“ทำไมนายไม่ลงไปเองวะทิน” อธิปัตย์บ่นกับทินภัทรเมื่อเขาบอกให้ตนเองลงไปบอกผู้หญิงที่อยู่ในร้านกาแฟว่าคนที่เธอต้องการนั้นทางบริษัทเขาไม่สามารถจัดหาให้ได้
“ก็ฉันไม่กล้าปฏิเสธลูกค้านี่หว่า ยังไงนายก็ช่วยหน่อยนะอธิป” ทินภัทรขอร้อง
“นายนี่นะ เปิดบริษัทให้เช่าแฟนแต่หน้าบางแบบนี้บริษัทจะไปรอดเหรอ” อธิปัตย์บ่นอย่างไม่จริงจังมากนัก
“รอดไม่รอดฉันก็เปิดได้มาเกือบสี่เดือนแล้วนะ” ทินภัทรเถียงกลับ
“ผู้หญิงที่จะให้ไปพูดด้วยเนี่ยหน้าตาเป็นยังไง”
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันเธอไม่ได้ส่งรูปมา”
“นี่นายรับลูกค้าโดยไม่ดูหน้าเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิมีผู้หญิงที่ไหนอยากจะให้เห็นบ้างแหละ ว่าตัวเองหน้าตายังไงเกิดขี้ริ้วขี้เหร่ขึ้นมาแล้วลูกน้องฉันไม่รับงานล่ะ”
“แล้วกรณีนี้ลูกน้องของนายปฏิเสธงานหรือยังไงเธอถึงต้องหาคนใหม่”
“ไม่ใช่หรอกเป็นเธอที่ปฏิเสธน่ะ ก็อย่างว่าล่ะนะการจ้างแต่ละครั้งราคาก็ค่อนข้างสูงเธอก็จำเป็นจะต้องเลือกหน่อย”
“ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมผู้หญิงจะต้องจ้างผู้ชายมาควงเป็นแฟนด้วยนะ ไม่มีก็บอกคนอื่นสิว่าไม่มี”
“เราไม่ใช่ผู้หญิงนะ เราไม่เข้าใจอารมณ์ของพวกเธอหรอกนะอธิป”
“ก็จริงนะผู้หญิงเป็นเพศที่เข้าใจยากที่สุด” อธิปัตย์เห็นด้วยกับความคิดของเพื่อนเพราะเขาเคยมีแฟนมาก่อนจึงรู้ดีว่าพวกเธอนั้นเข้าใจยากมากแค่ไหน
“ทีนี้นายก็ลงไปบอกเธอได้แล้วนะว่าทางบริษัทไม่สามารถหาคนที่เธอต้องการได้ให้”
“แล้วฉันจะไม่โดนเธอตบหน้าเอานะโทษฐานที่ไปปฏิเสธงานแบบนั้น” ชายหนุ่มเป็นกังวลเพราะเขาไม่เคยต้องทำเรื่องแบบนี้มาก่อน
“ไม่หรอกน่า” ทินภัทรเจ้าของบริษัทสานฝันรีบบอกกับเพื่อน
“แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงคนนั้นคือคนไหน”
“นายถือสัญญาของบริษัทไปสิ มันเป็นสีชมพูเด่นแบบนั้นเธอต้องเขามาทักทายนายแน่” เขาบอกอย่างมั่นใจ
“ถ้าเธอไม่เห็นฉันไม่รออยู่ตรงนั้นจนถึงเย็นเลยเหรอวะ”
“นายลงไปรอแค่ 15 นาทีถ้าผู้หญิงคนนั้นยังไม่ปรากฏตัว ฉันจะโทรบอกเธอเองว่านายมาแล้ว”
“แล้วทำไมนายไม่โทรไปตั้งแต่ตอนนี้ล่ะ” อธิปัตย์ไม่เข้าใจกับสิ่งที่เพื่อนทำเลย
“เราต้องให้ความเป็นส่วนตัวกับเธอด้วยสิ เผื่อว่าเอต้องทำใจก่อนมาเจอกับนาย”
“อะไรของกันวะเนี่ย เหลือเชื่อเลยนี่ฉันกลับมาพักผ่อนแท้ๆ แต่กลับโดนใช้งานเยี่ยงทาส”
“ไม่ต้องมาพูดมากเลยนะอธิปฉันใช้งานในเยี่ยงทาสที่ไหน นี่ก็เพิ่งไปรับมาจากสนามบินแล้วเย็นนี้ก็ว่าจะพาไปเลี้ยงเหล้าอีก ช่วยเพื่อนแค่นี้อย่าทำเป็นบ่นไปเลย”
