บทที่ 15 มาช้าดีกว่าไม่มา
เยว่หรูเดินกลับบ้านในทิศทางเดิม เธอไม่ได้ออกนอกเส้นทางไปทางอื่นเลย มองเวลาแล้วเธอต้องรีบกลับ หากชักช้ามันอาจถึงบ้านมืดได้ เพราะตั้งใจเดินกลับบ้านเพื่อประหยัดเงิน
"หนู ๆ ช่วยยายหน่อย" เสียงร้องเรียกใครไม่รู้ แต่เพราะมันเสียงดังเลยทำให้เยว่หรูที่กำลังรีบเดินกลับบ้านหันไปมองหาที่มาของเสียง
"เรียกหนูเหรอคะ" เมื่อไม่เห็นใครนอกจากตัวเธอเองก็หันไปถามคุณยาย
"ใช่ ๆ พอดียายจะกลับบ้านแต่ของมันเยอะ ช่วยถือไปส่งหน่อยได้ไหม ไม่ไกล ๆ ซอยข้างหน้านี่เอง" เมื่อเห็นเด็กสาวหันมามองแล้วเลยขอความช่วยเหลือ
"อ้อ... ได้ค่ะคุณยาย" เยว่หรูมองกระสอบที่วางอยู่ใกล้ ๆ เลยเข้าไปช่วยหิ้วทันที
"ยายเดินนำ ตามมาเลย" บอกจบก็เดินนำหน้าเลย
ส่วนเยว่หรูที่อุ้มกระสอบก็สงสัยว่าคืออะไรอยู่ข้างใน มันไม่ได้หนักมาก จากที่สัมผัสดูเหมือนเป็นผ้าเลย มัวแต่มองสิ่งที่ตัวเองถือและเดินตามหลังคุณยายเลยไม่ได้สังเกตสิ่งที่อยู่รอบข้าง
"ส่งถึงตรงนี้แหละหนู ขอบใจมาก อันนี้ยายให้เป็นค่าตอบแทน" บอกพร้อมกับยื่นสร้อยข้อมือมาให้
"ไม่เป็นไรค่ะคุณยาย แค่นี้เองค่ะ" เยว่หรูบอกพลางวางกระสอบก่อนที่จะมองรอบ ๆ ความสงสัยก็เกิดขึ้นทันที... ทำไมซอยนี้มันเงียบเหงา เหมือนไม่มีคนอยู่เลย หรือเขาไปทำงานกันหมด
"ผู้ใหญ่ให้แล้วก็ต้องรับ... เอาไป... มันคือสร้อยข้อมือที่ทำจากลูกปัดธรรมดานี่เอง อย่าได้เกรงใจ" คุณยายยังยัดสร้อยข้อมือมาให้
"คุณยายคะ... หนูว่ามันเหมือนไข่มุก" เยว่หรูมองดูก็คิดว่ามันเหมือนไข่มุกมากกว่า ไม่น่าจะใช่สร้อยลูกปัดธรรมดา... คุณยายดูผิดแน่ ๆ
"เวร... กรรม... หายไปไหนแล้ว" พอเงยหน้ามองกลับไม่มีคนอยู่เลย ไม่เห็นใครเลย สิ่งของก็ไม่มี อยู่ ๆ ขนก็ลุกตั้งทั้งตัว... เสียวสันหลังจนต้องกลับหลังหันวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว...
พอวิ่งมาจุดที่เริ่มมีผู้คน เยว่หรูก็ต้องหยุดพักหายใจก่อนที่จะมองกลับไปทางทิศทางเดิม ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ามองไปก็ไม่เห็นอะไร แต่ก็ยังอยากจะมอง กลัวว่าจะมีอะไรวิ่งตามมา คืออะไรเข้าเมืองคนเดียว... วันแรกก็เจอผีหลอก...
เยว่หรูก้มมองสร้อยข้อมือลูกปัดเม็ดเล็ก ๆ บนข้อมือ... แต่บางครั้งมันก็เหมือนไข่มุก เพราะไม่รู้ว่ามันจะใช่ไข่มุกจริง ๆ ไหม ใช่หรือไม่ใช่ไม่สำคัญ... ตอนนี้เธอถอดมันไม่ออก!!
"เยว่เยว่... หายใจลึก ๆ สติมา ปัญญาเกิด แต่ผีก็น่ากลัว... " เยว่หรูเรียกชื่อตัวเองที่เธอใช้ในโลกก่อน ก่อนที่จะตั้งสติผ่อนลมหายใจเบา ๆ พยายามถอดยังไงมันก็ถอดไม่ออก เวรหรือกรรมหรือบุญ....
