Share

บทที่ 16

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ฉินซูถามอย่างมิเป็นทางการ “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นยอดฝีมืออันดับสองของหลงเฉิง ตอนนี้เจ้ามีความแข็งแกร่ง หรือจะถามว่าเจ้าอยู่ในระดับใด?”

ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยเหลือบมองฉินซูอย่างสงสัย มิเข้าใจว่าเหตุใดองค์รัชทายาทจึงถามเรื่องนี้

แต่เขาก็ยังคงตอบอย่างตรงไปตรงมา “ทูลองค์รัชทายาท กระหม่อมเป็นนักรบขั้นกลางระดับปฐพี”

“ระดับปฐพี?”

“พ่ะย่ะค่ะ ในวีถีแห่งวรยุทธ แบ่งระดับจากสูงไปต่ำคือ ระดับสวรรค์ ระดับปฐพี ระดับซวน(ลึกลับ) และระดับมนุษย์ แต่ละระดับแบ่งออกเป็นสามขั้นย่อยได้แก่ ขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นปลาย”

ฉินซูขมวดคิ้วและถามว่า “เช่นนั้น เจ้านายของเจ้าเป็นนักรบระดับสวรรค์หรือ?"

“ข้อนี้ กระหม่อมเองก็มิแน่ใจพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าหมายความเช่นไร ตามความเข้าใจของข้า เจ้าสำนักถือได้ว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของราชวงศ์ต้าเหยียนอันยิ่งใหญ่ของเรา ในระดับนี้แล้ว ความแข็งแกร่งมิน่าจะอยู่เพียงแค่ขั้นปลายระดับปฐพีได้เลย”

ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ตาเฒ่านั่น... อะแฮ่ม... กระหม่อมหมายถึงท่านผู้นั้นย่อมมิใช่เพียงแค่นักรบระดับปฐพี แต่เหตุผลที่เมื่อครู่กระหม่อมบอกว่า กระหม่อมมิแน่ใจก็เพราะกระหม่อมคิดว่าคว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 17

    ฉินหงเอามือไพล่หลัง ใบหน้าเย้ยหยัน‘ฉินซูนะฉินซู หากครั้งนี้เราจับเจ้าได้ แม้ว่าเจ้าคารมคมคายเพียงใด ก็ไม่มีทางแก้ตัวให้รอดไปได้’‘ตำหนักบูรพา ถึงคราวเปลี่ยนเจ้าของแล้ว!’เมื่อฉินหงกำลังกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ เหล่าองครักษ์ก็วิ่งกลับมาทีละคน“ทูลท่านอ๋องฉี ไม่มีใครอยู่ในร้านค้าเลยพ่ะย่ะค่ะ!”“ว่ากระไรนะ! ไม่มีใครเลยรึ?!”ฉินหงสะดุ้งอยู่ครู่หนึ่งและถามว่า “เจ้าค้นหาทุกซอกทุกมุมแล้วหรือยัง?”“ค้นอย่างละเอียดแล้ว ไม่มีใครอยู่จริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ชิ่งกั๋วกงอย่างเซี่ยเหอก็รู้สึกกังวล “ทูลท่านอ๋องฉี เมื่อครู่เราได้ยินเสียงของเซี่ยหลานอย่างชัดเจน แต่ในพริบตาเดียว เหตุใดนางจึงหายไป? ส่งคนไปตามหานางเร็วเข้า!”ฉินหงรีบพยักหน้า พูดว่า “พวกเจ้า รีบตามหา ต่อให้ต้องแหวกแผ่นดินก็ต้องตามหาเซี่ยหลานให้เจอ!”“รับทราบพ่ะย่ะค่ะ!”ราชองครักษ์กระจายตัวไปทุกทิศทุกทาง แยกย้ายกันออกตามหาคนหลินซีพูดด้วยท่าทางสับสน “แปลกจริง เห็น ๆ อยู่ว่าตรอกนี้เป็นทางตัน ฉินซูจะพาเซี่ยหลานไปซ่อนที่ใดได้ หรือว่าเขาบินได้กัน?”เซี่ยเหอกังวลมาก เขากระทืบเท้าด้วยความโกรธ “ขอทีเถอะใต้เท้าหลิน โปรดหยุดคาด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 18