“เออช่วยก็ช่วย รอฉันตรงนี้นะไม่ใช่ขับรถชิ่งหนีไปไหนล่ะ ฉันไม่ค่อยคุ้นเส้นทางอยู่ด้วย”
“เออน่าฉันรอนายตรงนี้แหละ โทรศัพท์มือถือนายก็เอาลงไปด้วยสิ ถ้าฉันชิ่งหนีไหนก็โทรให้คนที่บ้านมารับไม่เห็นจะยากเลย”
“ไม่ล่ะ ฉันยังไม่อยากให้ใครรู้ว่าฉันกลับมา”
“อ้าวแล้วทีนี้จะไปพักที่ไหน”
“ก็คอนโดไงฉันให้คนทำความสะอาดไว้เรียบร้อยแล้ว”
“นายคิดเหรอว่าคนที่คอนโดจะไม่ปากโป้งไปบอกครอบครัวของนาย”
“ไม่หรอกน่าฉันกำชับไว้แล้วถ้าคนที่บ้านฉันรู้ฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเลย” อธิปัตย์พูดกับเพื่อนก่อนจะเปิดประตูรถแล้วลงไปยังร้านกาแฟข้างหน้า
เขายืนมองหน้าร้านอัญญาคาเฟ่แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน
ในเวลาบ่ายลูกค้าในร้านมีอยู่ประปรายเขาเลือกไปนั่งมุมในสุดแล้วเอาสัญญาวางบนโต๊ะให้มันเด่น ขณะนั้นพนักงานก็เข้ามาถาม
“คุณจะรับอะไรดีคะ”
“ขอเอสเย็นสองแก้วครับเอาแบบกลับบ้านนะ” เขาสั่งเพราะคิดว่าจะซื้อไปเผื่อทินภัทรที่รออยู่ในรถด้วย
พนักงานของร้านเหลือบไปเห็นกระดาษสีชมพูที่วางบนโต๊ะก็รีบเดินมาบอกอัญญารินทร์
“พี่อัญญาคะ ค่ะผู้ชายคนนั้นเขาถือสัญญาของบริษัทมาด้วยค่ะ กวางว่าเขาน่าจะเป็นคนที่บริษัทส่งมานะคะ”
“คนไหน”
“ก็คนนั้นไงคะ คนที่นั่งอยู่มุมในสุดเลย”
“ไม่น่าเชื่อเขาจะมารับงานนะ เขาดูดีมาก” อัญญารินทร์มองอย่างไม่เชื่อสายตาเท่าไหร่
“แต่เขาถือสัญญาสีชมพูมานะ พี่อัญญาลองไปคุยกับเขาสิเดี๋ยวกวางจะชงกาแฟให้เขาก่อน ถ้าพี่อัญญาได้ผู้ชายคนนี้มาควงเป็นแฟนรับรองว่าเพื่อนพี่อัญญาได้อิจฉากันทั้งงานแน่ๆ” กวางพูดทิ้งท้าย
“เอาละพี่จะลองไปคุยกับเขาก่อนนะ” หญิงสาวรู้สึกใจเต้นแรงมากขณะที่เดินเข้าไปหาชายหนุ่มตรงหน้า
“สวัสดีค่ะคุณมาจากบริษัทสานฝันใช่ไหมคะ” อัญญารินทร์ เอ่ยทักทายพร้อมกับรอยยิ้ม
อธิปัตย์ที่กำลังก้มหน้าอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมาตามเสียงหวานเมื่อเห็นเธอยิ้มให้เขาก็ชะงักไปเล็กน้อย
ชายหนุ่มไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่มาจ้างบริษัทของทินภัทรนั้นไม่ใช่ขี้ริ้วขี้เหร่อย่างที่เขาจินตนาการถึงเลย หญิงสาวมีใบหน้าที่สวย ผิวเธอขาวอมชมพู ดวงตากลมโตนั้นดูท่าทางจริงใจและมีความหวังทำให้อธิปัตย์ไม่รู้จะปฏิเสธเธอยังไงดี
“สวัสดีครับ ผมมาจากบริษัทสานฝัน”
“ฉันชื่ออัญญาค่ะ คุณล่ะคะ”
“อธิปัตถ์ เรียกอธิปก็ได้”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณอธิป คุณจะรับงานที่ฉันจ้างใช่ไหมคะ”
“เอ่อ....”
