Share

ฮูหยินช่างยั่วยวนยิ่งนัก
ฮูหยินช่างยั่วยวนยิ่งนัก
Auteur: ไฉ่เฉิน / หลานจิง / ราตรีฝนพรำ / เกนไลซี / ไนยาดา

บทที่ 1 'คลุมถุงชน'

บทที่ 1

'คลุมถุงชน'

.

.

"ยังไงหนูก็ไม่แต่งนะคะ"

เสียงใสหวานของสตรีรูปโฉมงดงามดังขึ้นภายในเคหาสน์หลังขนาดกลางที่มีรูปทรงแบบเรือนจีนโบราณเก่าแก่ตั้งตระหง่านมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงที่ผ่านการทะนุบำรุงรักษามาหลายครั้ง และก็ผ่านเจ้าของมาหลายมือจนตอนนี้ตกเป็นทรัพย์สินของสกุลหยางผู้มีอาชีพเปิดร้านขายบะหมี่ที่ถนนชวงเหอย่านการค้าสำคัญของเมือง

'หยางเยว่' บุตรสาวคนที่สามของบ้านหลังนี้กำลังโวยวายด้วยท่าทางไม่ยินยอมยามถูกบังคับให้แต่งงานกับชายชราที่หมู่บ้านหนานสวินถึงแม้จะร่ำรวยแต่เพื่อนของเธอทุกคนกลับบอกว่าเขาแก่รุ่นราวคราวพ่อ ต้องแต่งงานกับคนอายุเท่าพ่อมันจะมองเป็นสามีลงได้อย่างไรในเมื่อมองหน้าเขาแล้วก็คงจะคล้ายว่าเห็นหน้าพ่อ

"จะดื้อรั้นไปไย ยังไงเสียก็ต้องแต่ง พ่อรับสินสอดเขามาแล้ว"

เมื่อได้ยินสิ่งที่บิดาพูดหยางเยว่ก็แทบลมจับ "รับสินสอดมาแล้ว เหตุใดหนูไม่รู้เรื่องเลย?"

"ก็หล่อนมัวแต่เที่ยวเล่นอยู่นอกบ้านจะไปรู้ได้อย่างไร" ผู้เป็นมารดาเลี้ยง ภรรยาคนใหม่ของบิดาเดินเข้ามาด้วยท่าทางหยิ่งยโสก่อนจะหันไปกอดแขนบิดาของหยางเยว่ท่าทางออดอ้อน "ตอนนี้สินสอดที่รับมาก็เอาไปใช้แล้วส่วนหนึ่งด้วย ถ้าหล่อนไม่แต่งจะหาเงินจากที่ไหนไปชดใช้เขา"

"เอาไปใช้ทำอะไร เหตุใดถึงรีบร้อนใช้ถึงเพียงนี้?"

"ก็ที่ดินตรงร้านบะหมี่ของเรากำลังจะถูกขายไปสร้างตึกใหม่ให้ทันสมัยแบบตะวันตก ถ้าไม่มีเงินไปซื้อที่ตรงนั้นไว้ก็ต้องหอบข้าวหอบของออกจากตรงนั้นไม่ได้ขายของอีก ที่ทางสมัยนี้มันก็หายากและราคาแพงจะไปหาเช่าที่ใหม่ก็คงยากจึงเก็บที่เก่าเอาไว้ดีกว่า ประจวบเหมาะกับที่ว่าเถ้าแก่ซ่งต้องการแต่งภรรยาอยู่พอดิบพอดี ฉันกับพ่อเธอเลยลองส่งรูปเธอไปให้ เถ้าแก่ซ่งดันถูกใจเลยส่งแม่สื่อมาสู่ขอเธอถึงได้สินสอดมานี่ไง"

"แต่ไม่คิดจะถามฉันเลยเหรอ ความสมัครใจของฉัน?"

"เป็นบุตรก็ต้องกตัญญูต่อบิดามารดาสิ และการแต่งงานของเธอก็ทำให้สกุลหยางรอดพ้นทุกข์ภัย ได้ค้าขายทำมาหากินต่อไปก็ถือว่าเสียสละตนเองเพื่อส่วนรวมแล้วกัน"

"ยังไงฉันก็ไม่แต่ง!"

