Share

เรื่องจริงใช่ไหม?

“แม่ครับ พ่อครับ น้องหายดีหรือยัง” น้ำแสงเริ่มแตกหนุ่มของเด็กชายรูปร่างผอมสูงวัยสิบห้าผู้มีดวงหน้าคมเข้มละม้ายคล้ายคนเป็นพ่อส่งเสียงถามผู้ที่อยู่ด้านในก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมาถึง

“อาชุนมาดูน้องสิลูก พ่อกับแม่ไม่รู้ว่าน้องเป็นอะไรเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว ถามอะไรก็ไม่ตอบ” ผู้เป็นพ่อกล่าวเรียกบุตรชายฝาแฝดคนโตอย่างจนใจ

“น้องเป็นอะไร ร้องไห้ทำไมหรือครับ” น้ำเสียงร้อนใจของเด็กหนุ่มผู้มาใหม่อีกคนถามขึ้นทันที

“น้องรองใจเย็นก่อน เราค่อย ๆ ไปถามน้องสาวกัน” ผู้เป็นพี่ชายฝาแฝดรีบปรามคนเป็นน้องที่เกิดห่างจากตนไม่กี่นาที

“ก็ผมเป็นห่วงน้องนี่” คนเป็นน้องหน้ามุ่ย

“พี่ใหญ่ พี่รอง” คนเป็นน้องสาวผละออกจากอ้อมกอดของพ่อแม่มองมาตามเสียงที่ตนได้ยิน ก่อนเรียกคนทั้งสองน้ำเสียงสะอื้นจากการร้องไห้อย่างหนัก

“เสี่ยวซี น้องเป็นอะไรใครรังแกบอกพี่มา” ผู้เป็นพี่ใหญ่รีบเดินเข้าไปหาพลางเอามือลูบผมผู้เป็นน้องถามเสียงอ่อน

เด็กหญิงเอาแต่ร้องไห้โฮส่ายหัวไปมาพลางจับมือของพี่ชายแน่น “น้องเล็กร้องไห้ทำไมครับ” เด็กหนุ่มผู้เป็นพี่รองเองก็เดินเข้าหาคนเป็นน้องถามไถ่ออกมาบ้าง

ทว่าคนเป็นน้องก็เอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้น “เลิกร้องนะครับ ตาบวมหมดแล้ว หากร้องมากกว่านี้น้องจะขี้เหร่เอานะ” หลินชิวโอบไหล่น้องสาวกล่าวกึ่งหยอกกึ่งปลอบ

“อ้าวเป็นอะไรกัน ทำไมไม่ออกมากินข้าว” น้ำเสียงแหบของหญิงผู้เป็นย่าเดินเข้ามาในห้องโดยที่ยังไม่รู้สถานการณ์ด้านใน

‘เสียงนี้ น้ำเสียงของคุณย่ากู้ไม่ใช่หรือ’ หลินซีผู้กำลังมองคนในครอบครัวคิด จากนั้นเธอก็หันไปมองยังต้นเสียงหน้าประตูห้อง

เด็กหญิงรีบลุกขึ้นยืนโดยที่ตัวเธอเซเล็กน้อย แต่ทว่าเจ้าตัวได้รับการช่วยเหลือจากพี่ชายทั้งสองทำให้เธอไม่ล้มลงกับพื้นก่อนที่เธอจะก้าวเท้าเดินไปยังหญิงชราและทำในสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงออกมา

“คุณย่ากู้คะ ฉันขอโทษ ขอโทษที่ทำตัวไม่ดีฮือ ๆ ทั้ง ๆ ที่คุณย่าเป็นคนดีกว่าใคร ฉันขอโทษค่ะ” หลินซีกอดหญิงชราแน่น กล่าวออกมาทั้งน้ำตา

“เสี่ยวซีหลานเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม ย่าไม่เคยโกรธหนูเลยนะลูก” กู้หนิงเอามือหยาบกร้านจากการทำงานหนักของตนตบหลังของเด็กหญิงอย่างปลอบโยน

“หากไม่ใช่เพราะหนูคุณย่าก็จะไม่ตรอมใจ เป็นเพราะหนูเชื่อคนผิด คุณย่าคะ หากว่ามีโอกาสอีกครั้งหนูจะทำตัวดีกับคุณย่า หนูจะไม่เชื่อคนอื่นอีกแล้ว” หลินซีผู้ที่ยังคิดว่าภาพที่ตนเห็นเป็นความฝันกล่าวความในใจของตนออกมา

ทำให้ผู้ที่ได้ยินต่างมีสีหน้ามึนงงไปตาม ๆ กันเนื่องจากพวกเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เด็กหญิงกล่าว ทว่าก็ไม่มีใครคิดขัดเพราะพวกเขาเพียงคิดว่าเด็กหญิงอาจจะฝันร้าย

