“มึงชวนกูมาอยู่กับมึง เพื่อให้กูมาช่วยดูแลเมียมึงเนี่ยนะ” รรร [รัน] เลือกที่จะเดินออกมาจากชีวิตพิจิก ตั้งแต่วันที่พิจิกกับติณประกาศชัดเจน ไม่อยากรับรู้เรื่องราวของทั้งสองคนอีก ด้วยความบังเอิญทำให้รรรกับพิจิกต้องมาเจอกันในแบบ One Night Stand แต่พิจิกไม่ยอมปล่อยให้รรรจากเขาไปง่าย ๆ แบบครั้งที่แล้ว เขาตามตัวรรรจนเจอ ความจริงหลายเรื่องถูกเปิดเผย ติณเป็นเมียแค่ในนาม แต่ท้อง !! เกิดเหตุไม่คาดฝัน ติณล้มจนเกือบแท้งลูก พิจิกทำอะไรไม่ถูก รรรอดสงสารไม่ได้จึงเข้าไปช่วย สุดท้าย ถูกชวนให้ไปช่วยดูแลเมียท้อง ที่ไม่ใช่เมีย...
View More“มึงจะเอาไง มึงประชดกูทำเหี้ยอะไร”
“มึงนั่นแหละ เป็นไรมากปะวะ”
“มึงเสือกจะไปนอนกับไอ้เหี้ยนี่”
“กูจะนอนกับใครก็ได้ ไม่เกี่ยวกับมึง”
“แม่งเอ๊ย!!” พิจิกเตะกระป๋องข้างเท้า เพื่อระบายอารมณ์
ส่วนรรรทำเป็นไม่สนใจเดินไปกับคู่นอน
พิจิกกระชากกลับมา
“มึงอยากมากใช่มั้ย มึงไปกับกู เดี๋ยวกูจัดการให้มึงเอง”
คู่นอนคนใหม่ของรรรง้างหมัด พุ่งเข้าใส่พิจิก “มึงหยุด” เขาชี้หน้า “นี่เมียกู” พร้อมกับหยิบขวดเบียร์ขึ้นง้างเตรียมฟาด
“ไอ้สัตว์!!!...ไอ้เหี้ยจิก มึงมีสิทธิ์อะไรมาเรียกกู...เมีย”
“สิทธิ์ที่กูได้เอามึงไง” หน้าตากวนตีนกลับ
“เอากันครั้งเดียวเรียกเมีย ถ้างั้นกูก็มีผัวนับไม่ถ้วน” “เหี้ย!!” รรรถูกไอ้จิกลากขึ้นรถ
“มึงกับกูแค่พลาด” รรรน้ำเสียงอ่อนลง
“มึงพลาด แต่กูไม่” พิจิกยังคงกวนตีน
“แล้วเมียมึง” รรรหันมาถามกลับอย่างไม่เข้าใจ
“มันไม่ใช่อย่างที่มึงคิด กูเป็นแค่ผัวบังหน้าให้ไอ้ติณมัน ผัวมันตามรังควานจะเอาตัวมันกลับไป”
“มึงจะให้กูเชื่อเรื่องปัญญาอ่อน” รรรลอยหน้าถาม
“ถ้ามึงไม่เชื่อกู” ยื่นโทรศัพท์ที่กดสายถึงติณ “มึงคุยกับมันเลย”
“ทำไมกูต้องคุย” รรรปิดโทรศัพท์ “จะเมียจริง เมียปลอมมันก็เรื่องของพวกมึง ไม่เกี่ยวกับกู”
“มึงแม่ง” พิจิกตัดพ้อ
จากตอนแรกตั้งใจขับรถไปห้องรรร พิจิกตัดสินใจพารรรกลับห้องตัวเอง
“มึงจะพากูไปไหน” รรรเริ่มโวยวาย
“พาไปหาไอ้ติณ มึงจะได้รู้จากปากมัน กูพูดมึงก็ไม่เชื่อ”
“พูดอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ สุดท้ายแม่งเอากันไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่” รรรเริ่มงึมงำ
“กูไม่เคยเอามัน” พิจิกพูดเสียงหนักแน่น
“จะให้กูเชื่อ...หึ” รรรแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ เป็นการเยาะเย้ยสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยินมา
เหตุการณ์ย้อนไป 1 สัปดาห์...
