[มายังอะหมิว?]
"กำลังค่า มึงรอเป็นไหมหา? กูขี่มอไซด์นะไม่ได้บินไป" [เร็ว ๆ นะเจนร้อน] "มึงก็พาแฟนมึงเข้าร่มสิไอ้ควาย!" เสียงด่าทอดังแข่งกับเสียงความเร็วลม หญิงสาวในชุดนักศึกษากระโปรงปลิวว่อนแต่เธอหาได้สนใจ ใครจะเห็นก็เห็นไปตอนนี้เธอรีบ คนที่กำลังบิดมอเตอร์ไซด์พร้อมกับตะโกนลั่น หลังจากที่เธอนั้นเพิ่งจะสอบเสร็จแต่กลับต้องมาอยู่ในสถาพนี้ เจ้าของใบหน้าสวยเฉี่ยวนั่นก็คือ 'หมิว' ที่ดูรีบร้อนเป็นอย่างมาก นั่นก็เพราะเธอต้องรีบไปหาเพื่อนสนิทที่รถเสียอยู่ในซอยอีกซอยหนึ่ง เพราะไอ้ตัวเจ้าปัญหาสร้างเรื่องให้เธออีกแล้ว จะพาแฟนไปเดตก็ดันดูแผนที่ผิด เวรกรรมจึงมาตกที่เธอเข้าจนได้ [งอนกูไม่ยอมเข้าร่มอะดิ เดินหนีกูไปแล้วอะ เจน~ เจนครับ~~] "กูจะบ้า ฮึ่ม!" เธอทนไม่ไหวกดตัดสายทิ้งและตั้งหน้าตั้งตาขับรถฝ่าแดดที่ร้อนจัดในช่วงเที่ยงวัน โดยไม่สนใจผิวสีน้ำผึ้งที่แม่ให้มาว่ามันจะเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังหรือไม่ นั่นก็เพราะเธอต้องไปตามจัดการกับไอ้คนที่โทรหาเธอเมื่อกี้ ซึ่งก็คือ 'ซัน' เพื่อนสนิทของเธอตั้งแต่ปีหนึ่งถึงปีสี่ คบกันมาตั้งแต่เข้ามหาลัยจนจะเรียนจบกันทั้งคู่ ซันเป็นคนที่เพอร์เฟคทุกอย่างทั้งหน้าตาและฐานะ หล่อ รวย ส่วนคว_เธอไม่รู้เพราะไม่เคยเห็น อันนั้นต้องไปถามจากแฟนมันโน่น ส่วนที่ซันไม่มีเลยนั่นก็คือ 'สมอง' นั่นเลยเป็นอีกเหตุผลที่แม่ของซันจ้างเธอเลี้ยงมัน จนมีรายได้ส่งตัวเองเรียนจนใกล้จะจบเเล้ว เธอเป็นเด็กต่างจังหวัดมีเพียงสองตายายเลี้ยงมา แต่ท่านทั้งสองไม่มีทุนทรัพย์พอที่จะส่งเสียเธอให้เรียนมหาลัย แต่เพราะเธอนั้นอยากมีชีวิตที่ดีกว่านั้น เธอจึงปากกัดตีนถีบ พาตัวเองเข้ามาเรียนหนังสือด้วยความตั้งใจเต็มเปี่ยม และก็มาเจอซัน พร้อมกับพองเพื่อนที่ล้วนมีแต่ผู้ชาย แต่ละคนดี ๆ ทั้งนั้น แต่เพราะความที่เธอเองก็มีนิสัยส่วนตัวเป็นคนแข็งนอกอยู่แล้ว จึงไม่เป็นปัญหาเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางเพื่อนผู้ชาย ส่วนเพื่อนเธอก็ไม่ได้แย่ไปซะหมดหรอก แต่ละคนมีข้อดีข้อเสีย ซึ่งทุกคนก็ล้วนดีกับเธอและช่วยเหลือเธออยู่เนือง ๆ "โหย เข้ามาได้ไงเนี่ย" พอเธอขับรถมาถึงก็ต้องยกมือกุมขมับทันที ใบขับขี่ที่มีซันมันซื้อมาหรือยังไงกัน ขับรถตกข้างทางแถมยังจอดเอาหน้าจุ่มลงกับคลองน้ำเล็ก ๆ เกือบจะถึงครึ่ง นี่มันโง่ใช่ไหมถึงขับแบบนี้ มิน่าล่ะแฟนมันถึงงอนได้ขนาดนี้ "มาตามแผนที่ ว่าจะพาเจนไปถ่ายรูปคาเฟ่ คันนี้ของป๊ามันเก่าแล้วด้วยขับแปลก ๆ " คนตัวโตในชุดนักศึกษาสีขาวหล่อเหลายืนชี้นิ้วบรรยายถึงเหตุผลต่าง ๆ โทษทุกอย่างยกเว้นตัวเองจริง ๆ ส่วนชุดที่มันใส่อยู่ก็เช่นกัน ใส่ไว้ประดับบารมีแต่ไม่เคยเข้าเรียน เอาแต่ติดแฟนจนเธอตามแก้งานให้บานเบอะ ทำงานให้มันจนขอบตาลึกโบ๋ จิ้งจกตกลงไปแล้วขึ้นไม่ได้เลยแหละ "เฮ้อ~ แล้วมึงไม่เป็นไรใช่ป่ะ? " คนตัวเล็กที่เหงื่อโชกเอ่ยถาม เธอยังคงสวมหมวกกันน็อคอยู่เลยด้วยซ้ำ ผมยาวที่ยังไม่ได้มัดกระเซอะกระเซิงจนไม่น่าดูเลยสักนิด "ไม่เป็นไร พวงมาลัยมันหักเลี้ยวเองด้วยนะ แต่โชคดีเครื่องดับก่อน" ซันเอ่ยอย่างหงุดหงิด เขาอุตส่าห์ตั้งใจว่าจะพาแฟนไปเดตร้านที่เธอไปเจอเพื่อนแนะนำมา แต่กลับต้องพังลงไม่เป็นท่า "ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว งั้นก็เอามอไซด์กูไป เดี๋ยวกูรอพี่ช่างมาเอารถแล้วจะไปกับพี่เขาเอง" "ไม่นั่งมอไซด์หรอกนะ ร้อนก็ร้อน" เสียงแสบหูดังขึ้นจากทางด้านหลังของซัน หญิงสาวใบหน้าสวยจัด ท่าทางลูกคุณหนูผู้ดีต่างจากเธอไกลลิบ เธอคนนั้นเดินเข้ามาพร้อมกับพูดจาใส่อารมณ์แบบสุด ๆ เนื่องจากไม่ได้ดั่งใจตน "แต่มันไม่มีรถเลยนะเจน" ซันพยายามบอกแฟนสาวอย่างใจเย็น ตอนมาโดนเธองอนเพราะขับรถคันเก่าก็หนหนึ่งแล้ว ยังจะมาโดนงอนเรื่องจะพาเธอขี่มอเตอร์ไซด์ตากแดดอีกงั้นเหรอ? "ก็บอกตั้งแต่ทีแรกว่าอย่าเอารถเก่ามา โอ้ย" 'เจน' แฟนสาวคนสวยของซันเอ่ยอย่างคนเอาแต่ใจ เธอไม่เคยต้องมาลำบากเลยสักครั้ง พ่อแม่ไม่เคยให้ทำงาน หนำซ้ำผิวยังไม่เคยโดดแดด เพราะอะไรเธอถึงต้องมานั่งมอไซด์เก่า ๆ นี่ "ซันขอโทษครับ" ชายหนุ่มสุดหล่อพยายามเอ่ยขอโทษเอาใจแฟนสาว เพื่อให้เธอคลายความไม่พอใจ แต่กลับโดนผลักออก "ไม่ต้องมาขอโทษเลย ขยับออกไป" "เจน ฟังหมิวนะ คือรถมันเสียกะทันหัน ไอ้ซันมันก็ไม่รู้ถูกไหม? ตอนนี้มีแค่ขับมอไซด์ออกไปหน้าซอยแล้วเรียกแท็กซี่ ขับไปแป๊บเดียวเอง" เธอพยายามใจเย็นเอ่ยช่วยเขาอีกแรง นั่นก็เพราะเพื่อนรักแฟนมากเธอก็ไม่อยากหยาบคาย และทำให้ทั้งสองคนบาดหมาง หากทั้งสองคนนี่ทะเลาะกันอีก คนที่จะคิดมากก็คงเป็นซันอีกเช่นเคย ไอ้หมอนี่รักแฟนจะเป็นจะตายตามใจทุกอย่างจนเสียนิสัย "ยังไงเราก็ไม่นั่ง นั่งไปแล้วตูดจะเป็นอะไรก็ไม่รู้" สาวสวยยังคงเอ่ยแบะปากและทำตัวสูงส่ง ราวกับว่าการนั่งมอไซด์คันเก่าของเธอ จะทำให้ตูดของเจ้าหล่อนนั้นเป็นโรคกลากเกลื้อน "งั้นก็เดิน" เธอหมดคำจะพูดแล้วจริง ๆ "ไม่มีทาง เดี๋ยวเพื่อนเจนก็มารับแล้ว เจนจะไปกับเพื่อน" "งั้นดีเลย เดี๋ยวเราไปร้านที่เจนอยากไปพร้อมเพื่อนเลยละกัน" เป็นซันที่เอ่ยพลันฉีกยิ้มกว้าง