“ย่าสบายดีนะลูก ย่าไม่ได้เป็นอะไรเลย หนูไม่ต้องเสียใจ ย่าไม่เคยโกรธหนูเลย” กู้หนิงแม้จะงุนงงทว่านางก็ยังคงปลอบเด็กหญิงต่อไป

หลินซีรับรู้ได้ถึงถ้อยคำของย่าทำให้เธอยกยิ้มออกมา ก่อนที่ตัวของเธอจะอ่อนยวบลงและกำลังจะลู่ลงไปกับพื้น

“เสี่ยวซี” หลินไท่รีบถลาเข้าไปรับร่างของลูกสาวทันทีเช่นเดียวกับกู้หนิงที่ยังไม่คลายอ้อมกอดของตนออก

“อาไท่ แม่ว่าพาเสี่ยวซีไปโรงพยาบาลเถอะ เพ้อขนาดนี้ อาการไม่น่าจะดี” หญิงชรากล่าวออกมาอย่างเป็นห่วง

“ครับ” หลินไท่รับคำกับแม่เลี้ยงของตนพร้อมกับรีบอุ้มร่างของบุตรสาวเดินไปที่รถโดยมีภรรยาบุตรชายทั้งสองเดินตามติดออกมาอย่างร้อนใจ

“ย่าครับ ผมจะไปกับพ่อนะครับ” หลินชิวบอกผู้เป็นย่าสีหน้ากังวล

“ไปเถอะ พวกเธอจะไปกันหมดก็ได้นะ ย่าอยู่รอปู่ได้” กู้หนิงกล่าวแววตาแฝงความเป็นห่วงในตัวหลานสาวคนเล็ก

แม้ใจอยากจะตามไปด้วยแต่ไม่อาจทำได้ เนื่องจากผู้เป็นสามีไปส่งมอบตำแหน่งในตัวอำเภอทำให้นางต้องอยู่ที่บ้านเพื่อ         รอเขา

“ผมจะอยู่เป็นเพื่อนย่าเองครับ” หลินชุนผู้เป็นพี่ชายคนโตของน้องทั้งสองพูดขึ้น

“ดีแล้วลูก แม่กับพ่อจะได้ไม่เป็นห่วงทางนี้ แม่คะหากรู้อาการเสี่ยวซีแล้วฉันจะรีบกลับมานะคะ” เจียวเหมยบอกแม่เลี้ยงของสามีในระหว่างเดิน

เมื่อสี่คนพ่อแม่ลูกมาถึงโรงพยาบาลประจำอำเภอ หลังจากจอดรถได้พ่อของเด็กหญิงก็รีบอุ้มบุตรสาวไปทางห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลทันที

“ช่วยลูกของผมด้วยครับ เธอเป็นไข้ตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้พอฟื้นขึ้นมาก็เพ้อจนตอนนี้เป็นลมสลบไป” ชายวัยสามสิบกว่าปีรีบบอกกับเจ้าหน้าที่อย่างรวดเร็ว

“ญาติออกไปรอด้านนอกก่อนนะคะ” น้ำเสียงของพยาบาลบอกกับชายผู้นั้นกับคนที่เดินตามมาอีกสองคน ซึ่งเธอคาดว่าน่าจะเป็นแม่และพี่น้องของเด็กหญิง

หมอเดินเข้ามาตรวจเด็กหญิงก่อนที่จะสั่งให้เธอนอนโรงพยาบาล คนในครอบครัวทั้งสามต่างมองไปยังร่างของเด็กหญิงที่นอนหลับเปลือกตาปิดสนิทใบหน้าซีดอย่างสงสาร

“ผมสงสารน้องสาวจังเลยครับ” พี่ชายคนรองบอกเมื่อเห็นว่าน้องผู้กลัวเจ็บมากที่สุดจะต้องเจาะหลังมือเพื่อให้น้ำเกลือ

“เป็นความผิดของฉันเองที่ไม่คิดว่าลูกจะมีอาการหนักมากขนาดนี้” คนเป็นแม่มีใบหน้าเศร้ากล่าวโทษตัวเอง

“เรื่องนี้ไม่มีใครผิดหรอกครับ หากจะผิดก็ผิดกันทั้งหมดนั่นแหละ เพราะพวกเราต่างมัวยุ่งแต่กับงานทำให้ละเลยเสี่ยวซีไป” ชายวัยกลางคนกล่าวปลอบภรรยา

“ผมเองก็มัวแต่อ่านหนังสือ หากเมื่อวานแวะเข้ามาดูน้องสักหน่อยน้องสาวคงไม่อาการหนักถึงเพียงนี้” หลินชิวกล่าวออกมาสีหน้าเศร้าหมอง

หลินซีผู้ยังไม่รู้ว่าได้ทำให้ทุกคนเป็นห่วงอยู่นั้น ในตอนนี้เธอคล้ายกำลังเดินหลงทางอยู่ที่ไหนสักแห่ง

