“อืมมม...ไคล์...ซี๊ดส์” ลิ้นร้อนปาดป้ายเลียไล้เต้านมอวบอ้วน ตวัดเลียหัวนมแล้วดูดดุนอย่างสุขสม ส่งฝ่ามือนวดเน้นอีกข้างแล้วบิดบี้เม็ดนมจนแข็งเป็นไต
“อ๊า...ไคล์จ๋า...อื้อ...ซี๊ดส์ โอววว” ริมฝีปากสวยเม้นแน่นก่อนจะสูดปากสูดคออย่างซ่านสยิว แอ่นอกป้อนปากลิ้นฉกาจอย่างเต็มใจ เผยอร่องรักขึ้นถูบดลำร้อนใหญ่ยาวแข็งโป๊กที่ซุกซนอยู่ตามเนินเหน่า
ความเสียวซ่านจากการสัมผัสทำให้เธออดที่จะนึกถึงเซ็กส์ครั้งแรกเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ไม่ได้ เขาเริ่มต้นบทรักด้วยการจูบ...แต่ไม่ใช่จูบปากของเธอนะ แต่เขานั่งคุกเข่าลงต่อหน้าเธอ แล้วจูบเนินสวาทของเธออย่างลุ่งหลง ใช้ลิ้นสากอุ่นซ่านชำแรกร่องสวาทแดงเรื่อ ลากลิ้นขึ้นลงอย่างใจเย็น แหวกกลีบอุ่นรกเรื้อที่เต็มไปด้วยไรขนสีดำเงางามแล้วโฉบฉกดูดดื่ม
“โอวววว...” เขาดูดเม็ดกระสันเสียวของเธออย่างกระหืดกระหาย มูมมาม ทะลวงลิ้นซุกรูเนื้อนุ่มแล้วดูดดุนอย่างเอร็ดอร่อย สูบซดน้ำหวานสวาทที่หลั่งไหลเยิ้มย้อยออกมาจากร่องรูของเธออย่างหิวโหย ครางคำรามออกมาอย่างสาสมใจ
การปรนเปรอของเขาทำให้เธอโคตรรู้สึกดี ลิ้นแสนร้ายที่ซื่อสัตย์ของเขาทำให้เธอเสร็จสมไปสองครั้งก่อนที่เขาจะสอดใส่ลำยักษ์ยาวเฟื้อยสีทองเข้ามาในรูสวาทจนจมลึกสุดเร้น กระชากพรหมจรรย์ของเธอออกมาจนทะลักเยิ้ม ลามเลียซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนหนำใจ ไร้ความนุ่มนวลชวนฝัน แต่กลับเป็นความรุนแรงที่แสนหวานละมุน จนเธอไม่อาจลืมเลือน
“อ๊า...อูววว โอ้วส์ ไคล์ อืมมม ไคล์จ๋า...อืมม ดีค่ะ ดี ซี๊ดส์” ชายหนุ่มระบายลิ้นไปทั่วทั้งสองเต้าจนเปียกฉ่ำ สูบความหวานจากหัวนมทั้งสองข้างจนอิ่มเอม ก่อนจะเลียไล้ลงมาตามหน้าท้องแบนราบ ส่วนฝ่ามือเลื่อนลงกลางหว่างขาอ่อนระทวย ตะปบเนินอวบร้อนร่าน บีบขยำเคล้นคลึงด้วยปลายนิ้วแข็งแกร่ง “อื้อ...เสียว...อูยยย...ที่รัก”
“อ่า...อ่า...มาดาม มาดามที่รัก เบบี๋...อ่า...” เสียงครางของชายหนุ่มลั่นลำคอ ยามจูบไล้เนินหน้าท้องและเนินเหน่าอิ่มจนทั่วทุกอณู ก่อนจะเลื่อนตัวลงไปหาโหนกสวาทแสนสมบูรณ์ของหญิงสาว หย่อนลิ้นร้อนลงปาดเลียสองกลีบยั่วยวนจนเปียกฉ่ำ ชำแรกแทรกลิ้นกลางร่องรัก ไถถูขึ้นลงจนหนำใจแล้วตะปบเม็ดกระสันเสียวดูดดุนทรมาน
“อู๊วส์ อ๊าส์...เสียว...อูยย...อ๋อย ไคล์ อูววว สุดหล่อของฉัน ไคล์จ๋า ฉันเสียวโอยยย ทำไมคุณทำกับฉันแบบนี้” ครางสยิว แอ่นอ้อนป้อนความสาวเข้าปากลิ้นของเขาอย่างเต็มใจ จับข้อมือของเขาไว้แน่น เพื่อให้ฝ่ามือของเขานวดเน้นบีบขยำหน้าอกนุ่มฟูต่ออย่างร่านระริก