ซันเป็นคนหน้าตาดีแถมยังมีเชื้อสายจีนอีกด้วย ทั้งผิวเอย ปากเอย หน้าเอย เวลายิ้มล้วนแต่น่ามองเอามาก ๆ "ไม่ เจนจะไปกับเพื่อน ซันอยู่กับเพื่อนซันไปเถอะ" หญิงสาวว่าพลันเดินสะบัดตูดหนีไป ทิ้งให้เธอต้องยืนส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย ส่วนเพื่อนสนิทเธอก็คอตกมองเธอเดินห่างออกไปตาละห้อยรถยนต์คันหรูขับเข้าจอดหน้ารีสอร์ตแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวที่ผู้เป็นพ่อของซันบริหารอยู่ แต่ไม่แน่ว่าอีกไม่นานซันเองก็จะมีโอกาสมาดูแลเเทน นั่นเพราะพี่ชายคนโตอย่างเฮียโซลก็มีธุระกิจของตัวเอง ส่วนเฮียโซ่รายนั้นไม่คิดจะสนใจ ไปทำตามความฝันของตัวเองที่เมืองนอก เหลือเพียงซันเท่านั้น แม้เมื่อก่อนจะเป็นคนที่ไม่เอาไหนมากที่สุด มาเวลานี้กลับเป็นคนที่เอาการเอางานจนราวกับเป็นคนละคน"ป๊าไม่ได้บอกมี๊แน่นะ?"ซันเอ่ยถามผู้เป็นพ่อที่ลงจากรถมาพร้อมกัน เพราะเขาเตรียมเซอร์ไพร์สคนที่แอบคิดถึง เขาตั้งใจไม่ยอมบอกหมิวว่าจะกลับวันไหน รอให้เขาเดินเข้าไปเจอเธอโน่นแหละถึงจะตื่นเต้นดี คิดเเล้วก็กลับเป็นตัวเขาเองที่ตื่นเต้นมากกว่าเธอด้วยซ้ำ"ยังไม่บอก ๆ ""ป๊าว่าหมิวเจอผมจะดีใจม่ะ?" ในระหว่างเดินเท้าเข้าบ้านซันก็เอ่ยถามกวน ๆ อย่างปกติ ในใจพลันเต้นเเรงอย่างบอกไม่ถูก"คิดว่าไม่" ผู้เป็นพ่อเองก็เอ่ยความจริงในใจอย่างไม่ปิดบังเลยสักนิด"ป๊า!! ป๊าไม่คิดว่าเมียผมจะคิดถึงผมบ้างเลยหรือไง"ชายหนุ่มทำปากคว่ำเมื่อไม่เป็นดั่งใจ เขาก็คาดหวังคำตอบที่จะตรงกับใ
"วู้ว ~~~~~"หลังจากประโยคพูดของเธอจบลง ก็เกิดเสียงโห่ร้องดังทั่วทั้งร้าน โดยเฉพาะเหล่าเพื่อนทั้งสามที่คอยเชียร์อยู่ด้านล่าง ซึ่งดูเหมือนว่าจะเสียงดังกว่าใคร ๆ ฉากสวีทหวานของหนุ่มสาวที่จูบโชว์สายตาหลายคู่นั้น เรียกเสียงฮือฮาและเสียงแซวกันยกใหญ่ หนำซ้ำยังมีหลายคนต่างก็ชื่นชอบเป็นอย่างมาก"กรี๊ดดด!" เมื่อไม่เป็นที่สนใจก็ต้องสร้างจุดสนใจ เจนกรีดร้องราวกับคนปรี๊ดแตกเมื่อถูกหักหน้าแบบนั้น เธอคิดเสมอว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น โดยเฉพาะหมิว แต่ตอนนี้เธอกลับแพ้! เธอไม่อยากยอมรับมันเด็ดขาด!"อะไรวะเนี่ย ร้องน่ารำคาญชะมัดเลย" ทัพเอ่ยจิ๊จ๊ะอย่างไม่พอใจ นั่นเพราะรำคาญเสียงแสบแก้วหูที่ร้องวีด ๆ อยู่ในตอนนี้"แต่งเลย แต่งเลย แต่งเลย"จู่ ๆ เสือก็แหกปากร้องเชียร์เสียงดังลั่นร้าน เป็นตัวเปิดให้อีกหลายคนได้ร้องตามบ้าง ทำเอาหมิวรีบดันตัวซันออกห่างทันที เธอตั้งใจว่าจะหันไปส่งสัญญาณให้เพื่อนหุบปากเสียที เธอเพียงแค่อยากให้ยัยนั่นหน้าแตกก็เท่านั้น ส่วนเรื่องแต่งงานมันไม่ใช่เวลานี้ซะหน่อย เธอกับซันตกลงกันแล้วว่าต้องใช้เวลาอีกสักพัก"อื้อ~ เสือ มึงหุบปาก
