Home / โรแมนติก / เมียบำเรอพ่อเลี้ยง / บทที่ 10 ~ คงใกล้ถึงเวลา

Share

บทที่ 10 ~ คงใกล้ถึงเวลา

last update Last Updated: 2024-11-26 21:59:55

บทที่ 10 ~ คงใกล้ถึงเวลา

พันแสงเดินหงุดหงิดอยู่ใต้ถุนบ้านในไร่เดือนฉายมาสักพักแล้ว กว่าเขาจะเสร็จงานในไร่และแวะเข้าบ้านเพื่อทานข้าวเย็นกับแม่ก็ปาไปเกือบทุ่ม

แต่นี่อะไร พอเขามาถึงที่ไร่เดือยฉายกลับเจอบ้านว่างเปล่า มีเพียงแสงไฟที่เปิดทิ้งไว้ โรงจอดรถว่างเปล่าทำให้เขารู้ว่าเดี๋ยวเธอคงจะกลับมา

เขาควักบุหรี่ออกมาจุดสูบ ยืนพิงเสากลมใต้ถุนบ้านทอดมองไปยังทางเข้าไร่โดยหวังว่าจะมีแสงไฟจากรถให้เห็น แต่ไม่เลย

พันแสงคีบบุหรี่ในมือพ่นควันออก เขาแทบไม่เคยมาที่บ้านหลังนี้ ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถูกเขาไม่เคยมาบ้านหลังนี้เลยต่างหากยกเว้นมาส่งศศินาเมื่อหลายวันก่อน

เขาสูดควันเข้าเต็มปอดแล้วปล่อยออกช้า ๆ ให้ควันลอยจางหายไปในอากาศ ที่จริงเขาเคยเลิกมันได้เมื่อสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่พอเกิดเรื่องไฟไหม้ไร่ยาสูบ เขาจึงได้กลับมาติดมันอีกครั้ง และมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขาผ่อนคลายจากการทำงานหนักเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมง

พันแสงดีดบุหรี่ทิ้งเมื่อเห็นแสงไฟจากรถยนต์วิ่งแล่นมาตามทางแต่ไกล เขาจ้องมองและรอคอยจนกระทั่งรถกระบะหยุดลงที่ลานหน้าบ้านก่อนที่หญิงสาวร่างเล็กจะลงมาจากรถ ศศินาก้มคุยบางอย่างกับคนขับแล้วกระบะคันนั้นก็ขับออกจากไร่

พันแสงยังยืนพิงเสาสองมือล้วงกระเป๋ากางเกงยีนส์ ร่างเล็กของศศินาเพียงเดินผ่านร่างเขาไปเดินขึ้นชั้นสอง อารมณ์ขุ่นมัวที่ถูกให้ยืนรอตั้งแต่หัวค่ำทำให้ก่อเป็นกรุ่นโกรธ

เขาเดินตามศศินาขึ้นไปบนบ้านดึงข้อศอกที่มือใหญ่ของเขากำได้รอบไว้ก่อนที่เธอจะเดินเข้าโถงกลาง

“ไปไหนมา?”

“พ่อเลี้ยงพันแสงคงเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฉันยังไม่ทันได้ตอบตกลง พ่อเลี้ยงจะมาคาดคั้นทำน้ำเสียงเป็นเจ้าเข้าเจ้าของฉันไม่ได้”

ศศินาเถียงกลับทันควัน แม้จะยอมรับแก่ใจว่ายินยอมเป็นเมียบำเรอของเขา แต่เรื่องสาวสวยที่ได้ยินมาเมื่อกลางวันยังทำให้เธอหงุดหงิด

ร่างเล็กถูกกระชากกลับกระแทกร่างสูงใหญ่ เขาโน้มกายลงมาต่ำเพื่อข่มเธอด้วยเสียงทุ้มพร่า

