เมื่อดื่มกันได้ประมาณหนึ่ง ปริญและปุณณัฐต้องขอตัวกลับเพราะแฟนสาวของทั้งคู่มารับกลับแล้ว เหลือเพียงหนุ่มเกาหลีที่ไม่มีใครมารับและเขาคงนอนค้างที่นี่เพราะเพนต์เฮาส์ของเพื่อนก็มีหลายห้องนอน
“อืม...ว่าไงจ๊ะที่รัก”
คนเกาหลีที่เข้าใจภาษาไทยบ้างนิดหน่อยได้ยินเพื่อนรับโทรศัพท์ด้วยเสียงสองแล้วอดมองบนไม่ได้ ความหลงแฟนในตัวภัทรนั้นมีมากเสียจนมองจากดาวอังคารยังรู้เลย... ว่าหลงมาก
“ที่รัก อยู่ข้างล่างเหรอ เดี๋ยวลงไปรับ”
เมื่อรับสายแฟนสาวแล้ว ภัทรก็หันไปทางเพื่อนเกาหลีของเขา
“แฟนกูมา มึงไปนอนห้องมึงเลย”
คนที่พร้อมเทเพื่อนได้ทุกเมื่อ เมื่อแฟนมาบอกขึ้น ช่วยไม่ได้ ภัทรเองก็อยากอยู่ตามลำพังกับแฟนสาวกำมะลอของเขา
“มึงทิ้งเพื่อนได้โหดร้ายมาก ที่แม่กูบอกว่าคนไทยใจดี เนี่ย...คงไม่ใช่พวกมึงสามตัวใช่ไหม”
คิมซูฮยอนผู้ที่ฟังแม่พูดมาเสมอว่าคนไทยใจดีอย่างนั้นอย่างนี้ อดแขวะเพื่อนไม่ได้
“เออๆ พูดมาก เดี๋ยวกูเรียกแกร็บให้”
ว่าแล้วคนไทยใจดีอย่างภัทรก็กดเข้าแอปพลิเคชันสีเขียวเพื่อทำหน้าที่ไปส่งเพื่อนให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องรู้สึกผิดว่าเขากำลังไล่เพื่อนกลับ
คิมซูฮยอนกลับมาถึงคอนโดของตัวเองที่ทางเจ้านายเตรียมไว้ให้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นคอนโดที่หรูหราเลยทีเดียว เขานั่งอยู่ร้านอาหารข้างล่างของคอนโด เพราะตอนนี้ยังไม่ดึกมาก เขายังไม่อยากไปอยู่ห้องคนเดียว ก็คนมันเหงาไป อยู่บนห้องคนเดียวน่าจะเหงากว่านี้
ตอนนี้เขารู้สึกถึงความเหงา...เหงามาก เพราะเพื่อนรักทั้งสามคนมีแฟนกันหมดแล้ว พอเป็นคนเดียวที่ไม่มีแฟน และต้องมาอยู่ในเมืองที่ไม่คุ้นเคย ก็ยิ่งรู้สึกเหงา คนมากมายเดินไปมาบนท้องถนน แต่เขากลับเหมือนอยู่คนเดียวบนโลกใบใหญ่
เมื่อเขามองไปยังโต๊ะตรงข้าม เขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งมองออกไปบนท้องถนนเหมือนเขา เพียงแวบแรกเขาก็รู้สึกว่าถูกชะตากับเธอคนนี้แล้ว ดวงตาเศร้าของเธอเหมือนเขาในเวลานี้ เขานั่งมองเธออยู่นาน แต่เหมือนเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรรอบตัวสักเท่าไร
สักพักก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา อืม...คงเป็นแฟนกันสินะ และไม่นานเธอก็ลุกขึ้น น่าจะลุกไปห้องน้ำ เขาก็ยังมองดูผู้ชายคนที่น่าจะเป็นแฟนของเธอ มันดูแก่กว่าเธอมาก และหน้าตาถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานที่จะเป็นแฟนของผู้หญิงคนนั้นได้ เธอดูสวยสดใสและอ่อนวัยเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับผู้ชายคนนั้น