"เดี๋ยวก่อนเยว่เยว่... ในนิยายเคยมี... มันอาจจะเป็นสร้อยข้อมือวิเศษก็ได้... แต่มันก็อาจเป็นสร้อยข้อมือผีสิงด้วยก็ได้... " ตอนนี้เยว่หรูเหมือนคนบ้าที่ยืนคุยอยู่คนเดียว ยังดีที่ตรงนี้ไม่มีคนอยู่... ไม่อย่างนั้นทุกคนต้องคิดว่าเธอเป็นบ้าแน่ ๆ
เยว่หรูเดินกลับเหมือนคนหมดแรง อยากถอดสร้อยข้อมือออกก็ถอดไม่ได้ ในใจก็ภาวนาให้เป็นสร้อยข้อมือมิติหรืออะไรก็ได้ ที่ไม่เกี่ยวกับผีหรือวิญญาณชั่วร้ายดูดกินเลือดจนหมดตัว ของวิเศษก็อยากได้ แต่ก็ยังกลัวอยู่..
"เยว่เยว่... " เสียงเรียกมาก่อนที่เธอจะเห็นเจ้าของเสียงเสียอีก เยว่เยว่ คือชื่อที่คนชอบเรียกในโลกก่อน... ส่วนในโลกนี้มีเพียงไม่กี่คนที่เรียกเธอแบบนี้
"พ่อ... แม่... " เยว่หรูตะโกนกลับไปเช่นกัน เธอจำเสียงเรียกชื่อนี้ได้ดี เยว่เยว่ คือชื่อที่แม่ชอบเรียกตั้งแต่เด็ก แต่ช่วงหลังมานี้ ยัยเด็กเยว่หรูคนเก่าดันไม่ยอมให้แม่เรียกชื่อนั้น... เพิ่งจะกลับมาเรียกเมื่อไม่กี่วันนี้เอง...
"เหนื่อยไหมลูก ส่งมาให้พ่อถือเร็ว" ที่จางหยวนถามเพราะเห็นท่าทางของลูกสาวเหมือนคนหมดแรงเลยอาสาถือกระเป๋าหนังสือให้
"ไม่เหนื่อยเลยค่ะ" เยว่หรูกอดแขนพ่อกับแม่คนละข้าง
"พ่อกับแม่เลิกงานมาแล้ว แต่ยังไม่เห็นลูกกลับเลยมาดักรอ... ไปเร็ว เราเดินไปด้วยคุยกันไปด้วยดีกว่า" ลู่หลินดึงแขนลูกสาวให้เดินกลับบ้านจะได้รีบไปพักผ่อน
หลังจากที่เยว่หรูกินข้าว... พูดคุยและบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ กับครอบครัวก็แยกย้ายอาบน้ำเข้านอน แม่ต้องการให้เธอนอนพักผ่อน ห่วงโน่นนั่นนี่ทุกอย่าง... แค่เข้าไปในเมืองยังขนาดนี้ หากได้เดินทางไกลกว่านี้จะขนาดไหน พอคนเราได้รับความรัก ความเอ็นดู ความห่วงใย... มันก็ทำให้เรายิ้มได้ เยว่หรูโชคดีที่มีคนที่รัก... รักมากด้วย
เยว่หรูนอนบนเตียงเตาห่มผ้าห่มผืนเก่า... ดีที่ไม่เหม็น มันเลยทำให้เธออยู่ที่นี่ได้อย่างสบาย ถึงจะยากจน แต่เสื้อผ้าคนในบ้านนั้นกลับสะอาดสะอ้าน บางตัวเก่าจนขาดแต่ก็ยังไม่มีกลิ่นเหม็นและยังดูสะอาด ทุกอย่างที่ดูดีก็เพราะแม่ของเธออีกนั่นแหละ...
