“แคว้นชิงชนะ!!!” เสียงกรรมการประกาศขึ้นเมื่อเห็นว่าสัตว์อสูรยังไม่เลิกสู้กัน
กิเลนไฟเมื่อได้ยินเสียงประกาศ มันรีบหายวับกลับไปยังมิติจิตของชินอ๋องเพื่อหลบหนีเจ้าหมูอ้วนที่กระทืบมันจนเสียหน้าไปหมดแล้ว ก่อนจะทิ้งท้ายอย่างเจ็บแสบให้เสี่ยวจู้หัวฟัดหัวเหวี่ยงอีกต่างห
ระหว่างการเดินทางไปแคว้นหนานครั้งนี้ เสียงเสี่ยวจู้กับกิเลนไฟที่ทะเลาะกันแทบจะตลอดทาง ทำเอาทุกคนส่ายหน้าอย่างระอา แม้แต่ชินอ๋องก็ยังไม่สามารถห้ามปากร้าย ๆ ของกิเลนไฟของพระองค์ได้ จนใจที่พระองค์ไม่มีสัตว์อสูรบินได้นอกจากเจ้ากิเลนปากร้ายตัวนี้ ด้านเจิ้งหลินก็ปวดหัวไม่แพ้กัน นางเองก็ห้ามเสี่ยวจู้ที่โกรธเคืองกิเลนไฟมาตั้งแต่จบการแข่งขันแล้วไม่ได้เช่นกัน เสี่ยวจู้จึงตีฝีปากค่อนแคะกิเลนไฟมาตลอดทาง ยกเว้นตอนนอนเท่านั้นที่กลุ่มของพวกเขาจะได้พักหูเสียบ้าง
หลังจากชมการแสดงและกินอาหารอย่างอิ่มหนำสำราญแล้วก็ถึงเวลาที่ให้ทุกคนในงานเลี้ยงทำความรู้จักกัน ศิษย์ชายหลายคนที่หมายตากลุ่มของเจิ้งหลินเอาไว้ต่างเดินไปทำความรู้จักกับพวกนางจนแทบจะล้อมรอบโต๊ะอาหารที่พวกนางนั่งกันอยู่ เสี่ยวจู้มองอย่างงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น“ยินดีที่รู้จักทุกท่าน เพียงแต่พวกเราเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาเท่านั้น คงไม่เหมาะที่จะพูดคุยกับพวกท่านเป็นการส่วนตัวกระมัง” เจิ้งหลินได้แต่ปฏิเสธอย่างนุ่มนวลเมื่อมีหนึ่งในคนกลุ่มนี้เรียกนางไปเดินชมสวนด้านข้าง“ใช่ ๆ เราพูดคุยที่นี่จะเหมาะสมกว่าอย่างที่เจิ้งหลินว่านั่นแหละดีแล้ว” หานชิงเสริม“
กลุ่มของเจิ้งหลินกลับไปถึงโรงเตี๊ยมในเวลาไม่นาน ทั้งสามแยกย้ายกันเข้าห้องพักเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะแต่งหน้าบาง ๆ และสวมเครื่องประดับที่ซื้อมาในวันนี้โดยใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม เมื่อทั้งสามคนออกจากห้องของตนเอง สหายชายที่เข้าร่วมการแข่งขันต่างมองพวกนางเป็นตาเดียวกันด้วยความชื่นชม โดยเฉพาะเจิ้งหลินที่อุ้มเสี่ยวจู้เพื่อนำไปงานด้วย นางพอแต่งกายเช่นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ก็ทำเอาหัวใจของเหล่าสหายชายเต้นไม่เป็นส่ำกันเลยทีเดียว“เจ้าดูเจิ้งหลินสิ วันนี้นางช่างสง่างามนัก” ลู่ปันอดที่จะเอ่ยชมไม่ได้
“แคว้นชิงชนะ!!!” เสียงกรรมการประกาศขึ้นเมื่อเห็นว่าสัตว์อสูรยังไม่เลิกสู้กัน กิเลนไฟเมื่อได้ยินเสียงประกาศ มันรีบหายวับกลับไปยังมิติจิตของชินอ๋องเพื่อหลบหนีเจ้าหมูอ้วนที่กระทืบมันจนเสียหน้าไปหมดแล้ว ก่อนจะทิ้งท้ายอย่างเจ็บแสบให้เสี่ยวจู้หัวฟัดหัวเหวี่ยงอีกต่างห
คืนนั้นชินอ๋องยังหงุดหงิดไม่หายที่เห็นองค์ชายแคว้นหนานได้รับการดูแลจากเจิ้งหลินเป็นอย่างดีตอนจบการแข่งขัน พระองค์ได้แต่ฮึดฮัดอย่างไม่รู้จะควบคุมอารมณ์ตนเองอย่างไรทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของพระองค์เองแท้ ๆ ส่วนเจิ้งหลินเองก็นึกโมโหชินอ๋องที่ลงมือหนักไปจนองค์ชายสหายของนางได้รับบาดเจ็บมากมายเพียงนี้ ยังดีที่เจ้าสำนักไป๋มียาดีรักษาบาดแผลภายนอกและภายในให้กับองค์ชาย เจิ้งหลินจึงเบาใจขึ้นมาก
“นังสารเลว! ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย” เย่หลิงจิงจากอับอายกลายเป็นความโกรธ ตะโกนออกมาอย่างอดรนทนไม่ไหวที่เสียท่าให้กับผู้หญิง“ฮึ