“ข้าได้พาเจ้าย้อนกลับมาตามที่คนผู้นั้นได้เอ่ยปากขอร้องเอาไว้แล้ว ในเมื่อเจ้าได้ชีวิตใหม่กลับคืนมาจงใช้ชีวิตให้ดีเล่า” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นกับหญิงสาวผู้ที่กำลังมองซ้ายแลขวาเพื่อหาเจ้าของเสียง

“เจ้ากลับไปได้แล้ว” น้ำเสียงนั้นกล่าวออกมาอีกครั้ง ทำให้ร่างกายของหลินซีที่กำลังหลับตาอยู่นั้นสะดุ้งเฮือกตื่นขึ้นด้วยความตกใจ

“เสี่ยวซี น้องฟื้นแล้ว” หลินชิวที่ฟุบอยู่ข้างเตียงน้องสาวผุดลุกขึ้นยืนเปิดปากอย่างดีใจ

“พี่รอง” น้ำเสียงแหบแห้งดังออกมาจากปากของเด็กหญิง

“น้องดื่มน้ำก่อน หิวไหม แม่กับพ่อกำลังไปหาซื้อของกินอีกเดี๋ยวก็คงมา” เด็กหนุ่มพูดขึ้น

ในขณะจับแก้วน้ำป้อนถึงปากผู้เป็นน้องที่กำลังมองจ้องใบหน้าเขาเหมือนคนไม่เคยเจอกันมานาน

“น้องสาวเป็นอะไร จ้องพี่เหมือนกับไม่เคยเห็น” คนเป็นพี่กล่าวกลั้วหัวเราะน้องน้อย

“พี่รอง เป็นพี่จริงอย่างนั้นหรือคะ” น้ำเสียงของคนถามดีขึ้นหลังจากได้ดื่มน้ำลงคอ

“ไม่ใช่พี่แล้วจะเป็นใครล่ะครับ น้องนอนหลับไปตั้งสามวันทำให้ทุกคนเป็นห่วงมาก หรือว่าน้องจำใครไม่ได้” จากที่เมื่อสักครู่ได้พูดจาหยอกน้องสาวตอนนี้สีหน้าของผู้เป็นพี่ได้แปรเปลี่ยนเป็นกังวลไปเสียแล้ว

“จะ.. จำได้ค่ะ ฉันแค่แกล้งพี่เพียงเท่านั้น” หลินซีกล่าวออกมาติดขัดก่อนที่เธอจะส่งรอยยิ้มบางออกมา

“เฮ้อ! พี่ค่อยโล่งใจหน่อย” ผู้เป็นพี่พูดขึ้นพร้อมกับเอามือลูบผมสั้นเท่าติ่งหูของน้องสาวอย่างอ่อนโยน

“พี่รองฉันอยากไปห้องน้ำค่ะ” คนเป็นน้องบอกพี่ชายพลางดึงผ้าห่มให้พ้นจากร่างของตนก่อนขยับกายเพื่อจะลงจากเตียง

“พี่ช่วยครับ” หลินชิวโอบบ่าเล็กของน้องสาวเพื่อหวังพยุงให้น้องน้อยยืนขึ้น

“ฉันเดินเองได้ค่ะ พี่รองไม่ต้องห่วง” หลินซีมองหน้าผู้เป็นพี่หลังจากยืนได้มั่นคงดีแล้ว

“ให้พี่พาไปไม่ดีเหรอ” ผู้เป็นพี่ถามอย่างลังเล

“ถ้าอย่างนั้นพี่แค่พยุงฉันไปหน้าห้องน้ำก็พอ” หลินซีกล่าวอ่อนใจให้กับความเป็นห่วงของพี่ชายที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านมาสักกี่ปีเขาก็ยังเป็นเช่นนี้

“ถึงห้องน้ำแล้ว พี่จะรออยู่ตรงนี้นะ” หลินชิวเปิดปากบอกน้องเมื่อถึงหน้าห้องน้ำภายในห้องผู้ป่วยส่วนตัว

หลินซีพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ซึ่งอากัปกิริยาของน้องสาวนั้นช่างดูผิดแผกไปจากแต่ก่อนค่อนข้างมาก หากแต่พี่ชายผู้รักน้องกลับไม่รู้สึกเอะใจใด ๆ ทั้งสิ้น

ภายในห้องน้ำ หลินซีจ้องมองตัวเองในกระจกขุ่นมัวที่ติดผนังด้วยสีหน้าตื่นตะลึงเธอขยับหัวส่ายไปมา

ภาพของคนที่สะท้อนออกมาก็ทำตามตนเช่นเดียวกัน ไม่ว่าเธอจะทำท่าทางแบบไหนคนในกระจกก็ทำตาม

