LOGINสิ่งที่นางเอ่ยย่อมไม่ผิดจากนั้น บุรุษที่อยู่ในอ่างอาบน้ำกับนางสวมหน้ากากพยัคฆ์ที่ทำขึ้นจากทองคำ เป็นแบบครึ่งหน้า โดยตอกสลักเป็นลวดลายน่าเกรงขาม และนางหาได้เฉลียวใจว่าคนผู้นี้นางเป็นผู้ปลุกให้เขาตื่น! นางฉงนระคนตื่นเต้น พลางมองผ่านหน้ากาก จดจ้องหน่วยตาเขา ซึ่งเป็นสีดำทะมึน ดูลึกลับ ชวนให้หลงใหล ทว่าในห้วงเวลาเดียวกัน ลั่วฟางเซียนรู้ว่า ดวงตาสีดำขลับไร้หน่วยตาขาวนี้หาได้มีความเป็นมนุษย์! พยัคฆ์ทองคำ ส่งเสียงคำรามโฮกใหญ่ ไม่ใช่ความน่าเกรงขาม แต่เป็นการแสดงออกถึงความป่าเถื่อนของสัตว์อสูร จากนั้น เขาเอื้อมมือใหญ่มานวดเฟ้นเรือนร่างลั่วฟางเซียน มือคู่นั้นหาได้ผ่อนปรนต่อร่างกายหญิงสาว หน้าอกอวบสวยไหวสะท้าน ด้วยแรงมือเขาบีบคั้นประหนึ่งอยากให้นางปล่อยน้ำนม นางร้องประท้วงสุดเสียง แต่ไม่อาจหลุดพ้นจากไฟราคะอีกฝ่าย เมื่อเขาจับเอวคอดไว้มั่น จึงหมุนตัวนางหันหลังกลับ ลั่วฟางเซียนถูกจับตรึงชิดขอบอ่างไม้ ขนบนหลังต้นคอนางลุกชัน เหงื่อเกาะพราวบนหน้าผาก บั้นท้ายงอนงามโผล่พ้นผิวน้ำเล็กน้อย อวดเรือนร่างแสนรัญจวนใจแก่อีกฝ่าย “ทะ ท่านจะทำสิ่งใด?” ไม่มีเสียงตอบ แล
“ปละ ปล่อยข้า” นางร้องประท้วง แต่เจิ้งหวนหาได้ใส่ใจฟัง เขาทั้งฉุดแกมลากลั่วฟางเซียน เพื่อหลบวิถีลูกธนูไฟซึ่งพุ่งออกจากจุดลับตา และลูกหนึ่งหวิดปักหัวไหล่หญิงสาว ทั้งธนูไฟและเสียงคำรามก้องกังวานทำให้ลั่วฟางเซียนสั่นเทาไปทั้งร่าง กระนั้นนางยังดิ้นขัดขืน ด้วยอยากรู้เหลือเกินว่าภายใต้หน้ากากเขาปีศาจ ซ่อนใบหน้าบุรุษใดเอาไว้ มันจะงดงาม หรืออัปลักษณ์ชวนให้พรั่นพรึง “พี่หวน!” ลั่วฟางเซียนเรียกชื่อคนที่ช่วยนางเอาไว้ และสงสัยเหลือเกินว่าเขาโผล่เขาโผล่มาที่นี่ได้อย่างไร “เป็นพี่เอง เจ้าได้รับอันตรายหรือไม่” เมื่อเขาถาม ลั่วฟางเซียนพลันเกิดความกระดากอาย ทั้งรู้สึกว่าตนเป็นหญิงที่ไม่คู่ควรกับบุรุษคนใด นางแปดเปื้อนเกินที่เจิ้งหวนจะอุ้ม และกอดเอาไว้ด้วยความห่วงใยเช่นนี้ “ข้าทำสำเร็จแล้ว ถานป๋อ ถูกพิษจากกำไลสยบมังกร” ฟ่านลั่วเซียน เลือกพูดถึงสิ่งที่นางภูมิใจ ยามนั้น เจิ้งหวนไม่อยากทำให้ความดีใจที่ลั่วฟางเซียนสูญเปล่า แต่เขาต้องบอกให้นางเข้าใจถึงความจริงของบุรุษสกุลถาน “เจ้ามั่นใจหรือว่า เมื่อครู่คือถานป๋อ!” ลั่วฟางเซียนอึ
