#เวลาต่อมากล่องเล็กๆ ในมือแทบจะหล่นลงพื้น ตอนที่มะปรางเห็นขีดที่สองค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนแถบสีขาว เธอนั่งนิ่งอยู่ในห้องน้ำ ใบหน้าไร้สีสัน ดวงตาจับจ้องที่ผลตรวจนั่นราวกับโลกหยุดหมุนมันคือความจริง...'เธอกำลังท้อง'มือเธอสั่นเล็กน้อย ใจเต้นระรัว ความกลัว ความสับสน ความยินดีบางอย่างที่เธอยังไม่กล้าเปิดรับ ก่อนที่เธอจะรีบซ่อนผลตรวจไว้ใต้เสื้อผ้าชั้นในของลิ้นชักในตู้เสื้อผ้าถ้าเธอเอาทิ้งถังขยะเขาจะต้องเห็นแน่ๆ จากนั้นเธอก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วยืนขึ้นอย่างมั่นคงที่สุดเท่าที่ทำได้ถึงยังไงชีวิตก็ต้องเดินต่อ เธอยังมีคนที่ต้องดูแล ยังมีหน้าที่ที่ต้องทำ แต่เธอก็ไม่ได้คิดที่จะเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับตลอดไป ขอแค่เธอพร้อม เธอก็จะบอกเรื่องนี้กับเขาทันทีมะปรางใช้ที่ตรวจครรภ์หลังจากที่อนาคินทร์ออกไปทำงานแล้วและวันนี้เธอไปที่บ้านย่าเหมือนทุกครั้งพอถึงที่บ้านของย่าเธอยิ้มให้กับทุกคนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นก็เข้าครัวช่วยทำอาหาร ดูแลให้ย่ากินยา และนวดขาให้เหมือนเดิม แต่คนที่อยู่ด้วยกันทุกวันย่อมสังเกตได้"ช่วงนี้ปรางดูมีน้ำมีนวลขึ้นนะ" ย่าพูดลอยๆ ขณะนั่งอยู่บนเก้าอี้โยก มองหลานสาวด้วยแววตาอบอุ่นแ
#สองเดือนต่อมา เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นปลุกคนบนเตียงที่นอนคุดคู้อยู่ในอกของคนตัวโตกว่าให้ตื่นขึ้นมา เธอค่อยๆ เอาตัวเองออกมาจากอ้อมกอดนั้นอย่างช้าๆ ระวังไม่ให้เขาตื่น จากนั้นก็ออกมาจากห้องนอนด้วยความเงียบเชียบ ก่อนที่เธอจะเริ่มลงมือทำอาหารเหมือนอย่างเคยแต่ทว่าเช้านี้กลับรู้สึกเวียนหัวไม่ปลอดโปร่งอะไรสักอย่างเลย มันพะอืดพะอมอึมครึมเหมือนจะอาเจียนแต่ก็ไม่อาเจียน รู้สึกว่าในหัวมันตื้อไปหมดเลย เหมือนคนที่อยู่ในความมืดทั้งที่กำลังยืนอยู่ท่ามกลางแสงสว่างมะปรางพยายามประคับประคองสติของตัวเองจนกระทั่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย อนาคินทร์ก็ลงมาพร้อมกับแต่งตัวเรียบร้อยเตรียมที่จะออกไปทำงานเหมือนอย่างเคย"เธอไม่กินด้วยกันหรือไง""มะ ไม่ค่ะ ปรางเวียนๆ หัว""ไม่สบายเหรอ""อือ...ครั่นเนื้อครั่นตัวนิดหน่อยค่ะ แต่เดี๋ยวกินยานอนพักก็คงหาย""ถ้างั้นวันนี้เธอก็ไม่ต้องไปบ้านย่า โทรบอกคนดูแลเอาว่าไม่ค่อยสบาย เดี๋ยวเป็นอะไรไปมากกว่านี้""ค่ะ""ให้ฉันพาไปหาหมอไหม""ไม่เป็นไรค่ะ กินยาเดี๋ยวก็คงดีขึ้น""ฉันยอมแค่ครั้งนี้นะ ถ้ายังไม่ดีขึ้น เธอต้องไปหาหมอ และก็หาข้ออ้างไม่ได้แล้วนะ""ค่า"ไม่ใช่ว่าเขาไม่เป็นห่วงเธอ แ
