัดเจนถึงมือเรียวยาวสวยสมบูรณ์แบบคู่นั้นหัวใจเธอเผลอไหววูบ ก่อนจะครุ่นคิด จ้าวจวิ้นโจวคนนี้รู้เรื่องของเธอมากแค่ไหนกันแน่?-สองชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็มาถึงเมืองไห่เพื่อความเงียบสงบ สวีเหยียนซีเลือกที่จะไม่ปิดโหมดเครื่องบิน ปล่อยให้มันเป็นแบ

Mais capítulos
Explore e leia bons romances gratuitamente
Acesso gratuito a um vasto número de bons romances no app GoodNovel. Baixe os livros que você gosta e leia em qualquer lugar e a qualquer hora.
Leia livros gratuitamente no app
ESCANEIE O CÓDIGO PARA LER NO APP
DMCA.com Protection Status