เมื่อสาวจากยุค 2020 ได้หลุดเขาไปในหนังสือนิยายที่ตัวเองชอบอ่าน อ่านไปลุ้นไป ลุ้นจนตัวเองหลุดเข้าไปเป็นนางเอกในนิยายเรื่องนั้น! ซึ่งไม่ใช่นางเอกจริง ๆ ของเรื่อง เพราะนางเอกตัวจริงคือนางร้ายของเรื่องนี้
Узнайте большеบทที่ 1 เยว่หรู
เยว่หรูนอนหลับสนิทในห้องพักของตัวเอง เธอกำลังฝัน... ในความฝัน… มีคนคนหนึ่งกำลังเรียกชื่อเธอ...
'เยว่หรู… '
เธอกำลังจะตอบรับ แต่ถูกปลุกด้วยเสียงนาฬิกาปลุกเสียก่อน เธอฝันแบบนี้ติดต่อกันมาหลายวันแล้ว ไม่รู้เพราะนิยายที่เธอกำลังอ่านหรือเปล่าถึงทำให้เธอฝันแบบเดิมติดต่อกัน เยว่หรูถอนหายใจก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำให้เรียบร้อย
วันนี้เธอนัดคนไข้แต่เช้า จึงต้องเตรียมตัวให้พร้อม เยว่หรูเรียนจบแพทย์แผนจีนและเปิดคลินิกเป็นของตัวเอง อาจไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมายนัก ถือว่าพออยู่ได้แบบไม่เดือดร้อน
เธอเป็นเด็กกำพร้าที่พ่อแม่จากไปแล้ว... เหลือบ้านและเงินไว้ก้อนหนึ่ง พอที่จะให้เธอได้เรียนจนจบ ส่วนบ้านเธอก็เปิดเป็นคลินิกในชั้นล่าง ส่วนชั้นบนเป็นที่พักอาศัย และหลังบ้านทำเป็นเรือนกระจกปลูกผักปลูกสมุนไพรเพื่อนำมาใช้ เธอชอบที่จะนั่งบดสมุนไพรด้วยตัวเอง ไม่รู้เพราะอะไรถึงชอบปลูกชอบทำทั้งที่มันมีขาย ง่ายและสะดวกมากมายแต่กลับชอบทำเอง บางทีก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกัน...
คนไข้ที่มาหาส่วนมากจะเป็นคนสูงอายุ อากง อาม่า ทั้งหลายที่ยังเชื่อมั่นในการรักษาแบบโบราณ ส่วนคนหนุ่มสาวส่วนมากจะเข้าโรงพยาบาลกันมากกว่า เพราะยุคนี้เป็นยุค 2020 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีมากขึ้น การรักษาแบบปัจจุบันจึงเป็นที่นิยม แต่แพทย์แผนจีนก็ยังมีอยู่ตามโรงพยาบาลทั่วไปเหมือนกัน
แพทย์แผนจีนหรือ หมอแมะ ตามที่คนนิยมเรียกกัน ส่วนมากการรักษาจะเน้นการปรับสมดุลของร่างกายเป็นหลัก การรักษาจะเป็นฝังเข็ม การครอบแก้ว กัวซา และการรักษาด้วยการเปิดตำราจีน การใช้ยาสมุนไพรจีน การรักษาจะเลือกใช้วิธีเดียวหรือผสมผสานหลาย ๆ วิธี ขึ้นอยู่กับโรคและอาการของผู้ป่วย
ช่วงว่างหลังจากตรวจคนไข้แล้ว เยว่หรูก็เดินออกมาหาผู้ช่วยที่เคาน์เตอร์ เพื่อที่จะสั่งซื้ออาหารและสิ่งของที่จำเป็น เพราะเธอชอบสั่งมาทีละเยอะ ๆ เพื่อกินใช้ในเวลาที่ต้องทำงานติดต่อกันหลายวัน เธอต้องตุนอาหารเพราะไม่อยากเสียเวลาในการออกไปซื้อ
"พี่เหมยคะ นี่คือรายการค่ะ" เยว่หรูยื่นรายการใบสั่งซื้อให้กับผู้ช่วยทันที
"ทำไมคุณเย่วสั่งซื้อเยอะมากกว่าเดิมคะ หรือว่าครั้งนี้จะบดสมุนไพรพร้อมกับคิดค้นอะไรเพิ่มเหรอคะ... " รายการอาหารที่สั่งซื้อในครั้งนี้มันมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว จึงทำให้เหมยสงสัย เพราะคุณเย่วอยู่คนเดียว ทานอาหารน้อยนิด แต่ที่สั่งมานี่เหมือนตุนอาหารหนีน้ำท่วมหรือหนีพายุเลย ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารสด ผลไม้ และยังมีธัญพืชอีกมากมายหลายอย่าง จะไม่ให้เธอสงสัยได้อย่างไร
"เผื่อว่าจะได้ข้ามมิติเหมือนในนิยายไง" เยว่หรูตอบกลับยิ้ม ๆ จริง ๆ เธอไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก แต่เพราะไหน ๆ ก็ซื้อแล้ว ซื้อมาไว้มันก็ไม่เสียหายอะไร เวลาหยิบใช้ก็ง่ายและสะดวก ไม่ใช่พอจะใช้อันนี้ก็ไม่มี... มันจะทำให้เสียอารมณ์ได้
"โอ๊ย คุณเย่วก็ช่างคิด… แล้วอ่านเรื่องใหม่หรือยัง... " เพราะทั้งสองคนชอบอ่านนิยายมาก ชอบที่สุดก็แนวทะลุมิติเนี่ยแหละ อยากไปเป็นตัวเอกของเรื่องกันทั้งนั้น อ่านแล้วอินจัด... พออ่านเจอตัวร้ายก็อยากตบตีแทนนางเอก...
"ยังเลยค่ะ... ฝากด้วยนะพี่เหมย และรับของให้ด้วยนะคะ ตอน 8 เดือน 8 มือลั่นสั่งไปเยอะเลย พอบอกส่งฟรีก็กดกระจายหลายอย่างเลยค่ะ" วันนี้วันที่ 12 แล้ว น่าจะเริ่มทยอยมาถึงวันนี้แหละ... ตอนกดไปจำไม่ได้ด้วยว่ามีอะไรบ้าง กดเพลิน บางอย่างไม่ควรกดก็มือลั่น เพราะราคามันถูกมากแถมส่งฟรีอีก รู้ทั้งรู้ว่าคือการตลาด แต่เธอก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ เป็นทาสการตลาดอยู่แล้วด้วยเลยหมดเป็นหมื่น ขนาดว่าซื้อของลดราคา ดีที่ไม่มีครอบครัวไม่อย่างนั้นไม่อยากคิดเลยว่าจะเป็นแบบไหน...
"คุณเย่วควรหาแฟนนะคะ ซื้อของมาขนาดนี้เหมือนซื้อมาเผื่อครอบครัวเลย" ผู้ช่วยพูดพร้อมกับหัวเราะคิกคัก คุณเย่วที่ชอบซื้อของมาเยอะแยะ แล้วไหนจะเรือนกระจกก็มีพืชผักสมุนไพรที่ปลูกไว้อีก จริง ๆ ไม่ต้องออกนอกบ้านไปซื้ออะไร คุณเย่วก็สามารถกินหรูอยู่ดีภายในบ้านได้หลายเดือนเลยทีเดียว เพราะของที่สั่งซื้อมานี้อยู่ได้นานหลายเดือนเลยแหละ
"จะข้ามมิติไปหาผู้ชายที่อกผายไหล่ผึ่ง หน้าคม หล่อเหล่า ผมยาว คลั่งรักแบบหัวปักหัวปำ แต่ ๆ มีเยว่หรูแค่คนเดียวนะคะ... เมียเอก เมียรอง หรืออนุไม่เอานะคะ" เยว่หรูบอกพร้อมกับหัวเราะคิกคักกับสิ่งที่คิด
"พี่ว่าคุณเย่วอาจทะลุไปในยุคที่ข้าวยากหมากแพงเหมือนในนิยายที่ตัวเอกมีชื่อเหมือนคุณเย่วนะคะ" นิยายเรื่องล่าสุดที่แบ่งปันกันอ่านนั้นไม่ได้อยู่ในยุคจีนโบราณมากนัก มันอยู่ในยุค 60 - 70 ซึ่งเป็นยุคที่ประชาชนลำบากมาก อาหารการกินทุกอย่างต้องมีตั๋วมีคูปองถึงจะซื้อได้ ตามหนังสือที่อ่านมาบอกว่าแม้แต่เปลือกไม้ก็ต้องกินเพื่อประทังชีวิต
"หากเหมือนในนิยายและสามารถเลือกได้... อยากจะไปยุคจีนโบราณมากกว่าค่ะ สมุนไพรเยอะดี จะได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาด้วย" ยุคนั้นต้องสนุกมากแน่ ๆ ยิ่งเธอเรียนรู้เรื่องสมุนไพรยิ่งอยากไปอยู่ในยุคนั้น ทุกอย่างจะต้องแปลกใหม่ และสมุนไพรมีมากมาย
"ขอให้คุณเย่วสมหวังนะคะ เพราะพี่ก็จะไปหาผู้ชายหล่อล่ำในยุคนั้นเหมือนกัน เดี๋ยวพี่จัดการเรื่องนี้ให้ ไปพักผ่อนได้เลยค่ะ" ผู้ช่วยก็มีความคิดไม่แตกต่างกัน
และวันนั้นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองได้พูดคุยกัน... เพราะเยว่หรูได้หลับไปและไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย…
