Share

เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด
เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด
Auteur: เสี่ยวชิงเทียน

ความตาย

last update Dernière mise à jour: 2024-12-08 12:41:07

บทนำ

ความตาย

“เกือบสามสิบชั่วโมงแล้วที่ฉันถ่างตาอยู่ที่นี่ เหนื่อยชะมัด อยากตายจริง ๆ” หญิงสาวสวมเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดพูดขึ้น ใบหน้าแสดงความเหน็ดเหนื่อยจากการโหมงานหนัก อยู่ในแผนกฉุกเฉินแห่งนี้มาเกือบสามสิบชั่วโมงโดยไม่ได้หยุดพักเลย คงเพราะเมื่อวานเป็นวันสิ้นปีคนใช้รถใช้ถนนมากเกิดอุบัติเหตุใหญ่ แผนกฉุกเฉินแห่งนี้เลยเต็มไปด้วยเสียงร้องโอดโอย

“เธอไปพักเถอะหมอจินมาแล้วนั่นไง” พยาบาลสาวบอกเพื่อนสนิทที่หน้าตาอิดโรย ใต้ตาดำคล้ำ พร้อมพยักเพยิดไปทางคุณหมอหนุ่มที่เพิ่งเข้าเมาปลี่ยนเวร คราวนี้เธอจะได้พักสักที

“งั้นฉันไปล่ะไว้เจอกัน ลาก่อนนะคะหมอจิน” เธอโบกมือให้ทั้งสองคนแล้วรีบวิ่งออกไป เธอต้องการพักผ่อน เปลือกตาในตอนนี้ต่อให้เอารถเครนมาดึงไว้มันก็ยังจะปิดอยู่ดีเชื่อหรือเปล่า

หญิงสาววิ่งไปที่ห้องพัก ล้างหน้าล้างมือ ถอดเสื้อกาวน์กระโดดขึ้นเตียงอย่างรวดเร็ว ไม่ไหวแล้ว ตอนนี้เธอต้องการปิดสวิตซ์ตัวเองสุด ๆ

พอขึ้นเตียงได้เปลือกตาที่หนักอึ้งก็ค่อย ๆ ปิดลง ลมหายใจก็เริ่มสม่ำเสมอ จากสม่ำเสมอเป็นเบาลง เบาลง จนในที่สุดอัตราการเต้นของหัวใจก็ไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป...

“เมื่อยชะมัด นี่ฉันหลับไปนานแค่ไหนแล้วเนี่ย ทำไมนาฬิกาไม่ปลุกเลย” คนบนเตียงพูดทั้งที่ยังหลับตาอยู่ มือก็ควานหาบางอย่างบนเตียง หาอยู่นานไม่เจอเลยผงกหัวขึ้นมาเปิดเปลือกตา พยายามหรี่ตามอง แต่ในห้องแสงจ้าเกินไป เธอจำได้ว่าปิดไฟไปหมดแล้วทำไมถึงยังสว่างได้ขนาดนี้

ภาพแรกหลังสายตาปรับโฟกัสได้ตรงหน้าคือผ้าแพรสีเขียวมันวาว ‘บ้าน่า ผ้าปูเตียงในห้องมันสีฟ้าไม่ใช่หรือไง หรือเธอตาบอดสีไปแล้ว’ หญิงสาวรีบถลึงตัวลุกจากเตียงด้วยความตกใจทันที เมื่อเห็นว่านี่ไม่ใช่ห้องพักแพทย์ในโรงพยาบาลแต่เป็นห้องนอนแบบโบราณห้องหนึ่ง

“บ้าไปแล้ว ฉันบ้าไปแล้ว ฝันหรือเปล่า” ฝ่ามือเรียวยกขึ้นมาหยิกแก้ม ก่อนจะพูดกับตัวเองเสียงดัง จนมีคนเปิดประตูห้องเข้ามา ผู้หญิงที่เข้ามาสวมชุดฮั่นฝูแบบโบราณสีชมพูดซีด คิดว่าคงเก่าพอสมควร ผมถูกเกล้าขึ้นไปจนหมด แต่นี่ไม่ใช่เวลามาสนใจสักหน่อย อีกอย่างเธอไม่ได้ฝันไปภาพตรงหน้าเป็นความจริงทั้งหมด ตลกไปหน่อยมั้งก่อนหน้านี้เธอยังหลับอยู่ในห้องพักอยู่เลย

