อธิปัตย์เดินกลับมาที่รถพร้อมกับส่งกาแฟให้เพื่อน
“อ่ะ ฉันเอามาให้”
“ขอบใจนะ นี่ลงไปช่วยงานฉันแล้วยังซื้อกาแฟมาให้อีก นายเป็นคนมีน้ำใจจริงๆ นะ แล้วเธอว่าอะไรหรือเปล่าที่ฉันหาคนในแบบที่เธอต้องการไม่ได้”
“เธอไม่ว่าอะไรนะ”
“ค่อยโล่งใจไปหน่อยว่าแต่เธอสวยไหมว่ะ” ทินภัทรถามขณะกำลังขับรถออกจากหน้าร้านอัญญาคาเฟ่
“สวยสิ สวยมากด้วย ฉันไม่คิดเลยนะว่าผู้หญิงสวยอย่างคุณอัญญาจะยังไม่มีแฟน มันไม่น่าเป็นไปได้เลย” เขาพูดแล้วยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าสวยหวานของผู้หญิงที่เจอก่อนหน้านี้
“เธอสวยขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ทินภัทรถามย้ำ
“ก็บอกแล้วไงว่าเธอสวยมากๆ สวนจนฉันไม่กล้าปฏิเสธ”
“นายหมายความว่ายังไงอธิป”
“ฉันบอกเธอไปว่าฉันตกลงจะรับงานเป็นแฟนเช่าของเธอ”
“อะไรนะ” ทินกรตกใจกับคำตอบที่ได้ยินจากปากของเพื่อน
“ฉันบอกว่าฉันรับงานเป็นแฟนเช่าของเธอไปแล้ว” เขาตอบอีกครั้งอย่างชัดเจน
“นี่นายจะบ้าหรือเปล่าฉันให้นายลงไปปฏิเสธเธอนะ” ทินภัทรตกใจที่เพื่อนรับทำงานเป็นแฟนเช่า
“ถ้านายเห็นหน้าเธอนายจะปฏิเสธไม่ลงเลยล่ะ” อธิปัตย์พูดไปยิ้มไป
“นายรับงานเธอไปแล้วทีนี้จะเอายังไงต่อล่ะ”
“รับงานเธอแล้วก็ต้องทำงานให้เธอสิ พรุ่งนี้เธอนัดฉันมาคุยเรื่องรายละเอียดเพื่อทำความรู้จักกันที่ร้านด้วยนะ”
“นี่นายเอาจริงเหรออธิป”
“เอาจริงสิ ยังไงนายไปทำสัญญาให้ฉันด้วย ฉันว่าทำงานแบบนี้มันก็สนุกดีได้ค่าขนมด้วย”
“นี่ค่าจ้างแค่ห้าพันมันแค่เศษเงินของนายเลยนะอธิป”
“รู้ว่ามันอาจจะเป็นแค่เศษเงินแต่สิ่งที่ฉันต้องการไม่ใช่เงินหรอกนะทินฉันอยากรู้จักเธอให้มากขึ้นอยากจะรู้ว่าทำไมผู้หญิงสวยๆ ถึงยังไม่มีแฟนสักที คุณอัญญาเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจมาก”
“นายรู้มั้ยกฎข้อหนึ่งของการเป็นแฟนเช่าก็คือห้ามตกหลุมรักลูกค้า ห้ามมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกค้านั่น”
“มันกฎของลูกน้องที่บริษัทของนายนี่ทิน แต่ฉันไม่ใช่ลูกน้องของนายนะเพราะฉะนั้นฉันอยากจะทำอะไรก็ทำ”
“เฮ้ยนายจะทำอะไรกับเธอไม่ได้นะ เสียชื่อบริษัทหมด”
“เอาน่า ฉันไม่ทำให้นายเดือดร้อนหรอก”
“แต่นายต้องไปเป็นแฟนเช่าของเธอจริงๆ นะ”
“ก็จริงสิใครว่าฉันพูดเล่นกันล่ะ”
“ถ้าทำแบบนี้แล้วแบบนี้ไม่กลัวคนอื่นจะจับได้เหรอ”
“ใครจะจับได้กันล่ะทิน เพื่อนที่เมืองไทยของฉันก็ไม่มีใครรู้ว่าฉันมาที่นี่แต่ถ้าบังเอิญเจอกันก็บอกเขาไปตามตรงก็ได้ว่าฉันกับคุณอัญญาเป็นแฟนกัน”