ว่าจบหยางเยว่ก็วิ่งหนีออกมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง เท้ากระแทกลงบนพื้นเสียงดังตึงตัง แม้จะมีเสียงตะโกนด่าทอของบิดาตามหลังมาแต่เธอก็หาได้สนใจ เหตุอะไรจะต้องยอมแต่งงานกับคนแก่รุ่นราวคราวบิดาด้วย เธอยังสาวยังสวยยังหาชายหนุ่มหล่อเหลากำยำมาบำเรอกามได้อีกตั้งมาก ทำไมจะต้องไปนอนอ้าขาให้ตาแก่หนังเหี่ยวเอาอะไรเหี่ยว ๆ ยัดเข้ามาในตัวด้วย

ความบริสุทธิ์ของเธอควรเป็นของหนุ่มเร่าร้อนสิ!

……….

.

ขบวนเจ้าสาวสุดแสนอลังการที่มีคนเดินนำและเดินตามขบวนมากมาย เสียงเครื่องดนตรีบรรเลงดังไปทั้งถนนจนเหล่าชาวบ้านต่างออกมามุงดูเต็มสองข้างทาง หลายคนล้วนยินดีปรีดาแต่หลายคนก็คล้ายว่าจะอิจฉาวาสนาของหญิงสาวภายในเกี้ยวที่ได้แต่งเป็นภรรยาของเฒ่าแก่ซ่งแห่งหนานสวินผู้ร่ำรวย

แต่เจ้าสาวที่หลายคนอิจฉากลับนั่งบูดบึ้งภายใต้ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว สุดท้ายหยางเยว่ก็ต้องยอมแต่งงานเพื่อครอบครัวเพราะบิดาและมารดาเลี้ยงดันเอาสินสอดที่ได้รับมาไปใช้แล้วไม่มีปัญญาชดใช้คืนด้วย ก็ได้แค่ทำใจยอมกัดฟันสวมชุดเจ้าสาวนั่งเกี้ยวออกมาจากบ้าน แต่ก็ถือเสียว่าหลุดพ้นจากครอบครัวหน้าเลือดเสียที อย่างน้อยแต่งงานกับคนร่ำรวยก็คงจะสบายกว่าอยู่ที่บ้านแน่นอน

เจ้าสาวรูปโฉมงดงามมิหนำซ้ำยังอ่อนวัยก้าวเท้าเข้ามาภายในเคหาสน์สกุลซ่งที่อยู่ภายใต้รั้วอณาเขตที่กว้างใหญ่เทียบกับบ้านของเธอต่างกันลิบลับ หญิงสาวมองไปยังเจ้าบ่าวในชุดสีแดงที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ ดวงตาพยายามเพ่งพินิจมองให้ชัดว่าหน้าตาแก่ชรามากเพียงใดแต่ภายใต้ผ้าคลุมหน้าสีแดงกลับมองเห็นถึงใบหน้าที่ยังคงหนุ่มแน่นและตึงไปเสียทุกส่วน

ไหนว่าเขารุ่นราวคราวบิดาของเธอไง

ไหนว่าเหี่ยวไปเสียทุกส่วน

แต่ทำไมผู้ชายตรงหน้าของเธอตอนนี้ถึงได้หล่อเหลา ใบหน้ารูปงามไม่ได้มีเคล้าความแก่ชราสักนิดเดียว ถึงแม้ใบหน้าจะดูเหนื่อยล้าแบบคนอายุมากผ่านโลกมานานแล้วก็ตาม แต่ก็ไร้ร่องรอยเหี่ยวย่นจะมีเพียงหางตาที่คล้ายว่าจะมีเส้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

มือใหญ่ยื่นมาตรงหน้า เพราะมัวแต่อึ้งในความหล่อเหลาของเจ้าบ่าวทำให้หยางเยว่ไม่ได้ยื่นมือไปจับมือเขา