“ตอนนี้ยังแต่ภายในคืนนี้เป็นแน่ศศินา เธอไม่มีทางปฏิเสธฉันได้”

ศศินากระชากข้อศอกออกจากมือใหญ่ เธอเหนื่อยเกินกว่าจะต่อล้อต่อเถียง ทั้งยังเหนียวตัวไปทั้งร่าง แต่เขาไม่ยอมปล่อยยังดึงข้อศอกของเธอไว้

“จะหนีไปไหน คุยตกลงกันให้รู้เรื่องเสียก่อน”

ศศินาจ้องตอบตากลมโตแวววาวดั่งกวางสาวกรุ่นโกรธ เธอใช้มืออีกข้างแกะนิ้วเหล็กของพันแสงออกทีละนิ้วด้วยแรงที่เธอมีแต่ไม่เป็นผล เขายังกำข้อศอกเธอไว้แน่น

“ในเมื่อพ่อเลี้ยงตั้งใจไว้แล้วแต่แรกว่าฉันคงหนีไม่พ้นเงื้อมมือของพ่อเลี้ยง ฉะนั้นจะมาถามให้มากความไปเพื่ออะไร”

พันแสงดึงศอกเล็กกระชากจนเธอซนวนเซกระแทกร่างแกร่งอุ่นร้อน มัดกล้ามแน่นดั่งชายที่ทำงานหนัก

“ถ้าอย่างนั้นนี่คงจะเป็นคำตอบ ในเมื่อตกลงแล้วเราจะรอช้าอะไรศศินา ฉันอยากจะเอาเธอ และอยากมากเสียด้วย”

พันแสงโอบร่างเล็กให้เข้าหาร่างสูงใหญ่ โน้มใบหน้าแกร่งคมดั่งชายชาตรีลงจูบศศินาอย่างกระหายหิว เขาเปิดปากกว้างครอบริมฝีปากบางจิ้มลิ้มที่พยายามเบือนหนี หากแต่มือใหญ่ดึงผมเธอไว้ ตรึงแน่นจนเธอร้องอุทานด้วยความเจ็บ

ลิ้นสากร้อนได้จังหวะแทรกเข้าโพรงปากฉ่ำหวาน เสียงอู้อี้ดังลอดในลำคอศศินา เธอขืนตัวใช้มือยันระหว่างกลางของสองร่างไว้แต่สู้แรงไม่ไหว เขาตะโบมจูบหนักหน่วงเรียกร้องให้ตอบสนอง บังคับเปิดปากและใช้ลิ้นแทรกเกี่ยวกวาดไล้ลิ้นเล็ก ๆ ของศศินา

“พ่อเลี้ยงเดี๋ยวก่อนค่ะ”

ศศินาพยายามใช้ไม้อ่อนเข้าช่วย เธอห่างจากพ่อเลี้ยงมานานจนไม่นึกไม่ฝันว่านิสัยของเขาจะปรับเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก ชายหนุ่มที่เคยอ่อนโยนต่อเธอหายไปไหนหมด

เขาไถลจูบไปข้างใบหูขบเม้มใช้ลิ้นลากเลียลงมาถึงลำคอ เส้นเลือดเต้นถี่รัวตามชีพจรของศศินา เขาขบดึงเบา ๆ

“ฉันเหนื่อยและร้อนมาก ขออาบน้ำก่อนได้ไหมคะ”

พันแสงชะงักร่าง เขาเพิ่งสังเกตว่าศศินาร่างอ่อนเพลียและมีเหงื่อชื้น นี่เขากำลังทำตัวเหมือนสัตว์ติดสัดที่เพียงได้กลิ่นความสาวของตัวเมียก็กระโจนเข้าใส่ มือใหญ่เริ่มคลายออก

“งั้นฉันจะรออยู่ในห้องนอน พาไปสิ”

