[9]
ความลับของสามี
ข้าวของที่ตระเตรียมไว้ พร้อมแล้วกับการออกจากสวนกล้วย อารดานั่งรอสามีอยู่ที่แคร่หน้ากระท่อม ก่อนที่ชาอุ่นร้อนแก้วหนึ่งจะถูกยื่นส่งมา เธอจิบชาเล็กน้อยให้ไออุ่นหอมๆ ค่อยๆ ไหลลงคอ
“จิบชาแล้วกลับบ้านกัน” เขาเอ่ยขึ้น
อารดาใจหายแปลกๆ สองอาทิตย์ที่อยู่ที่นี่ เหมือนว่าไม่นานแต่ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น กลับบันทึกในความทรงจำของเธออย่างแนบแน่น ทุกเรื่องราวที่มีเขายังชัดเจนในความทรงจำพอๆ กับความอ่อนหวานแต่ซ่านสุขที่เขาบำรุงบำเรอจนอิ่มเปรม หัวใจเธอแข็งแรงขึ้นนะ เธอเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้น
“มองอย่างนั้นผมเขินแย่” ศรัณท้วงแล้วขยับไปนั่งเบียดหล่อนอีกนิด
“มองไม่ได้เหรอ ทีตัวเองยังแอบมองฉันบ่อยๆ เลย”
“ก็ผมรักนี่”
“รักอีกละ เพราะเป็นเด็กสินะ ถึงได้พูดคำว่ารักได้ง่ายเสียจริง”
“คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก ถึงผมจะเด็ก แต่ กล้วย ผมไม่เล็กนะครับ” เขาเอ่ยเย้าแล้วยักคิ้วให้
อารดาเผลอมองลงไ
อรุณรุ่งวันใหม่เสียงเหมือนคนเถียงกันดังอยู่ที่หน้าชาน อารดาก้าวขาออกมาจากห้องช้าๆ เมื่อคืนเธอคุยกับเขาเรื่องเพียงฟ้า และสรุปได้ว่า อย่างไรเสียเธอก็อยากให้เพียงฟ้าจากไป ศรัณไม่ได้รับปากว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นวันไหน แต่เธอรู้ดี เขาต้องจัดการมันสักวันแน่ๆ เธอครุ่นคิดเรื่องนี้ทั้งคืน เธอนอนไม่ค่อยหลับหรอก และมันทำให้เธอตื่นสายอย่างนี้ดูเหมือนว่าศรัณยังไม่ได้เข้าสวน น้ามาลาเองก็ไม่ได้ขลุกอยู่ในครัวด้วย พวกเขากำลังคุยบางเรื่องอยู่ ท่าทางเคร่งเครียด ห่างออกไปนั้น เพียงฟ้านั่งอยู่บนเสื่อผืนเล็กอย่างเจียมตัวเจียมตน มีกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กวางอยู่ ลูกชายของหล่อนนั่งอยู่ด้วย เขากอดกระเป๋าใบนั้นไว้ มีน้ำตานองหน้าและเสียงสะอื้นเบาๆ ท่าทีของฟีฟ่าทำให้เธอพอจะรู้ละว่าเกิดอะไรขึ้น“น้าครับ ขอร้องเถอะ”ศรัณเอ่ยกับมาลาอีกคราหนึ่ง หลังจากพูดประโยคนี้มาหลายรอบแล้ว“น้าต่างหากที่ต้องขอร้อง น้าพูดไปแล้วว่าทำไมเพียงฟ้าถึงต้องอยู่ที่นี่ รัณไม่สงสารลูกบ้างเหรอ ฟีฟ่าเพิ่งได้เจอแม่นะ” ถามคนที่รักเหมือนลูกแล้วชี้ไปยังหลานชาย ฟีฟ่