“เอ๊ะ!...” ผู้ชายคนนั้นเอาอะไรบางอย่างใส่ลงไปในแก้วเครื่องดื่มของเธอ ซึ่งมันคงไม่ใช่สิ่งที่ดี เพราะถ้าดีคงไม่ต้องแอบใส่แบบนั้น เขาอดคิดไม่ได้ว่ามันคงเป็นยาอย่างว่า แบบนี้แสดงว่าไม่ได้เป็นแฟนกันใช่ไหม
มันไม่ใช่เรื่องอะไรของเขา เขาไม่ควรยุ่งไหม ชายหนุ่มบอกตัวเองแบบนั้น แต่...ถ้าหากผู้หญิงคนนั้นได้รับอันตรายล่ะ เท่ากับเขาเป็นเหมือนผู้สมรู้ร่วมคิดเลยนะ เพราะถ้ารู้แล้วไม่ช่วยมันก็ไม่ต่างกับการรู้เห็นเป็นใจ
‘เอาไงดีวะ’
ในขณะที่เขากำลังตัดสินใจว่าจะช่วยหรือจะทำอะไรต่อ สักพักเธอก็เดินกลับมา แปลกจังที่เธอแทบไม่มีรอยยิ้ม หน้าตาเศร้าและแววตาแดงก่ำบ่งบอกว่าที่เธอเข้าห้องน้ำมานั้นคงไปร้องไห้มาอย่างหนัก หน้าตาเธอดูเด็กมาก เมื่อมองเห็นเธอชัดๆ ในมุมนี้ อายุไม่น่าจะเกินยี่สิบปี
“เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน” หนุ่มเกาหลีตัดสินใจเดินเข้าไปที่โต๊ะนั้น ทั้งสองคนหันมามองเขา โดยผู้ชายคนนั้นมองหน้าเขาแบบไม่พอใจ
“แฟนน้องเหรอ ไหนบอกไม่มีแฟน”
ถึงสกิลภาษาไทยของเขาจะไม่ขั้นเทพ แต่เขาก็ฟังออก ...อ้าวมันไม่ได้เป็นแฟนผู้หญิงคนนี้หรอกเหรอ ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าอะไรที่มันใส่ลงไปในแก้วน้ำนั่น ไม่ผิดจากที่เขาคิดแน่ๆ
“ไม่ใช่แฟนนะคะ คุณเป็นใคร”
หญิงสาวหันมาทางคนที่หน้าตาเหมือนพระเอกเกาหลีแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ ว่าเขาจะเข้ามาหาเธอทำไม
“เมีย..กลับ”
คำง่ายๆ สองคำที่เขาคิดว่าเขาน่าจะพูดชัดที่สุดในตอนนี้ เพราะฟังเพื่อนทั้งสามพูดคำนี้บ่อยมากเมื่อตอนก่อนมาถึงที่นี่
“อะไรวะ!..มีผัวแล้วมาหลอกขายเหรอ ไหนบอกว่าซิงไง” ไอ้ผู้ชายคนนั้นโมโหแล้วก็ลุกเดินออกไป
“เดี๋ยวพี่เดี๋ยว...นี่นายปล่อยนะ”
หญิงสาวจะลุกตามแต่โดนชายหนุ่มเกาหลีดึงแขนไว้ ลูกค้าคนแรกของเธอวิ่งไปโน่นแล้ว เธอก็ไม่อยากทำอาชีพนี้หรอก แต่ตอนนี้มันไม่มีทางเลือกจริงๆ แม่เธอต้องผ่าตัดในอีกไม่กี่วันนี้ ลำพังแค่รายได้จากการเป็นสาวเสิร์ฟและงานเสริมอื่นๆ มันคงไม่พอค่าผ่าตัดหลักแสนของแม่ และคงหาได้ไม่ทันเวลาด้วย