“คุณหนูท่านฟื้นแล้ว” พอเห็นหน้าเธอผู้หญิงคนนั้นก็ตะโกนเสียงดัง จากนั้นวิ่งออกไปอีกครั้งไม่รู้ว่าไปไหน แต่ท่าทางเหมือนจะไปตามใครสักคน

“อะไรเนี่ย ฉันย่อยไม่ทันแล้วนะ” เธอพึมพำก่อนจะลุกขึ้นหย่อนเท้าเหยียบไปบนพื้นห้องเย็น ๆ มองไปรอบห้องมองจนเสร็จแล้วก้มมองตัวเอง อยู่ในชุดสีขาวบางเล็กน้อยดูเหมือนชุดนอน ผมยาวถึงเอว ถ้าจำไม่ผิดผมเธอแค่ประบ่าเองเพราะไม่อยากต้องสระผม เป่าผมนาน นี่มันแปลกเกินไปแล้ว

“คงไม่ใช่ว่าฉันทะลุมิติ ข้ามเวลาอะไรพวกนั้นหรอกนะ แต่ฉันยังไม่ตายสักหน่อยหรือตายแล้ว เห้ย! นี่มันบ้าเกินไปแล้ว” เธอเดินดูรอบห้องไม่นานก็มีเสียงเหมือนคนกลุ่มใหญ่เดินมาทางนี้ กลุ่มใหญ่จริง ๆ มีทั้งผู้หญิงผู้ชาย ถึงจะไม่เคยรู้จักคนพวกนี้แต่พอเห็นหน้าความทรงจำมากมายก็หลั่งไหลมาจากไหนไม่รู้

“อ้ายฉิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” ผู้ชายแก่ที่สุดพูดขึ้น ในความทรงจำของเธอคน ๆ นี้คือพ่อ แต่พ่อของใครล่ะไม่ใช่ของเธอสักหน่อย

“ท่านพ่อถามเหตุใดเจ้าจึงไม่ตอบ” คนพูด ๆ อย่างหงุดหงิด เธอสวมชุดสีแดงคล้ายชุดแต่งงาน สายตาที่มองมาก็ไม่เป็นมิตร พอจะเดาได้ว่าเธอไม่ชอบเจ้าของร่าง ๆ นี้

“ก็ดี”

“อย่างไรคือก็ดี”

“ก็ดี ก็คือก็ดี ยังมีความหมายอื่นอีกหรือไง” เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ มีสิทธิ์อะไรมาไม่พอใจ เธอยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย

“ท่านพี่ นางฟื้นก็ดีแล้ว รีบแต่งตัวให้นางเสีย”

“เสี่ยวหรง แต่งตัวให้นายเจ้าเสีย”

“อ้ายเหม่ยไปเปลี่ยนอาภรณ์เถอะ นางฟื้นแล้วเจ้าไม่ต้องแต่งแล้ว” ผู้หญิงแก่คนนั้นพูดจบทุกคนก็พากันอพยพออกไปจากห้อง เหลือสาวใช้เสี่ยวหรงเพียงคนเดียว เพื่อให้ช่วยเธอแต่งตัว เธอไม่คิดขัดขืนเพราะยังไม่รู้สถานการณ์นี้แน่ชัด เลยได้แต่ตามน้ำไปก่อน เกิดคิดว่าเธอเป็นปิศาจหรือผีจับเธอถ่วงน้ำขึ้นมา ซวยตายชัก

ตอนกำลังใช้ความคิดอยู่ภาพความทรงจำของเจ้าของร่างก็แวบเข้ามาในหัวเธอทันที เธอต้องเข้าพิธีแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้งเดียว หนำซ้ำความทรงจำของเธอยังบอกว่าผู้ชายคนนั้นตาบอด