'ซ่งอี้' ผู้เป็นเจ้าบ่าวในวันนี้เมื่อเห็นท่าทางของเจ้าสาวที่ไม่ยอมยื่นมือมาหาก็หน้าเสียเล็กน้อยและคิดไปว่านางคงไม่เต็มใจแต่งงานกับตนนัก แต่ก็ไม่แปลกนักเพราะมันคือการแต่งงานแบบคลุมถุงชนผู้ใหญ่ล้วนจัดการทั้งสิ้น เด็กแบบนางคงไม่มีปากมีเสียงจะต่อรองอะไรทั้งนั้นนอกจากยอมฝืนใจสวมชุดเจ้าสาวมาเข้าประตูวิวาห์กับเขาในวันนี้

"ขอมือเธอได้หรือไม่?" เขาพูดอย่างนุ่มนวล

หยางเยว่ได้สติกลับคืนมาจึงยื่นมือไปให้เขาจับก่อนจะยกยิ้มเล็กน้อยผ่านผ้าคลุมหน้าสีแดง ทั้งสองร่วมเดินเคียงข้างกันเข้ามาในเรือนพิธีการเพื่อเริ่มขั้นตอนต่อไปให้การแต่งงานเสร็จสิ้นสมบูรณ์ท่ามกลางเสียงดนตรีและรอยยิ้มอย่างยินดีปรีดาของแขกเหรื่อภายในงานที่ล้วนมาร่วมยินดีกับทั้งสองคน

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการเจ้าสาวคนงามก็ถูกพามารอที่ห้องหอที่ถูกตกแต่งด้วยสีแดงแม้กระทั่งเครื่องนอน หยางเยว่ที่รอนานแล้วก็นึกหิวเลยเปิดผ้าคลุมออกก่อนจะเดินมายังโต๊ะที่มีอาหารจัดเรียงเอาไว้มากมายโดยเฉพาะหมูย่างหนังกรอบจนอดไม่ได้ที่จะใช้ตะเกียบคีบเนื้อส่วนติดมันขึ้นมากิน

"อร่อยจังเลย" ดวงตาหญิงสาวทอประกายวิบวับอย่างมีความสุขยามได้กินของอร่อยจนแทบจะลอยได้ เธอไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า

ประตูเรือนถูกเปิดออกจนหญิงสาวที่กำลังสวาปามหมูหันตกใจจนทำตะเกียบในมือร่วง ดวงตาคู่สวยมองสามีหมาด ๆ ที่ก้าวเท้าเดินเข้ามาในเรือนด้วยท่าทางทำอะไรไม่ถูก เนื้อส่วนติดมันฉ่ำ ๆ ยังคาอยู่ในปากอยู่เลย

"ขะ… ขอโทษค่ะ" เธอรีบวิ่งจะกลับไปนั่งที่เตียงเหมือนเดิมแต่กลับถูกซ่งอี้คว้าแขนเอาไว้แล้วดึงนางเข้าหาจนใบหน้าซบเข้ากับอกกว้างอย่างจัง

ไหนว่าเขาเป็นตาแก่หนังเหี่ยวไง ทำไมกล้ามเนื้อมันแน่นขนาดนี้ อกผายไหล่ผึ่งสมเป็นชายชาตรี ภายใต้อาภรณ์ต้องมีมัดกล้ามเนื้อกำยำซ่อนอยู่แน่ ๆ จนอยากจะปลดเปลื้องอาภรณ์เขาออกแล้วลูบคลำขยำขยี้ให้สะใจเสียจริง

"เธอไม่อยากแต่งงานกับฉัน"

"ก็ปกตินี่คะ ไม่เห็นแปลก เถ้าแก่ต่างหากที่ไม่ปกติ ทำไมต้องอยากแต่งงานกับฉันด้วยคะ?"

"เพราะเธอเกิดปีมะเมีย"

"เกี่ยวตรงไหนคะ?"