#ภายในห้องประชุมชั้นใต้ดินขององค์กร บรรยากาศที่นี่ตอนนี้ไม่มีเสียงหัวเราะ ไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม อากาศเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศแต่ก็ไม่ได้หนาวเท่ากับบรรยากาศที่ถูกปกคลุมด้วยแรงกดดันที่ค่อยๆ บีบคั้นทุกลมหายใจของลูกน้องทั้งหมดที่นี่โต๊ะประชุมวงรีกลางห้อง รายล้อมด้วยชายฉกรรจ์ในชุดสูทดำ อาวุธครบมือพกซ่อนไว้ในเสื้อคลุมตามสไตล์ของกลุ่มมาเฟียที่ทำธุรกิจมืด อนาคินทร์นั่งอยู่หัวโต๊ะ แววตาคมกริบใต้เงาไฟนิ่งงันจ้องมองไปยังจอโปรเจคเตอร์ที่ฉายอยู่เบื้องหน้า ฉายให้เห็นรถบรรทุกที่ขนส่งสินค้าของเขา แต่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก คนขับและคนนั่งไปด้วยก็เสียชีวิต เรียกได้ว่าพังเละแบบไม่เหลือชิ้นดี"ใครเป็นคนอนุมัติให้ปล่อยของล็อตนั้นโดยไม่เช็คเส้นทางก่อน?"เสียงของเขาไม่ได้ตะคอกแต่มันราบเรียบและกดดันเสียยิ่งกว่าการถูกตะโกนใส่ตรง ๆ หน้าอีกไม่มีใครตอบ แต่ทว่าหัวหน้าฝ่ายส่งของเหงื่อตกท่วมตัว สีหน้าสลดอย่างเห็นได้ชัด"ผะ ผมคิดว่าเส้นนั้นมันสะดวกกว่า และของก็จะถึงลูกค้าเร็วกว่าเดิมด้วยครับ" เอ่ยขึ้นเสียงสั่นๆปัง!เสียงฝ่ามือตบลงบนโต๊ะไม้เนื้อแข็งอย่างแรง ดังก้องไปทั่วห้องราวกับปืนลั่นกลางวงประชุม เล่นเอาบรร
#เช้าวันต่อมามะปรางตื่นตั้งแต่เสียงนาฬิกาปลุกยังไม่ดัง เธอลุกจากเตียงอย่างเงียบเชียบ กลั้นหายใจตอนขยับตัวเพราะกลัวว่าจะปลุกคนข้างๆ ที่ยังหลับสนิทเมื่อคืนที่มีเซ็กซ์ด้วยกันไม่ได้ป้องกันอย่างที่ควรจะเป็นเธอรีบแต่งตัวหยิบกระเป๋าสะพายที่ในนั้นมีกระเป๋าใส่เงินอยู่ ก่อนจะรีบเดินออกไปโดยที่ไม่ได้บอกให้เขารู้ว่าเธอจะออกไปข้างนอกตอนนี้#คลินิกขายยาเธอไม่ได้เลือกร้านเพราะช่วงเช้าๆ แบบนี้ร้านยายังไม่ได้เปิดสักเท่าไร จะมีก็ส่วนน้อย เจอร้านไหนเปิดเธอก็ต้องแวะเข้าร้านนั้น และซื้อยากินให้เร็วที่สุด"สวัสดีครับ รับอะไรดีครับ""ยาคุมฉุกเฉินค่ะ""ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าเคยกินตัวไหนมาก่อนไหมครับ""ยังไม่เคยเลยค่ะ""ถ้าอย่างนั้นผมแนะนำตัวนี้นะครับ กลับไปแล้วทานข้าวทานยาได้เลยครับ ส่วนเม็ดที่สองให้ทานภายใน 12 ชั่วโมงหลังจากทานเม็ดแรก""มันได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ไหมคะ""ไม่นะครับ จำพวกยาคุมไม่ว่าจะฉีดหรือกิน ไม่สามารถคุมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์นะครับ ทางที่ดีจะต้องเป็นการป้องกันโดยการสวมถุงยางครับ""....." มะปรางตื่นเต้นจนมือของเธอนั้นเย็นเฉียบไปหมด ก็เพราะเมื่อคืนเขาดันมีเซ็กซ์กับเธอโดยไม่ได้ป้องกัน และเธอก็กลัวว่
