Share

เฝ้าแฟน

Penulis: เนตรน
last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-11 09:29:24

และแล้วก็เป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่ช่างยาวนานอีกแล้ว หัวที่ปวดตุบ ๆ ทำเอาไอน์แทบอยากจะบ้าตาย สุดท้ายตอนที่เช้าวันนั้นที่ไอน์ตื่นมาแล้วเจอกับผู้ชายคนนั้นเขาก็จำได้ทันที และภาพเหตุการณ์ในความทรงจำต่าง ๆ ก็หลั่งไหลเข้ามาเพียงเพราะไอน์ได้เห็นเสื้อยืดผืนบางที่เปียกน้ำจนปรากฏให้เห็นแผ่นอกแน่น ๆ ของมัดกล้ามเนื้อนั้น ทำเอาไอน์ประมวลสถานการณ์ต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติ และก็เพราะรู้สึกละอายเกินไปที่จะต้องเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายต่อ เขาเลยเลือกที่จะหนีมาอีกครั้ง

และในตอนที่เขาคิดว่าจะกลับไปขอโทษอีกฝ่ายให้เป็นเรื่องเป็นราวดีหรือเปล่านั้น ความทรงจำแรกเริ่มที่เจอกันก็ฉายชัดขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ความคิดในหัวของเขาตีกันยุ่งเหยิงไปหมด และไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีเจตนาต่อเขาอย่างไรด้วย แล้วถ้าเกิดว่าที่คนคนนั้นจงใจพาตนเองไปที่บ้านเพื่อปิดปากกับเรื่องที่ตนไปล่วงรู้ในสิ่งไม่ควรรู้เข้าล่ะ จะทำอย่างไร

และพอคิดไปคิดมา ก็ทำให้ไอน์รู้สึกหวาดระแวงขึ้นไปอีกว่า ผู้ชายคนนั้นอาจจะกำลังเฝ้ามองและรอจังหวะที่จะจัดการกับตนเองอยู่ก็เป็นได้ และพอนึกคิดถึงเรื่องที่ตัวเขานั้นไปทำกับอีกฝ่ายแล้ว ต่อให้เกิดกับใครก็คงรู้สึกว่าปล่อยผ่านไปไม่ได้เช่นกัน

“เฮ้อออ… แต่ก็… ใหญ่โคตร ๆ เลยนะ เอ้ยยยย!!”

คิดไปพูดไปอุทานไป จนใบหน้าหล่อเหลาเดี๋ยวก็แดงเดี๋ยวก็ซีด ผลัดเปลี่ยนไปมาอยู่อย่างนั้นเหมือนตกอยู่ในความคิดที่คิดไม่ตก

(จริง ๆ ลืมเหตุการณ์น้องเหมียวไปแล้ว เพราะจดจำได้แค่ใบหน้าของคนคนนั้น แล้วก็คิดถึงแค่ความทรงจำที่น่าอายของตัวเอง)

“เอาวะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว สู้ให้ทนอยู่ไม่สุขแบบนี้ แล้วเลือกไปแอบสังเกตการณ์เลยไม่ดีกว่าเหรอ เหมือนที่เขาว่ารู้เขารู้เรารบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง ต่อให้ความเป็นจริงจะไม่มีทางชนะก็เถอะ ไม่ชนะก็ช่าง แค่ไม่ตายแล้วถูกฝังลืมก็พอแล้วไง”

ไอน์พูดพึมพำกับตัวเองอยู่อย่างนั้นก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นยืนแล้วรีบแต่งตัวให้มิดชิด และปลอมตัวให้แนบเนียนจนคนอื่นจดจำไม่ได้มากที่สุด แล้วก็ไปยังที่หมายทันที

สุดท้ายชายร่างสูงที่ใส่ชุดสีดำมิดชิด ทั้งหมวกทั้งแว่น ทั้งหน้ากากอนามัยปกปิดจนมิดชิดก็ได้มายืนเฝ้าสังเกตการณ์ อยู่ใกล้ ๆ คอนโดหรูที่ตนเคยออกมาเมื่อครั้งนั้นอีกครั้ง

“… อยู่จริงหรือเปล่าเนี่ย? ใจคอจะไม่ออกไปไหนเลยหรือไงกัน”