“คุณ...คุณ...คุณ!” เขาหันมองหาไปทั่วลำเรือ แต่กลับไม่เห็นใครสักคน ไม่เห็นแม้แต่เงา.. กระทั่งก้มมองร่องรอยตามพื้นเรือ ก็ได้เห็นคราบน้ำกระจัดกระจายเต็มไปหมด บ่งบอกได้ว่าต้องมีใครบางคนที่ตัวเปียกปอนเดินขึ้นเรือมาจริงๆ ใครบางคนที่มีกลิ่นกายพิเศษ กลิ่นละมุนเจืองจางบางเบา แต่กระแทกอารมณ์ความรู้สึกเขาจนซวนเซ"อ่าห์...อืมมม" นทีเริ่มมั่นใจแล้วว่ามุกมัจฉาคือนางเงือกที่อยู่ในความฝันของเขา...นางเงือกที่ทำให้หัวใจของเขาสั่นสะท้าน หญิงสาวที่สั่นคลอนอารมณ์ของเขาอย่างหนักหน่วง"ใช่เธอจริงๆด้วย ใช่เธอแน่ๆ" คิดได้เช่นนั้น...ชายหนุ่มรีบวิ่งไปที่ราวกั้นเรือแล้วตะโกนโหวกเหวกเรียกชื่อหญิงสาวไปทั่ว เปล่งเสียงกึกก้องเพื่อให้เธอและทุกสรรพสิ่งใต้ผืนน้ำได้ยิน “มุกมัจฉา!!! มุกมัจฉา!! มุกมัจฉา!! ได้ยินมั้ย ได้ยินเสียงผมมั้ย ผมมาหาคุณแล้ว ผมอยู่ที่นี่แล้ว มาหาผมสิ มาหาผมเดี๋ยวนี้..ผมอยากเจอคุณ ได้โปรด ขึ้นมาเถอะน่า ผมรู้นะว่าคุณเป็นใคร!!”ขาดคำของเขา...ท้องทะเลเหมือนโกรธเกรี้ยว คลื่นยักษ์ปั่นป่วนยิ่งกว่าเดิม ราวกับตอบรับเสียงเพรียกหาจากชายหนุ่มที่มีหัวใจเปี่ยมรัก แต่แทนที่นางเงือกสาวจะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำเพื่อมาหาเ
หลังจบงานแถลงข่าว..นทีรีบเข้าไปหาเลขาที่รออยู่ที่ห้องพักหลังเวที เขาหมายมั่นว่าจะได้เจอกับมุกมัจฉาในห้องนั้น แต่..“เธอไปแล้วครับ”“ไปแล้ว!!” เขาอุทานเสียงดังอย่างลืมตัว “คุณปล่อยเธอไปได้ยังไง”“ทำไมเหรอครับ เธอทำอะไรผิดหรือครับ”“ไม่ใช่อย่างนั้น” นทีปวดขมับ “เธอบอกมั้ยว่าจะไปที่ไหน”“ไม่ได้บอกครับ”“โหวว แล้วจะเจอได้ไงอีกเนี่ย”“เธอเพิ่งออกไปไม่นานเอง บอสน่าจะตามทันนะครับ ลอง..”เลขาพูดไม่ทันจบ นทีก็พรวดพราดออกไปทันที ทำเลขาถึงกับงง“บอสเป็นอะไรไปเนี่ย หรือว่าเหตุการณ์ร้ายทำให้กระทบกระเทือนจิตใจจน..เพี้ยนไปแล้ว!”นทีรีบขับรถออกจากโรงแรมอย่างรีบร้อน ขับไปตามถนนเลียบชายหาด เพื่อตามหาหญิงสาวชุดเดรสลายใต้ทะเล เจ้าของดวงตากลมโตสุกสกาวเหมือนปลาน้อย คนที่ทำให้ใจเขาคนึงหาทว่า ขับไปจนสุดถนนก็ยังหาไม่เจอ..เธอหายไปอย่างไร้ร่องรอย ถามจากใครก็ไม่มีใครเห็น..จึงขับรถกลับมายังโรงแรม ขอดูกล้องวงจรปิด ก็พบว่าเธอเดินลงไปที่ชายหาดเขาไม่รอช้า รีบวิ่งไปหาเธอที่ชายหาดทันที แต่ก็ไม่เจอเธออยู่ที่นั่นแล้ว สอบถามผู้คนที่มาเดินเล่นตามชายหาด ก็ไม่มีใครเห็นผู้หญิงลักษณะที่เขากำลังตามหาเลยสักคน...นทีหยุดยืนอยู