“แล้วนายคิดว่าจะบอกข้อมูลของนายมากแค่ไหน”
“ก็จะบอกว่าฉันกำลังตกงานอยู่และบังเอิญมีเพื่อนแนะนำให้มารับงานนี้เพื่อฆ่าเวลาระหว่างสมัครงานน่ะสิ เดี๋ยวนายไปส่งฉันที่คอนโดนะแล้วอย่าลืมทำสัญญาเตรียมไว้พรุ่งนี้ฉันจะไปรับที่บริษัท”
“จะเอารถไว้ใช้ซักคันไหม”
“มันจะดีเหรอวะเป็นคนรับจ้างเป็นแฟนเช่าแถมยังตกงานแต่มีรถขับ”
“ก็บอกไปสิว่านี่มันเป็นหนึ่งในบริการของบริษัท ในช่วงเปิดตัวใหม่ซึ่งโปรโมชั่นนี้จะหมดหลังจากเปิดตัวบริษัทไปครึ่งปี”
“แค่นี้เธอก็ไม่รู้หรอก”
“ถ้างั้นเรื่องรถฉันจัดการเองก็แล้วกันพรุ่งนี้ว่าจะเข้าไปดูที่โชว์รูม”
“เฮ้ย...ถ้านายเข้าไปดูรถในโชว์รูมเรื่องก็คงรู้ถึงที่บ้านของนายแน่” ทินภัทรเตือน
“เออ...จริงด้วยฉันลืมไปเลยถ้างั้นนายจัดการเรื่องรถหน่อยนะ เดี๋ยวฉันจะส่งรุ่นกับสีที่ฉันต้องการไปให้”
“ไม่มีปัญหาเดี๋ยวฉันจัดการให้”
“ได้เดี๋ยวฉันจัดการให้ ว่าแต่พรุ่งนี้นายยังไม่ต้องขับรถไปที่ร้านของเธอลงนะ นั่งแท็กซี่ไปก่อนเดี๋ยวเธอจะสงสัยเอาเอาเป็นว่าวันงานค่อยขับไปรับเธอก็แล้วกัน”
“ฉันรู้หรอกน่าอะไรไม่ต้องมาย้ำ ขอบใจมากนะที่มาส่งแล้วเจอกันพรุ่งนี้”
อธิปัตย์ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เข้ามายังคอนโดมิเนียมหรูที่เขาซื้อไว้ ชายหนุ่มคิดว่าจะมาพักผ่อนที่นี่ก่อนสักสามเดือนจากนั้นค่อยบอกทางว่าบ้านว่าตนเองเรียนจบและกลับมาแล้ว
เขาไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศจากนั้นก็ทำงานอยู่ที่นั่นหนึ่งปีก่อนตัดสินใจกลับมาช่วยกิจการของครอบครัวที่เมืองไทยซึ่งตอนนี้บิดากับพี่ชายของเขากำลังช่วยกันบริหารงานอยู่ ครอบครัวของเขาเปิดบริษัทผลิตสินค้าพวกแชมพู ครีมนวดซึ่งมีทั้งที่เป็นแบรนด์ของตัวเองและรับผลิตให้กับแบรนด์อื่น
อธิปัตย์อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก็เปิดกระเป๋าออกมาจัดเข้าที่ก่อนจะล้มตัวลงนอน แต่เพราะเวลาที่ต่างกันระหว่างอังกฤษและที่นี่ทำให้อธิปัตย์นอนไม่หลับอีกอย่างเขาก็เอาคิดเอาแต่คิดถึงใบหน้าสวยหวานของผู้หญิงที่ชื่ออัญญารินทร์
เขาเจอผู้หญิงสาวมามากแต่ไม่มีใครดึงความสนใจของเขาได้มากเท่ากับอัญญารินทร์มาก่อน
