Masukจันทร์กระจ่างเป็นเพียงเงาของใครบางคน ที่เขามีไว้เพื่อปลอบใจตัวเองว่าใครคนนั้นยังคงอยู่... จนกระทั่งถึงวันที่แน่ใจแล้วว่าไม่มีวันที่เขาจะมองหล่อนอย่างคนรัก จึงตัดสินใจเดินออกมาเงียบๆ พร้อมกับอีกหนึ่งชีวิตที่เพิ่งอุบัติ…
Lihat lebih banyakบทนำ
กระเป๋าเดินทางสองใบถูกยกขึ้นท้ายรถ ร่างโปร่งบางในชุดเดินทางหันไปมองตัวบ้านสีขาวงามสง่าที่มีพื้นหลังเป็นผืนป่าสีเขียวตัดท้องฟ้าสีครามอีกครั้ง ดวงตาที่มองนั้นไหววูบ หัวใจปวดแปลบ แต่สุดท้ายหล่อนเลือกหันหลังให้กับภาพคุ้นเคยและความผูกพันแสนยาวนาน
พอกันที...
ปึก...
เมื่อประตูรถปิด แท็กซี่คันนั้นจึงพาหญิงสาวนัยน์ตาเศร้าเคลื่อนจากไป ทันทีที่น้ำตาไหลออกมา หล่อนตัดสินใจหลับตาลงก่อนที่จะหันกลับไปมองข้างหลัง ด้วยกลัวใจตัวเองว่าจะบอกให้คนขับรถจอดแล้ววกกลับไป ไม่...จะต้องไม่เป็นแบบนั้น
ในขณะที่อนาคตของหล่อนรออยู่เบื้องหน้า เวลาเดียวกันนั้นอดีตของหล่อนกำลังถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลัง และตัวหล่อนจะต้องผ่านมันไปให้ได้
ผ่านไปไม่ถึงห้านาที รถกระบะยกสูงของใครบางคนผ่านรั้วเข้าไปภายในอาณาเขตของบ้านไพศาลเสรี
เอี๊ยดดด...เสียงล้อที่ครูดไปกับพื้นถนนเกิดจากการเบรกของคนขับ ทำให้คนในบ้านต่างชะโงกหน้าออกมามอง ทันทีที่รถยนต์จอดสนิท ร่างสูงใหญ่ก็เดินแกมวิ่งเข้าไปในบ้านด้วยความเร่งรีบ...
ผ่านหน้าของแม่บ้านที่เดินออกมาด้วยอาการอ้ำอึ้ง แต่คนตัวโตไม่มีเวลาสอบถาม เขามุ่งตรงเข้าไปยังห้องนอนส่วนตัว
นาทีต่อมา ร่างสูงก็ยืนนิ่งอยู่กลางห้องด้วยอาการนิ่งขึง แววตายามมองไปที่กลางเตียงกว้างแม้ดูเรียบเฉย ทว่ากลับมีบางอย่างซุกซ่อนอยู่ ชายหนุ่มลากเท้าตรงไป มองนิ่งที่ซองจดหมายชั่วครู่ ก่อนจะนั่งลงแล้วหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน กลิ่นกายเฉพาะตัวของหล่อนยังอบอวลรวยริน
เพียงแต่...นับจากนี้ไปจะไม่มีเจ้าของร่างเล็กที่มักจะอยู่ในครรลองสายตา คอยส่งยิ้มหวานและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงใส่ใจว่าเหนื่อยไหม วันนี้ทำอะไรมาบ้างพร้อมกับน้ำเย็นๆ รอท่า
ไม่มี อีกต่อไปแล้ว...
กริ๊งงงง...
เปลือกตาที่ปิดสนิทเปิดขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงดังมาจากด้านข้าง เขากวาดตามองไปรอบห้องแล้วผุดนั่งด้วยอาการถอนหายใจยาว แล้วเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกพร้อมกับความคิดหนึ่งที่ผุดขึ้นมา
ฝันไปหรอกเหรอ....
อิชย์ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการเหงื่อไหลที่ข้างขมับ เขายกมือขึ้นเช็ดแล้วหันไปมองเตียงนอนข้างกาย ทว่ายามนี้ว่างเปล่า หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง ได้แต่หวังว่าความฝันจะไม่ใช่ความจริงขึ้นมา ร่างสูงใหญ่จึงพรวดพราดออกไปนอกห้องด้วยอาการหน้าตาเคร่งเครียดระคนหวาดหวั่น
กลิ่นอาหารและเสียงตะหลิวที่เคาะกระทะเบาๆ ทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดชะงักอยู่ที่ประตูครัว พลันพรูลมหายใจยาวเหยียดด้วยความโล่งอก เมื่อพบว่าใครบางคนที่เขาฝันถึงกำลังขะมักเขม้นอยู่หน้าเตา...