    ในตอนที่เซี่ยหลานพูดจบ ฉินซูก็หายตัวไปแล้ว“เจ้าเลว! เจ้าชั่ว! เจ้าคนสารเลว!”เซี่ยหลานกำหมัดของนางแรงจนข้อนิ้วเปลี่ยนซีดขาวนางก้มหน้าลงมองอาภรณ์ที่ฉินซูฉีกทึ้งจนมิเหลือชิ้นดี ความคับข้องใจและความมิเต็มใจปะทุขึ้นในใจนางจากนั้นนางก็ทนมิไหวอีกต่อไป หยาดน้ำตาหลั่งออกมาพร้อมเสียงสะอื้นไห้ “ฮือ”ตลอดชีวิตของนาง นางมิเคยถูกทำให้อับอายถึงเพียงนี้มาก่อนสำหรับนาง นี่เป็นความอัปยศอย่างยิ่ง!“ฉินซู ท่านคอยดูเถอะข้าจะให้ท่านต้องชดใช้สิ่งที่ท่านทำในวันนี้! ฮือ... เจ้าสารเลวกล้ามาทำให้ข้าอับอายเช่นนี้... ”นางหลั่งน้ำตา ร้องไห้มิหยุดหลังจากระบายความโกรธแล้ว นางก็หยิบเศษผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นวัดร้างขึ้นมาและคลุมร่างที่เปลือยเปล่าของนางจากนั้นก็ฉีกอีกชิ้นหนึ่งออกมาคลุมใบหน้าไว้นางอยู่ในสภาพอาภรณ์ขาดวิ่นเช่นนี้ มิกล้าสู้หน้าผู้คนจริง ๆ หลังจากทำตัวเองให้ดูมอมแมมแล้ว ก็ออกจากวัดร้างไปด้วยความสบายใจแถวนี้คนผ่านไปมาน้อย หากมิทำให้ตัวเองดูสกปรก นางก็เกรงว่าจะเจอภัยร้ายแต่นางก็ละเลยไปหนึ่งสิ่งนั่นคือแม้ว่าตอนนี้นางจะดูสกปรกมอมแมม แต่มิว่าอย่างไร รูปร่างอันสง่างามและอรชรอ้อนแอ้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 19

    ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยยิ้มและพูดว่า “อันที่จริงแล้ว กระหม่อมเพียงต้องการหางานทำร่วมกับองค์รัชทายาท!"“หา? อยากหางานทำร่วมกับข้า ข้าได้ยินมิผิดใช่หรือไม่?” ฉินซูตกตะลึงเล็กน้อยตู๋กูโฉ่วเยวี่ยพยักหน้าอย่างหนักแน่นและพูดอย่างเคร่งขรึม "พ่ะย่ะค่ะ ท่านทรงเป็นองค์รัชทายาทของแคว้น ดังคำกล่าวที่ว่า ผู้คนแสวงหาที่สูง สายน้ำไหลสู่ที่ต่ำ บุรุษผู้ทะเยอทะยานเช่นกระหม่อมย่อมต้องการที่จะบรรลุสิ่งยิ่งใหญ่เป็นเรื่องปกติ กระหม่อมจึงขอให้องค์รัชทายาททรงอนุญาต”ฉินซูกลอกตามาที่เขาและบ่นว่า “ขออภัยที่ข้าต้องบอกความจริงกับเจ้า ทุกคนต่างรู้ดีว่าวันชุนเฟินปีหน้าข้าจะถูกปลดจากตำแหน่งรัชทายาท เจ้ามาหาข้าเวลานี้ยังจะมาพูดว่าอยากสร้างผลงานยิ่งใหญ่ คิดจะหลอกใครกัน?”“เอ่อ… เรื่องนั้น… คือว่า..."เมื่อเห็นตู๋กูโฉ่วเยวี่ยอ้ำอึ้ง ฉินซูก็หรี่ตาลงแล้วถามว่า “หรือว่าอ๋องฉีหรือไม่ก็อ๋องจิ้นส่งเจ้ามาเป็นสายลับข้างกายข้า?”“แน่นอนว่ามิเป็นเช่นนั้น องค์รัชทายาท ท่านควรรู้ว่าพวกเราจากสำนักหอดูดาวหลวงต่างก็มีความชอบธรรมในตนเอง จะเป็นสายลับให้พวกเขาได้อย่างไร เราจะมิรักษาหน้าตัวเองได้หรือ!”“หากเจ้าถือว่าตัวเองเป็นคนชอบธรรมมา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 20

    ทว่าชูโม่ดึงแส้หนังออกจากอกเสื้อของนางแทน!ทันใดนั้นดวงตาของนางก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา ก่อนเหวี่ยงแส้ในมือฟาดใส่ฉินซูอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า!รูม่านตาของฉินซูหดตัวเล็กน้อย เขาเบี่ยงตัวไปด้านข้างโดยสัญชาตญาณ หลีกเลี่ยงได้อย่างง่ายดาย“อ๊ะ?!”ชูโม่มีสีหน้าประหลาดใจ ในใจรู้สึกทึ่งเป็นอย่างมากการโจมตีนี้ดูเหมือนทำอย่างสบาย ๆ แต่ด้วยความแข็งแกร่งขั้นสูงสุดระดับปฐพีของนาง แม้ว่าจะโบกมือเบา ๆ ก็ตาม การจะหลบเลี่ยงมันก็เป็นเรื่องยากแล้วสำหรับจอมยุทธระดับซวนทั่วไปแต่องค์รัชทายาทไร้ค่าผู้นี้ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องหลงสุรามักมากในกามอารมณ์กลับรอดพ้นไปได้อย่างง่ายดายได้อย่างไร?นางแทบมิเชื่อสายตาตัวเอง!เมื่อชูโม่กำลังสงสัย ฉินซูก็เซจนหงายหลัง“โอ๊ย ข้ากลัวแทบตาย เจ้าทำอะไรของเจ้ากัน”เขาบ่นและลูบท้ายทอย ทำหน้าเหยเกอย่างเจ็บปวดเมื่อเห็นเช่นนี้ ชูโม่ก็อดมิได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย และบ่นในใจอีกครั้ง‘หรือว่าเมื่อครู่เป็นเพียงความบังเอิญ?’คิดเช่นนั้น นางจึงส่งเสียงฮึดฮัด ยกแส้ขึ้นและเตรียมฟาดออกไปอีกครั้งฉินซูยกฝ่ามือขึ้นแล้วตะโกน “ช้าก่อน!”ชูโม่เลิกคิ้วและถามด้วยสีหน้าเย็นชา “มีอะไรจะสั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 21