ทั้งที่เฝ้ามองมาทั้งวันสุดท้ายก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนคนนั้น จนไอน์เริ่มถอดใจ แล้วก็เริ่มถอดเครื่องมือที่ใช้ปกปิดตัวตนไว้ออกไปทีละอย่างสองอย่างอย่างหมดความอดทน

“เอาวะ ถึงขนาดนี้แล้ว ก็มาดูกันว่าคนมันจะไม่อยู่ หรือไม่ไปไหนเลยหรือไงกัน”

พอคิดตัดสินใจได้ดังนั้น ไอน์ก็มาแอบอยู่ใกล้ ๆ คอนโดหรูจนไปตีสนิทกับคนแถวนั้นไว้อย่างแนบเนียน เพราะด้วยนิสัยที่เป็นคนอัธยาศัยดีอยู่แล้วเลยเข้ากับผู้คนได้ง่าย ไหนจะรูปลักษณ์ที่โดดเด่นจึงเป็นมิตรกับผู้คนได้อย่างง่ายดายในเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนคนนั้นอยู่ดี ทั้งที่คนรู้จักหน้าใหม่ ๆ ก็เพิ่มขึ้นทุกวัน

“อ้าว พ่อหนุ่ม วันนี้ก็มาเฝ้าแฟนอีกแล้วเหรอ”

“สวัสดีครับ ใช่ครับคุณยาย”

“หวัดดี ๆ ขยันจริง ๆ ”

“ไม่หรอกครับ แค่ความปลอดภัยของแฟนก็ต้องมาก่อนแค่นั้นเองครับ”

“เอาเถอะ ๆ หนุ่ม ๆ สมัยนี้พึ่งพาได้จริง ๆ ”

“ใช่ ๆ ทั้งหล่อ ทั้งนิสัยดี แฟนคงจะรักน่าดู”

และวันนี้ก็ผ่านไปอีกวัน แม้บทสนทนาจะฟังดูแปลกไปหน่อย แต่พอได้พูดหลายครั้งเข้าก็ไม่ได้รู้สึกแปลกเท่าที่คิด เพราะตอนที่ไอน์มาเฝ้าอยู่รอบ ๆ คอนโดหลายครั้งผู้คนที่พบเห็นเลยสงสัย และทางเดียวที่ไอน์จะแสร้งให้แผนการแนบเนียนคือ การโกหกไปว่า เพราะแฟนของเขาที่อาศัยอยู่ที่นี่หน้าตาดีเกินไปจึงชอบมีพวกคนแปลก ๆ เข้ามายุ่ง และเพื่อแฟนของเขา ไอน์จึงรับบทแฟนหนุ่มที่แสนดี มาเฝ้าระวังความปลอดภัยให้นั่นเอง

“ พี่ครับ ช่วงนี้แถวนี้ดูแปลก ๆ นะครับ ตอนแรกที่ผมมาบ้านพี่แถวนี้ออกจะเงียบแท้ ๆ มีแต่เพื่อนบ้านรุ่นคุณตาคุณยาย ผมยังเคยคิดเลยว่าพี่ยังหนุ่มยังแน่น จะอยู่ในที่ที่เงียบสงบแบบนี้ได้ยังไง ถ้าเป็นผมชีวิตคงได้เฉาลงไม่น้อย จนผมทนไม่ไหวแน่ ๆ ”

“…..”

“พี่… แถวบ้านพี่นะ พี่ไม่ทำท่าทีอยากรู้สักหน่อยเหรอครับ เกินไปแล้วนะ แต่ก็ช่างเถอะ ยังไงผมก็จะเล่าอยู่ดี”

“…..”

“อะ เอ่อ พี่อย่ามองแบบนั้นสิ ผมก็เขินแย่”

“…แล้วจะไม่เล่า?”

“เอาละ ช่วงนี้แถวบ้านพี่ คุณตาคุณยายชอบออกไปเดินเล่นข้างนอกกันบ่อยเลยนะพี่ ไม่ใช่แค่นั้นนะ บางวันก็จับกลุ่มพูดคุยกัน ทำอะไรกันสักอย่างเป็นวัน ๆ กันเลยนะ”

“แล้ว?”