[11]อุปสรรคหัวใจ_____________ลมเย็นๆ พัดผ่านชานเรือน อารดารับรู้ถึงความหนาวเย็นที่กำลังแทรกซึมจากผิวเนื้อลงสู่ขั้วใจ ความทรมานได้ผุดพรายอีกคราแล้ว หนักกว่าตอนที่รู้ว่าพี่ธี อดีตคนรัก แอบไปคบกับลูกพี่ลูกน้องของเธอเสียอีกเธอไม่อยากยอมรับความจริง ไม่! ไม่จริงหรอก เธอจะรักศรัณได้อย่างไร ถึงจะเกินเลยเป็นผัวเมียกันอย่างสมบูรณ์ แต่มันเร็วไปไหมหากจะเรียกความทรมานนี้ว่าความรัก เธออาจจะแค่หวงของ ใช่...ถ้าเขาเป็นของเธอ เธอก็หวงเขาได้มิใช่หรือ ถึงพวกเขาจะเคยรักกัน ถึงจะมีความรักความหลังฝังใจแต่ผู้หญิงคนนั้นมีสิทธิ์อะไรมากอดเขาล่ะ เธอต้องเดินหนีอย่างร้าวรานใจแล้วกลับไปนอนร้องไห้บนฟูกนั่นหรือ ไม่...เธอไม่ทำอย่างนั้นหรอกนะ เธอไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา ไม่ได้ทำเลย!กำปั้นน้อยทุบหน้าอกอยู่ปึกๆ มันปวดหนึบในนั้นจนไม่รู้จะบรรเทาด้วยอะไรดีแอ๊ด...อารดาดึงประตูให้เปิดอ้ามากกว่าเดิม เพื่อส่งสัญญาณให้พวกเขารู้ตัว ศรัณสะบัดร่างออกจากอ้อมแขนเพียงฟ้า และหันมามองเธอด้วยดวงตาอันตื่นตกใ
กลางดึกคืนเดียวกันศรัณสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะฝันร้าย เขาฝันไม่ดีเลย ฝันว่าเพียงฟ้าจะมาพาฟีฟ่าไปจากเขา ความรู้สึกมันทรมานยิ่งกว่าโดนแทงซ้ำๆ เขาลุกออกจากฟูกนอน ไม่ลืมหันไปดูอารดา เขารังแกหล่อนตั้งแต่จบมื้อค่ำจนเกือบเที่ยงคืน หล่อนคงเพลียมาก หลับสนิทเลย“ฝันดีนะคุณอุ่น” บอกเมียแล้วดึงผ้ามาห่มให้ ก่อนจะฉวยเอาโทรศัพท์มือถือก้าวออกจากห้องไป เวลาค่อนคืนที่บ้านสวนเงียบสงัด มีเสียงแมลงกลางคืนร้องระงม แสงจันทร์จางๆ ที่โผล่พ้นแนวหมู่เมฆ ยังส่องลงมากระจ่างที่กลางชานศรัณดึงมือถือมาเปิดดู เข้าอีเมลเพื่อส่งข้อความถึงใครบางคน‘หัวใจที่เคยเจ็บปวด กำลังเจ็บขึ้นมาอีกครั้งแล้ว เจ็บคราวนี้เจ็บยิ่งกว่าเดิมอีก เพราะคนที่คิดว่าทำให้มันเจ็บ แท้จริงแล้วไม่ได้ตั้งใจ ผมควรทำยังไงดี ทิ้งมันไว้ข้างหลังเป็นเพียงอดีต หรือโอบอุ้มมันมาใส่ใจ แต่ว่า...ถ้าทำอย่างนั้น ภรรยาของผมล่ะ ผมควรต้องทำยังไงกับเธอ ผม...เลิกกับเธอไม่ได้หรอกนะ ผมรักเธอมากจริงๆ’ระบายความใจแล้วกดส่งเมลออกไป อีกเป็นอาทิตย์กระมังกว่าคุณกระต่ายป่าจะตอบกลับมา ระยะเวลานานขนาดนั้น บางทีเขาคงหาทาง
บ้านของศรัณอารดานั่งลงบนฟูกเนื้อดี มีสามีนั่งอยู่ตรงข้าม เขานั่งขัดสมาธิที่พื้นเรือน ไม่พูดไม่จา และสีหน้านั้นบอกได้ดีว่ากำลังสำนึกผิด“ขอโทษสำหรับทุกเรื่อง ขอโทษจริงๆ ครับ แล้วก็...ขอบคุณที่กลับมา”“ฉันไม่รู้จะทำยังไงนี่ ย่าไม่ให้เงินฉัน จนกว่าฉันจะท้อง”“หา!?”“ใช่...และต่อให้ฉันโกรธรัณแค่ไหน ฉันมั่นใจว่าตกกลางคืนฉันก็ต้องกอดรัณอยู่ดี”“โธ่...