    หางตาของฉินซูกระตุก หนีหัวซุกหัวซุนวิ่งพล่านไปทั่วลานตำหนักเขาวิ่งหลบไปมาท่ามกลางกลุ่มองครักษ์ สามารถหลีกเลี่ยงการถูกเฆี่ยนตีจากแส้ของชูโม่ได้หลายครั้งแต่สำหรับองครักษ์คือความทรมาน หลายคนถูกลูกหลงจากชูโม่ ร่างกายของพวกเขาฟกช้ำ ดูมิได้ในยามนั้น ที่ลานด้านหน้าของตำหนักบูรพาวุ่นวายอย่างที่สุดเมื่อเห็นว่าฉินซูหลบการโจมตีได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ชูโม่ก็เริ่มโมโหนางตะโกนขึ้นว่า “พวกที่มิเกี่ยวข้องรีบไปให้พ้น! มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิปรานี!”เมื่อได้ยินดังนั้น เหล่าราชองครักษ์ก็กัดฟันและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วฉินซูใช้ประโยชน์จากความสับสนวุ่นวาย แทรกตัวเข้าไปในกลุ่มคนแล้ววิ่งไปทางลานด้านหลังชูโม่ยิ้มเย้ยหยัน กระทืบพื้นด้วยเท้าข้างเดียว ก่อนที่ร่างของนางจะลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับลูกธนู!นางหมุนตัวกลางอากาศอย่างสง่างามสองครั้ง จากนั้นก็ร่อนลงต่อหน้าฉินซูอย่างมั่นคง พร้อมกับเหวี่ยงแส้ในมือของนางออกไปฉินซูเสียหลัก แต่ก็หลบแส้ไปได้อย่างบังเอิญอีกครั้ง“หืม?”ชูโม่ตกตะลึงอีกครั้ง แต่มิหยุดมือ นางฟาดแส้ไปทางฉินซูเร็วกว่าครั้งก่อนนางเห็นฉินซูสะดุดทำท่าจะล้มไปตลอดทาง และทุกครั้งที่เขาล้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 22

    ฉงชูโม่เย้ยหยันทันทีและพูดว่า “ทุกคนในใต้หล้ารู้ดีว่าหม่อมฉันฉงชูโม่ อุทิศตนเพื่อแคว้น มิเคยข้องเกี่ยวกับการเมืองภายใน ตอนนี้องค์รัชทายาทกลับมาป้ายสีว่าหม่อมฉันเล่นพรรคเล่นพวกกับอ๋องฉี ท่านมิคิดว่าสิ่งที่ท่านพูดมันน่าขำหรอกหรือ?”“ในเมื่อเจ้ามิได้เป็นคนที่อ๋องฉีส่งมา เหตุใดเจ้าจึงยืนหยัดเพื่อเซี่ยหลานเล่า?”“หึ! นางเป็นสหายของหม่อมฉันที่เติบโตมาด้วยกัน วันนี้ท่านทำให้นางอับอายอย่างหนัก หากหม่อมฉันทำเมินเฉย หม่อมฉันจะยังถือว่าเป็นมนุษย์อยู่อีกหรือ?”ทันใดนั้นฉินซูก็ตระหนักได้ “อ๋อ ที่แท้ก็เป็นสหายสนิทกันนี่เอง เช่นนั้นข้าก็มิแปลกใจแล้ว”ฉงชูโม่ขมวดคิ้วอีกครั้งและถามด้วยความสับสน “เมื่อครู่ท่านว่าสนิทกันอะไรนะ?”ฉินซูยักไหล่ “นั่นมิสำคัญหรอก สิ่งสำคัญก็คือ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว เรื่องนี้เป็นเซี่ยหลานต่างหากที่ทำตัวเองขายหน้า!”ฉงชูโม่เอ่ยเหน็บแนม “องค์รัชทายาททรงทำให้นางอับอายเพียงนั้น ตอนนี้กลับมาพูดว่านางทำตัวเองขายหน้าเอง ท่านนี่โยนความผิดให้ผู้อื่นเก่งจริง ๆ!”“จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เรื่องของเจ้า อย่างไรเรื่องนี้ข้าก็ไม่มีอะไรให้สำนึกผิด!”“ท่านมิรู้สึกผิดสินะ เช่นนั้นหม่อมฉันจะตี

