Share

บทที่ 884

Author: จิ้งซิง
เวินเฉวียนเซิ่งไม่ได้คิดมาก เพียงแค่นหัวเราะเสียงเย็น “ไม่มีคนออกมาอะไรกัน เพียงแต่รู้ข่าวจากในวังตั้งแต่แรกเหมือนข้าก็เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ยอมเปิดประตู”

เวินเฉวียนเซิ่งคิดว่าเป็นอย่างนั้น

แต่ไม่รู้พ่อบ้านเป็นอะไร ในใจมักรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ไม่ ช่างเถอะ อาจเพราะเขาคิดมากไปเอง

พ่อบ้านบอกตัวเองเช่นนี้อย่างเงียบเชียบ

แต่เขากลับไม่รู้ ขณะนี้ภายในจวนจงหย่งโหวเป็นดังที่เขาคาดการณ์ พิลึกอย่างมาก

“เยวี่ย...เยวี่ยเอ๋อร์ เจ้าดูสิสิ่งที่เจ้าต้องการ ข้าสั่งให้คนไปซื้อมาให้เจ้าหมดแล้ว วันนี้...ให้ข้าพบเส้าเจ๋อได้หรือไม่?”

ขณะนี้หากเวินซื่อมาอยู่ข้างกัน ต้องตะลึงกับภาพตรงนี้อย่างหาที่สุดไม่ได้

ใครบ้างจะไม่รู้จักนิสัยของเวินหย่าลี่? ตอนแรกที่เวินเยวี่ยแต่งเข้ามา นางหาเรื่องรังแกเวินเยวี่ยสารพัด

ทว่ายามนี้ทำราวกับบ่าวรับใช้ ยืนอยู่ตรงหน้าเวินเยวี่ย เอาใจนางด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย

เวินเยวี่ยยกมือกวาดผ่านเครื่องหยกมูลค่าแพง ส่องแสงประกายแวววาว ทว่าวินาทีต่อมานางกลับหยิบหนึ่งในนั้นขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วขว้างลงพื้นอย่างแรง

“พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!...”

หลังจากขว้างชิ้นที่หนึ่ง
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (1)
goodnovel comment avatar
Sam Sung
ยัย้วินเยวี่ย ลูกรัก พ่อมัน ช่างโหดร้าย ชั่วช้าจริงๆ นางเอกรีบมาปราบเร็วๆ ก่อนที่ตัวอะไรในร่างนางจะแก่กล้าสามารถมากกว่านี้
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 906

    “ของสิ่งนั้นเป็นของเจ้าบ้านสกุลหลาน หากไม่มีมัน ต่อให้เจ้าเปลี่ยนแซ่และสืบทอดสกุลหลาน ก็จะเป็นเจ้าบ้านที่ผิดกฎหมายอยู่ดี”ทันทีที่พูดคำนี้ออกไป สีหน้าท่าทางของพ่อบ้านหลานก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันดวงตาที่ขุ่นมัวแต่เดิมของเขากลับเปล่งประกายแวววาวในทันที มองไปยังเวินหย่าลี่ที่อยู่หน้ารถม้าอย่างเฉียบขาด “บังอาจนัก ฮูหยินจงหย่งโหว ท่านกำลังคุกคามเจ้าบ้านของเราอยู่หรือ?!”เวินซื่อในรถม้าสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างโดยฉับไวนางไม่ได้พูดอะไร คอยฟังสถานการณ์ภายนอกอย่างเงียบ ๆเวินหย่าลี่ส่ายหัว “พ่อบ้านหลาน ดูจากปฏิกิริยาของท่านนั้นคาดเดาสิ่งที่ข้าพูดถึงได้แล้ว แต่ข้าไม่ได้ข่มขู่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ แค่หมดทางไปแล้ว เพื่อช่วยเหลือเส้าเจ๋อของเรา ข้าทำได้เพียงเท่านี้ หวังว่าพ่อบ้านหลานจะพูดกับธิดาศักดิ์สิทธิ์แทนข้าได้”พ่อบ้านหลานมองดูนางอยู่พักหนึ่งโดยไม่พูดจาแม้ว่าเขาจะคาดเดาได้ว่าของสิ่งนั้นคืออะไร รู้ว่าของสิ่งนั้นสำคัญกับสกุลหลานมากเพียงใด เขาก็ยังไม่ยอมพูดอะไรแทนเวินหย่าลี่เพราะเขารู้ว่า ตอนนี้เขาไม่ได้ติดตามเจ้าบ้านคนก่อนผู้นั้นอีกแล้วทุกวันนี้เจ้าบ้านคนใหม่นี้ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีแนวคิดของ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 905

