Share

บทที่ 904

Author: จิ้งซิง
“ดี ๆ อย่าลืมเปลี่ยนคำพูดนะ ต่อไปจะไม่เรียกว่าตาทวดแล้ว ต้องเรียกว่าปู่ทวดแทน ฮ่า ๆ ๆ...”

มาพร้อมกับความปลื้มอกปลื้มใจต่อเพื่อนเก่าที่มีผู้สืบทอด ท่านราชครูหวังจากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะลั่นอย่างสบายใจ

หลังจากนั้นก็มีขุนนางใหญ่จำนวนไม่น้อยรวมถึงเสนาบดีฉี ที่พากันเข้ามาทักทายเวินซื่อหลังจากออกจากตำหนัก พูดคุยกับนางไม่กี่คำพอประมาณ

ไม่ใช่แค่เพราะนางมีสถานะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่เป็นเพราะตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปนางไม่ใช่บุตรสาวภรรยาเอกของสกุลเวินที่ถูกขับไล่ออกจากบ้านอีกแล้ว แต่เป็นเจ้าบ้านสกุลหลานในสายตาของทุกคน

เมื่อเผชิญหน้ากับความกระตือรือร้นของพวกขุนนางใหญ่เหล่านี้ เวินซื่อก็ยังคงสุขุม รู้ว่าอะไรควรไม่ควร กิริยาสง่างาม

ทุกอากัปกิริยาเปี่ยมไปด้วยบุคลิกที่น่านับถือ ทำให้ขุนนางใหญ่ทั้งหลายพากันแอบอุทานด้วยความตกใจ อดไม่ได้ที่จะมองนางแตกต่างไปจากเดิม

ตั้งแต่ต้นจนจบ เป่ยเฉินหยวนยืนเคียงข้างฟ่านจุ้ย ทั้งสองไม่มีใครออกมารบกวน แต่เฝ้าดูนางอยู่ทางด้านข้างแทน

เป่ยเฉินหยวนรู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่ตัวเองจะเข้าไป เพราะถึงอย่างไรอู๋โยวของเขาก็กำลังจะกลายเป็นเจ้าบ้านสกุลหลานอย่า
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 914

    ท่านเป็นถึงท่านกั๋วกงที่ยิ่งใหญ่ มีสตรีนางใดที่ไม่สามารถเอาเข้าจวนได้โดยตรง?ไฉนจึงต้องมีลูกนอกสมรสอยู่ข้างนอกเต็มไปหมด?ปีก่อนพาบุตรสาวนอกสมรสกลับมา ปีนี้พาบุตรชายนอกสมรสกลับมาอีกก่อนนี้ยังปิดบังซ่อนเร้น พากลับมาในนามบุตรสาวบุญธรรม อย่างไรแรกเริ่มก็ยังไม่มีใครรู้แต่บุตรชายนอกสมรสในปีนี้กลับเป็นที่รู้กันไปทั่วเพียงเวลาแค่หนึ่งเที่ยงวัน ก็รู้กันไปทั่วเมืองหลวงแล้วยามนี้ใครบ้างจะไม่รู้ว่าเจิ้นกั๋วกงที่นึกว่ารักเดียวลึกซึ้ง มีฮูหยินเอกหลานซื่อเป็นภรรยาเพียงคนเดียว อยู่ข้างนอกถึงขนาดมีบุตรชายหญิงนอกสมรสหนึ่งคู่?เดิมทีสามารถเป็นเรื่องที่เปิดเผยมีเกียรติ ทว่ายามนี้กลับอับอายขายหน้ากันหมดนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?!พ่อบ้านเองก็ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ ตลอดทางที่มาก็มองดูสีหน้าเวินจื่อเยวี่ยอย่างระมัดระวังแค่มองดูก็รู้ ชีวิตในจวนหลังจากนี้เกรงว่าคงไม่สงบแล้วในฐานะบ่าวคนหนึ่ง พ่อบ้านเองก็ไม่กล้าเกลี้ยกล่อมอะไรมาก จึงทำใจแข็งเอ่ยกับฟ่านจุ้ย “คุณชายน้อย สัมภาระของท่านต้องการให้บ่าวสั่งคนไปช่วยท่านนำออกมาหรือไม่?”“ไม่ต้องหรอก ไปทั้งอย่างนี้เถอะ”ฟ่านจุ้ยกระโดดลงมา แล้วเดินผ่านเวินจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 913