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 23

    ฉินซูถามอย่างสงสัย “เสด็จพ่อจัดตำแหน่งอะไรให้เจ้า?”“หัวหน้าองครักษ์ตำหนักบูรพา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป องครักษ์ทั้งหมดในตำหนักบูรพาจะอยู่ภายใต้การควบคุมของกระหม่อม แน่นอนว่านี่รวมถึงความปลอดภัยขององค์รัชทายาทด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยกล่าวพร้อมกับยิ้มยินดีเล็กน้อยคิ้วของฉินซูขมวดแน่นยิ่งขึ้นจักรพรรดิส่งแม่ทัพชายแดนมาที่ตำหนักบูรพาเพื่อเป็นที่ปรึกษา และยังส่งลูกศิษย์ที่รักของหัวหน้าโหรหลวงเข้ามาด้วยตาเฒ่าคนนี้ต้องการทำอะไรกันแน่?เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ฉินซูก็ถามอย่างสงสัย “ตู๋กูโฉ่วเยวี่ย เจ้ามาที่นี่เพื่อปกป้องข้าจริง ๆ หรือ?”“แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาทโปรดวางพระทัย มีกระหม่อมอยู่กับท่านที่นี่ ท่านจะต้องปลอดภัยหายห่วงแน่พ่ะย่ะค่ะ”“จริงรึ? แล้วฉงชูโม่เล่า?”“เอ่อ…” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยยกมือขึ้นอย่างช่วยมิได้แล้วพูดว่า “องค์รัชทายาท กระหม่อมสู้นางมิได้ และนางก็มีพระบัญชาจากจักรพรรดิอยู่กับตัวด้วย ดังนั้นท่านทำตัวดี ๆ อย่าหาเรื่องเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“หึ มิว่านางจะแข็งแกร่งเพียงใด นางก็เป็นแค่สตรี ตราบเท่าที่ข้าต้องการ ข้าก็มีหลายวิธีที่จะจัดการกับนาง”จู่ ๆ ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยก็กังวล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 24

    เซี่ยเหอถามซ้ำหลายครั้งติดต่อกัน แต่เซี่ยหลานยังคงนิ่งเงียบสิ่งนี้ทำให้พวกเขาวิตกกังวล โอวหยางฮุ่ย มารดาของนางกัดฟันและพูดว่า “นายท่าน เซี่ยหลานอยู่ข้างในมิรู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ลองขอให้ใครสักคนเปิดประตูดูดีกว่า เกรงว่านางจะทำอะไรโง่ ๆ”“ดี ใครก็ได้ ช่วยเปิดประตูห้องของคุณหนูเร็วเข้า!”เซี่ยเหอออกคำสั่ง และบ่าวไพร่หลายคนจากตระกูลหลินก็วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วพวกเขาถอยหลังไปสองสามก้าวเตรียมจะถีบประตูทันใดนั้น ประตูก็ถูกเปิดออกด้วยเสียง “เอี๊ยด” จากด้านในเซี่ยหลานพูดด้วยใบหน้าเศร้าโศก “ท่านแม่ ท่านปู่ พวกท่านจะทำอะไรกันหรือเจ้าคะ? ข้าแค่ต้องการอยู่เงียบ ๆ หน่อย พวกท่านเลิกโวยวายได้หรือไม่”“นี่มันกี่ยามกันแล้ว? เจ้ายังอยากเงียบ ๆ อยู่อีกรึ?”“ใช่ เร็วเข้า รีบตามท่านปู่ไปที่วัง แล้วร้องเรียนต่อองค์จักรพรรดิเสียเถิด!”หลังจากที่เซี่ยเหอพูดจบ เขาก็ดึงเซี่ยหลานออกไปเซี่ยหลานดึงมือของนางกลับและพูดด้วยความโกรธ “ท่านปู่ องค์รัชทายาทมิได้ทำร้ายข้า เขาแค่… แค่…”โอวหยางฮุ่ยกังวลมากจนกระทืบเท้าและเร่งเร้านางอย่างจริงจัง “โธ่ คุณหนูใหญ่ของแม่ เจ้าจะพูดอะไร รีบบอกข้ามาเร็ว ๆ ข้ากังวลจว