    “ฮูหยินจงหย่งโหว ท่านแต่งตัวเช่นนี้คือ...?”ขณะนี้เวินหย่าหลี่แต่งกายด้วยชุดคลุมสีเทาภายนอก ยังสวมหมวกผ้าโปร่งสีดำคลุมศีรษะและปกปิดใบหน้า ปรากฏตัวอยู่นอกเมืองเพียงลำพังผู้เดียวราวกับว่ากำลังซ่อนตัวจากใครบางคน หากไม่ใช่เพราะนางพูดออกมา พ่อบ้านหลานคงจำไม่ได้จริง ๆ“พ่อบ้านหลาน ข้ามีเรื่องเร่งด่วนต้องการพบธิดาศักดิ์สิทธิ์ ธิดาศักดิ์สิทธิ์อยู่ข้างในใช่หรือไม่? รบกวนท่านช่วยบอกให้ข้าหน่อยได้ไหมว่า ข้ามีเรื่องเร่งด่วนจริง ๆ!”เวินหย่าหลี่ถามด้วยน้ำเสียงร้อนใจมากเมื่อพ่อบ้านหลานเห็นนางในสภาพนี้ก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตอบทันที แต่กล่าวว่า “หากฮูหยินจงหย่งโหวมีธุระอะไร ก็สามารถส่งจดหมายเยี่ยมเยียนไปที่จวนสกุลหลานหรืออารามสุ่ยเยว่ก่อนได้ หากเจ้าบ้านของเรามีเวลาก็จะเรียกพบฮูหยินเอง”“เจ้าบ้าน...?”เวินหย่าลี่ตกตะลึงไปชั่วขณะก่อนจะตระหนักว่าวันนี้เวินซื่อกำลังจะเสนอขอเปลี่ยนแซ่ในการเข้าเฝ้าวันนี้ พ่อบ้านหลานผู้นี้ก็เปลี่ยนคำเรียกชื่อไปแล้ว ดูเหมือนว่าจะสำเร็จแล้วแน่นอนไม่คิดว่าแม้แต่พี่ชายของนางก็ไม่สามารถเอาชนะใจเวินซื่อได้ถ้าหากขอให้เวินซื่อช่วยนางได้ บางทีลูกชายของน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 904

    “ดี ๆ อย่าลืมเปลี่ยนคำพูดนะ ต่อไปจะไม่เรียกว่าตาทวดแล้ว ต้องเรียกว่าปู่ทวดแทน ฮ่า ๆ ๆ...”มาพร้อมกับความปลื้มอกปลื้มใจต่อเพื่อนเก่าที่มีผู้สืบทอด ท่านราชครูหวังจากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะลั่นอย่างสบายใจหลังจากนั้นก็มีขุนนางใหญ่จำนวนไม่น้อยรวมถึงเสนาบดีฉี ที่พากันเข้ามาทักทายเวินซื่อหลังจากออกจากตำหนัก พูดคุยกับนางไม่กี่คำพอประมาณไม่ใช่แค่เพราะนางมีสถานะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่เป็นเพราะตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปนางไม่ใช่บุตรสาวภรรยาเอกของสกุลเวินที่ถูกขับไล่ออกจากบ้านอีกแล้ว แต่เป็นเจ้าบ้านสกุลหลานในสายตาของทุกคนเมื่อเผชิญหน้ากับความกระตือรือร้นของพวกขุนนางใหญ่เหล่านี้ เวินซื่อก็ยังคงสุขุม รู้ว่าอะไรควรไม่ควร กิริยาสง่างามทุกอากัปกิริยาเปี่ยมไปด้วยบุคลิกที่น่านับถือ ทำให้ขุนนางใหญ่ทั้งหลายพากันแอบอุทานด้วยความตกใจ อดไม่ได้ที่จะมองนางแตกต่างไปจากเดิมตั้งแต่ต้นจนจบ เป่ยเฉินหยวนยืนเคียงข้างฟ่านจุ้ย ทั้งสองไม่มีใครออกมารบกวน แต่เฝ้าดูนางอยู่ทางด้านข้างแทนเป่ยเฉินหยวนรู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่ตัวเองจะเข้าไป เพราะถึงอย่างไรอู๋โยวของเขาก็กำลังจะกลายเป็นเจ้าบ้านสกุลหลานอย่า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 903

    ถึงอย่างไรเวินเยวี่ยก็คาดไม่ถึง ตัวเองแค่จะซักถามเวินซื่อด้วยความโกรธ แต่กลับเป็นการช่วยนางเสียอย่างนั้นเดิมทีนางตั้งใจจะหาเรื่องเวินซื่อต่อไป แต่สถานการณ์ตรงหน้ากลับดูแตกต่างไปจากที่นางจินตนาการไว้มากบิดามีอำนาจมากในราชสำนักถึงเพียงนั้น เหตุใดตอนนี้ถึงเสียเปรียบได้?ท่านราชครูหวังไม่ใช่คนที่บิดาหามาช่วยเขาหรือ ทำไมตอนนี้กลับออกมาช่วยพูดแทนเวินซื่อเล่า?ไหนจะ “ลูกนอกสมรส” ที่เวินซื่อเพิ่งพูดไปอีก?หมายความว่าอย่างไร?เวินเยวี่ยรู้สึกไม่ชอบมาพากลมากขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ภายในใจ จนกระทั่งนางเงยหน้าขึ้นและจ้องมองไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าอีกครั้งในชั่วพริบตานั้น จู่ ๆ นางก็มีการคาดเดาอย่างเหลวไหลไร้ขอบเขต“เจ้า...เจ้าก็เป็นลูกนอกสมรสของท่านพ่อด้วยหรือ? ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็เป็นน้องชายฝาแฝดของข้า?”เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฟ่านจุ้ยที่มีหน้าตาเหมือนกับนางแทบทุกประการ ซ้ำยังดูมีอายุใกล้เคียงกันอีกด้วย ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่เวินเยวี่ยจะมีการคาดเดาเช่นนี้แต่ใครจะคาดคิดว่าฟ่านจุ้ยกลับชำเลืองมองนางอย่างเหยียดหยาม “ใครเป็นน้องชายของท่าน ท่านกับข้าไม่ใช่แม่เดียวกันเสียหน่อย”“เจ้าว่าอะไร...”