ศศินาบิดตัวออกจากการเกาะกุมเดินนำไปยังห้องนอนห้องเก่าของเธอ

“ฉันขอไปอาบน้ำก่อน พ่อเลี้ยงนั่งรออยู่ก่อนก็ได้ค่ะ”

เธอชี้ไปยังเก้าอี้ไม้ในห้อง ไม่ทันมองสีหน้าตะลึงตกใจของพันแสง เมื่อประตูห้องเปิดออก ห้องนอนของเด็กสาวอายุสิบเจ็ด เตียงเดี่ยวหลังเล็กปูผ้าปูสีครีมค่อนข้างเก่า

“นั่นเธอจะไปไหน”

พันแสงเอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นศศินาถือผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าทำท่าเดินออกจากห้องนอน

“ห้องน้ำอยู่ข้างนอกค่ะ”

ศศินาไม่สนใจเขาอีก เธอพาร่างอ่อนเพลียจากการตื่นเช้าเข้าเมืองและยังตระเวนหาห้องเช่าเพื่อเปิดร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ ในเมือง

ในระหว่างอาบน้ำเธอนึกไปถึงห้องเช่าที่หมายตาไว้ ราคาไม่แพงเสียแต่ต้องตกแต่งเพิ่มเสียหน่อย แต่มันน่าจะคุ้มค่าเพราะอยู่ในย่านใจกลางเมือง สิ่งที่เธอต้องทำพรุ่งนี้คือแผนการเงินสำหรับเปิดร้านและแผนธุรกิจคราว ๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทพิเศษ 2

    บทพิเศษ 2ใจดวงเล็กทั้งตื่นตระหนก ทั้งตื่นเต้นปะปนคละเคล้ากันไป กายสาวสั่นระริกไปทั่วร่าง สัมผัสแปลกใหม่ทำสาวแรกรุ่นใจเต้นไม่เป็นส่ำ ทั้งอยากรู้อยากลอง ต้องการเป็นของเขาทั้งตัวทั้งใจ ยินยอมขยับต้นขาเปิดออกให้ปลายนิ้วแทรกลงกลางไรขนอ่อนนุ่มราวผ้าไหม“เดือน อ่า นุ่มมือมาก”หน้าเข้มขยับเลื่อนขึ้นซอกคอสูดกลิ่นกายสาวดูดขบเม้มเนื้ออ่อนใกล้จุดชีพจรแสนอ่อนไหวตรงฐานลำคอนิ้วสัมผัสกายสาวฉ่ำชื้นแทรกลงตรงกลางกลีบแหวกออก ส่งนิ้วชี้ลูบไล้จนกระทั่งพบเม็ดเล็กกลางร่องงาม ร่างเล็กสะดุ้งขึ้นยามเขากดลงแรงคลึงเม็ด“เดือนจ๋า คนดี พี่ขอได้ไหม”สาวน้อยไร้ประสบการณ์ไม่เข้าใจสิ่งที่พันแสงถาม เธอเอียงหน้าไปอีกทางยามเขาซุกไซ้ลำคอ มือแกร่งด้านล่างยังล้วงลึก อีกมือกอบกุมทรวงงามบีบเคล้นลงแรงเต็มมือ ร่างเล็กนอนระทวยทำได้เพียงแอ่นร่างรับไฟพิศวาสส่งเสียงครางในลำคอ กระทั่งนิ้วของคนด้านบนเริ่มสอดใส่เข้าไปทางร่องรักจึงได้รู้สึกตัว“พี่แสง อ่า ไม่ได้นะ อื้อ อ่า อย่า อย่าสอดนิ้วเข้าไป”เสียงห้ามปรามแผ่วเบาปนกระเส่า น้ำหวานเอ่อล้นสวนทางกลับเสียงร้องทักท้วง นิ้วยาวเรียวส่งเข้าทาง แม้ว่าไม่ถนัดถนี่นักแต่ยังพอเข้าไปได้“โอ้! เด