เพราะถูกขอให้เข้ามานอนแต่หัววัน มันเลยทำให้เยว่หรูนอนไม่หลับเลยต้องหยิบสมุดเล่มเก่ามาเขียนบันทึก... ว่าพรุ่งนี้และวันต่อไปจะทำอะไรบ้าง
ตอนกินข้าวคุยเรื่องผักที่ปลูกไว้นั้นมันไม่ค่อยโต ส่วนสมุนไพรก็เหมือนจะไม่รอด ทั้งที่เยว่หรูดูแลอย่างดี เยว่หรูเลยต้องหาวิธีใหม่เพราะดินที่บ้านมันไม่ดี บำรุงดินก็ต้องใช้เวลา ปุ๋ยใบไม้แห้งก็ยังไม่เห็นผลเพราะขาดมูลสัตว์ มันเลยต้องใช้เวลานานกว่าจะใช้ได้ คงต้องไปขุดดินแถวท้องนาไม่ก็แถวคลองด้านหลังหมู่บ้านมาลองปลูกผัก อาจดีกว่าดินที่บ้าน
เมื่อวางแผนเรื่องปลูกพืชสมุนไพรเรียบร้อยแล้ว ก็นอนคิดวางแผนเรื่องอื่นเรื่อย ๆ ว่าควรทำอะไรต่อจากนี้ เยว่หรูเอานิ้วเรียวเล็กค่อย ๆ เขี่ยสร้อยข้อมือลูกปัด เธอลืมเรื่องนี้ไปเลย....
เยว่หรูจ้องมองสร้อยข้อมือดั่งต้องมนต์... ยิ่งมองยิ่งไม่อาจละสายตาได้ จนกระทั่ง...
พรึ่บ!!!
ดวงตาของเยว่หรูเบิกกว้างทันทีที่มองเห็นสิ่งรอบข้าง...
บ้านของเธอ!! เยว่หรูกลับมาบ้านของเธอ... เมื่อตั้งสติได้ เยว่หรูเริ่มสำรวจบ้านของตัวเองทันที...
เท่าที่ดูคร่าว ๆ ทุกอย่างอยู่ครบ สินค้า 8 เดือน 8 ก็ถูกวางไว้ที่ห้องรับแขก อาหารมากมายที่อยู่ในห้องเก็บของ แม้แต่ในตู้เย็นก็ยังมีกล่องอาหารคลีนที่เธอสั่งซื้อมาไว้ก่อนที่เธอจะหลุดเข้ามาในหนังสือ
"เพื่อความแน่ใจ... " เยว่หรูพึมพำเสร็จก็รีบวิ่งไปส่องกระจกที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดทันที เพื่อยืนยันว่า... เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธอก่อนหน้านี้... คือเรื่องจริงหรือเป็นเพียงความฝัน...
"เยว่หรู... นางเอกตัวปลอมต้องน่ารักขนาดนี้เลยเหรอ... " สิ่งที่เยว่หรูเห็นในกระจกคือ... เด็กสาวตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ ผอม ๆ ถึงจะดูผอมไปหน่อย แต่บอกได้เลยว่าเยว่หรูคนนี้น่ารักมาก ยิ่งเวลาที่เยว่หรูยิ้มเห็นลักยิ้มบนแก้มทั้งสอง ยิ่งทำให้น่ามองขึ้นอีกเป็นกองเลย
เยว่หรู... ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้หนูอยู่ที่ไหน... ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันเข้ามาอยู่แทนหนูได้ยังไง...
ขอให้หนูอยู่ในที่... ที่มีความรักอย่างที่หนูต้องการ มีความสุขและมีชีวิตที่ดี...
ฉันก็จะใช้ชีวิตให้ดีเหมือนกัน... จะดูแลคนที่สมควรดูแล... จะเลือกเส้นทางที่ดีสำหรับการใช้ชีวิตเช่นกัน...
เยว่หรูจ้องมองตัวเองในกระจก... แล้วตั้งจิต... คิดในสิ่งที่เธอต้องการบอกกล่าวแก่ร่างเดิม...
"ลำดับต่อไปคือ... ต้องลองกินของในนี้" พิสูจน์แล้วว่าเธอคือสาวน้อยเยว่หรู ลำดับต่อไปคือของที่เห็นในบ้านนี้กินได้ไหม...
เยว่หรูไม่รอช้า จัดการทดลองทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำด้วยน้ำอุ่นที่แสนคิดถึง การเปิดดูทีวี ทดลองเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ลองเล่นอินเทอร์เน็ต ทุกอย่างที่โลกเดิมใช้ได้... ตอนนี้ทุกอย่างก็ใช้ได้เหมือนเดิม...