ปาร์ตี้วันเกิดรุ่นพี่ที่ทำงานของรรร ปกติรรรไม่ชอบงานปาร์ตี้แบบนี้สักเท่าไหร่ แต่ที่ไปเพราะเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ พวกพี่ ๆ เห็นเป็นเด็กใหม่เพิ่งทำงานได้ไม่นาน ชวนออกงานบ้างจะได้สนิทกับเพื่อนร่วมงานมากขึ้น รรรจึงไม่ปฏิเสธ
อยู่ในงานรรรก็ปลีกตัวไปนั่งดื่มเงียบ ๆ มองพวกพี่สนุกกันจนแต่ละคนเริ่มเมา ส่วนตัวรรรนั่งดื่มค็อกเทลสีหวานด้วยความเพลิดเพลินในรสชาติ สุดท้ายเมาหลับไม่รู้เรื่อง
“รรร ทำไมเมาหมดสภาพอยู่คนเดียวแบบนี้” พิจิกมาเจอรรรโดยบังเอิญ
วันนี้เขาเองก็เบื่อ ๆ เซ็ง ๆ เลยมานั่งดื่มคนเดียว พลันสายตาหันไปเจอรรรกำลังดื่มอยู่ในกลุ่มปาร์ตี้นั้น พิจิกดีใจมากแต่จำต้องเก็บอาการไว้ ถ้าขืนเข้าไปหารรรตอนนี้ รรรต้องหนีเตลิดไปอีกเป็นแน่
จนเห็นว่ากลุ่มที่มาด้วยกันกับรรรแต่ละคนต่างเมาไม่ได้สติ แยกย้ายกันออกไปบางคนก็ได้คู่นอน บางคนก็ถูกเพื่อนช่วยพยุงไป สุดท้ายเหลือรรรที่นั่งเมาหมดสติอยู่มุมหนึ่งของบาร์จนไม่มีใครสังเกตเห็น
“รรร” พิจิกเข้าไปพยุงตัวรรรขึ้นมาประคอง และพาเดินออกจากบาร์ไป
พิจิกพยายามถามที่พักของรรร เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นรรรก็ย้ายห้องหนีเขาไป เขาเองก็ไม่รู้ว่ารรรไปอยู่ที่ไหน ถามเพื่อน ๆ ก็ไม่มีใครยอมบอก
พิจิกตัดสินใจพารรรไปเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งไม่ห่างจากบาร์ที่ออกมาสักเท่าไหร่
“ทำไมปล่อยให้ตัวเองเมาจนไม่มีสติขนาดนี้วะไอ้รรร” ปากบ่น แต่ก็จับคนเมาเช็ดหน้า เช็ดตัวให้พอได้สบายตัวก่อนนอน “มีแต่กลิ่นเหล้าทั้งตัว กูว่าจับอาบน้ำแม่ง”
รรรถูกพิจิกจับแก้ผ้า และแบกไปนอนในอ่างอาบน้ำ
“ไอ้จิก...กูคิดถึงมึง” รรรเริ่มรู้สึกตัว เห็นภาพตรงหน้าเป็นพิจิกจึงโน้มคอลงมาหาขยี้จูบด้วยความรู้สึกที่เก็บไว้ตลอด
“ไอ้รรรมึงทำเหี้ยอะไรวะ” พิจิกตกใจ แต่ก็ยอมรับใจตัวเองว่าคิดถึงรรรเหมือนกัน เขารู้สึกพิเศษกับรรรมานานแล้ว
พิจิกจัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองอย่างรวดเร็วไม่ปล่อยให้คนเมารอนาน ตามลงไปในอ่างบดขยี้จูบต่างฝ่ายต่างดูดปากกันอย่างเร่าร้อน ลิ้นร้อนแหย่เข้าโพรงปากที่ยังคงเหลือรสชาติหวานหอมของค็อกเทล ยิ่งดูดยิ่งหวาน ผลัดกันดูดอย่างหื่นกระหาย ลิ้นเกี่ยวกระวัดเล่นกันข้างใน
“รรร...มึงกำลังทำอะไรมึงรู้ตัวหรือเปล่า” ก่อนที่จะเตลิดไปไกลกว่านี้พิจิกลองเรียกสติรรรอีกครั้ง
“กู...นอนรอให้มึงเอากู” หลับตาพริ้มยั่วยวน “มึงก็อยากเอากู กูรู้...แต่มึงมันเหี้ยอยากเอากู แต่เสือกไปเอาไอ้ติณ มึงแม่งเหี้ย เหี้ยฉิบหาย”
พิจิกจูบปิดปากไอ้คนพูดมาก ลากลิ้นเลียจากซอกคอ ลงมาตวัดลิ้นเล่นที่หัวนม
“อ๊า...” พอได้ยินเสียงครางจากตวัดแค่ปลายลิ้น เปลี่ยนเป็นดูดขยี้ รรรแอ่นอกรับ มือทั้งสองกอดรัดพิจิกไว้แน่นไม่ยอมปล่อย “อือ...อื้มมม...” ทั้งเสียงคราง เสียงร้องยั่ว “มึงเอาของมึงเข้าสักที”
“แค่นี้ทนไม่ไหวแล้วเหรอวะ อยากมากใช่มั้ย” พิจิกจับรรรพลิกตัวจับขอบอ่าง คนรับก็รู้งานแอ่นก้นรอรับของใหญ่โต “กูไปเอาถุงยางก่อน” พิจิกลุกเดินขึ้นไปหยิบ ระหว่างรอใส่ถุงยางรรรทั้งแอ่นก้น แอ่นสะโพกยั่ว มือข้างหนึ่งสาวของตัวเองรูดรั้งขึ้นลงไม่หยุด
“จิกช่วยกูเร็ว ๆ สิ กูอยากจนจะไม่ไหว...อื๊อออ...”