“คือฉันรู้ว่ามันค่อนข้างอึดอัดที่จะรับงานนี้ แต่ฉันจำเป็นจริงๆ นะคะถ้ายังไงคุณช่วยรับจ้างเป็นแฟนฉันหน่อยนะคะ ใช้เวลาทำงานไม่นานเลย” อัญญารินทร์อ้อนวอนเสียงหวานเพราะถ้าไปควงผู้ชายคนนี้ไปงานแต่งงานก็คงจะดีไม่น้อย
“เวลาไม่นานนี้ประมาณกี่ชั่วโมงครับ” อธิปัตย์ถามเพราะไม่รู้ข้อมูลการทำงานเท่าไหร่
“ก็น่าจะประมาณหกโมงไม่เกินเที่ยงคืนค่ะ ค่าใช้จ่ายก็ตามที่ฉันตกลงกับบริษัทไว้แล้วตกลงคุณจะรับงานไหม” อัญญารินทร์ถามย้ำอีกครั้งสายตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยความหวัง
“ถ้าหากผมปฏิเสธงานนี้ล่ะครับคุณจะทำยังไง” ชายหนุ่มถามออกไปเพราะอยากรู้ว่าหญิงสาวจะทำยังไงต่อ
“ถ้าคุณปฏิเสธฉันก็คงไปหาเจ้าอื่นค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยความรู้สึกผิดหวังเธออยากให้เขารับงานนี้เพราะเขาเป็นผู้ชายที่ดูดีทุกกระเบียดนิ้วถ้าเพื่อนๆ เห็นคงจะต้องอิจฉากันแน่ๆ
“ตกลงผมจะรับงานของคุณก็ได้”
“ถ้างั้นเราเซ็นสัญญากันเลยได้ไหม” หญิงสาวดีใจมากที่เขาตอบตกลงและเธอก็อยากจะรีบทำสัญญาเพราะกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจ
“ผมว่าเอาไว้วันหลังดีกว่าพอดีในสัญญามันเขียนชื่อผมผิดนะเดี๋ยวผมจะมาพรุ่งนี้ใหม่อีกครั้ง” อธิปัตย์หยิบสัญญาบนโต๊ะมาถือไว้เพราะกลัวหญิงสาวจะเห็นว่าบนนั้นไม่มีชื่อใครอยู่เลย
“ก็ได้ค่ะถ้ายังไงพรุ่งนี้คุณมาช่วงเย็นได้ไหมเรา อาจจะต้องทำความรู้จักกันนิดหน่อยร้านฉันปิดประมาณ 5 โมงเย็นค่ะ คุณมาสักห้าโมงครึ่งก็ได้นะคะ ฉันอยากคุยกับคุณตอนที่ไม่มีลูกค้าคนอื่นอยู่ในร้าน”
“ได้สิถ้างั้นพรุ่งนี้ตอนเย็นผมจะมานะ”
“ค่ะ กาแฟสองแก้วนี้ถือว่าฉันเลี้ยงคุณก็แล้วกันนะคะ” อัญญารินทร์รับกาแฟมาจากมือของกวางแล้วส่งให้ชายหนุ่มตรงหน้า
“ขอบคุณมากครับ”
อัญญารินทร์นั่งนิ่งเธอไม่รู้จะพูดอะไรออกมาในเวลานี้ เพราะมันไม่เหมือนที่เธอคิดไว้เลย ทุกอย่างที่ออกมาจากปากของอธิปัตย์มันยากเกินที่เธอจะเข้าใจหญิงสาวมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง ที่ผ่านมาเธอคิดว่าอธิปัตย์จริงใจมาตลอดและเธอเองก็ให้โอกาสเขาเข้ามาใกล้ชิด แต่ไม่เลยว่าจะถูกเขาหลอกด้วยรอยยิ้มที่จริงใจและสายตาที่อบอุ่น“คุณพูดจริงเหรอคะ” เธอถามเสียงสั่น “จริงครับ” อธิปัตย์พยักหน้าช้าๆ“แล้วทำไมคุณถึงโกหกฉันคะ ทำไมคุณไม่บอกความจริงกับฉันตั้งแต่แรก” อัญญารินทร์ถามเสียงดังขึ้นด้วยความโกรธ เสียใจและผิดหวัง