เธอไม่ได้รังเกียจที่เขาตาบอดแต่รังเกียจครอบครัวของเจ้าของร่างมากกว่า เพียงเพราะไม่อยากให้ลูกสาวแต่งกับคนตาบอดถึงมาบังคับให้อ้ายฉิงคนนี้แต่งแทน และที่เธอนอนอยู่บนเตียงแบบนี้เพราะถูกพี่สาวคนนั้นทำร้ายจนถึงแก่ความตาย

อาจเป็นเพราะเธอฟื้นขึ้นมาในร่างผู้หญิงคนนี้พอดี อ้ายฉิงคนนี้เลยดูเหมือนยังมีชีวิตทั้งที่เธอตายไปแล้ว

“คุณหนูแต่งตัวกันเถิดนะเจ้าคะ”

“อืม ช่วยที” เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธงานแต่งงานครั้งนี้เพราะที่อ้ายฉิงคนเก่ารับปาก ก็เพื่อให้แม่แท้ ๆ ของเธอได้รับการรักษาจากหมอที่ดีที่สุด เธอทำลายความหวังเดียวของเจ้าของร่างไม่ได้

หากว่าผู้หญิงคนนั้นตายไปแล้วเธอจะใช้ชีวิตแทนอ้ายฉิงให้ดีที่สุด ไปอยู่ที่ไหนก็คงดีกว่านรกแห่งนี้ทั้งนั้น นี่เป็นจิตสำนึกสุดท้ายของอ้ายฉิงที่เธอรับรู้ได้

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   สตรีใดที่ท่านหลงรัก [จบ]

    28สตรีใดที่ท่านหลงรัก“เห็นอยู่กับตาว่าเจ้าคือฉีอ้ายฉิง เหตุใดจึงกล่าวเช่นนั้น” ชายหนุ่มถามอย่างสงสัย ไม่รู้เหตุใดชายาตนเองจึงพูดจาแบบนี้ ถามผู้ที่เคยพบล้วนต้องบอกว่านางคือฉีอ้ายฉิงบุตรตระกูลฉีเป็นแน่“เดิมทีฉีอ้ายฉิงถูกฉีอ้ายเหม่ยบุตรสาวคนโตทำร้ายจนสิ้นใจภายในจวน และหม่อมฉันตายจากที่อื่นก็เลยเข้ามาอยู่ในร่างนางแทน เช่นนั้นข้าจึงจำไม่ได้ว่าเคยช่วยท่านเอาไว้ เพราะผู้ที่ช่วยพระองค์ไม่ใช่หม่อมฉัน แต่เป็นนาง”“...”“หม่อมฉันฟื้นขึ้นมาวันที่ต้องเข้าพิธีสมรส จนได้เจอกับพระองค์ คราแรกกังวลใจไม่น้อยที่อยู่ ๆ ต้องเข้าพิธีกับผู้ที่มีชื่อเสียงโหดร้ายเช่นท่าน แต่เมื่อแต่งแล้วจึงรู้ว่าท่านไม่ได้เป็นดั่งที่ชาวบ้านร่ำลือ”“...”“ที่หม่อมฉันช่วยพระองค์ก็เพื่อให้ตนเองได้อยู่อย่างไม่ลำบาก จนไม่นานมานี้ได้รับรู้ว่าที่พระองค์ดีกับหม่อมฉันเพราะทรงจำได้ว่าฉีอ้ายฉิงเคยช่