    “จริงแท้แน่นอน”เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “แต่หากเจ้าเป็นเช่นพี่ใหญ่ของเจ้า ไม่เชื่อฟังคำพูดของพ่อ ทำเรื่องที่พ่อไม่ชอบใจ เช่นนั้นเจ้าอย่าคิดว่าจะได้สิ่งใดเลย”“พี่ใหญ่ทำเรื่องใดหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยถามด้วยความสงสัย จากนั้นหันมองรอบด้าน “ใช่สิ ท่านพ่อพี่ใหญ่กลับมาพร้อมท่านไม่ใช่หรือ ทำไมตอนนี้เห็นแต่ท่านพ่อไม่เห็นพี่ใหญ่ล่ะ? พี่ใหญ่ไปไหนหรือ?”“สำหรับพี่ใหญ่ของเจ้าพ่อจัดการเอง ทางที่ดีเจ้าอย่าถามให้มาก”เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยเตือนเขาด้วยสายตาเย็นชาทำให้เวินจื่อเยวี่ยหุบปากทันทีเขาในยามนี้ยังไม่รู้ว่าพี่ใหญ่ของเขาได้ถูกบิดาจับไปขังไว้ในคุกน้ำแล้วนึกแค่ว่าบิดาจัดแจงให้พี่ใหญ่ไปทำธุระอย่างอื่น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามอีก“ตอนนี้พ่อยังมีธุระอีกสองเรื่องต้องให้เจ้าไปจัดการ”“ท่านพ่อโปรดกล่าว”“เรื่องที่หนึ่ง เจ้าจงพาคนจำนวนหนึ่งไปจับโจรขโมยคนหนึ่งให้พ่อ คนผู้นั้นคือบ่าวรับใช้ข้างกายพี่ใหญ่เจ้า นามว่าอันเซิ่ง”เวินจื่อเยวี่ยย่อมรู้ว่าอันเซิ่งคือใคร อย่างไรคนผู้นั้นคือบ่าวคนสนิทของพี่ใหญ่พวกเขา ยามปกติพี่ใหญ่มีเรื่องใดก็ล้วนมอบให้อันเซิ่งไปจัดการ“เหตุใดจึงต้องจับอันเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 912

    เวินเฉวียนเซิ่งรับจดหมายไป แต่กลับไม่ได้เปิดอ่านเนื้อหาในจดหมายตั้งแต่แรก เพียงนำกระดาษแผ่นนั้นเอาไปสูดดมใต้จมูกไม่ใช่หมึกฮุยม่อที่นิยมใช้กันในเมืองหลวง แต่เป็นหมึกซงเยียนของชางโจวต่อมาเวินเฉวียนเซิ่งคลี่กระดาษจดหมายออก เดิมอยากตรวจดูลายมือ ดูว่าจะใช่คนที่เขาคาดเดาหรือไม่ แต่ตัวหนังสือเหมือนไก่เขี่ย น่าเกลียดมากมองดูก็รู้ว่าไม่ใช่ลายมือของคนที่เคยร่ำเรียนมาอย่างดีโดยทั่วไปคนที่เคยร่ำเรียนมาอย่างดี ต่อให้ใช้มือข้างที่ไม่ถนัด ก็ไม่ได้เขียนหนังสือน่าเกลียดเช่นนี้ อย่างไรก็ต้องมีร่องรอยเดิมอยู่บ้างแต่เวินเฉวียนเซิ่งกลับไม่พบเห็นสิ่งใดจากเนื้อหาในจดหมายตรงหน้าฉบับนี้แรกเริ่มเวินจื่อเยวี่ยยังไม่รู้สึกตัว แต่ในไม่ช้าก็คาดเดาได้ว่าเวินเฉวียนเซิ่งค้นหาสิ่งใดอยู่“ท่านพ่อ หรือท่านสงสัยว่าผู้ที่เขียนจดหมายคือเวินซื่อ?”เวินเฉวียนเซิ่งค่อยๆ วางจดหมายลง สายตาจ้องมองตัวอักษรเหมือนเด็กเพิ่งหัดเขียน เอ่ยเสียงเรียบ “ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”หรืออีกอย่างสำหรับเขา คงมีความเป็นไปได้นี้เท่านั้นลูกสาวของเขาคนนี้ เป็นเฉกเช่นเดียวกันกับเขา ล้วนเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิต“หากเป็นนาง เช่นนั้นคาดว่าสิ่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 911

    “หุบปาก!”เวินเฉวียนเซิ่งขว้างกระบี่ลงพื้นอย่างแรง โกรธจนมือสั่นชี้นิ้วไปที่เวินฉางอวิ้น แล้วพูดอย่างเกรี้ยวกราด “หากเจ้าไม่ใช่ลูกชายของข้า วันนี้ข้าคงจบชีวิตเจ้าในกระบี่เดียวไปตั้งนานแล้ว!”“ข้ายินดีที่จะไม่เป็นลูกชายของท่าน!”ยามนี้สายตาที่เวินฉางอวิ้นมองเขาแฝงไปด้วยความเกลียดชัง ราวกับมองศัตรู “หากท่านไม่สังหารข้าให้ตายโดยตรง เช่นนั้นขอเพียงข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะไม่ยอมให้ท่านแตะต้องน้องห้าเด็ดขาด แม้แต่ผมเส้นเดียวก็ตาม!”“บ้าไปแล้ว...เจ้าบ้าไปแล้วจริงๆ!”เส้นเลือดบนหัวเวินเฉวียนเซิ่งปูดบวมลำคอแดงเถือกเพราะอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน อารมณ์ขุ่นเคืองท่วมท้นเต็มสมองของเขาที่ยากจะสงบลงได้ทุกคำพูดของเขาเหมือนบีบออกมาจากซอกฟัน “เจ้าเป็นถึงบุตรชายในภรรยาเอกของจวนเจิ้นกั๋วกง เป็นบุตรชายของข้าเจิ้นกั๋วกง! เหตุใดเจ้าจึงต้องช่วยลูกทรพีนั่นต่อกรกับข้า? เจ้าทำเช่นนี้มีผลดีอย่างไรกับเจ้าหรือ?”“หากข้าล่มจม เจ้านึกว่าเจ้ายังสามารถเป็นรองผู้ตรวจการแผ่นดินที่สง่าผ่าเผยได้อีกหรือ? เพ้อเจ้อ!”เวินฉางอวิ้นกล่าวอย่างโกรธเคือง “คนที่บ้าคือท่านต่างหาก!”“เสือร้ายไม่กินลูก แต่ท่านพ่อ แต่นี่เป็นครั้งท