อ้อมแขนที่สวมกอดและร่างสูงใหญ่ที่แนบเบียดมาจากด้านหลังทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วก่อนจะเอียงใบหน้ามองพร้อมกับยิ้มขันคนตัวโต
“เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย” เสียงอ่อนหวานเอ่ยถามออกมาพร้อมเสียงหัวเราะหวานๆ กลับทำให้คนตัวโตกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นอีกครั้งก่อนจะปล่อยมือออก
“มีอะไรหรือเปล่าคะ หาอะไรไม่เจออีก” หญิงสาวหันไปมองชายหนุ่ม พลางเลิกคิ้วสูงอย่างเป็นคำถาม อิชย์ บรรณวิชญ์ ขยับถอยหลังไปสองก้าว ก่อนจะมองดวงหน้าเรียวหวานของจันทร์กระจ่างอยู่อึดใจ แล้วส่ายหน้าเบาๆ
“วันนี้ทำอะไรกินเหรอ” เขาทำทีชะโงกหน้ามองกับข้าวในกระทะเพื่อที่จะไม่ต้องตอบคำถามหล่อน หญิงสาวมองท่าทางแปลกไปของคนตรงหน้าแล้วหรี่ตาลงเล็กน้อยอย่างครุ่นคิด
“ผัดตับใส่ดอกหอมที่คุณชอบ” หญิงสาวตอบพลางหันไปยังกระทะอีกครั้ง จากนั้นไม่ถึงนาทีก็ปิดเตาแก๊ส “เสร็จแล้วค่ะ”
ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ ขณะที่มองหญิงสาวไม่วางตา
“งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน”
จันทร์กระจ่างสบตาคู่คมกริบของคนตัวโตอีกครั้งก่อนที่เขาจะหมุนตัวหันหลังออกไปจากห้องครัว หญิงสาวผ่อนลมหายใจยาวขณะมองร่างของเขาจนลับตาไป แล้วหันกลับมาตั้งโต๊ะเพื่อรอเขาโดยเฉพาะ
ตั้งแต่จันทร์กระจ่างตัดสินใจร่วมชีวิตกับอิชย์เงียบๆ เมื่อสองปีก่อน ชีวิตของหล่อนก็เข้าสู่โหมดแม่บ้านอย่างเต็มตัว ทำทุกอย่างที่เป็นหน้าที่ของภรรยา เพื่อดูแลสามีอย่างครบถ้วน ทว่าสิ่งเดียวที่หล่อนยังไม่ได้รับจากเขาคือทะเบียนสมรส...แต่หล่อนก็ไม่เคยเรียกร้องมันมาจากเขาเช่นกัน
แน่นอนว่าก่อนที่จะตัดสินใจร่วมชีวิตกับเขานั้น อิชย์เคยมีคนรักมาก่อน และเขาก็รักผู้หญิงคนนั้นมากเสียจนไม่มีสายตาจะแลใครอีก แม้กระทั่งหล่อน กระทั่งวันหนึ่งฟ้าก็ผ่าลงมากลางหัวใจของอิชย์ คนรักของเขาตัดสินใจเลือกใช้ชีวิตกับนายทหารยศสูงนายหนึ่ง ที่พรั่งพร้อมทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ ขณะที่อิชย์เป็นเพียงสัตวแพทย์ธรรมดา แต่ใช่ว่าเขาจะสิ้นไร้ไม้ตอก ตรงกันข้าม ชายหนุ่มมีฐานะมั่นคงตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า เมื่อเรียนจบด้านสัตวแพทย์ เขาช่วยงานรุ่นพี่อยู่สองปีจึงย้ายกลับมาอยู่บ้านเปิดคลินิกรักษาสัตว์ ก่อนตัดสินใจรับช่วงดูแลฟาร์มโคนมต่อจากบิดาและมารดา
ปัจจุบัน อิชย์ อายุสามสิบสองปี ส่วนจันทร์กระจ่างนั้น อายุยี่สิบห้าปี ห่างกันถึงเจ็ดปี หล่อนเรียนจบด้านมนุษยศาสตร์ ทุกวันนี้นอกจากจะทำหน้าที่ดูแลอิชย์ หญิงสาวยังใช้เวลาว่างรับงานแปลเพื่อไม่ให้รู้สึกว่างจนเกินไป อิชย์รู้ แต่เขาดูจะไม่สนใจสิ่งที่หล่อนทำมากนัก นอกเสียจาก...เรื่องบนเตียง นั่นอาจเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาใส่ใจ
หญิงสาวถอนหายใจยาว บางครั้งเช่นตอนนี้ หล่อนอดคิดไม่ได้ว่าตนเองนั้นมีค่าเฉพาะเวลาที่เขาเกิดความต้องการขึ้นมาก็แค่นั้น...