‘สิ่งที่เสียงลึกลับในฝันบอกเรานั้นเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย’ เด็กหญิงพูดพึมพำกับตัวเองในกระจก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • 1989 เปลียนรัก (ยัย) ตัวร้าย   ฉันจะปกป้องทุกคน

    ภายนอกห้องน้ำ ในขณะที่หลินชิวกำลังยืนรอน้องสาวอยู่หน้าประตู เสียงเคาะประตูหน้าห้องผู้ป่วยก็ดังขึ้นก่อนที่จะตามมาด้วยเด็กหนุ่มผู้มีใบหน้าคล้ายกับตน เพียงแต่เด็กหนุ่มคนนี้ไม่มีไฝใต้ตาซ้ายเช่นเดียวกับเขาเด็กหนุ่มผู้มาใหม่กวาดตามองไปบนเตียงผู้ป่วยเห็นเพียงแต่ผ้าห่มยู่ยี่ไม่เป็นระเบียบ เขาจึงได้หันหน้ามามองน้องชายแววตาบ่งบอกถึงคำถาม“น้องสาวอยู่ในห้องน้ำ” เด็กหนุ่มตอบออกมาทันทีเมื่อเห็นสายตาของคนที่เกิดก่อนตนห่างกันเพียงเล็กน้อย“นานหรือยัง” เด็กหนุ่มถามอย่างนึกสงสัย“สักพักแล้ว เอ๊ะ! เสี่ยวซีน้องเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ผู้เป็นน้องตอบคำพร้อมกับนึกขึ้นมาได้“นายนี่มัน เสี่ยวซีน้องเป็นอะไรหรือเปล่า” ผู้เป็นพี่ส่งสายตาเชิงตำหนิให้น้องชายพร้อมพยายามเปิดประตูในระหว่างนี้ก็ตะโกนเรียกน้องสาวไปด้วย“ฉันสบายดีค่ะ พี่ใหญ่อย่าดุพี่รองเลยนะคะ” หลินซีกล่าวขึ้นก่อนที่เธอจะเปิดประตูออกมาหลังจากที่สงบสติอารมณ์ของตนลงแล้ว“น้องไม่เป็นอะไรแน่นะครับ” พี่ใหญ่ของน้องทั้งสองถามไถ่เด็กหญิงอย

    Last Updated : 2025-05-05
  • 1989 เปลียนรัก (ยัย) ตัวร้าย   คุณปู่ คุณย่า หนูจะเป็นหลานที่ดี

    ช่วงสายของวันหลังจากที่หมอมาตรวจอาการของเด็กหญิงแล้ว เขาก็อนุญาตให้เจ้าตัวกลับบ้านได้“ดีจังเลยนะคะที่หนูได้กลับบ้านแล้ว หนูอยากเจอคุณปู่ คุณย่ามากเลย” หลินซีกล่าวขึ้นในเบาะหลังของรถสี่ที่นั่งประจำบ้านที่ผู้เป็นพ่อซื้อมาในราคาสูงลิ่วทว่าผู้ที่นั่งอยู่ด้านข้างกลับทำหน้าตกใจคล้ายถูกผีหลอก ทำให้เด็กหนุ่มผู้เป็นพี่รองหันหน้ามาสนใจผู้เป็นน้องสาว“น้องมีไข้อีกไหม” หลินชิวเอามืออังหน้าผากของน้องสาวผู้นั่งตรงกลางถามขึ้นสีหน้ากังวล“หนูหายดีแล้วค่ะ ทำไมพี่รองถามแบบนี้ล่ะคะ” เด็กหญิงอมลมกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจ“ก็น้องเคยคิดถึงปู่กับย่าเมื่อไหร่กัน ไม่สิอาจจะมีย่าอยู่คนหนึ่งคือคนนั้น” หลินชุนตอบแทนน้องชายฝาแฝด“ตอนนี้หนูเปลี่ยนไปแล้วค่ะ หนูรู้แล้วว่าใครดีกับหนูอย่างจริงแท้ ดังนั้นหนูจะเป็นเด็กดีเชื่อฟังทุกคนยกเว้น..” หลินซีตอบพี่ชายก่อนที่จะหยุดคำพูดที่เหลือ“ปกติน้องก็เป็นเด็กดีนะ แต่ติดตรงที่น้องชอบดื้อกับย่ากู้เพียงเท่านั้น” หลินชิวกล่าวตามจริง“ต่อไปนี้หนูจะไ