"เด็ก ๆ มานี่ซิ"เสียงเรียกดังขึ้นภายในบาร์ซึ่งซันเป็นเจ้าของกิจการอยู่ เขาเอ่ยเรียกน้อง ๆ พนักงานในร้านเข้ามา เพื่อแนะนำใครบางคนให้เหล่าพนักงานทุกคนได้รู้จัก ซึ่งก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนตัวเล็กข้างกายเขา"สวัสดีครับเฮีย"หนุ่มน้อยราว ๆ สิบคนเดินเข้ามาทักทายเจ้าของร้าน เวลานี้ในร้านไม่มีลูกค้าเลยสักคน มีเพียงพนักงานที่นั่งเหงาหงอยกันเท่านั้น"อื้อ นี่ ซ้อหมิว เมียเฮียเอง""หู้~~~ ซ้อสวัสดีครับผม"หนึ่งในโฮสเดินเข้ามาไหว้เธออย่างใกล้ชิด ทั้ง ๆ ที่ซันก็เพิ่งบอกไปหมาด ๆ ว่านี่เมียเขา ไอ้เด็กพวกนี้เห็นสาวหน่อยเป็นไม่ได้ ถึงกับวิ่งเข้าใส่ไม่ดูตีนดูมือผัวเขาเลยสักนิด"เมียกู! ๆ "ซันง้างเท้าหมายจะถีบหนุ่มน้อยคนนั้นเสียเเล้ว แต่โชคดีที่โดนหมิวตีขาไว้ก่อน เพราะซันเป็นแบบนี้เด็กมันถึงไม่นับถือล่ะสิ"ซันหยุดดิ๊""ขอโทษครับเฮีย ผมแค่หยอกซ้อเล่นเฉย ๆ ""ช่างเถอะ ๆ ในนี้ใครเป็นเบอร์ตอง"หมิวมาถึงก็เปิดประเด็นถามทันที นั่นเพราะเธอสังเกตทุกอย่างโดยรอบ การจัดตกแต่งทุกอย่างในร้านซันทำได้ดีมาก ดีจนน่าทึ
"ทำได้แน่นอนครับ หมิวรอนะ"คนตัวโตเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาที่มองเธอก็ล้วนแต่จริงจัง เพราะเขาอยากทำเพื่อเธอจริง ๆ หมิวเองก็รับรู้ถึงความตั้งใจของซัน เธอเองก็ดีใจจนแทบร้องไห้เหมือนกัน แต่ดีที่กลั้นน้ำตาไว้ได้ นี่คือซันที่เธอต้องการไม่ใช่หรือ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธออดเป็นห่วงซันไม่ได้เลยสักวัน กลัวว่าถ้าเขาไม่เอาไหนแบบนั้นแล้วใครจะทนอยู่กับเขาได้ ใครจะรักและอยู่เคียงข้างและคอยช่วยเหลือเขา เธอทั้งรักทั้งห่วงขนาดนี้ หวังว่าต่อจากนี้ไปซันจะเป็นคนที่ดีขึ้น และพึ่งพาได้อย่างที่เขาสัญญา"อื้อ จะรอแล้วกัน แต่ต้องมาขอจริง ๆ นะ หม้ายขันหมากไม่เอานะเว่ย" เธอเอ่ยติดตลกพร้อมกับโถมตัวเข้ากอดชายหนุ่มตรงหน้า"หม้ายได้ไงเล่า มึงได้กูแล้วนะหมิว เราต้องแต่งงานกันอยู่เเล้ว""สลับบทพูดป่ะ คือมึงต้องบอกว่ามึงได้กู""ไม่ เราได้กันต่างหาก" ประโยคนี้ซันเริ่มพูดเสียงดังมากขึ้น จนเธอกลัวว่าคนที่อยู่บนบ้านจะได้ยินเข้า จึงรีบห้ามปราม"อย่าเสียงดังซัน""เอ้า ก็พูดความจริงอะ ว่าแล้วก็...วันนี้เรามารื้อฟื้นความหลังหน่อยไหม?"รอยยิ้มร้ายยกขึ้นมุ