วันนี้อธิปัตย์มีประชุมตลอดบ่ายพอเลิกงานเขาก็รีบขับรถมาที่ร้านอัญญาคาเฟ่ทันทีแต่พอมาถึงร้านก็ปิดแล้วชายหนุ่มเห็นรถยังจอดอยู่เขาโทรหาคนรักแต่อัญญารินทร์ก็ไม่ยอมรับสายเขารู้สึกร้อนใจจึงขับรถไปที่บ้านของเธอกดออดอยู่นานก็ไม่มีคนเปิดชายหนุ่มร้อนใจมากยิ่งขึ้น เขาโทรศัพท์ไปถามสิรดาเพื่อนสนิทของเธอแต่สิรดาก็บอกว่าวันนี้ยังไม่ได้คุยกับอัญญารินทร์เลยอธิปัตย์ไม่รู้จะไปตามที่ไหนพอดีนึกได้ว่ามีเบอร์โทรของกวางเด็กในร้านอยู่จึงรีบต่อสายหาเธอทันที“สวัสดีค่ะพี่อธิปมีอะไรหรือเปล่า”“พี่ไปหาอัญญาที่ร้านไม่เจอไปที่บ้านก็ไม่เจอแต่รถเธอยังจอดอยู่หน้าร้าน กวางรู้ไหมว่าพี่อัญญาไปไหนหรือเธอไม่สบายหรือเปล่า” อธิปัตย์ถามอย่างรวดเร็วด้วยความเป็นห่วง“อ้าวพี่อัญญาไม่ได้บอกพี่หรอกเหรอคะ”“บอกอะไรเหรอกวาง”“ก็วันนี้แม่ของพี่อธิปัตย์มาที่ร้านมานั่งคุยกับอะไรกับพี่อัญญาก็ไม่รู้สีหน้าเครียดเชียว กวางได้ยินแค่แฟนจากนั้นพี่อัญญาก็บอกให้หนูสองคนปิดร้านกันเอง พี่อัญญาเธอก็ออกไปพร้อมกับแม่พี่เลยค่ะ”“แน่ใจนะกวางว่าได้ยินคำว่าแฟนเช่าจริงๆ”“แน่ใจค่ะกวางได้ยิน แต่ก็ไม่รู้รายละเอียด เท่าที่ดูเหมือนพี่อัญญาจะรู้สึกผิดอะไรสัก
หลังจากทานอาหารค่ำแล้วคุณทิพย์สุดาก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้กับคุณสมภพผู้เป็นสามีฟัง“คุณคิดว่าลูกชายเรากำลังตบตาเราอยู่หรือเปล่าคะคุณภพ”คุณทิพย์สุดาถอนหายใจอย่างหนักเธอรู้สึกเครียดกับสิ่งที่ตัวเองได้รับรู้มาในวันนี้“เท่าที่ผมสังเกตดูนะคุณทิพย์ เด็กสองคนนั่นเขาดูรักกันจริงๆ นะ” แม้ว่าจะเจอแค่เพียงครั้งเดียวเขาก็พอมองลูกชายตนเองออกเพราะอธิปัตย์ดูจริงจังกับความรักครั้งนี้มาก“ใช่ค่ะ ทิพย์ก็คิดว่าสองคนนั้นดูรักกันจริงๆ นะคะ และก็ไม่น่าจะใช่เรื่องตบตาหรือเป็นการจ้างใครมาหลอก แต่จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มันก็เริ่มจากหนูอัญญาเป็นคนจ้าอธิปก่อน ฉันก็เลยไม่แน่ใจว่าที่เธอทำอยู่ตอนนี้ยังอยู่ในเงื่อนไขสัญญาจ้างที่ทินภัทรไม่รู้หรือเปล่า”“ผมว่าเรื่องนี้คุณต้องคุยกับลูกตรงๆ นะลองถามเขาดูว่าเรื่อง มันเป็นยังไงกันแน่ หนูอัญญาเธอเป็นคนน่ารักมากนะและลูกชายของเราก็ดูเหมือนจะรักเธอมากเหมือนกัน ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่ลงหลักปักฐานอยู่ที่เมืองไทยหรอก ก่อนหน้านี้นายอธิปไม่เคยคิดจะเข้ามาช่วยงานที่บริษัทหรือใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยเลยถ้าไม่ใช่เพราะหนูอัญญาก็คงไม่ทำแบบนั้น”“ฉันก็คิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกันค่ะ แต่มันก็ยัง
