“พี่แพรวคะ แม่รักพี่แพรวนะคะ ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้พี่แต่งงานกับพี่ทัชหรอกค่ะ แม่อยากให้พี่แพรวสบาย พี่แพรวเข้าใจแม่นะคะ”
เดือนดาราที่ไม่รู้เหตุผลแท้จริงในงานวิวาห์ของพี่สาว จึงพูดปลุกปลอบให้แพรงพรรณรายไม่ต้องคิดมาก และคิดว่ามารดาไม่รัก แต่แท้จริงแล้ว แพรวพรรณรายรู้เหตุผลทุกอย่าง รู้ทุกเรื่องที่เดือนดาราไม่รู้ แม้กระทั่งเรื่องความลับของกรกวินทร์
“ออกไปกันเถอะ พี่ไม่อยากถูกแม่ดุเรื่องที่ออกไปช้า”
แพรวพรรณรายพูดตัดบท เธอไม่อาจเปิดเผยหรือแพร่งพรายความลับที่เธอรู้ให้ใครได้รับฟังได้ แท้แต่เดือนดารา สองพี่น้องจึงเดินออกจากห้องแต่งตัว เดินเข้าไปในงานสมรสที่จัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการ
ทุกคนที่อยู่ภายในห้องจัดเลี้ยงต่างมองมายังร่างของเจ้าสาวที่เดินเคียงคู่มากับหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่มีความงามไม่แพ้กัน ทุกสายตาต่างชื่นชมกับความสวยของแพรวพรรณราย แต่จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มองข้ามความสวยของเธอไป แม้ว่าเขาอดจะตะลึงกับความงดงามของเธอไม่ได้ แต่มันแค่เพียงชั่ววินาที
ความงามขอแพรวพรรณรายโดดเด่นมาก ดวงหน้าหวานถูกแต่งแต้มพองาม ไม่มากเกินและไม่น้อยเกินไป อาจเป็นเพราะเธอเป็นคนสวยอยู่แล้วจึงไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางมาประทินโฉม รูปร่างของเธอสูงตามมาตรฐานหญิงไทย 165 เซนติเมตร ทรวงอกเอิบอิ่ม เอวคอดเล็กรับกับสะโพกผาย หุ่นของเธอขึ้นชื่อได้ว่าเย้ายวนบุรุษเพศ แต่คงไม่ใช่เจ้าบ่าวสุดหล่อที่เมินเฉยคำว่า พิศวาสกับเจ้าสาวของตน
ในสายตาของกรกวินทร์มีเพียงนิสารัตน์ ดาราชื่อดังของเมืองไทยเท่านั้น ความรักที่เพาะบ่มมาหลายปี ทำให้ทั้งคู่วางอนาคตไว้ร่วมกัน แต่สุดท้ายทุกอย่างก็พังครืน เมื่อเขาต้องแต่งงานกับหญิงสาวอีกคน สตรีที่ไม่เคยรู้จักและคิดจะรักสายตาของกรกวินทร์ยามที่มองเจ้าสาวมีแต่ความเฉยชาและห่างเหิน ปะปนมาด้วยสายตาเกลียดชังที่คนถูกมองรู้สึกได้
แพรวพรรณรายหัวใจเต้นแรงเมื่อได้เห็นเจ้าบ่าวของตน แม้ว่าเธอจะเคยเห็นเขาผ่านรูปถ่ายที่มารดานำมาให้ แล้วยังจะในนิตยสารหลายฉบับที่เขาให้สัมภาษณ์ ข่าววงการบันเทิงที่ลงข่าวเขาบ่อยครั้งเวลาควงคู่ไปกับนิสารัตน์หรือน้องฟ้า คนรักที่คบหากันมาหลายปี