    Last Updated : 2025-05-06
  • 1989 เปลียนรัก (ยัย) ตัวร้าย   ความสามารถติดกาย

    “ย่าคะ บ้านเรามีเก๋ากี้หรือเปล่าคะ” เด็กหญิงถามหญิงชราเมื่อเห็นข้อความที่ลอยอยู่ในหม้อว่าต้องเติมสิ่งใดลงไป“ตายจริง! ย่าว่าแล้วลืมอะไร ดีนะที่หลานพูดขึ้น” กู้หนิงเช็ดมือก่อนจะเดินไปหยิบในสิ่งที่หลานสาวต้องการมาใส่ในหม้อ“ว่าแต่หนูรู้ได้ยังไงว่าย่ายังไม่ได้ใส่อะไร” หญิงชราหลังจากใส่สิ่งที่ตนลืมแล้ว หันมามองหน้าหลานสาวอย่างสงสัยก่อนถาม“ฮ่า ๆ หนูเดาเอาค่ะ ปกติเวลาย่าทำสิ่งนี้มักจะต้องใส่ลงไปทุกครั้งนี่คะ” หลินซีหัวเราะกลบเกลื่อนตอบออกไป“หนูนี่ช่างสังเกตดีนะ” กู้หนิงกล่าวชม จากนั้นเธอก็เดินไปหั่นผักที่ล้างเรียบร้อยแล้วเพื่อจะนำมาผัด“ย่าคะ ให้หนูเป็นคนทำกับข้าวเองนะคะ” เด็กหญิงกล่าวอาสา แม้ว่าฝีมือของเธอจะไม่ถึงขั้นเลิศรสแต่ก็จัดได้ว่าอร่อย ดังนั้นเธอจึงคิดอยากแบ่งเบาภาระของผู้เป็นย่าอีกทั้งยังได้สร้างความสนิทสนมภายในตัวไปด้วย“ลูกสาวแม่แน่ใจหรือจ๊ะ” เจียวเหมยหลังจากเก็บข้าวของที่นำมาจากโรงพยาบาลเข้าที่เรียบร้อยแล้วเดินเข้าครัวมาทันได้ยินคำพูดของลูกเข้าพอดีจึง

    Last Updated : 2025-05-07
  • 1989 เปลียนรัก (ยัย) ตัวร้าย   สำรวจตัวอำเภอ

    เด็กหญิงนั่งเหม่อคิดถึงอดีตเพื่อนสาวผู้ที่เคยสดใส จนกระทั่งได้ยินเสียงของพี่ชายทำให้หล่อนได้รู้สึกตัว“เสี่ยวซี น้องเตรียมอุปกรณ์การเรียนพร้อมหรือยัง มีอะไรขาดหรือเปล่า” หลินชุนถามน้องสาวผู้มักหลงลืมอยู่เป็นประจำ“ฉันคิดว่าไม่นะคะ หากมีอะไรขาดก็ค่อยไปหาซื้อเอา” เด็กหญิงตอบออกมาอย่างไม่คิดอะไร“น้องลืมไปหรือเปล่าครับว่าบริเวณโรงเรียนไม่มีสถานที่ให้ซื้อ หากอยากได้อะไรต้องไปถึงตัวมณฑล” หลินชิวแย้ง“แหะ ๆ ฉันลืมไปสนิทเลยค่ะ จะว่าไปพ่อคะ ทำไมพ่อไม่เปิดร้านเครื่องเขียนหน้าโรงเรียนล่ะคะ หรือว่าจะรวมเอาร้านอาหารเข้ามาด้วยก็ได้เพราะแถวนั้นไม่ได้มีแค่โรงเรียนที่ตั้งอยู่อย่างเดียวไหนจะโรงพยาบาลประจำชุมชน ที่ทำการไปรษณีย์ โรงพัก โรงงานที่แม่ทำงาน อีกทั้งไหนจะโรงงานเหล็ก โรงงานรองเท้าก็ตั้งอยู่โดยรอบด้วย หากว่าเปิดร้านอาหารเช้าหนูว่าน่าจะขายดี” เด็กหญิงยิ้มแห้งตอบกลับผู้เป็นพี่ก่อนจะร่ายยาวออกมาให้คนในครอบครัวฟัง“ลูกคิดว่าทำได้แน่เหรอ เพราะส่วนใหญ่คนมักจะประหยัดโดยการห่อข้าวมาจากบ้านหรือไม่ก็กินก่อน

    Last Updated : 2025-05-08
  • 1989 เปลียนรัก (ยัย) ตัวร้าย   ความตายที่กลายเป็นจุดเริ่มต้น