"ฉันเกิดปีขาล เนื้อคู่ที่เหมาะสมคือปีมะเมียและมันก็มีแค่เธอที่เกิดปีนักษัตรที่ดวงสมพงษ์กับฉัน หมอดูบอกว่าถ้าได้แต่งงานด้วยจะส่งผลให้รุ่งเรืองก้าวหน้า ดวงค้ำจุนหนุนนำซึ่งกันและกัน เป็นคู่ที่เสริมกันดีมาก ๆ"

หยางเยว่ที่ได้ฟังเหตุผลก็พอจะเข้าใจคนแก่ก็แบบนี้เชื่อเรื่องดวงชะตาเป็นสำคัญถึงว่าทำไมเลือกแต่งงานกับเธอทั้งที่ผู้หญิงมีเป็นร้อยให้เลือกสรรค์แต่ส้มดันมาหล่นใส่หัวเธอเฉยเลย

"หยางเยว่ใช่ไหม?" เขาเชยคางนางให้เงยขึ้นสบตา

"ค่ะ"

"เข้าหอกันดีไหม?"

หญิงสาวยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรด้วยซ้ำ ริมฝีปากหนาก็ประกบจูบลงมาอย่างเร่าร้อนดูดดื่ม เขากัดปากนางเล็กน้อยคล้ายว่าต้องการให้เผยริมฝีปากออก สอดแทรกลิ้นเข้ามากวาดต้อนในโพรงปากเล็กไล่ต้อนลิ้นเล็กที่กำลังหลีกหนีจนหยางเยว่แทบจะหายใจหายคอไม่ทันเพราะนี่เป็นจูบแรกของเธอ

มือใหญ่อีกข้างเลื่อนต่ำลงมายังระหว่างขาเรียวแล้วสอดมือเข้าไปถูไถกลีบอ่อนนุ่มภายใต้ชุดเจ้าสาวจนหยางเยว่ตกใจรีบผละใบหน้าออกแล้วหนีบขาแน่นเมื่อนิ้วใหญ่กำลังถูตรงจุดอ่อนไหวเสียขนลุกชัน

"นี่เป็นครั้งแรกของเยว่เยว่ เถ้าแก่โปรดอ่อนโยนด้วย"

"ฉันจะสอนเธอเอง รับรองว่าเธอจะติดใจ"

น้ำเสียงนุ่มกระซิบที่ข้างใบหูเล็กก่อนจะผลักเจ้าสาวคนงามไปยังเตียง หยางเยว่หงายหลังล้มลงบนเตียงสีแดงที่โปรยด้วยกลีบกุหลาบโดยมีซ่งอี้ยืนอยู่ที่ปลายเท้า

เขาปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากกายอย่างเชื่องช้า เผยให้เห็นกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน ความแข็งแรงที่ไม่มีผู้ใดได้เห็นนอกจากนางผู้เป็นภรรยา บรรดาเพื่อนของนางต่างบอกว่าเขาคงเป็นตาแก่พุงพลุ้ยเป็นแน่ แต่พวกเขาคิดผิดเสียแล้วนอกจากจะไม่มีพุงแล้วยังอุดมไปด้วยมัดกล้ามเนื้อกำยำอีกต่างหาก

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ฮูหยินช่างยั่วยวนยิ่งนัก   บทที่ 15 ‘คู่ชีวิต’

    บทที่ 15‘คู่ชีวิต’..เสียงจูบดังระงมภายในห้องอาบน้ำที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยสายน้ำที่เอ่อล้นขึ้นมาจากอ่างใบใหญ่แต่เหมือนจะแคบลงยามคนสองคนกำลังนัวเนียกันอยู่ภายใน ริมฝีปากเล็กถูกขบกัดจนรู้สึกเจ็บแปล๊บแต่หยางเยว่กลับรู้สึกชอบมากเธอโหยหาความป่าเถื่อนจากเขาด้วยการสอดแทรกลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดลิ้นหนาอย่างดูดดื่มจนเกิดเสียงจูบอันชื้นแฉะยั่วยวนหัวใจให้ลุ่มหลงในความปรารถนาอันมากล้นสัมผัสเปียกชื้นจากริมฝีปากหนาที่เลื่อนต่ำลงมายังหน้าอกอวบอิ่ม ปากดูดดึงยอดปทุมถันสีสดจนมันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเถือก เรียวลิ้นกวาดต้อนไปทั่วฐานจนน้ำลายเหนียวอาบชโลมเป็นเส้นสายใยน้ำหวานที่หยาดเยิ้มไหลย้อย เสียงครวญครางดังออกมาไม่ขาดปาก มันหวานนุ่มละมุนหูแต่ก็แฝงไปด้วยความกระเส่าเสียวซ่านที่ซ่งอี้ชอบมากเลยปรนเปรอสวาทเล้าโลมเรือนกายของหยางเยว่เต็มที่เพราะอยากได้ยินเสียงครวญครางซ่งอี้ดำน้ำลงไปใต้ล่างจนหยางเยว่ตกใจแต่ยังไม่ทันห้ามก็รู้สึกเสียวซ่านยามลิ้นหนากวาดเลียไปทั่วกลีบดอกไม้งามจนต้องส่งเสียงครางหวานฉ่ำออกมา ใบหน้าเชิดขึ้นมือดำดิ่งลงไปขยุ้มผมหนาภายใต้ผืนน้ำที่กำลังกระเพื่อมเอ่อล้นขอบอ่างตามร่างขยับของคนสองคน แต่ทำได้ไม่น