รูปร่างหน้าตาของกรกวินทร์ในรูปถ่ายหรือในทุกสื่อ ต่างกันเพียงนิดเดียวคือ ตัวจริงหล่อกว่ามาก ร่างกายของเขาดูสมบูรณ์แข็งแรง สูงใหญ่จนเธอคิดว่าหากยืนใกล้เขาจะต้องเงยหน้าคุย สายตาของเขาดูไม่เป็นมิตรราวกับว่าจะประหัตประหารเธอทางนัยน์ตาคมกล้า เขาคงโกรธและเกลียดเธอที่ต้องทิ้งผู้หญิงอันเป็นที่รัก มาเข้าพิธีวิวาห์กับหญิงสาวที่ไม่เคยเห็นหน้า หรือจะพูดง่ายๆ ว่าไม่รู้จัก แต่มีหรือที่เธอจะแคร์และสนใจ เพราะเธอเองก็ไม่ปรารถนาจะแต่งงานกับเขาอยู่แล้ว เขาร้ายมาเธอก็จะร้ายกลับ
“สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า” แพรวพรรณรายพนมมือไหว้ภวินทร์กับธาริณี พ่อและแม่สามีอย่างเป็นทางการของตนในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า “สวัสดีค่ะคุณกรกวินทร์ คุณกวินภพ”
ก่อนจะหันไปไหว้เจ้าบ่าวกับกวินภพที่รับไหว้เจ้าสาวตามมารยาท
“ไม่ต้องเรียกทัชกับทอร์ชอย่างเป็นทางการนะจ้ะ เรียกว่าพี่ทัชกับพี่ทอร์ช และก็เรียกแม่กับพ่อแทนลุงกับป้านะแพรวเพราะเราจะมาเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว” เสียงนุ่มนวลของธาริณีดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร
“ค่ะคุณแม่” แพรวพรรณรายรับคำ
“พ่อว่าทัชกับแพรวไปทักทายแขกผู้ใหญ่ก่อนดีกว่านะ” ภวินทร์พูดขึ้น เมื่อเห็นแขกผู้มีเกียรติที่ตนเชิญมาทยอยเข้ามาในงาน
ผู้พูดดูเหมือนจะเป็นคนจอมเผด็จการที่ทุกคนต้องทำตามโดยไม่มีข้อแม้ พอภวินทร์พูดจบก็เดินนำคู่บ่าวสาวไปยังแขกผู้มีเกียรติเพื่อทักทายและกล่าวขอบคุณที่มาร่วมงาน โดยมีร่างของธาริณีกับพริ้งเพราเดินตามไป
พิธีแต่งงานของกรวกินทร์กับแพรวพรรณรายเป็นไปด้วยดี แขกที่มาร่วมงานในช่วงเช้าอาจจะไม่มากนักราวหนึ่งร้อยกว่าคนเห็นจะได้ เนื่องจากแขกที่เชื้อเชิญไปจะมาร่วมงานฉลองมงคลสมรสมากกว่า ช่วงเช้าก็จะเป็นญาติและเพื่อนฝูงของครอบครัวเจ้าบ่าวเจ้าสาว
ตลอดงานในช่วงเช้ากรกวินทร์กับแพรวพรรณรายกลายเป็นนักแสดงจำเป็นและทำได้อย่างดีเยี่ยมตามที่บุพการีของทั้งสองกำชับแล้วกำชับอีก แสร้งทำสีหน้ายิ้มแย้มประหนึ่งดีใจเป็นหนักหนาที่ได้แต่งงานกัน รูปถ่ายทุกรูปที่ถ่ายคู่กัน ใบหน้าของทั้งคู่จะเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม แม้แต่ตอนที่ถ่ายกับบุคคลอื่นทั้งคู่ก็ฉีกยิ้มกว้าง ทว่าในใจข่มขื่นยิ่งนัก