วันที่ 9 เดือน 9 พ่อหนูตัวอวบก็ถือกำเนิด เนื่องจากตอนที่ลูกชายคนแรกลืมตาดูโลกนั้น อิชย์แทบไม่มีส่วนร่วมดูแลตอนที่เขาอยู่ในครรภ์มารดาจวบถึงตอนคลอด ชายหนุ่มจึงไม่ยอมพลาดที่จะเป็นคนตัดสายสะดือให้กับลูกอีกสองคนถัดมา... “เป็นยังไงบ้างลูก” นางมนพรลุกขึ้นจากเก้าอี้เมื่อลูกชายออกมาจากห้องคลอด เขายิ้มกว้างพร้อมกับจับมือมารดาแล้วนั่งลงตามเดิม “สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ทั้งแม่และลูกครับ หลานชายคนนี้หน้าเหมือนคุณย่าเลยนะครับ” คนฟังถึงกับเป็นปลื้ม น้ำตาซึมออกมา “อีกนานไหมพวกเราถึงจะได้เจอหลาน” “ก็ต้องรอให้จันทร์เข้าพักในห้องพักฟื้นก่อนครับ คงอีกสักพักใหญ่ ตอนนี้เราทำได้แค่รอ แต่ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หลานแม่คนนี้ตัวใหญ่กว่าทุกคนเลยนะ เสียงร้องยังดังกว่าใครเพื่อนอีกด้วย” เขาเล่าอย่างภาคภูมิใจ ดวงตาคมกริบอ่อนโยนลงและเต็มเปี่ยมด้วยความรักที่พร้อมจะมอบให้กับลูกๆ ทุกคนของเขา รวมทั้งแม่ของลูกที่กำลังนอนให้คุณหมอเย็บแผลอยู่ในห้องคลอดสองวันต่อมา จันทร์กระจ่างสามารถกลับบ้านได้ พี่เจตน์และพี่อิ่มนั่งเฝ้าน้องเล็กไม่ห่างเลยทีเดียว “ไงคนเก่ง คนนี้ผิว
เวลาเกือบสามทุ่มของคืนหนึ่ง จันทร์กระจ่างกำลังนั่งพิมพ์งานเหมือนทุกครั้งที่มีโอกาส เพราะถึงแม้จะยุ่งกับการดูแลลูกและสามีมากแค่ไหน ก็ยังคงรับจ็อบแปลหนังสือและเขียนนิยายที่รักเสมอ ก่อนหยุดชะงักเมื่อหันไปเห็นสันหนังสือที่เป็นผลงานการเขียนของหล่อนเข้า ครั้งหนึ่ง อิชย์เคยหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน ‘เมียบำเรอไร้รัก’ เรื่องราวในนั้นคือส่วนหนึ่งในชีวิตของหล่อนและเขา วันนั้นจึงทำให้อิชย์เงียบซึมไปทั้งวัน ‘พี่เพิ่งรู้ว่าตัวเองเลวและแย่แค่ไหน ที่ทำให้จันทร์เหมือนตกอยู่ในนรกแบบนั้น’ นั่นคือประโยคหนึ่งที่เขากล่าวออกมาในค่ำคืนนั้น และหล่อนก็กลายเป็นคนที่ปลอบใจพ่อคนจิตใจอ่อนไหวตลอดทั้งคืน แต่พอตื่นขึ้นมา คนที่ปวดเมื่อยไปทั้งตัวกลับกลายเป็นหล่อน แต่พ่อคนอ่อนไหวดันสดใสกระปรี้กระเปร่าอยู่คนเดียว เสียงประตูห้องน้ำถูกเปิดออกมา ทำให้หญิงสาวที่กำลังยิ้มจางๆ ให้กับความทรงจำหันไปมอง พอดีกับคนตัวสูงที่มีเพียงผ้าขนหนูพันกายท่อนล่างโน้มกายลงมาจูบแก้มนุ่มของภรรยา “ไปอาบน้ำได้แล้ว” “อาบเร็วจัง ถึงห้านาทีไหม” หญิงสาวมองตามสามีที่เดินไปหยิบเสื้อผ้าที่หล่อนเตรียมเอาไว้ใ