บทที่ 53 ตอนพิเศษ"หนิงหนิงต้องเดินตามตา เข้าใจไหมครับ" จางหยวนบอกหลานสาวสุดน่ารักของเขา ที่วันนี้แต่งตัวมาพร้อมเก็บใบชา มีตะกร้าใบเล็กสะพายอยู่ทางด้านหลัง พร้อมทำงานเป็นอย่างมาก"คุณตาเชื่อใจหนิงหนิงได้เลยค่ะ" หานเผยหนิงวัยห้าขวบที่ตอนนี้กลายมาเป็นคนงานเก็บใบชาของคุณตาก็รับปากอย่างแข็งขัน"ยายว่ารอพี่ใหญ่กับพี่รองดีกว่าไหม" ลู่หลินที่มองหลานสาวก็อดเอ็นดูในความน่ารักไม่ได้ หลานสาวของเธอนั้นถอดแบบแม่มาแทบทั้งหมด มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ได้จากคนเป็นพ่อ นั่นยิ่งทำให้หลานสาวของเธอน่ารักน่ามองมากกว่าเดิม"ไม่ได้ค่ะคุณยาย หากพี่ใหญ่พี่รองมา หนิงหนิงก็สู้ไม่ได้" หนิงหนิงต้องเก็บได้เยอะกว่า งานนี้หนิงหนิงต้องชนะ!!"หากแม่มาเจอ โดนดุอย่าหาว่ายายไม่เตือน" ลู่หลินแกล้งขู่หลานสาวตัวน้อยที่ดูจะกลัวแม่มากกว่ากลัวพ่อ"ไม่ค่ะคุณยาย วันนี้คุณแม่มีงานที่โรงพยาบาล และตอนบ่ายคุณพ่อจะรับไปโรงงานค่ะ หนิงหนิงปลอดภัยแน่นอนค่ะ" หนิงหนิงรีบบอกคุณยายทันที เธอจำได้ ก้นเธอไม่เจ็บแน่นอนเพราะคุณแม่ไม่อยู่"ถ้าอย่างนั้นไปกันเลย" จางหยวนผู้ที่ตามใจหลานมากกว่าตามใจลูก มีหรือที่จะขัดใจหนิงหนิงตัวน้อยได้ เจอหลานออดอ้อนนิ
บทที่ 52 บทส่งท้าย ครอบครัววันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จากเคยนับวันว่ามาอยู่ที่นี่นานแล้วหรือยัง กลายเป็นว่าเลิกนับวันเวลาแล้ว ตอนนี้ที่นับคืออายุของลูก ๆ ของเธอที่กำลังโต ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานั้นต้องบอกว่ายุ่งกับการทำงานและการเลี้ยงลูก ยังดีที่พ่อกับแม่ของเธอมาช่วยเลี้ยง ไม่อย่างนั้นบอกเลยว่าเธอกับสามีไม่น่าจะเลี้ยงแฝดสามได้ และด้วยความที่แทบไม่มีเวลาพัก สามีของเธอบอกเลยว่า... พอแล้ว... มีสามคนก็พอแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว ไม่รู้ว่าเข็ดที่ลูกซนหรือว่ายังไงเยว่หรูทำงานที่โรงพยาบาลและทำงานที่บ้านด้วย ที่ตอนนี้ขยับขยายให้เป็นโรงงานขนาดเล็กผลิตยาสมุนไพรส่งทางสาธารณสุข โดยมีสามีของเธอเป็นคนดูแลตรงนี้ ส่วนในเรื่องของโรงงานตระกูลหานนั้นก็จัดแบ่งให้คนสนิทมาช่วยงาน แต่เขาก็ยังเป็นคนตัดสินใจในทุกเรื่อง ดีที่ได้สามีของพี่เหมยมาช่วยงาน ทำให้ทุกอย่างไม่ยุ่งยากมากนักในส่วนเรื่องของพระเอกที่เยว่หรูกลัวนั้น ก็ยังได้ข่าวเขาบ้างบางครั้งจากอาจารย์หม่า หรือบางทีเขาก็มาหาสามีเธอ แต่ก็ยังไม่เห็นจะแต่งงานสักที เยว่หรูกับพี่เหมยลุ้นอยู่ว่าคนไหนคือนางเอกตัวจริงของนิยายเรื่องนี้ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นนางเอกเลยในส