“ใช่ไหมล่ะ พี่ก็ว่าแปลกใช่ไหมล่ะครับ”

“ตรงไหนที่แปลก”

“โธ่ พี่…. นี้มันบ้านพี่นะ ไม่หัดสงสัยสังเกตรอบข้างบ้างเลยหรือไงครับ ขนาดผมนาน ๆ มาเอาของทีผมยังดูออกเลย”

“……”

“อ่อ แล้วสรุปพี่จะเข้าร้านหรือยังครับ พี่ไม่เข้าหลายวันแล้ว ถ้าพี่ยังไม่เข้าไปอีก ผมจะตายแล้วนะครับ ช่วยเห็นแก่ลูกจ้างตัวน้อยอย่างผมด้วยเถอะครับบบบ”

“อื่ม เดี๋ยวเย็นนี้ไป”

“ครับ งั้นผมไปล่ะครับ”

หลังจากที่ชายหนุ่มรุ่นน้องจากไป เซนก็เดินไปมองดูตรงระเบียง เมื่อไม่ได้เห็นว่ามีอะไรผิดปกติ ก็คิดว่าลูกน้องหนุ่มน่าจะคิดมากเกินไป ที่ตอนนี้เขาเห็นก็แค่พวกคุณตาคุณยายที่นั่งพูดคุยกัน กับเล่นหมากรุกกันเท่านั้นเอง

แต่ก็อย่างว่าไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้นจะเป็นเหตุทำให้ตัวเขาเองคิดไม่ตกอยู่หลายวัน จนไม่ได้เข้าไปที่ร้านเลย ก็อย่างที่อีกฝ่ายพูดก็ถูก ช่วงนี้ที่ร้านก็ยุ่ง ๆ ด้วย ถ้าเขายังคงไม่เข้าไปดูอีก ก็เป็นการเพิ่มงานหนักให้พวกพนักงานเกินไปจริง ๆ ด้วย เพราะตอนนี้เชฟที่ร้านก็ยังไม่ลงตัว เซนเองที่เป็นเจ้าของร้านก็ต้องเข้าไปช่วยอย่างเลี่ยงไม่ได้เหมือนกันนั้นแหละ

“เฮ้อออ… ถ้ามาที่นี่แล้วไม่เจออีกล่ะก็….”

หลังจากที่ไปเฝ้าสังเกตการณ์มาแล้วล้มเหลว ไอน์จึงตัดสินใจจากความทรงจำว่า ตนเองนั้นจำได้ว่าวันนั้นเขาได้มานั่งดื่มที่ร้านนี้แล้วพอรู้สึกตัวอีกทีก็ตื่นที่คอนโดนั้น สรุปได้ว่าคนคนนั้นน่าจะหิ้วตัวเขาไปจากที่นี่แน่นอน เมื่อคิดได้ดังนั้น ไอน์ก็เลือกที่จะกลับมาที่ร้านที่เป็นจุดเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง

“วันนี้ฉันจะไม่ดื่มเยอะ วันนี้ห้ามเมา วันนี้ต้องหาให้เจอ”

ไอน์นั่งบ่นพึมพำ ท่องเป้าหมายไว้อย่างแน่วแน่

“ลูกพี่ครับ ช่วยออกมาดูข้างนอกทีสิครับ”

“…..”

สายตาคู่คมมองดูใบหน้าหล่อเหลาที่คอยวนเวียนอยู่ในความทรงจำของเขาตลอดในช่วงนี้ อย่างหมดคำจะพูด

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ใช่รักหรือเปล่า(บังเอิญรัก)   คบตั้งแต่ให้สิทธิ์แล้วล่ะ