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทพิเศษ 1

    บทพิเศษ 1หกปีที่แล้ว“มา ๆ หนูเดือน มากินกัน”ศศินารีบวิ่งนำพันแสงมาจากทางเนินเขาหลังบ้านเมื่อได้ยินเสียงคุณน้าระพีร้องเรียกแต่ไกล“พี่แสง เร็ว ๆ สิ เดือนหิวแล้วนะ”เสียงหัวเราะหวานใสบนใบหน้าของเด็กสาววัยสิบเจ็ด พวงแก้มยุ้ยออกเล็กน้อยด้วยโฮร์โมนวัยรุ่น ผมเลยติ่งหูแต่ไม่ประบ่าพันแสงมองตามร่างเล็กในชุดกางเกงยีนส์สีซีดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งลายสก็อตสีแดงตัวเก่งที่ศศินาชอบสวม เธอวิ่งไปหัวเราะไปจนเสียงฝีเท้ากระทบพื้นดินหยอกล้อไปกับเสียงหวานใสผสมผสานเสียงของลมหนาวที่กำลังพัดผ่าน นำกลิ่นใบยาสูบที่บ่มอยู่ในโรงบ่มกำจายโดยรอบบ้านไม้สองชั้นกลางไร่ยาสูบชัยสงคราม“ค่อยเดินสิ ประเดี๋ยวก็ล้ม”“ไม่หรอกค่ะ ฮ่า ฮ่า เร็วสิ พี่แสงเดินอย่างกับคนแก่”“พี่ไม่ใช่คนแก่สักหน่อย”ศศินาหยุดแล้วหันหลังกลับมายืนเท้าสะเอวมองตรงไปทางร่างสูงใหญ่ผิวสีเข้มผิดไปจากคนเหนือทั่วไป เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มใส่ในกางเกงยีนส์คาดเข็มขัดหนังสีน้ำตาลธรรมดา สวมรองเท้าบูธสำหรับใส่ในไร่สีดำ ผมยุ่งเหยิงจากแรงลมที่พัดไปมารอบตัว ดวงตาสีนิลจ้องตอบเธอเปล่งประกายเจิดจ้ามีความสุขวันนี้พันแสงเรียนจบปริญญาโทดั่งที่ตั้งใจไว้ เขากลับมาอยู่บ้านเพื่

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทที่ 30  ~ จบบริบูรณ์

    บทที่ 30 ~ จบบริบูรณ์พันแสงหยุดรถกลางทางมองศศินาที่หันจ้องหน้าเขาแววตาสงสัย หน้าคมเข้มยิ้มกว้างยกมือเล็กขึ้นจูบ“วันนี้คนที่บ้านเยอะหน่อยนะ”“อะไรนะคะ คนอะไรกันคะ คนงาน?”พันแสงหัวเราะเบา ๆ ชะโงกหน้าจูบปากหวานจิ้มลิ้มแล้วถอยห่างออกมา“เราจะไปไร่ชัยสงครามกัน”“อ้าว ทำไมคะ เดือนจะกลับบ้านนะ”พ่อเลี้ยงปล่อยมือสาวร่างเล็ก หันไปขับรถต่อแต่เลี้ยวเข้าทางไร่ชัยสงครามปล่อยให้ศศินามึนงงสงสัย กระทั่งเข้ามาถึงปากทางเข้าบ้านจึงเห็นลานบ้านมีแต่โต๊ะงานเลี้ยงและเวทีเล็ก ๆ กลางลาน“มีงานเหรอคะ งานอะไรกัน”ศศินาชะเง้อมองคนงานที่กำลังทำอาหารกันวุ่นวาย มีแขกมาบ้างแล้วนั่งอยู่ที่โต๊ะ“งานแต่งงาน”“หื้อ งานแต่งงานใครคะ”ศศินาเอี้ยวใบหน้าหวานคมกลับมาที่พันแสง เห็นสีหน้ายิ้มกรุ่มกริ่มไม่พูดอะไรแล้วลงจากรถไปเธอรอให้เขาอุ้มร่างเล็กลงรถแล้วประคองเธอเดินตัดผ่านลานบ้านไปยังตีนบันไดขึ้นบ้าน“มากันแล้ว เจ้าบ่าวเจ้าสาว”ศศินาทวนคำในใจ เจ้าบ่าวเจ้าสาว เธอมองบนบ้านห้อยทั้งสายสิญจน์และดอกไม้ประดับประดาเต็มเรือน“ไปห้องพี่ก่อน”ศศินาถูกจูงมือแม้เธอจะยังเหลียวหลังมองข้าวของบนเรือน ทั้งบายศรี และยังพานพุ่มดอกไม้เธอก้า

