Share

บทที่ 6

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-19 18:35:10

ม่านไหม...

ฉันก้มหน้าเดินตามพี่แม่บ้านมาถึงห้องรับแขกและพอฉันเงยหน้ามองขึ้นมาก็เจอกับสายตาคมคู่หนึ่งที่จับจ้องมาที่ฉัน เขาเอาแต่มองมองอยู่แบบนั้นมองตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะหันกลับไปเหมือนก่อนหน้านี้เขาไม่ได้มอง

"ม่านเอ้ยเดี๋ยวหนูช่วยพาลูกชายลุงไปที่เรือนเล็กทีนะลูก" ฉันพยักหน้ารับคำก่อนจะเดินไปลากกระเป๋าใบโตที่วางอยู่ใกล้ๆคุณเจ้าสมุทรก่อนจะเดินมายืนอยู่หน้าประตูห้องรับแขกตามเดิมเพื่อรอคุณเจ้าสมุทรไปตึกเล็ก

"ลุง??นี่พ่อแทนตัวเองว่าลุงกับ...คนใช้เหรอ"

"ม่านไหมไม่ใช่คนใช้ลูก"

"ถ้าไม่ใช่คนใช้แล้วเป็นอะไรก็เห็นอยู่แต่งตัวมอซอซ่อมซ่อขนาดนี้ถ้าไม่ใช่คนใช้แล้วเป็นอะไร"

"ม่านไหมเป็นลูกสาวของลูกน้องพ่อเองลูกแต่ตอนนี้ลูกน้องพ่อตายไปแล้วพ่อก็เลยรับม่านไหมมาดูแลเพราะเค้าไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนพ่อสงสารก็เลยรับมาอุปการะ"

"หึรับมาอุปการะ ถามจริงพ่อหวังอะไรกับเด็กนี่อยู่หรือเปล่า กำลังแตกเนื้อสาวซะด้วยดูๆแล้วอายุน่าจะซักสิบแปดสิบเก้าแบบนี้พ่อก็ไม่ตอ้งกลัวติดคุกตอนแก่แล้วล่ะสิ"

"แกอย่าคิดอกุศลแบบนี้กับพ่อนะตาเจ้า"

"ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะทำไมพ่อถึงต้องร้อนตัวขนาดนี้ด้วยล่ะ"

"คำพูดของแกใครฟังดูก็รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ พ่อจะบอกให้นะว่าพ่อรักหนูม่านไหมเหมือนลูกเหมือนหลานรักเหมือนที่รักแกนั่นแล่ะ"

"หึ รักผมงั้นเหรอ ถ้าพ่อรักผมพ่อคงไม่ทำร้ายแม่จนทำให้แม่ต้องคิดสั้นฆ่าตัวตายทิ้งให้ผมเป็นเด็กกำพร้าแบบนี้หรอก!!"

"ตาเจ้าแกฟังให้ดีนะ สิ่งที่พ่อจะพูดต่อไปนี้คือความจริง จดหมายที่แม่แกเขียนมันไม่ใช่เรื่องจริงไม่มีความจริงอยู่เลยแม้แต่น้อย พ่อไม่เคยมีเมียน้อยไม่เคยขอหย่ากับแม่แกมีแต่แม่แกที่ขอหย่ากับพ่อตั้งแต่วันแรกที่แกเกิดมาลืมตาดูโลก"

"พ่อ!!! พ่ออย่ามาใส่ร้ายแม่ของผมแบบนี้ พ่อทำผิดทำชั่วกับแม่พ่อทำไมไม่ยอมรับความจริง"

"ตาเจ้า แกจะให้พ่อไปสาบานวัดไหนที่ไหนก็ได้แต่พ่อขอยืนยันว่าพ่อไม่ได้ทำร้ายแม่แก"

"พ่อจะพูดยังไงก็ได้เพราะแม่ก็ตายไปแล้วนี่ พ่อจะพูดจาเอาดีเข้าตัวยังไงก็ได้ แต่ผมไม่มีวันเชื่อเด็ดขาดผมเชื่อหลักฐานของแม่เชื่อทุกคำพูดของแม่ ผมไม่เชื่อพ่อ"