บทส่งท้ายวันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ อิชย์และจันทร์กระจ่างกำลังจะกลายเป็นคุณพ่อคุณแม่ลูกสาม ทั้งเพื่อนบ้านและคนงานต่างแซวชายหนุ่มว่าแรงดีไม่มีตก กิจการของเขาเองก็กำลังไปได้สวย รับพนักงานใหม่เพิ่มมาอีกหนึ่งคน เพื่อสลับสับเปลี่ยนกับดนัย ส่วนตัวเขารับงานเพียงช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายเน้นเข้าฟาร์ม แต่ก็ไม่ทุกวัน เพราะเสาร์อาทิตย์เขาจะอยู่กับครอบครัวเป็นหลัก สี่คนพ่อแม่ลูกจึงมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นกว่าเดิม บางครั้งในวันหยุด หญิงสาวจึงชวนสามีไปเยี่ยมปัทมาที่ราชบุรี “คิดถึงแกมาก” ปัทมาสวมกอดเพื่อนรัก “ฉันก็คิดถึงแก ไหนลูกสาวล่ะ” “ไม่อยู่ เพิ่งออกไปกับพ่อ ไปซื้อขนม มาเถอะเข้าบ้านก่อน เชิญค่ะคุณอิชย์” หญิงสาวกล่าวเชิญสามีของเพื่อน รวมทั้งเรียกเด็กๆ ให้เดินตาม หนุ่มน้อยสาวน้อยดูจะชอบร่องสวนมะพร้าวมาก เพราะกระโดดข้ามกันสนุกสนาน “ดูลูกแกสิ ท่าจะสนุกมากนะนั่น” จันทร์กระจ่างมองตามแล้วยิ้มอ่อนพลางยกน้ำมะพร้าวขึ้นดื่ม “คุณอิชย์ดูดีกว่าเมื่อก่อนอีกนะเนี่ย มีสาวๆ มาเกาะแกะบ้างไหม” ปัทมากระซิบกระซาบเอ่ยถาม จันทร์กระจ่างหัวเราะขันเพื่อน พลางมองไปยังร่า
“ขอโทษทีค่ะ จันทร์ก็มัวแต่ยุ่งๆ กับเรื่องของลูก” “มีใครพาไปหาหมอหรือยัง” “พาไปแล้วค่ะ แต่ดีที่ยังเป็นไม่มาก หมอเลยให้กลับมานอนพักที่บ้าน จันทร์เลยให้หยุดไปก่อน หายดีค่อยมาทำงาน” ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะบอกกับหญิงสาว “จันทร์อยู่กับลูกเถอะ พี่ซักเอง เผื่อน้องอิ่มหิวขึ้นมาจันทร์จะได้ให้นมลูก” พูดจบร่างสูงก็ลุกขึ้นจากพื้นบ้าน แล้วคว้าตะกร้าผ้าจากมือภรรยามาถือเอาไว้เอง “ขอบคุณนะคะ สามีจันทร์น่ารักที่สุดในโลกเลย” หญิงสาวยิ้มหวาน ทำให้คนใจดีน่ารักที่สุดในโลกยิ้มหน้าบาน “งั้นจันทร์ต้องเตรียมตอบแทนพี่แล้วแหละ” เขายักคิ้วหลิ่วตา พลางทำตาวาวแล้วมองด้วยสายตาโลมเลียจนหญิงสาวค้อนขวับ “รีบไปเถอะค่ะพ่อคนหื่น คิดแต่เรื่องนี้อยู่ได้” อิชย์หัวเราะขัน พลางบอกขณะสาวเท้าออกไป “อยู่กับเมียจะให้คิดอะไรได้เล่า” สิ้นเสียงหัวเราะของสามี หญิงสาวก็ได้แต่ส่ายหน้า ทว่าดวงตาเป็นประกายแห่งความสุข แม้หล่อนจะบ่นเขาไปบ้าง แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่เคยปฏิเสธเขาลงสักครั้ง เพราะมันก็คือความสุขของหล่อนเช่นเดียวกัน ที่ทำให้คนที่รักมีความสุ