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   เรื่องเหลือเชื่อนี้

    27เรื่องเหลือเชื่อนี้“โชคดีจริง ๆ ที่ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมอุปสรรคเยอะแยะเหมือนในละคร ไม่งั้นตายแน่เลย เนาะไอ้จิ๋วของแม่” หญิงสาวพึมพำกับตนเองเบาๆ ขณะนั่งหน้าคันฉ่องบานใหญ่ เรื่องนี้ยังไม่มีผู้ใดรู้นางไม่กล้าบอกเพราะกลัวว่าจะไม่มีผู้ใดเชื่อเรื่องเหลือเชื่อนี้เสียงเรียกแผ่วเบาหน้าประตูทำให้นางลุกไปดู หยินซูหยางหรือมารดาแท้ ๆ ของฉีอ้ายฉิงคนเก่า นางมาอยู่ที่จวนอ๋องได้เกือบหนึ่งเดือนแล้วเพราะตระกูลฉีถูกเนรเทศจากเมืองหลวงหลังถูกโบย“ท่านแม่มีอันใดหรือเจ้าคะ”“แม่ไม่ได้พูดคุยกับเจ้ามานานจึงอยากมาพูดคุยด้วยสักหน่อย เป็นอย่างไรบ้าง ยังอาเจียนอยู่หรือไม่”“ท่านแม่เชิญเข้ามาก่อนเถอะเจ้าค่ะ” หยินซูหยางเดินตามบุตรสาวเข้าไปนั่งเก้าอี้ในห้อง อ๋องอันยามนี้คงอยู่ในวังเพื่อวางเรื่องการป้องกันเมืองกับไท่จื่อ นางรินชาให้มารดาแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน แม้ไม่ใช่บุตรแท้ ๆ แต่อย่างไรยามนี้นางก็เป็นฉีอ้

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   โอกาสสุดท้ายของการกลับตัว

    26โอกาสสุดท้ายของการกลับตัวไท่จื่อเบิกตาโตมองผู้คนที่เดินเข้ามาภายในโถงร้านค้าเก่าแห่งนี้ ภายนอกมีคนของเขาเฝ้าอยู่ด้านนอกหลายคนรวมถึงองครักษ์ประจำตัว แต่เมื่อเห็นผู้ที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้ายจึงรู้ว่าเพราะเหตุใดองค์จักรพรรดิทรงเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ไม่มีอารมณ์ใดปะปนอยู่เลย ร่างกายเย็นวูบชาไปทั่วทั้งร่างไม่นึกเลยว่าองค์จักรพรรดิจะเสด็จเองเช่นนี้ แต่เขากลับไม่รู้เลย“อ้ายฉิงเป็นอย่างไรบ้าง”“หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ เพียงรู้สึกอับชื้นจึงหายใจไม่สะดวกเท่านั้น” น้ำเสียงหวานใสบอกกับผู้เป็นสามี ใบหน้ายิ้มแย้มไม่ได้โกรธเคืองหรือตื่นกลัวอันใด“ลูกถวายบังคมเสด็จพ่อ เหตุใดเสด็จพ่อจึงเสด็จมาเองเช่นนี้” องค์ไท่จื่อหันไปพูดกับฮ่องเต้ด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด คงกังวลว่าจะถูกกล่าวโทษที่ทำเรื่องเช่นนี้ หรืออาจกังวลว่าฮ่องเต้ทรงรู้สิ่งใดมาบ้าง“ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง

    25ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง“เช่นนั้นก่อนตายข้าจะสงเคราะห์ให้” เขาพูดจบก็แหวกม่านหมวกออกทั้งสองฝั่ง เผยให้เห็นใบหน้าโหดเหี้ยม นางไม่คุ้นเคยใบหน้านี้แม้แต่น้อย ไม่เคยเห็นสักครั้งเดียว“แม้จะเห็นหน้าท่านเช่นนี้ข้าก็ไม่รู้อยู่ดีว่าท่านเป็นผู้ใด อยากจะพูดก็พูดเถอะ หากไม่แล้วก็เชิญทำตามใจ” สิ่งที่เอ่ยออกไปนางไม่ได้จงใจยั่วยุแต่นางคิดเช่นนั้นจริง ๆ อย่างไรนางก็เคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง แม้ไม่ได้อยากตายก็ตาม ครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อฟ้าลิขิตให้ตายผู้ใดเล่าจะรอดนางพูดจบก็เงยหน้ามองเขาอีกครั้งด้วยแววตานิ่งไม่หวั่นไหว ถามว่ากลัวหรือไม่นางย่อมต้องกลัว แต่จะให้อ้อนวอนขอชีวิตก็คงไม่มีประโยชน์อันใด“ยิ่งเห็นสายตาราวกับไม่กลัวสิ่งใดของเจ้า ทำให้ข้ายิ่งนึกถึงคนผู้นั้นยิ่งนัก ข้าเคยให้โอกาสเจ้าเลือกแล้วที่จะไม่รักษาอ๋องอัน แต่เจ้าดื้อรั้นและดื้อดึง”“อย่างที่ท่านกล่าวมา ข้าทั้งดื้อรั้นและดื้อดึงต่อให้ท่านจะฆ่