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 730

    มู่หรงเซี่ยวเทียนต้องการพบฉินซู!ซ่างกวนอวิ๋นซีกลับกล่าวอย่างอ้อมค้อมว่า “บุตรแห่งนักปราชญ์เพิ่งมาถึงหอดารารักษ์ เดินทางมาเหน็ดเหนื่อย บัดนี้หลับใหลไปแล้ว วันพรุ่ง วันพรุ่งหม่อมฉันจะพาเขาเข้าวังไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทด้วยตนเอง!”เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ มู่หรงเซี่ยวเทียนก็โกรธขึ้งในทันทีข้ารออยู่ที่นี่ตั้งนานสองนาน บัดนี้เจ้ากลับให้ข้ารอถึงวันพรุ่งอีกรึ?แม้ในใจจะเดือดพล่านเพียงใด แต่ด้วยฐานะของซ่างกวนอวิ๋นซี เขาจึงทำกระไรมิได้ดังนั้นเขาจึงกล่าวเสียงเรียบว่า “ถ้าเช่นนั้น วันพรุ่งข้าจะคอยท่านเซียนมาเยือน!”พูดจบก็ลุกขึ้นยืนเมื่อมู่หรงเซี่ยวเทียนเดินมาถึงประตูก็หยุดฝีเท้าลงกะทันหัน และหันกลับไปพูดด้วยน้ำเสียงแฝงความนัยว่า “ท่านเซียนซ่างกวน ข้ายังอยากเตือนท่านอีกสักครั้ง อ๋องเซียงหยางกุมอำนาจทางการทหารและการปกครอง อีกทั้งวรยุทธ์ยังลึกล้ำเกินหยั่งถึง การยั่วยุคนเช่นนี้ มิใช่สิ่งที่ปราชญ์พึงกระทำ!”พูดจบก็สะบัดแขนเสื้อจากไปด้วยความขุ่นเคืองซ่างกวนอวิ๋นซีขมวดคิ้วเรียวสวย รู้สึกจนปัญญาอยู่เล็กน้อยที่ฉินซูลงมือกับหยวนหัวถึงตายนั้นเป็นสิ่งที่นางคาดมิถึงแต่เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้นางก็ทำได้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 729

    ฉินซูเหลือบมองเขาผาดหนึ่งแล้วจูงมือกู้เสวี่ยเจี้ยนขึ้นไปยังชั้นบนด้วยกันหานฉีกลอกตาไปมา สุดท้ายก็แค่นเสียงอย่างดูแคลนออกมาห้องโถงชั้นบนฉินซูเลิกคิ้วถามว่า “ซ่างกวนอวิ๋นซี บัดนี้ข้าก็มาถึงแล้ว เจ้ากักตัวเสวี่ยเจี้ยนไว้ก็หาได้มีประโยชน์ไม่ ปล่อยนางกลับต้าเหยียนไปเถิด”“จะไม่มีประโยชน์ได้อย่างไร? หากนางอยู่และเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับหอดารารักษ์ของข้า เหลยเจิ้นย่อมมิอาจอยู่เฉยได้!”“ดูท่านพูดจาเข้าสิ หอดารารักษ์ของท่านเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยเยี่ยน ใครเลยจะกล้ามาหาเรื่องพวกท่านเล่า?”ซ่างกวนอวิ๋นซีจ้องมองฉินซูด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าคนสารเลว เจ้าสังหารบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง มิหนำซ้ำยังกล่าวต่อหน้าธารกำนัลว่าเจ้าคือบุตรแห่งนักปราชญ์คนใหม่ของหอดารารักษ์ โยนความผิดทั้งหมดมาให้หอดารารักษ์ของข้าแล้วยังคิดจะให้พวกข้ารับมือกับความโกรธเกรี้ยวของอ๋องเซียงหยางแต่เพียงผู้เดียวหรือ?”ฉินซูกางมือออก “ข้ากล่าวความจริงมิใช่หรือ แล้วที่ท่านขู่เข็ญให้ข้ามา ก็เพราะอยากให้ข้าเป็นบุตรแห่งนักปราชญ์คนใหม่ของพวกท่านมิใช่หรือไร?”“ถึงจะเป็นเช่นนั้น เจ้าก็มิอาจอวดดีเช่นนี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าก่อเรื่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 728