"ถ้าแกไม่เชื่อฉันไม่ให้อภัยฉันแล้วแกจะกลับมาทำไม"

"ผมก็จะกลับมาเอาทุกสิ่งทุกอย่างของแม่คืนน่ะสิ พ่ออย่าคิดนะว่าผมไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อกำลังคบกับผู้หญิงคนนึงอยู่แถมยังมีแพลนจะแต่งงานกันอีก"

"แกรู้"

"รู้ดิผมไมไ่ด้โง่ และพ่ออย่าหวังว่าพ่อจะเอาผู้หญิงคนไหนหน้าไหนมาแทนที่แม่เด็ดขาดผมไม่ยอม"

ฉันที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์ทำได้เพียงแค่ยืนก้มหน้าไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองใครเลย ฉันรู้สึกถึงความกดดันความอึดอัดของทั้งสองคนที่ดูเหมือนจะไม่มีทางเข้าใจกันได้ แต่ละคนต่างก็มีความคิดเป็นของตัวเอง คุณเจ้าสมุทรก็เชื่อในสิ่งเขาเชื่อมาตลอดต่อให้คุณท่านอธิบายยังไงเขาก็ไม่รับฟัง

"เดินขวางทำไมวะ หลบไป!!" ฉันรีบขยับตัวหนีทันทีเมื่อคุณเจ้าสมุทรหันหลังจะเดินออกไปจากห้องรับแขกโดยมีฉันยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้อง

ปึก!!! เขาเดินมาชนไหล่ของฉันแรงมากเหมือนจงใจตั้งใจจนฉันแทบล้มหงายหลังแต่โชคดีที่ฉันเอามือคว้าจับขอบประตูเอาไว้ได้ทันไม่อย่างนั้นคงล้มลงไปแล้ว พอคุณเจ้าสมุทรเดินออกไปคุณท่านก็ทรุดตัวนั่งลงที่โซฟาแล้วเอามือแตะไปที่หน้าอกข้างซ้ายตอนนี้ใบหน้าของท่านซีดมากท่านคงจะเกิดอาการแน่นหน้าอกเหมือนที่เคยเป็นเวลาที่ท่านเครียดมากๆ ฉันจึงรีบวิ่งไปเอายาในห้องนอนของท่านมาให้ท่านทาน ฉันลืมบอกไปใช่ไหมว่าร่างกายของคุณท่านไม่ค่อยแข็งแรงสักเท่าไหร่ เป็นทั้งความดัน เบาหวาน โรคหัวใจสารพัดโรคทุกวันนี้เป็นฉันที่ต้องคอยจัดยาให้ท่านทานทุกวัน

"ม่านเอ้ย ลุงขอโทษด้วยนะลูกที่ตาเจ้าพูดแบบนั้นกับเราน่ะ อย่าคิดมากเลยนะลูก" คุณท่านบอกกับฉันหลังจากทานยาจนอาการแน่นหน้าอกดีขึ้น อยากจะบอกว่าฉันไม่ได้เก็บเอาคำพูดของคุณเจ้าสมุทรมาคิดเพราะฉันอยู่กับคุณท่านมานานฉันรู้ดีว่าท่านเป็นคนดีมากแค่ไหน

"ไม่เป็นไรค่ะม่านไม่ถือ" ฉันเขียนลงไปในกระดาษให้ท่านอ่าน

"ขอบใจนะลูก ถ้าม่านเป็นลูกสาวของลุงก็น่าจะดีเนอะลุงคงมีความสุขมากกว่านี้ที่มีลูกคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ

"ถึงม่านจะไม่ใช่ลูกสาวของคุณท่านแต่ม่านก็ยินดีและเต็มใจดูแลคุณท่านตลอดไปค่ะ" ฉันเขียนแล้วยื่นให้ท่านอ่านอีกครั้ง ท่านยิ้มออกมาพร้อมกับถามฉันซึ่งเป็นคำถามที่มันไม่เคยอยู่ในความคิดของฉันเลย

"แล้วไม่คิดจะมีแฟนมีครอบครัวบ้างเหรอลูกหื้ม"