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทที่ 29 ~ ได้โปรด

    บทที่ 29 ~ ได้โปรดพันแสงขับรถด้วยความเร็วลงเนินเขา ใจเต้นโครมครามเมื่อนึกถึงใบหน้างาม เขามีเรื่องจะบอกเธอ คำพูดที่เขาติดค้างเธอไว้เมื่อหกปีก่อนชายหนุ่มลดความลงเร็วเมื่อถึงโค้งหักศอกใกล้ตีนเขา สังเกตเห็นรถมูลนิธิข้างทางและรถของฝูงชนที่มุงดูเหตุการณ์อีกฝั่งเป็นรถหกล้อบรรทุกรวงข้าวคงกำลังเร่งเพื่อไปให้ทันโรงสีปิดจนเกิดเหตุเขาชะลอรถเพื่อดูรถของผู้เสียหาย แสงอาทิตย์ยามเย็นพาดผ่านเหลี่ยมเขาแมกไม้เป็นเงาทอดยาวสีทองส่องไปยังรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่“ไม่ ไม่ ไม่!!”“เอี๊ยด!!”เขาตบพวงมาลัยเข้าข้างทางกะทันหัน ลงจากรถวิ่งข้ามถนนไปยังรถเกิดเหตุอย่า! ขอเถอะ! อย่าเป็นอย่างที่เขาคิด อย่า! ได้โปรด!ช่วงเวลาช่างยาวนานในระหว่างที่เขากระโดดก้าวข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม หัวใจเต้นถี่รัวและบีบรัดแน่น ช่องท้องมวนขึ้นตีจนจุกถึงลิ้นปี่“ป้อเลี้ยง! มาทำอะไรครับ เดี๋ยวครับ”พันแสงไม่ฟังเสียงห้าม เขาแหวกคนมูลนิธิเข้าไปใกล้รถที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่เห็นร่างเล็กในรถ“เธออยู่นี่ครับ”พันแสงมองหน้าคนมูลนิธิ สติยังไม่กลับคืนมา เขามึนจนแยกไม่ออกว่าเสียงที่พูดหมายถึงอะไร“ป้อเลี้ยง ป้อเลี้ยง รู้จักคนในรถเหรอครับ”หน้าคม