เยว่หรูกล่าวขอโทษ ขออภัย เรื่องที่เธอบอกว่าโดนผีหลอก เสร็จแล้วก็กล่าวขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเซียน หรือเทวดาทุกองค์ หรืออาจเป็นนักเขียนที่ประทานมิติที่เป็นบ้านของเธอมาให้... ถึงจะเคยวาดฝันว่าอยากได้ห้างเป็นมิติเหมือนในนิยาย แต่ตอนนี้บ้านเธอนี่แหละดีแล้ว มันดีมาก ๆ ถึงแม้มันจะมาช้ากว่าเธอตั้งสามเดือน... แต่ก็กราบงาม ๆ... มาช้าดีกว่าไม่มา... มีดีกว่าไม่มี..
บทที่ 53 ตอนพิเศษ"หนิงหนิงต้องเดินตามตา เข้าใจไหมครับ" จางหยวนบอกหลานสาวสุดน่ารักของเขา ที่วันนี้แต่งตัวมาพร้อมเก็บใบชา มีตะกร้าใบเล็กสะพายอยู่ทางด้านหลัง พร้อมทำงานเป็นอย่างมาก"คุณตาเชื่อใจหนิงหนิงได้เลยค่ะ" หานเผยหนิงวัยห้าขวบที่ตอนนี้กลายมาเป็นคนงานเก็บใบชาของคุณตาก็รับปากอย่างแข็งขัน"ยายว่ารอพี่ใหญ่กับพี่รองดีกว่าไหม" ลู่หลินที่มองหลานสาวก็อดเอ็นดูในความน่ารักไม่ได้ หลานสาวของเธอนั้นถอดแบบแม่มาแทบทั้งหมด มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ได้จากคนเป็นพ่อ นั่นยิ่งทำให้หลานสาวของเธอน่ารักน่ามองมากกว่าเดิม"ไม่ได้ค่ะคุณยาย หากพี่ใหญ่พี่รองมา หนิงหนิงก็สู้ไม่ได้" หนิงหนิงต้องเก็บได้เยอะกว่า งานนี้หนิงหนิงต้องชนะ!!"หากแม่มาเจอ โดนดุอย่าหาว่ายายไม่เตือน" ลู่หลินแกล้งขู่หลานสาวตัวน้อยที่ดูจะกลัวแม่มากกว่ากลัวพ่อ"ไม่ค่ะคุณยาย วันนี้คุณแม่มีงานที่โรงพยาบาล และตอนบ่ายคุณพ่อจะรับไปโรงงานค่ะ หนิงหนิงปลอดภัยแน่นอนค่ะ" หนิงหนิงรีบบอกคุณยายทันที เธอจำได้ ก้นเธอไม่เจ็บแน่นอนเพราะคุณแม่ไม่อยู่"ถ้าอย่างนั้นไปกันเลย" จางหยวนผู้ที่ตามใจหลานมากกว่าตามใจลูก มีหรือที่จะขัดใจหนิงหนิงตัวน้อยได้ เจอหลานออดอ้อนนิ
บทที่ 52 บทส่งท้าย ครอบครัววันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จากเคยนับวันว่ามาอยู่ที่นี่นานแล้วหรือยัง กลายเป็นว่าเลิกนับวันเวลาแล้ว ตอนนี้ที่นับคืออายุของลูก ๆ ของเธอที่กำลังโต ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานั้นต้องบอกว่ายุ่งกับการทำงานและการเลี้ยงลูก ยังดีที่พ่อกับแม่ของเธอมาช่วยเลี้ยง ไม่อย่างนั้นบอกเลยว่าเธอกับสามีไม่น่าจะเลี้ยงแฝดสามได้ และด้วยความที่แทบไม่มีเวลาพัก สามีของเธอบอกเลยว่า... พอแล้ว... มีสามคนก็พอแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว ไม่รู้ว่าเข็ดที่ลูกซนหรือว่ายังไงเยว่หรูทำงานที่โรงพยาบาลและทำงานที่บ้านด้วย ที่ตอนนี้ขยับขยายให้เป็นโรงงานขนาดเล็กผลิตยาสมุนไพรส่งทางสาธารณสุข โดยมีสามีของเธอเป็นคนดูแลตรงนี้ ส่วนในเรื่องของโรงงานตระกูลหานนั้นก็จัดแบ่งให้คนสนิทมาช่วยงาน แต่เขาก็ยังเป็นคนตัดสินใจในทุกเรื่อง ดีที่ได้สามีของพี่เหมยมาช่วยงาน ทำให้ทุกอย่างไม่ยุ่งยากมากนักในส่วนเรื่องของพระเอกที่เยว่หรูกลัวนั้น ก็ยังได้ข่าวเขาบ้างบางครั้งจากอาจารย์หม่า หรือบางทีเขาก็มาหาสามีเธอ แต่ก็ยังไม่เห็นจะแต่งงานสักที เยว่หรูกับพี่เหมยลุ้นอยู่ว่าคนไหนคือนางเอกตัวจริงของนิยายเรื่องนี้ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นนางเอกเลยในส