พิจิกจับลำเอ็นขนาดใหญ่คับรูยัดกระแทกเข้าช่องสวาทสีสวย “ของมึงแน่นดีจังวะ” ลำเอ็นใหญ่โตถูกกระแทกเข้ามิดลำ
“อื้อ...อ้าาาา....”
แท่งเอ็นโดนรูสวาทรัดแน่นจนแทบทนไม่ไหว รูดเข้ารูดออก สลับกระแทกรุนแรง เสียงเนื้อกระทบกันลั่นห้องน้ำ “อย่าหยุด เอาเข้ามาอีก กระแทกเข้ามา อื๊อออ...อึ๊ม....กูเสียว กูจะเสร็จ อ๊ะ....อ๊าาาา...” น้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาอย่างกับไม่เคยแตก
“ของมึงรัดกู...เหี้ยเอ๊ย...ดีฉิบหาย...อึม....อึมมม...อื้อ” สุดท้ายน้ำแตกเต็มถุงยาง ลำเอ็นยังคาอยู่ในรูสวาท ตอนนี้กลายเป็นสีแดง “ดีฉิบหาย...ของกูยังไม่ลงยั่วกูดีนัก คืนนี้ทั้งคืนนะมึง”
คนยั่วก่อนหน้าตอนนี้หมดแรงพับคาขอบอ่าง จนพิจิกต้องจัดการอาบน้ำล้างตัว พาไปต่อบนเตียง ร่างเปล่าเปลือยของรรรนอนแผ่หลาเหมือนหมดแรง แต่อารมณ์ไม่หมดเหมือนรอสิ่งนี้มานาน
รรรนอนรูดรั้งของตัวเอง แอ่นสะโพกเป็นการเชิญชวนให้อีกคนมาต่อ มืออีกข้างแหย่รูสวาทเข้าออกโชว์สีแดงสวย “อืม...อื้อ...” รรรถึงกับต้องหลุดเสียงร้องเมื่อถูกลิ้นอุ่นแหย่เข้าแทนที่ ปลายลิ้นเลียรอบรูอย่างชำนาญ แหย่เข้าช่องทางปลายลิ้นตวัดด้านในสลับแทงเข้าออก จนรรรร้องไม่เป็นศัพท์ ตัวบิดเร่า มือจิกเกร็งที่ต้นคอของพิจิก กดไว้ไม่ให้หยุด “อยากกิน...” เอานิ้วมือดูดยั่วคนตรงหน้า มืออีกข้างเล่นกับตัวเองลูบไล้ บีบขยี้หัวนม
เอ็นลำใหญ่โดนยัดเข้าแทน “...อึมมม...กูจะแตก” น้ำรักจากลำเอ็นพุ่งเข้าเต็มปาก ล้นออกมาให้เห็นคราบขาวไหลรินทางมุมปาก รรรหลับลงอย่างคนหมดฤทธิ์
“ฤทธิ์เยอะนักนะมึง...แต่ดีฉิบหาย”
สองคนนอนกอดกันสภาพเปลือยเปล่า รรรเริ่มรู้สึกตัวงัวเงียตื่น แต่ยังคงมึนหัวงุนงงว่าตัวเองนอนอยู่ในสภาพนี้ได้ยังไง พอเห็นหน้าคนที่นอนกอดอยู่ด้วยแล้วถึงกับต้องเด้งตัวลุกขึ้นด้วยความตกใจ
“ไอ้เหี้ยจิก...”