  • ฮูหยินช่างยั่วยวนยิ่งนัก   บทที่ 14 'ซ่งเหยาน้อย'

    บทที่ 14'ซ่งเหยาน้อย'..เสียงเด็กน้อยร้องอ้อแอ้อยู่ภายในเรือนหลังใหญ่ที่ตอนนี้มีเหล่าสาวรับใช้กำลังเดินเข้าเดินออกด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข ขนมหวาน ผลไม้ถูกยกเข้ามาภายในเรือนจัดวางบนโต๊ะอย่างมากมาย แต่ก็ไม่ลืมข้าวบดละเอียดของเด็กน้อยด้วยที่ตอนนี้หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นนมที่ใช้ผสมลงไปในข้าวบดอย่างพิถีพิถัน สะอาดสะอ้านและมีคุณประโยชน์สำหรับเด็กวัยกำลังโต“ไหนใครหิวข้าวบ้าง”ซ่งอี้หยิบถ้วยช้าวบดผสมนมเดินมาหา ‘ซ่งเหยา’ ลูกชายวัยหนึ่งขวบที่นั่งอยู่บนตักของหยางเยว่ด้วยรอยยิ้ม เขานั่งลงที่พื้นตรงหน้าของบุตรชายที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจก่อนจะตักข้าวบดผสมนมขึ้นมาจ่อที่ปากเล็ก ๆ ที่กำลังส่งเสียงอ้อแอ้ออกมา ช่างน่ารักน่าชังจนอยากจะจับมาฟัดแก้มให้ช้ำแต่ก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้“อ้ามมมม อ้าปากเร็วครับ ไหนใครคนเก่ง”“แอ้ ๆ อ้าม ๆ” ซ่งเหยาตัวน้อยยกมือไม้ขึ้นจับไปในอากาศด้วยท่าทางสดใสร่าเริงตามวัย ปากเล็กเคี้ยวข้าวบดผสมนมหมุบหมิบช่างน่าเอ็นดู“อร่อยไหมครับคนเก่ง”“หม่ำ ๆ”“ครับ ๆ หม่ำ ๆ อ้าปากหม่ำ ๆ” ซ่งอี้ตักข้าวบดผสมนมป้อนให้ลูกชายตัวน้อยด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุขเขาเงยขึ้นสบตากับหยางเ

  • ฮูหยินช่างยั่วยวนยิ่งนัก   บทที่ 13 ‘โดนสั่งห้ามไปไหน’