บทที่ 51 วันที่รอคอย"คุณหมอคะ ไม่ต้องตื่นเต้นนะคะ" ลู่จิวหรือพี่เหมยเดินเข้ามาให้กำลังใจคุณหมอถึงหน้าห้องคลอดเลยทีเดียว"พี่เหมย... หมอกลัว" เยว่หรูบอกไปตามตรง เนื่องจากเธอท้องแฝด การคลอดเลยต้องผ่าคลอด และคนที่ติดต่อหมอต่างชาติให้มาทำคลอดให้เธอนั้นก็คืออาจารย์หม่านั่นเอง "อย่างน้อยก็ยังสามารถผ่าคลอดได้" ลู่จิวรู้ดีว่าคุณหมอกังวลเป็นอย่างมากเพราะทางการแพทย์ในสมัยนี้ยังไม่ก้าวหน้าเท่ายุคที่จากมา อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่พร้อม ยังดีที่อาจารย์หม่าคอยช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นเธอจะกังวลหนักมากกว่านี้แล้ว"แล้วพี่มาอยู่นี่ใครดูลูกชาย อย่าบอกนะว่าไปทำงานกับพ่ออีกแล้ว ลูกชายพี่ยังไม่สามเดือนเลยนะ" เยว่หรูถามหาหลานชายที่มีอายุเพียงสองเดือนกว่าพี่เหมยคลอดลูกในวันที่เยว่หรูจบการศึกษา ซึ่งได้ดั่งใจที่สามีพี่เหมยอยากได้ นั่นคือลูกชายตัวอ้วนกลมจ้ำม่ำ พี่ห่าวซวนนั้นหลงลูกมาก บางวันต้องหอบพาลูกไปทำงานที่โรงงานด้วย ตอนนี้พี่ห่าวซวนคือคนที่เข้าไปดูแลโรงงานของตระกูลหานแทนสามีของเยว่หรู เนื่องจากสามีของเยว่หรูต้องคอยดูแลเธอและดูแลโรงงานผลิตยาสมุนไพรส่งสาธารณสุขด้วย ทุกคนเลยต้องแบ่งงานกันทำ"สามีจะรออยู่ตรงนี้ ไม่
บทที่ 50 เรียนจบวันนี้คือวันที่ทางสมาพันธ์จะมอบใบประกาศสำเร็จการศึกษาให้แก่เยว่หรู ซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดไว้ เพราะตอนที่อาจารย์หม่าเคยแจ้งนั้นบอกว่าหลังกลับจากค่ายแรงงานประมาณสามเดือน แต่นี่เพิ่งจะสองเดือนก็มีหนังสือรับรองออกมาแล้ว จึงทำให้วันนี้ครอบครัวเยว่หรูทุกคนมารวมตัวกันอยู่ที่สมาพันธ์วันนี้แม่ของเยว่หรูอยู่ในชุดกี่เพ้าสีเหลือง ทำให้ขับผิวขาว ๆ ของแม่ดูสวยดูดีจนพ่อนั่งยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ส่วนพ่อเลี้ยงนั้นอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตและกางเกงขากระบอก รองเท้าหนังอย่างดี ทุกอย่างที่ใส่มานั้นเป็นเยว่หรูจัดเตรียมไว้ให้ น้อยคนนักที่จะได้ใส่แบบนี้ ยิ่งทำให้พ่อเลี้ยงนั้นแทบไม่กล้าเดินไปไหนเลยทีเดียวส่วนสามีของเยว่หรูนั้นไม่ต้องจัดให้ เขาก็สามารถแต่งตัวให้ออกมาดูดีอยู่แล้ว วันนี้อาจารย์หมิงเว่ยมาร่วมแสดงความยินดีด้วย ซึ่งเยว่หรูนับถืออาจารย์หมิงเว่ยมาก เขาคือคนที่คอยช่วยเหลือตั้งแต่ที่เธอยังไม่ค่อยรู้อะไรมากนักส่วนพี่สาวหลิงฟางก็มีเพียงจดหมายส่งหากันเท่านั้น เพราะพี่สาวหลิงฟางย้ายไปอยู่เมืองอื่น เยว่หรูทำได้เพียงส่งยาสมุนไพรและสิ่งของไปให้ ยังไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเลย ต้องบอกว่าเยว่หรูตอบแทนทุกค