ปาริสานึกถึงวันนี้เมื่อในอดีตเมื่อหลายปีก่อนไม่ได้ วันที่เธอเจอเขาครั้งแรก วันที่ทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล ช่วงเวลานั้นเธอคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในชีวิตเธอ แต่ก็ไม่คิดว่านั่นก็เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตเธอที่ได้เจอเขาเขาถึงได้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเราเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้นแล้ว มันก็คงจะจริงถ้าเธอไม่เจอปัญหาแบบนั้น ไม่ตัดสินใจทำเรื่องแบบนั้นเธอก็คงไม่เจอเขา“ขอบคุณนะโอปา ที่วันนั้นตัดสินใจเดินเข้ามา” ปาริสา บอกกับสามีตอนที่เธอกำลังนอนกอดเขา“ขอบคุณเหมือนกันที่ไว้ใจผม” คิมซูฮยอนก็รู้สึกขอบคุณไม่ต่างจากเธอเพราะตอนนั้นเองเขาก็ไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองคนเดียว การมีเธอทำให้ชีวิตเขาสะดวกสบายในหลายๆ อย่าง รู้ตัวอีกทีเขาก็มีเธออยู่ในชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว“ไม่ไว้ใจได้อย่างไรเล่นเอาท่านประธานมาแนะนำตัวขนาดนั้น เล่นใหญ่ไม่มีใครเกินโอปากับเพื่อนเลย” ปาริสาอดขำถึงวันที่เขาเล่นใหญ่พาท่านประธานมาหาเธอไม่ได้“ก็อยากได้แม่บ้าน แต่กลัวแม่บ้านจะกลัว” คิมซูฮยอนทำเสียงออดอ้อนเมียรัก“อยากได้แม่บ้านแต่พอย้ายมาอยู่ด้วย ไม่ได้ทำหน้าที่แม่บ้านเลย” ปาริสาย่นคิ้วให้เขา เพราะงานบ้
คิมซูฮยอนนั่งดูงานฉลองวันเกิดลูกชายคนแรกในวัยหนึ่งขวบ ลูกชายของเขาไม่มีหน้าตาส่วนใดคล้ายเขาเลยสักนิด ทั้งที่เขาเป็นคนที่พยายามปั้นลูกชายคนนี้ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาท่าทางเหมือนปาริสาไม่มีผิด “โอปา เป็นอะไรคะ” ปาริสาเห็นแฟนหนุ่มนั่งมองลูกชายที่กำลังเล่นกับเพื่อนของสามีที่บินมาฉลองวันเกิดลูกชายของพวกเธอถึงเกาหลี “ทำไมลูกไม่เหมือนผมเลยริสา เหมือนริสามากแต่ไม่มีส่วนไหนเหมือนผมเลย” คนอ้อนเมียก็ทำเสียงอ้อนลงมาอีกหนึ่งระดับ จับมือเธอไว้แน่นอยากให้เธอเห็นใจเขา “แต่ลูกชายเขาว่าเหมือนแม่ดีนะคะ” ปาริสาบอกอย่างที่เธอคิดและได้ยินมา สำหรับเธอไม่ว่าลูกจะเหมือนใครหรือออกมาอย่างไรเธอก็รักเขามาก ลูกของเธอเป็นเด็กน่ารักเลี้ยงง่าย เท่านี้เธอก็พอแล้ว“ผมอยากให้ลูกเหมือนผมบ้าง” คิมซูฮยอนพูดพร้อมทั้งซุกหน้าลงกับไหล่ของหญิงสาวอย่างออดอ้อน“ไว้คนต่อไปทำลูกสาวดีไหมคะ ลูกสาวเขาบอกต้องเหมือนพ่อถึงจะดี” เสียงหวานของเมียสาวทำให้เขายิ้มออกมาทันที นี่แหละที่เขาต้องการอยากได้ลูกสาวน่ารักๆ อีกสักคน“แต่ถ้าลูกสาวผมอยากให้เหมือนริสามากว่า”“เหมือนโอปาก็น่ารักนะคะ ริสาอยากเห็นโอปาตอน