พิจิกสะลึมสะลือ “มึงจะเสียงดังทำไมเนี่ย”
“กูมานอนกับมึงได้ไง” รรรพยายามเรียกสติทบทวนเรื่องเมื่อคืน แต่ก็จำอะไรไม่ได้ “แล้วมึงทำอะไรกู”
“มึงบอกให้กูทำ...หลายรอบด้วย” พิจิกทำหน้ากวนใส่
“…เหี้ย” หน้ายังคงครุ่นคิด
“มึงเมาไม่ได้สติอยู่ที่บาร์ แล้วพวกที่มากับมึงก็เมากันหมด เหลือมึงคนเดียวกูเลยจะพามึงไปส่ง แต่มึงแม่งไม่รู้เรื่อง กูเลยต้องพามึงเปิดห้องนี่แหละ” พิจิกช่วยเรียบเรียงเหตุการณ์
“แล้ว...”
“แล้วมึงก็ยั่วกู บอกให้กูทำ กูก็ทำ...มึงบอกว่า...”
“กูบอกอะไร”
“มึงคิดถึงกู” น้ำเสียงพิจิกแผ่วเบาลง
“กูก็แค่เมา...” รรรรีบเสเปลี่ยนเรื่อง เขาไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องนี้
“แต่เขาว่าคนเมาไม่โกหก” พิจิกน้ำเสียงจริงจัง
รรรไม่พูดอะไรอีก รีบลุกใส่เสื้อผ้าโดยยังมีพิจิกนั่งมอง “ก็แค่ one night stand” พูดจบก็พรวดพราดออกจากห้องไป
“สำหรับมึงมันแค่นั้น แต่สำหรับกูมันไม่ใช่” พิจิกได้แต่นั่งพูดกับตัวเอง
“ป๊าม๊าจะเอาเจ้าเด็กแสบอยู่หรือเปล่านะ” ติณเดินบ่นเข้าห้องมาด้วยความกังวล“เดี๋ยวก็รู้” มีนพูดขำ ๆ “อยู่ ๆ อยากปวดหัวตอนแก่”“คอยดูว่าพี่ภันต์จะดูแลทุกคน หรือพี่ภัณต์จะปล่อยโฮคนแรก” ติณคิดตามคำพูดมีนแล้วได้แต่ยิ้มส่ายหัว“แล้ววันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ” ติณถามด้วยความสงสัย ปกติเวลานี้มีนจะอยู่ออฟฟิศข้างล่างหรือไม่ก็เข้าเช็กงานที่สำนักงานใหญ่มีนทำหน้ากรุ้มกริ่ม “ป๊าม๊าเปิดทางให้ขนาดนี้ ขอลาวันหนึ่งนะครับ” เลียริมฝีปาก “นาน ๆ จะมีโอกาสแบบนี้สักที ขอจัดแบบทั้งวันทั้งคืนเลยนะ”“ทะลึ่ง...ทั้งวันทั้งคืนร่างพังกันพอดี”มีนเดินเข้ามาโอบเอวคุณแม่ “นะครับ...ทำน้องให้พี่ภัณต์กันนะครับ” ริมฝีปากหนากดจูบลงซอกคอ“อื๊อ...จักจี้” ติณย่นคอหลบ“ขอน้องให้พี่ภัณต์อีกคนนะครับ”มือเริ่มลูบไล้ผิวเนียนเรียบ กระดุมเสื้อโดนปลดอย่างไม่ทันรู้ตัว ติณตัวอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมกอดสามี สองมือบดขยี้หัวนมชูชันสู้มือ ร่างบางถูกอุ้มขึ้นแนบอก มือโอบรอบคอโน้มลงมา เผยอปากรอรับลิ้นอุ่น ขยี้จูบอย่างเร่าร้อนร่างบางถูกวางลงบนโซฟาอย่างเบามือ “ขอเป็นแฝดเลยนะรอบนี้”“ไม่สงสารติณเหรอ” สายตาหวานเยิ้ม สองแขนโน้มคอคนบนร่างลงมาแนบชิด“มีนจะดู