"ไม่ค่ะ คนพูดไม่ได้อย่างม่านคงไม่เหมาะที่จะมีครอบครัวกับใคร ไปไหนก็คงอายคนอื่น" ฉันรู้ตัวเองดีว่าตัวเองเป็นยังไงถึงจะไม่ใช่คนพิการแต่ก็เหมือนพิการเพราะจนถึงตอนนี้ฉันก็ยังพูดไม่ได้ ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูดนะแต่มันพูดไม่ออกมันเหมือนมีอะไรบางอย่างมาทำให้ฉันไม่กล้าที่จะพูด ฉันเคยฝึกพูดคนเดียวในห้องครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ฉันก็พูดไม่ได้ แต่ฉันก็ไม่ได้เสียใจหรืออะไรที่ตัวเองเป็นแบบนี้ ฉันพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นจะพูดได้หรือไม่ได้มันก็ไม่ได้มีค่ามีความสำคัญอะไรฉันกลับมองว่ามันเป็นข้อดีซะอีกเพราะฉันจะได้ไม่ต้องคอยตอบคำถามของใครเวลามีใครมาถามหรือมาหาเรื่องฉันเงียบอย่างเดียว

"ลุงก็ยังหวังว่าสักวันม่านจะกลับมาพูดได้อีกครั้งนึงนะลูก"

ตอนนี้ฉันมายืนอยู่หน้าเรือนหลังเล็กพร้อมกระเป๋าเดินทางของคุณเจ้าสมุทรที่เขาทิ้งไว้ที่ห้องรับแขกซึ่งเรือนนี้คุณท่านได้สร้างขึ้นมาใหม่หลังจากที่ได้รู้ว่าคุณเจ้าสมุทรจะกลับมาอยู่ที่บ้านแต่มีข้อแม้ว่าต้องสร้างบ้านแยกออกมาอีกหลังโดยให้เหตุผลว่าคุณเจ้าสมุทรชอบความเป็นส่วนตัวชอบอยู่คนเดียวคุณท่านก็เลยสั่งสถาปนิกมาสร้างเรือนหลังเล็กเอาไว้รอคุณเจ้าสมุทรกลับมา แต่ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นเรือนหลังเล็กแต่มันไม่ได้เล็กเลยสักนิด มันกว้างใหญ่พอๆกับตึกใหญ่นั่นแล่ะ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก ฉันเคาะประตูบ้านก่อนเนื่องจากไม่กล้าจะเปิดเข้าไปเพราะไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะอยู่ในอารมณ์ไหนเพราะก่อนหน้านี้เขาเพิ่งทะเลาะกับคุณท่านมา

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เงียบ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก ฉันลองเคาะประตูอีกครั้งแต่ก็เงียบดังเดิมฉันตัดสินใจจะทิ้งกระเป๋าไว้หน้าบ้านแต่พอมองขึ้นไปบนฟ้าท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีเหมือนฝนจะตก ถ้าฉันเอาวางไว้ตรงนี้กระเป๋าของคุณเจ้าสมุทรอาจจะเปียกได้ฉันก็เลยตัดสินใจที่จะเปิดประตูเข้าไปเพื่อนำกระเป๋าไปวางไว้ในบ้านแทนเขาคงไม่ว่าอะไรหรอกมั้ง คิดได้ดังนั้นฉันก็ค่อยๆหมุนลูกบิดแล้วค่อยๆเปิดประตูเข้าไปอย่างช้าๆจนกระทั่ง....

"ไง..ฉันนึกว่าเธอจะโง่ยืนเคาะประตูอยู่ตรงนั้นทั้งวันทั้งคืนซะอีก"

ฉันตกใจเมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วเจอคุณเจ้าสมุทรนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่โซฟาอย่างสบายอารมณ์เขานั่งอยู่ตรงนั้นแต่เขาไม่ยอมลุกขึ้นมาเปิดประตูให้ฉัน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เมียใบ้บำเรอรัก   บทที่ 121