“ค่ะ เราตั้งใจจะแต่งงานกันอยู่แล้ว แต่..ฮือ คุณนที ไม่น่าเลย”ทุกคนพากันเห็นใจดาราสาว..รีบทวิตข่าวกันใหญ่“ได้ข่าวว่า คุณนทีดำน้ำเก่งมาก และว่ายน้ำอึดมากเลยนี่ครับ”“น่าจะเป็นเพราะเมาครับ”“มียาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องมั้ยครับ”ก้องเกียรติทำหน้ามีพิรุธเหมือนไม่อยากพูดความจริง “ไม่มีแน่นอนครับ ถ้าเจอศพของเพื่อนผมแล้ว ก็สามารถตรวจหาสารเสพติดได้เลยครับ”ขาดคำนั้น...มุกมัจฉาเดินเข้ามาในห้องแถลงข่าว แทรกคนกลุ่มใหญ่เข้ามายืนตรงจุดที่ทำให้ก้องเกียรติกับพิชาภาเห็นตัวได้ถนัดชัดเจนเมื่อสองคนนั้นเห็นมุกมัจฉาก็ตกตะลึงทันที เพราะเชื่อมั่นว่าเธอไม่น่าจะรอดจากทะเล แล้วทำไมถึงโผล่มาที่นี่ได้!!มุกมัจฉามองทั้งสองด้วยสายตาโกรธแค้น ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวด้านหลังเวที ซึ่งเวลานี้ไม่มีใครอยู่แม้แต่คนเดียวก้องเกียรติร้อนใจจนอยู่ไม่ติด “ผมขอจบการแถลงข่าวเท่านี้นะครับ และขอภาวนาให้เจ้าหน้าที่เจอร่างของเพื่อนผมโดยเร็วที่สุด ขอบคุณทุกท่านมากนะครับที่ให้เกียรติมาฟังการแถลงข่าววันนี้”พูดจบ..ก้องเกียรติโค้งคำนับให้นักข่าว รีบลงจากเวทีแถลงข่าว เดินตามมุกมัจฉาเข้าไปในห้องแต่งตัวหลังเวที โดยมีพิชาภาเดินตา
“ไม่เชื่อหรอก เดี๋ยวผมจ้างคุณเอง”เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “จ้างฉัน?? จ้างฉันทำอะไรคะ???”“เป็นเลขาไง”“อ้าวบอส แล้วผมล่ะ” นิพนธ์หน้าตื่น“เป็นเลขาส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับธุรกิจ” บอสรีบชี้แจง เลขาก็โล่งใจ “โอยย ผมอยากเห็นหน้าสองคนนั้นจัง ตอนที่เห็นเราสองคนโผล่ไป พวกเขาจะทำหน้ายังไงนะ”ดูเหมือนเขาสนุกนะ แต่เธอไม่สนุกเลย“คงอยากฆ่าฉันแน่”“ก็ดีสิ” อ้าว..ทำไมเขาพูดงั้นล่ะ “เข้าทางเลย”เขาทำหน้าเหมือนคิดแผนการใหญ่ออก“ตอนนี้ ก้องเกียรติกับน้ำหวานกำลังเตรียมตัวแถลงข่าวที่โรงแรมของเราใช่มั้ยคุณต้น”“ครับ กำลังเตรียมแถลงข่าวเรื่องอุบัติเหตุของบอส ..ว่าแต่ มันไม่ใช่อุบัติเหตุหรือครับ”“ก็ไม่ใช่น่ะสิ อย่างผมเนี่ยนะจะเมาตกเรือ”“หรือว่าคุณก้องเกียรติ” นิพนธ์ส่ายหน้าระอาใจ “บอสดีกับเขาขนาดนี้ เขายังทำได้ลงคอ แต่ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่ครับ เขาทำตัวเหมือนบอสทุกอย่าง เลียนแบบการแต่งตัว การพูดจา ความชอบ ไลฟ์สไตล์ เหมือนเขาอยากเป็นบอสเลยครับ”นทีถอนหายใจหนักหน่วง “ผมไว้ใจคนผิดเอง”“ว่าแต่ คุณผู้หญิงคนนี้??” เป็นใครเหรอ..“เธอเป็นคนสำคัญของผมน่ะ” เขาเผลอพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว ทำสองคนอึ้งไปตามๆกัน “ผม..รู้สึกว่า