    ภายในท้องพระโรงแห่งพระราชวังเป่ยเยี่ยนหลังจากฟังรายงานของแม่ทัพกองกำลังรักษาเมืองแล้ว มู่หรงเซี่ยวเทียนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรก็ลุกขึ้นพรวด“เจ้าว่าอย่างไรนะ? คุณชายหยวน… ตายแล้วรึ?!”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท เขาถูกคนผู้นั้นบิดคอตายคาที่พ่ะย่ะค่ะ!”เหล่าขุนนางที่อยู่ข้าง ๆ ต่างก็มีสีหน้าตื่นตระหนกในทันใด!“เกิดเรื่องแล้ว คราวนี้เกิดเรื่องใหญ่หลวงแล้ว คุณชายหยวนตาย อ๋องเซียงหยางไม่มีปล่อยผ่านเป็นแน่!”“ฝ่าบาท สิ่งที่สำคัญที่สุดในยามนี้คือรีบจับตัวคนร้ายแล้วส่งตัวให้อ๋องเซียงหยางแห่งแคว้นฉีจัดการพ่ะย่ะค่ะ!”“ใช่แล้ว ๆ มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้ราชสำนักเป่ยเยี่ยนของเราพ้นจากเรื่องนี้ได้”ทุกคนกล่าวขึ้นพร้อมเพรียงมู่หรงเซี่ยวเทียนซักถามแม่ทัพผู้นั้นต่อ “ผู้ที่ลงมือคือผู้ใดกันแน่? จับตัวเขาได้หรือไม่?”“ฝ่าบาท คนผู้นั้นมีวรยุทธ์แข็งแกร่งยิ่งนัก ตบผู้คุ้มกันคนสนิทของคุณชายหยวนจนกลายเป็นหมอกเลือดด้วยฝ่ามือเดียว พวกข้าน้อยหาได้มีความสามารถพอที่จะจับกุมเขาได้ไม่ เพียงแต่คนผู้นั้นกล่าวในยามนั้นว่า เขาคือบุตรแห่งนักปราชญ์คนใหม่แห่งหอดารารักษ์...”“บุตรแห่งนักปราชญ์คนใหม่?!”เมื่อได

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 727

    ซ่างกวนอวิ๋นซีเอื้อมมือไปคว้าคอเสื้อของเขาแล้วยกตัวเขาขึ้น!ฉินซูรีบร้องว่า “เดี๋ยว ๆ ท่านทำกระไร ท่านเป็นสตรี ช่วยสุภาพกว่านี้หน่อยได้หรือไม่ ข้าก็แค่...”เขายังมิทันกล่าวจบ ซ่างกวนอวิ๋นซีก็เหวี่ยงเขากระเด็นออกไปอย่างแรง ร่างของเขากระแทกเข้ากับหินก้อนใหญ่ข้างทางราวกับลูกปืนใหญ่โครม!เสียงดังสนั่น หินก้อนนั้นก็แตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ในทันทีส่วนฉินซูนั้นราวกับกระดูกหักทั้งตัว นอนแผ่อยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวดสุดขีด พยายามจะลุกแต่ก็ลุกมิขึ้น“องค์รัชทายาท!”กู้เสวี่ยเจี้ยนตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน รีบเข้าไปประคองฉินซูโบกมือแล้วกล่าวว่า “อย่า อย่าขยับตัวข้า เอวข้าเหมือนจะหัก”กู้เสวี่ยเจี้ยนร้อนใจจนแทบจะร้องไห้!นางหันไปตำหนิซ่างกวนอวิ๋นซีว่า “พวกเราจะกลับไปกับท่านอยู่แล้ว เหตุใดท่านต้องลงมือรุนแรงถึงเพียงนี้ ท่านมันโหดเหี้ยมทารุณ!”“เขาสามารถตบยอดฝีมือระดับสวรรค์ให้กลายเป็นหมอกเลือดได้ด้วยฝ่ามือเดียว แค่กระทบกระเทือนครั้งเดียว เจ้าเชื่อจริง ๆ หรือว่าเอวเขาจะหัก?”“หา? มิหักหรอกหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนงุนงงเล็กน้อยซ่างกวนอวิ๋นซีจ้องมองฉินซูด้วยสายตาเย็นชา “ข้าจะนับถึงสาม หากเจ้ามิ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 726

    จากนั้น ฉินซูก็พากู้เสวี่ยเจี้ยนควบม้าเร็วลงใต้มุ่งตรงไปยังทิศทางของต้าเหยียนมินานนัก ร่างอรชรก็ปรากฏตัวขึ้นที่นอกประตูเมืองหลวงจินหลิงทิศใต้อย่างเงียบเชียบนางสวมอาภรณ์บางเบา มีเพียงกระโปรงยาวสีม่วงตัวเดียว!ดูโดดเด่นเป็นพิเศษท่ามกลางสายลมเหมันต์ที่พัดโชยมานอกเมืองคนผู้นั้นคือเจ้าสำนักหอดารารักษ์ ซ่างกวนอวิ๋นซี!นางมองไปยังถนนหลวงอันไกลโพ้น กำลังจะออกตัวตามไปในเวลานั้นเองกลับได้ยินเสียงสนทนาของพ่อค้าสองสามคนที่อยู่ใกล้ ๆ โดยบังเอิญ“นี่ ๆ เจ้าหนุ่มเมื่อครู่นี้ ดูท่าทางเหมือนมาจากต้าเหยียนนา”“เหมือนกระไรกันเล่า? ฟังจากสำเนียงก็รู้ว่าเป็นคนต้าเหยียน!”“ว่าแต่เขาพาสาวงามราวบุปผาผู้นั้นหนีไปไหนกันนะ หรือว่ากำลังหลบหนีศัตรู?”“อาจจะเป็นเช่นนั้น แต่พวกเขาก็ฉลาดพอตัว ที่มิหนีไปตามถนนหลวง แต่กลับไปตามทางเล็ก ๆ หญ้ารกครึ้มทางนั้น สองข้างทางก็มีแต่พุ่มไม้ ศัตรูของพวกเขาคงหาตัวได้ยาก!”เมื่อได้ยินคำพูดดังนี้ ซ่างกวนอวิ๋นซีก็เผยรอยยิ้มเย็นเยียบแล้วมุ่งหน้าไปยังทางเล็ก ๆ ข้างทางหลังจากนางจากไปมินาน พ่อค้าเหล่านั้นก็ดื่มน้ำแล้วกล่าวอีกครั้ง“นี่ ๆ เจ้าหนุ่มเมื่อครู่นี้ ดูท่าทางเหมื