#หลายวันถัดมาขณะที่มะปรางกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงแสนอบอุ่น อนาคินทร์ เปิดประตูแล้วก้าวเดินเข้ามาในความมืด ร่างสูงเดินเซเล็กน้อยแต่ก็พอประคองตัวเองไว้ได้ แต่ทว่าแววตากลับนิ่งขรึมเกินกว่าจะเรียกว่าเมาธรรมดา สภาพนี้เดินกลับมาถึงห้องนอนได้ก็ดีแค่ไหนแล้วเนี่ยเขาถอดเสื้อคลุมทิ้งไว้กับพื้นตามด้วยเสื้อเชิ้ตด้านในจนเหลือเพียงท่อนบนเปลือยเปล่า ก่อนจะเดินตรงไปยังเตียงใหญ่คิงส์ไซส์ที่มีร่างของ มะปราง นอนหลับอยู่"อืมหอมจัง" เขาโน้มตัวลง มองหน้าเธอที่ซ่อนอยู่ใต้ปอยผม ก่อนจะจูบซับลงไปทั้งอย่างนั้นด้วยความเมาไร้สติ แต่ก็ยังได้กลิ่นหอมของเธออยู่ดี'นานแค่ไหนแล้ววะ! ที่ไม่ได้สัมผัสเธอจริงๆ จังๆ แบบนี้'อนาคินทร์คิดอยู่ในใจ หรือเป็นเพราะเขาเมากันนะถึงได้คิดแบบนี้ แต่ใบหน้านี้ ร่างกายนี้ ริมฝีปากนี้ รวมถึงส่วนนั้นของเธอ เขาได้เชยชิมอยู่ตลอดอยู่แล้ว"ทำไมเธอน่าเอางี้วะ!" ปกติก็เป็นคนหยาบคายอยู่แล้ว แต่พอเมาเขาหยาบคายมากกว่าเดิมเสียอีกกลิ่นสบู่ราคาแพงอ่อนๆ บนตัวเธอยังเหมือนเดิม อนาคินทร์โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจเบาๆ ของเธอที่กำลังหลับสนิท ถึงจะเมาแต่ก็พอจะมีสติรู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำอะ
ณ ห้องนั่งเล่นในเพ้นท์เฮ้าส์ในวันว่างๆ ที่แสนเงียบสงบ มะปรางกำลังนั่งอยู่ทีวีอยู่หลังจากที่เพิ่งเสร็จจากงานบ้านทั้งหลาย ส่วนอนาคินทร์ก็นั่งอยู่ข้างๆ เช่นกัน"เธออยากให้ย่ามาอยู่ด้วยกันที่นี่หรือเปล่า" อนาคินทร์เอ่ยถามขึ้นมา"ใจนึงก็อยากค่ะ แต่คิดว่าย่าคงไม่ชอบหรอก คนแก่ไม่ชอบอะไรแบบนี้" ก่อนหน้านั้นก็คิดอยู่เหมือนกัน ว่าอยากจะให้ย่าของเธอมาอยู่ด้วยกันซะที่นี่ จะได้คอยดูแลกันอย่างใกล้ชิดและเจอหน้ากันทุกวัน แต่พอเห็นว่าย่ามีความสุขเวลาอยู่ที่นั่นเธอก็เปลี่ยนใจ"มันก็จริง""ถ้าย่าอยู่ที่บ้านหลังนั้นแล้วชอบ ก็ให้ย่าอยู่ไปเถอะ ปรางแวะเวียนเข้าไปหาได้อยู่""อืม.."มะปรางนั่งเงียบอีกครั้งเพราะสายตาและสมาธิทั้งหมดของเธอกำลังจดจ่ออยู่กับการ์ตูนตรงหน้า ใช่! เขากำลังนั่งดูการ์ตูนเด็กน้อยกับเธออยู่"อยากมีลูกหรือเปล่า?""คะ? อะไรนะคะ" ถามย้ำเพื่อความชัดเจน ว่าที่เธอได้ยินมันไม่ใช่เพราะเธอหูฝาด เพราะเธอมัวแต่สนใจกับทีวีตรงหน้า"เปล่า ไม่มีอะไร""คุณคิม..""ฉันก็แค่ถามเธอว่า เธออยากมีลูกหรือเปล่า""ถ้าหมายถึงตัวของปราง ไม่เลยค่ะ.." เธอมองหน้าเขาพร้อมกับส่ายหัว "สภาพชีวิตของปราง มันไม่ควรจะให้เด็กคน