“แม่ครับ พี่ภัณต์กลับมาแล้วครับ” นภัณต์รีบวิ่งเข้ามากอดขาแม่ที่กำลังง่วนอยู่ในครัว“ว่ายน้ำสนุกไหมครับ” ติณคุกเข่าลงรับกอดจากลูกชาย“สนุกครับ แต่ป๊าไม่ยอมให้พี่ภัณต์เล่นต่อ พี่ภัณต์ยังไม่อยากเลิก” เด็กชายนภัณต์หน้างอฟ้องแม่“ป๊ากลัวพี่ภัณต์จะไม่สบายนี่ครับ อากาศเริ่มเย็นแล้ว” มีนเดินตามเข้ามา “ไปอาบน้ำกับป๊าก่อนนะครับ”พี่ภัณต์ยังดื้อเกาะขาแม่ไม่ยอมปล่อย “ไปอาบน้ำกับป๊าก่อนนะครับ จะได้ออกมากินข้าวกัน วันนี้แม่อบขนมของโปรดพี่ภัณต์ด้วยนะ” พอได้ยินคำว่าขนม พี่ภัณต์ก็เปลี่ยนอารมณ์เดินตามป๊าออกไปทันทีพ่อลูกอาบน้ำเสร็จ ติณก็จัดโต๊ะมื้อเย็นเสร็จทันกันพอดี“น่ากินจัง” มีนเดินมาโอบเอวจากทางด้านหลัง หอมแก้มติณฟอดใหญ่“พี่ภัณต์จะหอมแม่ด้วย” เด็กชายนภัณต์เกาะขาแม่ ไม่ยอมให้ป๊าทำแม่คนเดียว“แม่ให้สองข้างเลยครับ” ติณหันแก้มให้เด็กชายหอมทั้งซ้ายทั้งขวา“ทำไมพี่ภัณต์ได้หอมแม่สองแก้มเลยล่ะ ป๊าไม่ยอมนะ” มีนทำเป็นงอน“ป๊าไม่ใช่พี่ภัณต์ ป๊าต้องทำใจนะครับ” เด็กชายพูดอย่างผู้ชนะ“ป๊ายอมให้พี่ภัณต์คนเดียวนะครับ” มีนพูดพร้อมยกเด็กน้อยขึ้นนั่งบนเก้าอี้สูงประจำตำแหน่งของเขา“กินข้าวเสร็จแล้ว เราเอาขนมขึ้นไปกิ
โรงพยาบาล...“มากันหมดแบบนี้หมอจะไม่ตกใจแน่นะ” ติณมองทั้งสามคนที่นั่งเรียงกันอยู่หน้าห้องตรวจ“ถ้าอย่างนั้นจิกกับมีนรอหน้าห้อง” รรรเสนอ“ได้ไงล่ะพี่รรร ผมเป็นพ่อนะ” มีนโวยวาย“ติณ...จิกว่าคิดใหม่ดี ๆ นะ จะเอาไอ้นี่เป็นพ่อของลูกจริงอะ” พิจิกแกล้งแขวะน้อง“…” มีนกำลังจะอ้าปากเถียง แต่พยาบาลหน้าห้องเรียกเสียก่อน“แกเป็นเด็กเปิดเผยครับ ดูสิครับชัดเจนเลย” คุณหมอเลื่อนลูกศรชี้ให้ดู “ผู้ชายครับ” คุณหมอยิ้มก่อนจะพูดต่อ “ชัดเจนขนาดนี้ไม่น่าจะผิดพลาดนะครับ หรือถ้าอยากดูให้ชัดกว่านี้อายุครรภ์ประมาณ 28 สัปดาห์ลองมาทำ 4 มิติได้ครับ”“รรรร้องไห้ทำไม” พิจิกหันมาเจอรรรกำลังน้ำตาไหล“ก็มันดีใจ” มือเช็ดน้ำตาป้อย ๆ“ช่วงนี้คุณแม่จะอ่อนไหวเป็นพิเศษครับ เป็นเพราะฮอร์โมน คุณพ่ออย่าเพิ่งตกใจไปนะครับ” คุณหมอหันไปบอกพิจิก“ผมเริ่มจะชินบ้างแล้วครับหมอ” พิจิกเอามือลูบหัวรรรด้วยความเอ็นดู“ไปซื้อของให้หลานกัน” รรรเสนอเมื่อทุกคนเดินออกมาจากห้องตรวจ“ใจเย็นก่อนรรร” เดี๋ยวค่อยทยอยซื้อก็ได้ติณพูดดักคนขี้เห่อไว้ก่อน“ก็ได้” รรรหน้าจ๋อย“เราไปหาอะไรกินกันก่อนกลับไหม พี่รรรเริ่มกินอาหารได้เยอะหรือยัง” มีนเสนอ“พี่ยังไม