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 725

    "ว่ากระไรนะ?!?"สีหน้าของซ่างกวนอวิ๋นซีบิดเบี้ยวในทันใด!นางกัดฟันพูดว่า "เจ้าคนสารเลวนี่ ข้าว่าแล้วเชียว คิดว่ามีดีกระไรถึงได้กล้าฆ่าบุตรชายของอ๋องเซียงหยางแห่งแคว้นใหญ่ มิหนำซ้ำยังกล้าท้าทายองค์จักรพรรดิอย่างเปิดเผย ที่แท้ก็ปัดสวะมาให้หอดารารักษ์ของเรา มันน่ารังเกียจยิ่งนัก!""ท่านเจ้าสำนัก แย่แล้ว องค์รัชทายาทผู้รอวันปลดกับกู้เสวี่ยเจี้ยนออกจากเมืองไปแล้ว เกรงว่าจะหนีกลับต้าเหยียนไปแล้วขอรับ"ศิษย์คนหนึ่งของหอดารารักษ์รีบร้อนเข้ามาแจ้งข่าวสีหน้าของหานฉีและหลัวชางพลันมืดครึ้มลง"ท่านเจ้าสำนัก จะปล่อยเขาไปเช่นนี้มิได้นะขอรับ!""ใช่แล้ว พวกเราจะตามล้างตามเช็ดเรื่องวุ่นวายที่เขาก่อไว้มิได้นะขอรับ"หากมิใช่เพราะสู้มิไหว พวกเขาสองคนคงออกไปตามฉินซูนานแล้วซ่างกวนอวิ๋นซีส่งเสียงหึ "หึ สร้างความเดือดร้อนให้หอดารารักษ์ของข้าถึงขั้นนี้แล้วคิดจะสะบัดก้นหนีไปง่าย ๆ อย่างนั้นรึ? ฝันไปเถอะ!"ทันทีที่สิ้นเสียง นางก็หายตัวไปจากตรงนั้นหานฉีและหลัวชางต่างก็ชินเรื่องเช่นนี้เสียแล้วด้านนอกประตูทางทิศใต้ของเมืองหลวงจินหลิง ฉินซูและกู้เสวี่ยเจี้ยนขี่ม้าห้อตะบึงไปตลอดทางมินานนัก พวกเขาก็มาถ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 724

    ฉินซูไพล่สองมือไว้ด้านหลังพร้อมกล่าวอย่างองอาจว่า “ข้าคือบุตรแห่งนักปราชญ์คนใหม่แห่งหอดารารักษ์! จากนี้ไป หากพวกเจ้าได้รับความอยุติธรรมใด ๆ ที่ราชสำนักมิกล้าจัดการ ก็มายังหอดารารักษ์ได้ หอดารารักษ์จะจัดการให้พวกเจ้าเอง!”ผู้คนจึงได้ตระหนักในทันที!“อ้า! ที่แท้ก็คือบุตรแห่งนักปราชญ์คนใหม่แห่งหอดารารักษ์ มิน่าเล่าถึงได้องอาจเพียงนี้!”“คิดดูแล้วก็จริง ท่านเจ้าสำนักหอดารารักษ์มีฐานะสูงส่ง แม้แต่องค์จักรพรรดิก็ยังมิกล้าแสดงท่าทีต่อหน้า ดังนั้นผู้ที่กล้าจัดการเรื่องนี้ได้ก็มีเพียงหอดารารักษ์เท่านั้น”“หอดารารักษ์ช่างเกรียงไกร ลงมือสังหารเจ้าหยวนหัว เจ้าคนสารเลวที่สมควรตายสักพันครั้ง นับว่าขจัดภัยให้แก่ราษฎรแล้ว”มีผู้หนึ่งกล่าวด้วยความกังวลใจว่า “แต่… หยวนหัวเป็นบุตรชายของอ๋องเซียงหยางแห่งแคว้นใหญ่ บัดนี้เขาตายในเมืองหลวงเป่ยเยี่ยนของเรา อ๋องเซียงหยางคงมิยอมปล่อยผ่านเป็นแน่!”“ใช่แล้ว หากถึงเวลานั้นเขานำทัพใหญ่มาประชิดเมือง คนที่ซวยจะมิใช่พวกชาวบ้านตาดำ ๆ อย่างพวกเราหรอกหรือ?”“เฮ้อ ครานี้หอดารารักษ์มุทะลุเสียจริง”“นั่นสิ ลงโทษเพียงเล็กน้อยก็พอแล้ว เหตุใดจึงต้องลงมือถึงตายด้วยเล่า”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 723