ภวินทร์กับพริ้งเพรารู้สึกพอใจกับลูกของตัวเองที่เชื่อฟังคำสั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ทำให้ทั้งคู่ขายหน้า คงจะมีเพียงธาริณีที่รู้ดีว่า ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มมีความทุกข์ระทมข่มขื่น นางอดที่จะสงสารทั้งคู่ไม่ได้ แต่ก็เข้าขัดขวางงานวิวาห์ในครั้งนี้ไม่ได้เช่นกัน
หลังจากเสร็จพิธีรดน้ำสังข์ก็ถึงพิธีสำคัญของงานอีกหนึ่งอย่าง นั่นคือการจดทะเบียนสมรส เจ้าหน้าที่จากเขตอำนวยความสะดวกเดินทางมาจดทะเบียนนอกสถานที่ พอถึงเวลาพิธีสำคัญอีกพิธีหนึ่งก็เริ่มขึ้น
“เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวเซ็นตรงช่องว่างนี้นะครับ” เจ้าหน้าที่จากเขตเอ่ยบอกจุดที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องกำกับชื่อลงไป
กรกวินทร์ถือปากกาค้างปลายปากกาอยู่ห่างจากช่องที่เซ็นไม่ถึงสองเซ็นติเมตร มองดูใบสำคัญที่เขาจะต้องเซ็นชื่อกำกับนิ่ง จ้องมองไปยังชื่อของคู่สมรสที่เขาอยากจะเปลี่ยนเป็นชื่อนิสารัตน์ วรปรีดาเหลือเกิน แต่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ หัวอกของกรกวินทร์ตรอมตรมยิ่งนัก
“เซ็นสิทัช มัวแต่ถือปากกาค้างอยู่นั่นแหละ ดีใจจนมือแข็งหรือไง”
จอมบงการกระตุ้นลูกชายคนโต เจ้าบ่าวตวัดสายตามองผู้พูดเพียงนิด ก่อนจะตัดใจเซ็นชื่อลงในกระดาษแผ่นนั้น หลังจากที่กรกวินทร์เซ็นเสร็จก็ถึงคราวที่แพรวพรรณรายจะต้องเซ็นบ้าง
ภวินทร์กับพริ้งเพรามองดูการจะทะเบียนสมรส พิธีการลำดับสุดท้ายของงานในช่วงเช้าด้วยรอยยิ้มแห่งความพอใจ ในที่สุดแผนการของทั้งสองที่วางไว้สำเร็จไปได้ด้วยดี แผนการที่จะไม่มีหญิงสาวคนใดมาช่วงชิงทรัพย์สมบัติของตระกูลเดชาพิพัฒน์ไปจากลูกชายของเขาได้
เป็นอันว่าพิธีการต่างๆ ในช่วงเช้าเสร็จสิ้นลงด้วยดี คงจะเหลือเพียงงานในช่วงเย็นที่คงต้องเหนื่อยกันหนักหน่อย เนื่องจากแขกที่มาร่วมงานจะต้องหนาตาตามฐานะของเจ้าของงาน
Chapter 80“เรากลับโรงแรมกันเถอะค่ะ ฟ้าหิวแล้ว”ผู้พูดไม่ได้หิวเหมือนที่ปากบอก เธอต้องการกลับไปพักผ่อนทั้งร่างกายและจิตใจมากกว่า เวลานี้จิตใจของเธอไม่สู้ดีเอาเสียเลย มันหม่นหมอง เศร้าสร้อย จะว่าไปแล้ว ภาพที่ทั้งคู่ยืนจุมพิตกันในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมเป็นเพราะนิสารัตน์เอง หากเธอไม่ใจอ่อน ไม่ใจง่าย ห้ามปรามเขาบ้าง ความลับมันก็ยังคงเป็นความลับต่อไป เห็นทีเธอต้องใจแข็งบ้างแล้ว“พี่ก็หิวเหมือนกัน หิวฟ้าจนแสบท้องแล้วนะเนี่ย”เขาทำหน้ากรุ้มกริ่ม มองเธอตาพราว ก่อนจะติดเครื่องยนต์แล้วทะยานรถออกไปบนถนน