บทที่ 51 วันที่รอคอย"คุณหมอคะ ไม่ต้องตื่นเต้นนะคะ" ลู่จิวหรือพี่เหมยเดินเข้ามาให้กำลังใจคุณหมอถึงหน้าห้องคลอดเลยทีเดียว"พี่เหมย... หมอกลัว" เยว่หรูบอกไปตามตรง เนื่องจากเธอท้องแฝด การคลอดเลยต้องผ่าคลอด และคนที่ติดต่อหมอต่างชาติให้มาทำคลอดให้เธอนั้นก็คืออาจารย์หม่านั่นเอง "อย่างน้อยก็ยังสามารถผ่าคลอดได้" ลู่จิวรู้ดีว่าคุณหมอกังวลเป็นอย่างมากเพราะทางการแพทย์ในสมัยนี้ยังไม่ก้าวหน้าเท่ายุคที่จากมา อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่พร้อม ยังดีที่อาจารย์หม่าคอยช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นเธอจะกังวลหนักมากกว่านี้แล้ว"แล้วพี่มาอยู่นี่ใครดูลูกชาย อย่าบอกนะว่าไปทำงานกับพ่ออีกแล้ว ลูกชายพี่ยังไม่สามเดือนเลยนะ" เยว่หรูถามหาหลานชายที่มีอายุเพียงสองเดือนกว่าพี่เหมยคลอดลูกในวันที่เยว่หรูจบการศึกษา ซึ่งได้ดั่งใจที่สามีพี่เหมยอยากได้ นั่นคือลูกชายตัวอ้วนกลมจ้ำม่ำ พี่ห่าวซวนนั้นหลงลูกมาก บางวันต้องหอบพาลูกไปทำงานที่โรงงานด้วย ตอนนี้พี่ห่าวซวนคือคนที่เข้าไปดูแลโรงงานของตระกูลหานแทนสามีของเยว่หรู เนื่องจากสามีของเยว่หรูต้องคอยดูแลเธอและดูแลโรงงานผลิตยาสมุนไพรส่งสาธารณสุขด้วย ทุกคนเลยต้องแบ่งงานกันทำ"สามีจะรออยู่ตรงนี้ ไม่
บทที่ 50 เรียนจบวันนี้คือวันที่ทางสมาพันธ์จะมอบใบประกาศสำเร็จการศึกษาให้แก่เยว่หรู ซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดไว้ เพราะตอนที่อาจารย์หม่าเคยแจ้งนั้นบอกว่าหลังกลับจากค่ายแรงงานประมาณสามเดือน แต่นี่เพิ่งจะสองเดือนก็มีหนังสือรับรองออกมาแล้ว จึงทำให้วันนี้ครอบครัวเยว่หรูทุกคนมารวมตัวกันอยู่ที่สมาพันธ์วันนี้แม่ของเยว่หรูอยู่ในชุดกี่เพ้าสีเหลือง ทำให้ขับผิวขาว ๆ ของแม่ดูสวยดูดีจนพ่อนั่งยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ส่วนพ่อเลี้ยงนั้นอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตและกางเกงขากระบอก รองเท้าหนังอย่างดี ทุกอย่างที่ใส่มานั้นเป็นเยว่หรูจัดเตรียมไว้ให้ น้อยคนนักที่จะได้ใส่แบบนี้ ยิ่งทำให้พ่อเลี้ยงนั้นแทบไม่กล้าเดินไปไหนเลยทีเดียวส่วนสามีของเยว่หรูนั้นไม่ต้องจัดให้ เขาก็สามารถแต่งตัวให้ออกมาดูดีอยู่แล้ว วันนี้อาจารย์หมิงเว่ยมาร่วมแสดงความยินดีด้วย ซึ่งเยว่หรูนับถืออาจารย์หมิงเว่ยมาก เขาคือคนที่คอยช่วยเหลือตั้งแต่ที่เธอยังไม่ค่อยรู้อะไรมากนักส่วนพี่สาวหลิงฟางก็มีเพียงจดหมายส่งหากันเท่านั้น เพราะพี่สาวหลิงฟางย้ายไปอยู่เมืองอื่น เยว่หรูทำได้เพียงส่งยาสมุนไพรและสิ่งของไปให้ ยังไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเลย ต้องบอกว่าเยว่หรูตอบแทนทุกค