    บทที่ 13‘โดนสั่งห้ามไปไหน’..หยางเยว่เดินออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้าภายใต้ชายคาเรือนของตนเอง ผ่านมาแล้วสามวันนับจากเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นกับเธอ ตัวเธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ลูกก็ยังอยู่ดี เพียงแค่อ่อนเพลียเท่านั้นจึงนอนโรงพยาบาลเพียงคืนเดียวก็กลับมาอยู่บ้านได้พวกโจรถูกตำรวจจับกุมรวมถึงฉีเหมยหลิวด้วย เธอไม่ได้ไปพบฉีเหมยหลิวหรอกกลัวว่าจะอดใจไม่ไหวตบอีกฝ่ายจนฟันร่วงและที่สำคัญไปกว่านั้นเธอกำลังตั้งท้อง อะไรเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงไม่ใช่ลอยหน้าลอยตาไปทุกที่ สถานีตำรวจมีผู้ร้ายมากมายเกิดหลุดการจับกุมแล้วเข้ามาทำร้ายเธอจะแย่เอา ซ่งอี้อยากให้เธออยู่บ้านรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีมากกว่า“วันนี้ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด”พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มาเธอหันกลับไปหาซ่งอี้ที่กำลังจะออกไปทำงานจึงเลื่อนมือไปช่วยจัดเสื้อผ้าเขาให้เรียบร้อย “ฉันรู้แล้ว เถ้าแก่พูดกรอกหูฉันทุกวัน”“ก็เธอชอบดื้อ”“ฉันดื้อตรงไหนคะ เชื่อฟังเถ้าแก่จะตาย”“ดีแล้วจะได้ไม่เกิดเรื่องอีก”“แต่จะให้อยู่แต่ในบ้านอย่างเดียวก็เหงาแย่เลย”“ไว้เธออยากไปไหน ฉันจะพาไปเอง”“จะดีเหรอคะ เถ้าแก่ต้องทำงานไม่รบกวนเหรอ?”“ฉันยอมไม่ไปทำงานดีกว่าต้องปล่อยเธอไปไห

  • ฮูหยินช่างยั่วยวนยิ่งนัก   บทที่ 12 'ชดใช้กรรม'

    บทที่ 12'ชดใช้กรรม'..“ช่วยด้วย!”“ใครก็ได้ช่วยด้วย!”“หยุดนะโว๊ย!”พวกโจรวิ่งตามมาติด ๆ ในขณะที่หยางเยว่ก็พยายามวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอดจนเธอเริ่มเหนื่อยแล้ว ขาแทบจะก้าวไม่ออกอีกต่อไปแล้วเพราะมันอ่อนล้ามากเหมือนจะล้มได้ตลอดเวลา ดวงตาคู่สวยมองออกไปเบื้องหน้าอย่างไร้ความหวังเพราะถนนมันช่างห่างไกลเหลือเกิน แต่ตอนที่แสงแห่งความหวังกำลังจะหมดลงกลับมีรถยนต์คันหนึ่งขับเข้ามาด้วยความเร็วรถยนต์ถูกจอดลงตรงหน้าของหยางเยว่ ห่างออกไปไม่ไกลเท่านั้น คนที่คุ้นเคยก้าวลงมาจากรถพร้อมปืนในมือแล้วชี้ปลายกระบอกมาทางเธอจนหยางเยว่ตกใจ“ฮูหยินก้มลง!” เสียงตะโกนของซ่งอี้ดังสนั่นจนหยางเยว่ต้องหยุดฝีเท้าแล้วทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นสองมือยกขึ้นปิดหูตัวเองแล้วก้มหัวลงให้ต่ำที่สุดทันทีปัง ปัง ปัง!เสียงปืนดังขึ้นหลายนัดกระสุนที่มีกลิ่นดินปืนไหม้พุ่งผ่านไปเหนือตัวของหยางเยว่มุ่งตรงไปยังด้านหลังที่มีพวกโจรอยู่ จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดจนเธอต้องหันไปมองก็พบว่าโจรสองคนถูกยิงจนล้มลงไปกองกับพื้นเลือดไหลทะลักออกมาจากบาดแผลที่ขาและแขนภาพน่ากลัวตรงหน้ามันทำให้จิตใจของหยางเยว่เตลิดไปไหนต่อไหน บวกกับคว

  • ฮูหยินช่างยั่วยวนยิ่งนัก   บทที่ 11 'เหตุด่วนเหตุร้าย'