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 902

    เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ขุนนางทั้งหลายถึงนึกขึ้นได้ว่า ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเคยได้รับการดูแลจากภรรยาของเจิ้นกั๋วกง ซึ่งก็คือหลานจื่อจวินผู้เป็นบุตรสาวภรรยาเอกของสกุลหลานเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์และการผุดขึ้นมาอย่างฉับพลันของจวนเจิ้นกั๋วกง ยังเริ่มต้นขึ้นในเวลานั้นพอดีอีกด้วยหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ หากไม่ใช่เพราะสกุลหลาน จะมีจวนเจิ้นกั๋วกงในปัจจุบันนี้ได้อย่างไร?ลืมกำพืดตัวเองไปแล้วจริง ๆ!เขาผู้เป็นเจิ้นกั๋วกงนั้นได้ดีแล้ว แต่สกุลหลานนั้นสูญสิ้นแล้ว!บุตรสาวเพียงคนเดียวแต่งงานกับเขาผู้เป็นเจิ้นกั๋วกง ซ้ำยังถูกเขาทรยศอีกจนกระทั่งตอนนี้มีธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่มีสายเลือดครึ่งหนึ่งของสกุลหลาน ต้องการเปลี่ยนมาเป็นสกุลหลาน เพื่อแสดงความกตัญญูต่อมารดา แต่ก็ถูกเขาผู้เป็นเจิ้นกั๋วกงห้ามไว้อย่างคาดไม่ถึง!สกุลเวินของเขามีบุตรชายภรรยาเอกสี่คนและบุตรสาวภรรยาเอกหนึ่งคน ยังมีบุตรชายหญิงนอกสมรสอีกคู่หนึ่ง แบ่งให้สกุลหลานคนเดียวจะเป็นไรไป?อันที่จริงธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสกุลเวินของพวกเขาอีกต่อไป ทำไมจะเปลี่ยนมาเป็นแซ่หลานไม่ได้?!“เจิ้นกั๋วกง คนเราจะลืมกำพืดตัวเองขนาดนี้ไม่ได้!

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 901

    เวินเยวี่ยเกลียดชังเวินซื่อมากมายมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่นางตายไปแล้วครั้งหนึ่ง นางก็ยิ่งเต็มไปด้วยความเคียดแค้นในตัวเวินซื่อดังนั้นเมื่อเห็นเด็กที่มีหน้าตาเหมือนนางมาก นางจึงทึกทักเอาโดยสัญชาตญาณว่าเวินซื่อต้องการทำร้ายนางแต่นางกลับไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองพูดออกมานั้นกลับเป็นการช่วยเหลือเวินซื่อเวินซื่อยิ้มขึ้นมาทันใด “ดูเหมือนว่าน้องสาวแสนดีของข้าก็รู้สึกว่าเขาหน้าตาเหมือนเจ้าเหมือนกันสินะ อ้อไม่สิ ตามที่เจ้าพูดคือเหมือนกันไม่มีผิดเลย ถูกไหม?”“แล้วท่านว่าอย่างไรเล่า?!”เวินเยวี่ยรู้สึกว่าเวินซื่อแค่พูดจาไร้สาระเท่านั้นนางจ้องเวินซื่ออย่างโกรธเคือง แต่กลับพบว่าเวินซื่อหัวเราะออกมาในทันใด“ได้ยินแล้วหรือยังท่านพ่อ ตอนนี้ท่านมีอะไรจะโต้เถียงอีกไหม?”“ดูลูกชายหญิงนอกสมรสของท่านคู่นี้สิ ทำไมพวกเขาถึงหน้าตาเหมือนกันไม่มีผิด ท่านน่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจนะ? ต้องการให้ข้าช่วยเล่าเรื่องในตอนนั้นทั้งหมดแทนท่านไหม?”“ลูกชายหญิงนอกสมรสอะไรกัน?”เวินเยวี่ยยังไม่ค่อยมั่นใจในสถานการณ์ เมื่อนางจะเอ่ยปากซักถามต่อไป ก็ได้ยินเสียงคำรามจากทางด้านหน้าอย่างกะทันหัน “หุบปาก!

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status