"อย่าโทษตัวเองสิหมิว กูต่างหากที่ผิด กูไม่หนักแน่นพอทำให้มึงคิดมากเอง แต่กูไม่เคยทำแบบนั้นจริง ๆ มึงเชื่อกูแล้วใช่ไหม กูรักมึงมากเลยนะหมิว ต่อให้มึงไม่บังคับกูหรือขอร้องกู กูก็จะซื่อสัตย์กับมึงแค่คนเดียวนะ"ซันผละตัวออกเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยร่ายยาวด้วยน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่นเช่นเดียวกับเเววตา ความหมายที่สื่อออกมาไม่มีผิดเพี้ยน นั่นเพราะเขารักคนตรงหน้ามาก และสัญญาว่าจะดีกับเธอเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำเพื่อคนที่รักได้"ต่อไปนี้เราเชื่อมั่นในกันและกันนะ กูสัญญานะหมิว กูจะป็นคนที่ดีกว่านี้เพื่อมึง กูจะไม่ทำให้มึงคิดมากหรือเจ็บแม้เเต่นิดเดียว ให้โอกาสคนแย่ ๆ แบบกูอีกสักครั้งนะ"ครั้งนี้ซันจริงจังมากเสียจนเธอเองก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ยิ่งพอเวลาที่เธอได้สบตาเข้ากับดวงตาคมคู่นั้นก็อดหวั่นไหวไม่ได้ ดวงตาคู่นี้ที่เธอหลงรัก เช่นเดียวกับเขาที่ชอบดวงตากลมคู่นี้ของเธอ รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏขึ้นบนมุมปากเล็ก เธอไม่ตอบเขาเพียงแค่พยักหน้า นั่นก็เป็นคำตอบที่เพียงพอแล้ว"โคตรรักมึงเลย จุ๊บทีดิ๊" ซันดีใจจนแทบเก็บอาการไม่ไหว ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างด้วยความพอใจ ความเหนื่อยล้า
ซันเอ่ยตามตรงไม่มีโกหก เขาไม่ได้นอนจริง ๆ เพราะมัวแต่นั่งคิดทุกอย่างจนกระทั่งหาทางออกได้แล้ว และรอเพียงเวลาเท่านั้น ระหว่างนี้เขาจึงพยายามพิสูจน์ตนเองกับครอบครัวของหมิว เผื่อท่านจะรู้สึกเอ็นดูเขาขึ้นมาบ้าง? หรือไม่ก็อาจจะทำให้ท่านอยากฆ่าเขาน้อยลงหน่อยก็ยังดี"ใครถ่างตามึงไว้ ทำไมไม่นอน" คุณตาเอ่ยปากเหน็บแนมพร้อมกับเดินลงบันไดบ้านผ่านร่างซันลงมา แต่เช้านี้ท่านกลับไม่มีทีท่าจะเอาอะไรมาทุกเขาอย่างเมื่อวานเเล้ว"ไม่มีครับ ผมแค่นั่งคิดเรื่องสำคัญ" ซันตอบกลับด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม พร้อมกับชะโงกหน้าขึ้นไปดูบนบ้านว่าหมิวนั้นตื่นหรือยัง เขาอยากเจอหน้าเธอให้ชื่นใจสักหน่อย แต่กลับต้องผิดหวัง"มึงมองอะไรไอ้เผือก""มองหาเมียครับ""โว๊ะ! ไอ้ห่านี่ มึงอยากตายเหรอ?" คุณตาเริ่มอารมณ์เสียกับคำตอบของซันเสียแล้ว ไม่แน่ซันอาจจะตั้งใจพูดก่อกวน แต่ไม่แน่อีกว่านี่เป็นนิสัยปกติของเขา"ปะ เปล่าครับ ๆ แฮ่ แฮ่" ซันถึงกับยิ้มแห้งให้คุณตา นั่นเพราะเขากลัวว่าหน้าตาตัวเองจะไปสะดุดอาวุธมีคมที่คุณตาแกสะสมไว้จะเป็นเรื่องเอาได้"แล้วคุณตาจะไปไหนเหรอครับ? มีอะไ