น้ำตาเริ่มเอ่อคลอ“ผมขอโทษครับอัญญา ผมไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณเลยนะครับ” อธิปัตย์รีบจับมือเธอไว้แต่อัญญารินทร์ก็ดึงมือออก“ไม่ตั้งใจ? แล้วสิ่งที่คุณทำมาทั้งหมดคืออะไรคะคุณอธิปัตย์ คุณหลอกฉัน คุณหลอกฉันให้เชื่อว่าคุณเป็นแค่คนธรรมดา คุณหลอกฉันว่าคุณยอมเปลี่ยนชีวิตเพื่อฉัน” อัญญารินทร์พูดออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด“ผมไม่ได้หลอกนะครับ ผมแค่ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับคุณยังไง ไม่ว่าผมจะเป็นใครแต่ความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณก็เหมือนเดิมนะครับอัญญา” อธิปัตย์พยายามอธิบาย“แล้วตอนนี้ฉันจะเชื่อใจคุณไ
เช้าวันจันทร์อธิปัตย์ไปเริ่มงานที่บริษัทตามกำหนด ชายหนุ่มแต่งกายด้วยชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและน่าเชื่อถือ บรรยากาศในบริษัทดูเหมือนจะคุ้นเคยสำหรับเขาอยู่แล้ว การประชุมแรกในฐานะรองประธานผ่านไปได้ด้วยดี เขาสามารถตอบคำถามและให้แสดงความคิดเห็นกับเรื่องที่ประชุมเป็นอย่างดี สร้างความประทับใจให้กับบอร์ดบริหารและพนักงานที่เข้าร่วมประชุมถึงแม้จะยุ่งกับงานใหม่ แต่พอถึงเวลาพักกลางวันเขาก็โทรศัพท์ไปหาอัญญารินทร์แต่ก็คุยกับเธอได้ไม่นานเพราะช่วงเวลาพักเที่ยงที่ร้านของเธอก็ยุ่งมากหลังเลิกงานเขาถอดสูทออกและขับรถไปหาอัญญารินทร์ที่ร้านของเธอทันที“ร้านปิดแล้วเหรอครับ” อธิปัตย์ทักทายด้วยรอยยิ้มอย่างทุกครั้ง“สำหรับคนอื่นปิดแล้วค่ะ แต่สำหรับคุณอธิปอัญญาเปิดต่อให้อีกนิดก็ได้ค่ะ วันนี้ไปทำงานวันแรกเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยมั้ยคะ หิวหรือเปล่า” หญิงสาวถามอย่างห่วงใย“เหนื่อยมากเลยแล้วก็หิวมากด้วย เราไปกินข้าวข้างนอกกันนะผมว่าขนมปังคงไม่อิ่มแน่”“ได้ค่ะ” อัญญารินทร์ปิดไฟในร้านขณะที่เขาช่วยเธอดึงประตูลงก่อนจะพากันไปทานอาหารที่ร้านซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงแค่สามคูหาเมื่อมาถึงอธิปัตย์ก็รีบสั่งอาหารพอพนักงานยกมาเสิร์ฟเข
หลังจากการประชุมบอร์ดบริหารในช่วงเช้า ข่าวการเพิ่มตำแหน่งรองประธานคนใหม่ก็ถูกกระจายไปยังทุกแผนกของบริษัท พนักงานทุกคนต่างพากันตื่นเต้นที่จะมีเจ้านายคนใหม่ นอกจากข่าวที่แนบไปแล้ว ทางบริษัทยังแนบรูปถ่ายของอธิปัตย์ลงไปในนั้นด้วยสิรดาเพื่อนสนิทของอัญญารินทร์มองรูปถ่ายพร้อมกับชื่อของรองประธานคนใหม่ด้วยสีหน้าที่ตกใจ เพราะเธอไม่คิดว่าคนที่อัญญารินทร์จ้างไปเป็นแฟนเช่าจะกลายมาเป็นถึงรองประธานบริษัทใหญ่โตขนาดนี้ สีหน้าของหญิงสาวเต็มด้วยความกังวล เธออยากบอกเรื่องนี้กับอัญญารินทร์แต่ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนจะดีใจหรือเสียใจกับเรื่องนี้อีกอย่างสิรดาก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ทั้งสองคนคบกันถึงขั้นไหนเลิกงานสิรดาโทรไปถามอัญญารินทร์ เมื่อเพื่อนบอกว่ากำลังคิดจะเปิดใจให้อธิปัตย์ ฟังจากเสียงแล้วเหมือนอัญญารินทร์ชอบอธิปัตย์มากแต่ก็ยังไม่เรียกว่าแฟนสิรดาจึงคิดว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับเพื่อนในตอนนี้ แต่เธอจะต้องหาทางคุยกับอธิปัตย์ก่อน เธออยากถามว่าเขาโกหกทำไมและคิดจะบอกเรื่องนี้กับอัญญารินทร์เมื่อไหร่สายๆ ของวันเสาร์อธิปัตย์กำลังนั่งอ่านข้อมูลของบริษัทอยู่ที่คอนโด วันจันทร์ที่จะถึงนี้เขาจะเข้าไปทำงานเป็นวันแรกในตำแหน่งรอง
วันพฤหัสบดีอธิปัตย์ก็มาที่ร้านของอัญญารินทร์ตั้งแต่เช้าเพื่อช่วยดูว่าช่างติดตั้งกล้องวงจรปิดครบทุกจุดตามที่คุยกันไว้เมื่อตอนเย็นของเมื่อวานหรือเปล่าจากนั้นเขาก็ช่างเชื่อมต่อสัญญาณกล้องเข้ากับมือถือของเขาด้วยเพื่อจะได้เปิดดูระหว่างที่ไม่อยู่ที่นี่หลังจากทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยในเวลาบ่ายเขาก็ไปทานอาหารกับอัญญินทร์ก่อนจะขอตัวกลับเพราะอยากให้หญิงสาวได้พักผ่อน ส่วนตัวเขาเองนั้นตัดสินใจแล้วว่าจะกลับเข้าไปที่บ้านอธิปัตย์ขับรถเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของครอบครัวเขาบีบแตรที่หน้าบ้านและรอจนกระทั่งสาวใช้คนหนึ่งเดินมาเปิด“คุณอธิป” สาวใช้วัยกลางคนตกใจที่เห็นเจ้านายกลับมาบ้านทั้งที่ไม่เคยมีใครพูดเรื่องนี้มาก่อน“อย่าพึ่งตกใจเลยสาลี่เปิดประตูให้ฉันเข้าไปก่อนเถอะ” เขาหัวเราะกับท่าทางสาลี่ที่เหมือนกับคนโดนผีหลอกสาวใช้รีบเปิดประตูให้จากนั้นอธิปัตย์ก็ขับรถเข้าไปจอดด้านหน้าของประตูบ้านก่อนจะลงจากรถและเข้าไปทักทายบิดามารดาที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ในห้อง“สวัสดีครับ คุณพ่อสวัสดีครับคุณแม่”“อธิป!.....มาได้ยังไงแล้วใครไปรับที่สนามบิน โธ่....ลูกแม่จะมาทั้งทีทำไมไม่บอก” คุณทิพย์สุดาลุกขึ้นแล้วโผเข้ากอดลูกชายด้วยคว