มุ่งตรงไปยังโรงแรมสุดหรูระหว่างทางนิสารัตน์นั่งนิ่งเงียบ ไม่ค่อยพูดจาหยอกล้อเหมือนทุกครั้ง เธอจะเสมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ไม่หันมามองหน้าคนขับ แม้แต่ยามที่เขาเอ่ยถามหรือชวนคุย ปากจะเอ่ยโต้ตอบเพียงไม่กี่คำ แต่สายตานั้นก็ยังไม่มองหน้าเขาอยู่ดี ท่าทางที่เปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือของดาราสาว ทำให้คนช่างสังเกตรู้สึกสงสัยขึ้นมา ดิตถพงศ์กำลังสงสัยว่า เธอเป็นอะไร อาการแบบนี้จะต้องมีเรื่องรบกวนจิตใจเธอแน่นอน ในเมื่อนิสารัตน์ไม่อยากพูด ไม่อยากคุย ไม่อยากมองหน้าเขา ดิตถพงศ์ก็ไม่ฝืน เขาทำหน้าที่พลขับต่อไปโดย
Chapter 79“เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญไง เป็นเรื่องที่พี่จะให้ใครรู้ไม่ได้ เพราะถ้ามีใครรู้เรื่องนี้ คนที่จะเสียชื่อเสียงคือ ฟ้าไม่ใช่พี่”นิสารัตน์รู้สึกแปลกๆ กับคำพูดของผู้จัดการส่วนตัว ราวกับว่าเรื่องที่นุชนารถจะคุยกับเธอนั้นเป็นเรื่องร้ายมากกว่าเรื่องดี“เรื่องอะไรคะพี่นุช” นิสารัตน์ถาม นุชนารถยังไม่ตอบ กลับล้วงหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋าออกมา แล้วยื่นส่งให้ดาราสาว“ดูเอาเอง” ชนารถเอ่ยขึ้นขณะที่มือนุ่มของนิสารัตน์หยิบซองสีน้ำตาลขนาดเล็กไปไว้ในมือ และสอดมือหยิบของด้านในออกมาดูดวงตาของนิสารัตน์ขยายกว้าง ใบหน้าซีด มือสั่นด้วยความตกใจ เมื่อเห็นรูปถ่ายหลายใบที่อยู่ในมือ จะไม่ให้เธอตกใจได้อย่างไร ในเมื่อคนที่อยู่ในรูปภาพในมือคือตัวเธอเอง แล้วยังมีอีกหนึ่งหนุ่มที่อยู่ในภาพนั้นด้วย หนุ่มคนนั้นคือ ดิตถพงศ์ และในภาพยังบอกให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อนหรือคนรู้จัก เพราะเขาและเธอกำลังกอดและจูบกันอยู่ในลานจอดรถของคอนโดมิเนียมที่ทั้งคู่อาศัยอยู่“พี่นุชได้ภาพนี้มาจากไหนคะ” นิสารัตน์ถามเสียงสั่น“ข้อนั้นฟ้าไม่ต้องรู้ก็ได้” นุชนารถคิดว่านิสารัตน์ไม่จำเป็นต้องรู้คำตอบนี้ เพราะมีอย่างอื่นที่นิส
Chapter 78“นุดีต้องขออภัยที่ไม่สามารถบอกรายละเอียดเรื่องสูตรได้ค่ะ เพราะนุดีก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ คนที่รู้สูตรคือคุณแพรพิไล น้องสาวของคุณภาคิน หุ้นส่วนอีกคนหนึ่งของร้านนี้ค่ะ เพราะเธอเป็นคนคิดสูตรนี้ขึ้นมาเอง แต่นุดีพอจะบอกรายละเอียดเรื่องการนวดได้ค่ะ นวดทองคำครบสูตรมีทั้งหมดห้าขั้นตอนค่ะ ขั้นตอนแรกคือการอบไอน้ำ ขั้นตอนที่สองนวดด้วยโคลนภูเขาไฟนำเข้าจากประเทศโรมาเนียซึ่งว่ากันว่ามีสรรพคุณดีที่สุดในโลกขั้นตอนที่สามนวดด้วยน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ที่อุดมไปด้วยโมเลกุลเล็กๆ และวิตามินหลายชนิดที่จะแทรกซึมเข้าไปในผิวทำให้ผิวเปล่งปลั่ง ต่อมาก็มาแช่ตัวด้วยน้ำนม หลังจากนั้นก็นวดด้วยทองคำสูตรพิเศษที่อุดมไปด้วยอาหารผิว และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระฟื้นฟูสภาพผิว และปรับสมดุลของร่างกายด้วยค่ะ พอทำทุกขั้นตอนแล้วเสร็จ คุณพริ้งเพราจะรู้สึกสบายตัว ความเมื่อยล้าหายเป็นปลิดทิ้ง ผิวกายรู้สึกกระชับเบาสบายมีชีวิตชีวาค่ะ”นุดีบอกรายละเอียดของการนวดทองคำเท่าที่เธอจะบอกได้ให้พลูกค้ากิตติมศักดิ์ได้รับรู้ ซึ่งสรรพคุณที่ได้รับจากการนวดทองคำก็ทำให้นางพึงพอใจเป็นอย่างมาก“มันดีขนาดนั้นเลยเหรอ” พริ้งเพราถามกลับ “ราคามัน
Chapter 77“พี่ทัช”กรกวินทร์ยิ้มอ่อนโยนให้ภรรยา จุมพิตดวงตาที่มีน้ำใสๆ เอ่อคลอแผ่วเบา นุ่มนวล“พี่รู้ว่าพี่ทำร้ายแพรวไว้มาก ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ พี่ยอมรับผิดและขอโทษสำหรับทุกเรื่องที่ผ่านมา ต่อไปนี้พี่จะทะนุถนอมแพรว ดูแลแพรวและรักแพรว ชดเชยความผิดทั้งหมดด้วยหัวใจของพี่เอง”พูดจบเขาก็ประทับริมผีปากลงบนกลีบปากนุ่ม มอบจุมพิตหวานล้ำให้กับแพรวพรรณรายด้วยความรักทั้งหมดที่มี ซึ่งเธอเองก็ตอบรับจูบของสามีด้วยความเต็มใจ “แพรวล่ะ รักพี่หรือเปล่า รักผู้ชายเลวๆ คนนี้ไหม”เขาถามหลังจากที่ถอนจุมพิต มองนัยน์ตาหวานเยิ้มของเธออย่างลุ่มหลงและรักสุดหัวใจ แพรวพรรณรายคลี่ยิ้มก่อนจะเปิดปากตอบ“รักค่ะ” เธอตอบสั้นๆ พร้อมท่าทางเหนียมอาย หลายคนเคยพูดให้เธอได้ยินว่า ความรักมักวิ่งเข้ามาหาโดยไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกทีก็รักคนคนนั้นหมดทั้งใจ แพรวพรรณรายเพิ่งรู้ว่า คำพูดนี้เป็นความจริง มันเกิดขึ้นจริง เกิดขึ้นกับเธอ กรกวินทร์รักเธอโดยไม่รู้ตัว เธอเองก็รักเขาโดยไม่รู้ตัวเช่นกันกรกวินทร์ยิ้มกว้าง ใจเต้นแรงคล้ายกับว่าตนเองเป็นวัยรุ่นที่ริอ่านมีความรักครั้งแรก ตื่นเต้นกับคำบอกรักของฝ่ายหญิง รู้สึกดีใจบอกไม่ถูกที่ได้