บทที่ 49 จุดไต้ตำตอเยว่หรูอยู่ค่ายจนถึงวันทำงานวันสุดท้าย ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วว่าสามีไม่ได้ตามมาอย่างที่เคยบอกไว้ เยว่หรูคิดว่าเขาคงจัดการเรื่องงานไม่เรียบร้อย ซึ่งมันดี... เพราะเยว่หรูไม่อยากให้เขาตามมาสักเท่าไหร่"ทำเหมือนคนนอนไม่พอเลยนะเยว่หรู" อาจารย์หม่าถือชามอาหารมานั่งข้าง ๆ ลูกศิษย์"เมื่อคืนหนูฝันค่ะ เลยทำให้ตื่นกลางดึก พอตื่นแล้วนอนไม่ค่อยหลับเลยค่ะ" เยว่หรูบอกไปตามความจริง"หากวันนี้ไม่ไหวก็ไม่ต้องทำอะไรมากเข้าใจไหม" วันนี้ไม่ค่อยมีอะไรมากนักเพราะเป็นวันสุดท้ายของการเรียนรู้แล้ว"แล้วเรื่องที่อาจารย์รักษาคุณโจวละคะ ยังต้องทำต่อเนื่องไหม" เยว่หรูถามเรื่องการบำบัดคนที่เครียดสะสมอย่างพระเอก ในตอนแรกอาจารย์บอกให้เธอลองรักษาด้วยตัวเอง แต่เธอไม่อยากทำก็อ้างว่าโน่นนี่นั่นไม่ค่อยสะดวกมากนัก ซึ่งอาจารย์หม่าก็ไม่ว่าอะไร"เยว่เยว่" เสียงเรียกดังมาจากทางประตู ทำให้เยว่หรูต้องหันไปมองทันที"อาจารย์บอกแล้ว เขามาแน่... ไม่ช้าก็เร็ว" อาจารย์หม่าบอกลูกศิษย์ตัวน้อยที่กำลังนั่งกลอกตาไปมา"พรุ่งนี้ก็กลับแล้วนะคะ" ความหมายของเธอชัดเจนคือ ...จะมาทำไม..."ไม่เจอกันตั้งหลายวัน พูดแบบนี้กับสามีได
บทที่ 48 เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตรเยว่หรูเรียนรู้แล้วว่าคนที่อยู่ที่นี่ส่วนมากจะมีภาวะหยินหยางไม่สมดุล พอไม่สมดุลก็นำพาไปสู่การเจ็บป่วยได้ง่าย เยว่หรูทำงานร่วมกับอาจารย์หม่าและมีหมอเท้าเปล่าที่คอยแนะนำสิ่งต่าง ๆ "เยว่หรูไปพักก่อนก็ได้" อาจารย์ที่รับปากครอบครัวของลูกศิษย์ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่อย่างที่ตัวเองรับปากแล้ว เพราะเยว่หรูนั้นทำงานทุกอย่าง ช่วยทุกคนที่สามารถเข้าไปช่วยได้ ทำงานหนักกว่านักศึกษาคนอื่นเสียอีกทั้งที่ตัวเองท้องอยู่"ยังทำไหวค่ะอาจารย์ ไม่ได้เหนื่อยอะไร" เยว่หรูบอกไปตามความจริง ความรู้ทั้งนั้น เรียนรู้ไว้ไม่เสียหาย "ทำเท่าที่ไหว เข้าใจไหม" หากเป็นอะไรขึ้นมาแล้วรับรองเลยว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อย่างแน่นอนเยว่หรูทำงานจนเรียบร้อยทั้งหมด พอถึงเวลาที่เธอเองออกมานั่งพักผ่อนมองดูผู้คนที่อยู่ในค่าย มีทั้งทหารและยังมีนักโทษที่มาใช้แรงงานกำลังทยอยกลับค่ายกัน กลุ่มคนชุดนี้จะถูกตรวจสุขภาพในวันพรุ่งนี้ ต้องถือว่าค่ายแห่งนี้ถูกดูแลอย่างนี้ ไม่ได้กดขี่มากนัก แม้ว่าคนพวกนั้นจะเป็นนักโทษ ต้องบอกว่าสถานที่กักกันหรือค่ายแรงงานจะแบ่งแยกนักโทษ "เป็นยังไงบ้างคุณหมอ" เสียงเรียกถามทำให้เยว่หร
Комментарии