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   มีเวลาให้พักมากพอ

    24มีเวลาให้พักมากพอ“ขอแสดงความยินดีกับพระชายา พระองค์ทรงตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วพ่ะย่ะค่ะ” นางยกมือกุมขมับตนเองทันที เป็นหมอแท้ ๆ แต่กลับไม่ทันได้คิดเรื่องนี้เลย มัวแต่ใช้เวลาดูแลผู้อื่นจนลืมสังเกตตนเอง“ขอบคุณท่านหมอ เชิญท่านหมอเถอะ ข้าขอพักเสียหน่อย”“กระหม่อมทูลลา” รายงานเสร็จหมอก็ออกไปจากรถม้าให้นางได้อยู่ตามลำพัง ไม่ได้สั่งยาหรือมอบเทียบยาใดให้เพราะเห็นว่านางอ่อนเพลียจึงปลีกตัวออกมาให้ได้พักผ่อน“ตัวจิ๋วเดียวก็สร้างเรื่องเลยนะ ถ้าอยากมาเกิดจริง ๆ อย่าให้แม่ทรมานนักสิ” นางพึมพำกับตนเองพร้อมกับลูบหน้าท้องแบนราบแผ่วเบาแล้วผล็อยหลับไป“ท่านหมอพระชายาเป็นอย่างไรบ้าง”“ขอแสดงความยินดีกับท่านอ๋อง พระชายาทรงตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ดวงตาคมเบิกกว้างตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ไม่น้อย ริมฝีปากยกยิ้มกว้างอย่างไม่รู้ตัว

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   ป่วยแล้วหรือไม่

    23ป่วยแล้วหรือไม่“เสด็จพี่ เช่นนั้นผู้บงการนี้”“แม้จะไม่อยากคิด แต่ข้าคิดว่าคงเป็นคนผู้เดียวกับที่เจ้าคิด บัดนี้มีหลักฐานแต่ยังขาดพยาน อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ต้องหาคนผู้นั้นให้เจอเราจึงจะได้คำตอบ” น้ำเสียงราบเรียบ เขาให้จื่ออี้ตามหาผู้ที่จับตัวฉีอ้ายฉิงในวันนั้น แม้จะยังไม่พบแต่ไม่นานต้องพบแน่ คนผู้นั้นเองก็คงไม่อยากตาย“หากมีสิ่งใดที่ข้าพอช่วยได้”“ย่อมต้องมีเรื่องรบกวนเจ้าในภายหน้าเป็นแน่” คนเจ็บยิ้มมุมปากขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินผู้เป็นพี่ชายบอกว่าต้องมีโอกาสใช้งานเขาแน่นอน เพราะไม่ได้ถูกเลี้ยงดูด้วยกันองค์ชายสามจึงมีแบบอย่างเป็นองค์ชายรองมาโดยตลอด ไม่ว่าองค์ชายรองจะทำอย่างไรจะเป็นอย่างไร เขาล้วนพยายามพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อที่ในสักวันจะได้คอยช่วยพี่ชายออกรบในสนามรบได้หลังได้ยินว่าเขาจะต้องไปช่วยอ๋องอันบรรเทาทุกข์ที่เซียงโจวก็ดีใจมาก คิดตลอดคืนว่าจะพูดคุยกับพี่ชายอย่างไรดีแต่จน

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status