    บทที่ 11'เหตุด่วนเหตุร้าย'..บ้านสกุลหยางหยางเยว่นั่งอยู่ภายในศาลากลางสระน้ำที่สงบร่มเย็น เบื้องหน้ามีขนมหวานมากมายที่ถูกยกขึ้นโต๊ะแล้วยังมีชารสดีมากอีกด้วย แต่ก็มีผู้อื่นร่วมโต๊ะนั่นคือมารดาเลี้ยงและน้องสาวคนเล็กของนาง“ต้องขอบคุณเธอที่ยอมเสียสละตัวเองแต่งงานกับเถ้าแก่ซ่ง เราถึงได้มีชาดีกินเช่นนี้” ฮูหยินหวังมารดาเลี้ยงของหยางเยว่กล่าวขึ้น“ฉันก็ยินดีที่การเสียสละของฉัน ทำให้พวกท่านได้สุขสำราญใจกันเช่นนี้” หยางเยว่ยกถ้วยชาขึ้นดื่มก่อนจะมองไปทาง ‘หยางอัน’ น้องสาวคนเล็กของนางที่ตอนนี้ก็เริ่มแตกเนื้อสาวแล้ว“ต่อไปก็ตาของเธอ เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้เถิด”“พะ… พี่หญิงสามกล่าวอะไรคะ?” หยางอันยังคงมีสีหน้าใสซื่ออย่างไม่เข้าใจนัก“ก็ถูกบังคับแต่งงานเหมือนฉันไง”พอได้ยินเช่นนั้นหยางอันก็หน้าเสียเล็กน้อยจนฮูหยินหวังต้องหันไปปลอบใจ “อนาคตไม่แน่นอน ตอนนี้สกุลก็ไม่ได้เดือดร้อนอันใด อีกอย่างอันเอ๋อร์ก็ร่ำเรียนที่โรงเรียนสตรีอนาคตคงได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยไม่ได้แต่งงานเร็ว ๆ นี้หรอก”“ดียิ่งนัก ช่างเป็นครอบครัวที่รักลูกเท่ากันเหลือเกิน”หยางเยว่อดไม่ได้ที่จะเบ้ปากด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยเพราะมันย่

  • ฮูหยินช่างยั่วยวนยิ่งนัก   บทที่ 10 'ข่าวใหญ่สกุลซ่ง'

    บทที่ 10'ข่าวใหญ่สกุลซ่ง'..ภายในห้องเงียบสงบไร้ซึ่งซุ่มเสียงใด ๆ ทั้งนั้น หมอทำการตรวจดูหยางเยว่อย่างละเอียด สอบถามมากมายจนเธอแทบจะตอบไม่ทัน ส่วนซ่งอี้ก็นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเขาเอาแต่จ้องหมอตลอดเวลาถึงไม่มีคำพูดแต่มันคือความกดดันอย่างยิ่งเหมือนว่าสุดท้ายจะได้ข้อสรุปแล้วหมอวัยกลางคนหันมาส่งยิ้มให้ซ่งอี้ก่อนจะประสานมือแล้วโค้งหัวลงเล็กน้อย “ยินดีด้วยเถ้าแก่ซ่ง ยินดีด้วย”“ยินดีเรื่องอะไร ฮูหยินของฉันเจ็บไข้อยู่แท้ ๆ”“ฮูหยินไม่ได้เจ็บไข้หรอก แต่ที่มีอาการอาเจียนเพราะกำลังแพ้ท้อง”“ฮะ!” สองสามีภรรยาต่างร้องอุทานออกมาพร้อมกันทันที“คุณว่าอะไรนะคุณหมอ” ซ่งอี้ถามย้ำอีกรอบ“ผมถึงต้องแสดงความยินดีไง ตอนนี้ฮูหยินหยางตั้งครรภ์ได้ราว ๆ สองเดือนแล้วครับ เพราะรอบเดือนไม่มาสองเดือนแล้ว และมีอาการอื่น ๆ ของคนแพ้ท้องร่วมด้วยจึงมั่นใจว่าตั้งครรภ์แน่นอน ถ้าเถ้าแก่ซ่งอยากแน่ใจมากกว่านี้ก็สามารถไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้งได้”ซ่งอี้และหยางเยว่ต่างได้ยินในสิ่งที่หมอพูดเป็นอย่างดีชัดเจนทุกถ้อยคำแต่เหมือนว่าหูของพวกเขาจะดับไปเสียแล้วสติก็ล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อความดีใจเอ่อล้

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status