    “อึก อื่ออ”“อรุณสวัสดิ์”เซนที่นอนมองใบหน้าหล่อเหลายามหลับ กำลังขยับแพรขนตายาวเปิดขึ้น ก็เอ่ยทักทายเสียงเบาราวกระซิบ ก่อนจะโน้มตัวเข้าหาแล้วมอบจูมพิตบนหน้าผากเนียน ยิ้มต้อนรับวันใหม่อย่างอารมณ์ดี“อึก อ่าา อะ เอว ผม”ไอน์ที่ตื่นเต็มตาเพราะถูกรอยยิ้มทรงเสน่ห์จู่โจมก็รีบสะดุ้งตัวขึ้น แต่ก็ต้องเผลอร้องออกมาเพราะความเจ็บปวดที่แทรกเข้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้ต้องรีบทิ้งตัวลงไปที่เตียงนุ่มอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้“หืม ปวดเอวเหรอ”เสียงทุ้มเอ่ยถาม ก่อนจะลุกขึ้นแล้วบีบนวดให้ด้วยสีหน้าเป็นกังวล“คุณเซน ผมขอถามอีกคำถาม นี่เป็นครั้งแรกของคุณแน่นะ”ไอน์ที่หวนคิดถึงเรื่องที่ตนและเขาทำกันไปจนเกือบฟ้าสาง ถ้าตนไม่ผล็อยหลับไปก่อน เห็นทีว่าคนหน้าไม่อายคนนี้ก็คงจะไม่ยอมหยุดเป็นแน่ จนเขานั้นเริ่มสงสัยขึ้นมาแล้วจริง ๆ ว่า เรื่องที่อีกฝ่ายทำกับตนนั้นเป็นครั้งแรกจริง ๆ ใช่ไหม“หืมม แน่นอนสิ ทำไมเหรอ?”“…ช่างมันเถอะครับ คุณไปอาบน้ำก่อนเลยเดี๋ยวผมค่อยไปทีหลัง”เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่เซนตอบกลับมาอย่างซื่อตรง ไอน์ที่เป็นคนถามก็รู้สึกเหลือจะเชื่อที่ตนตั้งแง่ถามออกไป เลยปล่อยร่างให้นอนจมลงไปที่เตียงนอนอีกครั้งแล้วโ

  • ใช่รักหรือเปล่า(บังเอิญรัก)   ไม่รีบบอกล่ะ

    “เจลน่ะ”เซนที่เห็นท่าทางของไอน์แล้วก็จำต้องกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ เพื่อข่มความปวดหนึบตรงแก่นกายของตัวเองไว้ แล้วโฉบใบหน้าเข้าไปขบเม้มที่ติงหูสีแดงระเรื่ออย่างตั้งใจ ก่อนจะกระซิบบอกเสียงแหบพร่า“…. ละ แล้ว ไม่รีบบอกล่ะครับ”ไอน์ที่รู้สึกเสียศักดิ์ศรีและเขินอายอยู่แล้ว ก็พูดโพล่งขึ้นอย่างเลิ่กลั่ก ไม่คิดว่าที่ตัวเองทำไปจะไร้ประโยชน์ แถมยังต้องมาทำอะไรน่าอายแบบที่ไม่เคยทำต่อหน้าอีกฝ่ายอีก ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว“ก็นายไม่ได้ถาม”เซนยังคงตีหน้ามึนตอบออกไปทั้งอย่างนั้น“อะ อยู่ไหนล่ะครับ รีบเอามาสิครับ ไอ้เจลที่ว่าน่ะ”ไอน์ที่เหมือนถูกล้อ ก็ยิ่งเลือดขึ้นหน้าด้วยความเขินอายและเสียหน้าเป็นที่สุด เลยตะโกนถามออกไปทั้งอย่างนั้น ให้ตายสิ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าการจะได้กินอะไรที่อยากกินมันจะยากเย็นขนาดนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกโมโหขึ้นมาหน่อย ๆ หรือจะไม่ทงไม่ทำมันแล้วดีกว่าหรือเปล่า จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวด้วย ดูจากไอ้กระบองยักษ์นั่น มันใช่ขนาดที่จะเข้ามาในร่างกายของคนได้จริง ๆ หรือไง ต่อให้คลายดีแค่ไหนก็คงไม่พ้นต้องเลือกตกยางออกอยู่ดีไม่ใช่เหรอแต่ไหน ๆ ก็ทำเรื่องน่าอายมจนถึงขนาดนี้แล้ว จะให้ปล่อยเ