    เมื่อเขาเห็นว่าโฉวหู่บาดเจ็บสาหัส นอกเหนือจากความตกใจแล้วในใจก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้นกู้เสวี่ยเจี้ยนกล่าวเสียงเบาว่า “คนผู้นี้มีนามว่าหยวนหัว เป็นบุตรชายของอ๋องเซียงหยางแห่งแคว้นฉี มีนิสัยจองหอง ช่วงหลายวันมานี้ ในเมืองหลวงเป่ยเยี่ยนมีสตรีมากมายถูกเขาย่ำยี แม้แต่บุตรีของขุนนางเป่ยเยี่ยนก็ยังมิรอดพ้น”ฉินซูขมวดคิ้วเล็กน้อย มองสำรวจหยวนหัวแล้วกล่าวอย่างสนใจว่า “กล้าแสดงความโอหังเช่นนี้ใต้ฝ่าพระบาทจักรพรรดิแห่งเป่ยเยี่ยน ดูเหมือนเจ้าจะมั่นใจในอำนาจของตนมากสิท่า หรือว่ามู่หรงเซี่ยวเทียนเองก็ตามใจเจ้าด้วย?”“หึ เรื่องของข้า จักรพรรดิแคว้นเล็ก ๆ อย่างเขามิบังอาจเข้ามายุ่งเกี่ยว เจ้ากลับทำร้ายผู้คุ้มกันของข้า รีบคุกเข่าโขกหัวคำนับแล้วหักแขนทั้งสองข้างของเจ้าเสีย หากข้าอารมณ์ดี บางทีอาจจะไว้ชีวิตชั้นต่ำของเจ้าก็ได้!”หยวนหัวจ้องมองฉินซูอย่างหยิ่งยโสฉินซูกลับยิ้มโดยมิกล่าวสิ่งใด และมองหยวนหัวราวกับมองคนโง่สีหน้าของหยวนหัวพลันมืดครึ้มลง ตวาดถามว่า “เจ้ามองหาปะไร?”“มองคนโง่น่ะสิ!”“เจ้า!!” หยวนหัวกัดฟันกรอดด้วยโทสะ หากมิใช่ว่าสู้มิได้ ป่านนี้เขาคงลงมือสั่งสอนฉินซูไปแล้วในเวลานั้นเอง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 722

    “ปล่อยข้า!”กู้เสวี่ยเจี้ยนกรีดร้องเสียงแหลม พยายามดิ้นให้หลุดจากการเกาะกุมแต่ก็ไร้ผล เมื่ออยู่ในเงื้อมมือของโฉวหู่ นางก็มิอาจหมุนเวียนปราณบริสุทธิ์ภายในได้นางตกใจจนหน้าถอดสี ในใจร้อนรนยิ่งนักหยวนหัวยิ้มเยาะแล้วเดินเข้ามา “หึ นางสารเลว เจ้าบังอาจตบข้า รอให้ข้าผู้นี้เบื่อหน่ายเสียก่อน จะจับเจ้าไปขายยังหอคณิกาให้เจ้าต้องอยู่อย่างทรมานทั้งเป็น ฮ่า ๆ ๆ !”กู้เสวี่ยเจี้ยนรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาทันที ยามนี้เรียกได้ว่าเรียกฟ้าฟ้ามิตอบ เรียกดินดินมิขานผู้คนที่มุงดูอยู่รอบข้างมิกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวหยวนหัวเชิดหน้าขึ้นอย่างยโส “โฉวหู่ ผนึกเส้นปราณของนางเสีย แล้วพาขึ้นไปชั้นบนของโรงเตี๊ยม ตัวข้าจะไปหากระไรรองท้องเสียก่อน แล้วค่อยไปดูแลนางให้ทีหลัง!”“น้อมรับบัญชา!”โฉวหู่ลงมือสกัดจุดเส้นปราณของกู้เสวี่ยเจี้ยนแล้วลากนางไปยังโรงเตี๊ยมที่มิไกลออกไปส่วนหยวนหัวก็ตะโกนไปยังแผงขายของกินข้างทางว่า “มองกระไรกันนักหนา มิอยากตายก็รีบไปย่างน่องไก่มาให้ข้าสองน่อง กินอิ่มแล้วตัวข้ายังมีธุระสำคัญต้องไปทำ!”เถ้าแก่แผงขายของกินได้ยินดังนั้นก็รีบจัดแจงทันทีผู้คนที่เดินผ่านไปมามองดูกู้เสวี่ยเจี้ยนที่ถ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status