ปาริสาต้องตกใจกับอาหารทะเลสดๆ ของที่นี่ สดจริงๆ ซาชิมิที่แสนอร่อย หอยเป๋าฮื้อที่ชีวิตนี้ที่ไม่เคยกินมาก่อน ทุกอย่างอร่อยมาก กิมจิที่แม่ของโอปาทำก็อร่อยที่สุดเท่าที่เคยได้กินมา มันอร่อยทุกอย่างจนน้ำตาเธอแทบไหล“โอปา อร่อยทุกอย่างเลย”“จะอ้วนเป็นหมูจริงๆ ก็คราวนี้แหละ” ชายหนุ่มบีบแก้มของแฟนสาว สายตาที่มองกันของทั้งคู่ ทำให้ผู้ใหญ่สองคนยิ้มให้กับความน่ารักของพวกเขานานแค่ไหนแล้วนะที่พวกเขาทั้งสองคนไม่เห็นลูกชายมีความสุขแบบนี้ ยังจำความภาพความเจ็บช้ำในวันก่อนกับรักครั้งเก่าของลูกได้ดี“แล้วพรุ่งนี้จะพาน้องไปเที่ยวที่ไหน”“ก็คงแถวๆ นี่แหละครับ ริสาอยากไปไหนเป็นพิเศษไหมครับ”“แล้วแต่โอปาเลยค่ะ ริสาไม่รู้ว่าต้องไปเที่ยวที่ไหน”“เดี๋ยวอีกสามเดือนพ่อกับแม่จะไปเที่ยวเมืองไทยนะ”“ดีเลยครับ อยากให้แม่ไปเที่ยว แม่ชอบเมืองไทย”“อยากไปอยู่กับลูกสะใภ้นานๆ หน่อย” คิมโซอึนหันมาพูดกับปาริสา เพราะเธออยากใช้เวลากับลูกสะใภ้ อยากสอนหลายอย่างให้ลูกสะใภ้ โดยเฉพาะอาหารที่คิมซูฮยอนชอบรับประทานทั้งปาริสาและคิมซูฮยอนใช้เวลาท่องเที่ยวอยู่เกาะเชจูอยู่หลายวัน จากนั้นก็กลับมาที่โซลก่อนกลับกรุงเทพฯ การเดินทางมาบ้านเข
“อาจุมม่า” ปาริสาเองก็ตกใจ ไม่คิดว่าจะเจอคุณป้าคนนี้ที่นี่ และยังเป็นแม่ของแฟนเธออีก...โลกกลม...กลมมาก“หือ?” คิมซูฮยอนมองหน้าทั้งสองคนสลับไปมา“คนนี้ไงคนที่เคยช่วยแม่ไว้ตอนแม่ไปเที่ยวเมืองไทย จำได้ไหมที่แม่เคยเล่าให้ฟัง”“ใครจะจำไม่ได้ล่ะ แม่เล่าเป็นสิบรอบ...แต่ผมว่าจังหวะนี้มันน้ำเน่าไปไหมแม่” คิมซูฮยอนไม่คิดว่าชีวิตจริงจะน้ำเน่ายิ่งกว่านิยายอีก“เออ นั่นสิ ทำไมน้ำเน่าจัง” ทั้งสี่คนก็มองหน้ากัน ก่อนจะหัวเราะออกมาย้อนไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหน้านี้ คิมโซอึนเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยกับคณะทัวร์ ตอนที่เดินเที่ยวอยู่ในวัดพระแก้ว เธอก็พลัดหลงกับคณะทัวร์ และโทรศัพท์มือถือเจ้ากรรมก็ดันมามีปัญหาอีก เธอพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง แต่ก็ไม่ดีจนคนฟังจะเข้าใจได้ทุกอย่าง ตอนนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าจะต้องเดินออกประตูไหน ไปทางซ้ายทางขวา ข้างหน้าหรือข้างหลัง มันดูสับสนไปหมด เธอเลือกที่จะนั่งรออยู่เงียบๆ เพราะคิดว่าอย่างไรเสียคณะทัวร์ของเธอก็น่าจะมาตามหาเธอจนกระทั่งเธอเด็กสาววัยรุ่นอายุไม่น่าจะเกินสิบห้าปีเดินเข้ามาถามเธอเป็นภาษาเกาหลีสำเยงแปร่งๆ แต่ก็สามารถสื่อสารได้ คิมโซอึนยื่นนามบัตรของคณะทัวร์ให้เด็กสาววัยรุ่น จากนั