บทที่ 49 จุดไต้ตำตอเยว่หรูอยู่ค่ายจนถึงวันทำงานวันสุดท้าย ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วว่าสามีไม่ได้ตามมาอย่างที่เคยบอกไว้ เยว่หรูคิดว่าเขาคงจัดการเรื่องงานไม่เรียบร้อย ซึ่งมันดี... เพราะเยว่หรูไม่อยากให้เขาตามมาสักเท่าไหร่"ทำเหมือนคนนอนไม่พอเลยนะเยว่หรู" อาจารย์หม่าถือชามอาหารมานั่งข้าง ๆ ลูกศิษย์"เมื่อคืนหนูฝันค่ะ เลยทำให้ตื่นกลางดึก พอตื่นแล้วนอนไม่ค่อยหลับเลยค่ะ" เยว่หรูบอกไปตามความจริง"หากวันนี้ไม่ไหวก็ไม่ต้องทำอะไรมากเข้าใจไหม" วันนี้ไม่ค่อยมีอะไรมากนักเพราะเป็นวันสุดท้ายของการเรียนรู้แล้ว"แล้วเรื่องที่อาจารย์รักษาคุณโจวละคะ ยังต้องทำต่อเนื่องไหม" เยว่หรูถามเรื่องการบำบัดคนที่เครียดสะสมอย่างพระเอก ในตอนแรกอาจารย์บอกให้เธอลองรักษาด้วยตัวเอง แต่เธอไม่อยากทำก็อ้างว่าโน่นนี่นั่นไม่ค่อยสะดวกมากนัก ซึ่งอาจารย์หม่าก็ไม่ว่าอะไร"เยว่เยว่" เสียงเรียกดังมาจากทางประตู ทำให้เยว่หรูต้องหันไปมองทันที"อาจารย์บอกแล้ว เขามาแน่... ไม่ช้าก็เร็ว" อาจารย์หม่าบอกลูกศิษย์ตัวน้อยที่กำลังนั่งกลอกตาไปมา"พรุ่งนี้ก็กลับแล้วนะคะ" ความหมายของเธอชัดเจนคือ ...จะมาทำไม..."ไม่เจอกันตั้งหลายวัน พูดแบบนี้กับสามีได
บทที่ 48 เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตรเยว่หรูเรียนรู้แล้วว่าคนที่อยู่ที่นี่ส่วนมากจะมีภาวะหยินหยางไม่สมดุล พอไม่สมดุลก็นำพาไปสู่การเจ็บป่วยได้ง่าย เยว่หรูทำงานร่วมกับอาจารย์หม่าและมีหมอเท้าเปล่าที่คอยแนะนำสิ่งต่าง ๆ "เยว่หรูไปพักก่อนก็ได้" อาจารย์ที่รับปากครอบครัวของลูกศิษย์ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่อย่างที่ตัวเองรับปากแล้ว เพราะเยว่หรูนั้นทำงานทุกอย่าง ช่วยทุกคนที่สามารถเข้าไปช่วยได้ ทำงานหนักกว่านักศึกษาคนอื่นเสียอีกทั้งที่ตัวเองท้องอยู่"ยังทำไหวค่ะอาจารย์ ไม่ได้เหนื่อยอะไร" เยว่หรูบอกไปตามความจริง ความรู้ทั้งนั้น เรียนรู้ไว้ไม่เสียหาย "ทำเท่าที่ไหว เข้าใจไหม" หากเป็นอะไรขึ้นมาแล้วรับรองเลยว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อย่างแน่นอนเยว่หรูทำงานจนเรียบร้อยทั้งหมด พอถึงเวลาที่เธอเองออกมานั่งพักผ่อนมองดูผู้คนที่อยู่ในค่าย มีทั้งทหารและยังมีนักโทษที่มาใช้แรงงานกำลังทยอยกลับค่ายกัน กลุ่มคนชุดนี้จะถูกตรวจสุขภาพในวันพรุ่งนี้ ต้องถือว่าค่ายแห่งนี้ถูกดูแลอย่างนี้ ไม่ได้กดขี่มากนัก แม้ว่าคนพวกนั้นจะเป็นนักโทษ ต้องบอกว่าสถานที่กักกันหรือค่ายแรงงานจะแบ่งแยกนักโทษ "เป็นยังไงบ้างคุณหมอ" เสียงเรียกถามทำให้เยว่หร