รรรทิ้งตัวลงบนเบาะรถด้วยสภาพอิดโรย “รรรเป็นไงบ้าง”“วันนี้แพ้เยอะมาก กินอะไรไม่ได้เลย อ้วกออกหมด”พิจิกเอื้อมมือไปช่วยปรับเบาะให้เอนลง “นั่งแบบนี้แหละ ยิ่งเอนเบาะยิ่งเวียนหัว” ขณะพูดก็ดมยาไปด้วย“อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม” รรรส่ายหน้า “ลูกครับทำไมทำแม่หนักแบบนี้ล่ะครับ” พิจิกก้มลงพูดกับท้องน้อย ๆ ของรรร จุ๊บที่ท้องไปหนึ่งที ก่อนที่จะขึ้นมาหอมแก้ม และจูบปากคุณแม่ที่ตอนนี้ซีดเซียวจนน่าสงสาร“อยากกลับบ้านแล้ว ไม่อยากมาทำงานแล้ว” น้ำตาค่อย ๆ ไหลรินออกทางหางตาพิจิกยังไม่อยากถามอะไรตอนนี้ ไม่อย่างนั้นรรรจะยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม ช่วงนี้รรรอ่อนไหวมาก อารมณ์แปรปรวนมาก แต่จะไปทางอ่อนไหว มากกว่าโมโหเกรี้ยวกราด“จิกรีบพากลับบ้านก่อน แล้วเราค่อยคุยกันนะ” พิจิกเอามือลูบหัว และเช็ดน้ำตาที่เลอะแก้มให้ ก่อนจะออกรถ“รรรนอนพักก่อน” พิจิกประคองตัวรรรเอนลงที่โซฟา“รรรยื่นใบลาออกแล้วนะ” แทนที่จะดีใจ แต่พิจิกกลับเป็นห่วงมากว่า“มีอะไรหรือเปล่า เกิดอะไรขึ้น ก่อนหน้านี้รรรยังอยากทำงานอยู่เลย หรือที่ทำงานเขาไม่โอเคกับการที่รรรท้อง”“ที่ทำงานโอเค แต่รรรรู้สึกว่าตัวเองทำงานได้ไม่เหมือนเมื่อก่อน รู้สึกทำอะไรก็ไม่
“หมั่นไส้เฮียชะมัด” มีนเดินบ่นเข้าห้อง และเดินเลยเข้าห้องครัว ออกมาพร้อมนมอุ่น“ไม่รู้สึกว่าตัวเองก็น่าหมั่นไส้หรือไง” ติณรับแก้วนมมาดื่มได้แค่ครึ่งแก้ว“ทำไมไม่กินให้หมดล่ะครับ” มีนเริ่มบ่น“เราต่างจากจิกตรงไหน ไม่เห็นต่างสักนิด” ติณแกล้งแซว “กินข้าวเยอะมากวันนี้ ถ้าให้พี่กินเยอะกว่านี้ อ้วกแน่ ๆ”“จะว่าไปก็ตื่นเต้นเหมือนกันเนอะ ต่อไปจะมีเด็กวิ่งซนรอบบ้านตั้งสองคนแน่ะ อายุห่างกันไม่กี่เดือน สงสัยจะพากันป่วนน่าดู”“ถึงวันนั้นพ่อ ๆ คงเห่อแต่ลูก จนลืมแม่กันหมด” ติณตัดพ้อ“พี่ติณ...เมื่อกี้พี่บอกว่า พ่อ ๆ พี่หมายถึงผมด้วยใช่ไหม” หน้าติณตอนนี้ทั้งดีใจ ทั้งตื่นเต้น“มีนรังเกียจหลานไหม” ติณนั่งลูบท้องตัวเอง มองตามีนอย่างรอคำตอบมีนคุกเข่าลงเอาหูแนบท้องทำเหมือนกำลังฟังเสียงคนข้างใน “ให้อามีนเป็นพ่อหนูนะครับ”“…” ติณได้แต่นั่งลูบหัวมีน ด้วยความตื้นตันใจที่มีนไม่รังเกียจลูกของเขา“สัญญากันแล้วนะครับ” มีนพูดกับตัวเล็กในท้อง พร้อมจุ๊บหนึ่งที“คุยอะไรกันฮึ” มือยังไม่หยุดลูบหัวมีน“ทำสัญญาพ่อลูกกันอยู่ครับ” ติณได้แต่ยิ้มอ่อนใจให้กับท่าทางของมีน ที่ดูเห่อลูกไม่ต่างจากพิจิกมีนยังคงกอดพุงน้อย ๆ ไม่ป