คุณทิพย์สุดาเห็นท่าทางของทินภัทรแปลกไปตอนที่พูดถึงอัญญารินทร์ เธอรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่างเพราะปกติแล้วทินภัทรจะไม่หลบสายตาเวลาพูดคุยกับเธอเหมือนกับวันนี้หลังจากคุยธุระกับมารดาของชายหนุ่มแล้วคุณทิพย์สุดาก็ออกมาจากบ้านหลังใหญ่ระหว่างทางก็โทรศัพท์ไปหาเลขาของลูกชาย“สวัสดีค่ะ”“สวัสดีจ้ะนี่ฉันเองนะ เจี๊ยบ”“สวัสดีค่ะคุณทิพย์สุดามีอะไรให้เจี๊ยบรับใช้คะ” เลขาของอธิปัตย์จำเสียงของคุณทิพย์สุดาได้เพราะท่านมักจะแวะไปที่บริษัทอยู่บ่อยครั้ง“ฉันมีเรื่องจะรบกวนหน่อยน่ะว่างอยู่หรือเปล่า”“ว่างค่ะ คุณทิพย์สุดาจะให้เจี๊ยบช่วยอะไรบอกมาได้เลยนะคะ”“เธอช่วยหาเบอร์โทรศัพท์เพื่อนของอธิปัตย์ให้ฉันหน่อยได้ไหม”“ได้ค่ะ”“เพื่อนคนไหนคะ”“เพื่อนที่ชื่อทินภัทร แล้วช่วยดูด้วยว่าบริษัทของเขาอยู่ที่ไหนพอดีฉันมีธุระจะออกไปเจอเขานิดหน่อยนะ แต่ลืมว่าบริษัทตั้งอยู่ตรงไหน”“ได้ค่ะรอสักครู่นะคะ”คุณทิพย์สุดาถือสายไม่นานเลขาของคนลูกชายก็กลับมาพร้อมกับเบอร์โทรศัพท์และที่ตั้งของบริษัทให้กับคุณทิพย์สุดา“ขอบใจมากน้า เรื่องนี้ไม่ต้องบอกอธิปัตย์ล่ะว่าฉันโทรมาถาม”“ได้ค่ะ คุณทิพย์สุดามีอะไรจะถามเจี๊ยบอีกหรือเปล่าคะ”
บ่ายวันจันทร์บรรยากาศแสนอบอ้าวลูกค้าในร้านอัญญาคาเฟ่มีอยู่แค่สองโต๊ะ เพราะส่วนใหญ่อากาศแบบนี้ลูกค้าจะเลือกใช้บริการเดลิเวอรี่มากกว่า อัญญารินทร์กับลูกน้องกำลังช่วยกันจัดเลี้ยงขนมทึ่งซึ่งเพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ เพื่อรอรับลูกค้าสำหรับช่วงเย็น ลูกค้าบางส่วนก็โทรมาจองขนมไว้“ขนมสามกล่องนั่นของใครคะพี่อัญญา” กวางถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเป็นคนจัดเรียงไว้เองตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยง“นั่นคุณอธิปโทรมาสั่งไว้น่ะเห็นว่าจะให้คนมาเอา”“แล้วเราต้องคิดเงินไหมคะ”“กวางคิดว่ายังไงดีล่ะ”“อย่างคุณอธิปัตย์ไม่ยอมรับขนมของพี่อัญญาไปฟรีๆ แน่ใช่ไหมล่ะ”“มันก็จริงอย่างที่กวางพูดนั่นแหละเขาโอนเงินมาให้แล้วมากกว่าค่าขนมที่ซื้ออีก เอาไว้พี่จะให้เป็นโบนัสสิ้นเดือนของกวางกับน้ำหวานก็แล้วกันนะ”“พี่อัญญาทั้งสวยทั้งใจดีแบบนี้กวางกับน้ำหวานรักตายเลยค่ะ พี่สัญญากับกวางได้ไหมว่าจะไม่ไล่กว้างกับน้ำหวานออก”“ลองบอกเหตุผลมาสักข้อสิว่าทำไมพี่ถึงจะต้องไล่เราสองคนออก”“ก็ถ้ากวางกับน้ำหวานขี้เกียจ”“แต่เท่าที่พี่ดูไม่มีใครขี้เกียจเลยนะทั้งสองคน เพราะฉะนั้นพี่ไม่มีทางไล่ออกจ้ะ”“แล้วถ้ากวางกับน้ำหวานขโมยเงินในร้านล่ะคะพี่อัญญา”“ถ้าเป็