  • ใช่รักหรือเปล่า(บังเอิญรัก)   จำไว้ล่ะ

    “เด็กดี เงียบก่อนนะ เอาอีกไหม”แม้จะยังไม่พอใจ แต่เซนก็ยอมถอดถอนจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่ง เสียงทุ้มติดแหบเอ่ยถามออกไปเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ พร้อมทั้งไล่จูบซับคราบน้ำตาบนใบหน้าหล่อเหลาอย่างอ่อนโยน“อื่มม”ไอน์ที่เผลอไผลไปกับรสสัมผัสที่แสนอ่อนโยน พยักหน้าตอบอย่างหลงลืมตัว จนริมฝีปากอ่อนนุ่มถูกความเร้าร้อนเข้าครอบงำอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง“พอใจ หรือยัง”“อึก! อึก”เพราะถูกคนตัวโตแกล้งมอบจูบที่แสนเรียกร้องเอาแต่ใจ พอเผลอไผล ก็กลับผละออก จนไอน์สะอึกเสียอย่างนั้น“ต่อไป ห้ามร้องเพราะคนอื่นอีกนะ ร้องกับฉันแค่คนเดียว”พอเห็นใบหน้าหล่อเหลาเริ่มขมวดคิ้วพร้อมทั้งสะอึก เซนจึงหยุดแกล้งก่อนจะเอื้อมมือไปลูบไล้เช็ดคราบน้ำตาที่ยังคงหลงเหลืออยู่ให้อย่างเบามือ แล้วเอ่ยพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น“ทำไม ครับ”ไอน์ซบใบหน้าลงตรงฝ่ามืออุ่น ก่อนจะเอ่ยถามอย่างนึกสงสัย“ฉันอยากได้สิทธิ์ที่ทำให้นายร้องไห้เพราะฉันคนเดียว”ดวงตาคู่คมจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวยที่ยังคงหลงเหลือประกายของคราบน้ำตา ก่อนจะเอ่ยอย่างจริงจัง“……”“ได้ไหม ตอบมาสิ”ไอน์ที่ถูกจ้อง หลงลืมตัวไปชั่วขณะ หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำอย่างหวั่นไหว หากตีค

  • ใช่รักหรือเปล่า(บังเอิญรัก)   เอาอีกไหม

    “หยุด ไม่ต้องเรียก หัดหยุดแล้วหัดฟังที่คนอื่นเขาจะพูดบ้าง ไม่ใช่มาถึงก็จะมาพูด ๆ ในสิ่งที่ตัวเองจะพูดอยู่ฝ่ายเดียว มีปากไว้พูดเป็นคนเดียวหรือไง ฮะ แล้วที่มายืนพูด ๆ อยู่หน้าห้องคนอื่นแบบนี้มันได้เหรอ นอกจากจะไม่มีสมองแล้วยังไม่มีมารยาทอีก ฉันเคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่า อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกน่ะ”ไม่ว่าจะทักท้วงอย่างไรอีกฝ่ายก็ไม่ยอมหยุดพูด ไอน์ที่หมดความอดทนเลยพูดตัดบทอย่างหัวเสีย“อะ ไอน์ อย่าบอกนะว่า ไอน์ลืมเราไปแล้ว ไม่จริง เรารู้ว่าไอน์รักเรามากแค่ไหน และเราก็รู้แล้วว่าเราเองก็รักไอน์มากแค่ไหนเหมือนกัน เราขอโทษนะไอน์ เรากลับมาคืนดีกันเถอะนะ”ถึงแม้จะชะงักไปเมื่อได้ยินคนตรงหน้าพูดขึ้นมา แต่ปกป้องก็ยังคงเชื่อว่าเป็นเพราะอารมณ์โกรธ และตอนนี้ตนก็มาถึงที่นี่แล้ว ไม่มีทางกลับไปมือเปล่าแน่นอน“เหอะ นี่นาย ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงฮะ!!”ไอน์ฟังปกป้องอดีตแฟนเก่าพล่าม จนหัวเราะออกมาเสียงต่ำ ยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ ว่าทั้งตัวเขาและปกป้องจะเข้าใจกันได้ไปในทางที่ดีขึ้น อย่าว่าแต่ตกลงเลย แค่พูดกันดี ๆ ยังเข้าใจคนละความหมาย จนตอนนี้ไอน์แทบจะเหลืออดด้วยความหงุดหงิดอยู่แล้ว“ทำไม อย่าบอกนะ ว่าเพรา