“ยินดีด้วยครับ ตอนนี้อายุครรภ์ 4 สัปดาห์แล้วครับ” คุณหมอยิ้มให้ทั้งสองคน “อาการแพ้ท้องส่วนใหญ่ก็จะอยู่ช่วง 4-12 สัปดาห์ แต่บางคนก็แพ้ถึงคลอดเลยก็มี และอีกอย่างหนึ่งคุณแม่อาจจะมีอารมณ์ขึ้นลง ซึ่งเป็นผลจากฮอร์โมนไม่ต้องตกใจ และหมอแนะนำให้คุณพ่อเตรียมรับมือให้ดีนะครับ” คุณหมอสบตาให้กำลังใจพิจิก“หมอนัดอีกทีเดือนหน้าเลยนะครับ แต่ถ้ามีอาการผิดปกติให้มาหาก่อนได้เลย วันนี้หมอจะจ่ายยาบำรุงเลือด วิตามินรวม และยาแก้แพ้ท้องไปนะครับ” คุณหมอแนะนำพร้อมรอยยิ้ม“รรรระวัง ค่อย ๆ เดิน” พิจิกตามประกบหน้าประกบหลัง จนรรรเริ่มรำคาญ“อุ้มรรรเลยไหม รรรจะสะดุดล้มก็เพราะจิกเดินดักหน้าดักหลังอยู่แบบนี้นี่แหละ”“ก็จิกห่วง” พิจิกเสียงอ่อย“ห่วงหรือเห่อ ไม่ใช่นาน ๆ ไปกลายเป็นเบื่อนะ” รรรเดินมาทิ้งตัวลงโซฟา“ทั้งห่วงทั้งเห่อ แต่ไม่มีทางเบื่อแน่นอน” พิจิกพูดด้วยความมั่นใจ“จิกไม่อยากให้รรรไปทำงานเลย ยิ่งรรรมีอาการแพ้ท้องแบบนี้ด้วย จิกเป็นห่วง”“รรรจะลองไปคุยกับหัวหน้าดูก่อน”“ลาออกได้ไหม” พิจิกจริงจัง“จิก” รรรเองก็รู้สึกกังวล เพราะเขารู้ดีว่าผู้ชายเวลาท้องแล้วอาการต่าง ๆ จะรุนแรงกว่าผู้หญิงมาก “รรรขอลองไปคุยกับหัวห
“ไม่หรอกมั้ง” รรรยังไม่อยากจะคิดไปในทางนั้น“รรรย้ายมาอยู่กับจิกได้เดือนกว่าแล้วใช่ไหม” ติณยิ้ม“อืม...”“และก่อนหน้านั้น รรรก็ป่วย อ่อนเพลีย กินอะไรไม่ลง แต่ช่วงนั้นมันน่าจะเร็วไปสำหรับการตรวจ”“…” รรรเริ่มเงียบ สีหน้าวิตกกังวล“อาการติณก็คล้าย ๆ แบบนี้เลยนะตอนแรก จิกกับมีนลองนึกดูสิ” ติณหันไปมองสองหนุ่มที่กำลังนั่งอึ้งอยู่“เนี่ย...ร้อยวันพันปีกินของพวกนี้หรือเปล่าล่ะ รรรยังไม่เท่าไหร่นะ อาจกินเพราะเวียนหัว มึนหัว แต่จิกล่ะ ทำไมกินได้อร่อยขนาดนั้น” ติณชวนสังเกต“จริงของพี่ติณนะเฮีย เฮียกินเยอะกว่าพี่รรรอีก”“แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน” พิจิกเริ่มสงสัย“เฮียไม่เคยได้ยินเหรอ...แพ้ท้องแทนเมียน่ะ” มีนลอยหน้าลอยตาแซว “ว่าแต่พี่รรรยอมรับเฮียเป็นสามีหรือยังเหอะ”“รับแล้วโว้ย” พิจิกพูดเสียงดังด้วยความภูมิใจแต่รรรกลับก้มหน้า เขี่ยยำในจานด้วยความเขิน“เลอะหมดแล้วพี่” มีนแซว“กลับห้องกันดีกว่า แกล้งพี่เขาอยู่ได้” ติณตีเข้าให้ที่แขนมีน“อีก 2 อาทิตย์จะได้รู้เพศหลานแล้วนะ”รรรเงยหน้าจากจานยำขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “รรรไปดูด้วยนะ”“อืม...แต่รรรต้องไปตรวจด้วยนะ”“พรุ่งนี้จิกพาไปตรวจนะ” พิจิกนั่งลงข้างรร
รรรตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนหัว มองไปรอบห้อง เมื่อเห็นว่าตัวเองอยู่ในห้องที่คุ้นเคย จึงเริ่มมองหาคนข้างกายแต่กลับว่างเปล่า รรรพยายามพยุงตัวเองลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้องพิจิกเปิดประตูกลับเข้ามาพอดี รีบเข้ามาประคองพาไปนั่งที่โซฟา“รีบลุกออกมาทำไม”“ตื่นมาแล้วไม่เจอใคร รรรกลัว”“จิกออกไปซื้อข้าว ซื้อยามา แล้วก็แวะดูติณมาด้วย รรรเป็นอย่างไรบ้าง”“ติณเป็นอะไรมากหรือเปล่า”“ไม่เป็นอะไร แต่ยังมีอาการเศร้าอยู่ เดี๋ยววันนี้มีนจะพาไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกที”“ไม่ต้องเอาแต่ห่วงคนอื่นเลย ห่วงตัวเองบ้าง รู้ไหมว่าจิกเป็นห่วงขนาดไหน” พิจิกไล่จับดูตามตัว ดูว่ามีบาดแผลตรงไหนบ้าง “หน้าช้ำหมดเลย เจ็บไหม” พิจิกใช้ปลายนิ้วลูบแผลเบา ๆ“…” รรรส่ายหน้าอมยิ้ม จับมือพิจิกขึ้นมาดู “ทำไมถึงได้บ้าระห่ำขนาดนี้ เจ็บมากไหม” สันหมัดพิจิกตอนนี้เต็มไปด้วยรอยช้ำ“ก็มันมาทำรรร” พิจิกกุมมือทับมือรรรไว้ “บอกแล้วไงว่าให้เลิกห่วงคนอื่น”“จิกไม่ใช่คนอื่นสักหน่อย จิกเป็นสามีรรร” ประโยคสุดท้ายแผ่วเบาเสียจนคนฟังแทบจะไม่ได้ยิน“จิกได้ยินไม่ถนัด” พิจิกดีใจแทบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่ “ขอฟังอีกครั้งได้ไหม”“ครั้งเดียวพอแล้ว” รรรเขิน“นะ...อยาก
“เชิญเข้าห้องครับ เดินเข้าไปดี ๆ อย่าให้ต้องใช้กำลังนะครับ”“จะทำอะไรพวกเราน่ะ” รรรตั้งสติถาม“ตอนแรกก็ว่าจะสนุกกับพี่แค่สองคน อยู่ ๆ ก็เพิ่มมาอีกหนึ่ง แต่พี่ติณท้องอยู่ด้วยสิ ทำไงดีนะ” ธูปมองติณอย่างเย็นชา“ลูกในท้องติณก็ลูกธูปนะ” รรรเตือนสติ“ใช่แน่หรือเปล่าก็ไม่รู้ ทุกวันนี้ก็เห็นระรื่นอยู่กับไอ้มีนนี่” ด้วยความโมโห ติณลุกขึ้นซัดหมัดเข้าปากธูปให้ได้เลือด“ปากหมานักนะมึง อย่าคิดว่าคนอื่นจะสันดานเดียวกับมึงสิ” ติณเตรียมพุ่งตัวใส่อีกครั้ง แต่รรรรีบคว้าตัวไว้ก่อน“ติณใจเย็นก่อน”ไอ้ธูปพุ่งตัวใส่ง้างหมัด แต่รรรเข้ามาขวาง รับหมัดเข้าที่หน้าเต็ม ๆ จนเซล้มลงไปกองกับพื้น“พี่รรรผมไม่ได้ตั้งใจ” ธูปตามลงไปจับหน้ารรร บีบคางแน่น “หน้าช้ำแบบนี้ไอ้จิกเห็นมันคงจะบ้าน่าดู”มันเดินไปหยิบขวดน้ำที่โต๊ะหัวเตียง กลับลงมานั่งคุกเข่าหน้ารรร หยิบซองยาจากกระเป๋ากางเกง “พี่จะกินเองดี ๆ หรือจะให้ผมป้อน” มันหยิบยาเม็ดเล็กออกจากซอง“รรรอย่ากินนะ” ติณเห็นก็รู้ทันที เพราะที่เขาต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะไอ้ยาตัวนี้...ผัวะ... ฝ่ามือมันตบลงหน้าติณ “หรือพี่อยากจะระลึกความหลังกับผมด้วย”“สารเลว” …ผัวะ... ธูปง้างมือตบลงหน้
Comments