ดวงตาคมของเจิ้งหวน มองไปยังเงาที่เคลื่อนไหวในเรือนเปิดโล่ง ภาพจากมุมนี้ไม่ชัดเจน แต่เสียงชายหญิงที่ดังอย่างเร่าร้อน แจ้งชัดว่าพวกเขากำลังอุ่นเตียงอย่างซาบซ่านถึงใจ เขามาถึงคฤหาสน์สัตตบงกชได้อย่างไร เรื่องนี้นับว่าโชคช่วยเอาไว้ หลังจากตามหาลั่วฟางเซียนอยู่สองคืน เขาบังเอิญพบสตรีชื่อ เหยียนเข่อซิน นางซ่อนตัวอยู่นอกเมือง คราแรกนางไม่อยากพูดถึงหญิงคนรักของเขา หากสุดท้ายได้อธิบายอย่างรวบรัดว่า ลั่วฟางเซียนถูกส่งตัวไปแทนนาง ดังนั้นเหยียนเข่อซินตัวจริง จำต้องหายสาบสูญไปจากเมืองกุ้ยโจว ถึงจะล่วงรู้ว่าลั่วฟางเซียนแต่งเข้าสกุลถานในฐานะอนุเหยียน แต่การเข้าไปสถานที่บนภูเขาสูงไม่ใช่เรื่องง่าย เจิ้งหวนต้องปลอมตัวเป็นคนงานเก็บมูลและทำความสะอาด และได้พบว่าด้านหลังของคฤหาสน์มีศพคนตาย สภาพศพถูกสุนัขกัดมีแผลเหวอะหวะ เขาจึงแน่ใจว่าที่นี่มีเรื่องราวชวนสยองปกปิดเอาไว้ จากนั้นเขาจึงอาสาช่วยฝังศพ และค่อยๆ สวมรอยเข้าไปเป็นคนงานในโรงครัว ดวงตาคมของเจิ้งหวนมองไปเบื้องหน้าอย่างไม่วางตา ยามนี้ เขายังรู้สึกวิงเวียนศีรษะขึ้นเรื่อยๆ เป็นเพราะโดยรอบของคฤหาสน์มีทั้งพืชประหลาด อีกทั้งกลิ่นหอม
ภาพในวันวานลอยเข้ามาในหัว ลั่วฟางเซียนเป็นลูกสาวหมอตำแยหญิง มารดาต้องโทษทำให้ครอบครัวสกุลใหญ่ของพ่อค้าตายยกครัว ความผิดยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นเพราะยาของมารดานาง แต่ในฐานะหมอเถื่อน ย่อมต้องรับผิดชอบ ลั่วฟางเซียนดิ้นรนหาทุกวิถีทางเพื่อช่วยมารดาและคนของร้านขายยาสกุลลั่ว กระทั่งต้องถูกจับขังไว้ในที่ลับ หากโชคชะตาพลิกผลัน เมื่อนางได้รับงานว่าจ้างให้มายังคฤหาสน์แห่งนี้ โดยที่ลั่วฟางเซียนต้องตามหาบุรุษชั่วถานป๋อให้พบ จากนั้นต้องวางยาเขา เมื่อสบโอกาสก็สังหารอีกฝ่าย “อย่าได้ห่วง เพียงแค่ทำให้ชายบ้าตัญหา หลงระเริงกับความสาวของเจ้า จากนั้นจงพรากลมหายใจของเขาออกจากร่าง!” ลั่วฟางเซียนได้ยินเรื่องน่ากลัวของชายสกุลถาน อีกทั้งสตรีที่นางรู้จักต้องสิ้นลมหายใจหลังจากถูกลักพาตัวไปบำเรอกามให้แก่เหล่าบุรุษชั่ว ซึ่งนางทราบมาว่าพวกเขามีถึงสิบสองคน! “แล้วข้าจะออกจากคฤหาสน์หลังนั้นได้อย่างไร” นางเอ่ยถามพวกที่อำพรางใบหน้าไว้ และพวกเขาส่งแผนที่มาดู พร้อมอาวุธลับหลากหลายชนิดที่นางจะใช้มันเพื่อเอาตัวรอด รวมถึงยังบอกนางอีกว่า คฤหาสน์สัตตบงกชมีคนของพวกเขาปะปนอยู่ นางจะได้รับการช่