คุณอุ่น อย่าพูดแบบนั้นสิครับ ผมไม่ใช่เครื่องมือผลิตลูกนะ”อารดาทำเมิน ความเงียบงันจึงเกาะกินบรรยากาศ ห้องเขากว้างขวางดี และสะอาดสะอ้าน มีฟูกนอนหลังใหญ่นอนได้สักสามสี่คนทีเดียว“ยังรักเธอไหม เพียงฟ้าน่ะ” เธอตัดสินใจถาม ศรัณเม้มปากแน่น “ตอบดีๆ คำตอบคืออะไรไม่สำคัญ ขอแค่เป็นคำตอบที่ไม่โกหกกันก็พอ”เขาเงียบไปครู่ใหญ่ ไม่ยอมตอบรับหรือปฏิเสธออกมา อารดาเหมือนจะเข้าใจคำว่าพายุกระหน่ำอย่างชัดแจ้ง เธอกำลังแต่งงานกับผู้ชายที่ลืมความรักครั้งเก่าไม่ได้“มันไม่ใช่ความรัก มันแค่...ความรู้สึกแปลกๆ ที
“อะไรของแกเจ้านนท์ มายืนทำอะไรตรงนี้”“ก็พี่สะใภ้ผมน่ะสิ เธอกลับมาจริงๆ ตอนนี้เมียเก่ากับเมียใหม่พี่รัณเลยอยู่บ้านเดียวกัน”“อือ...ก็...ไม่มีทางเลือกนี่นา แม่หนูนั่นก็น่าสงสาร ฟีฟ่าก็เพิ่งได้เจอแม่ เราจะทำยังไงได้ล่ะ”“โธ่...พ่อ พ่อจะไว้ใจยัยนั่นทำไม ต่อให้แบกสายน้ำเกลือกลับมา ผมก็ไม่ไว้ใจหรอก ผมน่ะ รักแรงเกลียดแรงพ่อ ถ้าใครเคยทำให้ผมเจ็บ ทำให้ผมผิดหวังแล้วละก็ ผมไม่เผาผีนะ จริงๆ”“เออ...เรื่องของแก”“อา...อึดอัดชะมัด! ผมอยู่บ้านนี้ไม่ได้ละ เชิญอยู่กันต่อเถอะ ไม่ไหวจริงๆ”ชนนท์ว่าแล้วผลุบขึ้นไปบนเรือน เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าอย่างเร่งด่วนแล้วหิ้วมันลงมา“แกจะไปไหนอีกเจ้านนท์” ชุนถามลูกชายที่หอบกระเป๋าไปขึ้นรถ“พ่อจะให้ผมอยู่ได้ยังไง ยัยขี้โรคนั่นจะทำลายชีวิตแต่งงานของพี่รัณ เชื่อผมสิ”ชุนมองไปใต้ถุนเรือน ประตูห้องครัวที่เปิดอ้าทำให้แลเห็นเพียงฟ้ากับฟีฟ่ากำลังช่วยกันทำอาหาร ทั้งสองมีรอยยิ้มให้กัน ฟีฟ่าตัวน้อยคงมีความสุขมากเลยในตอ
[10]เขาเป็นของฉัน______________ในช่วงค่ำของวันอันแสนอึดอัด อารดากลับมาที่บ้านของศรัณ สองแม่ลูกนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวใต้ถุนเรือน ส่วนคนอื่นๆ ไม่รู้หายไปอยู่ไหน อาจจะเข้าสวนกันหมดกระมัง“แม่อุ่น!” ฟีฟ่าร้องเรียกทันทีที่เห็นอารดาลงจากรถอารดายิ้มละไมให้เด็กน้อย สามีของของน้าพุดตานมาส่งเธอ หลังจากที่เธอตัดสินใจทำตามที่ย่าสอนสั่ง ไม่รู้ว่าจะทำอย่างที่ย่าพูดไว้ได้ดีแค่ไหน แต่จะทำให้ดีที่สุดเจ้าเด็กฟีฟ่าวิ่งมาหาอารดา เพียงฟ้าเงยหน้าขึ้นมองเมื่ออารดาเดินเข้ามาใต้ถุนเรือน“ขอบคุณที่กลับมา ขอโทษคุณด้วยที่ทำให้อึดอัด”อารดาไม่รู้จะตอบสาวเจ้าอย่างไรดี ได้แต่ยิ้มฝืนๆ ส่งให้ เธอจ้องเพียงฟ้า จ้องอยู่นานจนได้เห็นใบหน้านั้นชัดๆ หากบำรุงร่างกายดีๆ ให้มีเนื้อมีหนัง มิใช่ผอมบางอย่างนี้ เพียงฟ้าคงจะเป็นผู้หญิงที่สวยมากทีเดียว“แม่อุ่นไปไหนมา พ่อโมโหใหญ่เลยที่แม่อุ่นไป”“ฉัน...เอ่อ...แม่...แม่อุ่นไปหาย่าจ้ะ แต่ก็กลับมาแล้วไง” เอ่ยกับคนที