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 910

    เวินฉางอวิ้นได้ยินคำพูดที่เสียดแทงจิตใจจากบิดาของตัวเอง เขาขบฟันแน่น ไม่โต้แย้งแม้แต่คำเดียวแต่ทันทีที่เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยคำพูดสุดท้ายออกมา เวินฉางอวิ้นก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาข่มความโกรธ พูดด้วยสองตาที่แดงก่ำ “อย่างนั้นหรือ? ท่านพ่อมั่นใจมากขนาดนี้ว่าข้าไม่มีทางข่มขู่ท่านได้หรือ?”เวินเฉวียนเซิ่งได้ยินคำพูดนี้ พลางหรี่ตาลงเล็กน้อยและจ้องมองเขาอยู่หลายวินาที จากนั้นก็ส่งเสียงยิ้มเยาะ เย้ยหยันอย่างไม่ไว้หน้า “ลูกชายที่รัก อย่าหลงตัวเองเกินไป”เวินฉางอวิ้นจ้องมองกลับไปอย่างเย็นชาเช่นกัน สักพักจึงพูดว่า “ท่านพ่อ ท่านต่างหากที่ประเมินตัวเองสูงเกินไป ท่านถึงคิดว่าไม่มีใครหาสมุดบัญชีเล่มนั้นที่ท่านซ่อนไว้เจอหรือ?”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกไป สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งก็เย็นชาลงในทันที สีหน้ามืดทึมจนดูราวกับน้ำหมึกจะหยดลงมาเวินฉางอวิ้นถึงกับมองเห็นเจตนาฆ่าของตัวเองจากใบหน้าของบิดาแต่ถึงกระนั้น เขาก็กำหมัดช้า ๆ ไม่ถอยเลยสักนิดเช่นเคยเขาทำผิดต่อน้องห้ามามากพอแล้ว อย่างน้อย...อย่างน้อยในครั้งสุดท้ายนี้ เขาต้องยืนหยัดเคียงข้างน้องห้า ในฐานะพี่ชายใหญ่ เขาต้องปกป้องน้องสาวของตัวเอง!“ทหาร”เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 909

    “ทะ...ทหาร”จงหย่งโหวกัดฟันตะโกนเรียก พ่อบ้านที่ได้รับคำสั่งให้รออยู่ข้างนอกก็รีบวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก“สวรรค์ ท่านโหว! ฮูหยิน! นางกล้าลงมือโหดร้ายเช่นนี้กับพวกท่านได้อย่างไรพ่อบ้านตัวสั่นด้วยความโกรธ ต้องการที่จะเอื้อมมือไปช่วยจงหย่งโหว แต่ก็กลัวที่จะสัมผัสบาดแผลของเขา อยากดูอาการของเวินหย่าลี่ ก็กลัวจะไปกระตุ้นพิษในร่างกายของนางอีกน่าเสียดายที่ตอนนี้เวินเยวี่ยยังคงควบคุมจวนทั้งหลังอยู่ เขาอยากจะออกไปตามหมอก็ทำไม่ได้ด้วยซ้ำโชคดีที่ตอนนี้จงหย่งโหวได้พูดกับเขาว่า “บนพื้น...มียาถอนพิษ นำไปให้ฮูหยิน...กินก่อน แล้วค่อยไปที่ห้องหนังสือ เอายาใส่แผลของข้ามา”เขามักจะฝึกฝนอยู่ในเรือน ดังนั้นในห้องหนังสือจึงมักมียาใส่แผลเตรียมอยู่ทุกวันนี้เรียกหมอมาไม่ได้ จึงทำได้เพียงรักษาอาการบาดเจ็บด้วยตัวเองไม่ใช่ว่าจงหย่งโหวกลัวเวินเยวี่ยจึงไม่กล้าไปเรียก เขารู้ว่าเวินเยวี่ยไม่กล้าฆ่าเขาง่าย ๆ เขาแค่กลัวว่าถ้ามีหมอจากภายนอกเข้ามาก็จะออกไปไม่ได้แล้วพ่อบ้านกับพวกต่างยุ่งอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายทั้งเวินหย่าลี่และจงหยงโหวสามีภรรยาคู่นี้ก็ผ่านพ้นเคราะห์ร้ายครั้งนี้ไปได้และตั้งแต่ต้นจนจบเวินห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status