    หน้าหลุมศพของสถานที่อันเป็นแหล่งพำนักสุดท้ายของผู้ที่เคยมีชีวิตท่ามกลางสายฝนโปรยปรายได้มีหญิงสาวรูปร่างผอมบางสวมชุดเดรสสีขาว สภาพผมของหล่อนกับชุดแนบลู่ติดกับร่างกายเนื่องจากฝนที่ตกลงมาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดใบหน้าของหญิงสาวขาวซีดดวงตาบอบช้ำมีหยาดน้ำไหลอาบร่องแก้ม ซึ่งไม่มีใครรู้ได้ว่าเป็นหยาดน้ำตาของเจ้าตัวหรือเป็นหยาดน้ำจากฝนที่กำลังโปรยปรายกันแน่“พ่อ แม่ พี่ใหญ่ พี่รอง ทุกคนเจอกันหรือยังคะ ตอนนี้ทุกคนสบายดีไหม” หญิงสาวยืนกล่าวกับหลุมศพที่เรียงกันอยู่ด้านหน้าน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเศร้า“วันนี้ฉันมาลาทุกคนนะคะ ฉันกำลังจะไปจากเมืองนี้ค่ะ ไปให้ไกลจากคนชั่วพวกนั้น คนที่ได้ชื่อว่าเป็นย่าตามสายเลือดทว่าหญิงคนนั้นกลับใจร้ายกับพวกเราเสียเหลือเกิน พ่อคะ แม่คะ พี่ใหญ่ พี่รอง ทุกคนจะอภัยให้ฉันไหม แม้ในตอนนี้ฉันจะรู้ดีว่าการตายของทุกคนเกี่ยวข้องกับใครตะ...แต่ฉันก็ไม่อาจที่จะแก้แค้นคนเหล่านั้นได้ ไม่อาจที่จะนำของที่เป็นของครอบครัวเรากลับคืนมา พ่อคะ พ่อจะโทษฉันไหม ที่ฉันเป็นคนขี้ขลาด” หญิงสาวไหล่ไหวสะท้านขึ้นลงกล่าวออกมาอีกครั

    Last Updated : 2025-05-03

Latest chapter

  • 1989 เปลียนรัก (ยัย) ตัวร้าย   สำรวจตัวอำเภอ

    เด็กหญิงนั่งเหม่อคิดถึงอดีตเพื่อนสาวผู้ที่เคยสดใส จนกระทั่งได้ยินเสียงของพี่ชายทำให้หล่อนได้รู้สึกตัว“เสี่ยวซี น้องเตรียมอุปกรณ์การเรียนพร้อมหรือยัง มีอะไรขาดหรือเปล่า” หลินชุนถามน้องสาวผู้มักหลงลืมอยู่เป็นประจำ“ฉันคิดว่าไม่นะคะ หากมีอะไรขาดก็ค่อยไปหาซื้อเอา” เด็กหญิงตอบออกมาอย่างไม่คิดอะไร“น้องลืมไปหรือเปล่าครับว่าบริเวณโรงเรียนไม่มีสถานที่ให้ซื้อ หากอยากได้อะไรต้องไปถึงตัวมณฑล” หลินชิวแย้ง“แหะ ๆ ฉันลืมไปสนิทเลยค่ะ จะว่าไปพ่อคะ ทำไมพ่อไม่เปิดร้านเครื่องเขียนหน้าโรงเรียนล่ะคะ หรือว่าจะรวมเอาร้านอาหารเข้ามาด้วยก็ได้เพราะแถวนั้นไม่ได้มีแค่โรงเรียนที่ตั้งอยู่อย่างเดียวไหนจะโรงพยาบาลประจำชุมชน ที่ทำการไปรษณีย์ โรงพัก โรงงานที่แม่ทำงาน อีกทั้งไหนจะโรงงานเหล็ก โรงงานรองเท้าก็ตั้งอยู่โดยรอบด้วย หากว่าเปิดร้านอาหารเช้าหนูว่าน่าจะขายดี” เด็กหญิงยิ้มแห้งตอบกลับผู้เป็นพี่ก่อนจะร่ายยาวออกมาให้คนในครอบครัวฟัง“ลูกคิดว่าทำได้แน่เหรอ เพราะส่วนใหญ่คนมักจะประหยัดโดยการห่อข้าวมาจากบ้านหรือไม่ก็กินก่อน