ตู๊ดๆๆปาริสามองการลางานของแฟนหนุ่ม เอ่อ คือ...ที่ตกใจคือประโยคที่ว่า...จะพาเมียไปไหว้แม่ หลังจากนั้นเธอแทบไม่ได้ยินว่าสองหนุ่มพูดอะไรกัน เธออยากเปลี่ยนใจไม่ไปเกาหลีตอนนี้ทันไหมทั้งสองมายืนที่สนามบินนานาชาติเกาะเชจู ตอนแรกปาริสาก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมเขาพาเธอมาที่เกาะเชจู ไม่ได้ไปที่โซลเหรอ...แต่เขาก็เฉลยเมื่อเธอทำหน้าสงสัย“พ่อกับแม่ผมอยู่เกาะเชจู ท่านทั้งสองย้ายมาอยู่ที่นี่ได้เกือบสามปีแล้ว”“ค่ะ”ใช้เวลาเดินทางด้วยเครื่องบินทั้งหมดห้าชั่วโมง แต่ปาริสากลับนอนไม่หลับเลยสักนาที เพราะตื่นเต้นที่ได้มาต่างประเทศ เธอทำพาสปอร์ตไว้แล้วตั้งแต่ตอนที่จะมาเที่ยวกับพ่อ ไม่คิดว่าสุดท้ายจะได้มาใช้ในตอนที่ผ่านมาแล้วถึงสามปี แต่สิ่งที่ตื่นเต้นมากที่สุดคือการเจอครอบครัวเขา“ตื่นเต้นเหรอ มือเย็นเชียว” คิมซูฮยอนเอ่ยถาม เมื่อเขาประสานมือของตัวเองเข้ากับมือบาง ความเย็นจากปลายนิ้วบ่งบอกว่าเธอตื่นเต้น“ค่ะ ตื่นเต้น อีกอย่างอากาศหนาวด้วย” อากาศของที่นี่เย็นกว่าเมืองไทยค่อนข้างเยอะ ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกเธอปะปนไปด้วยอะไรบ้างคิมซูฮยอนกอบกุมมือบางไว้ในอุ้งมือใหญ่ของเขา พร้อมทั้งเป่าลมหายใจอุ่นๆ ของเขาใ
“โอปาไม่ไปทำงานเหรอคะ”“ลาพักร้อน...อยากอยู่กับเมีย”“อือ...ขอบคุณนะคะ ขอบคุณ”ปาริสาซุกหน้ากับตักอุ่น อยากจะขอบคุณเขาสักร้อยครั้งหมื่นครั้งให้สมกับความรักความอบอุ่นที่เขามอบให้เธอซุปสาหร่ายก็เรียกน้ำตาของปาริสาได้อีกครั้ง คิมซูฮยอนถึงกับต้องบ่นว่าเธอร้องไห้เยอะเกินไปแล้ววันนี้“โอปา...ตื่นเต้น”ปาริสาอดตื่นเต้นกับไฟล์ที่พ่อให้มาไม่ได้ เธอไม่ได้คาดหวังว่าพ่อจะทิ้งอะไรให้มากมาย แค่บ้านที่พ่อทิ้งไว้ให้ก็เพียงพอให้เธอเรียนจบแล้ว อีกอย่างตอนนี้เธอมีความสุขดีที่ได้อยู่กับโอปาของเธอ“ถ้างั้นก็ยังไม่ต้องเปิดก็ได้”“ไม่เอาอยากรู้” ปาริสาเปิดดูไฟล์แนบ มียูเซอร์พาสเวิร์ดและชื่อแอปต่างมากมาย เธอเองก็งงกับสิ่งนั้น“โอปา แอปพวกนี้คืออะไรคะ” เธอยื่นให้เขาดู ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือของพ่อที่เก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางขึ้นมาเปิด เพราะคิดว่ามันน่าจะได้ใช้“มันคือแอปเทรดหุ้นกับเทรดเงินคริปโต”ปาริสาพอจะรู้จักหุ้นนะ แต่เงินคริปโตอะไรเนี่ยเธอเองก็ไม่ค่อยได้ศึกษา จึงไม่รู้ว่ามันคืออะไรหลังจากจัดการเปิดโทรศัพท์ของพ่อเสร็จแล้ว ปาริสาก็ส่งให้เขา เขากดเข้าไปในแต่ละโปรแกรม เริ่มแรกจากโปรแกรมสีน้ำเงิน ที่เข