    ดีเดย์....ตอนนี้ผมกำลังส่งนิ้วเข้าไปให้ความสุขกับรวงข้าว มองดูสีหน้าของเธอผ่านกระจกมันทำให้เห็นว่าเธอเสียวขนาดไหน จนเธอทนไม่ไหวสักพักนิ้วมือของผมก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำของเธอ เธอเสร็จไปแล้วครับเสร็จคานิ้วของผม แต่นี่มันแค่จุดเริ่มต้นของคืนนี้"อื้มมมมม เดย์ มันแสบไม่เอานิ้วแล้วได้มั้ย""แล้วจะเอาอะไร

  • เมียใบ้บำเรอรัก   บทที่ 120

    รวงข้าว.....วันนี้เป็นวันที่ฉันไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีนั่นคืองานแต่งงานค่ะ ฉันคิดว่าไม่ต้องมีก็ได้เพราะอยู่ด้วยกันมานานแล้ว ลูกก็มีตั้ง6คนมาแต่งกันตอนนี้บอกตรงๆ ว่าเขินค่ะอันที่จริงเดย์เคยขอฉันแต่งงานมาแล้วหลายครั้งแต่ฉันเลี่ยงมาตลอดเลยค่ะ เพราะมันเสียเวลาจัดงานไหนจะตัดชุดแจกการ์ดทำของชำร่วยอีกสาระพัด

  • เมียใบ้บำเรอรัก   บทที่ 119

    "อย่ามาโกหก ถ้าไม่มีละใครที่หอมแก้มเดย์เมื่อวานที่ห้องทำงาน""หอมแก้ม??? ""ใช่ น้องเดมีเดลี่บอกว่ามีผู้หญิงหอมแก้มเดย์ ฮือออออ ถ้าเบื่อก็บอกกันตรงๆ จะเลิกก็แค่พูดมา ทำไมต้องพาผู้หญิงคนใหม่มาที่นี่และให้ลูกเจออีก ฮืออออ ใจร้ายไม่เคยเปลี่ยนเลย ข้าวนึกว่าเดย์จะเป็นสามีเป็นพ่อดีได้ แต่ตอนนี้ข้าวคิดว่าข

  • เมียใบ้บำเรอรัก   บทที่ 118

    รวงข้าวเวลาผ่านไป เด็กแฝดสี่ตอนนี้ก็ครบ1ขวบแล้วค่ะส่วนลูกสาวทั้งสองก็5ขวบกว่าๆ ซนกันสุดๆ ทั้งพี่ทั้งน้อง พอน้องๆ เริ่มเดินได้พี่สาวก็ดีใจพาจูงมือเดินไปทั่วบ้านล้มบ้างเป็นบางครั้งเพราะยังเดินไม่คล่อง ดีที่มีพีเลี้ยงเดินตามเพราะถ้าดูคนเดียวคงไม่ไหวตั้ง6คน มาคิดๆ ดูฉันมีลูกถึงหกคนเลยเหรอ ฉันไม่ได้ฝันไ

  • เมียใบ้บำเรอรัก   บทที่ 117

    รวงข้าว...คืนนั้นหลังจากพาลูกๆ เข้านอนกันเรียบร้อยทั้งน้องเดมี่เดลี่ และแฝดน้อยทั้งสี่คน เขาก็จูงมือฉันเข้าห้องพอประตูปิดปุ๊บเขาก็จู่โจมทันทีโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว เขากอดฉันจากทางด้านหลัง มือลูบไล้ไปทั่วร่างกาย พร้อมกับจูบไซร้ตรงซอกคอและกัดลงไปเบาๆ ให้ฉันรู้สึกสยิว เราไม่ได้มีะไรกันมาหลายเดือนแล้วค

  • เมียใบ้บำเรอรัก   บทที่ 116

    หลายวันต่อมารวงข้าว .....ฉันพาน้องเดมี่กับเดลี่มาเยี่ยมแม่ครูค่ะ และมาเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับน้องๆ ด้วย ท่านบอกว่าดีใจที่ฉันไม่ลืมที่นี่ ฉันจะลืมที่นี่ได้ยังไงคะถ้าไม่มีแม่ครูชีวิตจะเป็นยังไง ฉันเล่าเรื่องกันตาให้แม่ครูฟังค่ะ ท่านก็ได้แต่พยักหน้ารับรู้ ท่านไม่คิดว่ากันตาจะกล้าทำอะไรแบบนี้ส่วนเรื่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status