“ไม่ได้ครับ ผมสัญญาไว้แล้ว รับไปเถอะ” เขายัดเงินใส่มือลุงผู้ใหญ่ “ไม่งั้นผมไม่สบายใจ”คนที่ช่วยเหลือเขา เขาตอบแทนอย่างดีเสมอ และคนที่ทำร้ายเขา เขาก็ตอบแทนอย่างสาสมเช่นกันระหว่างเดินบนสะพานไม้เพื่อมาขึ้นฝั่ง เลขาก็รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังไปด้วย“ผมเป็นห่วงมากเลยครับ แต่ก็แอบมีหวัง เพราะบอสดำน้ำเก่ง แต่พอรู้ว่ามีพายุเข้าก็เลย..กลัวเหมือนกัน แล้วตอนนี้บอสก็หายไปเกือบ50ชั่วโมงแล้วครับ”นทีนิ่วหน้า เขาหายไปอยู่ไหนมาตั้ง50ชั่วโมงนะ ถ้าเขาลอยอยู่ในทะเลนานขนาดนั้น ก็น่าจะไปเฝ้ายมบาลแล้วมั้ง “กลับโรงแรมกันเถอะ ผมมีเรื่องต้องสะสางเยอะเลย”เขาเดินนำเลขาไปขึ้นรถเก๋งที่จอดอยู่บนถนนเลียบชายหาด แต่หางตากลับเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินสวนเขาไป โดยเธอกำลังมุ่งตรงไปยังสะพานไม้หญิงสาวใบหน้าสวยหวาน ดวงตากลมโตสุกสกาว ผมดำขลับยาวสลวย สวมชุดเดรสผ้ามัดย้อมลายใต้ทะเลยาวถึงตาตุ่ม สวมรองเท้าผ้าใบสีขาวสายลมที่พัดมาแตะจมูก ทำเขาชะงักไปอึดใจหนึ่ง รู้สึกใจเต้นรัวอย่างบอกไม่ถูก เพราะเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆที่ทำใจเขาปั่นป่วน“เหมือน..เคยเจอที่ไหนมาก่อน” และเกิดความรู้สึกแรงกว้าว่าต้องปกป้องผู้หญิงคนนั้น..เขาเป็นอะไรไป
ไม่ใช่..เธออยากอึ๊บเขาตั้งแต่เจอหน้าครั้งแรกแล้ว แต่ไม่จำเป็นต้องบอกเขานี่นา“แล้วมันสำคัญตรงไหนหรือคะ” เธอยิ้มให้กับชายหนุ่มผู้เป็นรักแรกในชีวิต ลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาและแผงอกล่ำสันอย่างโหยหา เลื่อนฝ่ามือลงจับแท่งสวาทแสนรัญจวน ที่สร้างทั้งความเจ็บและความสุขให้กับเธอ“อืมม..” ชายหนุ่มทนไม่ไหว ก้มจูบริมฝีปากอิ่มสวยอย่างดูดดื่ม สอดใส่ความเป็นชายสู่กายเธอ แล้วสอดสาวตะบันเด้าอย่างเต็มอารมณ์ใคร่ ตักตวงความหอมหวานจากพรหมจรรย์ไม่รู้เบื่อ“อืมมม อือออ” เสียงครางแสนหวานดังแผ่วเบา สองร่างเสพสังวาสอย่างสุขสม ขณะคลื่นสาดซัดเย้าหยอกเป็นระลอก ท่ามกลางแสงแดดสุดสดใส สายลมแห่งท้องทะเล และเม็ดทรายขาวสะอาด สะท้อนแสงพริบพราว งดงาม...“อ่า...” ชายหนุ่มลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่านอนเกยอยู่บนชายหาดแห่งหนึ่ง โดยสวมเพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียว ท่ามกลางสายตาหลายสิบคู่ของเหล่าชาวบ้านที่พากันจ้องมองลงมาอย่างเวทนาอดสู เหมือนว่าเขานั้นเป็นศพไร้ญาติที่ลอยมาเกยหาด“โอ๊ะ!” เขาตกใจลุกขึ้นนั่ง“เฮ๊ย!” เหล่าชาวบ้านก็ตกใจไม่แพ้กัน ที่ศพเด้งตัวขึ้นมากระทันหัน“ยังไม่ตายนี่!!” ลุงคนหนึ่งพูดขึ้น จ้องหน้าเขาเขม็ง “หน้าไม่คุ้นเลย เป็นน