  • 1989 เปลียนรัก (ยัย) ตัวร้าย   ความสามารถติดกาย

    “ย่าคะ บ้านเรามีเก๋ากี้หรือเปล่าคะ” เด็กหญิงถามหญิงชราเมื่อเห็นข้อความที่ลอยอยู่ในหม้อว่าต้องเติมสิ่งใดลงไป“ตายจริง! ย่าว่าแล้วลืมอะไร ดีนะที่หลานพูดขึ้น” กู้หนิงเช็ดมือก่อนจะเดินไปหยิบในสิ่งที่หลานสาวต้องการมาใส่ในหม้อ“ว่าแต่หนูรู้ได้ยังไงว่าย่ายังไม่ได้ใส่อะไร” หญิงชราหลังจากใส่สิ่งที่ตนลืมแล้ว หันมามองหน้าหลานสาวอย่างสงสัยก่อนถาม“ฮ่า ๆ หนูเดาเอาค่ะ ปกติเวลาย่าทำสิ่งนี้มักจะต้องใส่ลงไปทุกครั้งนี่คะ” หลินซีหัวเราะกลบเกลื่อนตอบออกไป“หนูนี่ช่างสังเกตดีนะ” กู้หนิงกล่าวชม จากนั้นเธอก็เดินไปหั่นผักที่ล้างเรียบร้อยแล้วเพื่อจะนำมาผัด“ย่าคะ ให้หนูเป็นคนทำกับข้าวเองนะคะ” เด็กหญิงกล่าวอาสา แม้ว่าฝีมือของเธอจะไม่ถึงขั้นเลิศรสแต่ก็จัดได้ว่าอร่อย ดังนั้นเธอจึงคิดอยากแบ่งเบาภาระของผู้เป็นย่าอีกทั้งยังได้สร้างความสนิทสนมภายในตัวไปด้วย“ลูกสาวแม่แน่ใจหรือจ๊ะ” เจียวเหมยหลังจากเก็บข้าวของที่นำมาจากโรงพยาบาลเข้าที่เรียบร้อยแล้วเดินเข้าครัวมาทันได้ยินคำพูดของลูกเข้าพอดีจึง

  • 1989 เปลียนรัก (ยัย) ตัวร้าย   คุณปู่ คุณย่า หนูจะเป็นหลานที่ดี

    ช่วงสายของวันหลังจากที่หมอมาตรวจอาการของเด็กหญิงแล้ว เขาก็อนุญาตให้เจ้าตัวกลับบ้านได้“ดีจังเลยนะคะที่หนูได้กลับบ้านแล้ว หนูอยากเจอคุณปู่ คุณย่ามากเลย” หลินซีกล่าวขึ้นในเบาะหลังของรถสี่ที่นั่งประจำบ้านที่ผู้เป็นพ่อซื้อมาในราคาสูงลิ่วทว่าผู้ที่นั่งอยู่ด้านข้างกลับทำหน้าตกใจคล้ายถูกผีหลอก ทำให้เด็กหนุ่มผู้เป็นพี่รองหันหน้ามาสนใจผู้เป็นน้องสาว“น้องมีไข้อีกไหม” หลินชิวเอามืออังหน้าผากของน้องสาวผู้นั่งตรงกลางถามขึ้นสีหน้ากังวล“หนูหายดีแล้วค่ะ ทำไมพี่รองถามแบบนี้ล่ะคะ” เด็กหญิงอมลมกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจ“ก็น้องเคยคิดถึงปู่กับย่าเมื่อไหร่กัน ไม่สิอาจจะมีย่าอยู่คนหนึ่งคือคนนั้น” หลินชุนตอบแทนน้องชายฝาแฝด“ตอนนี้หนูเปลี่ยนไปแล้วค่ะ หนูรู้แล้วว่าใครดีกับหนูอย่างจริงแท้ ดังนั้นหนูจะเป็นเด็กดีเชื่อฟังทุกคนยกเว้น..” หลินซีตอบพี่ชายก่อนที่จะหยุดคำพูดที่เหลือ“ปกติน้องก็เป็นเด็กดีนะ แต่ติดตรงที่น้องชอบดื้อกับย่ากู้เพียงเท่านั้น” หลินชิวกล่าวตามจริง“ต่อไปนี้หนูจะไ

  • 1989 เปลียนรัก (ยัย) ตัวร้าย   ฉันจะปกป้องทุกคน

    ภายนอกห้องน้ำ ในขณะที่หลินชิวกำลังยืนรอน้องสาวอยู่หน้าประตู เสียงเคาะประตูหน้าห้องผู้ป่วยก็ดังขึ้นก่อนที่จะตามมาด้วยเด็กหนุ่มผู้มีใบหน้าคล้ายกับตน เพียงแต่เด็กหนุ่มคนนี้ไม่มีไฝใต้ตาซ้ายเช่นเดียวกับเขาเด็กหนุ่มผู้มาใหม่กวาดตามองไปบนเตียงผู้ป่วยเห็นเพียงแต่ผ้าห่มยู่ยี่ไม่เป็นระเบียบ เขาจึงได้หันหน้ามามองน้องชายแววตาบ่งบอกถึงคำถาม“น้องสาวอยู่ในห้องน้ำ” เด็กหนุ่มตอบออกมาทันทีเมื่อเห็นสายตาของคนที่เกิดก่อนตนห่างกันเพียงเล็กน้อย“นานหรือยัง” เด็กหนุ่มถามอย่างนึกสงสัย“สักพักแล้ว เอ๊ะ! เสี่ยวซีน้องเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ผู้เป็นน้องตอบคำพร้อมกับนึกขึ้นมาได้“นายนี่มัน เสี่ยวซีน้องเป็นอะไรหรือเปล่า” ผู้เป็นพี่ส่งสายตาเชิงตำหนิให้น้องชายพร้อมพยายามเปิดประตูในระหว่างนี้ก็ตะโกนเรียกน้องสาวไปด้วย“ฉันสบายดีค่ะ พี่ใหญ่อย่าดุพี่รองเลยนะคะ” หลินซีกล่าวขึ้นก่อนที่เธอจะเปิดประตูออกมาหลังจากที่สงบสติอารมณ์ของตนลงแล้ว“น้องไม่เป็นอะไรแน่นะครับ” พี่ใหญ่ของน้องทั้งสองถามไถ่เด็กหญิงอย

  • 1989 เปลียนรัก (ยัย) ตัวร้าย   เรื่องจริงใช่ไหม?