เขาช่วยรักษานางหรอกหรือ ลั่วฟางเซียนไม่อาจคิดในแง่ดี ทว่านางหายใจหายคอสะดวกขึ้น อีกทั้งอาการคล้ายคนถูกมอมยาทุเลาลง “ท่านทำสิ่งใตต่อข้า!” น้ำเสียงลั่วฟางเซียนเฉียบขาด และคาดคั้น อีกฝ่ายหัวเราะเสียงชวนให้ครั่นคร้ามใจ ก่อนทำให้นางพิศวงจากคำตอบดังกล่าว “เตรียมเจ้าให้สะอาดที่สุด เพื่อเป็นเจ้าสาวของถานป๋อ” เสียงดังกล่าวทุ้มต่ำ ฟังแล้วชวนตื่นตระหนก และลั่วฟางเซียนไม่ทันได้ขยับตัวไปไหน นางต้องหวีดร้องด้วยความตกใจเมื่อถูกรวบเอวบาง จากนั้นจึงไปนั่งแปะอยู่บนร่างกายของชายหนุ่ม อึดใจต่อมา ลั่วฟางเซียนไม่แน่ใจว่านางคิดมากเกินไป หรือไม่ ทว่าความรู้สึกที่จับต้องได้คือสิบสองไม่ได้อยู่ในเรือนอักษร ดังนั้นตอนนี้นางเผชิญหน้าอยู่กับผู้ใด !? ร่างกายที่นั่งทับอยู่นี้ เนื้อตัวเขาไม่ได้เย็นจัด หรือร้อนรุ่ม แต่บ่งบอกได้ถึงความมีเลือดเนื้อ เป็นบุรุษที่รูปงาม สมชาตรี นางนั่งอยู่เช่นนั้น พลางคิดปะติดปะต่อเรื่องต่างๆ ในหัวเข้าด้วยกัน ภาพในเช้ามืดที่คนกลุ่มนั้น เดินทางมาพร้อมเงินจำนวนหนึ่ง และข้อความที่บอกให้นางปลอมตัวมาแทนสตรีที่จะแต่งเข้าสกุลถาน เพื่อเป็นอนุ
ยามนั้นความรู้สึกสาแก่ใจบังเกิดขึ้น มันช่างเหลวไหลนัก นางกลายเป็นคนที่มีสติวิปลาสตั้งแต่เมื่อใด “ข้าจะช่วยท่านให้หลั่งออกมาดีหรือไม่” นางเอ่ยจบแทนที่จะได้ยินเสียงตอบ เขากลับครางเสียงทุ้มๆ ราวกับเป็นการขอร้อง “ดีๆ ข้าจะทำให้ท่านปลดปล่อยจนสุขสมใจ” เท้าข้างนั้นยังออกแรงกดแก่นกายปลายหัวหยักที่บานเบ่งและมันวามวาว ก่อนที่อีกมือจะคว้าเอาพู่กันที่มีด้ามยาวราวสองศอกมาถือไว้ ปลายของมันข้างหนึ่งใช้เขียนตัวอักษร อีกด้านฝังเหล็กเอาไว้ มันไม่ได้มีความคม หากคือตราเหล็กแกะสลักเป็นตัวอักษร อ่านได้ว่า ‘สิบสอง’ สือเอ้อร์ ลั่วฟางเซียนเลือกใช้ปลายพู่กันที่เป็นขนจิ้กจอกเขี่ยยอดหน้าอกแข็งเป็นไตของชายหนุ่ม ผู้ที่นางจะเรียกเขาว่าคุณชายสิบสอง “อยากสำราญหรือไม่ ขอร้องข้าสิ สิบสอง ท่านครางให้ข้าฟังดังๆ” คำพูดนางได้การตอบรับจากอีกฝ่ายเป็นอย่างดี เสียงที่เขาเปล่งจากลำคอ มันชวนสยิว ทั้งทำให้กลีบงามของนางในร่มผ้าแฉะชื้น “อ๊ะ...ข้าจะทำให้ท่านคลั่ง กลายเป็นคุณชายผู้ที่กลั้นน้ำคาวเข้มข้นสีขุ่นเอาไว้ไม่ไหว” นางเอ่ยราวกับเป็นหญิงร่านสวาท จาก