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทที่ 28 ~ พราวพิลาส

    บทที่ 28 ~ พราวพิลาสมือใหญ่ยังตัดขนมสาคูไส้หมูออกเป็นสองชิ้นก่อนจะใช้ส้อมเล็กจิ้มเข้าปากตามด้วยพริกเม็ดใหญ่และผักสด มองหน้าแม่รอคำถามต่อไป“เรื่องหนูเดือน”“ครับหนูเดือน”“เขาลือว่าเห็นลูกจูบกันกับหนูเดือนที่หน้าร้านเบเกอรี่ที่หนูเดือนเป็นเจ้าของ จริงหรือเปล่า”“ครับ จริง”เขาจิ้มสาคูชิ้นที่เหลือเข้าปากตามด้วยพริกสดและผัก“ฝีมือแม่อร่อยเหมือนเคย แล้วยังไงครับ”“กะ ก็ มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ทำไมแม่ไม่รู้”เขาวางส้อมลงแล้วหยิบน้ำขึ้นดื่ม เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ก่อนจะวางแก้วน้ำลง“ก็ประมาณสามเดือนครับแม่ ตั้งแต่เดือนกลับมางานศพพ่อเลี้ยงตา”ระพีสะดุ้งตกใจ สามเดือนนั้นมันถือว่านานพอสมควร แล้วลูกชายของเธอก็ปิดบังเรื่องนี้มาตลอด“ตอนนี้ผมกับเดือน เรา เอาเป็นว่าอยู่ด้วยกันแล้วครับแม่”“ได้ยังไง ก็ ก็ลูกอยู่บ้านตลอด”“ผมจะไปเฉพาะช่วงกลางคืนแล้วค่อยกลับมานอนบ้านครับ”“แสง!!”ระพีร้องอุทาน เธอนึกถึงเด็กสาวอายุสิบเจ็ดร่างเล็กที่เธอเห็นครั้งสุดท้ายในวันเพลิงไหม้ มือเล็กของศศินาประคองร่างเธอไว้ไม่ให้ล้มโดยที่พันแสงยืนชี้หน้าเด็กสาวคนนั้น“แสง แสงบอกแม่สิว่า แสงไม่ได้ทำลงไปเพราะอยากจะแก้แค้น”พันแ

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทที่ 27 ~ อดีตยากจะฝังกลบ

    บทที่ 27 ~ อดีตยากจะฝังกลบ“แม่อุ๊”แม่อุ๊ร่างท้วมวางไม้กวาดทางมะพร้าวพิงไว้กับเสาบ้าน เดินไปหาพ่อเลี้ยงพันแสงที่ยืนเสียงอยู่ตรงตีนบันได“เจ้า ป้อเลี้ยง”“ฉันมีเรื่องจะถาม”พันแสงเดินลงมุดเข้าใต้ถุนบ้านที่เตี้ยเกินไปสำหรับเขานั่งลงบนแคร่ไม้ข้างใต้บทที่“ป้อเลี้ยงจะถามหยั่งข้าเจ้า”“เรื่องรอยบนหลังของเดือน”แม่อุ๊สะดุ้งจ้องหน้าเข้มดุเอาเรื่อง นึกสงสัยพ่อเลี้ยงเห็นรอยแผลของคุณหนูได้ยังไง“คุณหนูบ่หื้อผู้ใด๋อู้”“แต่แม่อุ๊ต้องพูด”ร่างท้วมเหลียวมองไปบนบ้านยังได้ยินเสียงน้ำไหลจากในห้องน้ำแล้วจึงหันกลับมาหาพ่อเลี้ยง“ก็เมื่อปี๋นั้นคืนที่ฉลองงานรับปริญญา ป้อเลี้ยงจำได้ก๋า”พันแสงพยักหน้า เขาจะจำไม่ได้ได้อย่างไรในเมื่อเขาพาสาวน้อยแวะเข้าข้างทางแล้วทำให้เธอต้องเสียสาวเป็นครั้งแรก“ป้อเลี้ยงมาส่งเปิ้นสะค่อนดึ๋ก ป้อเลี้ยงตาเกี้ยดนั่ก[1] เจ๊า[2]มาหื้อคนงานมัดคุณหนูกับเสาพู้น”พันแสงมองตามมือแม่อุ๊ไปที่เสากลมหน้าสุดของใต้ถุนบ้าน หน้าคมเข้มเริ่มเปลี่ยนสี“มัด?”“เจ้า เปิ้นสั่งคนงานมาหันเปิ้นลงแส้ แฮงนั่ก ตะโกนลั่น หื้อจำไว้บ่าต้องแอ่วบ้านป้อเลี้ยงอีก ไม่งั้นเปิ้นจะเผาไฟไร่ชัยสงคราม โอ้ย!ป้อเลี้ย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status