อัญญารินทร์ตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของอธิปัตย์ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ามาจากกายของเขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและมีความสุขอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมสันที่กำลังหลับใหลอย่างสงบ แสงแดดอ่อนๆ ต้องใบหน้าของเขา ทำให้เธอเห็นรายละเอียดของดวงตา จมูกโด่ง และริมฝีปากหยักได้อย่างชัดเจน หัวใจรู้สึกว่ามันได้เติมเต็มด้วยความรักของเขา เธอใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามโครงหน้าของเขาเบาๆอธิปัตย์รู้สึกถึงสัมผัสแผ่วเบาที่ใบหน้า จึงลืมตาขึ้นช้าๆ เมื่อเห็นใบหน้าหวานของอัญญารินทร์อยู่ใกล้ๆ เขาก็ส่งยิ้มอ่อนโยนให้“อรุณสวัสดิ์ครับที่รัก”“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” อัญญารินทร์ตอบพร้อมรอยยิ้มสดใส“ตื่นนานแล้วเหรอครับ” เขากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น“เพิ่งตื่นค่ะ”“วันนี้วันหยุดเรานอนอยู่แบบนี้นานๆ ได้ไหม”“ตกลงวันนี้จะไม่ไปทำงานจริงๆ เหรอคะ”“ไม่ล่ะ วันนี้อยากอยู่กับอัญญามากกว่า”“ตามใจเถอะค่ะ อัญญาห้ามคุณก็คงไม่ฟัง ตอนนี้หิวหรือยังล่ะคะ เดี๋ยวอัญญาไปทำอะไรให้กินนะ”“หิวครับ เมื่อคืนใช้พลังงานไปเยอะเลยเดี๋ยวเราช่วยกันทำนะ แต่อัญญาช่วยอะไรผมก่อนได้ไหมล่ะ”“ช่วยอะไรคะ”“ชุดผมอยู่ในรถน่ะ อัญญาช่วยไปเอากระเป๋าที่เบาะหลังกับชุ
“อัญญาจ๋า พร้อมแล้วใช่ไหม ผมขอเข้าไปนะ”“อธิปขา....เบาๆ นะคะ อัญญากลัวเจ็บ”เสียงหวานร้องขอเพราะจำได้ดีว่าครั้งแรกนั้นมันเจ็บมากแค่ไหน“ผมรู้ผมจะพยายามนะที่รัก”อธิปัตย์ไม่รู้ว่าตนเองจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่าเพราะรู้ว่าเวลาที่ท่อนเอ็นร้อนเข้าไปอยู่ในร่องสวาทของเธอแล้วเขาจะควบคุมตัวเองได้มากแค่ไหนชายหนุ่มจูบลงมาอย่างเร่าร้อน มือใหญ่จับท่อนเอ็นร้อนลากขึ้นลงกลางกลีบก่อนจะค่อยๆ กดส่วนปลายเข้าหาร่องรักทีละนิดอัญญารินทร์กัดฟันแน่นข่มความเจ็บเอาไว้เพราะรู้ว่ามันจะเจ็บเพียงครู่แต่หลังจากนั้นเธอก็จะพบแต่ความสุข“อื้ม....ของอัญญาแน่นเหลือเกิน อ่า....”อธิปัตย์รู้สึกถึงความคับแน่น เขาพยายามเคลื่อนตัวตนเข้าไปอย่างช้าๆ อย่างยากลำบาก ช่องทางรักของหญิงสาวนั้นมันคบแน่นและตอดรัดท่อนเอ็นจนแทบจะระเบิด เขาชอบที่ได้เข้าไปอยู่ในตัวเธอมันทั้งอุ่นร้อนและนุ่มแน่นแบบที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน“ดีขึ้นไหม ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” เขานิ่งอยู่ในนั้นนานแล้วและคงอยู่นิ่งต่อไปไม่ได้เมื่อความคับแน่นมาพร้อมกับแรงตอดรัด“อธิป....อัญญาไม่เป็นไรค่ะ”เธอรู้ว่าชายหนุ่มกำลังทรมานและเธอเองก็เสียวจนเกินจะทน อธิปัตย์เริ่มขยับสะโพกเ