    “แม่ครับ พ่อครับ น้องหายดีหรือยัง” น้ำแสงเริ่มแตกหนุ่มของเด็กชายรูปร่างผอมสูงวัยสิบห้าผู้มีดวงหน้าคมเข้มละม้ายคล้ายคนเป็นพ่อส่งเสียงถามผู้ที่อยู่ด้านในก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมาถึง“อาชุนมาดูน้องสิลูก พ่อกับแม่ไม่รู้ว่าน้องเป็นอะไรเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว ถามอะไรก็ไม่ตอบ” ผู้เป็นพ่อกล่าวเรียกบุตรชายฝาแฝดคนโตอย่างจนใจ“น้องเป็นอะไร ร้องไห้ทำไมหรือครับ” น้ำเสียงร้อนใจของเด็กหนุ่มผู้มาใหม่อีกคนถามขึ้นทันที“น้องรองใจเย็นก่อน เราค่อย ๆ ไปถามน้องสาวกัน” ผู้เป็นพี่ชายฝาแฝดรีบปรามคนเป็นน้องที่เกิดห่างจากตนไม่กี่นาที“ก็ผมเป็นห่วงน้องนี่” คนเป็นน้องหน้ามุ่ย“พี่ใหญ่ พี่รอง” คนเป็นน้องสาวผละออกจากอ้อมกอดของพ่อแม่มองมาตามเสียงที่ตนได้ยิน ก่อนเรียกคนทั้งสองน้ำเสียงสะอื้นจากการร้องไห้อย่างหนัก“เสี่ยวซี น้องเป็นอะไรใครรังแกบอกพี่มา” ผู้เป็นพี่ใหญ่รีบเดินเข้าไปหาพลางเอามือลูบผมผู้เป็นน้องถามเสียงอ่อนเด็กหญิงเอาแต่ร้องไห้โฮส่ายหัวไปมาพลางจับมือของพี่ชายแน่น “น้องเ

  • 1989 เปลียนรัก (ยัย) ตัวร้าย   ความตายที่กลายเป็นจุดเริ่มต้น

    หน้าหลุมศพของสถานที่อันเป็นแหล่งพำนักสุดท้ายของผู้ที่เคยมีชีวิตท่ามกลางสายฝนโปรยปรายได้มีหญิงสาวรูปร่างผอมบางสวมชุดเดรสสีขาว สภาพผมของหล่อนกับชุดแนบลู่ติดกับร่างกายเนื่องจากฝนที่ตกลงมาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดใบหน้าของหญิงสาวขาวซีดดวงตาบอบช้ำมีหยาดน้ำไหลอาบร่องแก้ม ซึ่งไม่มีใครรู้ได้ว่าเป็นหยาดน้ำตาของเจ้าตัวหรือเป็นหยาดน้ำจากฝนที่กำลังโปรยปรายกันแน่“พ่อ แม่ พี่ใหญ่ พี่รอง ทุกคนเจอกันหรือยังคะ ตอนนี้ทุกคนสบายดีไหม” หญิงสาวยืนกล่าวกับหลุมศพที่เรียงกันอยู่ด้านหน้าน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเศร้า“วันนี้ฉันมาลาทุกคนนะคะ ฉันกำลังจะไปจากเมืองนี้ค่ะ ไปให้ไกลจากคนชั่วพวกนั้น คนที่ได้ชื่อว่าเป็นย่าตามสายเลือดทว่าหญิงคนนั้นกลับใจร้ายกับพวกเราเสียเหลือเกิน พ่อคะ แม่คะ พี่ใหญ่ พี่รอง ทุกคนจะอภัยให้ฉันไหม แม้ในตอนนี้ฉันจะรู้ดีว่าการตายของทุกคนเกี่ยวข้องกับใครตะ...แต่ฉันก็ไม่อาจที่จะแก้แค้นคนเหล่านั้นได้ ไม่อาจที่จะนำของที่เป็นของครอบครัวเรากลับคืนมา พ่อคะ พ่อจะโทษฉันไหม ที่ฉันเป็นคนขี้ขลาด” หญิงสาวไหล่ไหวสะท้านขึ้นลงกล่าวออกมาอีกครั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status