  • ใช่รักหรือเปล่า(บังเอิญรัก)   บอกแล้วใช่ไหม

    “หึ ก็หล่อจริง ๆ นั่นแหละ”เซนหยิบกระดาษแผ่นเล็กเปิดออกแล้วอ่านตามข้อความ “ตั้งใจทำงานนะครับ น้องชายสุดหล่อมาให้กำลังใจแล้ว” ก่อนจะยกยิ้มแล้วพึมพำออกมาเสียงเบา“ฮะ พี่พูดว่าอะไรนะครับ”พนักงานหนุ่มรุ่นน้อง ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เอ่ยถามอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงพูดของเจ้านายไม่ชัด“ไม่มีอะไร”เซนตอบด้วยท่าทีเรียบเฉย ก่อนจะรีบเก็บกระดาษแผ่นเล็กใส่ในกระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว“หืมม…”พนักงานหนุ่มรุ่นน้อง เห็นท่าทีมีพิรุธของเจ้านายหนุ่มเลยเลิกคิ้วทำเสียงอย่างสงสัย“เสร็จแล้วก็ไปทำงาน”เซนแสร้งทำท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วตอบกลับพนักงานหนุ่มรุ่นน้องเหมือนอย่างปกติ“ครับ คร้าบบ…”แต่พนักงานหนุ่มรุ่นน้อง รู้จักเซนมาหลายปีจึงสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนแต่ก็แสร้งลากเสียงตอบรับ อย่างทะเล้นก่อนจะรีบวิ่งออกไปเมื่อเห็นสายตาดุของรุ่นพี่ผู้เป็นนาย“คุณเซน”ไอน์ที่ยืนพิงอยู่ข้างร้านเอ่ยเรียกอีกฝ่ายทันทีที่ร่างสูงออกมาจากร้าน“หืม.. ทำไมยังไม่กลับอีก”สายตาคู่คมหันไปมองเจ้าของเสียงก่อนจะเลิกคิ้วเอ่ยถามอย่างสงสัย“ก็รอกลับพร้อมคุณเซนไงครับ”ไอน์ที่เดาไว้อยู่แล้วเลยตอบกลับไปอย่างหย

  • ใช่รักหรือเปล่า(บังเอิญรัก)   ก็หล่อจริง ๆ นั่นแหละ

    “…..”“… ใคร! โทรมาแล้วทำไมไม่พูด จะกวนประสาทกันหรือไง?”“… อะ เอ่ออ ไอน์ เดี๋ยวก่อน นี่ปกป้องเอง”“ฮะ!! ว่าไงนะ!?”“ไอน์ ปกป้องขอโทษ เราเลิกกับแฟ เอ่อ ผู้หญิงคนนั้นไปแล้วนะ จริง ๆ เป็นเรื่องเข้าใจผิด ปกป้องไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะ พอดีเพื่อน ๆ เชียร์ให้คู่กันและแซวเล่นเฉย ๆ เราไม่ได้คิดอะไรเลยจริง ๆ นะ คนที่เรารักที่สุดก็คือไอน์ ไอน์รู้ใช่ไหม เรากำลังจะไปห…”“เหอะ!! พล่ามเสร็จหรือยัง? แล้วไม่ต้องโทรมาอีกนะ”“อะ ไอ…”“เหอะ!! ไอ้เวรนี่ ตัวขัดขวางอารมณ์แท้ ๆ”ไอน์ กดวางสาย ก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสีย แต่ก่อนที่จะโมโหไปมากกว่านั้น ชื่อที่ทำให้ไอน์ต้องมองบนก็โชว์ขึ้นมา ทำให้ไอน์กดรับทันที“สวัสดีน้องชายสุดหล่อ เป็นไงได้ข่าวว่าโดนเท ได้ไปเรียนญี่ปุ่นคนเดียวหรือไง อะไรกันพี่สาวคนนี้ไม่ได้ไปหาแค่แป๊บเดียว เกิดเรื่องเวรอะไรขึ้นกับนายล่ะนั้น”“ให้มัน น้อย ๆ หน่อย แล้วอีกอย่างฉันก็อายุมากกว่าเธอตั้งสามปี”“เอาน่า ๆ หยวนหยวนกันไป”“มายงมาหยวนอะไร เป็นเด็กเป็นเล็กหัดมีสัมมาคารวะซะบ้าง”“โห… บ่นเหมือนคุณปู่เลย แล้วฉันมีข่าวเด็ดจะฟังไหม น้องสาวคนนี้ไปหาสืบมาให้ อย่างยากลำบากเลยนะคะ”“ข่าวอะไรของเธอ ถ้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status