“พี่อธิปสุดยอดเลยค่ะ” กวางเดินเข้ามาพูดกับอธิปัตย์หลังจากที่เขาคุยกับจิรวัฒน์จนชายหนุ่มยอมเดินออกไปจากร้าน“เขามานานหรือยังกวาง”“มาได้สักพักหนึ่งแล้วค่ะ พอเขามาถึงกวางก็รีบโทรบอกพี่อธิปเลยค่ะ ว่าแต่สองวันนี้พี่หายไปไหนมาคะ ทำไมไม่มาที่ร้านเลยล่ะคะ”“พี่มีธุระต้องไปทำนิดหน่อยนะ แล้วเป็นยังไงบ้างพี่อัญญาเขาพูดอะไรถึงพี่ไหม”“ไม่ได้พูดค่ะแต่กวางว่าพี่อัญญาต้องคิดถึงพี่อธิปแน่ๆ ค่ะเพราะพี่อัญญาชอบนั่งเหม่อแล้วก็มองออกไปนอกร้านเหมือนที่กวางส่งรูปให้ดูไงคะ”“ขอบใจนะกวางงั้นพี่ขอไปคุยกับพี่อัญญาของกวางก่อนนะ”“ได้ค่ะ เดี๋ยวกวางกับน้ำหวานจะดูหน้าร้านให้เองถ้ายุ่งหรือต้องการความช่วยเหลือจะกดกริ่งเรียกนะคะ”“ขอบใจนะกว้าง” อธิปัตย์อาทิตย์ยิ้มให้พนักงานทั้งสองก่อนจะเดินเข้าไปด้านหลังร้านซึ่งตอนนี้อัญญากำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวเล็กซึ่งเป็นจุดพักผ่อนของพนักงาน“เขากลับไปแล้วใช่ไหมคะ”“กลับไปแล้วเขาทำอะไรคุณหรือเปล่าอัญญา”“เปล่าค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่คุณมา”“แล้วคุณคุยอะไรกับเขาบ้างพอจะเล่าให้ผมฟังได้ไหม”“อัญญาไม่ได้คุยอะไรกับเขา เป็นเขานั่นแหละที่คุยอยู่ฝ่ายเดียว”“แล้วเขาคุยว่าอะไรล่ะ อยากเล่าให้ผมฟั
สองวันแล้วที่อธิปัตย์หายไปจากชีวิตของอัญญารินทร์ หญิงสาวรู้สึกแปลกๆ เพราะเขาไม่โทรหา ไม่แวะมาดื่มกาแฟ เธอรู้ว่าเขาให้เวลาเธอคิดแต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคิดถึงเขา เสียงหัวเราะ รอยยิ้มและเรื่องราวที่เขานำมาเล่ามันวนเวียนอยู่ในความคิดของเธออยู่ตลอดอัญญารินทร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหลายครั้ง คิดจะกดโทรหาเขา แต่ก็ต้องวางลงเพราะความไม่กล้า เธออดคิดไม่ได้ว่าบางทีตอนนี้อธิปัตย์อาจจะเปลี่ยนใจไปแล้ว เพราะคงไม่มีใครอยากเปลี่ยนชีวิตตัวเองเพื่อใครคนหนึ่งง่ายๆ หรือที่เขาพูดอาจจะเป็นแค่คำหลอกลวงและเธอเองก็หลงเชื่อกับคำพูดของเขา ความคิดเหล่านี้ทำให้เธอรู้สึกเศร้าเหมือนกับคนกำลังอกหักทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มต้นคบกันด้วยซ้ำ“พี่อัญญาเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ดูซึมๆ นะคะ” กวางถามขึ้นอย่างห่วงใย เมื่อเห็นเจ้านายเอาแต่นั่งเหม่อมองออกไปนอกร้าน“เปล่าหรอกกวาง พี่แค่คิดอะไรเพลินๆ น่ะ” อัญญารินทร์ฝืนยิ้ม“สงสัยคิดถึงคุณอธิปล่ะสิใช่ไหมคะ” กวางแซวเบาๆ อัญญารินทร์หน้าแดงเล็กน้อย“พี่จะคิดถึงเขาทำไมล่ะ เขาก็แค่แฟนเช่านะ” เธอตอบปฏิเสธ แต่ในใจกลับยอมรับว่ากวางพูดถูกกวางเห็นท่าทางของเจ้านายก็พอรู้ว่าตอนนี้คงกำลังคิดถึงคุณอธิป