Chapter 76“ขอบใจมากที่เป็นธุระให้”กรกวินทร์พอใจกับการทำงานของสุเมธที่ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง ครั้งนี้ก็เช่นกัน“ยินดีครับคุณทัช”“เรามาคุยเรื่องงานกันต่อดีกว่า เรื่องเซ็นสัญญากับบริษัท...”เมื่อคุยเรื่องธุระเร่งด่วนเสร็จสิ้น กรกวินทร์ก็วกเข้าเรื่องงานในบริษัทเป็นลำดับต่อมา สุเมธที่เตรียมเอกสารเรื่องสัญญาดังกล่าวมาด้วย รีบหยิบเอกสารนั้นออกมาให้เจ้านายอ่าน และบอกรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงเรื่องงานในส่วนอื่นๆอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาอาหารสามอย่างก็ถูกตระเตรียมไว้บนโต๊ะอาหารพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ ก่อนที่ทั้งสามจะลงมือรับประทานอาหารแสนอร่อยตรงหน้า ซึ่งเธอก็ได้รับคำชมจากกรกวินทร์กับสุเมธเรื่องความอร่อย คนถูกชมยิ้มแก้มปริ ดีใจที่อาหารทั้งสามอย่างถูกปากชายหนุ่มทั้งสองคน โดยเฉพาะคำชมจากสามีที่ทำให้เธอมีความสุขมากขึ้น และนี่คืออาหารมื้อแรกที่แพรวพรรณรายทำให้สามีทาน แน่นอนที่ว่าจะมีอีกหลายมื้อตามมาเสียงสะอื้นเบาๆ ที่ดังมาจากคนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียง ทำให้คนที่ก้าวออกมาจากห้องน้ำชะงักเท้า ทอดสายตาไปยังร่างแน่งน้อยของภรรยาด้วยความสงสาร เพราะรู้ดีว่าสาเหตุของเสียงสะอื้นนั้นมาจากอะไร ถึงแม้เขาจะดูแลเอาใ
Chapter 75 “ไม่ต้องพูดก็ได้นะ ครางอย่างเดียวก็พอ”เขากระซิบกระซาบไล่หลังภรรยา ที่เวลานี้เขินหนักมากกว่าเดิม หน้าร้อนผ่าวและไม่กล้าหันไปมองหน้าชายตัวโตที่เข็นรถเข็นตามหลัง ทั้งคู่ใช้เวลาซื้อของราวหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นจึงเดินทางกลับที่พัก“รถใครคะพี่ทัช” แพรวพรรณรายเอ่ยถามเมื่อเห็นรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ในโรงรถ“รถของสุเมธ ลูกน้องของพี่” กรกวินทร์ตอบขณะที่เท้าเหยียบเบรกให้รถหยุด “พอดีพี่มีเรื่องด่วนให้เมธจัดการ เลยโทรเรียกให้มาหาพี่ที่นี่”“อ๋อค่ะ”แพรวพรรณรายทำเสียงรับรู้ ก่อนจะก้าวลงจากรถพร้อมกับช่วยสามีถือถุงใส่ข้าวของที่ซื้อมา แต่ทว่าถุงในมือของหญิงสาวก็ถูกมือใหญ่ของกรกวินทร์แย่งไปถือไว้เอง จากนั้นทั้งคู่จึงพากันเดินเข้าไปในบ้าน“สวัสดีครับคุณทัช คุณแพรว”สุเมธที่ยืนรับลมทะเลอยู่หน้าบ้านติดชายหาดรีบหมุนตัวเข้ามาในบ้านเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเดินเข้ามาพร้อมกับภรรยา เขาจึงทักทายทั้งสองอย่างนอบน้อม เอื้อมมือไปหยิบถุงหลายใบในมือของกรกวินทร์มาถือไว้เอง จากนั้นก็เดินถือถุงไปไว้ในห้องครัว แล้วเดินกลับมาหาเจ้านาย“แพรวขอตัวไปทำกับข้าวก่อนนะคะ พี่ทัชจะได้คุยธุระกับพี่เมธ” แพรวพรรณรายเอ่ยกับสาม